Share

บทที่ 40

Author: หว่านชิงอิ๋น
รถม้าหยุดอยู่ด้านนอกตำหนักอ๋อง กลุ่มนางรับใช้ที่กำลังรออยู่ เมื่อเห็นรถม้าจากจวนอัครเสนาบดีมาถึง ทุกคนก็ต่างปลื้มดีใจ และอุทานว่า “คุณหนูรองมาแล้ว”

“เร็ว เร็ว เร็ว”

ทุกคนรีบเดินไปข้างหน้าต้อนรับลั่วเยวี่ยอิง

เมื่อลั่วชิงยวนก้าวลงจากรถม้า นางรับใช้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง สิ่งที่ตามมาทันทีคือ ความผิดหวังและความรังเกียจ

“ทำไมถึงเป็นนางล่ะ” นางรับใช้สองคนที่อยู่ไม่ไกลกระซิบกัน รังเกียจอย่างยิ่ง

จือเฉาตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ “พระชายาก็คือพระชายาจะไม่ใช่นางได้เยี่ยงไร?”

นางรับใช้หลายคนจ้องมองไปที่จือเฉา พึมพำต่อว่า “พวกเขาบอกว่านางจะไม่รอดมิใช่รึ? ทุกคนกำลังรอคุณหนูรองกลับมาที่ตำหนัก คุณหนูรองต่างหากที่เป็นพระชายาตัวจริง!”

“ถูกต้อง เจ้าอ้วนนี่จะคู่ควรกับท่านอ๋องของเราได้อย่างไร”

นางรับใช้ดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก และก็พูดอย่างไม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ก็เข้าหูของลั่วชิงยวนก็ได้ยินอย่างชัดเจน

เพียะ…

การตบหน้าที่ดังชัดเจน ทำให้ทั้งตำหนักเงียบสงบลง ทุกคนต่างตกตะลึง

นางรับใช้ที่ถูกตบเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จากนั้นก็สบตาที่ดุดันของลั่วชิงยวน ตกใจจนตัวขด

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 41

    คืนก่อนหน้านั้น เขาได้ถามหมอเทวดากู้โดยเฉพาะว่า มีการวินิจฉัยผิดพลาดหรือไม่ หมอเทวดากู้ยืนกรานว่า ลั่วชิงยวนไม่รอด บอกว่าแม้ว่านางจะผ่านไปได้ ผ่านช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด แต่อวัยวะ​ภายในได้รับความเสียหายแล้ว มีชีวิตได้เพียงสองวันเท่านั้น ตอนนี้ ก็เกินสองวันมาแล้ว​แต่ลั่วชิงยวนยังมีชีวิตอยู่ ลั่วชิงยวนนั่งเก้าอี้ตรงข้ามฟู่เฉินหวน มองดูเขาอย่างลึกซึ้ง “คืนนั้นที่สุสาน ท่านส่งคนมาสะกดรอยตามหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ?” หากผู้นั้นไม่ใช่ลั่วไห่ผิงส่งไป เช่นนั้นก็เป็นฟู่เฉินหวน ฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ มีแววตาประหลาดใจอย่างชัดเจน หรี่ตาลงเล็กน้อย มองลั่วชิงยวนอย่างลึกซึ้ง ตัวของนางอ้วน ไม่มีทักษะอันแข็งแกร่งปราดเปรียว ไม่มีวรยุทธเลย เหตุใดจึงพบว่าเซียวชูสะกดรอยตามอยู่? ต้องรู้ว่าวรยุทธของเซียวชูนั้นถือมือหนึ่งในตำหนักอ๋องแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนที่สะกดรอยตามจับได้ ลั่วชิงยวนมีความสามารถเช่นนี้เลยรึ? “หม่อมฉันรู้ว่าท่านทรงเกลียดข้า สุดท้ายแล้วหม่อมฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านไม่สามารถสมรสกับหญิงที่ท่านรักได้ ท่านจะทรงเกลียดหม่อมฉันก็เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่หม่อมฉันต้องทนทุกข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 42

