Share

บทที่ 751

Author: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่เฉินหวนสะดุ้งเล็กน้อยและเลิกคิ้วมองนาง “เจ้าถูกจับเพราะข้าหรือ?”

“มิใช่หรืออย่างไร หม่อมฉันเห็นท่านมิตอบโต้ หม่อมฉันก็เลยตามท่านเข้ามาด้วย”

“ท่านแค่อยากเข้ามาทดสอบว่า นายอำเภอผู้นี้เป็นคนแบบใดใช่หรือไม่?” ลั่วชิงยวนขยับเข้ามาใกล้และลดเสียงของนางลง

การลดระยะห่างอย่างกะทันหัน ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของลั่วชิงยวน หัวใจของฟู่เฉินหวนจึงเต้นเร็วขึ้น

เขามองออกไปและฮัมเสียงในคอเป็นการรับรู้

อากาศทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าว ทำให้เขาต้องเคลื่อนตัวไปด้านข้างโดยมิรู้ตัว

ลั่วชิงยวนก็ขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้น โน้มตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบ “อย่างไรก็แล้วแต่ หม่อมฉันถูกจับได้และต้องมาทนหิวเช่นนี้ก็เพราะท่าน”

“ท่านจะชดใช้ให้หม่อมฉันอย่างไร?”

ฟู่เฉินหวนหันกลับมาสายตาอันหิวกระหายของลั่วชิงยวน หูของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงกะทันหัน คิ้วขมวดมุ่น “เจ้า…”

“เจ้าต้องการอะไร” ฟู่เฉินหวนหายใจเร็วขึ้น และเขาก็แอบถอยไปด้านข้าง

ลั่วชิงยวนไล่ตามเขาและก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว

ขณะมองเขาด้วยสายตาจริงจัง นางยกมุมปากขึ้นโดยมิรู้ตัว ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ และพูดอย่างแผ่วเบา “บอกตามตรง หม่อมฉันสนใจ…”

“สมาคมการค้าเฟิงตู!”

ซู่.
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 752

    ลั่วชิงยวนหยิบกล่องเล็ก ๆ สองกล่องขึ้นมาทันที เปิดออกแล้วดมกลิ่น มันคือสีผึ้ง!“ท่านหยิบมาได้อย่างไร?” ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นว่านางมีความสุข ฟู่เฉินหวนก็อดมิได้ที่จะยกยิ้มและพูดเบา ๆ "ข้าเพียงหยิบติดมือมาก็เท่านั้น"“ข้ายังหยิบชาดทาปากมาด้วย”“ข้าแค่หยิบมาแบบสุ่ม ๆ หากมิชอบจะทิ้งไปก็ได้”ลั่วชิงยวนเปิดกล่องชาด แตะมันเล็กน้อย ฟู่เฉินหวนอดมิได้ที่จะหันศีรษะไปมองเล็กน้อยลั่วชิงยวนแตะชาดทาปากบนหลังมือของเขาแล้วมองดู จากนั้นยกมุมริมฝีปากขึ้น “สีนี้ก็ใช้ได้”“รับไว้แล้วกัน!”ลั่วชิงยวนเก็บสีผึ้งสองกล่องเข้าไปใต้แขนเสื้อเมื่อเห็นสิ่งนี้ฟู่เฉินหวนก็ผ่อนคลายฝ่ามือที่ประหม่าเล็กน้อย และมุมริมฝีปากของเขาก็มิสามารถหยุดยกขึ้นได้ทั้งสองถูกขังไว้จนถึงกลางคืนเพื่อบรรเทาความหิว ลั่วชิงยวนจึงนอนพิงกำแพง และเมื่อนางหลับไป นางก็พิงไหล่ของฟู่เฉินหวนแต่สุดท้ายก็ทนความหิวกลางดึกมิได้จึงตื่นขึ้นมานางลุกขึ้นนั่งอย่างทรมานฟู่เฉินหวนตื่นขึ้นมาเห็นนางจับท้องด้วยความเจ็บปวด ก็รู้ทันทีว่านางหิวมากฟู่เฉินหวนลุกขึ้นยืนที่ประตูห้องขังแล้วตะโกนทันที “มีใครอยู่หรือไม่!”ไม่นานก็ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 753

