แชร์

บทที่ 161

ผู้แต่ง: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
สายตาของลั่วชิงยวนครบกริบ นางดึงคอเสื้อของนักทำนายชะตาไว้ “เห็นหรือยัง! ต่อให้เจ้าใส่ร้ายข้า คนที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ปล่อยเจ้าไปอยู่ดี!”

วางแผนถึงตัวนางงั้นหรือ? นางจักต้องถามออกมาให้ได้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร!

นักทำนายชะตามองแมลงที่ถูกทุบจนเละ ในใจของเขาสั่นคลอน แต่นัยน์ตากลับฉายแววเด็ดขาด “ตกในมือเจ้า จะมีจุดจบ ดี ๆ งั้นรึ?”

สิ้นเสียง เขาก็กัดพิษที่ซ่อนไว้ในปากจนแตกทันที

สายตาของลั่วชิงยวนเย็นลง รู้ตัวทันทีว่าเขาอยากกัดพิษฆ่าตัวตาย จึงเหวี่ยงหมัดเข้าไปอย่างแรง

แรงเสียจนนักทำนายชะตาหน้าเบี้ยว ฟันหลุดไปสองซี่ ยาพิษเองก็หล่นออกจากปาก

ฟู่เฉินหวนเห็นเข้า เขาขมวดคิ้วอย่างแรง การตอบสนองอันว่องไวนี้ มิเหมือนคุณหนูตระกูลชั้นสูงธรรมดาคนหนึ่ง

นางโดนใส่ร้ายจึงอยากยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง หรือนางกำลังถือโอกาสแลกความเชื่อใจจากเขากันแน่?

ลั่วชิงยวนหยิบเชือกมาเส้นหนึ่งมัดตัวนักทำนายชะตาไว้ พร้อมกับกล่าวเย็น ๆ “อย่าคิดจะตาย!”

“ในเมื่อเจ้ามิยอมให้ความร่วมมือดี ๆ งั้นคงต้องให้เจ้าได้รับความทรมานหน่อยเสียแล้ว”

นางผลักนักทำนายชะตาให้เดินออกไปทางด้านนอก จนมาถึงด้านหน้าฟู่เฉินหวน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 162

    คิ้วของลั่วชิงยวนกระตุก นางดึงตัวนักทำนายชะตาหมอบลงกับพื้น ลูกธนูแหลมคมทะลุผ่านกำแพงรถม้าทันที หัวใจของฟู่เฉินหวนบีบรัด เขาหวั่นเกรงเล็กน้อย และเปิดประตูรถม้าตรวจดูอย่างว่องไว สายตาของเขาตกอยู่บนตัวลั่วชิงยวน แต่เมื่อลั่วชิงยวนเงยหน้า สายตาเขากลับกวาดไปทางนักทำนายชะตาเสียแล้ว ยืนยันว่าอีกฝ่ายยังรอดชีวิต เขาหันหน้า ดึงเชือกควบม้าในทันที “นั่งให้ดีล่ะ!” แส้ฟาดไปบนก้นม้า ม้าร้องกังวานทีหนึ่ง จากนั้นก้าวขาวิ่งไปทางด้านหน้าอย่างไว วินาทีนั้น ลั่วชิงยวนที่อยู่ในรถม้าลำตัวกระเด็นขึ้นลง ส่วนนักทำนายชะตาก็กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในรถม้า พวกเขาควบคุมร่างกายของตนไม่ได้แม้แต่นิด ฟิ้ว ๆ ๆ … ลูกธนูมากมายยิงมาทางรถม้าของพวกเขาราวกับสายฝน ลั่วชิงยวนต้องพยายามทรงตัว และคอยดึงตัวนักทำนายชะตาหลบลูกธนู เจ้านี่จะตายไม่ได้เด็ดขาด หากเขาตายนางยิ่งอธิบายไม่ได้ไปใหญ่เลย! “สวรรค์ สะเทือนเยี่ยงนี้ ให้ข้าออกไปตายเถิด!” นักทำนายชะตารับแรงสะเทือนไม่ไหว และกำลังจะอ้วกออกมา “อย่าคิดจะได้ตายง่าย ๆ!” ลั่วชิงยวนกดเขาไว้ที่พื้น น้ำหนักครึ่งตัวของนางทับเขาไว้ จนเขาปีนออกไปไม่ได้อีก ระหว่างทางหลบหนี ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 163

