แชร์

บทที่ 53

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-11-13 16:00:01
ยังมีอีกหลายคนที่คิดว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นผีน้ำจริง ๆ

ไป๋ถังถูกวางยาพิษจริง ๆมันไม่ใช่ยาพิษที่ทำให้เสียชีวิตได้ในทันที แต่มันทำให้คนเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด ตามมาด้วยผิวหนังที่เน่าเปื่อย เหยื่อจะตายโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก เจ้าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด ทว่ากลับต้องตายอนาถ

วิธีการของนางรับใช้ทั้งสามคนต่างกันก็จริง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ การตายของพวกนางจะดูน่าขนลุกอย่างยิ่ง และเมื่อพรุ่งนี้พบศพของพวกนางทั้งสามคนก็จะให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวว่า พวกเขาเสียชีวิตด้วยคำสาป หรือถูกวิญญาณอาฆาตพยาบาท

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางยาพิษมีจุดประสงค์มากกว่านั้น ไม่ใช่เพียงนางรับใช้สามคนนี้เท่านั้น

ตำหนักอ๋องแห่งนี้ช่างคึกคักดีเสียจริง

ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น แม่นมเติ้งก็เดินเข้ามาในห้อง

"พระชายาเจ้าคะ บ่าวลองถามพวกนางทั้งสามคนดูแล้ว พวกนางบอกว่า หลังจากถูกช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อคืนก็มิได้คิดปลิดชีพตนเอง แต่บ่าวไม่ทราบว่าเหตุไฉนเมื่อคืนถึงเกิดเรื่องร้ายพวกนั้นจนกระตุ้นให้ปลิดชีพตนเอง พวกนางจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไม่มากเท่าไหร่ นี่มันแปลกประหลาดเจ้าค่ะ”

ลั่วชิงยวนแววตาม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 54

    เมื่อคืนนางนอนดึก อาหารบาดเจ็บก็ยังไม่หายดี ทำได้แต่นอนคว่ำ นางจึงหลับไม่สนิทสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นแม่นมเติ้งกับจือเฉาจึงไม่เข้ามารบกวนนาง ปัง…ลั่วชิงยวนที่ยังนอนหลับอยู่ถูกเสียงถีบประตูปลุกให้ตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?" ทันทีที่นางลืมตาก็เห็นร่างที่ก้าวเข้ามาด้วยความโกรธแค้น สีหน้าอึมครึมและสายตาอันตรายทำให้ลั่วชิงยวนพลันสะดุ้งตกใจขึ้นมาทันที จากนั้นนางก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง "ท่านอ๋อง... เกิดเรื่องอะไรขึ้นเพคะ?" เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นสีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์เช่นเดียวกับในวันที่นางเป็นเจ้าสาว ก็ให้รู้สึกรังเกียจอยู่ในใจ สตรีผู้นี้ช่างเสแสร้งเก่งเสียจริง ๆ ! ลั่วชิงยวนไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่นางเห็นสายตารังเกียจเดียดฉันท์ของฟู่เฉินหวนซึ่งเย็นชาราวกับกริชได้อย่างเด่นชัด จากนั้นนางก็ถูกฟู่เฉินหวนลากขึ้นมาจากเตียง ลั่วชิงยวนล้มลงกับพื้นแล้วกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ฟู่เฉินหวนที่แข็งแกร่งมากกลับไม่สนใจว่านางจะเจ็บตัวเลยสักนิดแล้วเดินก้าวยาว ๆ ออกไป ลั่วชิงยวนได้แต่กัดฟันลุกขึ้นและรีบเดินตามไป แต่นางก็ไม่อาจเลี่ยงอาการปวดแปลบจากการถูกกระชากลากถูไปได้ "เยวี่ยอิงกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 55

