Share

บทที่ 215

Author: หว่านชิงอิ๋น
หลังเซียวชูจากไป ซูโหยวมักส่ายหัวถอนหายใจ “พระชายาเก่งกาจจนสามารถรู้เรื่องของชายแดนใต้ได้ น่าจะช่วยแม่ทัพใหญ่ฉินจัดการเรื่องนี้ได้เช่นกัน มิคิดว่า…”

ประโยคนี้ทำฟู่เฉินหวนชะงักอีกครั้ง

นัยน์ตาเขาราวกับมีเมฆครึ้มเกาะกลุ่ม เสียงของเขาทั้งทุ่มต่ำและเยือกเย็น “หากว่า… มีคนเอาเรื่องที่ชายแดนใต้ไปบอกนางล่ะ?”

ซูโหยวตะลึง “มีคนบอกหรือ? กระหม่อมก็เพิ่งรู้เรื่อง จะมีผู้ใดที่รู้เรื่องเร็วกว่านี้อีกหรือขอรับ?”

“ในวัง” ฟู่เฉินหวนเขียนต่อ ตาที่มองต่ำแฝงไปด้วยความเหน็บหนาวลึกซึ้ง

ซูโหยวแสดงสีหน้าตกตะลึง

จริงด้วย ข่าวเช่นนี้ต้องส่งถึงในวังก่อน ในวังต่างหากที่รู้เรื่องนี้เร็วที่สุด

และช่วงนี้องค์ชายห้าเข้าวังทุกวัน

ดังนั้น องค์ชายห้าเป็นคนบอกพระชายางั้นหรือ?

……

ลั่วเยวี่ยอิงรู้เรื่องที่ลั่วชิงยวนถูกรถม้าของจวนแม่ทัพใหญ่ส่งกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ โกรธจนตัวสั่นระริก

นางอดทนไม่เขวี้ยงของ แต่หยิบกรรไกรมาตัดใบไม้ในกระถางจนเละ

“ลั่วชิงยวนนังสารเลว! นังชั่ว!”

เห็นลั่วชิงยวนที่รู้จักกับอำนาจยิ่งอยู่ยิ่งมาก ในใจของลั่วเยวี่ยอิงร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ นางอยากจะหักห้าม แต่เนื่องด้วยใบหน้าของนางยังไ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Alexis Pattric Balwing
นางเอกโง่ชิบหาย องค์ชายห้าแม่งตั้งใจมาปั่น เสือกพูดดีกับมันอยู่ได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 216

    บรรยากาศอึดอัดขึ้นมา ลั่วชิงยวนคิดอย่างอดไม่ได้เหตุใดฟู่อวิ๋นโจวจึงยังไม่จำ มาเรียกนางว่าชิงยวน หนำซ้ำยังถูกฟู่เฉินหวนได้ยินอีก อย่างที่คิด ฟู่เฉินหวนหันร่างมา สายตาอึมครึมเป็นที่สุด เขาเอ่ยเสียงเย็น “เหมือนว่าเสด็จน้องจะยังมิเข้าใจอยู่ดีว่าลั่วชิงยวนคือใคร” “ให้ข้าช่วยทวนความจำหรือไม่?” สิ้นประโยค นัยน์ตาฟู่อวิ๋นโจวมีแววหวาดหวั่น เขาก้มหัวลง พร้อมกล่าวอธิบาย “ช่วงนี้ข้าได้วาดภาพขึ้นมาภาพหนึ่ง แต่มิว่าจะมองอย่างไรก็มิพอใจนัก จึงมาขอคำชี้แนะจากพี่สะใภ้ สรรพนามที่ข้าเรียกผิดเพราะความร้อนรน หวังว่าเสด็จพี่จะมิถือโทษ!” ได้ยินถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นในมือของฟู่อวิ๋นโจวมีภาพวาดอยู่ผืนหนึ่ง ฟู่เฉินหวนก้มหน้า เขาก็มองเห็นเช่นกัน เขาดึงภาพวาดมาและกล่าวเสียงเย็น “เสด็จน้องมิเข้าใจสิ่งใด มาถามข้าก็ได้!” ฟู่เฉินหวนพูดไป พร้อมกางภาพวาดออก แต่เมื่อภาพวาดถูกกางออก ลูกตาของฟู่เฉินหวนสั่นคลอน หญิงสาวในภาพวาดรูปร่างอวบอิ่ม สวมใส่ชุดแต่งงานสีแดง ใบหน้าที่นางหันมาครึ่งหนึ่ง คล้ายกับลั่วชิงยวนมาก! ไฟโทสะฟู่เฉินหวนถูกจุด และลุกไหม้ขึ้นหัว! ลั่วชิงยวนมองสีหน้าของฟู่เฉินหวนท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 217

