공유

บทที่ 393

작가: หว่านชิงอิ๋น
ซูโหยวไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้แล้วถามว่า “อาการบาดเจ็บขององค์ชายห้าเป็นอย่างไรบ้าง? ดีขึ้นหรือไม่ขอรับ?”

หมอกู้ตอบว่า “หลังจากใช้โอสถชั้นเลิศ พระองค์ก็เกือบจะหายดีแล้ว แต่ก็ยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่ตลอดและต้องใช้เวลาในการพักฟื้น”

“คราที่พระองค์ไม่ได้สติก็เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องอาการบาดเจ็บของพระชายา มิทราบว่าพระชายาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

ซูโหยวตอบว่า "หมอกู้ พระชายาหาได้เป็นอันใดไม่ ได้โปรดทูลองค์ชายห้าว่าขออย่าได้ทรงเป็นกังวล มิฉะนั้นก็รังแต่จะหาเรื่องใส่ตน"

หลังจากซูโหยวพูดจบก็หันหลังเดินจากไป

ลั่วชิงยวนลดฝีเท้าแล้วรีบจากไป

นางซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความมืดมิด รอจนกระทั่งซูโหยวเดินจากไปก่อนจะย้อนกลับมาที่เรือนของตน

พลางรู้สึกสะเทือนใจอย่างถึงที่สุด

ฟู่อวิ๋นโจวได้รับบาดเจ็บเช่นนั้นหรือ?

มิน่า หลายวันมานี้นางจึงไม่เห็นเขาเลย

เขาถูกตัดนิ้วไปข้างหนึ่งใช่หรือไม่ หรือว่าฟู่เฉินหวนจะถูกใส่ความจนต้องโทษประหาร พวกเขาจึงตัดนิ้วของฟู่อวิ๋นโจวเพื่อข่มขู่ไทเฮาให้ปล่อยตัวเขา?

หลังจากครุ่นคิดเรื่องนั้นดูแล้ว นี่คือความเป็นไปได้เพียงประการเดียว

ภายนอกดูเหมือนฟู่อวิ๋นโจวกำลังพักฟื้นจาก
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 394

    "ข้าจะไปกับท่านด้วย" ซ่งเชียนฉู่กางร่มแล้วออกจากตำหนักไปพร้อมกับลั่วชิงยวนและจือเฉา ลั่วชิงยวนมาที่หอมหาสมบัติ หอมหาสมบัติยังคงเปิดกิจการตามปกติ เรื่องลูกแก้วหงส์เพลิงถูกขโมยหาได้พัวพันหรือส่งผลต่อกิจการของพวกเขาแต่อย่างใดไม่ เมื่อลั่วชิงยวนมาถึง ผู้ดูแลหอมหาสมบัติมองแวบเดียวก็จำพวกนางได้จึงรีบกุลีกุจอเข้าไปหา “พระชายา ท่านประสงค์สิ่งใดหรือขอรับ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยตามตรง “อืม เรื่องเป็นเช่นนี้นะ อีกเดือนก็จะเป็นวันเกิดของบิดาข้าแล้ว ในฐานะที่เป็นบุตรี ข้าอยากจะทำให้ท่านประหลาดใจสักหน่อย ดังนั้นข้าจึงมาเลือกของกำนัลที่หอมหาสมบัติ” ที่แท้ก็มาซื้อของนี่เอง ผู้ดูแลถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วรีบเชื้อเชิญลั่วชิงยวนเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อยู่ชั้นบน จากนั้นก็รีบยกน้ำชามาให้ด้วยท่าทีกระตือรือร้น จากนั้นเขาก็เลื่อนภาพเขียนกองโตให้พลางกล่าวว่า “นี่คือสินค้าในร้านของเรา มีอยู่หลายแบบเลยขอรับ หากท่านชอบชิ้นไหน ข้าน้อยจักได้ไปเอามาให้ท่าน” ลั่วชิงยวนเลือกส่ง ๆ แล้วดึงภาพเขียนออกมาม้วนแล้วม้วนเล่า นางเลือกภาพเขียนออกมาได้กว่าสามสิบม้วน “พระชายา ท่านเลือกออกมาตั้งหลายม้วน ท่านอยากดูทีละม้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 395

