Share

บทที่ 536

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
ลิ่นฝูเสวี่ยมองนางอย่างสงสัย “ไม่ถูกตรงอย่างไร?”

คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่น “เจ้าพูดถูก แม่ของข้าเก่งกาจกว่าข้า! หากท่านรู้ว่าตนต้องตาย จักรอตายเช่นนี้ได้อย่างไร!”

“ต่อให้มีตัวถ่วงอย่างข้า ท่านก็ต้องพาข้าหนีแน่!”

“นอกเสียจากท่านมิยอมหนี และเป็นฝ่ายยอมตายเอง!”

นางเกือบจะลืมแล้ว แม่ของนางคือลั่งอิง ผู้เป็นอาจารย์ของนาง

เมื่อนั้นท่านอาจารย์ทรยศแคว้นหลี ถูกคนในแคว้นหลีมากมายเช่นนั้นไล่ฆ่า นางหลบมาจนได้ หากนางอยากหนี นางหาได้มีทางรอตายไม่

“หรือเพราะบิดาของท่าน นางรักบิดาของท่านจึงยอมตาย”

ลิ่นฝูเสวี่ยคาดเดา

คิ้วของลั่วชิงยวนกลับขมวดแน่น และเอ่ยไตร่ตรอง “หากเพราะรัก ยิ่งตายมิได้ ท่านแม่รักท่านพ่อ เช่นนั้นมิรักข้าหรือ? หากนางตาย ข้าในวัยเยาว์จักทำเช่นไร?”

“แต่หากนางตายเพราะลั่วไห่ผิง ก็ไม่มีทางเขียนจดหมายให้เจ้าว่านางมิเสียใจที่ตายไป สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านางเป็นฝ่ายอยากตายเอง”

“นี่มันย้อนแย้งเกินไป!“

อารมณ์ของลั่วชิงยวนหนักอึ้ง ตอนนั้นเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่? จึงทำให้ลั่วอิงยอมรอตายเช่นนั้น?

ลั่วชิงยวนมองไปทางลิ่นฝูเสวี่ย “จดหมายที่เจ้าได้รับ เป็นของปลอมหรือไม่?”

ได้ยินดังนี้ สีหน้า
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 537

    ผู้ที่บัญชาอยู่เบื้องหลัง ก็ต้องตาย!วินาทีที่นางหันร่าง รอบด้านส่งเป็นเสียงตะลึง ศีรษะใบหนึ่งกลิ้งตกลงพื้นเมื่อจากไป ลั่วชิงยวนจึงไปที่ร้านยาแม่นมกู้ปลูกต้นหญ้านานาในเรือน“แม่นมกู้ ขาของแม่นมมิสะดวก พักผ่อนเถิด” ลั่วชิงยวนขึ้นหน้าไปพยุงนางไว้แม่นมกู้ยิ้มเอ่ย “บ่าวว่างไม่เป็นเจ้าค่ะ”“ดูสิ ด้านนี้บ่าวนำมาปลูกดอกไม้ ส่วนด้านนี้ บ่าวนำมาปลูกผัก! เมื่อก่อนพ่อแม่ชอบกินผักที่บ่าวปลูกเป็นที่สุดเลย!”ลั่วชิงยวนพยุงแม่นมกู้ให้นั่งลง พร้อมเอ่ยถาม “แม่นม ท่านอยู่จวนอัครมหาเสนาบดีมาหลายปีเช่นนี้ ท่านยังจำนางรับใช้ในจวนได้หรือไม่?”นางหยิบภาพวาดออกมา ยื่นไปตรงหน้าแม่นมกู้แม่นมกู้ถือภาพวาดไตร่ตรองครู่หนึ่ง พร้อมกล่าว “เหมือนจะเป็น… ชุนอิง? ไม่สิ ชุนหว่านเสียมากกว่า”ลั่วชิงยวนรู้สักดีใจในใจ “แม่นมกู้ ท่านยังจำได้อีกหรือ? ความจำท่านช่างดีเสียจริง!”แม่นมกู้ดีใจเป็นอย่างมาก และกล่าวยิ้มแย้ม “เมื่อนั้นบ่าวเป็นผู้ซื้อนางมาด้วย ตอนนั้นนางกำลังขายตัวเพื่อหาเงินฝังศพให้พ่อ น่าสงสารเหลือเกิน”“ผู้อื่นบอกใบหน้านางอวบอิ่มเช่นนี้ ไม่มีทางเป็นลูกคนจน นางเพียงแค่หลอกเงิน แต่บ่าวรู้สึกใบหน้านางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 538