    เมื่อนางพูดถึงตรงนี้ ร่างของนักทำนายชะตาสั่นเป็นเจ้าเข้า มิรู้เพราะความเจ็บปวดหรือเพราะกลัวในสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดกันแน่ เมื่อถึงเวลานี้ ในที่สุดเขาจึงเอ่ยปากสั่น ๆ “ข้าพูด! ข้าพูดได้!” “ผู้นั้นคือ…” ลั่วชิงยวนรับรู้ถึงความอันตราย นางหลบหลีกทันขวัญ ลูกธนูลูกหนึ่งยิงจากทิศบนเข้ามาในรถม้า และยิงไปโดนบ่าขวาของนักทำนายชะตา ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนตรวจสอบบาดแผลของนักทำนายชะตา โชคดีที่มิได้โดนจุดสำคัญ มิอันตรายถึงชีวิต บรรยากาศเงียบสงัดลง และเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ด้านนอก ชายชุดดำสามสี่สิบคนวิ่งตามจนถึงที่นี่ ในมือถืออาวุธไว้หลากหลายชนิด นอกรถม้า เสียงที่ฟู่เฉินหวนกระโดดลงจากรถม้าเบา ๆ พร้อมกับน้ำเสียงที่แสนหยิ่งทะนงของเขา “ปรากฏตัวเสียที” ลั่วชิงยวนเปิดประตูรถม้าออกอย่างคิ้วขมวด ก็พบกับนักฆ่าชุดดำที่อยู่สี่ทิศแปดด้าน แต่ท่าทีใจเย็นและนิ่งเฉยของฟู่เฉินหวน กลับเต็มไปด้วยไอข่มเหง เขาหันหน้ามองนางทีหนึ่ง จากนั้นมองไปที่ใต้รถม้า มิได้เอ่ยพูดสิ่งใด แต่ลั่วชิงยวนกลับเข้าใจความหมายของเขา คือให้ไปหลบอยู่ที่ใต้รถม้า วินาทีต่อมา เหล่าคนชุดดำกรูโจมตีพร้อมกัน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 164

    ศพกระจายเต็มพื้น! และกองกันเป็นสันเขาเล็ก ๆ แค่ปีนออกไปนางยังทำมิได้ นางผลักศพออกอย่างยากลำบาก ร่างที่หนาใหญ่ของนางมุดออกมา ก็เห็นแผ่นหลังที่ไร้พันธะและดุดันของฟู่เฉินหวนทันที เขาสะบัดดาบยาว แทงไปที่ลำคอของนักฆ่าชุดดำตรง ๆ นักฆ่าคนสุดท้ายก็ตายแล้ว! เขาโยนดาบยาวที่เปื้อนไปด้วยเลือดทิ้ง เดินมือไขว้หลังเข้ามา แสงแดดส่องอยู่เบื้องหน้า ส่วนเขาเดินเข้าหาแสง เบื้องหลังคือความมืดมิดและการฆ่าฟันที่ไร้ที่สิ้นสุด เขาก้าวผ่านศพและเลือด ราวกับอสูรในนรกที่จะมาคร่าชีวิตนาง ในใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน กลิ่นอายฆ่าฟันรุนแรงมาก! วินาทีนั้น ราวกับนางเห็นครึ่งชีวิตหลังของเขา นั่นคือความมืดมิดและการฆ่าฟันที่แสนหนักอึ้ง นางมิเคยเห็นคนเช่นนี้มาก่อน ต่อให้แสงที่จ้าจนแสบตา ก็กลบความมืดทมิฬที่อยู่เบื้องหลังของเขามิได้ ราวกับว่า… เขาเกิดมาเพื่อสังหาร เขายิ่งเข้าใกล้ เงาดำที่อยู่ด้านหลังเขาก็ยิ่งใหญ่โต เมื่อลองตั้งใจมอง ในความมืดมิดนั้น มีเงามังกรซ่อนอยู่ ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วอย่างอดมิได้ หรือไอมังกรของเขาจะได้มาจากการสังหาร? วินาทีนี้ราวกับนางเห็นชะตาชีวิตของฟู่เฉินหวน นางมิกล้ายื่นคำข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 165