    ”ข้าวของพวกนี้ขายหมดเมื่อไหร่ พระชายาก็มารับเงินได้เลยขอรับ!” ลั่วชิงยวนพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ข้ายังต้องตรวจสอบแล้วทำตำหนิของข้าวของพวกนี้สักหน่อย รบกวนเถ้าแก่เอาหมึกกับพู่กันมาให้ข้าที” ถึงแม้ว่ายังมิได้จ่ายเงิน ทว่าเถ้าแก่ก็ไม่กลัวสักนิด อย่างไรเสียนี่ก็คือพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการและบุตรีของอัครเสนาบดี ดังนั้นนางย่อมไม่มีทางเบี้ยวจ่ายอยู่แล้ว จากนั้นเถ้าแก่ก็สั่งให้คนเอาหมึกกับพู่กันมาแล้วหันหลังเดินจากไป ลั่วชิงยวนยกแจกันขึ้นมาดูแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "จือเฉา ไปซื้อของให้ข้าที" จือเฉาเข้ามาหาแล้วลั่วชิงยวนก็กระซิบสั่งการบางอย่าง หลังจากนั้นจือเฉาก็เดินออกไป จากนั้นลั่วชิงยวนก็ใช้พู่กันวาดอักขระเวทลงบนก้นแจกัน ซ่งเชียนฉู่ผู้ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างจึงนั่งกินของว่างพลางถามว่า “ข้าวของที่ท่านซื้อให้ลั่วไห่ผิง จักนำพาโชคร้ายมาให้เขากระนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “มิใช่เพียงโชคร้ายเท่านั้นหรอก” ซ่งเชียนฉู่เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็นึกขึ้นได้ “ดูเหมือนอักขระเวทพวกนี้ของเจ้าจะแตกต่างกันไปตามแต่ข้าวของแต่ละชิ้นหนา” ลั่วชิงยวนผงกศีรษะ “แจกันตั้งพื้นวางอยู่มุมห้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 396

    เขาสวมเสื้อคลุมให้นาง ความใกล้ชิดเช่นนั้นทำเอาลั่วชิงยวนหัวใจเต้นรัว “อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดี ระวังอย่าให้จับไข้เอาได้” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนฟังดูเฉยชาและหาได้มีวี่แววของความห่วงใยสักกระผีก แต่คำพูดกับการกระทำกลับเผยให้เห็นความห่วงใยออกมาอยู่บ้าง สิ่งนี้ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกขึ้นมาทันที นางรู้สึกไม่สบายใจที่ฟู่เฉินหวนเป็นเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนยังคงเดินเข้ามาหาพลางกล่าวว่า “ฟ่านซานเหอถูกปล่อยตัวแล้ว” “คำสารภาพของท่านมหาราชครูถูกส่งมาที่ราชสำนักแล้ว ฝ่าบาททรงมีพระบัญชาให้เรื่องยุติลงเพียงเท่านี้ เนื่องจากท่านมหาราชครูกรำงานหนักและสร้างคุณูปการเอาไว้มากมาย ท่านมหาราชครูจึงไม่ต้องโทษและตระกูลของท่านก็มิต้องพลอยต้องโทษไปด้วย" “อนุญาตให้เหล่าข้าราชบริพารไปส่งท่านมหาราชครูได้” น้ำเสียงที่ฟู่เฉินหวนเอ่ยฟังดูหนักอึ้งเป็นอย่างยิ่ง หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็รู้สึกตื่นตระหนก “ไยท่านจึงไม่ไต่สวนเพิ่มเติมเล่าเพคะ? จะปล่อยให้ผู้ที่บีบคั้นท่านมหาราชครูจนถึงแก่ความตายลอยนวลไปเช่นนั้นหรือ?” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนออกจะอับจนหนทางอยู่บ้าง “หลังจากผ่านไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 397

