Share

บทที่ 372

Author: หว่านชิงอิ๋น
“หุ่นเชิดที่นำออกมานั้นน่าสงสัยนัก ควรเก็บไว้ในวังหลวงเป็นการชั่วคราวเพื่อสอบสวนต่อไป"

ควรเก็บไว้ในวังหลวงเป็นการชั่วคราวเพื่อสอบสวนต่อไป?

สอบสวนนางหรือ?

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกมีลางสังหรณ์

ฟู่เฉินหวนก็ประหลาดใจเช่นกัน

หลังจากที่ทุกคนลุกขึ้นแล้ว ไทเฮาก็ส่งข้าหลวงเตรียมนำลั่วชิงยวนออกไป

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต้องใช้เวลานานเท่าใดในการสืบสวนจึงจะปล่อยนางออกจากวังได้?”

ไทเฮายิ้มจาง ๆ เอ่ยว่า “นี้เป็นรับสั่งจากไท่ซ่างหวง อ๋องผู้สำเร็จราชการหมายต่อต้านเช่นนั้นรึ?”

“การสืบสวนใช้เวลานานเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับเรารู้ความจริงเมื่อใด เช่นนั้นแล้วก็จักปล่อยนางไป หากราบรื่นว่องไว คงหนึ่งหรือสองวันกระมัง”

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมิเอ่ยคำใด เขาทำได้เพียงปล่อยให้ลั่วชิงยวนถูกพาตัวไปเช่นนั้น

“พระชายา เชิญขอรับ!” ขันทีทำท่าทีผายมือเชิญ

หัวใจของลั่วชิงยวนจมลง นางหันไปมองฟู่เฉินหวน

เขาจะปล่อยให้ผู้ใดมาพาตัวนางไปก็ได้แบบนี้เช่นนั้นหรือ...

ฟู่เฉินหวนยังคงนิ่งเงียบ

หัวใจของลั่วชิงยวนหนักอึ้ง นางยอมรับผลของสิ่งที่นางเลือกทำแล้ว

ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเดินตามขันทีไป

ฟู
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 373

    “มันไม่ใช่ของข้า” ลั่วชิงยวนกล่าวหนักแน่นใต้เท้าฟางยิ้มอย่างเย็นชา "ลั่วชิงยวน อย่าหวังว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการจักมาหาเจ้าเลย คราวนี้เป็นรับสั่งจากไท่ซ่างหวง เรื่องนี้ต้องสืบส่วนอย่างถี่ถ้วน เจ้าก่ออาชญากรรม เจ้าก็ต้องให้ความร่วมมือและสารภาพ!"“หากเจ้าสารภาพตรงไปตรงมา เช่นนั้นอาจมีการผ่อนปรนโทษให้เจ้า!”วาจาแฝงนัยข่มขู่เช่นนี้ ทำให้ผู้ที่ได้ยินต้องสั่นสะท้านฟู่เฉินหวนจะมิมาหานาง แม้นางตายก็ไม่มีผู้ใดมาช่วยลั่วชิงยวนตะคอกอย่างเย็นชา “ข้ามิผิด สิ่งที่ข้าพูดออกไปวันนี้ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น! อาชญากรรมรึ? ผ่อนปรนโทษรึ?"“เจ้าอยากให้ข้าสารภาพเช่นไรก็บอกมาให้ชัดเจนเลยมิดีกว่ารึ?”นางรู้ว่าครั้งนี้นางออกไปมิได้ง่าย ๆ แน่น้ำเสียงของใต้เท้าฟางเย็นชาและพูดช้า ๆ “ทุกคนต่างเห็นเหตุการณ์วันนี้ชัดเจนแล้ว ลางร้ายนั้นมุ่งไปที่อ๋องผู้สำเร็จราชการ”“เจ้าแค่ต้องสารภาพมาตามตรงว่า หุ่นเชิดนี้เป็นของเจ้าหรือไม่ หากเจ้าสารภาพ เช่นนั้นเจ้าก็ออกจากวังได้”ประโยคนี้ทำลั่วชิงยวนสนใจนักคนพวกนี้ยังมิยอมล้มเลิกใส่ร้ายฟู่เฉินหวนตราบใดที่นางบอกว่าหุ่นเชิดนี้เป็นของนาง และนางโกหกเพื่อช่วยฟู่เฉินหวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 374

