Share

บทที่ 215

Author: หว่านชิงอิ๋น
หลังเซียวชูจากไป ซูโหยวมักส่ายหัวถอนหายใจ “พระชายาเก่งกาจจนสามารถรู้เรื่องของชายแดนใต้ได้ น่าจะช่วยแม่ทัพใหญ่ฉินจัดการเรื่องนี้ได้เช่นกัน มิคิดว่า…”

ประโยคนี้ทำฟู่เฉินหวนชะงักอีกครั้ง

นัยน์ตาเขาราวกับมีเมฆครึ้มเกาะกลุ่ม เสียงของเขาทั้งทุ่มต่ำและเยือกเย็น “หากว่า… มีคนเอาเรื่องที่ชายแดนใต้ไปบอกนางล่ะ?”

ซูโหยวตะลึง “มีคนบอกหรือ? กระหม่อมก็เพิ่งรู้เรื่อง จะมีผู้ใดที่รู้เรื่องเร็วกว่านี้อีกหรือขอรับ?”

“ในวัง” ฟู่เฉินหวนเขียนต่อ ตาที่มองต่ำแฝงไปด้วยความเหน็บหนาวลึกซึ้ง

ซูโหยวแสดงสีหน้าตกตะลึง

จริงด้วย ข่าวเช่นนี้ต้องส่งถึงในวังก่อน ในวังต่างหากที่รู้เรื่องนี้เร็วที่สุด

และช่วงนี้องค์ชายห้าเข้าวังทุกวัน

ดังนั้น องค์ชายห้าเป็นคนบอกพระชายางั้นหรือ?

……

ลั่วเยวี่ยอิงรู้เรื่องที่ลั่วชิงยวนถูกรถม้าของจวนแม่ทัพใหญ่ส่งกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ โกรธจนตัวสั่นระริก

นางอดทนไม่เขวี้ยงของ แต่หยิบกรรไกรมาตัดใบไม้ในกระถางจนเละ

“ลั่วชิงยวนนังสารเลว! นังชั่ว!”

เห็นลั่วชิงยวนที่รู้จักกับอำนาจยิ่งอยู่ยิ่งมาก ในใจของลั่วเยวี่ยอิงร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ นางอยากจะหักห้าม แต่เนื่องด้วยใบหน้าของนางยังไ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Alexis Pattric Balwing
นางเอกโง่ชิบหาย องค์ชายห้าแม่งตั้งใจมาปั่น เสือกพูดดีกับมันอยู่ได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 216

    บรรยากาศอึดอัดขึ้นมา ลั่วชิงยวนคิดอย่างอดไม่ได้เหตุใดฟู่อวิ๋นโจวจึงยังไม่จำ มาเรียกนางว่าชิงยวน หนำซ้ำยังถูกฟู่เฉินหวนได้ยินอีก อย่างที่คิด ฟู่เฉินหวนหันร่างมา สายตาอึมครึมเป็นที่สุด เขาเอ่ยเสียงเย็น “เหมือนว่าเสด็จน้องจะยังมิเข้าใจอยู่ดีว่าลั่วชิงยวนคือใคร” “ให้ข้าช่วยทวนความจำหรือไม่?” สิ้นประโยค นัยน์ตาฟู่อวิ๋นโจวมีแววหวาดหวั่น เขาก้มหัวลง พร้อมกล่าวอธิบาย “ช่วงนี้ข้าได้วาดภาพขึ้นมาภาพหนึ่ง แต่มิว่าจะมองอย่างไรก็มิพอใจนัก จึงมาขอคำชี้แนะจากพี่สะใภ้ สรรพนามที่ข้าเรียกผิดเพราะความร้อนรน หวังว่าเสด็จพี่จะมิถือโทษ!” ได้ยินถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นในมือของฟู่อวิ๋นโจวมีภาพวาดอยู่ผืนหนึ่ง ฟู่เฉินหวนก้มหน้า เขาก็มองเห็นเช่นกัน เขาดึงภาพวาดมาและกล่าวเสียงเย็น “เสด็จน้องมิเข้าใจสิ่งใด มาถามข้าก็ได้!” ฟู่เฉินหวนพูดไป พร้อมกางภาพวาดออก แต่เมื่อภาพวาดถูกกางออก ลูกตาของฟู่เฉินหวนสั่นคลอน หญิงสาวในภาพวาดรูปร่างอวบอิ่ม สวมใส่ชุดแต่งงานสีแดง ใบหน้าที่นางหันมาครึ่งหนึ่ง คล้ายกับลั่วชิงยวนมาก! ไฟโทสะฟู่เฉินหวนถูกจุด และลุกไหม้ขึ้นหัว! ลั่วชิงยวนมองสีหน้าของฟู่เฉินหวนท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 217

