ชีอวิ๋นถิงรินน้ำชาให้ชีหยวนอย่างเป็นธรรมชาติ: “นี่คือชาอิ๋นเจินของหอไท่ไป๋ ออกรสไว มีรสชาติค้างอวลอยู่ในปาก เจ้าลองดูสิ”ชีหยวนดูเหมือนจะสนใจทิวทัศน์ภายนอกเป็นอย่างมาก มิได้ระแวดระวังอะไร ดื่มน้ำชาในถ้วยชารวดเดียวหมดจากนั้นจึงหันไปมองชีอวิ๋นถิงก่อนเอ่ยเรียบๆ ว่า: “พูดมาตรงๆ เถอะ เรียกข้าออกมาทำไมกันแน่? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะมีน้ำใจดีขนาดนี้ เพียงเพื่อต้องการแสดงละครฉากพี่น้องปรองดองให้ท่านยายดู”ชีอวิ๋นถิงถอดสีหน้า: “เจ้าช่างเดาเก่งนักนะ”ชีหยวนเอนตัวพิงเก้าอี้เชียนหยี่ พูดอย่างตรงไปตรงมา: “ไม่ใช่เดาหรอก แค่เพราะเจ้าเป็นคนที่ไม่เคยทำเรื่องดีๆ มาก่อนเท่านั้นเอง”จะตายอยู่รอมร่อแล้วยังปากดีอีก!ชีอวิ๋นถิงแสยะยิ้มเย็นชา พูดโต้กลับอย่างไม่เกรงใจ: “แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนดีนักหรือ? ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่ไหนมาสิงอยู่ในร่างอันต่ำต้อยนี้ แต่ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ชีวิตดีๆ ของเจ้าก็ต้องจบลงแค่นี้แล้ว!”สีหน้าชีหยวนเปลี่ยนไปทันที: “เจ้าคิดจะทำอะไร?!”“ข้าคิดจะทำอะไรน่ะเหรอ?!” ชีอวิ๋นถิงที่อัดอั้นมานานหลายเดือน ในที่สุดวันนี้ก็ได้ระเบิดออกมาอย่างสะใจ: “ข้าจะฆ่าเจ้า
การเสียดสีของนางแสดงออกมาทางคำพูด ชีอวิ๋นถิงมองนางด้วยความโกรธจัด หยิบถ้วยชาข้างตัวขว้างใส่ชีหยวนเต็มแรง: “เจ้าจะวางท่าอะไรหนักหนา? นังแพศยา! เจ้าควรถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าคนอื่นไปตลอดชีวิต ไม่มีวันได้เงยหน้าอ้าปาก! เจ้าถูกกำหนดมาให้เป็นแค่คนต่ำสถุน!” ชีหยวนเบี่ยงศีรษะเล็กน้อย ถ้วยชาก็ตกลงพื้น เศษกระเบื้องกระเด็นไปทั่วห้องในทันใดราวกับว่าความโกรธทั้งหมดที่กักเก็บไว้ได้พบทางออกและระบายออกมา ตั้งแต่วันที่ชีหยวนกลับมาบ้าน ความอดกลั้นทั้งหลายในระยะเวลาหลายเดือนก็ได้รับการปลดปล่อยออกมาในขณะนี้จะกลัวอะไรอีก?ตอนนี้พวกเขาต่างหากเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ความสะใจจากการล้างแค้นอยู่ตรงหน้า ส่วนผลที่ตามมาค่อยว่ากันทีหลังดวงตาของชีจิ่นเป็นประกายผิดปกติ นางก้มลงหยิบเศษกระเบื้องขึ้นมา และเอ่ยอย่างแผ่วเบา: “พี่หญิง ทำไมถึงตกใจนัก? เจ้าไม่ใช่นักฆ่าฝีมือฉกาจหรอกหรือ? ตอนนี้เจ้าควรฆ่าพวกเราได้อย่างง่ายดายไม่ใช่หรือ?”ชีหยวนยิ้มเช่นกัน: “ที่แท้ คนที่อยู่ในจวนตระกูลหวังวันนั้นเป็นเจ้าเองสินะ”เมื่อตอนที่นางสังหารอ๋องเฉิง นางก็สงสัยอยู่แล้วว่าทำไมองครักษ์ลับที่อ๋องฉีและตระกูลหลิ่วส่งมาถึงมีท่าทีป