    ใต้เท้าฟางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ อย่างไรแล้วนางก็เป็นเพียงสตรี มิอาจทนความเจ็บปวดได้ดูเหมือนว่าคืนนี้จะสามารถนำคำให้การของประจักษ์พยานไปรายงานได้แล้ว“หากเจ้าสารภาพมาก่อนหน้านี้ก็คงดีกว่าแล้ว ไฉนต้องมาทนทุกข์ทรมานโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ด้วยเล่า?”ใต้เท้าฟางนั่งบนเก้าอี้แล้วหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนคำให้การของนาง “ว่ามาสิ”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชาประปราย เอ่ยเสียงเยือกเย็น “หุ่นเชิดนั่นมิใช่ของข้า!”มือของใต้เท้าฟางที่กำลังจะเขียนหยุดชะงักเล็กน้อย ใบหน้าของเขาซีดลง เขาวางพู่กันลงแล้วยืนขึ้นด้วยโทสะ พลันตะโกน “ทำต่อไป!”หยุดไปครู่หนึ่ง การหนีบไม้ก็กลับมาอีกครั้ง ความเจ็บปวดรุนแรงแผ่กระจายไปทั่วร่างจนถึงกระดูก เส้นเลือดปูด เหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั่วร่างหากนางพูดว่าหุ่นเชิดนั้นเป็นของนาง ไม่เพียงแต่ฟู่เฉินหวนจะต้องทนทุกข์ทรมาน นางเองก็คงไม่มีจุดจบที่ดีด้วยเช่นกันฟู่เฉินหวนต้องฆ่านางเป็นแน่!หากนางปฏิเสธต่อต้านต่อไป อย่างมากที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงทรมานนาง แต่มิอาจฆ่านางได้ คงจะเป็นการยากหากต้องให้คำอธิบายไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าใด แต่ความเจ็บปวดสาหัสยังคงทรมานยากจะทนไหวในที่สุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 375

    ขันทีและนางกำนัลทั้งหลายต่างถอยกลับไปทีละคนจักรพรรดิฟู่จิ่งหานซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ สะดุ้งเล็กน้อยและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “พี่สาม”“ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด?” ฟู่เฉินหวนถามพร้อมขมวดคิ้วฟู่จิ่งหานตกใจมาก “นางยังมิกลับไปรึ?”“ยัง!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่จิ่งหานก็ขมวดคิ้ว “ข้ามิรู้นางอยู่ที่ใด นางมิได้อยู่ในคุกเทียนเหลารึ?”ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงจริงจัง “ข้าไปหามาแล้ว ตำหนักโช่วสี่ข้าก็ไปมา แต่มิพบนาง!”“ซ่อนตัวลั่วชิงยวนเช่นนี้ พวกเขาต้องใช้วิธีทรมานนางให้สารภาพ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการ พวกเขาต้องสร้างเรื่องใหญ่และฆ่าข้าเป็นแน่!”ร่องรอยแห่งโทสะปรากฏระหว่างคิ้วของฟู่เฉินหวนฟู่จิ่งหานขมวดคิ้วพลางเริ่มคิด ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ฉายประกายขึ้น “เช้านี้เสินหลีบังเอิญเจอฟางจื่อจี้จากสำนักหอดูดาวหลวง ถามข้าหลวงแล้ว เขาบอกว่าเขามาจากพระตำหนักเป่ยหนิง”“หรือว่าลั่วชิงยวนอยู่ที่…”ได้ยินเช่นนี้ฟู่เฉินหวนก็หันกลับรีบเดินออกจากพระที่นั่งฉินเจิ้งไป“พี่สาม รอข้าด้วย!” ฟู่จิ่งหานก็รีบตามเขาไปฟู่จิ่งหานมิให้เหล่าบริพาลตามมา และรีบไปที่พระตำหนักเป่ยหนิงพร้อมกับฟู่เฉินหวนระหว่างทางฟู่เฉินหวนถามอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 376

