แชร์

บทที่ 526

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“ว่ากระไรนะ?” สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปฉับพลัน นางพยายามข่มเสียงตะลึงให้ต่ำลง แต่ก็ทำท่านอาฉินในห้องขังตื่นอยู่ดี

เห็นท่านอาฉินพลิกตัว ลั่วชิงยวนจึงรีบจากไปในทันที

นางถามลิ่นฝูเสวี่ยเสียงต่ำ “เจ้าพูดจริงรึ? มิได้มองผิดไปใช่หรือไม่? นั่นไม่ใช่ถุงหอมรึ?”

“ข้าใช้ถุงหอมใส่เงินแล้วมันแปลกอย่างไรกัน? แค่วิธีที่นางโลมมักใช้ เครื่องหอมที่ทุกคนใช้ต่างไม่เหมือนกัน สิ่งนี้มีไว้เพื่อให้อีกฝ่ายจดจำเราได้ดียิ่งขึ้น”

ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนยันกำแพงไว้อย่างอดไม่ได้ คิ้วของนางขมวดแน่น “เช่นนั้นเงินของฉินเฟิง เจ้าเป็นคนให้เขาหรือ? เจ้าช่วยเขาเอาไว้รึ?”

ลิ่นฝูเสวี่ยไตร่ตรอง “ข้าจำได้ราง ๆ ว่าเป็นเช่นนี้ แต่ข้าจำได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะคนที่ข้าเคยช่วยไว้เยอะจะตายชัก”

ลั่วชิงยวนตะลึง “หากเป็นเช่นนี้ อาฉินปลอมอ้างตัวตนของเจ้าหลอกใช้ฉินเฟิงหรือ?”

“เจ้านี่นะ หว่านเสน่ห์ไว้ทั่ว!”

คิดถึงคุณลุงร้านจัดงานศพที่ยังลืมลิ่นฝูเสวี่ยมิได้

ลิ่นฝูเสวี่ยหัวเราะเบาทีหนึ่ง “แสดงให้เห็นได้เพียงเสน่ห์ของข้ามากล้น ชั่วชีวิตนี้ของข้ารักเพียงการร่ายรำ มิสนใจนุรุษใดแม้แต่นิด”

“หากมิใช่เพราะไม่มีที่แสดงความสามารถของข้า ข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 527

    “ไม่ ข้ามิได้เป็นผู้ทำร้ายเจ้า ข้าเองก็ถูกผู้อื่นข่มขู่!”“เจ้าไปหาฝูว่านเจิง เขาเป็นคนซื้อข้า ให้ข้าวางยาในเตาเครื่องหอมของหอสมุทรมรกต!”“รถม้าทั้งหมดก็เป็นฝีมือของเขาหมดเลย”“เจ้าไปหาต้นเหตุเรื่องสิ!”อาฉินขอร้องอ้อนวอน สั่นคลอนไม่หยุดเพราะความกลัวลั่วชิงยวนตะลึง ฝูว่านเจิง?พ่อของฟูจ้าว ท่านเจ้ากรมกลาโหมลั่วชิงยวนหัวเราะเย็น “ตำแหน่งฝูว่านเจิงใหญ่เช่นนั้น ข้าเคยไปหาเรื่องเขาเมื่อใดกัน? เหตุใดเขาต้องทำหอสมุทรมรกตถึงตายด้วย?”“กลัวคนในหอสมุทรมรกตตาย ของทุกอย่างในนั้นถูกฝูเจิงเอาไปหมด”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย “หมายความว่า เขาได้ของที่เขาต้องการแล้วงั้นรึ?”อาฉินพยักหน้า และตอบเสียงสั่น “ใช่”ลั่วชิงยวนรู้สึกตะลึงในใจ สรุปว่าเพื่อของอะไรกัน จึงได้วางแผนสังหารชีวิตตั้งมากมายเช่นนั้นในหอสมุทรมรกตบัดนี้เอง ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงฝีเท้าแม้ฉินเฟิงจะมีวรยุทธ แต่เขาโดนบทลงโทษจนบาดเจ็บหนัก ขาของเขาไม่สะดวก เสียงนั้นเข้าหูของลั่วชิงยวนอย่างชัดเจนนางมองอาฉินที่เสียสติไปแล้ว จึงรีบเอ่ยปากทันที “เจ้าสารภาพได้ชัดเจนเช่นนี้แล้ว เหตุใดมิสารภาพให้ชัดเจนกว่านี้อีกเล่า”“เรื่องระหว่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 528