    ฟู่เฉินหวนพิโรธจนเตะเท้าทีหนึ่ง ของที่เหยียบอยู่ใต้เท้านั้น ถูกเขาเตะกระจุยออกไป เศษไม้ พู่ระย้าสีแดง เชือกแขวนกระจายออกเต็มพื้น กระทั่งเก็บยังมิสามารถเก็บได้ มันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงและหมดจด! ชิ้นส่วนกวาดผ่านข้างแก้มลั่วชิงยวน และทิ้งเป็นรอยเลือดไว้ ใต้ขนตายาวแพราวกับปีกผีเสื้อคือดวงตาที่เต็มไปด้วยแววเกรี้ยวกราด นางกำเป็นหมัดแน่น และลุกขึ้นอย่างโกรธเคือง “ฟู่เฉินหวน หากท่านสงสัยหม่อมฉันกับองค์ชายห้ามีชู้รักกัน ท่านก็มอบหนังสือหย่าให้หม่อมฉัน! ท่านเป็นบ้าอะไรของท่านกัน?!” สายตาของฟู่เฉินหวนมืดครึ้มเป็นที่สุด เขาค่อย ๆ เอนตัวเข้าใกล้ลั่วชิงยวน วินาทีต่อมา น้ำเสียงยะเยือกดังขึ้นข้างหูลั่วชิงยวน “คิดจะจากไปง่าย ๆ รึ? ฝันไปเถอะ!” สิ้นเสียง ฟู่เฉินหวนหันร่างกลับเย็น ๆ และจากไป ลั่วชิงยวนกำเป็นหมัดแน่น โทสะในใจจะปะทุออกมาจากกลางอก มองลูกแก้วหลิงหลงที่แตกสลายเต็มพื้น ในใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกมีดเฉือน ที่ถูกเขาเหยียบแหลก ไม่เพียงแค่ลูกแก้ว รวมทั้งศักดิ์ศรีของนางด้วย! นางโน้มตัวจะเก็บพู่ระย้า แต่มือเรียวยาวคู่หนึ่งตัดหน้านางเสียก่อน และยื่นให้กับนาง นางเงยห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 218

