Share

บทที่ 527

Author: หว่านชิงอิ๋น
“ไม่ ข้ามิได้เป็นผู้ทำร้ายเจ้า ข้าเองก็ถูกผู้อื่นข่มขู่!”

“เจ้าไปหาฝูว่านเจิง เขาเป็นคนซื้อข้า ให้ข้าวางยาในเตาเครื่องหอมของหอสมุทรมรกต!”

“รถม้าทั้งหมดก็เป็นฝีมือของเขาหมดเลย”

“เจ้าไปหาต้นเหตุเรื่องสิ!”

อาฉินขอร้องอ้อนวอน สั่นคลอนไม่หยุดเพราะความกลัว

ลั่วชิงยวนตะลึง ฝูว่านเจิง?

พ่อของฟูจ้าว ท่านเจ้ากรมกลาโหม

ลั่วชิงยวนหัวเราะเย็น “ตำแหน่งฝูว่านเจิงใหญ่เช่นนั้น ข้าเคยไปหาเรื่องเขาเมื่อใดกัน? เหตุใดเขาต้องทำหอสมุทรมรกตถึงตายด้วย?”

“กลัวคนในหอสมุทรมรกตตาย ของทุกอย่างในนั้นถูกฝูเจิงเอาไปหมด”

ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย “หมายความว่า เขาได้ของที่เขาต้องการแล้วงั้นรึ?”

อาฉินพยักหน้า และตอบเสียงสั่น “ใช่”

ลั่วชิงยวนรู้สึกตะลึงในใจ สรุปว่าเพื่อของอะไรกัน จึงได้วางแผนสังหารชีวิตตั้งมากมายเช่นนั้นในหอสมุทรมรกต

บัดนี้เอง ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงฝีเท้า

แม้ฉินเฟิงจะมีวรยุทธ แต่เขาโดนบทลงโทษจนบาดเจ็บหนัก ขาของเขาไม่สะดวก เสียงนั้นเข้าหูของลั่วชิงยวนอย่างชัดเจน

นางมองอาฉินที่เสียสติไปแล้ว จึงรีบเอ่ยปากทันที “เจ้าสารภาพได้ชัดเจนเช่นนี้แล้ว เหตุใดมิสารภาพให้ชัดเจนกว่านี้อีกเล่า”

“เรื่องระหว่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
น้ำฝน เมืองเงิน
ปลดล๊อกก็ไม่ได้
goodnovel comment avatar
น้ำฝน เมืองเงิน
ดูโฆษณาก็ไม่ได้
goodnovel comment avatar
น้ำฝน เมืองเงิน
ทำไมอ่านไม่ได้ละ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 528

    ลั่วชิงยวนถอยหลังอย่างไม่รีบร้อน และเผยยิ้มเย็นๆ “ขอบคุณเจ้าที่ให้ความร่วมมือมากเช่นนี้”“ข้าสามารถไปรายงานให้แก่ท่านเหอแล้ว”“จวนตายอยู่แล้ว ก่อนตายมีสิ่งใดอยากพูดหรือไม่? เช่นทรัพย์สินส่วนตัว ก็ส่งออกมาให้หมดเสีย”อาฉินเป็นบ้า หน้าตาบิดเบี้ยวเพราะความโกรธเคือง พร้อมตะโกนด้วยอาการคลุ้มคลั่ง “ฝันไปเถอะ!”“เจ้าหลอกข้า! เจ้าล่อลวง มินับ! นับมิได้!”ลั่วชิงยวนมองนางนิ่ง ๆ ทีหนึ่ง “หากเจ้ายอมสารภาพดี ๆ จักลดหย่อนโทษเจ้าได้”“บัดนี้ เจ้าได้หมดคุณค่าแล้ว หลักฐานอยู่ครบ เจ้ารอตายอย่างสบายใจเถิด” ลั่วชิงยวนพูดจบ ก็หันร่างจากไปฉินเฟิงเหล่มองท่านอาฉินในห้องคุกทีหนึ่ง คิดจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง จากนั้นกัดฟันอย่างโกรธเคือง และหันร่างเดินตามลั่วชิงยวนก้าวไว“เมื่อครู่นาง มองเจ้าเป็นผู้ใดกัน?”ลั่วชิงยวนเอ่ยตอบอ่อน ๆ “ลิ่นฝูเสวี่ย”ฉินเฟิงตะลึง “เพราะงั้น ผู้ที่ช่วยข้าจริง ๆ คือลิ่นฝูเสวี่ยหรือ?”ลั่วชิงยวนชะงักฝีเท้าและมองเขาทีหนึ่ง “เจ้านี่มิฉลาดเสียจริง ถูกนางหลอกไปหลายสิบปี กระทั่งอยากไปตายแทนนาง เพื่อให้นางหลุดพ้นโทษ”“แต่เจ้าหารู้ไม่ นางคือผู้ทำให้ลิ่นฝูเสวี่ยต้องตาย”ได้ยินดังนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 529