    ”ท่านอ๋องโปรดทรงช่วยหม่อมฉันเอาเถ้ากระดูกของแม่กลับคืนด้วยเพคะ!” ได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็สีหน้าเปลี่ยน ขมวดคิ้วมองนาง “เจ้าต้องการใช้ให้ข้าเข้าใกล้ลั่วเยวี่ยอิงเพื่อเอาสมบัติมาอย่างนั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนตกใจมาก เหตุใดลั่วชิงยวนถึงกล้าใช้เขาอย่างเปิดเผยเยี่ยงนี้? แต่การพูดคุยที่รวดเร็ว ทำให้ลั่วชิงยวนได้ยินเป็นความหมายอื่น นางขมวดคิ้วอย่างความสับสน โน้มกายลงบนโต๊ะพลางจ้องมองฟู่เฉินหวนและ พูดด้วยเสียงอ่อนว่า “แท้จริงแล้วท่านอ๋องทรงเชื่ออย่างนั้นหรือเพคะ? ท่านอ๋องเชื่อว่าลั่วเยวี่ยอิงเอาสมบัติของท่านแม่หม่อมฉันไป ” พ่อของนางเองยังไม่เชื่อเลย! ฟู่เฉินหวนเชื่อเช่นนั้นจริงหรือ? นางไม่อยากจะเชื่อเลย ใบหน้าของฟู่เฉินหวนพลันเคร่งขรึม และหลบสายตาอย่างเย็นชา “แล้วไม่ใช่ว่า เจ้าเชื่อมาตลอดหรือรึว่า ลั่วเยวี่ยอิงเอาสมบัติแม่ของเจ้าไป? หากเจ้าอยากให้ข้าช่วย ก็ทำได้เพียงไปเอาจากเยวี่ยอิงเท่านั้น!” คำอธิบายนี้ ลั่วชิงยวนก็ไม่ได้ยินอะไรที่ผิดปกติ “เช่นนั้นแล้วท่านอ๋องจะทรงเต็มใจหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันเชื่อว่า หม่อมฉันจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอ๋องมาก ตราบใดที่ท่านอ๋องทรงช่วยหม่อมฉันเอาสมบัติของท่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 43

    จือเฉาถูกนางรับใช้หลายคนจับตัวไป ถูกกดลงกับพื้นและพยายามดิ้นอย่างสุดชีวิต ข้างหน้า แม่บ้านเมิ่งที่แต่งตัวดีเดินด้วยท่าทีสบาย ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยองว่า “คิดว่าติดตามเจ้านายแล้วจะผงาดได้งั้นรึ ตอนนี้เจ้ากล้าฝ่าฝืนคำสั่งข้า กล้าต่อปากต่อคำกับข้า เจ้าต้องรู้ว่า ทาสทั้งหมดในตำหนักนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า เจ้าเองก็ไม่เว้น! ” “ฟาดปากนาง!” แม่บ้านเมิ่งหยิบท่อนไม้ยาวเท่านิ้วแล้วโยนมันลงไปอย่างโหดเหี้ยม นางรับใช้หยิบท่อนไม้ยาวขึ้นมา ฟาดไปที่ปากของจือเฉาอย่างแรง จือเฉาที่เจ็บปวดก็หลั่งน้ำตา ฟาดไปหลายที ปากของจือเฉากลายเป็นสีแดงบวมและแตกทันที นางขดตัวหลบจากความเจ็บปวด คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความกลัว “รู้ว่าผิดรึยัง?” แม่บ้านเมิ่งเอามือไพล่หลังและถามอย่างเย็นชา จือเฉาเจ็บปวดจนร้องไห้ ได้แต่กัดฟันพูดอย่างอดทน “ข้าไม่ผิด ข้าจะไม่เอาน้ำแกงยาพิษไปให้พระชายาเด็ดขาด” ได้ยินเช่นนี้ แม่บ้านเมิ่งก็หน้าตาบูดบึ้ง ดุเสียงดังว่า “ยังจะกล้าปากดี! ตีต่อไป! ดูท่าข้าจะจากไปนานเกินไป พวกเจ้าชั้นต่ำถึงปีกกล้าขาแข็ง กล้าต่อปากต่อคำกับข้า! วันนี้จะต้องบอกให้พวกเจ้ารู้ว่าข้าน่าเกรงขามแค่ไหน!"