    "ใจร้ายเกินไปแล้ว!" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเสียงเหล่านี้ นางก็ยิ้มเยาะนิด ๆ พลางมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาเย็นชา "ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอถามเป็นประโยคสุดท้าย ท่านทรงคิดจะขับไล่หม่อมฉันไปจริง ๆ ใช่หรือไม่เพคะ?" การจ้องมองที่เย็นชาของนางมีทั้งความขุ่นเคืองและการคุกคาม ฟู่เฉินหวนนึกถึงอาคมชุมนุมปีศาจในตำหนักอยู่ชั่วอึดใจ แต่หลังจากนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว อาคมชุมนุมปีศาจนี้ก็เป็นแค่เรื่องที่ลั่วชิงยวนเอ่ยขึ้นมาเท่านั้น ไม่ว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่ ร้ายกาจสักแค่ไหน ผู้ใดจะล่วงรู้กันเล่า สตรีผู้นี้มีเจตนาไม่ดี ใครจะรู้ว่า นางซ่อนกลอุบาย หรือแผนการร้ายกาจแบบไหนเอาไว้ เพื่อความสงบสุขแล้ว ควรขับไล่นางออกไปเสีย! สำหรับจวนอัครเสนาบดีแล้ว เมื่อเห็นท่าทีที่ลั่วไห่ผิงมีต่อลั่วชิงยวน เขาไม่รักใคร่บุตรสาวผู้นี้เลยสักนิด ถ้าหากเขาหย่ากับนาง ลั่วไห่ผิงก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอก เขาคิดจะเอ่ยปากพูดออกไป… ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้ส่งเสียงออกไป จู่ ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาจากท้องถนนแล้วมุ่งหน้ามาที่ประตูตำหนักอ๋อง "ตำหนักอ๋องทำลายชีวิตบุตรสาวของข้า ขอตำหนักอ๋องได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่พวกเราด้วย!" กลุ่มชาวบ้านท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 56

    ลั่วชิงยวนตะโกนขึ้นมาทันทีว่า "จือเฉา ไปกันเถอะ!" เมื่อจือเฉาได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ตอบรับพลางรีบวิ่งกลับไปในตำหนัก แทบจะพุ่งตัวไปยังเรือนหลังเล็ก ๆ ที่พวกชุนเยวี่ยและคนอื่น ๆ อาศัยอยู่ ปลุกทั้งสามคนที่ยังคงแสร้งตายให้ตื่น แล้วทั้งสามก็รีบล้างหน้าล้างตา นอกประตูยังมีกลุ่มคนกำลังร้องตะโกนอยู่ เพราะยิ่งมาก็ยิ่งมีผู้ชมดูเหตุการณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ และแรงกดดันของพวกเขาก็ชักจะมากขึ้นทุกที ๆ แล้ว ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนพลางขมวดคิ้ว ตนไม่เข้าใจว่า สตรีผู้นี้กำลังทำเรื่องบ้าบออันใดอยู่กันแน่ หากขวางนางเอาไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้จะสายเกินไปหรือไม่? องครักษ์ที่ซูโหยวเรียกมาก็ยืนอยู่ทั้งสองด้านของประตูหลัก ยังมิได้ลงมืออันใด เป้าหมายหลักของพวกเขาคือ ป้องกันมิให้เกิดอันตรายกับท่านอ๋อง! ไม่นานจือเฉาก็ออกมา แต่สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือ นางวิ่งออกมาพร้อมนางรับใช้ทั้งสามคน เป็นชุนเยวี่ย ปี้อวิ๋นและไป๋ถังจริง ๆ ซูโหยวรู้สึกตื่นตกใจ ตนเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าทั้งสามคนนี้ตายอย่างน่าอนาถ! จู่ ๆ... ก็มีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน? ฟู่เฉินหวนเองก็รู้สึกตื่นตระหนกพลางขมวดคิ้วขึ้นมาทันที "ท่านพ่อ! ท่านแม่!” ชุน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 57