    ฉินเฟิงฉงนและกล่าว “ข้าเพียงแค่อยากแก้แค้น ส่วนหอร่ำเมลัยจักมีหรือไม่นั้นข้ามิสน”ลั่วชิงยวนยิ้มเบาทีหนึ่ง “แก้แค้นหรือ? เจ้ายังทายมิออกเลยว่าศัตรูคือผู้ใด”ฉินเฟิงได้ยินแล้วจึงตะลึง เขากำหมัดไว้แน่น “หรือว่าเป็นตระกูลฝู”“ก็ยังมิได้โง่เช่นนั้น เพียงแค่ตอบสนองช้าไปหน่อย” ลั่วชิงยวนยักคิ้ว“ท่านอยากแก้แค้น เช่นนั้นทุกอย่างก็ต้องฟังข้า มิเช่นนั้น ข้าจักสังหารเจ้าก่อนที่ฝูจ้าวจักเจอเจ้า”“ข้ามิทำแผนเจ้าพังแน่!”ฉินเฟิงตะลึงเป็นอย่างมาก สตรีผู้นี้คือใครกันแน่ การปรากฏตัวของนาง เหมือนมาเพื่อแก้แค้นให้ลิ่นฝูเสวี่ยหรือนางเป็นศิษย์ของลิ่นฝูเสวี่ย? หรือบุตรสาว?คิดได้ดังนี้ ฉินเฟิงลุกขึ้นคุกเข่าลงข้างเดียว พูดด้วยน้ำเสียงเคารพและหนักแน่น “ข้า ฉินเฟิงขอสาบานกับฟ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตของข้าเป็นของแม่นางฝูเสวี่ย”“ข้าจักฟังคำสั่งของแม่นางฝูเสวี่ยเพียงผู้เดียว! แท้หัวหลุดออกจากบ่า หรือลุยทะเลไฟ ข้าก็มิเกี่ยง!”ลั่วชิงยวนชะงักไป และขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้คนผู้นี้ช่างรักลิ่นฝูเสวี่ยลึกล้ำเสียจริงบัดนี้ เสียงกล่าวเร่งของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “รีบตกลงสิ เหม่อกระไรของท่าน”“ผู้นี้ ถ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 530