    ฟู่เฉินหวนพิโรธจนเตะเท้าทีหนึ่ง ของที่เหยียบอยู่ใต้เท้านั้น ถูกเขาเตะกระจุยออกไป เศษไม้ พู่ระย้าสีแดง เชือกแขวนกระจายออกเต็มพื้น กระทั่งเก็บยังมิสามารถเก็บได้ มันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงและหมดจด! ชิ้นส่วนกวาดผ่านข้างแก้มลั่วชิงยวน และทิ้งเป็นรอยเลือดไว้ ใต้ขนตายาวแพราวกับปีกผีเสื้อคือดวงตาที่เต็มไปด้วยแววเกรี้ยวกราด นางกำเป็นหมัดแน่น และลุกขึ้นอย่างโกรธเคือง “ฟู่เฉินหวน หากท่านสงสัยหม่อมฉันกับองค์ชายห้ามีชู้รักกัน ท่านก็มอบหนังสือหย่าให้หม่อมฉัน! ท่านเป็นบ้าอะไรของท่านกัน?!” สายตาของฟู่เฉินหวนมืดครึ้มเป็นที่สุด เขาค่อย ๆ เอนตัวเข้าใกล้ลั่วชิงยวน วินาทีต่อมา น้ำเสียงยะเยือกดังขึ้นข้างหูลั่วชิงยวน “คิดจะจากไปง่าย ๆ รึ? ฝันไปเถอะ!” สิ้นเสียง ฟู่เฉินหวนหันร่างกลับเย็น ๆ และจากไป ลั่วชิงยวนกำเป็นหมัดแน่น โทสะในใจจะปะทุออกมาจากกลางอก มองลูกแก้วหลิงหลงที่แตกสลายเต็มพื้น ในใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกมีดเฉือน ที่ถูกเขาเหยียบแหลก ไม่เพียงแค่ลูกแก้ว รวมทั้งศักดิ์ศรีของนางด้วย! นางโน้มตัวจะเก็บพู่ระย้า แต่มือเรียวยาวคู่หนึ่งตัดหน้านางเสียก่อน และยื่นให้กับนาง นางเงยห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 218

