Share

บทที่ 857

Author: หว่านชิงอิ๋น
“เขาเป็นคนมีน้ำใจดีมาก”

จากน้ำเสียงของลั่วหลางหลาง เห็นได้ชัดว่านางชื่นชมฟ่านลิ่งเสวียนเป็นอย่างมาก

“เถ้าแก่อวี๋นี่ใครกัน?” ลั่วชิงยวนสับสน

ลั่วหลางหลางตอบว่า “นางก็เป็นเจ้าของร้านแป้งชาดเหมือนกัน แต่ตั้งแต่ร้านของข้าเปิด ร้านแป้งชาดของนางก็ไม่มีลูกค้าเลย”

“นางมักจะมาที่ร้านของเราเพื่อสร้างปัญหา หวังจะไล่ลูกค้าของข้าไป”

“มิเป็นไร เจ้ามิต้องกังวลเรื่องข้าหรอก ข้าส่งคนไปตรวจสอบร้านแป้งชาดของนางแล้ว พวกเขาใช้วัสดุราคาถูกทั้งนั้น หากใช้มากเกินไป ใบหน้าจะเสียโฉม”

“และครอบครัวของนางก็หลบเลี่ยงภาษีไปมิน้อยเลย”

“ข้าได้สมุดบัญชีมาแล้ว”

“ข้ามิกลัวว่านางจะมาสร้างปัญหา”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็หยุดชะงักเล็กน้อย ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

ลั่วหลางหลางมองนางอย่างสงสัย “เจ้ายิ้มเพราะเหตุใดรึ?”

“ข้ามีความสุขมาก หลางหลาง ตอนนี้เจ้าเปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับตอนที่เจ้าอยู่ในจวนมหาราชครู เจ้าฉลาดมาก แค่กล้าหาญขึ้นอีกหน่อย เจ้าก็สามารถบรรลุสิ่งที่แตกต่างออกไปได้”

ลั่วชิงยวนมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ยิ้มออกมา “สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็เป็นประสบการณ์อันล้ำค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wang Mahachok
ตอนต่อไปปล่อยมาตอนไหนเอ่ย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 858

    “ซวนอี๋ถูกนำตัวไปที่หอนางโลมแล้ว!”“หลางหลาง ขอร้องช่วยนางด้วย!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อย และอดมิได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นมันเกิดขึ้นจริงเร็วมากหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ตกใจและถามว่า “เหตุใดจึงถูกจับตัวไปหอนางโลม? ถูกจับไปหอนางโลมก็ไปแจ้งทางการเสียสิ มาหาข้าด้วยเหตุใด?”ฟ่านซานเหอรู้สึกหมดหนทางและพูดว่า “ซวนอี๋ นางเคยทำให้บางคนขุ่นเคืองและเป็นหนี้อยู่บ้าง หลังจากเหตุการณ์นั้น คนเหล่านั้นมาหาเราและบังคับให้เราจ่ายเงินคืน”“ซวนอี๋ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เราจะมีเงินได้อย่างไรกัน”“หลังจากขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วก็ยังมิพอใช้หนี้ พวกเขาจึงจับซวนอี๋ไปขาย”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ขมวดคิ้ว “เป็นหนี้เท่าไหร่?”ฟ่านซานเหอลังเลและพูดว่า “ยังขาดอีกเจ็ดหมื่นตำลึง”“เจ็ดหมื่นตำลึง เจ้าคาดหวังให้หลางหลางช่วยเจ้าจ่ายเงินก้อนโตขนาดนี้เชียวรึ?”ลั่วชิงยวนหัวเราะเย็นชา“นอกจากนี้เฉินซวนอี๋อาจมิได้ทำให้คนอื่นโกรธ แต่หลอกลวงคนอื่นมากกว่า พวกเขาขายเฉินซวนอี๋มิขายเจ้าไปด้วยอีกคนก็ถือว่าพวกเขามีเมตตาแล้ว”คำพูดมิกี่คำของลั่วชิงยวนทำให้ฟ่านซานเหอหน้าแดงด้วยความอับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 859