    อู๋อิ่งที่อยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยดาบ แม้จะใส่ยาห้ามเลือดแล้ว แต่แผลสดเหล่านั้นเต็มเกลื่อนบนใบหน้า!“เจ้า!” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าพังโฉมตนเองหรือ?”อู๋อิ่งสวมใส่หน้ากากสีเงิน และเอ่ยเคารพ “เช่นนี้จึงคู่ควรกับชื่ออู๋อิ่ง”“ฉินเฟิงตายไปแล้ว อู๋อิ่งคำนับนายท่านขอรับ!”ในใจลั่วชิงยวนตะลึงเดิมทีเขาได้ใช้ชีวิตที่ไร้ซึ่งความกังวลแล้ว แต่กลับถูกหลอกลวงและหลอกใช้เป็นสิบปีเพื่อบุญคุณเพียงสิบตำลึงนั่นบัดนี้ ก็ส่งมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้ลั่วชิงยวนอีกเขาทำลายโฉม สวมใส่หน้ากาก กลายเป็นนักฆ่าที่ไร้ความรู้สึกโดนสิ้นเชิงในใจลั่วชิงยวนพร่ำขึ้นบางทีอาจจะเป็นเรื่องดีดีกว่าให้เขารับโทษแทนท่านอาฉินแล้วสิ้นชีพไป ถึงตายก็ยังไม่รู้ความจริง และไม่มีคนรู้ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำเพื่อลิ่นฝูเสวี่ยบัดนี้ อย่างน้อยลิ่นฝูเสวี่ยก็เห็นในสายตา รู้ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำ“ลุกขึ้นเถอะ”ลั่วชิงยวนให้เขาเข้าห้อง ปิดประตูห้องลงและเอ่ยถาม “เจ้าเจอคนของเจ้าหรือยัง? ลองใจแล้วหรือไม่? เชื่อได้หรือไม่?”อู๋อิ่งพยักหน้า “เชื่อได้หมดขอรับ! พวกเขามิรู้ว่าข้าอยู่ใต้บัญชาท่าน ต่อให

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 531

    “เช่นนั้นท่านอ๋องเหมาหอฝูเสวี่ยครึ่งเดือน เพราะอยากได้สิ่งใดกัน?”เสียงของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น “ให้ครึ่งเดือนนี้ของเจ้า ปรนนิบัติเพียงข้าคนเดียว!”ลั่วชิงยวนยิ้มเบาทีหนึ่ง “ได้สิ หากท่านอ๋องทรงมีกำลังเช่นนั้น ก็เสด็จมาทุกวันเถิดเพคะ”“หม่อมฉันอยากให้เสด็จมาเสียเหลือเกิน”นางกัดฟันพูดเสียงเข้มมุมปากของฟู่เฉินหวนกลับเผยเป็นรอยยิ้ม “ได้ เช่นนั้นก็รำเทพเหมันต์ก่อนเลย”บัดนี้ เสียงครึม ๆ ของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “ท่านเซียนน้อย การจู๋จี๋ระหว่างสามีภรรยา ข้ามิเล่นด้วยล่ะ ท่านรำเองเถิด”พูดจบ ลิ่นฝูเสวี่ยจึงแอบออกจากห้องไปลั่วชิงยวนลุกขึ้น เดินไปกลางห้อง และเริ่มร่ายรำเทพเหมันต์แต่ฟู่เฉินหวนมองท่วงท่าร่ายรำ ที่แม้จะมิผิด แต่กลับมิมีกลิ่นอายเสน่ห์หา กระทั่งสายตายังมิเหมือนกันแต่นิด เมื่อร่ายรำต่อหน้าเขา นางมิใส่ใจเช่นนี้เลยหรือ!ฟู่เฉินหวนคิดถึงรำเทพเหมันต์ที่นางร่ายรำบนเวที เมื่อเทียบกับนางในตอนนี้ ตอนนั้นนางกำลังยั่วยวนอยู่เห็น ๆ มิใช่หรือ!มือที่ถือจอกเหล้าของเขา บีบแรงอย่างมิรู้ตัวและแล้วจอกเหล้าก็แตก เศษแก้วบาดฝ่ามือของเขา“นี่คือรำเทพเหมันต์หรือ!” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 532