    เหตุใดเขาจึงดีต่อนางเช่นนี้? อย่าบอกนะ… แต่ในใจของร่างเดิมมองฟู่อวิ๋นโจวเป็นเพื่อนมาโดยตลอด และรับรู้ไม่ถึงความคิดของฟู่อวิ๋นโจว หวังว่านางจะคิดมากไป “หากองค์ชายห้าเป็นคนทำ เช่นนั้นเขาดีต่อพระชายามิน้อย” แม่นมเติ้งพูดขึ้นอย่างอดมิได้ ลั่วชิงยวนกลับยิ้มอ่อน “แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่า” ต่อให้ช่วยฟู่เฉินหวนไป แล้วมีประโยชน์อะไรล่ะ คนคนนี้ราวกับเป็นงูพิษ ทั้งมีพิษร้ายและเลือดเย็น ช่วยเขา มีแต่จะทำให้เขาสงสัยในจุดประสงค์ของนาง “พระชายาหมายถึงสิ่งใดกันเจ้าคะ?” แม่นมเติ้งฟังแล้วรู้สึกงุนงง “เอาเถอะ ไม่พูดแล้ว” ลั่วชิงยวนทายาเสร็จ ก็นอนราบลงบนเตียงทันที วันนี้ทั้งวัน นางเหนื่อยเกินไป ทุกจุดในร่างกายต่างเจ็บปวด โดยเฉพาะหน้าอกนางเจ็บปวดอย่างอดทนได้ยาก โชคดีที่ก่อนหน้านี้ท่านอาลั่วหรงให้เครื่องยาสมุนไพรชั้นดีกับนางไว้เยอะ ตอนนี้กลับได้ใช้พอดี ยังไม่ทันถึงตอนเย็น ลั่วชิงยวนก็นอนลงทันที ส่วนทางนี้ ฟู่เฉินหวนกลับห้องตำราไปก็เอ่ยสั่งซูโหยว “ทำอย่างที่นางพูด ช่วงนี้ห้ามปล่อยให้ใครเข้าไปเจอนักทำนายชะตาทั้งนั้น” สิ้นเสียง ซูโหยวชะงักเล็กน้อย “ต้องหาคนมาเฝ้าระวังหรือไม่พ่ะย่ะค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 166

    ”องค์จักรพรรดิทรงเตรียมกำลังคนเอาไว้แล้ว”เขาโบกมือแล้วก็มีองครักษ์เงาสองนายกระโดดออกมาจากเงามืดลั่วชิงยวนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เขาได้เห็นผู้ที่ลอบเข้ามาในห้องเมื่อคืนหรือไม่?“ว่ามา” ฟู่เฉินหวนเอามือไพล่หลังและมองลั่วชิงยวนด้วยแววตาเย็นชา“กรายทูลท่านอ๋อง เมื่อคืนผู้ที่เข้าห้องนี้มีเพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”“เป็นนางรับใช้ข้างกายพระชายา แม่นางจือเฉา”ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจมาก “จือเฉาหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร!”“คนของข้าไม่ผิดพลาดแน่ นางเข้าไปในห้องพร้อมอาหาร” องครักษ์เงาทั้งสองต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันลั่วชิงยวนรู้สึกยากจะเชื่อ จะเป็นจือเฉาไปได้อย่างไรนางรีบส่งคนไปตามจือเฉามาทันทีเมื่อจือเฉามาถึง นางก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น“จือเฉา ข้าขอถามเจ้า เมื่อคืนนี้เจ้าออกมาจากเรือนหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามอย่างร้อนใจจือเฉาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด นางพยักหน้าและบอกว่า “ข้าออกเจ้าค่ะ”“แต่เมื่อคืนนี้พระชายาเข้านอนเร็ว และข้าก็ทำงานของข้าเสร็จเร็วจึงเข้านอนแต่หัววัน เมื่อคืนนี้ข้าเลยเข้านอนเร็วกว่าปกติ”ลั่วชิงยวนรู้สึกร้อนใจ จึงถามต่อว่า “ข้าหมายความว่า เมื่อคื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 167