ขอแค่ฆ่าชีหยวนได้ขอแค่ชีหยวนตายไปเท่านั้น ท่านอ๋องย่อมหาหนทางนับหมื่นวิธีเพื่อทำให้ตนเองพ้นผิดนางก็ยังสามารถมีชีวิตที่ไร้กังวลได้ดังเดิมต่อให้ไม่มีจวนหย่งผิงโหว ต่อให้ต้องตัดขาดจากชีอวิ๋นถิงตลอดไปทุกสิ่งเหล่านี้ สำหรับนางแล้วไม่มีความสำคัญอีกต่อไปผู้ที่เคยเผชิญหน้ากับภัยคุกคามถึงชีวิตจะรู้ว่า ทุกสิ่งต้องยอมจำนนต่อความตายตอนนี้นางก็เป็นเช่นนั้น นางจ้องชีหยวนเขม็ง แล้วหัวเราะเยาะออกมาอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ : “จบกันแค่นี้แหล่ะชีหยวน คนตายไปย่อมหมดเรื่อง ขอแค่เจ้าตาย ทุกอย่างก็จะจบแล้ว”นางขยับเข้าใกล้ยิ่งขึ้น ขาทั้งคู่ของชีหยวนถีบไปที่โต๊ะ ดันตัวเองกับเก้าอี้เลื่อนถอยไปด้านหลัง จังหวะนั้นเองก็เลี่ยงฝ่ามือของชีจิ่นไปได้พอดีฝ่ามือฟาดลงในความว่างเปล่า ชีจิ่นหน้าเขียวคล้ำ มองฝ่ามือตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเหลือบมองชีหยวนที่เลื่อนถอยไปเป็นไปได้อย่างไร?โดนพิษของยาสลายพละกำลังแล้วนี่ ทำไมชีหยวนถึงยังมีแรงต่อต้านได้?!โลกนี้หมุนรอบชีหยวนหรืออย่างไรกัน?!นางแทบคลั่ง ยกข้อมือของตนขึ้นมาตามสัญชาตญาณ จ้องมองชีหยวนด้วยตาเขม็ง ก่อนจะเหนี่ยวไกที่ข้อมือโดยไม่มีคำเตือนต่อให้เก่งกา
ระยะยิงของเกาทัณฑ์แขนเสื้อนั้นไม่ได้ไกลนัก จึงมักถูกใช้งานโดยการผูกติดไว้ที่ข้อมือแต่มันก็มีข้อดี นั่นก็คือใช้งานสะดวกและพกพาง่ายลูกดอกพุ่งออกไปดั่งสายฝน ใบหน้าของชีจิ่นพลันเยือกเย็นลงในทันทีนางไม่ได้สนใจเลยว่าชีอวิ๋นถิงจะเป็นหรือตาย ขอแค่ลูกดอกเหล่านั้นสักดอกหนึ่งได้ยิงเข้าใส่ชีหยวนขอแค่ชีหยวนตายขอแค่นางตาย ตนก็จะได้รับความดีความชอบจากท่านอ๋อง!จวนหย่งผิงโหวอะไรกัน? ฮูหยินของผู้สืบทอดจวนหย่งผิงโหว หรือแม้แต่ฮูหยินโหวอะไรนั่น? จะเทียบได้กับเกียรติยศของพระชายาอ๋องฉีได้อย่างนั้นหรือ!กระทั่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งพระชายาอ๋องฉีเลย แม้หลังจากอ๋องฉีถูกลดขั้นเป็นจวิ้นอ๋อง ก็ยังเหนือกว่าตำแหน่งโหวถึงสามขั้น!มีคนมากมายที่พยายามทั้งชีวิต แต่ไม่อาจก้าวข้ามช่องว่างนั้นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น นี่มันไม่ใช่แค่ก้าวเดียว แต่มันเป็นทั้งเส้นทาง!นางสูดหายใจเข้าลึกและสิ่งที่เห็นก็คือ ชีหยวนกลับผลักชีอวิ๋นถิงมาข้างหน้าโดยไม่ลังเล!ชีหยวนกล้าทำเช่นนี้จริงๆ !ชีจิ่นถึงกับชะงักงันไปชั่วขณะนางคิดว่าตัวเองนั้นใจแข็งพอแล้วแต่ไม่นึกเลยว่าชีหยวนจะไร้ความปรานียิ่งกว่าตัวนางเองเสียอีกรู้ทั้งร
ชีจิ่นสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆนางไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อยพี่ชายงั้นหรือ?ก็แค่คุณชายเสเพลที่ไม่มีอำนาจใดๆ ทำได้แค่พูดจาเหลวไหลไปวันๆ!ที่พึ่งพิงอะไรกัน?ก็แค่คนโง่เง่า คนไร้ประโยชน์ที่ดูดีภายนอกแต่ข้างในกลับกลวงเปล่าเท่านั้น!เขาจะคู่ควรกับนางได้อย่างไร?!ก็ดี ถือโอกาสนี้กำจัดทั้งชีอวิ๋นถิงและชีหยวนไปพร้อมกันเสียเลยชิชิบุตรชายบุตรสาวสายตรงของตระกูลตายหมดในคราวเดียวเชียว!