    ในวินาทีที่อีกฝ่ายออกแรง ลั่วชิงยวนกัดฟันแน่น พริบตาก่อนที่ความเจ็บปวดจะมาถึง จู่ ๆ ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าร้อนรนส่งมา ตามด้วยเสียงตะลึง ใต้เท้าฟางคุกเข่าลงบนพื้นอย่างแรง และตะโกนเรียกจักรพรรดิอย่างกังวล ร่างที่เต็มไปด้วยไอสังหารตกสู่สายตา เขาเตะไปบนร่างขันทีที่กำลังจะดึงเล็บอย่างแรงจนกระเด็น วินาทีที่ถูกปล่อยออก ลั่วชิงยวนถอนหายใจโล่งอก จากนั้นหน้ามืดและสลบไปในทันที เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นมือทั้งสองของลั่วชิงยวน ดวงตาของเขาแดงก่ำขึ้นมา และเอ่ยเกรี้ยวกราด “ฟางจื่อจี้! ผู้ใดเป็นคนสั่งเจ้ากัน!” ใต้เท้าฟางคุกเข่าอยู่บนพื้น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “ไท่ซ่างหวงทรงพระบัญชา ให้พระชายาร่วมมือกับการสืบสวน แต่พระชายามิร่วมมือ กระหม่อมจึง…” ฟู่เฉินหวนที่เห็นฉากนี้ก็เดือดดาล ใช้ทัณฑ์โดยพลการ หนำซ้ำยังยกเสด็จพ่อออกมาอ้างอีก นี่มิใช่คำสั่งของเสด็จพ่อแม้แต่นิด! “มิให้ความร่วมมือแล้วสามารถใช้ทัณฑ์โดยพลการในวังงั้นหรือ? เหลวไหล!” ฟู่เฉินหวนตะคอกเกรี้ยวโกรธ ฟางจื่อจี้พูดแก้ตัวต่อ “กระหม่อมเองก็มิมีทางเลือก! เรื่องนี้ต้องมีผลสรุป เพราะเกี่ยวโยงไปถึงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ จำต้องตรวจสอบอย่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 377

    กลับถึงตำหนัก จือเฉาและแม่นมเติ้งออกมาต้อนรับอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นบาดแผลของลั่วชิงยวน พวกนางต่างตะลึงกันทั้งสิ้น และจะพยุงลั่วชิงยวนกลับเรือนทันที เบื้องหลังกลับมีเสียงของฟู่เฉินหวนส่งมา “หนังสือหย่าข้าไม่มี แต่ข้าให้ความอิสระกับเจ้าเต็มที่” ฝีเท้าของลั่วชิงยวนชะงัก นางมิได้เอ่ยตอบ และเดินกลับไปในเรือนภายใต้การพยุงของจือเฉาและแม่นมเติ้ง จือเฉาตักน้ำมาชะล้างให้นาง เช็ดเลือดไปพร้อมน้ำตาไหลริน ราวกับตัวนางเองที่เจ็บปวดจากบาดแผล “พระชายา เหตุใดท่านจึงบาดเจ็บหนักเพียงนี้” แม่นมเติ่งมองแล้วก็รู้สึกบีบหัวใจเช่นกัน “พระชายา บ่าวไปเชิญหมอเจ้าค่ะ” แต่ขณะที่แม่นมเติ้งจะไปเชิญหมอ ในวังก็ได้ส่งหมอหลวงมาเสียแล้ว หมอหลวงรักษา จ่ายโอสถ และกำชับลั่วชิงยวนอย่างตั้งใจ ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนกำลังก้าวเดินไปมาอย่างร้อนรน เมื่อหมอหลวงมา เขาถามขึ้นอย่างรีบร้อน “อาการเป็นเช่นไร?” หมอหลวงเอ่ยตอบ “บาดแผลพระชายามิเบาเสียเลย หากอยากหายสิ้น ยังต้องการเครื่องยาสมุนไพรหายากอีกหลายชนิด แต่ภายในเมืองหลวง อาจหามิเจอพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่เฉินหวนได้ยิน ก็กล่าวตอบทันที “เจ้าเขียนเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้าต้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 378