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 44

    นางรับใช้หลายคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พระชายาถึงกับยกเอาท่านอ๋องขึ้นมาพูด อีกทั้งยังเอาจุดอ่อนที่แม่บ้านเมิ่งไม่เคารพท่านอ๋องอีกด้วย โดยเฉพาะคิดว่า พระชายาตีได้โหดเหี้ยมเพียงใด แม่นมเติ้งที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ยังไม่กลับมาเลย เกรงว่ามันจะพบกับชะตากรรมที่น่าสังเวชมาก ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกิน จึงค่อย ๆ เดินเข้าไปและจับแม่บ้านเมิ่ง แม่บ้านเมิ่งตกใจ “พวกชั้นต่ำ! ข้าเป็นแม่บ้านของที่นี่! พวกเจ้ากล้าจับข้ารึ?!” นางรับใช้หลายคนก็หวาดกลัวมาก “พวกข้าแค่ทำตามคำสั่ง แม่บ้านเมิ่งอย่าโทษพวกข้าเลย!” ขณะพูดก็กดแม่บ้านเมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนถือท่อนไม้เดินเข้าไปช้า ๆ สายตาที่เย็นชาแฝงไปด้วยความโหดร้าย “เจ้ากล้าตีข้า ระวังวันนี้เจ้าจะถูกไล่ออก!” แม่บ้านเมิ่งที่ดิ้นขัดขืนไม่ได้ จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธเกรี้ยว ยังดูถูกนางที่มาแต่งงานแทน อัปลักษณ์ พฤติกรรมตัวผิดศีลธรรม ท่านอ๋องถึงไม่ชอบนาง! เพีย… ลั่วชิงยวนถือท่อนไม้ฟาดไปอย่างแรงโดยไม่ไยดี ทันใดนั้น รอยแดงยาวก็ปรากฏบนใบหน้าของของแม่บ้านเมิ่ง ความเจ็บปวดทำให้นางน้ำตาไหล ตะโกนด่าด้วยความโกรธมากขึ้น “สารเลว!” ผลัวะ ผลัวะ… ลั่วชิงยวนยืนมอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 45

    หลังจากแม่บ้านเมิ่งกรีดร้องอยู่ครู่หนึ่ง ลั่วชิงยวนจึงปล่อยนางไป “จือเฉา ไปเถอะ” ลั่วชิงยวนมองจือเฉาอย่างปวดใจ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมายื่นให้นาง “ขอบคุณเจ้าค่ะ พระชายา” จือเฉาซาบซึ้งใจมาก นางคิดไม่ถึงว่าพระชายาจะทุบตีแม่บ้านเมิ่งเพื่อแก้แค้นให้นาง สุดท้ายแม่บ้านเมิ่งก็เป็นผู้อาวุโสในตำหนักแห่งนี้ แม่บ้านเมิ่งนอนอยู่บนพื้น ความเจ็บปวดที่ข้อมือทำให้สั่นไปทั้งมือ สายตาของนางดูน่ากลัว จ้องมองร่างที่จากไปด้วยโทสะ นางกัดฟัน พลันลุกขึ้นพุ่งไปอีกครั้ง “สารเลว! ข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า!” ลูกสาวคนเดียวของนางจากไปแล้ว วันนี้นางยังถูกผู้หญิงสารเลวนี้ทำให้อับอายเช่นนี้ แม้ว่าวันนี้จะจากไป เรื่องอื้อฉาวนี้ก็จะยังคงแพร่กระจายไปในตำหนักแห่งนี้ นางไม่สามารถยืนหยัดในอำนาจได้อีกต่อไป มีแต่จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเท่านั้น! ต่อสู้กับนางให้รู้แล้วรู้รอดไป แก้แค้นให้จิ๋นอวี่! จือเฉามองกลับไป ชั่วพริบตาก็ตกใจและพูดว่า “พระชายาระวังเจ้าค่ะ!” นางผลักลั่วชิงยวนออกไป ลั่วชิงยวนเซถอยไปด้านหลัง แต่ถูกแม่บ้านเมิ่งกระโจนใส่ นางล้มลงพื้นอย่างแรง ร่างที่หนักอึ้งก็เอนล้มลงไป การสั่นสะเทือนทำให้นางเจ็บปวดอย่างรุ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 46