    "ยังคิดจะหนีอีก!" ลั่วชิงยวนกัดฟันไล่ตามเขาไปแล้วคว้าไหล่ของหวังหมาจื้อเอาไว้ วันนี้นางถูกปรักปรำเพราะเรื่องนี้ ย่อมต้องหาตัวการที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ออกมาลงโทษให้จงได้! แต่หวังหมาจื้อผู้นี้ก็ฝีมือมิใช่ย่อยจึงคว้าข้อมือของลั่วชิงยวนแล้วบิดไพล่หลัง ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวดมากจนแทบทนม่ไหว จากนั้นก็ถูกหวังหมาจื้อเตะเข้า ลั่วชิงยวนตอบสนองอย่างว่องไว สองแขนไขว้ตรงหน้าอกสกัดกั้น แต่มีพลังไม่เพียงพอจึงถูกเตะกระเด็นออกไป นางถอยร่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างหนักอึ้งของตนเสียสมดุลจวนจะลมอยู่รอมร่อ บาดแผลบนแผ่นหลังยังไม่หายดี เกรงว่าหากล้มลงไป อาจทำให้บาดเจ้บสาหัสเจียนร่างแหลกสลาย แต่ทันใดนั้นเองวงแขนแกร่งคู่หนึ่งก็ช้อนแผ่นหลังของนางเอาไว้ จากนั้นก็ช่วยประคองให้นางลุกขึ้นทันที นางรู้สึกตกใจอยู่บ้างและเมื่อหันหน้ากลับไป นางก็เห็นฟู่เฉินหวนที่สงบนิ่งและผ่อนคลาย เขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่ลึกล้ำซับซ้อนแล้วถามว่า "เจ้าไม่รู้หรือว่าตัวเองอ้วนแค่ไหน?”ใช้วิชาตัวเบาเพื่อจับคน?! โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จะอวดดีไปทำไมกันเล่า! ตอนนี้องครักษ์จับตัวหวังหมาจื้อได้แล้วก็พาตัวกลับไปที่ตำหนักทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 58

    ในเรือนอ๋อง ฟู่เฉินหวนคิดจะกลับไปยังห้องตำรา แต่เมื่อเขาเห็นว่า ตรงประตูไม่มีผู้ใดตามเข้ามา เขาก็ยืนเอามือไพล่หลังแล้วรออยู่สักพัก แต่ก็ยังไม่เห็นผู้ใดตามเข้ามา เมื่อเห็นว่าซูโหยวจัดการให้ชุนเยวี่ยและบิดามารดาของนางได้นั่งลงแล้ว เขาก็กวักมือเรียกซูโหยวให้เข้ามาหา "ท่านอ๋อง มีเรื่องอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?" ซูโหยวรู้สึกสับสน ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแล้วมองอีกฝ่าย "ออกไปดูซิว่า ยังมีผู้ที่ยังมิได้เข้ามาหรือไม่" ซูโหยวชะงักงันไปชั่วขณะ นึกว่าท่านอ๋องกำลังเอ่ยถึงชุนเยวี่ยและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงตอบว่า "ชุนเยวี่ยกับบิดามารดาของนางเข้ามาหมดแล้ว ไม่มีผู้ใดแล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแน่นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า "ข้าสั่งให้เจ้าออกไปดูอย่างไรเล่า!" ซูโหยวตกใจมากเสียจนไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดแล้วรีบเดินออกนอกประตู เขาเห็นทั้งสามคนบนท้องถนนก็พลันเข้าใจขึ้นมาทันที เมื่อเห็นซูโหยวเดินออกมา ลั่วชิงยวนจึงหันหลังเตรียมตัวจากไป เมื่อซูโหยวเห็นเช่นนี้ เขาก็รีบไล่ตามนางไป "พระชายาขอรับ!" ลั่วชิงยวนไม่มองเขาสักนิดพลางเอ่ยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า "ท่านอ๋องรับสั่งให้ขับไล่ข้าออกจากตำหนักอ๋องแล้วมิใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 59