นี่แหละคือผลกรรมของตระกูลชีที่ทอดทิ้งนาง!เป็นคนของตระกูลชีที่สมควรโดน!นางตื่นเต้นเกินไปจนเผลอหายใจผิดจังหวะ ต้องก้มลงไอไปสองสามครั้งผลลัพธ์คือเกาทัณฑ์แขนเสื้อของนางทั้งสิบดอกกลับพุ่งเข้าใส่ชีอวิ๋นถิงทั้งหมด!ทว่าไม่มีดอกใดโดนจุดสำคัญเลยราวกับว่ามีการคำนวณไว้แล้วอย่างแม่นยำบาดแผลของชีอวิ๋นถิงอยู่ที่ไหล่ แขน และขาเท่านั้นชีจิ่นเริ่มกระวนกระวายใจทำไมกัน?นังสารเลวชีหยวนไม่แม้แต่จะได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว!นางหมดความอดทนแล้ว ชักแส้จากเอวออกมาแล้วฟาดไปทางชีหยวนอย่างรวดเร็วแส้นี้นางต้องแลกมาด้วยชีวิต ปลายแส้ชุบยาพิษเอาไว้ ขอแค่ฟาดให้ผิวหนังแตก พิษก็จะซึมลึกเข้าสู่กระดูก ทำให้คนคนนั้น
แสงจันทร์ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้า ทันใดนั้น สวี่อินอินก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีภูเขาลูกหนึ่งทับลงบนร่างกายของตนเองความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วอก นางรู้สึกราวกับปลาที่ขาดน้ำ พยายามอ้าปากเพื่อสูดอากาศหายใจ ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือ ใบหน้าที่ดูดุร้าย ส่วนประกอบบนใบหน้าดูแข็งกระด้างเป็นติงเฉิงหย่ง!สวี่อินอินตกตะลึงอย่างยิ่ง ฉากนี้ช่างคุ้นเคยเสียจริงแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?นางยังไม่ทันได้ไตร่ตรอง เสียงเล็กแหลมของหลี่ซิ่วเหนียงก็ดังขึ้น “เจ้าจะเล่นก็เล่นไป แต่อย่าทำให้ตายเสียล่ะ!”เป็นหลี่ซิ่วเหนียง แม่บุญธรรมของนาง!สวี่อินอินโกรธจนดวงตาแทบถลนออกมา สั่นเทิ้มไปทั้งตัวนางกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ย้อนเวลากลับมาเมื่อสิบสามปีก่อน!ตอนที่นางเพิ่งจะรู้ว่าตนเองเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนหย่งผิงโหวในเมืองหลวงหลังจากที่จวนหย่งผิงโหวมาตรวจสอบแล้ว พวกเขาบอกว่าจะส่งคนมารับนางทว่า ในคืนนั้นเองนางก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หลี่ซิ่วเหนียงขังนางเอาไว้ในห้องเก็บฟืน แล้วพาติงเฉิงหย่งมา นางต่อสู้อย่างสุดกำลังจึงรอดพ้นจากการถูกข่มเหง แต่วันรุ่งขึ้น หลี่ซิ่วเหนียงก็พาคนมาจับนางในข้อ
หลี่ซิ่วเหนียงนำผู้คนกลุ่มหนึ่งรีบรุดฝ่าแสงจันทร์กลับไปที่นางหามา ล้วนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงขี้นินทาประจำหมู่บ้าน สามารถพูดจาบิดเบือนความจริงได้เมื่อคนเหล่านี้เห็นสวี่อินอินและติงเฉิงหย่งนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน คงจะถ่มน้ำลายรุมด่าทอสวี่อินอินจนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่!ฮึ คุณหนูสูงศักดิ์ที่ยังไม่ทันกลับบ้านก็เสียความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว ยังจะเรียกว่าคุณหนูสูงศักดิ์ได้อีกหรือ?