    “แต่เจ้าระวังหมอเทวดากู้ เขาอยู่ในเรือนทักษิณา เจ้าอย่าเข้าไปดีกว่า” ได้ยินเข้า เวินซีหลานพยักหน้าและรีบตามขึ้นไป ลั่วชิงยวนกลับมาในห้องของตน ประดิษฐ์ลูกแก้วหลิงหลงอีกครั้ง ผ่านไปพักหนึ่ง เวินซีหลานกลับมา นางกล่าว “ข้าเห็นแล้ว” “ในภาพนั้น น่าจะวาดท่าน” ได้ยินดังนี้ มือของลั่วชิงยวนชะงัก วาดภาพนางงั้นหรือ? มิน่าล่ะฟู่เฉินหวนจึงพูดเช่นนั้น! นางยังคงตกตะลึง เวินซีหลานกล่าวต่อ “ข้าเห็นเขากอดภาพพร้อมพึมพำกับตัวเองว่าชอบเจ้า” ลั่วชิงยวนแข็งทื่อโดยสิ้นเชิง ฟู่อวิ๋นโจวชอบลั่วชิงยวนจริง ๆ … มิน่า ฟู่อวิ๋นโจวจึงดีต่อนางเช่นนี้ มิน่า ชายคนนี้จึงใส่ใจนางและอ่อนโยนมากเช่นนี้ คิดว่าก่อนที่ลั่วชิงยวนจะแต่งกับฟู่เฉินหวน ฟู่อวิ๋นโจวก็คงแอบชอบนางแล้ว พวกเขาทั้งคู่เจอสถานการณ์ที่คล้ายกัน ต่างฝ่ายต่างมองอีกฝ่ายเป็นผู้รู้ใจ แต่ลั่วชิงยวนในตอนนั้น กลับมีแต่ฟู่เฉินหวนทั้งใจ จึงมิได้สังเกตเห็นว่าฟู่อวิ๋นโจวชอบนาง เวินซีหลานเอ่ยกล่าว “ข้าว่าองค์ชายห้าก็เป็นคนรักเดียว นิสัยของเขาดีกว่าท่านอ๋องมากโขนัก” ลั่วชิงยวนคิดถึงสีหน้ามืดครึ้มของฟู่เฉินหวน คิ้วของนางก็ขมวดติดกันอย่างอดไม่ได้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 219

    “เขาที่ติดอยู่ในหุบเขาพิษเกือบครึ่งเดือน ยังมีชีวิตรอด ตอนนี้กำลังทำการรักษาอยู่” ลั่วชิงยวนพยักหน้า และตามแม่ทัพใหญ่ฉินมาถึงเรือนใน แม่ทัพใหญ่ฉินพูดกับนางด้วยน้ำเสียงหนักใจ ”คือว่าไป๋หลี่เขา…” คิ้วของลั่วชิงยวนกระตุก นางตามแม่ทัพใหญ่ฉินเข้าไปในห้อง พบกับร่างสีขาวซีดบนเตียง เขากำลังนอนพิงหัวเตียง และตาของเขา ถูกปกคลุมด้วยผ้าขาว ฉากนี้ทำเอาหัวใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน แม่ทัพใหญ่ฉินถอนหายใจอย่างหนัก “วันนี้ไป๋หลี่ก็ตื่นแล้ว…เพียงแต่ตาของเขา…มองไม่เห็นอีกต่อไป!” บัดนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินจึงเข้าใจสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูด ข้อแลกเปลี่ยนที่เขาต้องเสียไป คือดวงตาคู่หนึ่ง! ลั่วชิงยวนเองก็รู้สึกฉงน นางก้าวขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว พูดกับฉินไป๋หลี่ “ข้าขอดูหน่อย” นางดึงผ้าขาวที่ปิดตาของฉินไป๋หลี่อยู่ออก สีตาของเขาได้กลายเป็นสีเทา ราวกับถูกปกคลุมโดยหมอกหนา นางลองโบกมือ “มองไม่เห็นแม้แต่นิดจริงหรือ?” ฉินไป๋หลี่ส่ายหัว “มองไม่เห็น” แม่ทัพใหญ่ฉินมองแล้วรู้สึกเจ็บใจเป็นอย่างมาก เขากล่าว “ข้ายังมิได้เชิญหมอหลวง ข้าเชิญพระชายามาก่อน มิทราบว่าพระชายามีวิธีรักษาหรือไม่?” เรื่องนี้เป็นเรื่องข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 220