    ”หากหม่อมฉันต้องการฆ่าเขา หม่อมฉันมีวิธีการมากมายที่จะทำโดยไม่ให้ท่านรู้และให้เขาตายไปเงียบ ๆ”“เหตุใดหม่อมฉันต้องส่วนนางรับใช้ข้างกายไปฆ่าคนปิดปากด้วย และยังทิ้งร่องรอยไว้มากขนาดนี้?”ตอนนี้แววตาฟู่เฉินหวนเองก็ดำคล้ำเขาจ้องนางเขม็ง ดวงตาสั่นไหวด้วยความคลางแคลงใจลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเขาเองก็คิดเรื่องนี้ และอาจจะมีเวลาที่คิดว่านางนั้นโดนใส่ร้ายแต่แววตาฟู่เฉินหวนก็กลับมาเย็นเยียบ เขาสั่งเสียงเย็นชาว่า “เอานางไปขังไว้”หลังจากนั้นเขาก็เดินจากไปลั่วชิงยวนตกตะลึงเขานั้นยอมสังหารคนบริสุทธิ์นับพันดีกว่าปล่อยคนผิดลอยนวลเมื่อมีความแคลงใจบ่มเพาะในใจ ก็ยากที่จะมองคนผู้นั้นโดยไร้อคติอีกต่อไปลั่วชิงยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี“ท่านอ๋องเพคะ พระชายาบริสุทธิ์ พระชายาไม่เคยส่งหม่อมฉันไปที่คุก และหม่อมฉันเองก็ไม่เคยเข้าไปที่นั่นด้วยซ้ำ ทรงพิจารณาด้วยเถิดเพคะ”จือเฉาคุกเข่าขอร้อง นางถึงกับลุกเพื่อวิ่งตามฟู่เฉินหวนไปแต่ว่าเขาไม่ได้หยุดเท้าแม่นมเติ้งพยุงลั่วชิงยวนให้ลุกขึ้นอย่างไม่สบายใจ “พระชายา บ่าวควรทำเช่นไรดี?”ตอนนั้นเององครักษ์เงาสองคนก็เข้ามา และพาตัวลั่วชิงยวนและจือเฉาไปขังไว้ในคุก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 168

    ในห้องขังจือเฉาขยับร่างของนักทำนายชะตาไปด้านข้าง แล้วจัดเตียงง่าย ๆ “พระชายา มานั่งพักสักนิดเถิดเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนตรวจดูอาหารและเห็นว่าสิ่งที่สังหารนักทำนายชะตาเป็นเพียงพิษดาษดื่นธรรมดาเท่านั้นทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังจากนอกห้องพลันประตูห้องขังก็โดนเปิดออก แม่นมเติ้งเดินเข้ามาพร้อมอาหาร “พระชายา”เมื่อวางอาหารลงแล้วแม่นมเติ้งก็รีบมากระซิบที่ข้างหูนางว่า “พระชายา ข้าแอบไปตรวจดูแล้ว นางรับใช้หลายคนที่รูปร่างคล้ายจือเฉาต่างพิสูจน์ได้ว่าเมื่อคืนพวกนางไม่ได้ออกจากเรือนเจ้าค่ะ”“แต่มีนางรับใช้คนหนึ่งที่ท่าทางคล้ายกัน นางออกไปซื้อของตอนเย็นแล้วยังมิได้กลับเข้ามา”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็นิ่วหน้า “หาตัวนางรับใช้นั้นให้เจอ”แม่นมเติ้งพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าจะหาทางหาตัวนาง ท่านอ๋องเองก็คงกำลังคิดว่าจะทำเช่นไรต่อไป หากว่านางรับใช้คนนั้น…”ลั่วชิงยวนนิ่วหน้าตอบว่า “หาคนให้ได้ก่อนเถอะ”“เจ้าค่ะ” แม่นมเติ้งรับคำและรีบจากไปห้องขังถูกใส่กุญแจจากด้านนอกอีกครั้งดูเหมือนว่าตอนนี้ด้านนอกจะไม่มีใครอยู่ แต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่ามีองครักษ์เงาสองคนคอยเฝ้าอยู่ไม่ห่างหลังจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 169

