แชร์

บทที่ 216

ผู้แต่ง: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
บรรยากาศอึดอัดขึ้นมา ลั่วชิงยวนคิดอย่างอดไม่ได้เหตุใดฟู่อวิ๋นโจวจึงยังไม่จำ มาเรียกนางว่าชิงยวน หนำซ้ำยังถูกฟู่เฉินหวนได้ยินอีก

อย่างที่คิด ฟู่เฉินหวนหันร่างมา สายตาอึมครึมเป็นที่สุด

เขาเอ่ยเสียงเย็น “เหมือนว่าเสด็จน้องจะยังมิเข้าใจอยู่ดีว่าลั่วชิงยวนคือใคร”

“ให้ข้าช่วยทวนความจำหรือไม่?”

สิ้นประโยค นัยน์ตาฟู่อวิ๋นโจวมีแววหวาดหวั่น เขาก้มหัวลง พร้อมกล่าวอธิบาย

“ช่วงนี้ข้าได้วาดภาพขึ้นมาภาพหนึ่ง แต่มิว่าจะมองอย่างไรก็มิพอใจนัก จึงมาขอคำชี้แนะจากพี่สะใภ้ สรรพนามที่ข้าเรียกผิดเพราะความร้อนรน หวังว่าเสด็จพี่จะมิถือโทษ!”

ได้ยินถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นในมือของฟู่อวิ๋นโจวมีภาพวาดอยู่ผืนหนึ่ง

ฟู่เฉินหวนก้มหน้า เขาก็มองเห็นเช่นกัน

เขาดึงภาพวาดมาและกล่าวเสียงเย็น “เสด็จน้องมิเข้าใจสิ่งใด มาถามข้าก็ได้!”

ฟู่เฉินหวนพูดไป พร้อมกางภาพวาดออก

แต่เมื่อภาพวาดถูกกางออก ลูกตาของฟู่เฉินหวนสั่นคลอน

หญิงสาวในภาพวาดรูปร่างอวบอิ่ม สวมใส่ชุดแต่งงานสีแดง ใบหน้าที่นางหันมาครึ่งหนึ่ง คล้ายกับลั่วชิงยวนมาก!

ไฟโทสะฟู่เฉินหวนถูกจุด และลุกไหม้ขึ้นหัว!

ลั่วชิงยวนมองสีหน้าของฟู่เฉินหวนท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 217

    ฟู่เฉินหวนพิโรธจนเตะเท้าทีหนึ่ง ของที่เหยียบอยู่ใต้เท้านั้น ถูกเขาเตะกระจุยออกไป เศษไม้ พู่ระย้าสีแดง เชือกแขวนกระจายออกเต็มพื้น กระทั่งเก็บยังมิสามารถเก็บได้ มันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงและหมดจด! ชิ้นส่วนกวาดผ่านข้างแก้มลั่วชิงยวน และทิ้งเป็นรอยเลือดไว้ ใต้ขนตายาวแพราวกับปีกผีเสื้อคือดวงตาที่เต็มไปด้วยแววเกรี้ยวกราด นางกำเป็นหมัดแน่น และลุกขึ้นอย่างโกรธเคือง “ฟู่เฉินหวน หากท่านสงสัยหม่อมฉันกับองค์ชายห้ามีชู้รักกัน ท่านก็มอบหนังสือหย่าให้หม่อมฉัน! ท่านเป็นบ้าอะไรของท่านกัน?!” สายตาของฟู่เฉินหวนมืดครึ้มเป็นที่สุด เขาค่อย ๆ เอนตัวเข้าใกล้ลั่วชิงยวน วินาทีต่อมา น้ำเสียงยะเยือกดังขึ้นข้างหูลั่วชิงยวน “คิดจะจากไปง่าย ๆ รึ? ฝันไปเถอะ!” สิ้นเสียง ฟู่เฉินหวนหันร่างกลับเย็น ๆ และจากไป ลั่วชิงยวนกำเป็นหมัดแน่น โทสะในใจจะปะทุออกมาจากกลางอก มองลูกแก้วหลิงหลงที่แตกสลายเต็มพื้น ในใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกมีดเฉือน ที่ถูกเขาเหยียบแหลก ไม่เพียงแค่ลูกแก้ว รวมทั้งศักดิ์ศรีของนางด้วย! นางโน้มตัวจะเก็บพู่ระย้า แต่มือเรียวยาวคู่หนึ่งตัดหน้านางเสียก่อน และยื่นให้กับนาง นางเงยห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 218