    "ท่านอ๋องเกือบจะทรงขับไล่พระชายาออกจากตำหนัก มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้ยังโบยพระชายาไปยี่สิบไม้เพราะแม่บ้านเมิ่ง และอาการบาดเจ็บของนางก็ยังไม่หายดี กระหม่อมไม่คิดว่า พระชายาจะเป็นคนเลวร้ายอันใด อีกทั้งพระชายายังกำชับแม่นมเติ้งให้ดูแลนางรับใช้ทั้งสามคนเป็นพิเศษด้วย เพราะเกรงว่าพวกนางจะปลิดชีพตนเอง” "เมื่อคืนก่อนที่พวกนางปลิดชีพตนเอง ก็เป็นแม่นมเติ้งที่ไปทันเวลาพอดีพ่ะย่ะค่ะ" เมื่อก่อนซูโหยวอาจจะไม่เชื่อ ทว่ายามนี้ความจริงมาประดังอยู่ตรงหน้าตนแล้ว ความคิดเห็นที่เขามีต่อพระชายาผู้นี้จึงดีขึ้นมาก เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ก็สะเทือนใจอยู่บ้าง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทนว่า "เจ้าพูดมากขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! ข้าไปดูก็ได้!" ตอนที่เขากำลังจะออกไป เซียวชูก็เดินเข้ามาอีกครั้ง "ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หลังจากไต่สวนหลิ่วจิ้นก็สารภาพออกมา กระหม่อมลองตรวจสอบโอสถที่ชุนเยวี่ยกินเข้าไปแล้ว มันเป็นโอสถที่หลิ่วจิ้นสั่งให้นางรับใช้ผู้มีหน้าที่ต้มโอสถต้มขึ้นมา สิ่งที่หวังม๋าจื้อพูดมาล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ! "แต่วันนี้ตอนที่ราษฎรมารวมกลุ่มประท้อง หลิ่วจิ้นก็หนีไปจากตำหนัก มีคนเห็นเขาหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-15
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 60

    ทั้ง ๆ ที่บอกว่ารักเขา กระทั่งรีบร้อนที่จะแต่งเข้ามาในจวนตำหนักอ๋อง! ทว่าเขากลับไม่เคยเห็นสตรีผู้นี้มีรอยยิ้มมากมายขนาดนี้ต่อหน้าเขาเลย! ช่างน่าขันที่ตนหลงเชื่อนางเข้าจริง ๆ ! เขากำขวดโอสถในมือเอาไว้แน่น ดวงตาฉายแววเยียบเย็นแล้วหันหลังเดินกลับไป จือเฉาที่กำลังเตรียมจะยกชาเข้าไปในห้อง คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นเงาร่างที่จากไป "นั่น! ท่านอ๋องนี่นา! แต่อีกฝ่ายกลับเดินจากไปด้วยฝีเท้ามั่นคงโดยไม่เหลียวหลังแม้แต่น้อย จือเฉารีบยกชามาที่ห้อง "พระชายาเจ้าคะ เมื่อสักครู่นี้ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาหา แต่กลับเดินออกไปด้วยท่าทีขุ่นเคืองเสียแล้วเจ้าค่ะ" เมื่อฟู่อวิ๋นโจวได้ยินเช่นนี้ก็ตื่นตกใจอยู่บ้างแล้วสีหน้าของเขาก็ฉายแววกังวลใจ "คงจะเห็นข้าอยู่ที่นี่เป็นแน่ เช่นนั้นข้ากลับดีกว่า ข้าเกรงว่าเสด็จพี่จะเข้าใจผิด ประเดี๋ยวข้าจะไปอธิบายให้เสด็จพี่เข้าใจเอง" ฟู่อวิ๋นโจวลุกเร็วเกินไปเสียจนกระอักกระไอแรง ๆ ลั่วชิงยวนรีบเอ่ยขึ้นมาว่า "ไม่ต้องหรอกเพคะ ไม่ว่าท่านจะอธิบายอย่างไร ท่านอ๋องก็ไม่มีสีหน้าดี ๆ ให้หม่อมฉันหรอก" "ท่านผู้นี้เชื่อเฉพาะสิ่งที่ตนเห็นเท่านั้น" ลั่วชิงยวน ฟู่อวิ๋นโจวจึงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-15
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 61