    จือเฉาร้อนใจจนนางก้าวออกมาอย่างฉุนเฉียวและผลักเฉียงเวยออกไป “เจ้าพูดไร้สาระอันใดกัน? อย่ามาแตะต้องพระชายานะ”“เราต่างก็เห็นกันอยู่กับตา องค์ชายห้าเอาสัมภาระมาด้วย หากว่านี้ไม่ใช่หนีตามกันแล้วคืออันใดเล่า?” เฉียงเวยพูดเสียงแหลมอย่างประชดประชัน“ข้าไม่คิดเลยว่า หน้าตาและเรือนร่างอย่างพระชายาจะสามารถล่อลวงบุรุษได้ ขนาดองค์ชายห้ายังยอมเสี่ยงทุ่มเทเพื่อหนีตามไปกับท่าน”การหนีตามกันนั้นเป็นเรื่องใหญ่ในราชวงศ์ และจะเป็นเรื่องน่าอับอายให้โดนติฉินนินทามากสำหรับองค์ชายหากว่าเรื่องนี้แพร่ออกไปส่วนพระชายานั้นต้องโดนฝังทั้งเป็น หรือไม่ก็โดนจับถ่วงแม่น้ำเมื่อเป็นเช่นนั้นแน่นอนว่าเฉียงเวยจึงไม่มีอะไรต้องกลัวลั่วเยวี่ยอิงยิ่งยินดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น แบบนี้ลั่วชิงยวนยังจะเอาชีวิตรอดไปได้อีกหรือ?“อย่าพูดจาไร้สาระ…” ฟู่อวิ๋นโจวเริ่มร้อนใจและไอออกมาอีกครั้งก่อนที่จะทันพูดได้จบ“ไร้สาระหรือเพคะ? เรื่องที่หม่อมฉันพูดไร้สาระตรงไหน? นี่เป็นเพราะพระชายากระทำตัวไม่เหมาะสม ก่อนหน้านี้นางก็พยายามดิ้นรนจนได้สมรสกับท่านอ๋องจนสำเร็จ วิธีการของนางนั้นช่างชั่วร้ายนัก”“ตอนนี้หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่านางล่อลวงอง

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1101

    ฟู่จิ่งหานมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พระราชโองการนั้นทำให้ลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จึงพูดว่า “มิเป็นอะไร การประลองครั้งนี้ก็มิได้ห้ามมิให้แคว้นเพื่อนเรือนเคียงเข้าร่วม”“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการสามารถเอาชนะองค์ชายเผ่านอกด่าน แล้วยกให้เป็นน้องชายได้ นับว่าความสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่ข้าแล้ว!”“พระชายามีบาดแผล อนุญาตให้พระชายาและองค์ชายหล่างมู่ออกไปก่อนได้”ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”แล้วหล่างมู่ก็พยุงลั่วชิงยวนออกไปเนื่องจากหอฝูเสวี่ยอยู่มิไกลและสามารถมองเห็นการประลองจากชั้นสามได้ ลั่วชิงยวนจึงพาหล่างมู่ไปพักผ่อนที่หอฝูเสวี่ยก่อนซิ่งอวี่ต้มยามาให้นางกินลั่วชิงยวนนั่งข้างหน้าต่าง มองดูการประลองที่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวเอาชนะทุกคนได้ นางก็รู้ว่าเขากำลังจะเข้าสู่ราชสำนักแล้ว“พี่หญิง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่ขอรับ?” หล่างมู่ยกชามาให้หนึ่งถ้วยลั่วชิงยวนส่ายหน้า “มิเป็นอะไรแล้ว บาดแผลมิสาหัส พักสักสองสามวันก็หาย”“หล่างมู่ เจ้ามาเมืองหลวงได้อย่างไร? ในเผ่านอกด่านเกิดเรื่องใหญ่อันใดหรือไม่? รีบร้อนมาเช่นนี้เลยหรือ?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1100