    “แต่เจ้าระวังหมอเทวดากู้ เขาอยู่ในเรือนทักษิณา เจ้าอย่าเข้าไปดีกว่า” ได้ยินเข้า เวินซีหลานพยักหน้าและรีบตามขึ้นไป ลั่วชิงยวนกลับมาในห้องของตน ประดิษฐ์ลูกแก้วหลิงหลงอีกครั้ง ผ่านไปพักหนึ่ง เวินซีหลานกลับมา นางกล่าว “ข้าเห็นแล้ว” “ในภาพนั้น น่าจะวาดท่าน” ได้ยินดังนี้ มือของลั่วชิงยวนชะงัก วาดภาพนางงั้นหรือ? มิน่าล่ะฟู่เฉินหวนจึงพูดเช่นนั้น! นางยังคงตกตะลึง เวินซีหลานกล่าวต่อ “ข้าเห็นเขากอดภาพพร้อมพึมพำกับตัวเองว่าชอบเจ้า” ลั่วชิงยวนแข็งทื่อโดยสิ้นเชิง ฟู่อวิ๋นโจวชอบลั่วชิงยวนจริง ๆ … มิน่า ฟู่อวิ๋นโจวจึงดีต่อนางเช่นนี้ มิน่า ชายคนนี้จึงใส่ใจนางและอ่อนโยนมากเช่นนี้ คิดว่าก่อนที่ลั่วชิงยวนจะแต่งกับฟู่เฉินหวน ฟู่อวิ๋นโจวก็คงแอบชอบนางแล้ว พวกเขาทั้งคู่เจอสถานการณ์ที่คล้ายกัน ต่างฝ่ายต่างมองอีกฝ่ายเป็นผู้รู้ใจ แต่ลั่วชิงยวนในตอนนั้น กลับมีแต่ฟู่เฉินหวนทั้งใจ จึงมิได้สังเกตเห็นว่าฟู่อวิ๋นโจวชอบนาง เวินซีหลานเอ่ยกล่าว “ข้าว่าองค์ชายห้าก็เป็นคนรักเดียว นิสัยของเขาดีกว่าท่านอ๋องมากโขนัก” ลั่วชิงยวนคิดถึงสีหน้ามืดครึ้มของฟู่เฉินหวน คิ้วของนางก็ขมวดติดกันอย่างอดไม่ได้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 219

    “เขาที่ติดอยู่ในหุบเขาพิษเกือบครึ่งเดือน ยังมีชีวิตรอด ตอนนี้กำลังทำการรักษาอยู่” ลั่วชิงยวนพยักหน้า และตามแม่ทัพใหญ่ฉินมาถึงเรือนใน แม่ทัพใหญ่ฉินพูดกับนางด้วยน้ำเสียงหนักใจ ”คือว่าไป๋หลี่เขา…” คิ้วของลั่วชิงยวนกระตุก นางตามแม่ทัพใหญ่ฉินเข้าไปในห้อง พบกับร่างสีขาวซีดบนเตียง เขากำลังนอนพิงหัวเตียง และตาของเขา ถูกปกคลุมด้วยผ้าขาว ฉากนี้ทำเอาหัวใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน แม่ทัพใหญ่ฉินถอนหายใจอย่างหนัก “วันนี้ไป๋หลี่ก็ตื่นแล้ว…เพียงแต่ตาของเขา…มองไม่เห็นอีกต่อไป!” บัดนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินจึงเข้าใจสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูด ข้อแลกเปลี่ยนที่เขาต้องเสียไป คือดวงตาคู่หนึ่ง! ลั่วชิงยวนเองก็รู้สึกฉงน นางก้าวขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว พูดกับฉินไป๋หลี่ “ข้าขอดูหน่อย” นางดึงผ้าขาวที่ปิดตาของฉินไป๋หลี่อยู่ออก สีตาของเขาได้กลายเป็นสีเทา ราวกับถูกปกคลุมโดยหมอกหนา นางลองโบกมือ “มองไม่เห็นแม้แต่นิดจริงหรือ?” ฉินไป๋หลี่ส่ายหัว “มองไม่เห็น” แม่ทัพใหญ่ฉินมองแล้วรู้สึกเจ็บใจเป็นอย่างมาก เขากล่าว “ข้ายังมิได้เชิญหมอหลวง ข้าเชิญพระชายามาก่อน มิทราบว่าพระชายามีวิธีรักษาหรือไม่?” เรื่องนี้เป็นเรื่องข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 220

