แชร์

บทที่ 336

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-18 16:00:01
“เซียนฉู่ สิ่งนี้เป็นสิ่งชั่วร้ายจริง ๆ ช่วงนี้ข้ามักพบเรื่องแปลก ๆ ข้ากำลังจะประสบภัยแล้วใช่หรือไม่?”

ใต้ตาของลั่วเยวี่ยอิงดำคล้ำ สีหน้าทรุดโทรม นางกำมือแน่น และเป็นกังวลอย่างมาก

ลั่วชิงยวนรับถุงหอมมา และพูดด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “สิ่งนี้ไอชั่วร้ายรุนแรงนัก จนกระทบไปถึงดวงชะตาของแม่นางนานแล้ว โชคดีที่ยังไม่สาย สิ่งนี้ข้าช่วยท่านจัดการเอง”

“หากแม่นางต้องการถุงหอม รอให้ข้าเสกมนตร์ขจัดสิ่งชั่วร้ายก่อน อีกเจ็ดวันท่านค่อยมาเอากลับไป”

ลั่งชิงยวนหลอกนางอย่างจริงจังต่อ

สัญลักษณ์สุริยันจันทราที่นางจับโดนผ่านถุงหอม ทำนางตื่นเต้นอย่างห้ามมิได้

ไม่นานนักนางก็จะสามารถเปิดสัญลักษณ์สุริยันจันทรา เพื่อดูว่าด้านในมีของอะไรได้แล้ว

บางทีนางอาจสามารถรู้ตัวตนของท่านแม่ได้

ลั่วเยวี่ยอิงพยักหน้า จากนั้นถามขึ้น “ข้าได้ยินว่าท่านเคยทำนายให้ฮูหยินแม่ทัพมาก่อน หลังจากนั้นโชคของท่านฮูหยินแม่ทัพก็ยิ่งอยู่ยิ่งดี”

“ท่านช่วยทำนายสิ่งใดดีต่อดวงของข้าให้ข้าบ้างได้หรือไม่?”

บัดนี้ ลั่วเยวี่ยอิงได้ลืมสิ่งที่เหยียนผิงเซียวมอบหมายไว้จนสิ้น

นางรู้สึกเพียงเซียนฉู่เก่งกาจเช่นนี้ บางทีนางอาจสามารถขอความช่วยเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 337

    “ท่านอ๋อง ของสิ่งนี้...” ลั่วเยวี่ยอิงค่อนข้างกังวล ก่อนหน้านี้นางบอกว่านี่เป็นของของแม่นาง บัดนี้นางกลับเอาของที่แม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตายให้นักทำนายคนหนึ่ง นางกังวลจนไม่รู้แก้ต่างคำโกหกอย่างไร “เยวี่ยอิง อากาศหนาวเช่นนี้ รีบกลับตำหนักเถอะ อย่าให้ไข้ขึ้น” ประโยคห่วงใยของฟู่เฉินหวนขัดนางเอาไว้ ลั่วเยวี่ยอิงชะงักเล็กน้อย นางเงยหน้ามองฟู่เฉินหวน ขอบตาแดงก่ำขึ้นมาทันใด นางจับแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนไว้อย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง ท่านมิโกรธเคืองหม่อมฉันแล้วหรือเพคะ?” ฟู่เฉินหวนยิ้มอ่อนโยน ยกมือปัดลูกผมที่ถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงของนาง “ย่อมมิโกรธเคืองเจ้าอยู่แล้ว” เห็นท่าทีหวานซึ้งของทั้งคู่ ในใจลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกโกรธ นางเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อใช้ชีวิตใหม่แล้วแท้ ๆ เหตุใดสองคนนี้จึงมิปล่อยนางไปอีก ต้องทำนางรู้สึกขยะแขยงโดยการมาพลอดรักกันต่อหน้านาง ถุงหอมที่อยู่ในมือเมื่อครู่ถูกแย่งกลับไป หนำซ้ำยังเจอฉากที่น่าสะอิดสะเอียนอีก ในใจของนางราวกับถูกหินก้อนใหญ่ทับไว้ ทรมานจนอยากปล่อยโฮออกมาเสียงดัง เพื่อให้ความรู้สึกที่แสนซับซ้อนระบายออกมาจนหมด แต่นางกลับต้องข่มไว้ และให้ตนสงบจิตใจ นางอุตส่าห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 338