    ฟู่อวิ๋นโจว!หล่างมู่กำหมัดแน่น แล้วกระโจนเข้าไปอีกครั้งผู้คนมากมายต่างเป็นห่วงฟู่อวิ๋นโจว หล่างมู่เป็นคนเผ่านอกด่าน ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคนแล้วร่างกายที่อ่อนแอของฟู่อวิ๋นโจวจะรับมือได้อย่างไรแต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเวลาที่ฟู่อวิ๋นโจวปรากฏตัวนั้นเหมาะสม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถฟู่อวิ๋นโจวรับหมัดของหล่างมู่ได้อย่างแน่นอนจากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดหลายสิบกระบวนท่าทำให้ผู้คนในที่นั้นต่างตกตะลึง“นี่คือองค์ชายห้าหรือ?”“ฝีมือของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”“ใช่แล้ว มิใช่ว่าเขาป่วยอยู่หรอกหรือ?”ขณะที่ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ฟู่อวิ๋นโจวก็พบจุดอ่อนของหล่างมู่แล้ว จึงเหวี่ยงหล่างมู่ลงไปกับพื้น แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของหล่างมู่ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปห้าม “หยุดนะ!”ฟู่อวิ๋นโจวสะดุ้งแล้วลดมือลงหล่างมู่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะตอบโต้ แต่ถูกลั่วชิงยวนดึงไว้“หล่างมู่แพ้แล้ว” ลั่วชิงยวนประกาศผลทันทีสายตาของนางมองฟู่อวิ๋นโจวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายห้าเพคะ”เขายังคงมิได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเรียบง่าย แต่กลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1099

    ฟู่เฉินหวนใจตึงเครียดจนฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อลั่วชิงยวนพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เหยียนผิงเซียวชกเข้าที่ท้องของลั่วชิงยวนอีกครั้ง เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากนางเหยียนผิงเซียวจิกผมของนางแล้วกระซิบข้างหูอย่างร้ายกาจว่า “เจ้าเก่งนักมิใช่หรือ! ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องลาออกจากตำแหน่งกลับไปยังเมืองฉิน เจ้าเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงของตำหนักอ๋องนี่!”“เจ้าลองเดาดูสิว่าฟู่เฉินหวนจะช่วยเจ้าหรือไม่?”“แต่มิสำคัญแล้ว เพราะข้าต้องการเพียงให้เจ้าตายเท่านั้น!”เหยียนผิงเซียวใช้ร่างของลั่วชิงยวนบังสายตาของผู้คนส่วนมืออีกข้างที่กำหมัดแน่นมีแผ่นเหล็กแหลมคมติดอยู่ แล้วกระแทกลงไปที่ท้องของลั่วชิงยวนอย่างแรงลั่วชิงยวนเห็นอาวุธลับนั้นแล้วก็ตึงเครียดมากฟู่เฉินหวนแทบขาดใจ ความรู้สึกมิสบายใจอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาฟู่อวิ๋นโจวผู้นั่งอยู่มุมห้องใต้หลังคาก็กำมือแน่นด้วยความตึงเครียดเช่นกันแม้ว่าฝีมือของลั่วชิงยวนจะสู้เหยียนผิงเซียวมิได้ แต่ก็มิควรจะไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เช่นนี้จะลงมือช่วยนางตอนนี้เลยดีหรือไม่!ฟู่อวิ๋นโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้วในวินาทีนั้นเองเงาร่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1098

    ในมิช้าการประลองก็เริ่มขึ้นโชคดีที่ลั่วเยวี่ยอิงมิได้ก่อเรื่องวุ่นวายอีก นางเฝ้าดูการประลองอย่างสงบลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ ดาบและกระบี่นั้นไร้ตา ดังนั้นการประลองครั้งนี้จึงห้ามใช้ดาบและอาวุธลับแต่เมื่อปรมาจารย์ต่อสู้กันก็อาจจะควบคุมมือมิทัน เพื่อให้ทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ การประลองครั้งนี้ ความเป็นความตายจึงเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตชัยชนะครั้งสุดท้ายมิใช่ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดสิ่งสำคัญคือการแสดงผลงานในระหว่างการประลอง ฟู่เฉินหวนจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นบางคนสำหรับฟู่จิ่งหาน การประลองครั้งนี้มิใช่เพียงการคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการชมการประลองที่น่าตื่นเต้นด้วย ดังนั้นจึงมีความอิสระสูงทุกคนสามารถขึ้นไปท้าทายได้ หนึ่งรอบมีผู้แข่งขันสิบคน ผู้ชนะจะได้พักแล้วเข้าสู่รอบที่สองดังนั้นผู้ชนะในแต่ละรอบจะสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่ตนคิดว่าแข็งแกร่งกว่าได้อย่างอิสระการประลองรอบแรกจบลงอย่างรวดเร็ว ฟู่เฉินหวนกับฟู่จิ่งหานวิเคราะห์ผู้ที่เหมาะสมในรอบนี้อย่างจริงจังฟู่จิ่งหานพยักหน้าให้ขันทีที่ยืนอยู่ด้านข้างจดบันทึกชื่อทุกอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1097