    “เรื่องใดกัน?” จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี “วันนี้ท่านอ๋องเข้าวัง และสังหารใต้เท้าฟางที่ลงทัณฑ์พระชายาเจ้าค่ะ!” ได้ยินถึงตรงนี้ ในใจของลั่วชิงยวนตะลึง ใต้เท้าฟางตายแล้วหรือ? ฟู่เฉินหวนเป็นคนสังหารเขา ซ่งเชียนฉู่เอ่ยเสียงเย็น “ฆ่าก็ฆ่าเถอะ เจ้านี่สมควรตาย! ใช้บทลงโทษโดยพลการ หนำซ้ำท่านยังเป็นถึงพระชายาอ๋อง มันไม่ตายแล้วผู้ใดสมควรตายเล่า!” จือเฉาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจดุจไฟเผา “แต่เมื่อใต้เท้าฟางสิ้นใจ ลูกแก้วดวงตาบนเสาหงส์เพลิงที่หอบรรพบุรุษร่วงหล่นลงมา!” “บัดนี้ภายในวังวุ่นวาย! ได้ยินว่า… ท่านอ๋องถูกคุมขังเจ้าค่ะ!” ได้ยินดังนี้ สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปฉับพลัน “ว่ากระไรนะ?” “ดวงตาของเสาหงส์เพลิงรึ?” ลั่วชิงยวนคิดย้อนถึงเมื่อวานอย่างกะทันหัน เมื่อวานตอนเกิดเรื่อง ก็มีควันทมิฬแผ่ออกมาจากดวงตาของหงส์เช่นกัน ดูท่าดวงตานั้นคงถูกบางคนลงมือไว้! การตกหล่นของดวงตาดวงนี้ ย่อมเป็นเหตุผลที่คนประสงค์ร้ายเหล่านั้นเอาไว้จับตัวฟู่เฉินหวนอย่างมิต้องสงสัย “พระชายา ครั้งนี้ดูจะเรื่องใหญ่มาก ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” จือเฉาเป็นกังวลอย่างมาก คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่น นางเองก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 379

    แม้บางครั้งนางจะเกลียดฟู่เฉินหวนยิ่งนัก แต่อย่างไรเขาก็เคยช่วยนางไว้หลายครั้ง นางมิอยากให้เขาตาย ยิ่งมิอยากให้เขาตายเพราะการโดนใส่ร้าย …… มาถึงในวัง แม่ทัพฉินนำทาง ลั่วชิงยวนจึงได้พบกับจักรพรรดิฟู่จิ่งหาน ฟู่จิ่งหานกำลังยุ่งหัวหมุนกับเรื่องของฟู่เฉินหวน เมื่อเงยหน้าเห็นลั่วชิงยวน เขารู้สึกประหลาดใจมาก “เจ้ามาได้อย่างไร เมื่อเช้าพี่สามเพิ่งอุ้มเจ้าออกจากวังไป ไฉนเจ้าลงจากเตียงได้เร็วเช่นนี้?” ลั่วชิงยวนยื่นมือออกมา “ฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงบาดเจ็บที่มือ ส่วนอื่นมิได้ถูกลงโทษเพคะ” ฟู่เฉินหวนชะงัก “จริงด้วย ข้าว้าวุ่นเสียจนสับสนไปหมด” “แม่ทัพใหญ่ฉิน ท่านนำทางพระชายาอ๋องมา มีเรื่องใดรึ” แม่ทัพใหญ่ฉินเอ่ยตอบ “ฝ่าบาท พระชายามาเพื่อเรื่องของอ๋องผู้สำเร็จราชการพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแค่นำทางมา” “กระหม่อมขอตัวพ่ะย่ะค่ะ!”หลังแม่ทัพใหญ่ฉินจากไป ฟู่จิ่งหานมองไปทางลั่วชิงยวนทีหนึ่งด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “สถานการณ์ของพี่สามครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ เจ้ามาขอข้า ข้าเองก็มิสามารถปล่อยตัวเขาไปได้” จักรพรรดิคิดว่าลั่วชิงยวนมาเพื่ออ้อนวอนให้กับฟู่เฉินหวน ที่นางไม่รู้คือ ทั้งเมืองหลวงนี้ จักร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 380

