แชร์

บทที่ 40

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-11-10 16:00:01
รถม้าหยุดอยู่ด้านนอกตำหนักอ๋อง กลุ่มนางรับใช้ที่กำลังรออยู่ เมื่อเห็นรถม้าจากจวนอัครเสนาบดีมาถึง ทุกคนก็ต่างปลื้มดีใจ และอุทานว่า “คุณหนูรองมาแล้ว”

“เร็ว เร็ว เร็ว”

ทุกคนรีบเดินไปข้างหน้าต้อนรับลั่วเยวี่ยอิง

เมื่อลั่วชิงยวนก้าวลงจากรถม้า นางรับใช้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง สิ่งที่ตามมาทันทีคือ ความผิดหวังและความรังเกียจ

“ทำไมถึงเป็นนางล่ะ” นางรับใช้สองคนที่อยู่ไม่ไกลกระซิบกัน รังเกียจอย่างยิ่ง

จือเฉาตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ “พระชายาก็คือพระชายาจะไม่ใช่นางได้เยี่ยงไร?”

นางรับใช้หลายคนจ้องมองไปที่จือเฉา พึมพำต่อว่า “พวกเขาบอกว่านางจะไม่รอดมิใช่รึ? ทุกคนกำลังรอคุณหนูรองกลับมาที่ตำหนัก คุณหนูรองต่างหากที่เป็นพระชายาตัวจริง!”

“ถูกต้อง เจ้าอ้วนนี่จะคู่ควรกับท่านอ๋องของเราได้อย่างไร”

นางรับใช้ดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก และก็พูดอย่างไม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ก็เข้าหูของลั่วชิงยวนก็ได้ยินอย่างชัดเจน

เพียะ…

การตบหน้าที่ดังชัดเจน ทำให้ทั้งตำหนักเงียบสงบลง ทุกคนต่างตกตะลึง

นางรับใช้ที่ถูกตบเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จากนั้นก็สบตาที่ดุดันของลั่วชิงยวน ตกใจจนตัวขด

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 41

    คืนก่อนหน้านั้น เขาได้ถามหมอเทวดากู้โดยเฉพาะว่า มีการวินิจฉัยผิดพลาดหรือไม่ หมอเทวดากู้ยืนกรานว่า ลั่วชิงยวนไม่รอด บอกว่าแม้ว่านางจะผ่านไปได้ ผ่านช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด แต่อวัยวะ​ภายในได้รับความเสียหายแล้ว มีชีวิตได้เพียงสองวันเท่านั้น ตอนนี้ ก็เกินสองวันมาแล้ว​แต่ลั่วชิงยวนยังมีชีวิตอยู่ ลั่วชิงยวนนั่งเก้าอี้ตรงข้ามฟู่เฉินหวน มองดูเขาอย่างลึกซึ้ง “คืนนั้นที่สุสาน ท่านส่งคนมาสะกดรอยตามหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ?” หากผู้นั้นไม่ใช่ลั่วไห่ผิงส่งไป เช่นนั้นก็เป็นฟู่เฉินหวน ฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ มีแววตาประหลาดใจอย่างชัดเจน หรี่ตาลงเล็กน้อย มองลั่วชิงยวนอย่างลึกซึ้ง ตัวของนางอ้วน ไม่มีทักษะอันแข็งแกร่งปราดเปรียว ไม่มีวรยุทธเลย เหตุใดจึงพบว่าเซียวชูสะกดรอยตามอยู่? ต้องรู้ว่าวรยุทธของเซียวชูนั้นถือมือหนึ่งในตำหนักอ๋องแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนที่สะกดรอยตามจับได้ ลั่วชิงยวนมีความสามารถเช่นนี้เลยรึ? “หม่อมฉันรู้ว่าท่านทรงเกลียดข้า สุดท้ายแล้วหม่อมฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านไม่สามารถสมรสกับหญิงที่ท่านรักได้ ท่านจะทรงเกลียดหม่อมฉันก็เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่หม่อมฉันต้องทนทุกข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-10
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 42