    “แต่เจ้าระวังหมอเทวดากู้ เขาอยู่ในเรือนทักษิณา เจ้าอย่าเข้าไปดีกว่า” ได้ยินเข้า เวินซีหลานพยักหน้าและรีบตามขึ้นไป ลั่วชิงยวนกลับมาในห้องของตน ประดิษฐ์ลูกแก้วหลิงหลงอีกครั้ง ผ่านไปพักหนึ่ง เวินซีหลานกลับมา นางกล่าว “ข้าเห็นแล้ว” “ในภาพนั้น น่าจะวาดท่าน” ได้ยินดังนี้ มือของลั่วชิงยวนชะงัก วาดภาพนางงั้นหรือ? มิน่าล่ะฟู่เฉินหวนจึงพูดเช่นนั้น! นางยังคงตกตะลึง เวินซีหลานกล่าวต่อ “ข้าเห็นเขากอดภาพพร้อมพึมพำกับตัวเองว่าชอบเจ้า” ลั่วชิงยวนแข็งทื่อโดยสิ้นเชิง ฟู่อวิ๋นโจวชอบลั่วชิงยวนจริง ๆ … มิน่า ฟู่อวิ๋นโจวจึงดีต่อนางเช่นนี้ มิน่า ชายคนนี้จึงใส่ใจนางและอ่อนโยนมากเช่นนี้ คิดว่าก่อนที่ลั่วชิงยวนจะแต่งกับฟู่เฉินหวน ฟู่อวิ๋นโจวก็คงแอบชอบนางแล้ว พวกเขาทั้งคู่เจอสถานการณ์ที่คล้ายกัน ต่างฝ่ายต่างมองอีกฝ่ายเป็นผู้รู้ใจ แต่ลั่วชิงยวนในตอนนั้น กลับมีแต่ฟู่เฉินหวนทั้งใจ จึงมิได้สังเกตเห็นว่าฟู่อวิ๋นโจวชอบนาง เวินซีหลานเอ่ยกล่าว “ข้าว่าองค์ชายห้าก็เป็นคนรักเดียว นิสัยของเขาดีกว่าท่านอ๋องมากโขนัก” ลั่วชิงยวนคิดถึงสีหน้ามืดครึ้มของฟู่เฉินหวน คิ้วของนางก็ขมวดติดกันอย่างอดไม่ได้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 219

    “เขาที่ติดอยู่ในหุบเขาพิษเกือบครึ่งเดือน ยังมีชีวิตรอด ตอนนี้กำลังทำการรักษาอยู่” ลั่วชิงยวนพยักหน้า และตามแม่ทัพใหญ่ฉินมาถึงเรือนใน แม่ทัพใหญ่ฉินพูดกับนางด้วยน้ำเสียงหนักใจ ”คือว่าไป๋หลี่เขา…” คิ้วของลั่วชิงยวนกระตุก นางตามแม่ทัพใหญ่ฉินเข้าไปในห้อง พบกับร่างสีขาวซีดบนเตียง เขากำลังนอนพิงหัวเตียง และตาของเขา ถูกปกคลุมด้วยผ้าขาว ฉากนี้ทำเอาหัวใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน แม่ทัพใหญ่ฉินถอนหายใจอย่างหนัก “วันนี้ไป๋หลี่ก็ตื่นแล้ว…เพียงแต่ตาของเขา…มองไม่เห็นอีกต่อไป!” บัดนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินจึงเข้าใจสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูด ข้อแลกเปลี่ยนที่เขาต้องเสียไป คือดวงตาคู่หนึ่ง! ลั่วชิงยวนเองก็รู้สึกฉงน นางก้าวขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว พูดกับฉินไป๋หลี่ “ข้าขอดูหน่อย” นางดึงผ้าขาวที่ปิดตาของฉินไป๋หลี่อยู่ออก สีตาของเขาได้กลายเป็นสีเทา ราวกับถูกปกคลุมโดยหมอกหนา นางลองโบกมือ “มองไม่เห็นแม้แต่นิดจริงหรือ?” ฉินไป๋หลี่ส่ายหัว “มองไม่เห็น” แม่ทัพใหญ่ฉินมองแล้วรู้สึกเจ็บใจเป็นอย่างมาก เขากล่าว “ข้ายังมิได้เชิญหมอหลวง ข้าเชิญพระชายามาก่อน มิทราบว่าพระชายามีวิธีรักษาหรือไม่?” เรื่องนี้เป็นเรื่องข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 220