    ลั่วชิงยวนสัมผัสท้องที่คำรามของตน ทนต่อกลิ่นมิได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงฉีกเนื้อไก่ออกแล้วกินมันเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากข้างนอก ลั่วชิงยวนก็รีบยัดเนื้อเข้าไปในปากทันใดฟู่เฉินหวนหันหลังให้กับประตูห้องขัง บังสายตาผู้คนภายนอกเอาไว้“ข้าจะบังให้ เจ้ากินช้า ๆ เถอะ”ความรู้สึกหิวหายไปแล้ว และด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้แต่หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นลั่วชิงยวนกินไปครึ่งหนึ่งและเหลืออีกครึ่งให้ฟู่เฉินหวน“ท่านก็ควรเสวยอะไรสักหน่อย เผื่อเซียวชูหาเรามิเจอในเร็ววัน หากพวกเจ้าหน้าที่ชั่วพวกนี้มิให้อะไรเรากินอีก เราคงต้องหิ้วท้องไปอีกหลายวัน”“ข้ามิหิว”ลั่วชิงยวนลากเขาให้ไปนั่งลงตรงกำแพงแล้ว ก่อนยืนขึ้นเพื่อบังเขาเอาไว้ “ถึงมิหิวก็ต้องเสวยสักหน่อย”ฟู่เฉินหวนมองดูนาง ทำอะไรมิถูกเล็กน้อย แต่ก็ยังกินเข้าไปบ้าง......รุ่งสางใต้เท้าเฉามายังห้องขังยืนมองดูพวกเขาทั้งสองคนจากนอกประตู “หัวแข็งเสียจริง ไฉนต้องทำให้มากความด้วย”“หากมิจ่ายเงิน ก็ลงนามในสัญญาขายตัวเสีย เจ้าจะได้ออกไปทันที เจ้ายังสามารถไปที่สมาคมการค้าเฟิงตูเพื่อหางานดี ๆ ทำได้ ต่อจากนี้เจ้าจะมิต้องกังวลอะไรไปตลอดชีวิต!”เมื่อได้ย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 754

    องครักษ์เงาทั้งหมดคุกเข่าลงพร้อมกันใต้เท้าเฉาตกใจมากจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว “พวกเจ้า…”ใต้เท้าเฉาสงสัยว่าพวกเขาจำคนผิดหรือไม่แต่แล้วก็มีเสียงที่เย็นชาและทรงอำนาจดังขึ้นมาข้าง ๆ“ลุกขึ้นเถอะ”ใต้เท้าเฉาหันหน้าไปเห็นฟู่เฉินหวนปัดแขนเสื้อเซียวชูและคนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นยืนใต้เท้าเฉาตกใจมากจนแข้งขาอ่อนแรงและล้มพับลงกับพื้น “ผู้สำเร็จราชการ? อ๋องผู้สำเร็จราชการงั้นหรือ?”เสียงของเขาสั่นเครือใต้เท้าเฉาเงยหน้าขึ้นมองชายที่สวมหน้ากากแต่ยังคงสง่างาม ในใจสั่นสะท้าน เหตุใดเขาถึงเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการไปได้?ทุกคนในคุกพากันคุกเข่าลง ไม่มีใครกล้าเงยหน้า“กระหม่อมมีตาหามีแววไม่ จึงมิรู้ว่าท่านอ๋องเสด็จมาเยือน ทำให้ต้องทรงขุ่นเคือง หวังว่าท่านอ๋องจะทรงยกโทษให้พ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าเฉาคุกเข่าลงทันทีและเอ่ยปากขอโทษ ร่างกายของเขาสั่นด้วยความกลัวลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว “ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วรึ? เมื่อครู่ใครกันที่บอกว่ามิว่าเราจะเป็นใคร เมื่ออยู่ในซีหยางก็ต้องเชื่อฟังเจ้าทั้งนั้น?”“ตัวข้ากับท่านอ๋องจะต้องทรมานอย่างสาหัสมิใช่รึ! รีบพาเราไปที่ห้องทรมานสิ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเซียวชูก็เปลี่ยนไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 755