    ”ท่านอ๋องโปรดทรงช่วยหม่อมฉันเอาเถ้ากระดูกของแม่กลับคืนด้วยเพคะ!” ได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็สีหน้าเปลี่ยน ขมวดคิ้วมองนาง “เจ้าต้องการใช้ให้ข้าเข้าใกล้ลั่วเยวี่ยอิงเพื่อเอาสมบัติมาอย่างนั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนตกใจมาก เหตุใดลั่วชิงยวนถึงกล้าใช้เขาอย่างเปิดเผยเยี่ยงนี้? แต่การพูดคุยที่รวดเร็ว ทำให้ลั่วชิงยวนได้ยินเป็นความหมายอื่น นางขมวดคิ้วอย่างความสับสน โน้มกายลงบนโต๊ะพลางจ้องมองฟู่เฉินหวนและ พูดด้วยเสียงอ่อนว่า “แท้จริงแล้วท่านอ๋องทรงเชื่ออย่างนั้นหรือเพคะ? ท่านอ๋องเชื่อว่าลั่วเยวี่ยอิงเอาสมบัติของท่านแม่หม่อมฉันไป ” พ่อของนางเองยังไม่เชื่อเลย! ฟู่เฉินหวนเชื่อเช่นนั้นจริงหรือ? นางไม่อยากจะเชื่อเลย ใบหน้าของฟู่เฉินหวนพลันเคร่งขรึม และหลบสายตาอย่างเย็นชา “แล้วไม่ใช่ว่า เจ้าเชื่อมาตลอดหรือรึว่า ลั่วเยวี่ยอิงเอาสมบัติแม่ของเจ้าไป? หากเจ้าอยากให้ข้าช่วย ก็ทำได้เพียงไปเอาจากเยวี่ยอิงเท่านั้น!” คำอธิบายนี้ ลั่วชิงยวนก็ไม่ได้ยินอะไรที่ผิดปกติ “เช่นนั้นแล้วท่านอ๋องจะทรงเต็มใจหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันเชื่อว่า หม่อมฉันจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอ๋องมาก ตราบใดที่ท่านอ๋องทรงช่วยหม่อมฉันเอาสมบัติของท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-10
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 43

    จือเฉาถูกนางรับใช้หลายคนจับตัวไป ถูกกดลงกับพื้นและพยายามดิ้นอย่างสุดชีวิต ข้างหน้า แม่บ้านเมิ่งที่แต่งตัวดีเดินด้วยท่าทีสบาย ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยองว่า “คิดว่าติดตามเจ้านายแล้วจะผงาดได้งั้นรึ ตอนนี้เจ้ากล้าฝ่าฝืนคำสั่งข้า กล้าต่อปากต่อคำกับข้า เจ้าต้องรู้ว่า ทาสทั้งหมดในตำหนักนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า เจ้าเองก็ไม่เว้น! ” “ฟาดปากนาง!” แม่บ้านเมิ่งหยิบท่อนไม้ยาวเท่านิ้วแล้วโยนมันลงไปอย่างโหดเหี้ยม นางรับใช้หยิบท่อนไม้ยาวขึ้นมา ฟาดไปที่ปากของจือเฉาอย่างแรง จือเฉาที่เจ็บปวดก็หลั่งน้ำตา ฟาดไปหลายที ปากของจือเฉากลายเป็นสีแดงบวมและแตกทันที นางขดตัวหลบจากความเจ็บปวด คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความกลัว “รู้ว่าผิดรึยัง?” แม่บ้านเมิ่งเอามือไพล่หลังและถามอย่างเย็นชา จือเฉาเจ็บปวดจนร้องไห้ ได้แต่กัดฟันพูดอย่างอดทน “ข้าไม่ผิด ข้าจะไม่เอาน้ำแกงยาพิษไปให้พระชายาเด็ดขาด” ได้ยินเช่นนี้ แม่บ้านเมิ่งก็หน้าตาบูดบึ้ง ดุเสียงดังว่า “ยังจะกล้าปากดี! ตีต่อไป! ดูท่าข้าจะจากไปนานเกินไป พวกเจ้าชั้นต่ำถึงปีกกล้าขาแข็ง กล้าต่อปากต่อคำกับข้า! วันนี้จะต้องบอกให้พวกเจ้ารู้ว่าข้าน่าเกรงขามแค่ไหน!"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-11
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 44