    ลั่วเยวี่ยอิง!ลั่วเยวี่ยอิงมาได้อย่างไรกันลั่วชิงยวนกำลังคิด ฟู่เฉินหวนกลับลุกพรวดออกไปในทันที นางฟุบล้มบนพื้นอย่างหมดแรง มิได้ตามออกไปได้ยินเพียงเสียงที่ฟู่เฉินหวนไล่บุรุษหนุ่มเหล่านั้นออกจากนั้นพาลั่วเยวี่ยอิงจากไปในที่สุดก็ไปเสียทีแต่ในใจของลั่วชิงยวน กลับยิ่งรู้สึกอึดอัด ในใจราวกับมีไฟกำลังแผดเผา เผาจนนางรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญใจเวลานี้แม่เล้าเฉินเดินมาพอดี นางมองไปรอบ ๆ มิเห็นฟู่เฉินหวน จึงรีบขึ้นหน้าไปพยุงลั่วชิงยวนขึ้น “เกิดกระไรขึ้นเจ้าคะ”“ท่านอ๋องเล่า?”ลั่วชิงยวนนวดแขนที่ปวดเมื่อย พร้อมเอ่ยตอบ “ถามถึงท่านหาปะไร มีเรื่องหรือ?”แม่เล้าเฉินพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจแผ่วเบา “มิรู้เหตุไฉนคุณชายฝูเองก็มาเช่นกันเจ้าค่ะ!”“เขาบอกว่าอยากเจอท่าน”“แต่ท่านอ๋องสำเร็จราชการเหมาหอฝูเสวี่ยเราเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว มิรู้ว่าท่านอ๋องถือสาที่ท่านไปเจอคุณชายฝูหรือไม่”ได้ยินดังนี้ แววตาของลั่วชิงยวนเยือกเย็นลง “ท่านอ๋องเสด็จกลับไปแล้ว เจ้าพาคุณชายฝูเข้ามาเถิด”แม่เล้าเฉินได้ยินจึงพยักหน้า “เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าไปเชิญคุณชายฝูเข้ามา”ไม่นานนัก แม่เล้าจึงพาคุณชายฝูมา ลั่วชิงยวนทนความไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 533

    ไม่นานนักลิ่นฝูเสวี่ยก็ร่ายรำขึ้นมา ลั่วชิงยวนรู้สึกตัวชัดเจนมากว่าตนเองกำลังทำสิ่งใด รู้แม้กระทั่งทุกท่วงท่าแม้ลิ่นฝูเสวี่ยจะเป็นผู้ควบคุมร่างกาย แต่ลั่วชิงยวนก็ต้องออกแรง เพียงแต่มิเหนื่อยเท่าเมื่อตนเองรำเองฝูจ้าวมองอย่างดื่มด่ำแต่แล้วไม้มีผู้ใดรู้ว่า บัดนี้ ฟู่เฉินหวนอยู่ที่หน้าประตู!เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นลั่วชิงยวนที่กำลังร่ายรำให้ฝูจ้าวในห้อง เลือดในร่างเขาราวกับไหลย้อน โทสะแผดเผาขึ้นมาทันขวัญเมื่อครู่เขาให้นางร่ายไปเจ็ดแปดรอบ ก็มิได้รำเทพเหมันต์เช่นนี้ต่อหน้าเขารำออกมามิได้ แต่ต่อหน้าบุรุษอื่นแล้วได้งั้นหรือ?ฟู่เฉินหวนกำมือแน่นเขาก้าวเท้าเดินเข้าห้อง น้ำเสียงเยือกเย็นเต็มไปด้วยไอสังหาร “คุณชายฝูช่างมีอารมณ์สุนทรีย์เสียจริง”ฝูจ้าวกำลังหลงใหลในท่วงท่าร่ายรำอันงดงาม เมื่อได้ยินเสียงเขาเพิ่งได้สติ “ที่แท้ก็ท่านอ๋องสำเร็จราชการนี่เอง”ฝูจ้าวลุกขึ้นคำนับเล็กน้อยฟู่เฉินหวนมองกับแกล้มบนโต๊ะที่ยังไม่ได้เก็บลงไป เสียงของเขาเย็นยะเยือก “คุณชายฝูรู้หรือไม่ มีศัพท์ที่ชื่อว่าลำดับน่ะ”ได้ยินดังนี้ สีหน้าของฝูจ้าวย่ำแย่ “ท่านอ๋องทรงหมายถึง…”ฟู่เฉินหวนพูดขัดเสียงนิ่ง “ข้าเหม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 534