    เสียงของฉางจิ่นเหวินดังขึ้นนางเดินเข้าไปในห้องขังด้วยท่าทางอวดดี แต่ก็ได้เห็นว่าใต้เท้าเฉากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น“ใต้เท้าเฉา นี่ท่านกำลังทำอะไร?”เมื่อหันไปมองอีก นางจะได้เห็นว่าสองคนในห้องขังกำลังนั่งกินดื่มอยู่บนเก้าอี้“เหตุใดสองคนนี้ถึง...”ฉางจิ่นเหวินรู้สึกมิพอใจในทันทีครู่ต่อมา ใต้เท้าเฉาจึงดึงนางให้คุกเข่าลงกับพื้น “รีบขออภัยต่อท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาเสีย!”อย่าได้ก่อเรื่องอีกเลย เขาจะตายอยู่รอมร่อแล้ว!ฉางจิ่นเหวินถูกใต้เท้าเฉาดึงลงกับพื้น เมื่อนางได้ยินคำพูดของใต้เท้าเฉา ใบหน้าของฉางจิ่นเหวินก็เปลี่ยนสีทันทีนางเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ? พระ… พระชายา?”ฉางจิ่นเหวินรู้สึกตื่นตระหนก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นางหวาดกลัวมิน้อย“เร็วเข้า! รีบขอประทานอภัยท่านอ๋องและพระชายาเสีย! เจ้านี่มันจริง ๆ เลย เหตุใดถึงได้จับคนมิเลือกหน้าเช่นนี้!”น้ำเสียงของใต้เท้าเฉาเต็มไปด้วยการตำหนิ หากฉางจิ่นเหวินมิจับกุมอ๋องผู้สำเร็จราชการ เขาคงมิต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่?ฉางจิ่นเหวินตกใจมาก สองคนนี้กลายเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาไปได้อย่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 756

    เมื่อดูจากปฏิกิริยาของใต้เท้าเฉา ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าเขาต้องรู้อะไรเกี่ยวกับลั่วหลางหลางเป็นแน่เรื่องของตระกูลฟ่านคงเป็นที่รู้กันทั่วในซีหยางส่วนลั่วหลางหลางก็ถูกใส่ร้ายและทำให้เสียชื่อเสียง นางต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใดกัน!ลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกโกรธเมื่อคิดถึงเรื่องนี้นางเอ่ยปากเตือน “แม้ว่ามหาราชครูลั่วจะมิอยู่แล้ว แต่จวนมหาราชครูยังอยู่ และข้าลั่วชิงยวนเองก็ยังอยู่! หากใครกล้าใส่ร้ายลั่วหลางหลางอีกครั้ง ได้ยินเมื่อไหร่ข้าจะลงมือเดี๋ยวนั้น!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใต้เท้าเฉาละล่ำละลักพูดออกมา ”พระชายา หาอย่าได้กังวล!“ฉางจิ่นเหวินก็ก้มหน้าลงและรับปากว่าจะมิใส่ร้ายลั่วหลางหลางอีกฉางจิ่นเหวินแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แปลว่านางมาที่นี่เพื่อลั่วหลางหลาง โชคดีที่อีกฝ่ายมิได้มาที่นี่เพราะสมาคมการค้าเฟิงตูลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนออกจากที่ว่าการ ก่อนออกเดินทางฟู่เฉินหวนบอกใต้เท้าเฉาว่า "ข้ามิต้องการให้ใครล่วงรู้ถึงการมาที่ซีหยางของข้าเท่าไหร่นัก"“จงทำเหมือนมิเคยพบเห็นข้าก็แล้วกัน”ใต้เท้าเฉาพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง โปรดวางพระทัย กระหม่อมเข้าใจความพ่ะย่ะค่ะ!”จากนั้นทั้ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 757