    เมื่อสักครู่นี้ นางเห็นลางมรณะตรงหว่างคิ้วของแม่บ้านเมิ่งแล้ว ถึงแม้ว่านางจะโหดเหี้ยม แต่นางก็มิได้คิดจะเล่นงานถึงตาย และไม่มีเจตนาสังหารจริง ๆ ทว่ากลับยังเห็นลางมรณะตรงหว่างคิ้วของแม่บ้านเมิ่ง นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตายเพราะอะไรกันแน่ เมื่อแม่นมเติ้งเห็นสายตาล้ำลึกยากหยั่งถึงของพระชายาก็ให้รู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก ชะรอยแม่บ้านเมิ่งผู้นี้คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้วจริง ๆ เมื่อเห็นพระชายาเป็นเช่นนี้เข้า นางก็ระแวดระวังอยู่ไม่คลาย! ลั่วชิงยวนนึกได้ก็เหลือบมองจือเฉา "กลับกันเถอะ อาการบาดเจ็บของเจ้าต้องรักษาเสียแต่เนิ่น ๆ" จือเฉาผงกศีรษะ เมื่อทั้งสามคนกลับมาถึงเรือน แม่นมเติ้งก็เรียกชิงสุ่ยให้มาช่วยขัดคราบโลหิตออกไป จากนั้นลั่วชิงยวนก็มอบโอสถรักษาบาดแผลที่ก่อนหน้านี้เซียวชูยังใช้ไม่หมดให้แก่นาง "พระชายา แม่บ้านเมิ่งเป็นต้นเหตุทำให้เมิ่งจิ๋นอวี่ตายเช่นนั้นหรือเจ้าคะ? วันนี้ตอนที่กลับมา บ่าวได้ยินข้างนอกลือกันหนาหูเชียว" นางไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนเพราะกลับบ้านไปสองสามวัน ฉะนั้นนางจึงไต่ถามเรื่องนั้นจนได้รู้ว่า เมิ่งจิ๋นอวี่ตายแล้ว ส่วนแม่บ้านเมิ่งก็กลับมาด้วย ลั่วชิงยวนพยัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 47

    น้ำเสียงสั่นเครือแฝงแววหวาดหวั่นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกปวดใจไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของอีกฝ่าย "เจ้าเด็กโง่เอ๋ย ข้าจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไรเล่า" "พระชายา แม่บ้านเมิ่งโดนจัดการย่ำแย่เสียเพียงนั้น ถ้าเกิดนางเอาเรื่องไปบอกท่านอ๋องจะทำอย่างไรหรือเจ้าคะ? ท่านอ๋องจะลงโทษท่านหรือไม่? " จือเฉามองนางด้วยสายตาเป็นกังวล "ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก เจ้าพักรักษาตัวอยู่ในห้องให้ดี ๆ เถอะ อย่าได้เที่ยวเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว แม่นมเติ้งก็อยู่กับข้าทั้งคน" จือเฉาผงกศีรษะ ทันทีที่พูดจบ ซูโหยวก็เดินเข้ามาในเรือน "ท่านอ๋องรับสั่งให้พระชายาเข้าเฝ้าขอรับ" ลั่วชิงยวนไม่แปลกใจที่ฟู่เฉินหวนจะตามหาตน นางเดินตามซูโหยวไปยังเรือนของฟู่เฉินหวน ยังมีคราบโลหิตอยู่ในเรือน และแม่บ้านเมิ่งก็เคยมาที่นี่ แต่นางกลับไปแล้ว คาดว่านางคงถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บของตน ยามที่นางเดินเข้ามาในเรือน นางก็เห็นฟู่เฉินหวนเอามือไพล่หลังพลางทำสีหน้าหม่นคล้ำระหว่างที่รอนาง "พอกลับมาถึงตำหนักก็อยู่ไม่สุขเลยสินะ เจ้าจงใจหาเรื่องช้าผู้เป็นอ๋องใช่หรือไม่!" สีหน้าของฟู่เฉินหวนตะคอกใส่ด้วยโทสะ ลั่วชิงยวนกลับมีส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 48

    วาจาเหน็บแนมอันเย็นชาของนางทำให้มือที่ฟู่เฉินหวนไพล่หลังเอาไว้ต้องกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเกิดระลอกคลื่นในดวงตาสงบนิ่งลึกล้ำของเขา ฟู่เฉินหวนบอกไม่ถูกว่าตนเองรู้สึกเช่นใด นางเป็นคนผิดเห็น ๆ ทว่ากลับมีท่าทีเปิดเผยทั้งยังสามารถพูดได้คล่องปากอีกต่างหาก ราวกับว่าเขาทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรขึ้นมาจริง ๆ อย่างไรอย่างนั้น! นี่อาจจะเป็นข้อดีของสตรีผู้นี้ก็ได้ การแต่งงานกับนางแทนนั้นสมควรแล้วหรือไม่? เมื่อนึกขึ้นได้เช่นนี้ โทสะระลอกหนึ่งก็ปะทุขึ้นในจิตใจของเขาอีกครั้ง "สามหาว! ถึงแม้ว่าข้าสัญญาว่าจะร่วมมือกับเจ้า แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าจะทำร้ายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ! "ถ้ายังมีคราวหน้าอีก เจ้าก็ไสหัวออกไปจากตำหนักอ๋องของข้าได้เลย!" นับตั้งแต่ลั่วชิงยวนแต่งเข้ามา ตำหนักอ๋องที่เคยสงบสุขมาโดยตลอดก็เกิดเรื่องอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากนางอยู่ไม่สุขนักล่ะก็ เขาจะไม่เก็บนางเอาไว้แน่! เมื่อได้ยินวาจาทิ่มแทงของฟู่เฉินหวน อาการเจ็บแปลบตามร่างกายทำให้นางถึงกับเหงื่อกาฬชุ่มโชก และพูดไม่ออก ฉะนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่กัดฟัน และไม่ยอมส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ฟู่เฉินหวนสัมผัสได้ถึงความดันทุรังของนางแล