นางเคยเป็นแม่นมอยู่ในจวนโหว ย่อมรู้ดีว่าพวกชนชั้นสูงเหล่านั้นทั้งเรื่องมากและจู้จี้จุกจิก มีหรือที่จะอยากได้หญิงสำส่อนที่เคยนอนกับคนอื่นแล้ว?เมื่อถึงตอนนั้น หญิงสำส่อนที่เสียตัวก่อนแต่งงาน กับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่มีความรู้ความสามารถ ต่อให้จวนหย่งผิงโหวหลับตาเลือก ก็คงเลือกได้ไม่ยากคิดจะกลับไปขวางทางลูกสาวของนาง ฝันไปเถอะ!คิดได้ดังนั้น หลี่ซิ่วเหนียงก็แทบทนรอไม่ไหวแล้ว อยากจะรีบกลับถึงบ้านเสียเดี๋ยวนี้เลยใครจะไปรู้ว่า ห่างจากประตูบ้านประมาณหนึ่งร้อยเมตร หัวหน้าหมู่บ้านกลับพาคนกลุ่มใหญ่ถือคบเพลิงมาล้อมพวกนางเอาไว้หลี่ซิ่วเหนียงชะงักไปครู่หนึ่ง “หัวหน้าหมู่บ้าน? ท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”หัวหน้าหม
“ข้าก็คือสวี่อินอินน่ะสิ” นางแสยะยิ้มมุมปาก “เพียงแต่ไม่ใช่สวี่อินอินคนเดิมที่ยอมให้เจ้าข่มเหงรังแกอีกแล้ว”“แผนการของลูกสาวแท้ ๆ ของเจ้าล้มเหลว พวกเจ้าสองคนก็ตายแล้ว” สวี่อินอินโน้มตัวเข้าไปใกล้หลี่ซิ่วเหนียงน้ำเสียงของนางราวกับภูตผี “เจ้าเดาสิว่าหลังจากข้ากลับไป นางยังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือไม่?”หลี่ซิ่วเหนียงสติแตก ทันใดนั้นนางก็เริ่มคลุ้มคลั่ง ดิ้นรนอย่างรุนแรงอยู่ในกรง “นางสารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า! เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”สวี่อินอินกลัวจนถอยหลังไปสองสามก้าว ล้มลงนั่งกับพื้นจากนั้นก็ร้องไห้ขอร้องด้วยความหวาดกลัว “ท่านแม่ อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าหมู่บ้านแค่นเสียง “จะตายอยู่แล้วยังไม่สำนึกผิด ชั่วร้ายที่สุด! ถ่วงน้ำเดี๋ยวนี้!”กรงถูกยกขึ้น สวี่อินอินมองหลี่ซิ่วเหนียงที่ยังคงดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งอยู่ในกรง จากนั้นค่อย ๆ ยิ้มอย่างชั่วร้ายทันใดนั้น เสียงตูมดังขึ้น กรงหมูก็ตกลงไปในทะเลสาบ เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดกระเซ็นเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ก็มีคนจากจวนหย่งผิงโหวมาถึง เป็นแม่นมคนหนึ่งที่วางมาดใหญ่โตสวี่อินอินมองแวบเดียวก็จำได้ทันทีว่า คนที่วางมาดโอหังยิ่งกว่านายหญิงคนนี
ชีจิ่นสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆนางไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อยพี่ชายงั้นหรือ?ก็แค่คุณชายเสเพลที่ไม่มีอำนาจใดๆ ทำได้แค่พูดจาเหลวไหลไปวันๆ!ที่พึ่งพิงอะไรกัน?ก็แค่คนโง่เง่า คนไร้ประโยชน์ที่ดูดีภายนอกแต่ข้างในกลับกลวงเปล่าเท่านั้น!เขาจะคู่ควรกับนางได้อย่างไร?!ก็ดี ถือโอกาสนี้กำจัดทั้งชีอวิ๋นถิงและชีหยวนไปพร้อมกันเสียเลยชิชิบุตรชายบุตรสาวสายตรงของตระกูลตายหมดในคราวเดียวเชียว!นี่แหละคือผลกรรมของตระกูลชีที่ทอดทิ้งนาง!