    ลั่วชิงยวนถอยหลังอย่างไม่รีบร้อน และเผยยิ้มเย็นๆ “ขอบคุณเจ้าที่ให้ความร่วมมือมากเช่นนี้”“ข้าสามารถไปรายงานให้แก่ท่านเหอแล้ว”“จวนตายอยู่แล้ว ก่อนตายมีสิ่งใดอยากพูดหรือไม่? เช่นทรัพย์สินส่วนตัว ก็ส่งออกมาให้หมดเสีย”อาฉินเป็นบ้า หน้าตาบิดเบี้ยวเพราะความโกรธเคือง พร้อมตะโกนด้วยอาการคลุ้มคลั่ง “ฝันไปเถอะ!”“เจ้าหลอกข้า! เจ้าล่อลวง มินับ! นับมิได้!”ลั่วชิงยวนมองนางนิ่ง ๆ ทีหนึ่ง “หากเจ้ายอมสารภาพดี ๆ จักลดหย่อนโทษเจ้าได้”“บัดนี้ เจ้าได้หมดคุณค่าแล้ว หลักฐานอยู่ครบ เจ้ารอตายอย่างสบายใจเถิด” ลั่วชิงยวนพูดจบ ก็หันร่างจากไปฉินเฟิงเหล่มองท่านอาฉินในห้องคุกทีหนึ่ง คิดจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง จากนั้นกัดฟันอย่างโกรธเคือง และหันร่างเดินตามลั่วชิงยวนก้าวไว“เมื่อครู่นาง มองเจ้าเป็นผู้ใดกัน?”ลั่วชิงยวนเอ่ยตอบอ่อน ๆ “ลิ่นฝูเสวี่ย”ฉินเฟิงตะลึง “เพราะงั้น ผู้ที่ช่วยข้าจริง ๆ คือลิ่นฝูเสวี่ยหรือ?”ลั่วชิงยวนชะงักฝีเท้าและมองเขาทีหนึ่ง “เจ้านี่มิฉลาดเสียจริง ถูกนางหลอกไปหลายสิบปี กระทั่งอยากไปตายแทนนาง เพื่อให้นางหลุดพ้นโทษ”“แต่เจ้าหารู้ไม่ นางคือผู้ทำให้ลิ่นฝูเสวี่ยต้องตาย”ได้ยินดังนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 529

    ฉินเฟิงฉงนและกล่าว “ข้าเพียงแค่อยากแก้แค้น ส่วนหอร่ำเมลัยจักมีหรือไม่นั้นข้ามิสน”ลั่วชิงยวนยิ้มเบาทีหนึ่ง “แก้แค้นหรือ? เจ้ายังทายมิออกเลยว่าศัตรูคือผู้ใด”ฉินเฟิงได้ยินแล้วจึงตะลึง เขากำหมัดไว้แน่น “หรือว่าเป็นตระกูลฝู”“ก็ยังมิได้โง่เช่นนั้น เพียงแค่ตอบสนองช้าไปหน่อย” ลั่วชิงยวนยักคิ้ว“ท่านอยากแก้แค้น เช่นนั้นทุกอย่างก็ต้องฟังข้า มิเช่นนั้น ข้าจักสังหารเจ้าก่อนที่ฝูจ้าวจักเจอเจ้า”“ข้ามิทำแผนเจ้าพังแน่!”ฉินเฟิงตะลึงเป็นอย่างมาก สตรีผู้นี้คือใครกันแน่ การปรากฏตัวของนาง เหมือนมาเพื่อแก้แค้นให้ลิ่นฝูเสวี่ยหรือนางเป็นศิษย์ของลิ่นฝูเสวี่ย? หรือบุตรสาว?คิดได้ดังนี้ ฉินเฟิงลุกขึ้นคุกเข่าลงข้างเดียว พูดด้วยน้ำเสียงเคารพและหนักแน่น “ข้า ฉินเฟิงขอสาบานกับฟ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตของข้าเป็นของแม่นางฝูเสวี่ย”“ข้าจักฟังคำสั่งของแม่นางฝูเสวี่ยเพียงผู้เดียว! แท้หัวหลุดออกจากบ่า หรือลุยทะเลไฟ ข้าก็มิเกี่ยง!”ลั่วชิงยวนชะงักไป และขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้คนผู้นี้ช่างรักลิ่นฝูเสวี่ยลึกล้ำเสียจริงบัดนี้ เสียงกล่าวเร่งของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “รีบตกลงสิ เหม่อกระไรของท่าน”“ผู้นี้ ถ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 530