    ไฉนลั่วไห่ผิงจึงไม่เข้ามาน่ะหรือ? ก็เพราะเขาถูกขวางเอาไว้นอกประตูจวนมหาราชครูและมิได้รับอนุญาตให้เข้ามา ดังนั้นลั่วเยวี่ยอิงจึงต้องเข้ามาจุดธูปแสดงความเคารพ ลั่วชิงยวนหยิบธูปขึ้นมาเตรียมจุดไฟ ทันใดนั้นก็มีมือยื่นออกมาแย่งธูปไปจากมือของนาง เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่ที่ดวงตาบวมแดงจากการร้องไห้ กำลังจ้องมองนางด้วยความโกรธจัด “เจ้าฆ่าท่านตาของข้า ยังกล้ามาอีกรึ?! ข้ามิยอมให้เจ้าจุดธูปแสดงความเคารพท่านตาของข้าหรอก! ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!” ลั่วอวิ๋นสี่โกรธจัด ลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่อีกทางหนึ่งจุดธูปในเตาแล้วเหลือบมองทางหางตา จากนั้นก็ค่อย ๆ ยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ ลั่วชิงยวนมองมาที่นางก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เกรงว่าลั่วเยวี่ยอิงคงจะพูดเรื่องเหลวไหลกับลั่วอวิ๋นสี่อีกแล้ว ทว่าลั่วอวิ๋นสี่ก็โง่งมมากพอที่จะหลงเชื่อถ้อยคำของลั่วเยวี่ยอิง "ลั่วอวิ๋นสี่ เจ้าคิดว่าการที่เจ้าก่อเรื่องขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วรึ?" ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาคมกริบ ลั่วอวิ๋นสี่จ้องนางตาเขม็ง “แล้วเจ้าที่เอาแต่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงเล่า ทำเรื่องเหมาะสมแล้วกระนั้นรึ? ไสหัวออกไปจากที่น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 398

    ลั่วชิงยวนตั้งอกตั้งใจฟัง ลั่วหรงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาว่า “ตระกูลลั่วของพวกเราล่วงเกินผู้ใดสักคนเข้าแล้ว!” “เรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้น!” เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนนี้เข้า นางก็ถึงกับตัวสั่นสะท้าน "พวกเราไปล่วงเกินผู้ใดเข้าหรือเจ้าคะ?" ลั่วหรงส่ายหน้าแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ความนึกคิดของนางย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “เมื่อสามปีก่อน มีคนพานักพรตเต๋ารูปหนึ่งมาเยือนถึงหน้าประตูแล้วบอกว่าหลุมฝังศพของมารดาข้าตั้งอยู่ในจุดบอดของฮวงจุ้ย เรียกได้ว่าอาจจะส่งผลต่อชะตาของตระกูลลั่วของพวกเราทั้งตระกูลก็ว่าได้” “พวกเขาเกลี้ยให้พวกเราย้ายหลุมฝังศพแล้วขายที่ดินให้” “บิดากับข้าไม่เชื่อเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเราจึงไม่ยอมตอบตกลง ต่อมาก็เกิดเรื่องขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าและมีคนคิดจะซื้อที่ดินของพวกเรา” “พวกเขาถึงขั้นบอกว่าจะช่วยพวกเราย้ายหลุมศพไปยังสถานที่ที่มีฮวงจุ้ยดี ๆ อีกด้วย” “ข้ารู้สึกว่าผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้เป็นคนเดียวกัน ข้ามิรู้ว่าพวกเขามีเจตนาอันใดกันถึงอยากได้ที่ดินจนถึงขั้นยอมขุดหลุมฝังศพมารดาของข้า”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 399

    ดูเหมือนว่านางจะคาดเดาถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น การที่ลั่วไห่ผิงไม่ยอมช่วย มิใช่เพราะเขาไม่แจ้งชัดในข้อกล่าวหาของฟ่านซานเหอ แต่เป็นเพราะเขาเกรงว่าตำแหน่งหน้าที่การงานของตนจะติดร่างแหไปกับผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง “อีกไม่กี่วัน เมื่อพวกเราย้ายหลุมฝังศพ เจ้าก็มากับข้าสิ” ยามนี้ลั่วหรงเพียงคิดจะปกป้องบุตรีทั้งสองคนให้มากที่สุดเท่าที่พอจะเป็นไปได้ ส่วนเรื่องที่เหลือย่อมสามารถรอมชอมกันได้ ลั่วชิงยวนพยักหน้าพลางลอบกำหมัดแน่น ตระกูลเหยียน! นี่หาใช่ครั้งแรกไม่ที่นางลงมือจัดการกับตระกูลเหยียน เรื่องทุกอย่างที่นางประสบพบเจอล้วนเกี่ยวพันกับตระกูลเหยียนเป็นเงาตามตัว นางคิดว่าคงไม่อาจปิดบังได้อีกแล้ว นางจะใช้ตัวตนของลั่วชิงยวนและคงสถานะพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการต่อไป! นางเคยคิดว่าขอเพียงอยู่ให้ห่างจากฟู่เฉินหวนก็น่าจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้ แต่นางกลับหารู้ไม่ว่า ได้เข้ามาพัวพันในวังวนเช่นนี้จนยากจะไถ่ถอน! นางเขียนเทียบโอสถแล้วให้คำแนะนำแก่ท่านอาลั่วหรงสักสองสามคำ จากนั้นก็ออกจากจวนมหาราชครู อารมณ์หนักหน่วงไปตลอดทาง นางสัมผัสได้ถึงอำนาจอันเล้นพ้นของตระกูลเหยียน ถึงแม้ว่านางจะยัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 400