เป็นคนของตระกูลชีที่สมควรโดน!นางตื่นเต้นเกินไปจนเผลอหายใจผิดจังหวะ ต้องก้มลงไอไปสองสามครั้งผลลัพธ์คือเกาทัณฑ์แขนเสื้อของนางทั้งสิบดอกกลับพุ่งเข้าใส่ชีอวิ๋นถิงทั้งหมด!ทว่าไม่มีดอกใดโดนจุดสำคัญเลยราวกับว่ามีการคำนวณไว้แล้วอย่างแม่นยำบาดแผลของชีอวิ๋นถิงอยู่ที่ไหล่ แขน และขาเท่านั้นชีจิ่นเริ่มกระวนกระวายใจทำไมกัน?นังสารเลวชีหยวนไม่แม้แต่จะได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว!นางหมดความอดทนแล้ว ชักแส้จากเอวออกมาแล้วฟาดไปทางชีหยวนอย่างรวดเร็วแส้นี้นางต้องแลกมาด้วยชีวิต ปลายแส้ชุบยาพิษเอาไว้ ขอแค่ฟาดให้ผิวหนังแตก พิษก็จะซึมลึกเข้าสู่กระดูก ทำให้คนคนนั้น
ระยะยิงของเกาทัณฑ์แขนเสื้อนั้นไม่ได้ไกลนัก จึงมักถูกใช้งานโดยการผูกติดไว้ที่ข้อมือแต่มันก็มีข้อดี นั่นก็คือใช้งานสะดวกและพกพาง่ายลูกดอกพุ่งออกไปดั่งสายฝน ใบหน้าของชีจิ่นพลันเยือกเย็นลงในทันทีนางไม่ได้สนใจเลยว่าชีอวิ๋นถิงจะเป็นหรือตาย ขอแค่ลูกดอกเหล่านั้นสักดอกหนึ่งได้ยิงเข้าใส่ชีหยวนขอแค่ชีหยวนตายขอแค่นางตาย ตนก็จะได้รับความดีความชอบจากท่านอ๋อง!จวนหย่งผิงโหวอะไรกัน? ฮูหยินของผู้สืบทอดจวนหย่งผิงโหว หรือแม้แต่ฮูหยินโหวอะไรนั่น? จะเทียบได้กับเกียรติยศของพระชายาอ๋องฉีได้อย่างนั้นหรือ!กระทั่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งพระชายาอ๋องฉีเลย แม้หลังจากอ๋องฉีถูกลดขั้นเป็นจวิ้นอ๋อง ก็ยังเหนือกว่าตำแหน่งโหวถึงสามขั้น!มีคนมากมายที่พยายามทั้งชีวิต แต่ไม่อาจก้าวข้ามช่องว่างนั้นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น นี่มันไม่ใช่แค่ก้าวเดียว แต่มันเป็นทั้งเส้นทาง!นางสูดหายใจเข้าลึกและสิ่งที่เห็นก็คือ ชีหยวนกลับผลักชีอวิ๋นถิงมาข้างหน้าโดยไม่ลังเล!ชีหยวนกล้าทำเช่นนี้จริงๆ !ชีจิ่นถึงกับชะงักงันไปชั่วขณะนางคิดว่าตัวเองนั้นใจแข็งพอแล้วแต่ไม่นึกเลยว่าชีหยวนจะไร้ความปรานียิ่งกว่าตัวนางเองเสียอีกรู้ทั้งร
ขอแค่ฆ่าชีหยวนได้ขอแค่ชีหยวนตายไปเท่านั้น ท่านอ๋องย่อมหาหนทางนับหมื่นวิธีเพื่อทำให้ตนเองพ้นผิดนางก็ยังสามารถมีชีวิตที่ไร้กังวลได้ดังเดิมต่อให้ไม่มีจวนหย่งผิงโหว ต่อให้ต้องตัดขาดจากชีอวิ๋นถิงตลอดไปทุกสิ่งเหล่านี้ สำหรับนางแล้วไม่มีความสำคัญอีกต่อไปผู้ที่เคยเผชิญหน้ากับภัยคุกคามถึงชีวิตจะรู้ว่า ทุกสิ่งต้องยอมจำนนต่อความตายตอนนี้นางก็เป็นเช่นนั้น นางจ้องชีหยวนเขม็ง แล้วหัวเราะเยาะออกมาอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ : “จบกันแค่นี้แหล่ะชีหยวน คนตายไปย่อมหมดเรื่อง ขอแค่เจ้าตาย ทุกอย่างก็จะจบแล้ว”นางขยับเข้าใกล้ยิ่งขึ้น ขาทั้งคู่ของชีหยวนถีบไปที่โต๊ะ ดันตัวเองกับเก้าอี้เลื่อนถอยไปด้านหลัง จังหวะนั้นเองก็เลี่ยงฝ่ามือของชีจิ่นไปได้พอดีฝ่ามือฟาดลงในความว่างเปล่า ชีจิ่นหน้าเขียวคล้ำ มองฝ่ามือตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเหลือบมองชีหยวนที่เลื่อนถอยไปเป็นไปได้อย่างไร?โดนพิษของยาสลายพละกำลังแล้วนี่ ทำไมชีหยวนถึงยังมีแรงต่อต้านได้?!โลกนี้หมุนรอบชีหยวนหรืออย่างไรกัน?!นางแทบคลั่ง ยกข้อมือของตนขึ้นมาตามสัญชาตญาณ จ้องมองชีหยวนด้วยตาเขม็ง ก่อนจะเหนี่ยวไกที่ข้อมือโดยไม่มีคำเตือนต่อให้เก่งกา