    อู๋อิ่งที่อยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยดาบ แม้จะใส่ยาห้ามเลือดแล้ว แต่แผลสดเหล่านั้นเต็มเกลื่อนบนใบหน้า!“เจ้า!” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าพังโฉมตนเองหรือ?”อู๋อิ่งสวมใส่หน้ากากสีเงิน และเอ่ยเคารพ “เช่นนี้จึงคู่ควรกับชื่ออู๋อิ่ง”“ฉินเฟิงตายไปแล้ว อู๋อิ่งคำนับนายท่านขอรับ!”ในใจลั่วชิงยวนตะลึงเดิมทีเขาได้ใช้ชีวิตที่ไร้ซึ่งความกังวลแล้ว แต่กลับถูกหลอกลวงและหลอกใช้เป็นสิบปีเพื่อบุญคุณเพียงสิบตำลึงนั่นบัดนี้ ก็ส่งมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้ลั่วชิงยวนอีกเขาทำลายโฉม สวมใส่หน้ากาก กลายเป็นนักฆ่าที่ไร้ความรู้สึกโดนสิ้นเชิงในใจลั่วชิงยวนพร่ำขึ้นบางทีอาจจะเป็นเรื่องดีดีกว่าให้เขารับโทษแทนท่านอาฉินแล้วสิ้นชีพไป ถึงตายก็ยังไม่รู้ความจริง และไม่มีคนรู้ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำเพื่อลิ่นฝูเสวี่ยบัดนี้ อย่างน้อยลิ่นฝูเสวี่ยก็เห็นในสายตา รู้ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำ“ลุกขึ้นเถอะ”ลั่วชิงยวนให้เขาเข้าห้อง ปิดประตูห้องลงและเอ่ยถาม “เจ้าเจอคนของเจ้าหรือยัง? ลองใจแล้วหรือไม่? เชื่อได้หรือไม่?”อู๋อิ่งพยักหน้า “เชื่อได้หมดขอรับ! พวกเขามิรู้ว่าข้าอยู่ใต้บัญชาท่าน ต่อให

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 531

    “เช่นนั้นท่านอ๋องเหมาหอฝูเสวี่ยครึ่งเดือน เพราะอยากได้สิ่งใดกัน?”เสียงของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น “ให้ครึ่งเดือนนี้ของเจ้า ปรนนิบัติเพียงข้าคนเดียว!”ลั่วชิงยวนยิ้มเบาทีหนึ่ง “ได้สิ หากท่านอ๋องทรงมีกำลังเช่นนั้น ก็เสด็จมาทุกวันเถิดเพคะ”“หม่อมฉันอยากให้เสด็จมาเสียเหลือเกิน”นางกัดฟันพูดเสียงเข้มมุมปากของฟู่เฉินหวนกลับเผยเป็นรอยยิ้ม “ได้ เช่นนั้นก็รำเทพเหมันต์ก่อนเลย”บัดนี้ เสียงครึม ๆ ของลิ่นฝูเสวี่ยดังขึ้น “ท่านเซียนน้อย การจู๋จี๋ระหว่างสามีภรรยา ข้ามิเล่นด้วยล่ะ ท่านรำเองเถิด”พูดจบ ลิ่นฝูเสวี่ยจึงแอบออกจากห้องไปลั่วชิงยวนลุกขึ้น เดินไปกลางห้อง และเริ่มร่ายรำเทพเหมันต์แต่ฟู่เฉินหวนมองท่วงท่าร่ายรำ ที่แม้จะมิผิด แต่กลับมิมีกลิ่นอายเสน่ห์หา กระทั่งสายตายังมิเหมือนกันแต่นิด เมื่อร่ายรำต่อหน้าเขา นางมิใส่ใจเช่นนี้เลยหรือ!ฟู่เฉินหวนคิดถึงรำเทพเหมันต์ที่นางร่ายรำบนเวที เมื่อเทียบกับนางในตอนนี้ ตอนนั้นนางกำลังยั่วยวนอยู่เห็น ๆ มิใช่หรือ!มือที่ถือจอกเหล้าของเขา บีบแรงอย่างมิรู้ตัวและแล้วจอกเหล้าก็แตก เศษแก้วบาดฝ่ามือของเขา“นี่คือรำเทพเหมันต์หรือ!” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 532