    เห็นท่าทีดื้อรั้นเช่นนี้ของพระชายา แม่นมเติ้งแนะนำนางมิได้อีกต่อไป นางทาโอสถให้อีกฝ่ายอย่างตั้งใจลั่วชิงยวนนึกถึงองค์ชายห้า อดมิได้ที่จะถามว่า “องค์ชายห้าอยู่ตำหนักอ๋องตลอดรึ?"แม่นมเติ้งตอบว่า “องค์ชายห้าถูกจับเป็นตัวประกันที่ตำหนักอ๋องเจ้าค่ะ แม้ว่าจะมีการประกาศอย่างเปิดเผยว่า พระองค์ประทับรักษาพระวรกายอยู่ในตำหนัก และได้เชิญหมอเทวดามาเพื่อพระองค์ แต่อันที่จริงแล้วเป็นการควบคุมพระองค์ เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของไทเฮา”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อย อดมิได้ที่จะหันไปมองแม่นมเติ้ง “เหตุใดเจ้าถึงรู้เรื่องพวกนี้?”แต่แม่นมเติ้งมองนางด้วยความประหลาดใจ “นี่คือสิ่งที่ทุกคนในเมืองหลวงรู้เจ้าค่ะ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่มิกล้าติฉินนินทาอย่างโจ่งแจ้งเท่านั้น”ลั่วชิงยวนดูเหลือเชื่อ ทุกคนรู้ แต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย!ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!ลั่วชิงยวนคิดอย่างรอบคอบ พยายามกลั่นสิ่งสำคัญออกมาจากความทรงจำบ้างองค์ชายห้าฟู่อวิ๋นโจว และจักรพรรดิองค์ปัจจุบันต่างเกิดมาจากไทเฮา แต่ฟู่อวิ๋นโจวมิสมบูรณ์มาแต่กำเนิด อ่อนแอและขี้โรค ทันทีที่เกิดมาก็พ่ายแพ้ในการต่อส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-15

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1192

    สติเลือนรางลงทุกขณะ ในที่สุดก็ต้านฤทธิ์ยามิไหวจึงสลบไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกได้ถึงการเข้ามาใกล้ของใครบางคนพยายามลืมตาขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแรงจนขยับร่างกายมิได้มีเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงตรงหน้าในวินาทีต่อมา มือเย็นเฉียบก็คว้าปลายคางของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นลั่วชิงยวนจึงเห็นใบหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโดยมิรู้ตัวเฉินชี!“เหตุใดจึงเป็นเจ้าอีก! เจ้ากล้ามาที่เมืองหลวงเลยหรือ!” ลั่วชิงยวนพูดอย่างอ่อนแรงเฉินชีดึงนางขึ้นจากพื้น แล้วบีบปลายคางของนาง “ฟู่เฉินหวนมิต้องการเจ้าแล้ว”“ไปกับข้าเถอะ”ลั่วชิงยวนสะบัดมือเขาออกอย่างแรง “เจ้าฝันไปเถิด!”“อาเหลา เหตุใดเจ้าจึงยังดื้อรั้นเช่นเดิม นิสัยเช่นนี้ทำให้เจ้าต้องพบเจอความยากลำบากอีกมาก” เฉินชียกยิ้มขณะจ้องมองใบหน้าของนางใบหน้าซีดเซียว อ่อนแรงราวกับจะแตกสลายได้เพียงแค่สัมผัส เขาชื่นชอบยิ่งนักทันใดนั้นลั่วชิงยวนที่มีแววตาเย็นชากัดมือที่บาดเจ็บของเขาอย่างแรงกัดจนเลือดไหลทะลักเข้ามาในปากเฉินชีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดลั่วชิงยวนฉวยโอกาสวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1191

    ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดฟู่เฉินหวนหรี่ตาจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า มิละสายตาไปแม้แต่น้อย แล้วค่อย ๆ ดื่มสุราในจอกจนหมด“ฟู่เฉินหวน ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่ง...” ลั่วชิงยวนตั้งใจจะบอกเรื่องการมีตัวตนของชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ทว่ายังพูดมิจบก็ถูกฟู่เฉินหวนขัดจังหวะ“เจ้านำเข็มทิศติดตัวมาหรือไม่”“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยทำนาย”ลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหยิบเข็มทิศในอกเสื้อออกมา“ท่านอยากจะให้ทำนายเรื่องใด?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า สายตาเย็นชานั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกประหลาด“เหตุใดท่านจึงมองหม่อมฉันเช่นนั้น?”ตอนนี้สายตาที่ฟู่เฉินหวนมองนางราวกับมองคนแปลกหน้าเฉียบคมและเย็นชาเสียงเย็นเยียบดังขึ้น “เจ้าเป็นใครกันแน่”ลั่วชิงยวนตกใจ มองเขาด้วยความมิเข้าใจ “ท่านเป็นอะไรไปเพคะ?”มองแววตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนแล้ว ลั่วชิงยวนก็พลันรู้สึกใจคอมิดี จู่ ๆ เริ่มวิงเวียน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนนางรีบกุมศีรษะ ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางมีบางอย่างผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยากลำบาก “ท่านวางยาในสุราหรือ?”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิตอบในตอนนั้นเอง ประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1190