    “เหมือนว่าข้า… จะสัมผัสได้แล้ว!” “พวกเขาอยู่ที่นั่นใช่ไหม?” ลั่วชิงยวนกล่าวตอบ “ใช่ พวกเขาอยู่ข้างกายเจ้า” ฉินไป๋หลี่ดีใจจนร้องไห้ เสียงสั่นคลอนของเขาทำลั่วชิงยวนขอบตาแดงผ่าว นางจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไป ให้เวลาส่วนตัวกับพวกเขาหน่อยเถิด แม้ว่าฉินไป๋หลี่จะมองไม่เห็น แต่เขาสามารถสัมผัสได้ เพียงแต่ในใจของลั่วชิงยวนรู้สึกเสียดายมาก ๆ เดิมทีนางคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่ได้รวมครอบครัว มิคิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ เดินออกจากเรือน นางเห็นแผ่นหลังของแม่ทัพใหญ่ฉินพอดี เขากำลังแอบปาดน้ำตาคนเดียว “แม่ทัพใหญ่ฉิน” ลั่วชิงยวนขานเรียก แม่ทัพใหญ่ฉินรีบเช็ดน้ำตาและหันร่างมา “พระชายา” “ข้าจักรักษาให้กับฉินไป๋หลี่อย่างสุดกำลัง ท่านแม่ทัพใหญ่อย่าได้เสียใจนัก อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่” ลั่วชิงยวนพูดปลอบ แม่ทัพใหญ่ฉินพยักหน้า “ครั้งนี้ต้องขอบคุณพระชายาเป็นอย่างยิ่ง เงินหนึ่งพันตำลึงข้าได้สั่งคนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว” “มิต้องรีบ ข้าไปจ่ายยา และฝังเข็มให้กับฉินไป๋หลี่ก่อน” จากนั้นลั่วชิงยวนจึงไปจ่ายยา รอให้ฉินไป๋หลี่อยู่กับภรรยาและลูกจนพอ ลั่วชิงยวนจึงเข้าไปฝังเข็มให้เขา ลองรักษ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 221

    “ถอยไป!” ลั่วชิงยวนขัดขืนสุดชีวิต แต่แล้วนางกลับสู้มิไหว นางถูกคนจับมัดแขน ยัดผ้าเข้าปาก และฝืนลากนางออกไป ลั่วชิงยวนโมโหเป็นอย่างมาก ในเมืองตอนกลางวันแสก ๆ ริอ่านจับตัวผู้อื่นโดยโจ่งแจ้งหรือ? เมืองนี้ยังมีกฎหมายหรือไม่! คนกลุ่มนั้นมีจำนวนร้อยกว่าคน ปรากฏตัวกลางตลาดและกินพื้นที่ตลาดจนหมด ด้านนอกมีคนเข้ามาดูมิน้อย เพียงแต่มิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน เหตุใดคนจึงมากมายเช่นนี้? ราวกับเป็นโจรป่าเลย!” “เหมือนจะกำลังไล่ตามหญิงสาวผิดจรรยาสตรีคนหนึ่ง ได้ยินว่าเป็นสนมที่มีชู้รักกับอาของตน! นี่ไง กำลังจะจับไปดิ่งแม่น้ำ” “เช่นนี้นี่เอง! สมน้ำหน้า!” “ไป ๆ ๆ เราก็ไปดูเรื่องสนุกบ้างเถอะ” ในฝูงชนมีแต่เสียงซุบซิบ ทุกคนต่างกำลังต่อว่าลั่วชิงยวน บังเหียนร้อนรนจนกระโดดอยู่กับที่ รถม้าพัง ม้าไม่ยอมเดินต่อ เขาจึงทำได้เพียงวิ่งกลับไปบอกข่าวที่จวนแม่ทัพใหญ่อย่างเร็วที่สุด! …… ลั่วชิงยวนถูกเชิญไปที่จวนแม่ทัพใหญ่กว่าครึ่งชั่วยาม ฟู่เฉินหวนจึงเพิ่งรู้เรื่องเซียวชู “ท่านอ๋อง เหมือนว่าจะหาฉินเชียนหลี่เจอจริง ๆ แล้วขอรับ! ท่านจวนแม่ทัพใหญ่จึงเชิญพระชายาไป!” ฟู่เฉินหวนได้ยิน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 222