    ใกล้เทศกาลโคมไฟ ในเมืองยิ่งอยู่ยิ่งคึกคัก ลั่วชิงยวนดเองก็แขวนโคมไฟไว้ที่หน้าร้านของตนหลายใบเพื่อให้ดูครึกครื้นขึ้น หรงอี้เฉี่ยนชอบเล่นไพ่ ดวงของนางนับวันยิ่งอยู่ยิ่งดี จึงเรียกลูกค้ามาให้ลั่วชิงยวนได้ไม่น้อย มักมีรถม้าโอ่อ่าขับเคลื่อนเข้ามาในตรอกฉางเล่อแบบวันเว้นวัน เพื่อมาเชิญลั่วชิงยวน หากที่ตรอกฉางเล่อมีคนมีฐานะปรากฏ ต่างไปหาลั่วชิงยวนกันทั้งสิ้น มิกล้าพูดว่ารู้จักกันทั้งเมืองหลวง แต่ในถนนที่ห่างออกไปจากตรอกฉางเล่อถึงสี่ห้าเส้น ไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่านเซียนฉู่ นับตั้งแต่ที่ฟู่เฉินหวนเอาถุงหอมไป ลั่วชิงยวนก็ไม่เคยแสดงสีหน้าดี ๆ ให้เขาอีกเลย มีหลาย ๆ ครั้งที่นางเมินเมื่อเขามา จากนั้นฟู่เฉินหวนจึงไม่ค่อยได้มาที่นี่อีกต่อไป เดิมทีนางคิดว่าจะผ่านฤดูเหมันต์นี้ไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าเช้านี้จะมีคนใช้คนหนึ่งส่งเทียบเชิญมาให้นาง “ท่านเซียน​ฉู่ อีกเจ็ดวันคุณหนูในจวนข้าน้อยจักแต่งงาน จึงมาเชิญท่านให้ไปดื่มเหล้ามงคล” ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนรู้สึกตะลึง “คุณหนูจวนเจ้ารึ?” นางเปิดเทียบเชิญดู ก็รู้สึกตกตะลึง ลั่วหลางหลางแต่งงาน! เมื่อมองลงไปอีก เจ้าบ่าวชื่อฟ่านซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 339

    จากนั้นจึงขมวดคิ้วและกล่าว “แต่ท่านผอมเช่นนี้แล้ว หากท่านไปงานฉลองด้วยร่างนี้ ฟู่เฉินหวนก็มองท่านออกได้ง่าย ๆ เสียกระมัง” ลั่วชิงยวนไตร่ตรองครู่หนึ่ง และกล่าว “ร่างกายรึ ข้ามีวิธี!” “ส่วนเรื่องหน้า คงต้องใส่หมวกเอาแล้ว” ซ่งเชียนฉู่ลังเลเล็กน้อย “ได้หรือ หากความแตกจักทำเช่นไรเล่า” ลั่วชิงยวนตบไปที่บ่าของนาง “คนที่จักความแตกมีแค่ข้า พวกเขามิเคยเห็นเสียหน่อยว่าฉู่ลั่วหน้าตาอย่างไร ต่อให้มีคนเห็นเจ้า เจ้าก็สามารถอ้างว่าเจ้ามางานฉลองแทนเซียนฉู่ได้ มิมีใครสนใจเสียหรอก” เพราะสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีผู้ใดจะไปสนใจนักทำนายคนหนึ่ง นางเพียงแค่แสดงบทบาทของพระชายาอ๋องให้ดี มิให้ความแตกเป็นพอ “ก็ได้” ดังนั้นทั้งคู่จึงเริ่มเตรียมตัวกัน เพื่อทำให้ตนกลับไปอ้วนเช่นเดิม ลั่วชิงยวนตัดเย็บชุดมาตัวหนึ่งด้วยตัวนางเอง ด้านในชุดยัดฝ้ายเอาไว้จำนวนมาก เอาไว้ใส่ด้านใน ส่วนด้านนอกก็ใส่อีกสองชั้น และคลุมผ้าคลุมตัวหนึ่ง ร่างของนางก็จะขยายขึ้นหลายเท่า ส่วนใบหน้า นางทำหน้ากากสำหรับหน้าทั้งใบขึ้น และใส่หมวกเพิ่ม ซ่งเชียนฉู่และจือเฉาทั้งคู่มองซ้ายมองขวา ลั่วชิงยวนกระแอมและพูดด้วยเสียงปกติ ซ่งเชียน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 340