    ใบหน้าที่ผอมซูบจนบุ๋มเป็นหลุมที่ข้างแก้มทั้งสองข้าง หนังตาตกลงอย่างยับย่น รอบดวงตายังเต็มไปด้วยรอยเลือดและรอยช้ำหากจ้องมองไป จะพบกับโพลงเลือดสองรู น่าสยดสยองยิ่งเห็นได้ชัดว่านางถูกใครบางคนควักลูกกระตาออกมา“สวรรค์ น่าสลดมาก” ลิ่นฝูเสวี่ยอุทานออกมาไม่เพียงแค่นี้ บนใบหน้าและลำคอ อีกทั้งข้อแขนที่โผล่ออกมาให้เห็นของสตรีผู้นี้ ต่างเต็มไปด้วยรอยช้ำเขียวที่ไม่เท่ากันรอยเก่าแผลใหม่ เป็นร่องรอยที่นางถูกทำร้ายมาเป็นเวลานาน“คุณหนูหรือ? ท่านมาเยี่ยมบ่าวอีกแล้วหรือ?” สตรีผู้นั้นเงยหน้าและเข้าใกล้ขึ้นมาอีกเล็กน้อยลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย คุณหนู? คุณหนูคนไหนกัน?“คุณหนู รีบเข้ามานั่งเถิด”สตรีผู้นั้นต้อนรับนางเข้าไปอย่างกระตือรือร้น ลั่วชิงยวนก็มิได้ยืนนิ่งต่อ นางตามเข้าไปภายในเรือนสตรีผู้นั้นรินชาให้นางพร้อมกล่าว “คุณหนูมิต้องมาบ่อย ๆ ก็ได้เจ้าค่ะ บ่าวสบายดี”“หือ วันนี้ท่านมาคนเดียวหรือ? ทาสใบ้มิได้ตามมาปกป้องท่านหรือ?”ฟังถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนตะลึง คุณหนูที่นางหมายถึง คือลั่วเยวี่ยอิง!ลั่วเยวี่ยอิงเคยมา และยังมาบ่อยด้วย?นางจึงปลอมเสียงขึ้น ลอกเลียนการพูดจาของลั่วเยวี่ยอิง “วัน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 539

    เซี่ยหว่านมิตกใจแต่นิดว่าผู้นั้นต่างหากคือคุณหนูของนางลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดูท่านับตั้งแต่ที่นางเข้ามา เซี่ยหว่านก็รู้ว่าลั่วชิงยวนมิใช่คุณหนูนางแต่ยอมให้ความร่วมมือ เพราะอยากรู้เป้าหมายที่ลั่วชิงยวนมาที่นี่!“ลั่วชิงยวน?!” ลั่วเยวี่ยอิงส่งสายตาเยือกเย็นมา“เจ้าหาที่นี่เจอได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนส่งเสียงหึ “เจ้ายังหาที่นี่เจอ เหตุใดข้าจักหาเจอมิได้?”เซี่ยหว่านรีบพูดกับลั่วเยวี่ยอิง “นางมาถามสาเหตุการตายของนายหญิงใหญ่”ได้ยินดังนี้ โทสะของลั่วเยวี่ยอิงเอ่อล้นขึ้นในใจ นางจ้องลั่วชิงยวนอย่างขุ่นเคือง “เจ้ากำลังสืบหาสาเหตุการตายหรือ? แม่ลูกต่ำตมอย่างพวกเจ้า สมควรตายไร้ที่ฝัง!”“ทาสใบ้ จับนางเสีย!”ทาสใบ้ออกหมัดไปทางลั่วชิงยวนทันที ลั่วชิงยวนหมุนตัวหันหลบ และฟาดฝ่ามือไปที่ด้านหลังนางทั้งคู่สู้กันไปจนถึงในเรือนกว้างขวาง บัดนี้ลั่วชิงยวนอาจยังมิใช่คู่ต่อสู้ของฟู่เฉินหวน และมิใช่คู่ต่อสู้ของนักฆ่าชั้นยอด แต่กับทาสใบ้คนหนึ่ง เหลือเฟือสำหรับนาง!นึกถึงที่นางเคยเสียเปรียบในมืออีกฝ่าย ลั่วชิงยวนจึงมิได้ออมมืออีกต่อไปหลังสู้กันดุเดือด ลั่วชิงยวนกระโดดเตะไปที่หลังของทาสใบ้ที่เพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 540