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1326

    ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปกลัวหรือก็เคยกลัวอยู่เหมือนกันแต่ยามนี้กลัวไปจะมีประโยชน์อะไรนางส่ายหน้า “เมื่อก่อนกลัว ตอนนี้มิกลัวแล้ว”“เหตุใด?” อวี๋โหรวสงสัย“เพราะเขามิได้บ้าคลั่งถึงเพียงนั้น ทุกสิ่งที่เขาทำล้วนมีจุดมุ่งหมาย”“ข้ามีประโยชน์ต่อเขา เขาย่อมอดทนต่อข้า”อวี๋โหรวได้ฟังแล้วก็พยักหน้าครุ่นคิด แต่ก็ยังรู้สึกมิเข้าใจอยู่ดี“แต่ว่า... เท่าที่ข้ารู้จักเฉินชี เขาสามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย เหตุใดจึงยอมอ่อนข้อให้เจ้าถึงเพียงนี้”“สำหรับเขาแล้ว เจ้าคงต่างจากคนอื่น”ลั่วชิงยวนยกยิ้มกล่าว “อาจจะใช่”นางคิดว่าความแตกต่างที่ว่านั้นน่าจะเป็นเพราะโอสถจตุรธาตุเพียงแต่อาจเป็นไปได้ว่าโอสถจตุรธาตุออกฤทธิ์ต่อเฉินชีต่างจากออกฤทธิ์ต่อผู้อื่นเล็กน้อยถึงอย่างนั้นสภาพที่ฟู่เฉินหวนต้องเผชิญเมื่อก่อนนั้นก็มิค่อยพบเจอในหมู่คนอื่น ๆขณะพูดคุยกันก็มาถึงตลาดมืดแล้วที่นี่อยู่ในหุบเขาที่รกร้างว่างเปล่านอกเมืองหลวง รถม้ามิสามารถเข้าไปมิ คนที่มาที่นี่ล้วนเดินเท้ามารอบด้านมืดมิดจนมองมิเห็นสิ่งใดบรรยากาศค่อนข้างวังเวงแต่เมื่อเดินผ่านหน้าผาเข้าไป สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือแสงไฟสว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1325

    มินานข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงทว่านายท่านมู่มิได้กล่าวโทษนักบวชระดับสูง เพราะมู่หยวนหยวนทิ้งจดหมายไว้แล้วจากไปเองเนื่องจากวันนี้อวี๋โหรวออกจากวังพอดี ทั้งสองจึงไปกินอาหารด้วยกันที่โรงเตี๊ยมบังเอิญเห็นประกาศตามหาวางอยู่บนโต๊ะ“หนึ่งแสนตำลึง นายท่านมู่ผู้นี้ช่างใจป้ำยิ่งนัก” อวี๋โหรวตกตะลึงกับเนื้อหาในประกาศลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเสียดาย “เขาสามารถเสนอเงินได้ถึงหนึ่งแสนตำลึง เหตุใดยังต้องส่งมู่หยวนหยวนเข้าวัง แม้ว่าเขาจะส่งนางเข้าวังได้ แต่อาจจะมิได้มากถึงหนึ่งแสนตำลึงด้วยซ้ำ”อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คิดว่านายท่านมู่คงต้องการชื่อเสียงเกียรติยศ และต้องการเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ แต่ก็มิพอใจที่จะอยู่ในอันดับสุดท้าย”ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ อวี๋โหรวก็เกิดความสับสนขึ้นมา จึงถามว่า “แต่เขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามู่หยวนหยวนจะนำชื่อเสียงเกียรติยศมาให้เขาได้?”ลั่วชิงยวนก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้บางทีตระกูลมู่อาจจะมีความลับอื่นซ่อนไว้ก็เป็นได้“ประเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว เราก็ไปหาบัวถวายกัน ข้าได้ข่าวมาว่ามีคนครอบครองบัวถวาย”“มิได้นำมาขายอย่างเปิดเผย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1324