    บังเหียนวิ่งเข้ามาอย่างทุลักทุเล และพูดตะโกน “แย่แล้วขอรับ! พระชายาถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งลักตัวไป!” สิ้นประโยค ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างตะลึง คิ้วของแม่ทัพใหญ่ฉินขมวดแน่น “ว่าไงนะ? ถูกชาวบ้านลักตัวไป? กลางวันแสก ๆ จะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!” บังเหียนกล่าวต่ออย่างร้อนรน “เรื่องจริงขอรับ! พวกเขาจับตัวพระชายาไปเพราะจำผิดคน ได้ยินว่าจะนำตัวพระชายาไปดิ่งแม่น้ำ!” วินาทีที่ได้ยินประโยคนี้ ในหัวของฟู่เฉินหวนเผยเป็นภาพถนนเส้นนั้นที่แออัดไปด้วยผู้คนมากมาย สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปฉับพลัน และวิ่งออกจากประตูจวนแม่ทัพใหญ่ไปทันใด …… ลั่วชิงยวนถูกจับตัวมาที่ริมแม่น้ำ ที่มาพร้อมนางยังมีผู้คนที่อยากเห็นเรื่องสนุก “นังสำส่อน! ริอ่านคบชู้! วันนี้จักเป็นจุดจบของเจ้า!” ชายหนุ่มกราดด่า พร้อมแกะเชือกที่มัดอยู่บนตัวของนาง น้ำเสียงของลั่วชิงยวนดุดัน “ข้าเป็นพระชายาอ๋องสำเร็จราชการ! พวกเจ้าจับตัวข้า คิดถึงจุดจบพวกเจ้าหรือยัง? ใครเป็นคนส่งตัวพวกเจ้ามา มิสนใจกระทั่งชีวิตตนเองแล้วงั้นรึ?” ลั่วชิงยวนมิเชื่อแน่ว่าพวกเขาจะจับผิดคน เกรงว่าตั้งใจเสียมากกว่า! ริอ่านจับตัวผู้อื่นในเวลากลางวันแสก ๆ อย่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 223

    ได้ยินดังนี้ หว่างคิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุกอย่างแรง เขาพุ่งไปริมแม่น้ำทันที แม่น้ำเส้นใหญ่ ธารน้ำไหลแรง ซ้อนทับกันเป็นชั้น แต่กลับมิเห็นร่างใด ๆ โผล่ออกมาจากผิวน้ำ วินาทีนั้นหัวใจของฟู่เฉินหวนบีบรัดถึงกล่องเสียง นางผู้นี้ช่วยได้กระทั่งเชียนหลี่ที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ อย่าบอกนะว่านางช่วยตัวเองมิได้! แต่เขากลับมิได้คิดมาก เขากระโดดลงในแม่น้ำดังเป็นเสียง ตู้ม เซียวชูที่มาถึงช้ากว่าก้าวหนึ่ง เห็นฉากที่ท่านอ๋องกระโดดลงในแม่น้ำพอดี สีหน้าของเขาซีดเผือดทันขวัญ เขาวิ่งขึ้นไปอย่างเร็ว “ท่านอ๋อง!” ท่านอ๋องกระโดดน้ำงั้นหรือ?! ผู้คนรอบด้านส่งเสียงตะลึง “ท่านอ๋องหรือ? เขาคืออ๋องสำเร็จราชการจริง ๆ ? เช่นนั้นที่ถูกดิ่ง คือพระชายาอ๋องจริง ๆ งั้นหรือ?” “ไม่เสียหรอก จะดิ่งผิดคนหรือไรเล่า?” ”สวรรค์” บนบกมีแต่เสียงตะลึง …… ลั่วชิงยวนกินน้ำไปหลายอึก จนนางปลดเชือกบนข้อมือได้ แต่กลับยังมีเชือกบนขาอีกข้างที่ยังแกะมิได้ แต่นางจะกลั้นใจมิไหวแลัว แสงบนหัวยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกลจากนาง ราวกับนางถูกลากสู่หุบเหวลึก และจมดิ่งลงเรื่อย ๆ ไม่ทันแล้ว! นางลากก้อนหินหนักอึ้งก้อนนั้น ว่ายขึ้นอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 224