    ......แม้ว่าตระกูลฟ่านจะไม่ใหญ่โต แต่ก็ดูหรูหรา ทิวทัศน์ในบ้านก็งดงามมากเช่นกันลั่วชิงยวนและลั่วหลางหลางเดินไปที่ทะเลสาบ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ลั่วชิงยวนจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “หลางหลาง ข้าไปซื้อสีผึ้งที่ขายในร้านเครื่องประทินโฉมตระกูลฟ่านเมื่อสองวันก่อน"นางหยิบกล่องสีผึ้งออกมาแล้วเปิดให้ลั่วหลางหลางดมลั่วหลางหลางตกใจเล็กน้อยลั่วชิงยวนถามว่า “กลิ่นนี้เหมือนกับถุงหอมที่เจ้าให้ข้ามาก่อนหน้านี้เลย! เจ้าเป็นคนทำสีขี้ผึ้งนี้ใช่หรือไม่?”ใบหน้าของลั่วหลางหลางเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเนางก็ยิ้ม “ใช่แล้ว นี่เป็นฝีมือข้าเอง”“แล้วเหตุใด…”ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะพูดจบ นางก็ถูกลั่วหลางหลางขัดจังหวะ“ในตอนนั้นตระกูลฟ่านเพิ่งย้ายมาที่ซีหยาง แม้ตระกูลเสวี่ยจะเป็นครอบครัวใหญ่อีกทั้งยังมีกิจการที่ดี แต่ก็เป็นเพียงตระกูลของฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้น บุตรหลานรุ่นหลังกับเรานับว่าห่างเหินกันเป็นอย่างมาก พวกเขาจะช่วยเหลือพวกเราอย่างจริงใจได้อย่างไร"“เพราะเขาพูดจาดี ช่วยเราเปิดร้านและทำการค้า และช่วยให้เราเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูได้ก็จริง แต่จริง ๆ แล้ว เขาต้องการทำลายการค้าของเรา เพื่อจะรีดไถเง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 758

    ดวงตาของลั่วหลางหลางมืดมน นางขมวดคิ้วมุ่นและก้มหน้าลง น้ำเสียงดูทำอะไรมิถูกเล็กน้อย “ตอนที่ตระกูลเสวี่ยเย้ยหยันว่าข้าไร้ประโยชน์ ฟ่านลิ่งเสวียนก็บังเอิญมาเยี่ยมเยียนพวกเราที่ซีหยาง ดังนั้นเขาจึงออกปากแทนข้าสองสามคำและโต้เถียงกับตระกูลเสวี่ย”“ต่อมา ตอนที่เขาคิดจะกลับเข้ากองทัพ ทว่าคืนก่อนเขาพบว่ารองเท้าของเขาชำรุด ข้าจะช่วยซ่อมแซมให้เขาบ้าง ฟ่านซานเหอเองก็รู้เรื่องนี้ดี”“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อออกไปสู่ภายนอกแล้วกลับเปลี่ยนไปสิ้นเชิง”หลังจากฟังแล้ว ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ!“นั่นหมายความว่า ต้องเป็นตระกูลเสวี่ยที่กุข่าวลือขึ้นแน่!”“แล้วสินเดิมของเจ้าเล่า ยังจะโลภสินสอดของเจ้าอีกรึ!“เติมทีนางคิดว่าชีวิตในซีหยางคงสงบสุข แต่มิคิดเลยว่านี่จะเป็นรังหมาป่าเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ถามอย่างสงสัย “ตระกูลฟ่านน่าจะมีเงินเก็บมิน้อย! ไหนจะสินเดิมของเจ้าอีก! เหตุใดเจ้ายังอยากทำการค้าอยู่?”“แน่นอนว่าตระกูลฟ่านมิต้องทำการค้าก็มีกินมีใช้”ลั่วหลางหลางตอบด้วยน้ำตาคลอ “ฟ่านซานเหอมิอยากมีชีวิตธรรมดา ๆ เช่นนั้น”“เขาบอกแก่ข้าว่าเขาอยากให้ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 759