    “เหมือนว่าข้า… จะสัมผัสได้แล้ว!” “พวกเขาอยู่ที่นั่นใช่ไหม?” ลั่วชิงยวนกล่าวตอบ “ใช่ พวกเขาอยู่ข้างกายเจ้า” ฉินไป๋หลี่ดีใจจนร้องไห้ เสียงสั่นคลอนของเขาทำลั่วชิงยวนขอบตาแดงผ่าว นางจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป ให้เวลาส่วนตัวกับพวกเขาหน่อยเถิด แม้ว่าฉินไป๋หลี่จะมองไม่เห็น แต่เขาสามารถสัมผัสได้ เพียงแต่ในใจของลั่วชิงยวนรู้สึกเสียดายมาก ๆ เดิมทีนางคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่ได้รวมครอบครัว มิคิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ เดินออกจากเรือน นางเห็นแผ่นหลังของแม่ทัพใหญ่ฉินพอดี เขากำลังแอบปาดน้ำตาคนเดียว “แม่ทัพใหญ่ฉิน” ลั่วชิงยวนขานเรียก แม่ทัพใหญ่ฉินรีบเช็ดน้ำตาและหันร่างมา “พระชายา” “ข้าจักรักษาให้กับฉินไป๋หลี่อย่างสุดกำลัง ท่านแม่ทัพใหญ่อย่าได้เสียใจนัก อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่” ลั่วชิงยวนพูดปลอบ แม่ทัพใหญ่ฉินพยักหน้า “ครั้งนี้ต้องขอบคุณพระชายาเป็นอย่างยิ่ง เงินหนึ่งพันตำลึงข้าได้สั่งคนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว” “มิต้องรีบ ข้าไปจ่ายยา และฝังเข็มให้กับฉินไป๋หลี่ก่อน” จากนั้นลั่วชิงยวนจึงไปจ่ายยา รอให้ฉินไป๋หลี่อยู่กับภรรยาและลูกจนพอ ลั่วชิงยวนจึงเข้าไปฝังเข็มให้เขา ลองรักษ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 221

    “ถอยไป!” ลั่วชิงยวนขัดขืนสุดชีวิต แต่แล้วนางกลับสู้มิไหว นางถูกคนจับมัดแขน ยัดผ้าเข้าปาก และฝืนลากนางออกไป ลั่วชิงยวนโมโหเป็นอย่างมาก ในเมืองตอนกลางวันแสก ๆ ริอ่านจับตัวผู้อื่นโดยโจ่งแจ้งหรือ? เมืองนี้ยังมีกฎหมายหรือไม่! คนกลุ่มนั้นมีจำนวนร้อยกว่าคน ปรากฏตัวกลางตลาดและกินพื้นที่ตลาดจนหมด ด้านนอกมีคนเข้ามาดูมิน้อย เพียงแต่มิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน เหตุใดคนจึงมากมายเช่นนี้? ราวกับเป็นโจรป่าเลย!” “เหมือนจะกำลังไล่ตามหญิงสาวผิดจรรยาสตรีคนหนึ่ง ได้ยินว่าเป็นสนมที่มีชู้รักกับอาของตน! นี่ไง กำลังจะจับไปดิ่งแม่น้ำ” “เช่นนี้นี่เอง! สมน้ำหน้า!” “ไป ๆ ๆ เราก็ไปดูเรื่องสนุกบ้างเถอะ” ในฝูงชนมีแต่เสียงซุบซิบ ทุกคนต่างกำลังต่อว่าลั่วชิงยวน บังเหียนร้อนรนจนกระโดดอยู่กับที่ รถม้าพัง ม้าไม่ยอมเดินต่อ เขาจึงทำได้เพียงวิ่งกลับไปบอกข่าวที่จวนแม่ทัพใหญ่อย่างเร็วที่สุด! …… ลั่วชิงยวนถูกเชิญไปที่จวนแม่ทัพใหญ่กว่าครึ่งชั่วยาม ฟู่เฉินหวนจึงเพิ่งรู้เรื่องเซียวชู “ท่านอ๋อง เหมือนว่าจะหาฉินเชียนหลี่เจอจริง ๆ แล้วขอรับ! ท่านจวนแม่ทัพใหญ่จึงเชิญพระชายาไป!” ฟู่เฉินหวนได้ยิน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 222