การเสียดสีของนางแสดงออกมาทางคำพูด ชีอวิ๋นถิงมองนางด้วยความโกรธจัด หยิบถ้วยชาข้างตัวขว้างใส่ชีหยวนเต็มแรง: “เจ้าจะวางท่าอะไรหนักหนา? นังแพศยา! เจ้าควรถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าคนอื่นไปตลอดชีวิต ไม่มีวันได้เงยหน้าอ้าปาก! เจ้าถูกกำหนดมาให้เป็นแค่คนต่ำสถุน!” ชีหยวนเบี่ยงศีรษะเล็กน้อย ถ้วยชาก็ตกลงพื้น เศษกระเบื้องกระเด็นไปทั่วห้องในทันใดราวกับว่าความโกรธทั้งหมดที่กักเก็บไว้ได้พบทางออกและระบายออกมา ตั้งแต่วันที่ชีหยวนกลับมาบ้าน ความอดกลั้นทั้งหลายในระยะเวลาหลายเดือนก็ได้รับการปลดปล่อยออกมาในขณะนี้จะกลัวอะไรอีก?ตอนนี้พวกเขาต่างหากเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ความสะใจจากการล้างแค้นอยู่ตรงหน้า ส่วนผลที่ตามมาค่อยว่ากันทีหลังดวงตาของชีจิ่นเป็นประกายผิดปกติ นางก้มลงหยิบเศษกระเบื้องขึ้นมา และเอ่ยอย่างแผ่วเบา: “พี่หญิง ทำไมถึงตกใจนัก? เจ้าไม่ใช่นักฆ่าฝีมือฉกาจหรอกหรือ? ตอนนี้เจ้าควรฆ่าพวกเราได้อย่างง่ายดายไม่ใช่หรือ?”ชีหยวนยิ้มเช่นกัน: “ที่แท้ คนที่อยู่ในจวนตระกูลหวังวันนั้นเป็นเจ้าเองสินะ”เมื่อตอนที่นางสังหารอ๋องเฉิง นางก็สงสัยอยู่แล้วว่าทำไมองครักษ์ลับที่อ๋องฉีและตระกูลหลิ่วส่งมาถึงมีท่าทีป
ชีอวิ๋นถิงรินน้ำชาให้ชีหยวนอย่างเป็นธรรมชาติ: “นี่คือชาอิ๋นเจินของหอไท่ไป๋ ออกรสไว มีรสชาติค้างอวลอยู่ในปาก เจ้าลองดูสิ”ชีหยวนดูเหมือนจะสนใจทิวทัศน์ภายนอกเป็นอย่างมาก มิได้ระแวดระวังอะไร ดื่มน้ำชาในถ้วยชารวดเดียวหมดจากนั้นจึงหันไปมองชีอวิ๋นถิงก่อนเอ่ยเรียบๆ ว่า: “พูดมาตรงๆ เถอะ เรียกข้าออกมาทำไมกันแน่? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะมีน้ำใจดีขนาดนี้ เพียงเพื่อต้องการแสดงละครฉากพี่น้องปรองดองให้ท่านยายดู”ชีอวิ๋นถิงถอดสีหน้า: “เจ้าช่างเดาเก่งนักนะ”ชีหยวนเอนตัวพิงเก้าอี้เชียนหยี่ พูดอย่างตรงไปตรงมา: “ไม่ใช่เดาหรอก แค่เพราะเจ้าเป็นคนที่ไม่เคยทำเรื่องดีๆ มาก่อนเท่านั้นเอง”จะตายอยู่รอมร่อแล้วยังปากดีอีก!ชีอวิ๋นถิงแสยะยิ้มเย็นชา พูดโต้กลับอย่างไม่เกรงใจ: “แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนดีนักหรือ? ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่ไหนมาสิงอยู่ในร่างอันต่ำต้อยนี้ แต่ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ชีวิตดีๆ ของเจ้าก็ต้องจบลงแค่นี้แล้ว!”สีหน้าชีหยวนเปลี่ยนไปทันที: “เจ้าคิดจะทำอะไร?!”“ข้าคิดจะทำอะไรน่ะเหรอ?!” ชีอวิ๋นถิงที่อัดอั้นมานานหลายเดือน ในที่สุดวันนี้ก็ได้ระเบิดออกมาอย่างสะใจ: “ข้าจะฆ่าเจ้า