    ลั่วหลางหลางยิ้มและพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ข้าแค่ทำเล่น ๆ ตอนมีอารมณ์ ยังไม่ถือว่าเชี่ยวชาญหรอก”หลังจากที่ทั้งสามคนทานอาหารแล้ว ลั่วหลางหลางก็พาพวกเขาไปเดินเที่ยวรอบเมืองซีหยางเมืองซีหยางไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก หอการค้าเฟิงตูยังครอบคลุมร้านค้าส่วนใหญ่ในเมืองซีหยางไว้ แต่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปกว่าจะรู้ตัวก็เป็นเวลาค่ำแล้วลั่วอวิ๋นสี่มายังสวนหลังบ้านอย่างเงียบ ๆ ในตอนกลางคืน เพราะนางที่จะปรากฏตัวในตอนกลางวัน ท้ายที่สุดแล้ว ในสายตาของคนทั่วไป ลั่วอวิ๋นสี่ถือว่าตายไปแล้วดังนั้นนางจึงสามารถมาที่บ้านของลั่วหลางหลางในตอนกลางคืนเพื่อพบกับลั่วหลางหลางเท่านั้นหลังอาหารเย็นเสร็จ พวกนางก็นั่งคุยกันที่สวนหลังบ้านหลังจากที่ทุกคนพักผ่อนแล้ว ลั่วหลางหลางก็เรียกลั่วชิงยวนไปที่ห้อง“นี่คือสมุดบัญชีของหอการค้าเฟิงตู”“เจ้ามาทันเวลาพอดี มีบางอย่างที่ข้าต้องคุยกับเจ้า”ลั่วหลางหลางเพิ่งเคยรับมือกับธุรกิจใหญ่เช่นนี้เป็นครั้งแรก มีหลายเรื่องที่นางตัดสินใจไม่ได้ และจำเป็นต้องหารือกับลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนพยักหน้าและช่วยนางดูพลิกเปิดสมุดบัญชีเล่มหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ ดูไปด้วยคุยไปด้วยกับลั่วหลางห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 860

    หรือว่าคนลึกลับผู้นั้นยังคงคิดถึงหอการค้าเฟิงตูในซีหยางอยู่?ลั่วหลางหลางอยู่ในสมาคมการค้าเฟิงตูและตอนนี้ลั่วชิงยวนเป็นประธานเบื้องหลังของสมาคมการค้าเฟิงตู คนลึกลับผู้นี้ไปหาซีหยางโดยไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่เขาต้องป้องกันเอาไว้ฟู่เฉินหวนลุกขึ้นยืนทันที “รวบรวมคน ออกเดินทางไปซีหยางคืนนี้เลย!”“พ่ะย่ะค่ะ!”…… วันแล้ววันเล่า ลั่วชิงยวนรอคอยอย่างกระวนกระวายใจในที่สุดห้าวัน เวลานั้นก็มาถึงหลังจากตกค่ำ ก็มีคนมารายงานว่าคาราวานเฟิงฮั่วได้เข้ามาในเมืองซีหยางแล้วลั่วชิงยวนรออย่างประหม่ารอคอยพวกเขานำสินค้ามายังหอการค้าเฟิงตูซ่งเชียนฉู่ก็รอกับนางอย่างกังวลเช่นกัน “พวกเขาจะไม่ถูกปล้นกลางทางหรอกใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนส่ายหัว “สนหิมะเขาฉีซานถูกขนส่งมาพร้อมกับสมุนไพรอื่น ๆ หากถูกปล้นกลางทางจะไม่สามารถขนไปได้ และจะไม่มีเวลาค้นหาสนหิมะเขาฉีซาน ความเสี่ยงจะมากเกินไป”“และมันถูกบันทึกไว้ในบัญชีตั้งแต่ก่อนแล้ว เราเพิ่งเข้าครอบครองหอการค้าเฟิงตู นางคงยังไม่รู้ว่าเราค้นพบสนหิมะเขาฉีซาน และไม่รู้ว่าเราหมายใจสนหิมะเขาฉีซานอยู่เช่นกัน”“นางคงจะแอบมาตามหามันหลังจากที่ถูกส่งมาแล้ว”ซ่งเชียนฉู่พ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 861