    ลั่วเยวี่ยอิง!ลั่วเยวี่ยอิงมาได้อย่างไรกันลั่วชิงยวนกำลังคิด ฟู่เฉินหวนกลับลุกพรวดออกไปในทันที นางฟุบล้มบนพื้นอย่างหมดแรง มิได้ตามออกไปได้ยินเพียงเสียงที่ฟู่เฉินหวนไล่บุรุษหนุ่มเหล่านั้นออกจากนั้นพาลั่วเยวี่ยอิงจากไปในที่สุดก็ไปเสียทีแต่ในใจของลั่วชิงยวน กลับยิ่งรู้สึกอึดอัด ในใจราวกับมีไฟกำลังแผดเผา เผาจนนางรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญใจเวลานี้แม่เล้าเฉินเดินมาพอดี นางมองไปรอบ ๆ มิเห็นฟู่เฉินหวน จึงรีบขึ้นหน้าไปพยุงลั่วชิงยวนขึ้น “เกิดกระไรขึ้นเจ้าคะ”“ท่านอ๋องเล่า?”ลั่วชิงยวนนวดแขนที่ปวดเมื่อย พร้อมเอ่ยตอบ “ถามถึงท่านหาปะไร มีเรื่องหรือ?”แม่เล้าเฉินพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจแผ่วเบา “มิรู้เหตุไฉนคุณชายฝูเองก็มาเช่นกันเจ้าค่ะ!”“เขาบอกว่าอยากเจอท่าน”“แต่ท่านอ๋องสำเร็จราชการเหมาหอฝูเสวี่ยเราเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว มิรู้ว่าท่านอ๋องถือสาที่ท่านไปเจอคุณชายฝูหรือไม่”ได้ยินดังนี้ แววตาของลั่วชิงยวนเยือกเย็นลง “ท่านอ๋องเสด็จกลับไปแล้ว เจ้าพาคุณชายฝูเข้ามาเถิด”แม่เล้าเฉินได้ยินจึงพยักหน้า “เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าไปเชิญคุณชายฝูเข้ามา”ไม่นานนัก แม่เล้าจึงพาคุณชายฝูมา ลั่วชิงยวนทนความไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 533

    ไม่นานนักลิ่นฝูเสวี่ยก็ร่ายรำขึ้นมา ลั่วชิงยวนรู้สึกตัวชัดเจนมากว่าตนเองกำลังทำสิ่งใด รู้แม้กระทั่งทุกท่วงท่าแม้ลิ่นฝูเสวี่ยจะเป็นผู้ควบคุมร่างกาย แต่ลั่วชิงยวนก็ต้องออกแรง เพียงแต่มิเหนื่อยเท่าเมื่อตนเองรำเองฝูจ้าวมองอย่างดื่มด่ำแต่แล้วไม้มีผู้ใดรู้ว่า บัดนี้ ฟู่เฉินหวนอยู่ที่หน้าประตู!เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นลั่วชิงยวนที่กำลังร่ายรำให้ฝูจ้าวในห้อง เลือดในร่างเขาราวกับไหลย้อน โทสะแผดเผาขึ้นมาทันขวัญเมื่อครู่เขาให้นางร่ายไปเจ็ดแปดรอบ ก็มิได้รำเทพเหมันต์เช่นนี้ต่อหน้าเขารำออกมามิได้ แต่ต่อหน้าบุรุษอื่นแล้วได้งั้นหรือ?ฟู่เฉินหวนกำมือแน่นเขาก้าวเท้าเดินเข้าห้อง น้ำเสียงเยือกเย็นเต็มไปด้วยไอสังหาร “คุณชายฝูช่างมีอารมณ์สุนทรีย์เสียจริง”ฝูจ้าวกำลังหลงใหลในท่วงท่าร่ายรำอันงดงาม เมื่อได้ยินเสียงเขาเพิ่งได้สติ “ที่แท้ก็ท่านอ๋องสำเร็จราชการนี่เอง”ฝูจ้าวลุกขึ้นคำนับเล็กน้อยฟู่เฉินหวนมองกับแกล้มบนโต๊ะที่ยังไม่ได้เก็บลงไป เสียงของเขาเย็นยะเยือก “คุณชายฝูรู้หรือไม่ มีศัพท์ที่ชื่อว่าลำดับน่ะ”ได้ยินดังนี้ สีหน้าของฝูจ้าวย่ำแย่ “ท่านอ๋องทรงหมายถึง…”ฟู่เฉินหวนพูดขัดเสียงนิ่ง “ข้าเหม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 534