    นางรับใช้หลายคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พระชายาถึงกับยกเอาท่านอ๋องขึ้นมาพูด อีกทั้งยังเอาจุดอ่อนที่แม่บ้านเมิ่งไม่เคารพท่านอ๋องอีกด้วย โดยเฉพาะคิดว่า พระชายาตีได้โหดเหี้ยมเพียงใด แม่นมเติ้งที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ยังไม่กลับมาเลย เกรงว่ามันจะพบกับชะตากรรมที่น่าสังเวชมาก ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกิน จึงค่อย ๆ เดินเข้าไปและจับแม่บ้านเมิ่ง แม่บ้านเมิ่งตกใจ “พวกชั้นต่ำ! ข้าเป็นแม่บ้านของที่นี่! พวกเจ้ากล้าจับข้ารึ?!” นางรับใช้หลายคนก็หวาดกลัวมาก “พวกข้าแค่ทำตามคำสั่ง แม่บ้านเมิ่งอย่าโทษพวกข้าเลย!” ขณะพูดก็กดแม่บ้านเมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนถือท่อนไม้เดินเข้าไปช้า ๆ สายตาที่เย็นชาแฝงไปด้วยความโหดร้าย “เจ้ากล้าตีข้า ระวังวันนี้เจ้าจะถูกไล่ออก!” แม่บ้านเมิ่งที่ดิ้นขัดขืนไม่ได้ จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธเกรี้ยว ยังดูถูกนางที่มาแต่งงานแทน อัปลักษณ์ พฤติกรรมตัวผิดศีลธรรม ท่านอ๋องถึงไม่ชอบนาง! เพีย… ลั่วชิงยวนถือท่อนไม้ฟาดไปอย่างแรงโดยไม่ไยดี ทันใดนั้น รอยแดงยาวก็ปรากฏบนใบหน้าของของแม่บ้านเมิ่ง ความเจ็บปวดทำให้นางน้ำตาไหล ตะโกนด่าด้วยความโกรธมากขึ้น “สารเลว!” ผลัวะ ผลัวะ… ลั่วชิงยวนยืนมอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-11
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 45

    หลังจากแม่บ้านเมิ่งกรีดร้องอยู่ครู่หนึ่ง ลั่วชิงยวนจึงปล่อยนางไป “จือเฉา ไปเถอะ” ลั่วชิงยวนมองจือเฉาอย่างปวดใจ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมายื่นให้นาง “ขอบคุณเจ้าค่ะ พระชายา” จือเฉาซาบซึ้งใจมาก นางคิดไม่ถึงว่าพระชายาจะทุบตีแม่บ้านเมิ่งเพื่อแก้แค้นให้นาง สุดท้ายแม่บ้านเมิ่งก็เป็นผู้อาวุโสในตำหนักแห่งนี้ แม่บ้านเมิ่งนอนอยู่บนพื้น ความเจ็บปวดที่ข้อมือทำให้สั่นไปทั้งมือ สายตาของนางดูน่ากลัว จ้องมองร่างที่จากไปด้วยโทสะ นางกัดฟัน พลันลุกขึ้นพุ่งไปอีกครั้ง “สารเลว! ข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า!” ลูกสาวคนเดียวของนางจากไปแล้ว วันนี้นางยังถูกผู้หญิงสารเลวนี้ทำให้อับอายเช่นนี้ แม้ว่าวันนี้จะจากไป เรื่องอื้อฉาวนี้ก็จะยังคงแพร่กระจายไปในตำหนักแห่งนี้ นางไม่สามารถยืนหยัดในอำนาจได้อีกต่อไป มีแต่จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเท่านั้น! ต่อสู้กับนางให้รู้แล้วรู้รอดไป แก้แค้นให้จิ๋นอวี่! จือเฉามองกลับไป ชั่วพริบตาก็ตกใจและพูดว่า “พระชายาระวังเจ้าค่ะ!” นางผลักลั่วชิงยวนออกไป ลั่วชิงยวนเซถอยไปด้านหลัง แต่ถูกแม่บ้านเมิ่งกระโจนใส่ นางล้มลงพื้นอย่างแรง ร่างที่หนักอึ้งก็เอนล้มลงไป การสั่นสะเทือนทำให้นางเจ็บปวดอย่างรุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-11
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 46