    “เหมือนว่าข้า… จะสัมผัสได้แล้ว!” “พวกเขาอยู่ที่นั่นใช่ไหม?” ลั่วชิงยวนกล่าวตอบ “ใช่ พวกเขาอยู่ข้างกายเจ้า” ฉินไป๋หลี่ดีใจจนร้องไห้ เสียงสั่นคลอนของเขาทำลั่วชิงยวนขอบตาแดงผ่าว นางจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป ให้เวลาส่วนตัวกับพวกเขาหน่อยเถิด แม้ว่าฉินไป๋หลี่จะมองไม่เห็น แต่เขาสามารถสัมผัสได้ เพียงแต่ในใจของลั่วชิงยวนรู้สึกเสียดายมาก ๆ เดิมทีนางคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่ได้รวมครอบครัว มิคิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ เดินออกจากเรือน นางเห็นแผ่นหลังของแม่ทัพใหญ่ฉินพอดี เขากำลังแอบปาดน้ำตาคนเดียว “แม่ทัพใหญ่ฉิน” ลั่วชิงยวนขานเรียก แม่ทัพใหญ่ฉินรีบเช็ดน้ำตาและหันร่างมา “พระชายา” “ข้าจักรักษาให้กับฉินไป๋หลี่อย่างสุดกำลัง ท่านแม่ทัพใหญ่อย่าได้เสียใจนัก อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่” ลั่วชิงยวนพูดปลอบ แม่ทัพใหญ่ฉินพยักหน้า “ครั้งนี้ต้องขอบคุณพระชายาเป็นอย่างยิ่ง เงินหนึ่งพันตำลึงข้าได้สั่งคนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว” “มิต้องรีบ ข้าไปจ่ายยา และฝังเข็มให้กับฉินไป๋หลี่ก่อน” จากนั้นลั่วชิงยวนจึงไปจ่ายยา รอให้ฉินไป๋หลี่อยู่กับภรรยาและลูกจนพอ ลั่วชิงยวนจึงเข้าไปฝังเข็มให้เขา ลองรักษ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 221

    “ถอยไป!” ลั่วชิงยวนขัดขืนสุดชีวิต แต่แล้วนางกลับสู้มิไหว นางถูกคนจับมัดแขน ยัดผ้าเข้าปาก และฝืนลากนางออกไป ลั่วชิงยวนโมโหเป็นอย่างมาก ในเมืองตอนกลางวันแสก ๆ ริอ่านจับตัวผู้อื่นโดยโจ่งแจ้งหรือ? เมืองนี้ยังมีกฎหมายหรือไม่! คนกลุ่มนั้นมีจำนวนร้อยกว่าคน ปรากฏตัวกลางตลาดและกินพื้นที่ตลาดจนหมด ด้านนอกมีคนเข้ามาดูมิน้อย เพียงแต่มิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน เหตุใดคนจึงมากมายเช่นนี้? ราวกับเป็นโจรป่าเลย!” “เหมือนจะกำลังไล่ตามหญิงสาวผิดจรรยาสตรีคนหนึ่ง ได้ยินว่าเป็นสนมที่มีชู้รักกับอาของตน! นี่ไง กำลังจะจับไปดิ่งแม่น้ำ” “เช่นนี้นี่เอง! สมน้ำหน้า!” “ไป ๆ ๆ เราก็ไปดูเรื่องสนุกบ้างเถอะ” ในฝูงชนมีแต่เสียงซุบซิบ ทุกคนต่างกำลังต่อว่าลั่วชิงยวน บังเหียนร้อนรนจนกระโดดอยู่กับที่ รถม้าพัง ม้าไม่ยอมเดินต่อ เขาจึงทำได้เพียงวิ่งกลับไปบอกข่าวที่จวนแม่ทัพใหญ่อย่างเร็วที่สุด! …… ลั่วชิงยวนถูกเชิญไปที่จวนแม่ทัพใหญ่กว่าครึ่งชั่วยาม ฟู่เฉินหวนจึงเพิ่งรู้เรื่องเซียวชู “ท่านอ๋อง เหมือนว่าจะหาฉินเชียนหลี่เจอจริง ๆ แล้วขอรับ! ท่านจวนแม่ทัพใหญ่จึงเชิญพระชายาไป!” ฟู่เฉินหวนได้ยิน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 222