    ตอนนี้ ลั่วฉิงมิกล้าปล่อยลั่วชิงยวนไป“ปล่อยข้าไป” ลั่วฉิงขู่อย่างเย็นชาฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว กำฝ่ามือของเขาแน่น“พูดอีกครั้ง ปล่อยข้าไป มิเช่นนั้นข้าจะฆ่านาง” มือของลั่วฉิงค่อย ๆ ออกแรงบีบลั่วชิงยวนมองตรงไปที่ฟู่เฉินหวน และเห็นท่าทางลังเลของฟู่เฉินหวน เขามิอยากให้นางมีชีวิตอยู่หรือ?“หลีกทาง” ฟู่เฉินหวนออกคำสั่งในที่สุดหลังจากหลีกทางแล้ว ลั่วฉิงก็คว้าลั่วชิงยวนไว้แล้วเหาะออกไปทันทีดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชา สั่งให้เซียวชูและคนอื่น ๆ ติดตามไปอย่างเงียบ ๆลั่วฉิงมองย้อนกลับไปอย่างระมัดระวัง โดยมิกล้าหยุด ใช้วิชาตัวเบาหนีออกจากเมืองซีหยาง มุ่งหน้าเข้าสู่ป่าใหญ่นอกเมืองขณะใกล้จะถึงพื้น ลั่วฉิงก็ปล่อยลั่วชิงยวนไปลั่วชิงยวนล้มลงกับพื้นอย่างแรง กลิ้งไปสองตลบความเจ็บปวดรุนแรงมาก จนนางมิสามารถลุกขึ้นจากพื้นได้ลั่วฉิงร่อนลงเบา ๆ มองนาง และอดมิได้ที่จะหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าวรยุทธของเจ้ามิได้อ่อนแอขนาดนี้ เจ้ากลายเป็นคนไร้ค่าไปเสียแล้ว”ก็ดีเหมือนกัน จะได้มิต้องเสียเวลามากลั่วฉิงชักกริชออกมา ก้มลงและแทงลั่วชิงยวนเข้าที่หน้าอกอย่างแรงแต่ในขณะนั้นเองรังสีสังหารที่แข็งแ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 862

    กล่องบรรจุสมุนไพรทั้งหมดถูกเปิดออก และสมุนไพรกระจายอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกระโดดลงจากหลังของเซียวชูอย่างร้อนรน และรีบวิ่งไปที่กองสมุนไพร “ท่านทำอะไร?!”นางคุกเข่าลงหาสนหิมะเขาฉีซานตอนนี้สนหิมะเขาฉีซาน สำคัญเท่าชีวิตของนางแต่เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นท่าทางกังวลของนางเช่นนั้น เขาก็ดึงนางขึ้นมาด้วยสีหน้าโกรธขึ้งขมวดคิ้วมองนาง แล้วเริ่มตั้งคำถาม“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่ซีหยางได้?!”“ข้าไล่ตามคนลึกลับมาที่นี่ เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่ด้วย?”“เจ้าทำอะไรโดยมิบอกมิกล่าวข้า!”“วันนี้ข้าเกือบจะจับคนผู้นั้นได้แล้ว!”ในช่วงเวลานี้ แม้ว่าเขาจะมิได้ติดตามบุคคลลึกลับอย่างเปิดเผย แต่เขาก็ได้ส่งคนไปตามสืบและติดตามคนผู้นั้นอย่างลับ ๆ เขาใช้วิธีการไปมากมายจนพบโอกาสเช่นนี้ในวันนี้แต่เขามิคาดคิดว่าเขาจะได้พบลั่วชิงยวนที่นี่และนางก็เกือบต้องตายด้วยน้ำมือของคนลึกลับผู้นั้นนางทำสิ่งที่อันตรายในซีหยาง เหตุใดนางมาคนเดียวโดยมิพูดอะไรสักคำ?ลั่วชิงยวนเกิดความโกรธในใจ มองดูฟู่เฉินหวนด้วยสายตาที่เฉียบคม“เหตุใดรึ? ท่านกล่าวโทษหม่อมฉันว่าทำลายแผนของท่าน ทำให้จับคนชุดดำมิได้หรือ?”“ทว่าหากท่านมิทำลายวรยุทธขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 863

    หลังจากออกจากหอการค้าเฟิงตูแล้วลั่วชิงยวนและซ่งเชียนฉู่ก็เดินไปตามถนน ซ่งเชียนฉู่เอ่ยว่า “สนหิมะเขาฉีซานมิได้อยู่ในกล่อง”“มันอาจมิเคยถูกส่งมาตั้งแต่แรก”“หรือไม่ก็ถูกปล้นไประหว่างทางโดยคนอื่นที่รู้เรื่องนี้”“อย่างไรเสีย สนหิมะเขาฉีซานก็เป็นสมุนไพรที่ล้ำค่า หากมีข่าวรั่วออกไปผู้ที่รู้จักสมุนไพรก็จะมุ่งเป้าที่สนหิมะเขาฉีซาน”“แน่นอน และอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาทำมันหายหลังจากเปิดกล่องออก”“ส่งคนไปตามหาที่สมาการค้าอีกครั้งเถอะ”หัวใจของลั่วชิงยวนจมลง กำหมัดแน่น รู้สึกถึงข้อมือที่อ่อนแรง และถอนหายใจ“ข้าได้กลิ่นของสนหิมะเขาฉีซาน จากสมุนไพรนั้น”“ข้าเก็บสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงไว้ชิ้นหนึ่ง รอให้ข้ากลับไปแล้วจะคำนวณตำแหน่งของสนหิมะเขาฉีซาน”มีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสนหิมะเขาฉีซานเป็นแนวทาง ก็จะมีโอกาสค้นหาที่ตำแหน่งของสนหิมะเขาฉีซานได้ซ่งเชียนฉู่ประหลาดใจ “นี่ก็คำนวณได้หรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ได้ แต่ใช้พลังงานมาก”เมื่อได้ยินเช่นนี้ซ่งเชียนฉู่ก็ถามอย่างลังเล “ถ้าอย่างนั้นร่างกายของท่านจะทนได้หรือ?”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชาเล็กน้อย “ไม่มีทางอื่น ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วครั้งนี้มีแต่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 864