    หากนางคาดเดามิผิด นั่นคือสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลีก่อนหน้านี้เคยบังคับให้ลั่วชิงยวนมอบให้แล้วแต่ก็ล้มเหลวบัดนี้ฟู่อวิ๋นโจวได้ขึ้นครองราชย์ ฟู่เฉินหวนก็ถูกนางควบคุม นางจะต้องให้ลั่วชิงยวนมอบเข็มทิศนั้นให้นางให้ได้!สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปลั่วฉิงกล่าวต่อ “เมื่อครู่ข้าอยู่ในห้องตำรา พบของบางอย่างที่ถูกไฟไหม้”“มีหีบใบหนึ่งอยู่ แม่กุญแจบนหีบนั้นเป็นแม่กุญแจสุริยันจันทราของแคว้นหลี”“คิดว่าคงเป็นของใช้ของหมู่เฟยของท่านอ๋องกระมัง”“หม่อมฉันช่วยท่านเปิดได้”“แลกเปลี่ยนกันดีหรือไม่?”......ล่วงเข้ายามดึก เตาไฟในห้องตำราถูกจุดขึ้น ภายในห้องอบอุ่นฟู่เฉินหวนหยิบของในหีบออกมาดูทีละชิ้น แววตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นตกตะลึง ตามมาด้วยความโกรธที่เพิ่มมากขึ้นเขากำมือแน่น เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนขึ้นมาสีหน้าสงบนิ่ง แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเดือดดาล......ในที่สุดก็มีวันฟ้าใสอีกครั้ง จักรพรรดิสูงสุดมิยอมให้พวกหลี่ว์โม่ทั้งสามคนออกไป ลั่วชิงยวนจึงคิดจะออกจากวังทุกวันบังเอิญว่าวันนี้เป็นวันที่มีแสงแดดอบอุ่นในเหมันตฤดู ลั่วชิงยวนจึงอ้างว่าจะออกไปอาบแดดและเดินเล่นไปทั่วในวัง ทำให้สา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1189

    “จะไม่มีฟู่จิ่งหานอีกต่อไปแล้วขอรับ”“คุณชายลองคิดดูเถิดขอรับว่าจะใช้นามว่าอะไรดี”ฟู่จิ่งหานตกตะลึงเมื่อได้ฟังดังนั้น เขารีบลงจากรถม้า กระโดดลงพื้นไปยืนชื่นชมทิวทัศน์หิมะอันกว้างใหญ่แล้วสูดอากาศที่หนาวเย็นแต่สดชื่นเขาหลับตาลง รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก“ดีจริง ๆ ในที่สุดก็หลุดพ้นจากกรงขังนั้นได้แล้ว”“ข้า... ไม่สิ ข้าต้องคิดแล้วว่าจะใช้นามว่าอะไรดี”พูดจบ สีหน้าของฟู่จิ่งหานก็พลันเปลี่ยนไปขณะถามว่า “เสินหลี เจ้านำเงินติดตัวออกมาด้วยหรือไม่?”เขารีบค้นตัวเสินหลีกลับพบเพียงถุงเงินใบเล็กเทออกมาดูแล้ว ปรากฏว่ามีเงินมิกี่ตำลึง“เสินหลี เจ้ามินำเงินออกมาด้วย จะปล่อยให้ข้าอดตายหรือ?”เสินหลียิ้มกว้าง “คุณชายวางใจเถิดขอรับ เสินหลีจะมิปล่อยให้คุณชายต้องหิวโหยแน่ขอรับ”ฟู่จิ่งหานมองเขาด้วยสายตาสงสัย “จริงหรือ? แต่ข้า... แต่ข้าทำอะไรมิเป็นเลย”เขาเคยชินกับการมีคนปรนนิบัติ จู่ ๆ จากจักรพรรดิกลายเป็นสามัญชน การไม่มีเงินติดตัวเลยทำให้เขารู้สึกมิสบายใจ“ข้าน้อยทำเป็นขอรับ ข้าน้อยทำได้ทุกอย่าง จะดูแลคุณชายให้ดีที่สุด!”ฟู่จิ่งหานจึงมิคิดมาก อย่างไรเสียก็ออกจากวังมาแล้วเขานั่งบนรถม้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1188