    “ปล่อยหม่อมฉัน!” ความรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเพราะถูกดูหมิ่นนั้นโหมเข้ามา ทำลั่วชิงยวนโมโหถึงขีดสุด นางง้างมือและฟาดออกไปอย่างแรงฟู่เฉินหวนเอนร่างหลบ ถอยหลังเว้นระยะห่างกับนางเล็กน้อยลั่วชิงยวนลงมือสู้กับเขาทันที ท่าทีของนางดุดัน บนร่างเต็มไปด้วยไอสังหารไอบนร่างของฟู่เฉินฟวนก็คมคายมิแพ้กัน ทั้งคู่แลกมือกันอย่างดุเดือด แต่ความเร็วและกำลังของฟู่เฉินหวนต่างอยู่เหนือลั่วชิงยวน มินานนัก ลั่วชิงยวนก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบฟู่เฉินหวนกลับไม่ทันรั้งมือ กระแทกฝ่ามือไปที่หน้าอกของลั่วชิงยวน บนอกของลั่วชิงยวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นางเอนกายไปเบื้องหลังสีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปฉับพลัน เขารีบพุ่งตัวขึ้นไปรั้งเอวนางไว้ ลั่วชิงยวนจึงมิล้มลงพื้นแต่นัยน์ตาลั่วชิงยวนฉายแววเหี้ยม นางกระโดดขึ้นหวังจะล็อกคอเขาวินาทีที่ไอสังหารจู่โจม คิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุก เขาจับข้อของลั่วชิงยวน ออกแรงทั้งคู่จึงกลิ้งลงบนพื้น หลังสู้ฟันไปสักพัก ฟู่เฉินหวนจึงจับสองมือของลั่วชิงยวนไว้ได้ และกดไว้บนพื้นอย่างแรงลั่วชิงยวนหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย มองดูใบหน้าที่แสนใกล้ใบหน้าที่ไม่รู้ว่าเคยทำนางใจสั่นตอนไหนใบหน้าที่เคยท

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1302

    เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปในทันที“กระหม่อมเป็นองครักษ์ข้างกายองค์ชายใหญ่ โปรดอภัยให้กระหม่อมที่มิสามารถทำตามพระบัญชาได้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงผู้นี้ชอบเฉินชี หากเขาติดตามองค์หญิงไปก็คงจะได้พบกับเฉินชีเป็นแน่ มิหนำซ้ำ เกาเหมียวเหมี่ยวก็ช่วยเขาฆ่าเฉินชีมิได้เมื่อถูกเขาปฏิเสธอีกครั้ง สีหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวจึงดูมิดีนักฉินอี้จึงต้องก้าวออกมา “เหมียวเหมี่ยว คนที่คอยคุ้มครองเจ้ายังมิพออีกหรือ?”“ข้างกายพี่ใหญ่มีองครักษ์คนนี้อยู่เพียงคนเดียว เจ้าอย่าแย่งเขาไปเลย”สีหน้าของฉินอี้ดูเหมือนคนจนใจน้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสารเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวก็มิกล้าที่จะบังคับอีก นางตอบอย่างมิพอใจว่า “ก็ได้”“รอจนกว่าท่านจะมิต้องการเขาแล้ว ค่อยให้หม่อมฉันก็แล้วกัน”“หม่อมฉันค่อนข้างชอบเขา”เกาเหมียวเหมี่ยวพูดพลางมองฟู่เฉินหวน บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้มยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคล้ายกับเฉินชีมิใช่หน้าตาที่เหมือน แต่เป็นอารมณ์เย็นชาหยิ่งผยองและความกล้าหาญที่จะปฏิเสธนางโดยมิแม้แต่จะเสียงสั่นในเมื่อยังมิสามารถทำให้เฉินชีสยบต่อนางได้ในเร็ววัน การ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1301