    คืนต่อมา ลั่วชิงยวนนำรถม้ามาจอดรออยู่มิไกลจากหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลมู่ตามเวลา แล้วกำชับโฉวสือชีให้ดูแลรถม้าจากนั้นก็แอบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลมู่เพื่อรับมู่หยวนหยวนมู่หยวนหยวนได้ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ ในจดหมายเขียนว่า นางมิต้องการอยู่ในคฤหาสน์อีกต่อไป และแสดงเจตจำนงว่ามิต้องการเข้าวังด้วยจากนั้นก็แอบมารอคอยลั่วชิงยวนอยู่ตรงมุมกำแพงอย่างเงียบเชียบเนื่องจากคำพูดของเวินซินถงที่บอกแก่นายท่านมู่ นายท่านมู่จึงให้ความสำคัญอย่างมาก เขาเพิ่มผู้คุ้มกันมากมายที่ด้านนอกเรือนของมู่หยวนหยวนลั่วชิงยวนใช้เวลาอยู่สักพักจึงสามารถแอบเข้าไปยังมุมด้านนอกเรือนของมู่หยวนหยวนได้“ท่านมาแล้ว” มู่หยวนหยวนตื่นเต้นยิ่งนักลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบ จากนั้นมอบอาภรณ์บุรุษให้นาง “รีบใส่เสีย ข้าจะได้พาเจ้าไป”มู่หยวนหยวนรีบเปลี่ยนชุดทันใดลั่วชิงยวนพานางปีนข้ามกำแพงท่ามกลางความมืด หลบหลีกผู้คุ้มกันที่เดินตรวจตรา แล้วหลบหนีออกจากคฤหาสน์ตระกูลมู่จนกระทั่งมาถึงมุมถนนก็รีบขึ้นรถม้ามู่หยวนหยวนยังคงมองกลับไปด้วยความหวาดหวั่น เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวไปยังประตูเมือง ในใจของนางก็บังเกิดความคาดหวัง“พวกเราจะออกไปได้แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1323

    “เรื่องอันใด?”ลั่วชิงยวนเอ่ยถึงเรื่องสำคัญ “บอกภายนอกไปว่าเจ้าแก้ไขปัญหาของตระกูลมู่ครั้งนี้ได้ และยังแก้ปัญหาเรื่องสำนักเทียนฉยงได้ด้วย ข้าจะมิแย่งความดีความชอบกับเจ้า”“และจะมิเปิดเผยความจริงให้คนอื่นรู้”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินซินถงก็ตกตะลึง พลันมองนางด้วยความมิอยากจะเชื่อลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “แต่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเหลือ”“ข้าต้องการส่งมู่หยวนหยวนออกจากเมืองหลวง ออกไปจากตระกูลมู่”“นี่เป็นสิ่งที่ข้ารับปากนางไว้”“เลยต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”เมื่อเวินซินถงได้ฟังดังนั้นก็ยิ่งตกตะลึง จากนั้นก็ถามว่า “นี่คือวิธีที่ท่านแก้ปัญหาเรื่องสำนักเทียนฉยงหรือ? ท่านทราบความจริงแล้วหรือ?”นี่แหละคือวิถีของศิษย์พี่น่าเสียดายที่นางไม่มีความสามารถแข็งแกร่งเท่าศิษย์พี่ จึงทำให้นางมีไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้“ใช่” ลั่วชิงยวนมิได้ปิดบัง“บางครั้งการใช้กำลังก็มิสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้ารับประกันว่าตนเองจะชนะหรือพ่ายแพ้”“โดยเฉพาะกับสิ่งที่ร้ายกาจอย่างสำนักเทียนฉยง หากถูกพวกมันตามรังควานก็ต้องเจอไปชั่วชีวิต และการรับมือกับพวกมันจะยิ่งยากขึ้น”ลั่วชิงยวนกำชั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1322

    เวินซินถงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจร่างทั้งร่างแข็งทื่อไปหมด“เจ้ารู้ได้อย่างไร...”ดวงตาลั่วชิงยวนฉายแววเย็นชา “เข้าไปคุยกัน”เวินซินถงตะลึงงัน มือที่กำลังบีบคอลั่วชิงยวนค่อย ๆ คลายออกจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนลั่วชิงยวนก็พลิกตัวลุกขึ้นตามเซี่ยหลิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นดังนั้นก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว มองไปยังเวินซินถง “ท่านนักบวชระดับสูง!”เขาต้องการเตือนท่านนักบวชระดับสูงว่าอย่าใจอ่อนเวินซินถงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้ามีเรื่องจะถามนาง”“พวกเจ้ามิต้องตามมา”กล่าวจบ นางก็พาลั่วชิงยวนเข้าไปในห้องเพียงลำพังหลังจากปิดประตูแล้วเวินซินถงก็มองนางด้วยสายตาหวาดระแวง “เจ้าได้ยินชื่ออาถังมาจากที่ใด”นี่เป็นชื่อที่ศิษย์พี่ตั้งให้นาง มีเพียงศิษย์พี่และท่านอาจารย์เท่านั้นที่เคยเรียกนางด้วยชื่อนี้แล้วลั่วชิงยวนได้ยินมาจากที่ใด?ลั่วชิงยวนตัดสินใจตั้งแต่วินาทีที่เอ่ยชื่อนี้ออกมานางมิอาจควบคุมเวินซินถงได้จริง ๆ แต่ลั่วเหลาทำได้!วันนี้เวินซินถงตั้งใจจะสังหารนาง จนถึงกับสังหารคนไปก่อนแล้วสองชีวิตแต่นางมิเพียงแต่จะตายมิได้เท่านั้น ยังต้องทำตามที่รับปากฉีหงและมู่หยวนหยวนไว้ให้สำเร็จด้วยมีเพียงต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1321

    “ลั่วชิงยวน!” เวินซินถงเดือดดาลยิ่งนักนางยกมือขึ้นตบลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนถอยหลังในทันที แล้วยกมือขึ้นป้องกัน ต่อสู้กับเวินซินถงหลายกระบวนท่าทันใดนั้นเซี่ยหลิงก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับเหล่าผู้คุ้มกันที่เข้ามาล้อมไว้ลั่วชิงยวนต่อต้านอย่างสุดกำลัง ต่อสู้กันอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ถูกเวินซินถงกดไหล่จับตัวไว้ได้อย่างแน่นหนา“วันนี้มิว่าอย่างไรข้าก็จะมิปล่อยเจ้าไป! ต่อให้เฉินชีมาก็ไร้ประโยชน์!”“เซี่ยหลิง ลงมือ!”เวินซินถงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ “ปากท่านนักบวชระดับสูงบอกว่ามิกลัวเฉินชี เหตุใดจึงให้เซี่ยหลิงลงมือ หากข้าตาย เฉินชีจะได้มาแก้แค้นเซี่ยหลิง มิแก้แค้นท่านใช่หรือไม่?”คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเวินซินถงและเซี่ยหลิงแปรเปลี่ยนไปเวินซินถงเหมือนถูกเปิดโปง คว้าคอนางอย่างแรงด้วยความเดือดดาล “ดี หากเจ้าอยากตายด้วยน้ำมือข้า ข้าก็จะสนองให้!”เวินซินถงบีบคอลั่วชิงยวนอย่างแรงเส้นเลือดที่หน้าผากลั่วชิงยวนปูดโปน ความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางตาแดงก่ำนางจับมือของเวินซินถงไว้แน่น แล้วกัดฟันออกแรงเหวี่ยงเวินซินถงลงกับพื้นลั่วชิงยวนมิลังเล กระโจนเข้าไปคร่อมเวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1320

    ลั่วชิงยวนไปหาโฉวสือชี ให้เขาจัดเตรียมรถม้าและสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินทางอีกทั้งยังวางแผนเส้นทาง หลังจากออกจากเมืองหลวงแล้วควรไปที่ใด จึงจะสามารถหลบหนีการติดตามของคนตระกูลมู่ได้ดีที่สุดหลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว ลั่วชิงยวนก็กลับไปยังบ้านตระกูลมู่และตอนนี้ผู้ที่รอคอยอยู่ในเรือนก็คือเวินซินถงและเซี่ยหลิงอีกทั้งยังมีผู้คุ้มกันอีกหลายสิบคนเวินซินถงนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยปากอย่างเย็นชาด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ถึงเวลาที่จะต้องทำตามสัญญาแล้ว”ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย มิเข้าใจความหมายของเวินซินถงนางกล่าวอย่างเย็นชา “ในเมื่อท่านนักบวชระดับสูงมาถึงที่นี่แล้ว ก็น่าจะเห็นว่าปัญหาของตระกูลมู่ได้รับการแก้ไขแล้ว”“ไม่มีคนของสำนักเทียนฉยงแล้ว”“หากจะต้องทำตามสัญญา ก็ควรเป็นท่านนักบวชระดับสูงที่ต้องทำตาม”“เหตุใดจึงทำราวกับจะลงโทษข้า?”เวินซินถงลุกขึ้นจากเก้าอี้ หัวเราะเบา ๆ “ใช่ สำนักเทียนฉยงไม่มีแล้ว”“แต่ข้าเป็นคนทำ เจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไร?”เวินซินถงยกยิ้มอย่างเย็นชา สายตาเย็นเยียบมองลั่วชิงยวน ในดวงตายังมีรอยยิ้มเมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงนางคาดมิถึงว่าเวินซินถงจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1319