    สิ่งนี้ช่างคุ้นตาเหลือเกิน! วัสดุของลูกแก้วนี้ นางเคยเห็นมาก่อน! จี้กิเลน! หินว่านเซี่ยง! วันนั้นนางเห็นมหาราชครูลั่วส่งจี้กิเลนให้กับลั่วไห่ผิงกับตา ของนี้ยื่นผ่านหน้านางไป นางเห็นอย่างชัดเจน หินเป็นสีเขียวใส ใสเสียจนไม่มีสิ่งแปลกปลอมแม้แต่นิด บริสุทธิ์ยิ่งกว่าหยกเสียอีก! หากมิเห็นจี้กิเลนวันนั้น นางคงไม่มีทางรู้ แต่ฟู่เฉินหวนบอกนาง จี้กิเลนนี้ทำมาจากหินว่านเซี่ยงที่สามารถหลอมแปรเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ใดก็ได้ และตัวหินจะไม่เสียหาย สิ่งนี้กระทั่งหนึ่งในหมื่นยังหายาก ดังนั้นจึงมีค่ามากเป็นพิเศษ ทั้งเมืองหลวง เกรงว่าคงมีแค่ในมือของมหาราชครูลั่ว! ยามนั้นนางคิดไม่ออกว่าลั่วไห่ผิงต้องกระทำความผิดที่หนักหนาเช่นไร จึงเดือดร้อนไปถึงจวนมหาราชครู บัดนี้ นางรู้แล้ว! ฟู่จิ่งหานเห็นสีหน้าของนางผิดปกติไป จึงเอ่ยถามอย่างอดมิได้ ”มีอะไรหรือ? สิ่งนี้มีอะไรประหลาดจริง ๆ หรือ?” อารมณ์ของลั่วชิงยวนหนักอึ้ง นางเอ่ยกับจักรพรรดิ “ลูกแก้วหงส์นี้ มิใช่ลูกแก้วหงส์เดิมเพคะ!” ได้ยินเช่นนี้ ฟู่จิ่งหานตะลึง “ว่าไงนะ? ของปลอมรึ?!” คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่น เขาคุกเข่าลงมาทันที “ฝ่าบาทโปรดให

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1289

    "ตอนนี้มิว่าท่านจะตรัสอะไรไปก็ไร้ประโยชน์”“ไม่มีใครสนใจหรอกเพคะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สีหน้าของฉินอี้และฮองเฮาเกาก็เปลี่ยนไปฮองเฮาเกาจ้องนางด้วยสายตาดุร้ายนางยิ้มเยาะ “ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากแล้วรึ? อย่าลืมที่ข้าพูดไว้สิว่า หากเจ้าพูดข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสีย!”จากนั้นนางก็ส่งสายตาเป็นนัยให้องครักษ์องครักษ์สองคนก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งจับไหล่ของลั่วชิงยวน อีกคนหยิบมีดขึ้นมาเตรียมตัวพร้อมลงมือฉินอี้ตกใจและครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรดีลั่วชิงยวนยังมิยอมแพ้ รอยยิ้มเย็นชาผุดขึ้นบนใบหน้าของนาง “องค์ชายใหญ่ทรงเคยคิดหรือไม่เพคะว่าเหตุใดวรยุทธ์ของท่านถึงหยุดนิ่งมิพัฒนาไปไหน?”“เหตุใดถึงเรียนรู้ได้ช้า แม้จะทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายสิบเท่า แต่ก็ยังมิสามารถเรียนรู้ได้เท่ากับที่คนอื่นทำได้”“นั่นมีเหตุผลอยู่เพคะ”“ที่จริงแล้ว ทั้งหมดมิใช่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ธรรมดาเพคะ”“แต่มีพิษชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า…”เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฉินอี้ก็ตกใจเป็นอย่างมากฮองเฮาเการีบกระชับเสื้อของนางด้วยความกังวล สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะพูดออกมาน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status