    ลั่วชิงยวนกลับตำหนักอ๋องแล้ว ข่าวนี้รู้กันทั่วตำหนัก มีคนใช้ไม่น้อยที่ออกมาต้อนรับนาง ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ได้รับข่าวจึงตามมาดูเช่นกัน มิคิดเลยว่า ลั่วชิงยวนยังสามารถรอดกลับมาที่ตำหนักอ๋องได้ รถม้าหยุดลง ซูโหยวเปิดประตูรถออก “พระชายา ถึงแล้วขอรับ” หน้าประตูมีสาวใช้กลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่ พวกนางยังไม่ทันเห็นร่าง กลับได้ยินเสียงไอที่แสนอ่อนแอก่อน จากนั้นจึงเห็นจือเฉาค่อย ๆ พยุงลั่วชิงยวนเดินลงมา “พระชายา!” แม่นมเติ้งรีบเดินขึ้นหน้าไปต้อนรับ ลั่วชิงยวนลากสังขารหนักอึ้งเดินเข้าตำหนักไป เบื้องหน้า ลั่วเยวี่ยอิงเดินออกมาประจันหน้ากับลั่วชิงยวน ลั่วเยวี่ยอิงเผยยิ้มอ่อนโยนให้ “ท่านพี่กลับมาแล้วหรือ มิรู้ว่าท่านพี่อาศัยในจวนนอกเมือแล้วเป็นอย่างไรบ้าง” “แค่ก ๆ ๆ ” ลั่วชิงยวนมิได้ตอบ และไอผ่านลั่วเยวี่ยอิงไป เห็นว่าลั่วชิงยวนไม่สนใจนาง สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงย่ำแย่ พลันจับแขนของลั่วชิงยวนไว้ทันใด วินาทีนั้น หมวกของลั่วชิงยวนถูกลมพัดปลิว ลั่วเยวี่ยอิงจึงเห็นหน้ากากของนางเข้าอย่างจัง นางตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว และเกือบจะล้มลงพื้น “ที่พระชายากลับมารอบนี้แค่เพื่อเข้าร่วมงานแต่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 341

    เขาหมุนร่างจากไปอย่างผิดหวัง แต่ก็ยังหันกลับไปมองประตูที่ปิดสนิทด้วยความเป็นห่วง จากนั้นจึงยกขาจากไป แต่ข่าวที่ฟู่อวิ๋นโจวมาหาลั่วชิงยวนจะปิดมิดได้อย่างไรกัน ข่าวนี้ส่งถึงหูของฟู่เฉินหวนแทบจะในเวลาแรก ถุงหอมที่อยู่ในมือพลันกำแน่น “เร็วเพียงนี้เชียว พวกเขาเจอกันแล้วหรือ?” นัยน์ตาฟู่เฉินหวนแผ่ไปด้วยความเหน็บ หลังกลับถึงตำหนัก มิได้มารายงานแก่เขาในเวลาแรก แต่กลับเจอฟู่อวิ๋นโจวก่อนงั้นหรือ? พวกเขาอดใจรอมิไหวเช่นนี้เชียว! แววตาของฟู่เฉินหวนเหน็บหนาวและเอ่ยสั่งเสียงเย็น “เรียกลั่วชิงยวนมา!” ซูโหยวพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ!” …… เมื่อตอนซูโหยวมาเชิญ ลั่วชิงยวนก็เริ่มมีลางไม่ดี ต้องเป็นเพราะฟู่อวิ๋นโจวมาแน่ เขาจึงเรียกหานางอย่างรีบร้อนเช่นนี้ และคงตักเตือนนางดังเคย นางสวมหน้ากาก ตามซูโหยวมาที่ห้องตำรา ทันทีที่ประตูห้องปิดลง บรรยากาศภายในห้องก็พิลึกขึ้นมา ฟู่เฉินหวนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประเมินนางด้วยสายตาเย็นชา ทำคนรู้สึกขนลุกทั้งที่มิได้หนาว ลั่วชิงยวนเองก็ยืนนิ่งมิเอ่ยปาก แสดงท่าทีราวกับหวาดกลัวมาก นานมาก กว่าเสียงเยือกเย็นของฟู่เฉินหวนจะดังขึ้น “ถอดหมวกกับหน้ากากออก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 342