    “ปล่อยหม่อมฉัน!” ความรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเพราะถูกดูหมิ่นนั้นโหมเข้ามา ทำลั่วชิงยวนโมโหถึงขีดสุด นางง้างมือและฟาดออกไปอย่างแรงฟู่เฉินหวนเอนร่างหลบ ถอยหลังเว้นระยะห่างกับนางเล็กน้อยลั่วชิงยวนลงมือสู้กับเขาทันที ท่าทีของนางดุดัน บนร่างเต็มไปด้วยไอสังหารไอบนร่างของฟู่เฉินฟวนก็คมคายมิแพ้กัน ทั้งคู่แลกมือกันอย่างดุเดือด แต่ความเร็วและกำลังของฟู่เฉินหวนต่างอยู่เหนือลั่วชิงยวน มินานนัก ลั่วชิงยวนก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบฟู่เฉินหวนกลับไม่ทันรั้งมือ กระแทกฝ่ามือไปที่หน้าอกของลั่วชิงยวน บนอกของลั่วชิงยวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นางเอนกายไปเบื้องหลังสีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปฉับพลัน เขารีบพุ่งตัวขึ้นไปรั้งเอวนางไว้ ลั่วชิงยวนจึงมิล้มลงพื้นแต่นัยน์ตาลั่วชิงยวนฉายแววเหี้ยม นางกระโดดขึ้นหวังจะล็อกคอเขาวินาทีที่ไอสังหารจู่โจม คิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุก เขาจับข้อของลั่วชิงยวน ออกแรงทั้งคู่จึงกลิ้งลงบนพื้น หลังสู้ฟันไปสักพัก ฟู่เฉินหวนจึงจับสองมือของลั่วชิงยวนไว้ได้ และกดไว้บนพื้นอย่างแรงลั่วชิงยวนหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย มองดูใบหน้าที่แสนใกล้ใบหน้าที่ไม่รู้ว่าเคยทำนางใจสั่นตอนไหนใบหน้าที่เคยท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 535

    “ท่านอ๋อง มือของท่าน?” ลั่วเยวี่ยอิงเห็นมือที่ได้รับบาดเจ็บของท่านอ๋อง จึงรีบจับขึ้นมา และรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากลั่วชิงยวนเก็บชุดบนพื้นขึ้นอย่างเชื่องช้า มองมือของฟู่เฉินหวนทีหนึ่ง พร้อมยิ้มกล่าว “ขอประทานอภัยเพคะท่านอ๋อง ก็ท่านทำหม่อมฉันเจ็บ”“หม่อมฉันมียารักษาชั้นดี ประเดี๋ยวหม่อมฉันทายาให้ท่านนะเพคะ”ฟู่เฉินหวนหรี่ตามองสตรีตรงหน้า น้ำเสียงชวนคิดนี้ นางตั้งใจเห็น ๆ เปลี่ยนท่าทีเร็วเชียว!อย่างที่คิด หลังลั่วเยวี่ยอิงได้ยิน สีหน้าย่ำแย่มากยิ่งขึ้นลั่วเยวี่ยอิงกัดริมฝีปากล่างไว้ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมามิถูกเวลาแล้ว หม่อมฉันขอออกไปก่อนเพคะ”ฟู่เฉินหวนจับแขนของนางไว้โดยสัญชาตญาณ “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ทำกระไรทั้งนั้น”เห็นฟู่เฉินหวนรีบอธิบายเช่นนี้ ลั่วชิงยวนหัวเราะเบาทีหนึ่ง นางคลุมเสื้อกลับไป และมองไปที่ฟู่เฉินหวนอย่างมีความนัย“ใช่ มิได้ทำสิ่งใดทั้งนั้น เพราะที่ควรทำนั้นทำหมดแล้ว”พูดจบนางก็มองไปทางลั่วเยวี่ยอิงด้วยสายตาลึกซึ้ง “ครั้งที่แล้วคุณหนูรองบอกเองมิใช่หรือ หากท่านอ๋องชอบข้า ท่านก็ยอมรับข้าได้”“บัดนี้มาโกรธให้ผู้ใดดูกัน”“หนำซ้ำยังแต่งกายบุรุษมาอีก หรือท่านมา

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status