    เซียวชูตกตะลึงและกอดดาบไว้ในอ้อมแขนทันใด “ท่านอ๋อง! มิได้หนาพ่ะย่ะค่ะ!"น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นชาเล็กน้อย “หากมิได้ เช่นนั้นก็รีบหาทางเสียสิ? เรื่องแค่นี้ยังต้องถาม เช่นนั้นเจ้าจะมีประโยชน์อันใด”เซียวชูเกาหัว นี่มิใช่หน้าที่ของเขา รู้อย่างนี้เขาพาซูโหยวมาที่นี่ด้วยดีกว่าฟ่านซานเหอรีบพูด “ท่านอ๋อง กระหม่อมมี กระหม่อมจะจ่ายให้พ่ะย่ะค่ะ”ฟ่านซานเหอพูดแล้วหยิบถุงเงินของเขาออกมาทันทีแต่ฟู่เฉินหวนยกมือขึ้นเพื่อปรามและพูดด้วยน้ำเสียงมิแยแส "พระชายาของข้าต้องการซื้อของเพียงมิกี่อย่าง มิต้องให้คนอื่นจ่ายให้หรอก""ข้าจ่ายเองได้"ฟ่านซานเหอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเก็บถุงเงินกลับอย่างเชื่องช้าลั่วชิงยวนยังคงจับจ่ายกับลั่วหลางหลางต่อไป ออกจากร้านหนึ่งก็เข้าอีกร้านและยังได้ไปที่ร้านของตระกูลฟ่านอีกด้วยนางซื้ออาภรณ์และเครื่องประดับให้ลั่วหลางหลางหลังจากเลือกสร้อยข้อมือมูลค่าสามร้อยตำลึง ลั่วหลางหลางเกิดปฏิเสธ “หากเจ้าต้องการซื้อก็เก็บไว้เองเถิด ข้ามิต้องการสิ่งเหล่านี้"“ดูสิว่าเจ้าแต่งตัวเรียบง่ายขนาดไหน เจ้ามิสวมอะไรเลย ดูสิว่าใส่แล้วเจ้างามเพียงใด” ลั่วชิงยวนบังคับให้ลั่วหลางหลา

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1302

    เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปในทันที“กระหม่อมเป็นองครักษ์ข้างกายองค์ชายใหญ่ โปรดอภัยให้กระหม่อมที่มิสามารถทำตามพระบัญชาได้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงผู้นี้ชอบเฉินชี หากเขาติดตามองค์หญิงไปก็คงจะได้พบกับเฉินชีเป็นแน่ มิหนำซ้ำ เกาเหมียวเหมี่ยวก็ช่วยเขาฆ่าเฉินชีมิได้เมื่อถูกเขาปฏิเสธอีกครั้ง สีหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวจึงดูมิดีนักฉินอี้จึงต้องก้าวออกมา “เหมียวเหมี่ยว คนที่คอยคุ้มครองเจ้ายังมิพออีกหรือ?”“ข้างกายพี่ใหญ่มีองครักษ์คนนี้อยู่เพียงคนเดียว เจ้าอย่าแย่งเขาไปเลย”สีหน้าของฉินอี้ดูเหมือนคนจนใจน้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสารเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวก็มิกล้าที่จะบังคับอีก นางตอบอย่างมิพอใจว่า “ก็ได้”“รอจนกว่าท่านจะมิต้องการเขาแล้ว ค่อยให้หม่อมฉันก็แล้วกัน”“หม่อมฉันค่อนข้างชอบเขา”เกาเหมียวเหมี่ยวพูดพลางมองฟู่เฉินหวน บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้มยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคล้ายกับเฉินชีมิใช่หน้าตาที่เหมือน แต่เป็นอารมณ์เย็นชาหยิ่งผยองและความกล้าหาญที่จะปฏิเสธนางโดยมิแม้แต่จะเสียงสั่นในเมื่อยังมิสามารถทำให้เฉินชีสยบต่อนางได้ในเร็ววัน การ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1301