    เขาดีดตัวขึ้น ก็พบกับลั่วชิงยวนที่นอนสลบอยู่ด้านข้างพอดี สีหน้าซีดเผือดของนางทำเขาตกใจ เขารีบเดินขึ้นหน้า กดไปที่หน้าอกของลั่วชิงยวนอย่างแรง ลั่วชิงยวนสำลักน้ำออกมามิน้อย ลั่วชิงยวนลืมตา เห็นเป็นใบหน้าของฟู่เฉินหวน นางรู้ว่าอันตรายได้ถูกถอดถอน นางจึงสลบไปอย่างหมดเรี่ยวแรงอีกครั้ง “นี่!” คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวด สลบไปอีกแล้วงั้นหรือ? เขายื่นนิ้วพิสูจน์ลมหายใจนาง เห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่ ฟู่เฉินหวนจึงโล่งอก เมื่อครู่ตอนสัมผัสโดนใบหน้านาง เขารู้สึกว่าตัวนางร้อนมาก ๆ ลั่วชิงยวนหนาวจนริมฝีปากเริ่มซีดเผือด ร่างเปียกปอนของนางตากลมหนาวอยู่นาน จึงจับไข้เสียแล้ว คิ้วของฟู่เฉินหวนผูกกันแน่น เขาลุกขึ้นไปมองดูรอบ ๆ บริเวณนี้มีแต่บ่อน้ำตื้น มืดมิดและไร้ซึ่งผู้คน หาทางออกมิเจอ เหล่าเซียวชูก็คงหาพวกเขาไม่เจอในเร็ว ๆ นี้ ดูท่าคงต้องฝืนนอนที่นี่คืนหนึ่งแล้ว เขาไปหากิ่งไม้แห้งและหญ้าแห้ง ก่อกองไฟขึ้นมา เขาย้ายลั่วชิงยวนไปที่ข้างกองไฟ ตัวนางเปียกปอนจึงถอดอาภรณ์ชั้นนอกมาตากผิงให้แห้ง เมื่อตอนสะบัดชุด กลับมีสิ่งหนึ่งหล่นลงมา และกลิ้งเข้าไปในพุ่มหญ้า ฟู่เฉินหวนชะงักเล็กน้อย เดินขึ้นหน

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1105

    ดีงูที่ทำให้ฝีมือของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากนั้น นางยังคงจำได้มิลืมเลือนน่าเสียดายที่ข้างกายซ่งเชียนฉู่มีคนผู้ทรงอานุภาพคอยคุ้มครอง นางจึงพยายามด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ยังล้มเหลวการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับซ่งเชียนฉู่อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ฉู่ลั่วกลับดื้อดึงมิยอมร่วมมือกับนาง!เมื่อมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จำต้องทำลายเขาเสีย!ลั่วชิงยวนกลับไปยังลานหลังร้านซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านมิได้ไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?”ลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบแล้วพาส่งเฉียนฉู่กลับไปยังห้อง จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังเมื่อซ่งเชียนฉู่ฟังจบก็รีบกล่าวว่า “ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะมิปล่อยท่านไป หรือว่าท่านจะเข้าวังไปดำรงตำแหน่งมหาปราชญ์ เมื่อมีตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะต้องเกรงใจบ้าง”ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ อืม... ค่อยว่ากันอีกที”จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก เมื่อแน่ใจแล้วว่าลั่วฉิงจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนจึงกลับตำหนักอ๋องอย่างเงียบเชียบเมื่อกลับแล้วก็ถูกหล่างมู่ขวางทาง “พี่หญิง ท่านไปที่ใดมาขอรับ? ฟู่เฉินหวนมาหาท่านตอนค่ำ”“แล้วเจ้าบอกเขาว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่าพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1104