    “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไปทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดีฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”“เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกายน้ำแกงโสมมังกรหรือ?เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สองแต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวนฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1300

    ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างใจเย็น “องค์ชายใหญ่ใส่ใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วมุ่น มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “แน่นอน! แท้จริงแล้วเจ้ารู้อะไรกันแน่!”วันนั้นในคุกใต้ดิน เกือบจะได้ฟังคำพูดต่อจากนั้นของลั่วชิงยวนแล้วแต่กลับถูกเฉินชีขัดจังหวะเสียก่อนหลังจากกลับไป เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาอาจมิใส่ใจเรื่องราวในอดีตได้ แต่นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา! เขาจะมิใส่ใจคงมิได้!ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้ม “องค์ชายใหญ่เชื่อจริงจังเลยหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการเอาชีวิตรอด จึงพูดจาเหลวไหลไปเท่านั้น”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฉินอี้ก็ตกตะลึงไปทั้งร่างมองนางด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้าว่ากระไรนะ?!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมฉันมิอยากพูดซ้ำสอง”ฉินอี้โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ก็อดกลั้นไว้ เขาไม่มีทางต่อกรกับลั่วชิงยวนได้สุดท้ายก็ได้แต่จากไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นฉินอี้จากไป เงาร่างที่แอบฟังอยู่ก็รีบจากไปเช่นกันอาการของฉินอี้นั้นมีสาเหตุจริง แต่เรื่องนี้ยังมิอาจบอกให้ฉินอี้รู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่หากพูดออกไป ปัญหาที่นางจะต้องเผชิญจะมิใช่เพียงเรื่องรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1299

    อวี๋โหรวพยักหน้า รีบเช็ดน้ำตา “ขอบคุณ”ลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบโยนเมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสถามอวี๋โหรว “อันที่จริงข้าสงสัยเรื่องนักบวชระดับสูงคนก่อน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่านางตายอย่างไร?”อวี๋โหรวตกใจเล็กน้อยคาดเดาในใจว่าลั่วชิงยวนคงสอบถามเรื่องนี้เพราะเฉินชีเพราะว่าเฉินชีก็มีใจให้ลั่วเหลาเช่นเดียวกันนางอธิบาย “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางตายอย่างไร”“วันนั้นนางบำเพ็ญเพียรอยู่ที่หอเทียนฉี วันรุ่งขึ้นเมื่อมีคนมาพบก็เหลือเพียงโลหิตกองเต็มพื้น”“บนพื้นยังมีร่องรอยการลากศพด้วย”“แต่ส่งคนออกไปตามหาศพตั้งมากมายก็หามิพบ”“เฉินชีแทบจะพลิกทั่วทั้งวัง แทบจะคลุ้มคลั่งสังหารคนในสำนักนักบวชไปเสียสิ้น”“ยังดีที่จักรพรรดิทรงนำราชองครักษ์เกราะเหล็กมาด้วยพระองค์เอง จึงสามารถควบคุมตัวเฉินชีไว้ได้”“เรื่องการตายของนักบวชระดับสูงนั้นมีการสืบสวนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเบาะแสใด ๆ เบาะแสทั้งหมดหยุดอยู่ที่หอเทียนฉี”“นอกหอเทียนฉีไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ”“นานวันเข้า เรื่องนี้ก็เงียบหายไป”ตามคำบอกเล่าของอวี๋โหรว ลั่วชิงยวนก็หวนนึกถึงคืนนั้นหอเทียนฉีเป็นสถานที่ที่นักบวชระดับสูงจะท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status