    “พระชายา เหตุใดมิลงไปหามาให้ข้าเล่า? หากขุดพบรากบัวได้สองหัว ข้าจะเมตตาตกรางวัลให้อย่างงาม!”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเยาะเย้ยและหยิ่งผยองนั้น มิใช่ปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนดุจพระชายา หากแต่ปฏิบัติเสมือนทาสบริวารเหล่าผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงพรึงเพริดตำแหน่งของลั่วชิงยวนในตำหนักอ๋องนั้นต่ำต้อยถึงเพียงนี้เชียวหรือ?ฟู่เฉินหวนอดรนทนมิไหวอีกต่อไป จึงพูดเสียงเย็นเยียบว่า “ฤดูกาลนี้จะมีรากบัวอยู่ได้อย่างไร มิต้องลำบากเช่นนั้นเลย”ลั่วเยวี่ยอิงกลับคว้าแขนฟู่เฉินหวนพลางทำท่าทางออดอ้อน“ไม่เพคะ ท่านอ๋อง เผื่อว่าจะมีก็ได้! โปรดให้พระชายาลงไปค้นหาดูเถิดเพคะ!”นางกล่าวจบก็ถอดกำไลหยกที่ข้อมือ แล้วขว้างลงไปในบึงจากนั้นเชิดหน้าพูดกับลั่วชิงยวนว่า “ไปสิ กำไลหยกวงนี้เป็นรางวัลของเจ้า!”ท่าทางเช่นนี้ประหนึ่งว่ากำลังสั่งการสุนัขตัวหนึ่งฟู่เฉินหวนกำมือแน่น รู้สึกปวดร้าวที่ศีรษะอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นดังนั้นก็กังวลเพราะอาการของฟู่เฉินหวน นัยน์ตานางฉายแววเย็นชาขณะมองหน้าลั่วเยวี่ยอิง แล้วหันหลังกระโดดลงไปในสระน้ำเมื่อเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น เสียงฮือฮาต่างก็ดังมาจากทั่วบริเวณ“นางกระโดดลงไปจริง ๆ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1096

    “องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งว่าการประลองยุทธ์ครั้งนี้ ต้องการให้ท่านอ๋องคัดเลือกผู้มีความสามารถ จึงอนุญาตให้ท่านอ๋องพาพระชายาทั้งสองไปชมการประลองได้พ่ะย่ะค่ะ!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วฟู่เฉินหวนรับพระราชโองการมาดู แล้วพบว่าเป็นพระราชโองการจริงจิ่นชูมองแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้องค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้ท่านอ๋องพาพระชายาทั้งสองไปด้วย เหตุใดจึงมิเห็นพระชายารองหรือเพคะ?”ยามนี้ลั่วเยวี่ยอิงรู้ข่าวการประลองยุทธ์แล้ว นางส่งเสียงโวยวายอยากไปด้วยอยู่หน้าประตู “ท่านอ๋อง! ท่านอ๋องเพคะ! พาหม่อมฉันไปด้วยเถิดเพคะ!”จิ่นชูได้ยินเสียงนี้แล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ท่านอ๋องอย่าลืมพระชายารองนะเพคะ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “การประลองยุทธ์มิเกี่ยวกับนาง นางมิจำเป็นต้องไปก็ได้”จิ่นชูถามด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นท่านอ๋องจะขัดต่อพระราชโองการหรือเพคะ?”คำพูดนี้ทำให้ฟู่เฉินหวนจำต้องพาลั่วเยวี่ยอิงไปด้วยเพราะสุดท้ายแล้วนั่นก็คือพระราชโองการมหาราชาจารย์เหยียนเพิ่งลาออก ตระกูลเหยียนกำลังตกต่ำ หากเขาขัดพระราชโองการในเวลานี้ก็จะดูเหมือนอวดดี มิเคารพองค์จักรพรรดิฟู่เฉินหวนสบตากับลั่วชิงยวน ทั้งสองต่างก็รู้สึกว่าครั้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1095