    “หยวนซื่อมิได้เป็นผู้ทำนายหญิงใหญ่ตาย กลับเป็นนายหญิงใหญ่เสียมากกว่า ที่วางพิษใส่หยวนซื่อเป็นเวลานาน จนทำนางต้องตาย!”ทันทีที่ประโยคนี้ถูกพูดออกมา ร่างของลั่วชิงยวนสั่นคลอนเป็นไปได้อย่างไร!นางอาจมิรู้จักแม่ของลั่วชิงยวน แต่นางรู้จักอาจารย์เป็นอย่างดีอาจารย์จะทำร้ายผู้อื่นได้อย่างไร!“เมื่อนั้นเรื่องนี้ มิถือเป็นความลับ แม้จะถูกนายท่านปิดข่าว แต่ด้านนอกก็ยังมีคนลือกัน”“หลาย ๆ คนต่างรู้ ภรรยาและอนุหลังเรือนอัครมหาเสนาบดีสู้กันจนเสียชีวิตตาม ๆ กัน”“แต่ความจริงคือ หยวนซื่อนิสัยอ่อนโยน ยอมก้มหัวเป็นอนุอยู่ภายในจวนอัครมหาเสนาบดี ใช้ชีวิตกล้า ๆ กลัว ๆ พยายามไม่มีเรื่องกับผู้อื่น กลับเป็นนายหญิงใหญ่มากกว่าที่ใช้ตำแหน่งภรรยาเอกของตน รังแกหยวนซื่อไปไม่น้อย“รายละเอียดนั้นข้ามิรู้ แต่การตายของนายหญิงใหญ่ นางทำตัวเองทั้งนั้น!”“หลังนางตายได้ไม่นาน พิษของหยวนซื่อก็กำเริบ เชิญท่านหมอมาจึงรู้ว่านางถูกวางยาเป็นเวลานาน นายหญิงใหญ่ได้ตายไปแล้ว จึงไร้ยาถอนพิษ”“ทำได้เพียงมองหยวนซื่อตายเพราะพิษกำเริบไปต่อหน้าต่อตา!”เมื่อเซี่ยหว่านพูดถึงตรงนี้ นางควบคุมอารมณ์มิได้อีกร้องไห้โอดครวญออกมา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 541