    “เจ้า!” ฟู่เฉินหวนตะลึงแรง จนฝีเท้าแน่นิ่งกับที่ ลั่วชิงยวนจ่อมีดสั้นไว้ที่คอของตน อ้อนวอนขอท่านอ๋องด้วยน้ำเสียงร้องไห้ “ท่านอ๋อง ท่านปล่อยหม่อมฉันไปเถิด” “ได้โปรด หม่อมฉันผิดไปแล้ว หากท่านจะดูหน้าของหม่อมฉันจริง ๆ เช่นนั้นหม่อมฉันคงต้องตาย!” “หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันมิควรแต่งงานแทน มิควรหาเรื่องท่านและลั่วเยวี่ยอิง ทุกอย่างที่หม่อมฉันเป็นอยู่ตอนนี้ หม่อมฉันสมควรทั้งนั้น!” “ท่านช่วยรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ!” ประโยคสุดท้ายลั่วชิงยวนตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดและการขัดขืนจากหัวใจที่แตกสลายของนาง กรีดลงที่กลางใจของฟู่เฉินหวนราวกับมีดคมทุกคำทุกประโยค นางกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? นี่ใช่ลั่วชิงยวนที่เขารู้จักหรือไม่? ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว ฟังเสียงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความผวา คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดมุ่น เสียงที่ส่งออกมาจากในห้องตำรา คนที่อยู่ภายนอกต่างได้ยิน ไม่มีผู้ใดที่มิรู้สึกตะลึง พระชายาในอดีตยโสเช่นนั้น กล้าขัดท่านอ๋อง และมิเคยยอมแพ้ ต่อให้โดนทำโทษนางก็มิเคยก้มหัว บัดนี้กลับร้องไห้อ้อนวอน กระทั่งใช้ความตายมาขู่เพียงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-20
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 343

    “เยี่ยมไปเลย นางสารเลวนั่นกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว! ดูท่าหน้านางคงเสียโฉมจึงทำให้นางมิกล้าพบผู้คน” เฉียงเวยพูดเสริม “ก่อนหน้านี้บ่าวได้ยินข่าวว่าที่จวนนั้นปรากฏงูจำนวนมาก พวกมันกัดลั่วชิงยวน จนร่างนางเต็มไปด้วยบาดแผล และหน้าก็เสียโฉมไปเจ้าค่ะ” เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้รับข่าว นางรู้สึกอารมณ์ดีเป็นที่สุด นางมองใบหน้าของตนในคันฉ่องทองแดง และกระตุกมุมปากอย่างได้ใจ “เวรกรรมไงเล่า! ทุกวันนี้หน้าของข้ายังมิหายดีเพราะนาง นี้แลกรรมตามสนองนาง” เฉียงเวยรินน้ำชา “เจ้าค่ะ ต่อจากนี้แม้นางอยู่ในตำหนักต่อ ก็มิมีผลใด ๆ ต่อคุณหนูรองแล้ว” ลั่วเยวี่ยอิงได้ใจนัก นางกระตุกมุมปากเย็น ๆ “อีกไม่กี่วันที่จวนมหาราชครูจัดงานมงคล จักมีผู้มาเยือนมากหน้าหลายตา ข้าต้องการให้นางขายขี้หน้าต่อหน้าผู้คนมากหลาย!” “ทางที่ดีคือให้ทุกคนได้เห็นใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ของนาง โจมตีนางจนไม่เหลือชิ้นดี และฆ่าตัวตายไปในที่สุด” เมื่อนั้นที่นางไม่ยอมแต่งกับฟู่เฉินหวน แต่ยุยงให้ลั่วชิงยวนแต่งแทน ก็เพราะลั่วชิงยวนนั้นโง่เง่าและควบคุมง่าย นางปัดความผิดเรื่องการแต่งงานให้ลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนจึงจะมิโทษหรือมิเกลียดชังนาง กลับกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-20
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 344