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างมู่อย่างช่วยมิได้“หล่างมู่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปทำธุระก่อน” ลั่วชิงยวนหันหลังวิ่งไปหล่างมู่ถือลูกถังหูลู่สองไม้วิ่งตามไปสองสามก้าว “พี่หญิง ท่านจะไปที่ใด? ไฉนมิพาข้าไปด้วยเล่า?”ลั่วชิงยวนมิได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกจากถนนไปแล้วเมื่อไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่หอฝูเสวี่ยแล้ว นางจึงไปที่ร้านอย่างเงียบเชียบเมื่อไปถึงลานด้านหลังก็พบกับซ่งเชียนฉู่ที่กำลังแบกตะกร้ากลับมาจากประตูหน้า ท่าทางดูรีบร้อนนัก“ท่านมาพอดี ท่านเห็นประกาศบนถนนหรือไม่? องค์จักรพรรดิจะเชิญท่านเข้าวังเพื่อแต่งตั้งท่านเป็นมหาปราชญ์!” ซ่งเชียนฉู่ส่งประกาศให้“นี่เป็นประกาศที่ติดอยู่ที่ประตูร้านเรา”“มิกี่วันที่ผ่านมา ข้าออกไปเก็บสมุนไพร พวกเขาคงจะมาหาท่าน แต่ไม่มีใครอยู่จึงติดประกาศไว้”“จะทำอย่างไรดี?”ซ่งเชียนฉู่ก็ตกตะลึงเช่นกันลั่วชิงยวนรับประกาศมาดูอีกครั้ง ในนั้นยังเขียนด้วยว่าให้นางเข้าวังหลวงเพื่อทำนายชะตาของแคว้นเทียนเชวียแล้วแต่งตั้งเป็นมหาปราชญ์ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าครั้งนี้ ตัวตนของท่านคงจะปกปิดมิได้แล้ว”“คอยดูกันต่อไปเถิด” ลั่วชิงยวนยังมิรู้ว่าจะบอกฟู่เฉินหวนอย่างไร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1103

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่ลั่วชิงยวนปอกส้มแล้วป้อนให้ฟู่เฉินหวนพลางพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “หล่างมู่มองหม่อมฉันเป็นเพียงพี่หญิงจริง ๆ เพคะ”“เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่หญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่หญิงของเขาเสียชีวิตเพราะเขา จึงเป็นบ่วงกรรมและความเสียใจตลอดชีวิตของเขา”“ต่อมาหล่างชิ่นกลายเป็นพี่หญิงของเขา เขาเชื่อฟังหล่างชิ่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายหล่างชิ่นกลับต้องการให้เขาตาย”“หลังจากนั้นเมื่อหม่อมฉันไปยังเผ่านอกด่าน ราชาเผ่านอกด่านบอกว่าหม่อมฉันเป็นพี่หญิงของเขา ดังนั้นเขาจึงมองหม่อมฉันเป็นพี่หญิงแท้ ๆ มาโดยตลอด”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยยิ่งนัก “พูดตามตรงคือข้ายังคงมิเข้าใจเลยว่าเหตุใดราชาเผ่านอกด่านจึงมั่นใจว่าเจ้าเป็นลูกสาวของเขา”ลั่วชิงยวนพูดเสียงเบาว่า “ราชาเผ่านอกด่านกับลั่วไห่ผิงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ! พวกเขาเป็นพี่น้องกันเพคะ!”“ก่อนที่ท่านแม่ของหม่อมฉันจะมาเมืองหลวงแล้วแต่งงานกับลั่วไห่ผิง นางเคยมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่าน แต่สุดท้ายก็มิได้ลงเอยกันจึงมาเมืองหลวงและแต่งงานกับลั่วไห่ผิงเพคะ”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง“