    เมื่อสักครู่นี้ นางเห็นลางมรณะตรงหว่างคิ้วของแม่บ้านเมิ่งแล้ว ถึงแม้ว่านางจะโหดเหี้ยม แต่นางก็มิได้คิดจะเล่นงานถึงตาย และไม่มีเจตนาสังหารจริง ๆ ทว่ากลับยังเห็นลางมรณะตรงหว่างคิ้วของแม่บ้านเมิ่ง นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตายเพราะอะไรกันแน่ เมื่อแม่นมเติ้งเห็นสายตาล้ำลึกยากหยั่งถึงของพระชายาก็ให้รู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก ชะรอยแม่บ้านเมิ่งผู้นี้คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้วจริง ๆ เมื่อเห็นพระชายาเป็นเช่นนี้เข้า นางก็ระแวดระวังอยู่ไม่คลาย! ลั่วชิงยวนนึกได้ก็เหลือบมองจือเฉา "กลับกันเถอะ อาการบาดเจ็บของเจ้าต้องรักษาเสียแต่เนิ่น ๆ" จือเฉาผงกศีรษะ เมื่อทั้งสามคนกลับมาถึงเรือน แม่นมเติ้งก็เรียกชิงสุ่ยให้มาช่วยขัดคราบโลหิตออกไป จากนั้นลั่วชิงยวนก็มอบโอสถรักษาบาดแผลที่ก่อนหน้านี้เซียวชูยังใช้ไม่หมดให้แก่นาง "พระชายา แม่บ้านเมิ่งเป็นต้นเหตุทำให้เมิ่งจิ๋นอวี่ตายเช่นนั้นหรือเจ้าคะ? วันนี้ตอนที่กลับมา บ่าวได้ยินข้างนอกลือกันหนาหูเชียว" นางไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนเพราะกลับบ้านไปสองสามวัน ฉะนั้นนางจึงไต่ถามเรื่องนั้นจนได้รู้ว่า เมิ่งจิ๋นอวี่ตายแล้ว ส่วนแม่บ้านเมิ่งก็กลับมาด้วย ลั่วชิงยวนพยัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-12
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 47

    น้ำเสียงสั่นเครือแฝงแววหวาดหวั่นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกปวดใจไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของอีกฝ่าย "เจ้าเด็กโง่เอ๋ย ข้าจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไรเล่า" "พระชายา แม่บ้านเมิ่งโดนจัดการย่ำแย่เสียเพียงนั้น ถ้าเกิดนางเอาเรื่องไปบอกท่านอ๋องจะทำอย่างไรหรือเจ้าคะ? ท่านอ๋องจะลงโทษท่านหรือไม่? " จือเฉามองนางด้วยสายตาเป็นกังวล "ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก เจ้าพักรักษาตัวอยู่ในห้องให้ดี ๆ เถอะ อย่าได้เที่ยวเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว แม่นมเติ้งก็อยู่กับข้าทั้งคน" จือเฉาผงกศีรษะ ทันทีที่พูดจบ ซูโหยวก็เดินเข้ามาในเรือน "ท่านอ๋องรับสั่งให้พระชายาเข้าเฝ้าขอรับ" ลั่วชิงยวนไม่แปลกใจที่ฟู่เฉินหวนจะตามหาตน นางเดินตามซูโหยวไปยังเรือนของฟู่เฉินหวน ยังมีคราบโลหิตอยู่ในเรือน และแม่บ้านเมิ่งก็เคยมาที่นี่ แต่นางกลับไปแล้ว คาดว่านางคงถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บของตน ยามที่นางเดินเข้ามาในเรือน นางก็เห็นฟู่เฉินหวนเอามือไพล่หลังพลางทำสีหน้าหม่นคล้ำระหว่างที่รอนาง "พอกลับมาถึงตำหนักก็อยู่ไม่สุขเลยสินะ เจ้าจงใจหาเรื่องช้าผู้เป็นอ๋องใช่หรือไม่!" สีหน้าของฟู่เฉินหวนตะคอกใส่ด้วยโทสะ ลั่วชิงยวนกลับมีส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-12
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 48