    ฟู่เฉินหวนมิตอบคำ ทว่ากลับกระตุ้นม้าขึ้นเขา ตลอดทางยังหลงเหลือเศษกระดาษเงินกระดาษทองที่เผาไหม้แล้วอยู่มากมาย ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง นี่คือทางไปหลุมฝังศพท่านมหาราชครูในวันนี้ เขากำลังจะไปเยี่ยมหลุมฝังศพของท่านมหาราชครูกระนั้นหรือ? ฟู่เฉินหวนควบม้าห่างออกไปไม่ไกลจากหลุมฝังศพของท่านมหาราชครูตามทีคาดคิดเอาไว้ ทันใดนั้นเขาก็ยื่นแขนออกมาโอบรอบเอวของลั่วชิลงยวน นางรีบขืนตัวพลางกล่าวว่า "หม่อมฉันลงเองได้!" ฟู่เฉินหวนปล่อยนาง จากนั้นก็พลิกตัวลงจากหลังม้าก่อน ลั่วชิงยวนคิดจะกระโดดลงอย่างสง่างาม แต่เมื่อคำนึงถึงรูปร่างของตนเองก็ตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยตัวตนออกมา นางจึงคว้าอานม้าแล้วค่อย ๆ ลงจากหลังม้า ระหว่างที่นางย่ำลงบนหิมะก็ซวนเซไปบ้าง ฟู่เฉินหวนเอื้อมมือออกไปช่วยประคองนางเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ลั่วชิงยวนกลับไม่ยอมให้เขาแตะต้องแล้วรีบหลบหลีกไป เกรงว่าเขาคงเห็นเข้าแล้ว นางจึงแสร้งต้องลมเย็นจนเริ่มไอขึ้นมา ฟู่เฉินหวนมองนางด้วยสายตาล้ำลึกแล้วจูงม้าไปข้างหน้า ลั่วชิงยวนตามเขามาที่หลุมฝังศพของท่านมหาราชครู ม้าค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้หลุมฝังศพของท่านมหาราชครู จากนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 401

    จือเฉาพยักหน้าแล้วปฏิบัติตามคำสั่งของนาง เมื่อประตูปิดลง ลั่วชิงยวนก็หยิบยันต์ออกมาเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลี จากนั้นก็ยกมือโปรยเถ้าธุลีให้เป็นวงลงบนโต๊ะ นางกำลังจะแกะโซ่อักขระออก ทันใดนั้นก็มีเงาดำกระโจนออกมา เล็บแหลมคมกับนิ้วมือซีดขาวปรากฏต่อหน้าต่อตาลั่วชิงยวนแล้วมุ่งเป้ามาที่นางทันที แววตาของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น และดึงโซ่อักขระกลับทันใด เผยให้เห็นเฉพาะร่างท่อนบนของเงาดำ ลั่วชิงยวนคว้าจับส่วนที่เหลืออยู่ของโซ่อักขระเอาไว้แน่น เงาดำแยกเขี้ยวกางกรงเล็บพลางคำรามใส่นาง เสียงแหลมทะลุทะลวงราวกับจะแผ่ซ่านเข้าไปในเยื่อแก้วหู เผยให้เห็นความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง ลั่วชิงยวนรู้ว่าอีกฝ่ายไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง เงาร่างดังกล่าวได้แต่ปลดปล่อยความแค้นอันแรงกล้าและต่อสู้อย่างไร้เหตุผล หุ่นเชิดที่ถูกผู้ใดสักคนพรากเอาสติสัมปชัญญะไป ย่อมขาดสติจนไม่สามารถสื่อสารได้ จนเหลือเพียงแค่ความสามารถในการสังหารคนเท่านั้น ลั่วชิงยวนได้ตระเตรียมห้องเอาไว้โดยถี่ถ้วนแล้ว นางคว้าข้าวสารกำมือหนึ่งขึ้นมาวาดสัญลักษณ์แห่งการชำระล้างทั้งสามรูปแบบแล้วใส่ลงไปในถัง จากนั้นนางก็ค่อยคว้าข้าวสารกำม

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status