    สิ้นเสียงประโยคนี้ ผู้คนรอบด้านที่มุงดูก็เพิ่มมากขึ้น “จริงด้วย สถานการณ์วันนี้ เหตุใดผู้นี้จึงแต่งตัวเช่นนี้ มีอะไรให้น่าหลบซ่อนกัน?” “วันนี้เป็นวันมงคลของจวนมหาราชครู แต่งตัวเช่นนี้เสียมารยาทเกินไปหรือไม่!” ผู้คนที่มุงเข้ามา ลั่วชิงยวนต่างไม่แปลกตานัก โดยเฉพาะเว่ยอวิ๋นเซี๋ยที่ยืนนำอยู่ เมื่อก่อนเว่ยอวิ๋นเซี๋ยอยู่กับหลิวฮุ่ยเซียง และค่อนข้างสนิทกับลั่วเยวี่ยอิง ดูท่าเหตุการณ์วันนี้ ลั่วเยวี่ยอิงจะเป็นคนบงการ นางคิดจะเล่นลั่วชิงยวนให้ตาย! เว่ยอวิ๋นเซี๋ยเดินมาหยุดตรงหน้านาง และเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าเป็นใคร ถอดหมวกเดี๋ยวนี้!” “หากเจ้ามิถอด ข้าคงต้องลงมือเอง!” เว่ยอวิ๋นเซี๋ยบีบบังคับนางทีละก้าว แต่นี่เป็นจวนมหาราชครู คนที่เข้ามาได้ในวันนี้ต่างมีเทียบเชิญทั้งสิ้น และมีคนจากจวนมหาราชครูคอยตรวจสอบ ต้องให้พวกนางมาตรวจซ้ำอีกที่ไหนกัน? ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะเอ่ยปาก หางตานางกลับเห็นว่าฟู่เฉินหวนเดินมา และอยู่ในทิศไม่ไกล คิ้วของนางขมวดแน่น ในเมื่อเริ่มแสดงละครไปแล้ว นางจะหลุดมิได้เด็ดขาด เล่นละครต้องเล่นให้ครบ นางกลัวจนถอยหลังไปหลายก้าว เสียงของนางแข็งเกร็ง “นี่เป็นเรื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-20