    บังเหียนวิ่งเข้ามาอย่างทุลักทุเล และพูดตะโกน “แย่แล้วขอรับ! พระชายาถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งลักตัวไป!” สิ้นประโยค ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างตะลึง คิ้วของแม่ทัพใหญ่ฉินขมวดแน่น “ว่าไงนะ? ถูกชาวบ้านลักตัวไป? กลางวันแสก ๆ จะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!” บังเหียนกล่าวต่ออย่างร้อนรน “เรื่องจริงขอรับ! พวกเขาจับตัวพระชายาไปเพราะจำผิดคน ได้ยินว่าจะนำตัวพระชายาไปดิ่งแม่น้ำ!” วินาทีที่ได้ยินประโยคนี้ ในหัวของฟู่เฉินหวนเผยเป็นภาพถนนเส้นนั้นที่แออัดไปด้วยผู้คนมากมาย สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปฉับพลัน และวิ่งออกจากประตูจวนแม่ทัพใหญ่ไปทันใด …… ลั่วชิงยวนถูกจับตัวมาที่ริมแม่น้ำ ที่มาพร้อมนางยังมีผู้คนที่อยากเห็นเรื่องสนุก “นังสำส่อน! ริอ่านคบชู้! วันนี้จักเป็นจุดจบของเจ้า!” ชายหนุ่มกราดด่า พร้อมแกะเชือกที่มัดอยู่บนตัวของนาง น้ำเสียงของลั่วชิงยวนดุดัน “ข้าเป็นพระชายาอ๋องสำเร็จราชการ! พวกเจ้าจับตัวข้า คิดถึงจุดจบพวกเจ้าหรือยัง? ใครเป็นคนส่งตัวพวกเจ้ามา มิสนใจกระทั่งชีวิตตนเองแล้วงั้นรึ?” ลั่วชิงยวนมิเชื่อแน่ว่าพวกเขาจะจับผิดคน เกรงว่าตั้งใจเสียมากกว่า! ริอ่านจับตัวผู้อื่นในเวลากลางวันแสก ๆ อย่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 223

    ได้ยินดังนี้ หว่างคิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุกอย่างแรง เขาพุ่งไปริมแม่น้ำทันที แม่น้ำเส้นใหญ่ ธารน้ำไหลแรง ซ้อนทับกันเป็นชั้น แต่กลับมิเห็นร่างใด ๆ โผล่ออกมาจากผิวน้ำ วินาทีนั้นหัวใจของฟู่เฉินหวนบีบรัดถึงกล่องเสียง นางผู้นี้ช่วยได้กระทั่งเชียนหลี่ที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ อย่าบอกนะว่านางช่วยตัวเองมิได้! แต่เขากลับมิได้คิดมาก เขากระโดดลงในแม่น้ำดังเป็นเสียง ตู้ม เซียวชูที่มาถึงช้ากว่าก้าวหนึ่ง เห็นฉากที่ท่านอ๋องกระโดดลงในแม่น้ำพอดี สีหน้าของเขาซีดเผือดทันขวัญ เขาวิ่งขึ้นไปอย่างเร็ว “ท่านอ๋อง!” ท่านอ๋องกระโดดน้ำงั้นหรือ?! ผู้คนรอบด้านส่งเสียงตะลึง “ท่านอ๋องหรือ? เขาคืออ๋องสำเร็จราชการจริง ๆ ? เช่นนั้นที่ถูกดิ่ง คือพระชายาอ๋องจริง ๆ งั้นหรือ?” “ไม่เสียหรอก จะดิ่งผิดคนหรือไรเล่า?” ”สวรรค์” บนบกมีแต่เสียงตะลึง …… ลั่วชิงยวนกินน้ำไปหลายอึก จนนางปลดเชือกบนข้อมือได้ แต่กลับยังมีเชือกบนขาอีกข้างที่ยังแกะมิได้ แต่นางจะกลั้นใจมิไหวแลัว แสงบนหัวยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกลจากนาง ราวกับนางถูกลากสู่หุบเหวลึก และจมดิ่งลงเรื่อย ๆ ไม่ทันแล้ว! นางลากก้อนหินหนักอึ้งก้อนนั้น ว่ายขึ้นอ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status