    “อีกอย่างคือสำนักเทียนฉยงก็ไม่ใช่พวกดีอะไร หากมู่หยวนหยวนข้องแวะกับสำนักเทียนฉยงจะมีจุดจบเช่นไร เจ้าต้องคิดให้ดี”ลั่วชิงยวนอยากช่วยเหลือพวกเขาแต่สำหรับสถานการณ์ของฉีหง นางก็ไร้ความสามารถเขาใช้ตัวเขาเองเป็นเครื่องสังเวย หลอมรวมเข้ากับวงแหวนแห่งเวท เมื่อออกจากสภาพแวดล้อมนี้ พลังก็จะอ่อนแอลงมากมู่หยวนหยวนกลับยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าสามารถปกป้องตนเองได้”“และจะปกป้องเขาด้วย”เมื่อเห็นสายตาแน่วแน่และเปี่ยมด้วยความหวังของมู่หยวนหยวน ลั่วชิงยวนก็สะเทือนใจบางทีเพียงแค่ได้อยู่กับคนที่รัก อุปสรรคใด ๆ ก็มิน่าหวาดกลัวนี่ทำให้ลั่วชิงยวนเจ็บปวดใจอดมิได้ที่จะนึกถึงฟู่เฉินหวนสุดท้ายแล้วเขากับนางก็ดูเหมือนจะไม่มีจุดจบที่ดี หรือว่ามิควรพบเจอกันตั้งแต่แรกเริ่มกันแน่ ช่างเป็นโชคชะตาที่เล่นตลกมิให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน แต่กลับจัดให้พวกเขาได้พบกันเมื่อได้สติ ลั่วชิงยวนก็ข่มความเจ็บปวดในใจ และกล่าวกับฉีหง “เจ้าต้องออกจากคฤหาสน์ตระกูลมู่ไปก่อนสองวัน เพื่อให้แน่ใจว่าที่นี่ไม่มีสิ่งชั่วร้ายอยู่ที่นี่อีก”“ข้าจะให้คนไปเตรียมรถม้าและอาหาร สองวันให้หลัง ข้าจะส่งมู่หยวนหยวนออกจากเมือง”“เส้นทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1318

    “ข้ามิได้เห็นแก่ตัวแล้วต้องการครอบครองนางแต่เพียงผู้เดียว และมิได้มิคำนึงถึงชื่อเสียงของนางแล้วจะพานางหนีตามไป”“แต่เป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยในวังได้ส่งมือสังหารมาลอบสังหารนางตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”“แต่ถึงแม้บิดาของนางจะเห็นหลักฐานที่ข้ามอบให้ก็ยังมิยอมเชื่อ ยืนกรานที่จะให้นางเข้าวังไปเสี่ยงชีวิต เพื่อแสวงหาสิ่งที่เลื่อนลอยเพื่อตระกูล”ลั่วชิงยวนจดสิ่งที่ฉีหงพูดลงบนกระดาษทีละคำขณะที่ให้มู่หยวนหยวนดูก็ถามว่า “เจ้าเป็นคนของสำนักเทียนฉยงหรือ?”ฉีหงตอบ “มิใช่”“ข้าถูกบีบคั้นจนไร้ทางออก สุดท้ายจึงจำต้องเข้าร่วมสำนักเทียนฉยง มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถปกป้องหยวนหยวนได้”“คนที่ข้าสังหาร ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์สักคน”“พวกเขาปลอมแปลงข่าวสาร หลอกลวงหยวนหยวนและหลอกลวงข้า”“เมื่อวางวงแหวนแห่งเวทแล้ว หยวนหยวนออกไปมิได้ พวกเขาก็พยายามหาทางนำหยวนหยวนออกไปเพื่อส่งเข้าวัง”“ข้าทำได้เพียงเท่านี้ สังหารคนตระกูลมู่ให้สิ้น หยวนหยวนจึงจะเป็นอิสระ”“แต่ข้าคาดมิถึงว่า พวกเขาจะเชิญนักบวชระดับสูงมา”“นักบวชระดับสูงไร้ความสามารถ กลับเป็นเจ้าที่มองทะลุภาพลวงตาได้!”เมื่อกล่าวจบ ฉีหงก็ข่มขู่ “หากเจ้าคิด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status