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1208

    ในวินาทีต่อมา องครักษ์ก็กรูกันเข้ามาลากลั่วชิงยวนออกไปที่ลานหลังจากกดนางลงกับพื้นก็ใช้หวายฟาดลงบนร่างของนางอย่างมิปรานีความเจ็บปวดแล่นริ้ว ลั่วชิงยวนจิกเล็บลงบนพื้นหิมะจนเป็นรอยลึกจือเฉากระโจนเข้ามาจากนอกลาน “หยุด! หยุด!”“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงทำกับพระชายาเช่นนี้ พระชายาทำผิดอันใดหรือเพคะ!”“ท่านอ๋อง ขอได้โปรดปล่อยพระชายาเถิดเพคะ! ตั้งแต่เข้าเหมันตฤดู แผลบนร่างของพระชายาก็ยังมิหาย! หากโบยเช่นนี้ต่อไปคงจะสิ้นใจเป็นแน่เพคะ!”“ท่านอ๋องทรงพระกรุณาด้วยเพคะ!” จือเฉาโผเข้ากอดลั่วชิงยวนเพื่อรับหวายแทนแต่กลับถูกองครักษ์ดึงตัวออกไปจือเฉาร้องขอความเมตตาสุดเสียง แต่บุรุษที่ยืนอยู่ใต้ชายคากลับมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาฉายแววเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น“พระชายา...” จือเฉาร้อนใจ แทบจะเป็นลมเพราะร้องไห้หนักลั่วชิงยวนเจ็บปวดจนแทบมิได้ยินเสียงของจือเฉา มีเพียงความเจ็บปวดมิรู้จบ ยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากที่ลั่วชิงยวนสลบไป ฟู่เฉินหวนจึงสั่งให้หยุดแล้วจากไปด้วยความโกรธจือเฉาโผเข้าหาลั่วชิงยวน เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสก็พบว่ามือเปื้อนไปด้วยเลือด นางรีบชักมือกลับมองเลือดที่ไหลนองเต็มพื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1207

    ฟู่เฉินหวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาที่น่ารังเกียจนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงลั่วชิงยวนกัดฟันพลางกลั้นน้ำตาไว้ “ท่านมิได้บอกว่าจะเชื่อหม่อมฉันหรอกหรือเพคะ?”“หากหม่อมฉันบอกท่านทั้งหมด ท่านก็จะเชื่อหม่อมฉันมิใช่หรือเพคะ!”ฟู่เฉินหวนมีแววตาเย็นชา มองนางอย่างเฉยเมย “แต่เจ้าบอกข้าทั้งหมดแล้วหรือยังเล่า? เจ้ายังคงปิดบัง ยังคงหลอกลวง!”เสียงตำหนินั้นเต็มไปด้วยความโกรธทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนแทบแตกสลาย“ฟู่เฉินหวน วันนี้ท่านมาก็เพื่อหลอกลวงหม่อมฉันอีกแล้วใช่หรือไม่”“จุดประสงค์สุดท้ายของท่านคือ หลอกล่อให้หม่อมฉันบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ เพราะลั่วฉิงใช้มันมิได้ ใช่หรือไม่!”ลั่วชิงยวนตะโกนด้วยความโกรธ“หม่อมฉันช่างโง่เขลาที่เชื่อใจท่าน บอกความลับทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านก็หลอกลวงหม่อมฉันอีกครั้ง...”พูดไปน้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินในเวลานี้ หัวใจของลั่วชิงยวนราวกับถูกควักออกมาผ่าเป็นสองซีกเจ็บปวดเจียนตายแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า แววตายิ่งเย็นชาขึ้นเขาบีบคอของนางด้วยความโกรธ“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว ข้าก็ขี้เกียจเสแสร้งกับเจ้าแล้ว”“เข็มท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1206

    ฟู่เฉินหวนตกใจมองนางด้วยความประหลาดใจก่อนจะตอบว่า “ได้”“หากเจ้าอธิบายได้ชัดเจน ข้ายินดีเชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยรีบกล่าวทันที “หม่อมฉันชื่อลั่วเหลา แท้จริงแล้วลั่วอิงคืออาจารย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันตายไปแล้วมาเกิดใหม่ในร่างของลั่วชิงยวน”“วันรุ่งขึ้นหลังจากวันแต่งงาน ลั่วชิงยวนก็ปลิดชีพตัวเอง หลังจากนั้นร่างนี้ก็มิใช่ลั่วชิงยวนอีกต่อไป แต่เป็นหม่อมฉัน ลั่วเหลา”“หม่อมฉันเป็นชาวแคว้นหลี”“ดังนั้นความสามารถที่หม่อมฉันมีจึงเป็นสิ่งที่ลั่วชิงยวนไม่มี”“เรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นหลี หม่อมฉันก็เพิ่งค้นพบตอนที่ไปเผ่านอกด่าน หลังจากที่อาจารย์ค้นพบความลับนี้ ก็พยายามค้นหาวิธีแก้ไขเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์”“เพราะหากความลับนี้รั่วไหลออกไป จะมีคนมากมายเกิดความโลภ จะทำให้ทั้งใต้หล้าประสบพบความวุ่นวาย เลือดนองแผ่นดิน”“...”ลั่วชิงยวนเล่าความลับทั้งหมดของนางให้เขาฟังโดยมิปิดบังนางรู้สึกว่าคนที่เคยเปิดใจให้กันคงจะมิทรยศกันง่าย ๆตราบใดที่นางจริงใจ มิปิดบังสิ่งใด นางก็จะได้รับการตอบสนองเช่นเดียวกันหลังจากที่นางพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1204