    วาจาเหน็บแนมอันเย็นชาของนางทำให้มือที่ฟู่เฉินหวนไพล่หลังเอาไว้ต้องกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเกิดระลอกคลื่นในดวงตาสงบนิ่งลึกล้ำของเขา ฟู่เฉินหวนบอกไม่ถูกว่าตนเองรู้สึกเช่นใด นางเป็นคนผิดเห็น ๆ ทว่ากลับมีท่าทีเปิดเผยทั้งยังสามารถพูดได้คล่องปากอีกต่างหาก ราวกับว่าเขาทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรขึ้นมาจริง ๆ อย่างไรอย่างนั้น! นี่อาจจะเป็นข้อดีของสตรีผู้นี้ก็ได้ การแต่งงานกับนางแทนนั้นสมควรแล้วหรือไม่? เมื่อนึกขึ้นได้เช่นนี้ โทสะระลอกหนึ่งก็ปะทุขึ้นในจิตใจของเขาอีกครั้ง "สามหาว! ถึงแม้ว่าข้าสัญญาว่าจะร่วมมือกับเจ้า แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าจะทำร้ายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ! "ถ้ายังมีคราวหน้าอีก เจ้าก็ไสหัวออกไปจากตำหนักอ๋องของข้าได้เลย!" นับตั้งแต่ลั่วชิงยวนแต่งเข้ามา ตำหนักอ๋องที่เคยสงบสุขมาโดยตลอดก็เกิดเรื่องอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากนางอยู่ไม่สุขนักล่ะก็ เขาจะไม่เก็บนางเอาไว้แน่! เมื่อได้ยินวาจาทิ่มแทงของฟู่เฉินหวน อาการเจ็บแปลบตามร่างกายทำให้นางถึงกับเหงื่อกาฬชุ่มโชก และพูดไม่ออก ฉะนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่กัดฟัน และไม่ยอมส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ฟู่เฉินหวนสัมผัสได้ถึงความดันทุรังของนางแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-12

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1201

    ในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หลังเพราะถูกกดลงบนกำแพงเท้าของนางลอยขึ้นจากพื้นความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางดิ้นรนสุดกำลัง“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา! ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องของของข้า!”ลั่วชิงยวนพยายามพูด “ฟู่เฉินหวน...”นางหายใจมิออกแล้วนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนฉายแววเย็นชาขณะจับนางเหวี่ยงออกไปร่างลั่วชิงยวนตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นกลิ้งไปหลายตลบแล้วกระอักเลือดออกมาอวัยวะภายในสั่นสะเทือน ปวดร้าวไปทั่วร่าง“ฟู่เฉินหวน ลั่วฉิงกับไทเฮาร่วมมือกัน สิ่งที่ไทเฮาให้ท่านอาจถูกลั่วฉิงปลอมแปลง จดหมายนั้นอาจเป็นของปลอมก็ได้!”ลั่วชิงยวนรีบอธิบายความคิดของตนเองฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาด้วยความโกรธ เขาจับนางขึ้นมาแล้วมองนางด้วยสายตาเหี้ยมโหด “ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาหลอกลวงข้าอีกรึ?”“ลายมือท่านแม่ของข้า ข้าจะจำมิได้เชียวหรือ!”พูดจบ ลั่วชิงยวนก็ถูกเหวี่ยงออกจากห้องร่างกระแทกพื้นหิมะแขนข้างหนึ่งถูกทับจนเกิดเสียงดังกร๊อบแขนหลุดจากข้อต่อแล้ว“โอ๊ย...” ลั่วชิงยวนร้องเสียงหลง หน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มไปหน้านางใช้มือข้างเดียวพยุงตัว พยายามลุกขึ้นอย่างยากล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1200