    เมื่อลั่วชิงยวนมาถึงพระตำหนักโช่วสี่ ไทเฮากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าซีดเซียวเตาไฟในห้องดับลงแล้ว ไทเฮานั่งอยู่เพียงลำพัง ดูโดดเดี่ยวอ้างว้างยิ่งนักลั่วชิงยวนสังเกตเห็นขวดยาบนโต๊ะสิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนนำมาให้จักรพรรดิสูงสุดมิคิดจะไว้ชีวิตไทเฮาแล้ว“ถึงตอนนี้แล้วก็ยังมิยอมแพ้ ยังหวังว่าเหยียนหน่ายซินจะช่วยตระกูลเหยียน มิเหมือนคนเพ้อฝันไปหน่อยหรือเพคะ”ลั่วชิงยวนนั่งลงตรงข้ามไทเฮาไทเฮามิได้โกรธแต่กลับยกยิ้มเศร้า “หากมิลองเสี่ยงดูจะยอมรับได้อย่างไร”“ครั้งนี้ข้าแพ้แล้ว”กล่าวจบ ไทเฮาก็เงยหน้าขึ้นมองลั่วชิงยวน “ก่อนตาย ข้าขอเจ้าเพียงสิ่งเดียว”“ขอหม่อมฉันหรือ? แปลกจริง” ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆไทเฮากล่าวอย่างมีเลศนัย “เจ้ารู้จักเจ๋อเฉิง ตอนที่เจ้าสังหารเจ๋อเฉิง เจ้าเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา เจ้าคงตกใจมาก”“เจ้าน่าจะเป็นคนแคว้นหลีเช่นกัน”“มิใช่ลั่วชิงยวน บุตรีของจวนอัครเสนาบดี”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองไทเฮาไทเฮากล่าวต่อ “ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ๋อเฉิงล้วนจริงแท้”“แม้ว่าจะมีเรื่องราวซับซ้อนมากมาย”“ข้ารู้ว่าข้าติดหนี้เขาตลอดชีวิต”“ข้าหวังเพียงว่า ชาติหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1187

    ไทเฮาหรี่ตาลง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถึงตอนนี้แล้วข้าจะทำสิ่งใดได้อีก ก็คงมีเพียงแต่หาทางออกให้กับชาติภพหน้าเท่านั้น”“เหยียนหน่ายซินมารายงานข้าอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ข้ายังหวังสิ่งใดได้อีก”น้ำเสียงของไทเฮาแฝงไปด้วยความสิ้นหวังฟู่เฉินหวนครุ่นคิด แล้วตอบว่า “ก็ได้”“มอบของให้กระหม่อม แล้วกระหม่อมจะให้ลั่วชิงยวนมาพบท่าน”ไทเฮาพยุงร่างตัวเองลงจากเตียงแล้วเดินไปยังมุมห้องเพื่อเปิดห้องลับฟู่เฉินหวนก้าวตามเข้าไป คบเพลิงในห้องลับถูกจุดขึ้น และส่องสว่างไปทั่วภายในห้องลับมีทรัพย์สมบัติมากมายไทเฮากล่าว “สิ่งเหล่านี้ เจ้าเอาไปได้ทั้งหมด”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีบุญได้ใช้แล้ว”ไทเฮาพาฟู่เฉินหวนไปยังมุมห้องแล้วเปิดหีบใบใหญ่ ภายในมีสิ่งของสีดำมากมายทุกชิ้นล้วนมีร่องรอยของการถูกไฟไหม้สิ่งของเหล่านั้นล้วนเป็นข้าวของในวังหลัง“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเดียวที่มิได้ถูกไฟไหม้ สิ่งใดที่ขนย้ายได้ก็ขนย้ายมาทั้งหมด”ฟู่เฉินหวนมองร่องรอยการถูกไฟไหม้ ภาพเหตุการณ์อันน่าสยดสยองปรากฏขึ้นในมโนสำนึกเปลวไฟแผดเผาผู้คนมากมาย เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนและเสียงกรีดร้องนับมิถ้วนแต่พวกนางกลับหนีออกม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1186