    ใต้ถ้วยชามีสิ่งเล็ก ๆ ที่กำลังดีดดิ้นอยู่ลั่วชิงยวนกลั้นอาการอาเจียนไว้ และมิได้ส่งเสียงออกมาแต่เห็นฟู่เฉินหวนหยิบชาขึ้นมากำลังจะดื่มมันเจ้าของร้านและเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ข้าง ๆ แอบมองพวกเขาลั่วชิงยวนรีบกุมท้องทันที “ข้าเจ็บท้อง เจ็บมาก…”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเปลี่ยนไป เขาก็วางถ้วยชาลง “เป็นอะไรไป”ลั่วชิงยวนแสดงอาการสาหัสและบีบคอตัวเองราวกับว่าหายใจมิออกฟู่เฉินหวนอุ้มนางขึ้นมา พาออกมานอกจุดพักม้า และวางนางบนม้านั่งหินใต้ต้นไม้ใหญ่ “เกิดอันใดขึ้น คุณหนูซ่ง อาการของนางเป็นอย่างไร”เซียวชูยังนำผู้คนออกจากจุดพักและรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ โดยมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นลั่วชิงยวนหยุดไอและกระซิบออกไปว่า “มีแมลงพิษอยู่ในชานั้น”“เจ้ามิได้ดื่มใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวชูและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกมิสบายทันทีพวกเขารีบถามกันและกันว่ามีใครดื่มไปหรือไม่โชคดีที่เมื่อทุกคนได้ยินลั่วชิงยวนบ่นเรื่องที่นางปวดท้อง จึงวางถ้วยชาลงและไม่มีใครได้ดื่มอะไรฟู่เฉินหวนมองย้อนกลับไปที่จุดพักม้าแล้วพูดอย่างเย็นชา “เช่นนั้นมิควรอยู่ที่นี่นาน ๆ ไปกันเถอะ”ไม่มีใครกล้าอยู่อีก ขบวนออกเดินทางกันต่อแต่ในตอน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 865

    ลั่วชิงยวนเหลือบมองด้วยความสับสนฟู่เฉินหวนกล่าวเสริม “มันคือน้ำที่นำมาจากซีหยางมก่อนเดินทาง”ลั่วชิงยวนยังคงหลับตาต่อไป “หม่อมฉันมิกระหาย ท่านดื่มเองเถอะ”“ข้าดื่มแล้ว”ลั่วชิงยวนลืมตาขึ้นและมองดูเขา ริมฝีปากของเขาแห้งแตกจนเลือดออก ดูแล้วเหมือนมิได้ดื่มน้ำนางขยับร่างกาย หันหลังให้ฟู่เฉินหวนเขาพูดอย่างเย็นชา “อย่าทำเป็นใจดีเลยเพคะ หม่อมฉันมิต้องการ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วและพูดว่า “บุคคลลึกลับอาจจะปรากฏตัวอีกครั้ง และเป้าหมายของนางคือเจ้า”“หากไม่มีแรงพอที่แล้วจับได้ทีหลัง ตัวข้าก็ต้องช่วยเจ้าอีก”ลั่วชิงยวนมิหันหน้ามามอง “หม่อมฉันบอกแล้วว่ามิดื่ม”“ท่านคิดว่าตบหัวแล้วมาลูบหลัง หม่อมฉันจะฟังท่านอีกหรือ?”“อย่ามาทำเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย มิอยู่กับร่องกับรอย อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นนี้ หม่อมฉันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิไหวหรอก”“ความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถชดเชยความเสียหายที่ท่านทำกับหม่อมฉันได้หรือ?”“อย่าทำสิ่งที่ไร้ความหมายเหล่านี้เลย”ลั่วชิงยวนหลับตา และเลิกให้ความสนใจคำพูดเหล่านั้นเหมือนกับมีดที่แทงเข้าไปในใจของฟู่เฉินหวนอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกถึงวันที่ทำลายวรย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status