    ลั่วฉิงใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์มิเป็นด้วยฐานะของนาง เป็นไปมิได้ที่จะใช้มิเป็นลั่วชิงยวนเบิกตากว้างลั่วฉิงมิได้ใช้มิเป็น แต่ใช้มิได้ต่างหาก!นางพกเข็มทิศนี้ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์บอกว่าเป็นของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของนางหลังจากที่นางตายแล้วเกิดใหม่เข็มทิศนี้ก็ยังคงติดตัวนางมา ย่อมมิใช่ของธรรมดาสามัญแน่นอนดังนั้น เข็มทิศนี้อาจจะยอมรับนางเป็นเจ้าของแล้ว คนอื่นจึงใช้มิได้เมื่อคิดได้ดังนั้น ลั่วชิงยวนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างลั่วฉิงได้เข็มทิศไปก็ไร้ประโยชน์ฟู่เฉินหวนถาม “หากไม่มีเข็มทิศนี้ เจ้าก็ทำนายอะไรมิได้เลยหรือ?”ลั่วฉิงยกยิ้ม “แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น”“เช่นนั้นก็มิเห็นเป็นอะไร เจ้าแค่ทำนายสิ่งที่เจ้าทำนายได้ แล้วก็จะค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจเอง”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะกล่าวเสียงเย็น “ข้าทะเลาะกับนางไปแล้ว หากจะหลอกลวงนางอีกก็ต้องแสร้งทำดีด้วย”“ข้ามิอยากทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น”หัวใจของลั่วชิงยวนพลันเจ็บแปลบเขาบอกว่าการทำดีกับนางเป็นเรื่องน่ารังเกียจ...ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวด นางกำเสื้อแน่น มิกล้าส่งเสียงแล้วค่อย ๆ เดินจากไปคำพูดเหล่านั้นดังก้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1194

    ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาด้วยความโกรธครั้นเห็นนางมิยอมอ้าปากแม้สักนิด เฉินชีจึงโน้มกายเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เจ้าอยากให้ข้าทำเกินเลยกว่านี้รึ?”ลั่วชิงยวนขบฟันแน่นก่อนจะยอมอ้าปากรับสิ่งที่เฉินชีป้อนให้เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบด้าน“สวรรค์โปรด! สองคนนี้กำลังทำสิ่งใดกันอยู่”“พระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังลักลอบคบชู้ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้หรือ?”เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างส่งคนไปทูลท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการให้รีบมาโดยพลันเฉินชีนั่งอยู่ในศาลา ยังคงจงใจแสดงท่าทีคลอเคลียกับลั่วชิงยวน แล้วกระซิบเสียงเบา “หลังจากวันนี้ เจ้าคงมิอาจอยู่ในเมืองหลวงได้อีกแล้วกระมัง?”“เหตุใดจึงมิติดตามข้ากลับแคว้นหลีเล่า?”“เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นคนของแคว้นหลี”“ข้าสามารถส่งเจ้ากลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นนักบวชหญิงผู้สูงส่งได้”“หากเจ้าเต็มใจ จงกะพริบตา แล้วข้าจะพาเจ้าไป”ช่างไร้ยางอาย!ลั่วชิงยวนเบิกตากว้างจนดวงตาแดงก่ำ มิยอมกะพริบตาแม้เพียงน้อยในใจนางก่นด่าเฉินชีนับร้อยครั้งครั้นเห็นนางดื้อรั้นเช่นนี้ เฉินชีกลับหัวเราะออกมา“ดูท่าว่าอาเหลายังคงรู้จักข้าดี”ทั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

DMCA.com Protection Status