    แต่การกระทำของเหยียนหน่ายซินครั้งนี้นับว่าชาญฉลาด นางตรงมาแจ้งให้จักรพรรดิสูงสุดทราบเองมิต้องพูดถึงว่า เหยียนหน่ายซินมิได้ต้องการให้ตระกูลเหยียนฟื้นคืนกลับมา ต่อให้นางต้องการก็ต้องคิดถึงตัวเอง อย่าให้ตำแหน่งฮองเฮาที่เพิ่งได้มาต้องหลุดมือไป“ตัวข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปเถิด”จักรพรรดิสูงสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยหลังจากเหยียนหน่ายซินจากไป จักรพรรดิสูงสุดก็มีรับสั่ง “ไปเชิญอ๋องผู้สำเร็จราชการเข้าวัง ข้าต้องการพบเขา”ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะทำอะไร แต่ก็เห็นแววตาแห่งความเหี้ยมโหดซ่อนเร้นอยู่เมื่อฟู่เฉินหวนมาถึง ลั่วชิงยวนก็ออกจากห้องไปรออยู่ที่ลานตำหนักหิมะโปรยปรายจากท้องฟ้า ทันใดนั้น หลี่ว์โม่ที่กำลังกางร่มก็มายืนอยู่ข้างหลังนาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “องค์หญิง โปรดรักษาสุขภาพด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนหันไปมองเขามิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดทรงหาคนพวกนี้มาจากที่ใด ดูท่าว่าจะติดตามนางจริง ๆ“พวกเจ้ามิต้องตามข้ามาหรอก ข้าจะกราบทูลองค์จักรพรรดิสูงสุดเอง ดูแล้วพวกเจ้าก็มิใช่คนธรรมดา หากออกไปแล้วย่อมมีหนทางของตัวเอง”“วันนี้ก็เก็บของออกจากวังกันเถิด”แต่หลี่ว์โม่กลับพูด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1185

    “องค์หญิง กระหม่อมชื่อจินเจา เชี่ยวชาญทั้งหมากรุก การขว้างลูกดอก การขี่ม้าและการยิงธนู หากองค์หญิงอยากจะออกไปเล่นสนุก กระหม่อมก็สามารถร่วมเล่นด้วยได้พ่ะย่ะค่ะ!”ชายหนุ่มทั้งสามมีบุคลิกลักษณะแตกต่างกัน แต่ล้วนมีรูปโฉมหล่อเหลายิ่งนักหลี่ว์โม่มีท่าทางสุภาพอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่น มีกลิ่นอายของผู้แก่เรียนหลีฉีมีท่าทางรักอิสรเสรี ใบหน้าค่อนข้างเย็นชา แต่ดูแล้วก็รู้ว่ามีวรยุทธ์สูงส่งส่วนจินเจาเป็นชายหนุ่มที่ดูหยิ่งทะนง มิยึดติดในกฎเกณฑ์ลั่วชิงยวนพิจารณาดู แล้วเอ่ยด้วยความตกใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงพาพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”ที่นี่คือวังหลวง หากมิใช่ขุนนาง คนภายนอกย่อมมิอาจเข้ามาได้ยิ่งเป็นการปรากฏตัวในห้องของนางด้วยหากมิได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิสูงสุด ชายหนุ่มทั้งสามย่อมไม่มีทางที่จะทำเช่นนี้ได้“องค์หญิงทรงคาดเดาถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงส่งพวกเรามาปรนนิบัติองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”“เพียงแต่องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงกำชับว่า ให้พวกเราแต่งกายเป็นองครักษ์เวลาเข้าออกวังพ่ะย่ะค่ะ”“ต่อไปพวกเราจะเป็นทหารองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม

DMCA.com Protection Status