    ลั่วชิงยวนยิ้มพลางปล่อยตัวทาสใบ้โดยมิได้กล่าวอันใด จากนั้นก็เดินออกไปจากเรือน เมื่อเห็นว่านางออกไปแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วรีบช่วยเข้าไปช่วยประคองทาสใบ้ให้ลุกขึ้น หลังจากเดินออกมาจากเรือน เสียงขิงลิ่นฝูเสวี่ยก็ดังขึ้น "ข้ามิคาดคิดเลยว่าเจ้าจะหาเงื่อนงำจากข่าวที่ข้าบอกเจ้าได้มากมายถึงเพียงนั้น" “ท่านเซียนน้อยช่างมิธรรมดาสามัญจริง ๆ” “แต่ข้ากลับไม่เชื่อหรอกว่ามารดาของท่านจะทำร้ายมารดาของลั่วเยวี่ยอิง” “ถึงแม้ว่ามารดาของท่านจะมีอุปนิสัยดื้อรั้นดันทุรัง แต่นางมิเคยรังแกผู้อ่อนแอ มิหนำซ้ำนางถึงขนาดดูแคลนการกระทบกระทั่งในเรือนเสียด้วยซ้ำไป มารดาของท่านหาใช่คนเช่นนั้นไม่” ลั่วชิงยวนยิ้ม “ข้ารู้” “หลังจากเซี่ยหว่านให้นางลั่นคำสัตย์สาบาน หลังจากคำสัตย์สาบานของนางกลายเป็นความจริง ข้าก็ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับนาง เพราะนางกำลังโกหก” เมื่อลิ่นฝูเสวี่ยได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ “แม่นถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?” “ดูเหมือนว่าคำสัตย์สาบานเช่นนี้มิอาจพูดส่ง ๆ ได้เลย” “แต่ในเมื่อท่านรู้ว่านางกำลังโกหกอยู่แท้ ๆ ไฉนท่านจึงมิเปิดโปงนางเสียเล่า?” ลั่วชิงยวนตอบว่า “เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 542

    เมื่อเว่ยอวิ๋นเสี่ยและคนอื่น ๆ เห็นลั่วอวิ๋นสี่เดินเข้ามา พวกนางก็เห็นบุรุษผู้หนึ่งตามนางมาด้วย พวกนางจึงแค่นเสียงด้วยท่าทีไม่พอใจ “ข้ามิสนใจหรอกว่าวันนี้จะเป็นงานอันใด หากมีแต่นางรำจากหอนางโลมก็แล้วไปเถิด แต่ยามนี้ถึงกับมีนักเลงด้วย” “ข้ามิลดตัวไปนั่งกับคนพรรค์นั้นหรอก” หลังจากเว่ยอวิ๋นเสี่ยพูดจบ นางก็หันหลังเดินจากไป คนอื่น ๆ เองก็ออกไปจากสวนเซียงอู๋พร้อมกับเว่ยอวิ๋นเสี่ยด้วย หลังจากลั่วชิงยวนเห็นพวกนางจากไปแล้ว สายตาของนางก็ทอดมองมายังบุรุษที่อยู่ข้างหลังลั่วอวิ๋นสี่ สวีซงหย่วน คาดไม่ถึงเลยว่า ลั่วอวิ๋นสี่ยังอยู่กับสวีซงหย่วน เขาคิดจะทำอันใดกันแน่? ยามนี้จวนมหาราชครูต่างล้มหายตายจาก เหลือเพียงฮูหยินลั่วที่เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ เขาจะได้อันใดอีกหรือ? ทว่าเขาก็ยังคิดจะหลอกลั่วอวิ๋นสี่ให้ได้ “พี่สวี อย่าไปถือสาคำพูดของพวกนางเลย ท่านหาใช่นักเลงไม่ เพียงแต่ว่าพวกนางไม่รู้ก็เท่านั้น!” ลั่วอวิ๋นสี่เองก็หันมาปลอบโยนสวีซงหย่วน สวีซงหย่วนมองลั่วอวิ๋นสี่พลางยิ้มด้วยท่าทีรักใคร่ “ข้ามิสนใจหรอกว่าผู้อื่นคิดกับว่าเช่นใด เจ้ารู้ว่าข้าเป็นคนเช่นไรก็พอแล้ว” ลั่วอวิ๋นสี่แย้มยิ้มพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 543

    หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วเยวี่ยอิงก็เดินเข้ามาพร้อมขนมจานใหม่ “คราวนี้เป็นขนมกุ้ยฮวา(1)ที่ข้าลงทุนขอร้องให้พ่อครัวแห่งเรือนเยวี่ยอิงทำขึ้นโดยเฉพาะ ทุกท่านต้องชิมให้ได้นะเจ้าคะ!” เมื่อลั่วเยวี่ยอิงพูดจบ ขนมก็ถูกจัดวางในลำธารแล้วถูกหยิบไปคนละชิ้น ๆ เมื่อถึงทีของลั่วชิงยวนก็เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย นางจึงมิได้เอื้อมมือไปหยิบ “แม่นางฝูเสวี่ย เจ้ามิชอบหรือ?” ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มพลางมองมาที่นาง เดิมทีหามีผู้ใดให้ความสนใจลั่วชิงยวนที่อยู่ ณ มุมหนึ่ง แต่เมื่อลั่วเยวี่ยอิงเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ หลาย ๆ คนจึงหันมาให้ความสนใจทันที ลั่วชิงยวนหยิบขนมกุ้ยฮวามาอังใต้มูกแล้วสูดดม จากนั้นกลิ่นโอสถจาง ๆ ก็ลอยเข้าจมูกของนาง ลั่วเยวี่ยอิงกำลังมองนางอยู่ ลั่วชิงยวนยกแขนขึ้นบดบังใบหน้าพลางขยับหน้ากาก จากนั้นก็กัดขนมกุ้ยฮวากลิ่นหอมหวานเข้าไปคำหนึ่งแล้ววางกลับไปบนจาน เมื่อเห็นนางกัดเข้าไปแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงก็รู้สึกพอใจ ในยามนี้เอง ผู้คนโดยรอบก็สังเกตเห็นฝูเสวี่ยแล้วหัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนไป “แม่นางฝูเสวี่ยผู้นี้มีความเป็นมาเช่นใดกันแน่? แม้แต่คุณหนูรองลั่วก็ถึงกับเชิญนางมาที่นี่ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นแค่นางรำจากห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 544

    ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มเยาะพลางหยิบไม้เท้าที่วางอยู่ ณ มุมหนึ่งแล้วหวดใส่นางอย่างแรง สายตาของลั่วชิงยวนวูบดับแล้วสลบไป หลังจากฟาดฝูเสวี่ยจนหมดสติแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวังเพื่อแน่ใจว่าหามีผู้ใดพบเห็น จากนั้นก็ลากฝูเสวี่ยเข้าไปท้ายเรือน นอกลานสนาม ลั่วอวิ๋นสี่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงมองดูเหตุการณ์นี้อยู่เงียบ ๆ แล้วขมวดคิ้ว ลั่วเยวี่ยอิงกำลังจะทำอันใดกัน? เจ้าคงมิสังหารคนกลางวันแสก ๆ หรอกใช่ไหม? ลั่วเยวี่ยอิงพยายามลากฝูเสวี่ยเข้ามาในห้อง จากนั้นก็เปิดหน้าต่างบนผนังห้องอีกฝั่งแล้วโบกมือออกไปข้างนอก หลังจากนั้นก็บุรุษสองคนก็กระโดดเข้ามาทีละคน ๆ ลั่วเยวี่ยอิงชี้นิ้วไปทางฝูเสวี่ยที่อยู่บนพื้น “นางอยู่ตรงนี้แล้ว ที่เหลือก็สุดแท้แต่พวกเจ้าแล้ว” บุรุษชุดดำถอดชุดคลุมสีดำตัวนอกออก เผยให้เห็นอาภรณ์ไหมที่อยู่ข้างใต้พลางกล่าวว่า “อย่าได้กังวลไปเลย” บุรุษทั้งสองคนรีบเดินเข้ามาอุ้มคนบนพื้นขึ้นเตียง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ของนาง ลั่วเยวี่ยอิงหันหลังหมายที่จะจากไป ยามที่นางเปิดประตูก็พลันตกตะลึงขึ้นมาทันที ลั่วอวิ๋นสี่อยู่ตรงประตู! นางพลั

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status