    เมื่อเฉินชีได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักแล้วยกยิ้มมุมปาก เดินมาที่หน้าต่าง พิงกำแพงพลางกอดอก “เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าในฐานะที่เจ้าเป็นใคร?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นักบวชระดับสูง”ดวงตาของเฉินชีลุกโชนด้วยประกายร้อนแรง “อาเหลา ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจจะไปกับข้าแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและเย่อหยิ่ง “กลับแคว้นหลีก็ได้ ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง”“แคว้นหลีจะมีนักบวชระดับสูงได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น”เฉินชียกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างนอบน้อม “อย่าว่าแต่เรื่องเดียวเลย สิบเรื่อง ร้อยเรื่อง เฉินชีก็ยินดีทำเพื่อนักบวชระดับสูงทั้งสิ้น!”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำถึงแม้เฉินชีจะบ้าแต่ก็มิใช้คนโง่เขลา เขาทำอะไรตามอำเภอใจแต่ก็คงมิยอมสยบต่อนางง่าย ๆ เช่นนี้การเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ทำให้นางมิค่อยเชื่อถือ“เจ้าฟังเรื่องที่ข้าจะให้เจ้าทำก่อนค่อยตอบรับก็ยังมิสาย”เฉินชีลุกขึ้นมองนางด้วยแววตาเป็นประกาย “ท่านนักบวชต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”“ข้าต้องการให้เจ้ายกทัพไปตีซีหลิง”“แต่ห้ามสู้รบกันจริง ๆ ห้ามทำร้ายราษฎร”เฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1203

    ใจของลั่วชิงยวนร้อนรุ่มดั่งไฟสุม นางพยายามดิ้นรนสุดแรง “ปล่อยข้านะ!”“ฟู่เฉินหวน ท่านช่างไร้หัวใจอะไรเยี่ยงนี้!”ทว่าฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย มิสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเมื่อเห็นแม่นมเติ้งใกล้จะทนมิไหวแล้ว น้ำตาลั่วชิงยวนก็เอ่อคลอ“หม่อมฉันจะมิออกจากเรือนแล้ว หม่อมฉันจะมิออกจากห้องแล้ว ได้หรือไม่!”นางมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามวิงวอนขอร้องในที่สุดนางก็ยอมก้มหน้าลง“ขอท่านไว้ชีวิตนางด้วยเถิดเพคะ!” ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรงแววตาฟู่เฉินหวนมืดมนเดิมทีลั่วชิงยวนคิดว่าเมื่อนางขอร้องแล้ว ฟู่เฉินหวนคงจะไว้ชีวิตแม่นมเติ้งแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีแววตาเย็นชา “นางเป็นบ่าวของตำหนัก มิใช่บ่าวของเจ้า นางขัดคำสั่งข้า สำหรับข้าแล้ว ไม่มีคำว่ายกโทษ”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเป็นดั่งหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงนางโกรธจนตะโกนลั่น “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววหงุดหงิดขณะกล่าวเสียงเย็น “พาตัวนางไป”องครักษ์จับตัวลั่วชิงยวนแล้วลากออกไปฟู่เฉินหวนมองนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ายังท้าทายข้าอีก จะต้องมีคนตายมา่กกว่านี้แน่”แ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status