ตอนที่ชีอวิ๋นถิงหันหลังกลับ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็จางหายไปสิ้นนังสารเลว!ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!นางคิดจริงๆ หรือว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ยังมาเล่นลูกไม้ ต้องให้เชิญซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก!เขาโมโหจนหน้าอกแน่นไปหมด แต่ชีอวิ๋นถิงคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็รีบปลอบใจตัวเองปล่อยให้นางได้ใจสักหน่อยจะเป็นไรไป?ยังไงซะนางจะลำพองใจได้อีกนานแค่ไหนกันเชียว?สีหน้าของเขาเย็นชา ภายในเรือนหอหมิงเยว่ สีหน้าของไป๋จื่อและเหลียนเฉียวก็เต็มไปด้วยความกังวลไม่แพ้กันเมื่อเห็นชีหยวนยังคงเล่นหยอกล้อกับอาหวง ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไป๋จื่อก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา: “คุณหนูเจ้าคะ ท่านคงมิได้ตอบรับคำ จะไปซื้อของกับคุณชายใหญ่จริงๆ ใช่ไหมเจ้าคะ?”ที่ผ่านมา ชีอวิ๋นถิงไม่เคยมีคำพูดดีๆ ให้ชีหยวน ถ้าไม่ด่าทอให้นางไปตาย ก็เรียกว่านางเป็นนังสารเลวคนแบบนี้จะเปลี่ยนไปเพียงเพราะงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าหวังอย่างนั้นหรือ?พูดออกมาว่าอยากให้พี่น้องปรองดองนี่มันคำพูดของเขาจริงๆ หรือ?น่าจะแค่ทำดีกลบเกลื่อนเสียมากกว่า ไม่ได้มีเจตนาดีแต่อย่างใดขณะที่ไป๋จื่อคิดอยู่เนั้น เหลียนเฉียวก็พูดออกมาแล้วว่า: “
ชีอวิ๋นถิงหัวเราะเยาะอย่างไม่แยแส: “ข้าเป็นบุตรชายคนโตและหลานชายสายตรง! อีกอย่าง เมื่อนางตายไป ทุกคนในจวนย่อมรู้ว่าควรเลือกใคร”ต่อให้รักมากเพียงใด คนตายก็คือคนตาย หรือจะต้องฆ่าหลานชายอีกคนเพียงเพราะหลานสาวคนเดียว?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้หัวใจของชีอวิ๋นถิงร้อนระอุ: “อาจิ่น เราฆ่านางเถอะ! ขอเพียงฆ่านาง ทุกปัญหาก็จะคลี่คลาย เมื่อนางตาย ข้าก็ยังเป็นคุณชายใหญ่เหมือนเดิม ข้าจะไปเกลี้ยกล่อมท่านแม่อีกครั้ง ตอนนี้ท่านแม่เกลียดชังนางยิ่งขึ้นเพราะการตายของแม่นมสวี่…...”ชีจิ่นละล่ำละลักไม่อาจตัดสินใจได้: “ท่านพี่ จะทำเช่นนี้จริงๆ หรือ?”ชีอวิ๋นถิงถึงกับเงียบไปหลายวันอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับการตายของแม่นมสวี่เป็นเพียงก้อนหินที่โยนลงทะเลสาบกว้างใหญ่ กระทั่งระลอกคลื่นก็ยังไม่เกิดไป๋จื่อยืนอยู่ใต้เฉลียง มองชีหยวนเล่นกับอาหวง แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจเลยสิ่งที่กลัวก็ดันเกิดขึ้นจริง สาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเรือนวิ่งเข้ามารายงานอย่างตื่นตระหนก: “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณชายใหญ่มาแล้วเจ้าค่ะ!”คุณชายใหญ่สามคำนี้เปรียบเสมือนยันต์อาญาแห่งความตาย คนในหอหมิงเยว่เมื่อได้ยินชื่อชีอ