    บังเหียนวิ่งเข้ามาอย่างทุลักทุเล และพูดตะโกน “แย่แล้วขอรับ! พระชายาถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งลักตัวไป!” สิ้นประโยค ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างตะลึง คิ้วของแม่ทัพใหญ่ฉินขมวดแน่น “ว่าไงนะ? ถูกชาวบ้านลักตัวไป? กลางวันแสก ๆ จะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!” บังเหียนกล่าวต่ออย่างร้อนรน “เรื่องจริงขอรับ! พวกเขาจับตัวพระชายาไปเพราะจำผิดคน ได้ยินว่าจะนำตัวพระชายาไปดิ่งแม่น้ำ!” วินาทีที่ได้ยินประโยคนี้ ในหัวของฟู่เฉินหวนเผยเป็นภาพถนนเส้นนั้นที่แออัดไปด้วยผู้คนมากมาย สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปฉับพลัน และวิ่งออกจากประตูจวนแม่ทัพใหญ่ไปทันใด …… ลั่วชิงยวนถูกจับตัวมาที่ริมแม่น้ำ ที่มาพร้อมนางยังมีผู้คนที่อยากเห็นเรื่องสนุก “นังสำส่อน! ริอ่านคบชู้! วันนี้จักเป็นจุดจบของเจ้า!” ชายหนุ่มกราดด่า พร้อมแกะเชือกที่มัดอยู่บนตัวของนาง น้ำเสียงของลั่วชิงยวนดุดัน “ข้าเป็นพระชายาอ๋องสำเร็จราชการ! พวกเจ้าจับตัวข้า คิดถึงจุดจบพวกเจ้าหรือยัง? ใครเป็นคนส่งตัวพวกเจ้ามา มิสนใจกระทั่งชีวิตตนเองแล้วงั้นรึ?” ลั่วชิงยวนมิเชื่อแน่ว่าพวกเขาจะจับผิดคน เกรงว่าตั้งใจเสียมากกว่า! ริอ่านจับตัวผู้อื่นในเวลากลางวันแสก ๆ อย่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 223

    ได้ยินดังนี้ หว่างคิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุกอย่างแรง เขาพุ่งไปริมแม่น้ำทันที แม่น้ำเส้นใหญ่ ธารน้ำไหลแรง ซ้อนทับกันเป็นชั้น แต่กลับมิเห็นร่างใด ๆ โผล่ออกมาจากผิวน้ำ วินาทีนั้นหัวใจของฟู่เฉินหวนบีบรัดถึงกล่องเสียง นางผู้นี้ช่วยได้กระทั่งเชียนหลี่ที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ อย่าบอกนะว่านางช่วยตัวเองมิได้! แต่เขากลับมิได้คิดมาก เขากระโดดลงในแม่น้ำดังเป็นเสียง ตู้ม เซียวชูที่มาถึงช้ากว่าก้าวหนึ่ง เห็นฉากที่ท่านอ๋องกระโดดลงในแม่น้ำพอดี สีหน้าของเขาซีดเผือดทันขวัญ เขาวิ่งขึ้นไปอย่างเร็ว “ท่านอ๋อง!” ท่านอ๋องกระโดดน้ำงั้นหรือ?! ผู้คนรอบด้านส่งเสียงตะลึง “ท่านอ๋องหรือ? เขาคืออ๋องสำเร็จราชการจริง ๆ ? เช่นนั้นที่ถูกดิ่ง คือพระชายาอ๋องจริง ๆ งั้นหรือ?” “ไม่เสียหรอก จะดิ่งผิดคนหรือไรเล่า?” ”สวรรค์” บนบกมีแต่เสียงตะลึง …… ลั่วชิงยวนกินน้ำไปหลายอึก จนนางปลดเชือกบนข้อมือได้ แต่กลับยังมีเชือกบนขาอีกข้างที่ยังแกะมิได้ แต่นางจะกลั้นใจมิไหวแลัว แสงบนหัวยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกลจากนาง ราวกับนางถูกลากสู่หุบเหวลึก และจมดิ่งลงเรื่อย ๆ ไม่ทันแล้ว! นางลากก้อนหินหนักอึ้งก้อนนั้น ว่ายขึ้นอ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status