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1101

    ฟู่จิ่งหานมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พระราชโองการนั้นทำให้ลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จึงพูดว่า “มิเป็นอะไร การประลองครั้งนี้ก็มิได้ห้ามมิให้แคว้นเพื่อนเรือนเคียงเข้าร่วม”“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการสามารถเอาชนะองค์ชายเผ่านอกด่าน แล้วยกให้เป็นน้องชายได้ นับว่าความสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่ข้าแล้ว!”“พระชายามีบาดแผล อนุญาตให้พระชายาและองค์ชายหล่างมู่ออกไปก่อนได้”ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”แล้วหล่างมู่ก็พยุงลั่วชิงยวนออกไปเนื่องจากหอฝูเสวี่ยอยู่มิไกลและสามารถมองเห็นการประลองจากชั้นสามได้ ลั่วชิงยวนจึงพาหล่างมู่ไปพักผ่อนที่หอฝูเสวี่ยก่อนซิ่งอวี่ต้มยามาให้นางกินลั่วชิงยวนนั่งข้างหน้าต่าง มองดูการประลองที่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวเอาชนะทุกคนได้ นางก็รู้ว่าเขากำลังจะเข้าสู่ราชสำนักแล้ว“พี่หญิง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่ขอรับ?” หล่างมู่ยกชามาให้หนึ่งถ้วยลั่วชิงยวนส่ายหน้า “มิเป็นอะไรแล้ว บาดแผลมิสาหัส พักสักสองสามวันก็หาย”“หล่างมู่ เจ้ามาเมืองหลวงได้อย่างไร? ในเผ่านอกด่านเกิดเรื่องใหญ่อันใดหรือไม่? รีบร้อนมาเช่นนี้เลยหรือ?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1100

    ฟู่อวิ๋นโจว!หล่างมู่กำหมัดแน่น แล้วกระโจนเข้าไปอีกครั้งผู้คนมากมายต่างเป็นห่วงฟู่อวิ๋นโจว หล่างมู่เป็นคนเผ่านอกด่าน ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคนแล้วร่างกายที่อ่อนแอของฟู่อวิ๋นโจวจะรับมือได้อย่างไรแต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเวลาที่ฟู่อวิ๋นโจวปรากฏตัวนั้นเหมาะสม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถฟู่อวิ๋นโจวรับหมัดของหล่างมู่ได้อย่างแน่นอนจากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดหลายสิบกระบวนท่าทำให้ผู้คนในที่นั้นต่างตกตะลึง“นี่คือองค์ชายห้าหรือ?”“ฝีมือของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”“ใช่แล้ว มิใช่ว่าเขาป่วยอยู่หรอกหรือ?”ขณะที่ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ฟู่อวิ๋นโจวก็พบจุดอ่อนของหล่างมู่แล้ว จึงเหวี่ยงหล่างมู่ลงไปกับพื้น แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของหล่างมู่ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปห้าม “หยุดนะ!”ฟู่อวิ๋นโจวสะดุ้งแล้วลดมือลงหล่างมู่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะตอบโต้ แต่ถูกลั่วชิงยวนดึงไว้“หล่างมู่แพ้แล้ว” ลั่วชิงยวนประกาศผลทันทีสายตาของนางมองฟู่อวิ๋นโจวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายห้าเพคะ”เขายังคงมิได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเรียบง่าย แต่กลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1099

    ฟู่เฉินหวนใจตึงเครียดจนฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อลั่วชิงยวนพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เหยียนผิงเซียวชกเข้าที่ท้องของลั่วชิงยวนอีกครั้ง เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากนางเหยียนผิงเซียวจิกผมของนางแล้วกระซิบข้างหูอย่างร้ายกาจว่า “เจ้าเก่งนักมิใช่หรือ! ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องลาออกจากตำแหน่งกลับไปยังเมืองฉิน เจ้าเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงของตำหนักอ๋องนี่!”“เจ้าลองเดาดูสิว่าฟู่เฉินหวนจะช่วยเจ้าหรือไม่?”“แต่มิสำคัญแล้ว เพราะข้าต้องการเพียงให้เจ้าตายเท่านั้น!”เหยียนผิงเซียวใช้ร่างของลั่วชิงยวนบังสายตาของผู้คนส่วนมืออีกข้างที่กำหมัดแน่นมีแผ่นเหล็กแหลมคมติดอยู่ แล้วกระแทกลงไปที่ท้องของลั่วชิงยวนอย่างแรงลั่วชิงยวนเห็นอาวุธลับนั้นแล้วก็ตึงเครียดมากฟู่เฉินหวนแทบขาดใจ ความรู้สึกมิสบายใจอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาฟู่อวิ๋นโจวผู้นั่งอยู่มุมห้องใต้หลังคาก็กำมือแน่นด้วยความตึงเครียดเช่นกันแม้ว่าฝีมือของลั่วชิงยวนจะสู้เหยียนผิงเซียวมิได้ แต่ก็มิควรจะไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เช่นนี้จะลงมือช่วยนางตอนนี้เลยดีหรือไม่!ฟู่อวิ๋นโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้วในวินาทีนั้นเองเงาร่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1098