ชีจิ่นร่ำไห่ดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ร้องไห้จนใครเห็นก็ต้องสงสารจับใจสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ มีท่าทีลังเล ไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะได้ผลหรือไม่ทว่าชีจิ่นไม่เคยสงสัยในเสน่ห์ของตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่นางจะพลาดเรื่องรับมือกับชีอวิ๋นถิง สิ่งใดที่นางต้องการให้ชีอวิ๋นถิงทำ ชีอวิ๋นถิงก็จะทำเสมอเช่นเดียวกับตอนนี้ นางสั่งให้สาวใช้รีบไปเก็บของ ต้องการจะออกจากเมืองหลวง ชีอวิ๋นถิงก็ลนลานขึ้นมาทันที จับข้อมือของชีจิ่นไว้แน่น: “อาจิ่น เจ้าออกไปจากที่นี่แล้วจะไปที่ไหนได้?! เจ้าเห็นหรือไม่ว่าหลังจากที่เจ้าออกจากบ้านไปแล้วเจ้าต้องใช้ชีวิตเช่นไร?"เขาเจ็บปวดใจนัก “นางก็เป็นแค่หนูสกปรกในท่อระบายน้ำ จะมาเทียบกับเจ้าได้อย่างไร?”น้ำตาของชีจิ่นไหลลงมาหนักยิ่งขึ้น: “ท่านพี่! จนป่านนี้แล้ว ท่านยังจะใช้คำพูดเช่นนี้มาหลอกข้าอีกหรือ? นางฆ่าแม่นมสวี แต่ท่านปู่ท่านย่ากลับบิดเบือนความจริง แถมยังตำหนิท่านแม่เพราะนาง! ท่านลองคิดดูเถิด นางเป็นเพียงหนูสกปรกในท่อจริงหรือ?”ใบหน้าของชีอวิ๋นถิงมืดมนเป็นเรื่องจริง ตั้งแต่เขาจำความได้ ท่านปู่ท่านย่าไม่เคยตามใจลูกหลานคนไหนเช่นนี้มาก่อนยกเว้นชีหยวนคนเ
หลิวจงตกใจจนรีบโบกมือปฏิเสธเงินก้อนนี้ร้อนมือเกินไป!ชีหยวนยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองเขาหลิวจง “ทำไม หรือว่าพ่อบ้านหลิวคิดว่าให้น้อยไป?”......หลิวจงคว้าซองแดงไปถือไว้อย่างรวดเร็วเสียยิ่งกว่าฟ้าแลบ ก่อนจะรีบกล่าวขอบคุณชีหยวนอย่างคล่องแคล่วชีหยวนเพียงยิ้มบาง ๆ “นี่เป็นสิ่งที่พ่อบ้านหลิวสมควรได้รับ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ”หลิวจงรีบถือซองเงินแล้วขอตัวออกไปทันที พอพ้นประตู ก็เผลอชั่งน้ำหนักซองแดงในมือโดยไม่รู้ตัวมันเบาหวิวเขาเปิดดูข้างใน ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างตั๋วเงินห้าสิบตำลึง!คุณหนูใหญ่ของเขาแม้จะโหดไปบ้าง แต่ก็ใจกว้างยิ่งนัก!แต่ว่าเขาเข้าใจผิดไปเองแล้วชีหยวนเพียงแค่แบ่งเงินรางวัลสองร้อยตำลึงที่ตั้งไว้สำหรับตามหาสุนัขออกมาให้หลิวจงหนึ่งในสี่ส่วนและอีกหนึ่งในสี่ก็แบ่งให้ซุ่นจื่อชีหยวนยิ้มให้ซุ่นจื่อก่อนพยักหน้าเบา ๆ “เจ้าทำงานได้ดีมาก”ซุ่นจื่อหัวเราะแหะ ๆ พร้อมกับเกาหัว “บ่าวคนนั้นอยู่ห้องติดกับข้า พวกเราโตมาด้วยกัน ข้ารู้จักนิสัยของเขาดี! คุณหนูใหญ่ โชคดีที่พวกเราไปทันเวลา ไม่อย่างนั้นอาหวงคงถูกเชือดไปแล้วขอรับ”ตอนที่ไปถึงอาหวงถูกมัดไว้กับขาโต๊ะข้างเขียงแล้วห