    “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไปทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดีฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”“เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกายน้ำแกงโสมมังกรหรือ?เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สองแต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวนฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1300

    ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างใจเย็น “องค์ชายใหญ่ใส่ใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วมุ่น มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “แน่นอน! แท้จริงแล้วเจ้ารู้อะไรกันแน่!”วันนั้นในคุกใต้ดิน เกือบจะได้ฟังคำพูดต่อจากนั้นของลั่วชิงยวนแล้วแต่กลับถูกเฉินชีขัดจังหวะเสียก่อนหลังจากกลับไป เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาอาจมิใส่ใจเรื่องราวในอดีตได้ แต่นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา! เขาจะมิใส่ใจคงมิได้!ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้ม “องค์ชายใหญ่เชื่อจริงจังเลยหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการเอาชีวิตรอด จึงพูดจาเหลวไหลไปเท่านั้น”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฉินอี้ก็ตกตะลึงไปทั้งร่างมองนางด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้าว่ากระไรนะ?!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมฉันมิอยากพูดซ้ำสอง”ฉินอี้โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ก็อดกลั้นไว้ เขาไม่มีทางต่อกรกับลั่วชิงยวนได้สุดท้ายก็ได้แต่จากไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นฉินอี้จากไป เงาร่างที่แอบฟังอยู่ก็รีบจากไปเช่นกันอาการของฉินอี้นั้นมีสาเหตุจริง แต่เรื่องนี้ยังมิอาจบอกให้ฉินอี้รู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่หากพูดออกไป ปัญหาที่นางจะต้องเผชิญจะมิใช่เพียงเรื่องรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1299

    อวี๋โหรวพยักหน้า รีบเช็ดน้ำตา “ขอบคุณ”ลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบโยนเมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสถามอวี๋โหรว “อันที่จริงข้าสงสัยเรื่องนักบวชระดับสูงคนก่อน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่านางตายอย่างไร?”อวี๋โหรวตกใจเล็กน้อยคาดเดาในใจว่าลั่วชิงยวนคงสอบถามเรื่องนี้เพราะเฉินชีเพราะว่าเฉินชีก็มีใจให้ลั่วเหลาเช่นเดียวกันนางอธิบาย “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางตายอย่างไร”“วันนั้นนางบำเพ็ญเพียรอยู่ที่หอเทียนฉี วันรุ่งขึ้นเมื่อมีคนมาพบก็เหลือเพียงโลหิตกองเต็มพื้น”“บนพื้นยังมีร่องรอยการลากศพด้วย”“แต่ส่งคนออกไปตามหาศพตั้งมากมายก็หามิพบ”“เฉินชีแทบจะพลิกทั่วทั้งวัง แทบจะคลุ้มคลั่งสังหารคนในสำนักนักบวชไปเสียสิ้น”“ยังดีที่จักรพรรดิทรงนำราชองครักษ์เกราะเหล็กมาด้วยพระองค์เอง จึงสามารถควบคุมตัวเฉินชีไว้ได้”“เรื่องการตายของนักบวชระดับสูงนั้นมีการสืบสวนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเบาะแสใด ๆ เบาะแสทั้งหมดหยุดอยู่ที่หอเทียนฉี”“นอกหอเทียนฉีไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ”“นานวันเข้า เรื่องนี้ก็เงียบหายไป”ตามคำบอกเล่าของอวี๋โหรว ลั่วชิงยวนก็หวนนึกถึงคืนนั้นหอเทียนฉีเป็นสถานที่ที่นักบวชระดับสูงจะท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status