    ในมิช้าการประลองก็เริ่มขึ้นโชคดีที่ลั่วเยวี่ยอิงมิได้ก่อเรื่องวุ่นวายอีก นางเฝ้าดูการประลองอย่างสงบลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ ดาบและกระบี่นั้นไร้ตา ดังนั้นการประลองครั้งนี้จึงห้ามใช้ดาบและอาวุธลับแต่เมื่อปรมาจารย์ต่อสู้กันก็อาจจะควบคุมมือมิทัน เพื่อให้ทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ การประลองครั้งนี้ ความเป็นความตายจึงเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตชัยชนะครั้งสุดท้ายมิใช่ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดสิ่งสำคัญคือการแสดงผลงานในระหว่างการประลอง ฟู่เฉินหวนจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นบางคนสำหรับฟู่จิ่งหาน การประลองครั้งนี้มิใช่เพียงการคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการชมการประลองที่น่าตื่นเต้นด้วย ดังนั้นจึงมีความอิสระสูงทุกคนสามารถขึ้นไปท้าทายได้ หนึ่งรอบมีผู้แข่งขันสิบคน ผู้ชนะจะได้พักแล้วเข้าสู่รอบที่สองดังนั้นผู้ชนะในแต่ละรอบจะสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่ตนคิดว่าแข็งแกร่งกว่าได้อย่างอิสระการประลองรอบแรกจบลงอย่างรวดเร็ว ฟู่เฉินหวนกับฟู่จิ่งหานวิเคราะห์ผู้ที่เหมาะสมในรอบนี้อย่างจริงจังฟู่จิ่งหานพยักหน้าให้ขันทีที่ยืนอยู่ด้านข้างจดบันทึกชื่อทุกอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1097

    “พระชายา เหตุใดมิลงไปหามาให้ข้าเล่า? หากขุดพบรากบัวได้สองหัว ข้าจะเมตตาตกรางวัลให้อย่างงาม!”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเยาะเย้ยและหยิ่งผยองนั้น มิใช่ปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนดุจพระชายา หากแต่ปฏิบัติเสมือนทาสบริวารเหล่าผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงพรึงเพริดตำแหน่งของลั่วชิงยวนในตำหนักอ๋องนั้นต่ำต้อยถึงเพียงนี้เชียวหรือ?ฟู่เฉินหวนอดรนทนมิไหวอีกต่อไป จึงพูดเสียงเย็นเยียบว่า “ฤดูกาลนี้จะมีรากบัวอยู่ได้อย่างไร มิต้องลำบากเช่นนั้นเลย”ลั่วเยวี่ยอิงกลับคว้าแขนฟู่เฉินหวนพลางทำท่าทางออดอ้อน“ไม่เพคะ ท่านอ๋อง เผื่อว่าจะมีก็ได้! โปรดให้พระชายาลงไปค้นหาดูเถิดเพคะ!”นางกล่าวจบก็ถอดกำไลหยกที่ข้อมือ แล้วขว้างลงไปในบึงจากนั้นเชิดหน้าพูดกับลั่วชิงยวนว่า “ไปสิ กำไลหยกวงนี้เป็นรางวัลของเจ้า!”ท่าทางเช่นนี้ประหนึ่งว่ากำลังสั่งการสุนัขตัวหนึ่งฟู่เฉินหวนกำมือแน่น รู้สึกปวดร้าวที่ศีรษะอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นดังนั้นก็กังวลเพราะอาการของฟู่เฉินหวน นัยน์ตานางฉายแววเย็นชาขณะมองหน้าลั่วเยวี่ยอิง แล้วหันหลังกระโดดลงไปในสระน้ำเมื่อเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น เสียงฮือฮาต่างก็ดังมาจากทั่วบริเวณ“นางกระโดดลงไปจริง ๆ

DMCA.com Protection Status