    ฟู่เฉินหวนตกใจเมื่อได้ฟังถ้อยคำของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนอธิบาย “หม่อมฉันได้คำนวณดูแล้ว เหตุการณ์วุ่นวายในแคว้นเทียนเชวียกำลังจะอุบัติขึ้น เริ่มต้นจากทางทิศใต้เพคะ”“และเมืองฉินก็ตั้งอยู่ทางทิศใต้พอดี!”“ตระกูลเหยียนรุ่งเรืองมาจากเมืองฉิน มีอิทธิพลสูงส่งยิ่งนัก การที่มหาราชาจารย์เหยียนลาออกจากตำแหน่งแล้วกลับไปยังเมืองฉินอย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ เกรงว่าจะมีอำนาจมืดใหญ่หลวงซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังเพคะ”เมื่อฟู่เฉินหวนก็ได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม“เช่นนั้นก็แสดงว่าตาแก่ผู้นี้จะเริ่มแผนการแล้วสินะ”กล่าวจบ ฟู่เฉินหวนก็คว้ามือของลั่วชิงยวนไว้ “ชิงยวน ขอบใจเจ้ามาก”ลั่วชิงยวนถึงกับตะลึงงันไป “ขอบใจหม่อมฉันเรื่องอะไรเพคะ?”“ขอบใจเจ้าที่บอกเรื่องสำคัญเช่นนี้แก่ข้า”ลั่วชิงยวนถามด้วยความสงสัย “แล้วท่านจะทำอย่างไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาฉายแววเย็นชา “เมื่อเขาลาออกจากตำแหน่งแล้วออกจากเมืองหลวง เช่นนั้นก็อย่าให้เขากลับมาได้อีกเลย!”ลั่วชิงยวนก็เห็นด้วยกับวิธีการนี้มีเพียงมหาราชาจารย์เหยียนสิ้นชีพลงเท่านั้น ทุกอย่างจึงจะสงบลงได้“หม่อมฉันจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1094

    ฟู่เฉินหวนเก็บขนมกุ้ยฮวาไปด้วยความผิดหวัง แล้วพูดปลอบโยน “มิเป็นอะไร รอชิมฝีมือหัวหน้าพ่อครัวเถิด”ดูเหมือนจะมิถูกใจ ถึงแม้เขาจะเรียนรู้จากหัวหน้าพ่อครัว แต่รสชาติก็ยังแตกต่างออกไป ดูเหมือนต้องฝึกฝนให้มากขึ้นลั่วชิงยวนเห็นความผิดหวังในสายตาของเขา จึงยกยิ้มหวานแล้วพูดว่า “หวานมาก! อร่อยมากเพคะ!”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงเมื่อเห็นรอยยิ้มที่เย้ายวนใจ ใจชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นไหว จึงอดมิได้ที่จะประคองหน้าลั่วชิงยวนแล้วจุมพิตถึงแม้จะรู้ว่านางอาจจะปลอบใจเขา แต่เพียงเห็นรอยยิ้มของนางเขาก็สุขใจมากแล้วหัวหน้าพ่อครัวมองไปทางอื่น ทำเป็นมิเห็นในมิช้า อาหารและขนมก็ถูกยกมาอย่างต่อเนื่องทั้งสองกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขจนดึกดื่นเมื่อออกจากหอหมื่นสุข ลั่วชิงยวนอิ่มจนแทบจะเดินมิไหวฟู่เฉินหวนจับมือลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้า “เดินเล่นสักหน่อย แล้วเดี๋ยวข้าค่อยส่งเจ้ากลับ”ลั่วชิงยวนเรอเบา ๆ “ท่านตั้งใจจะทำให้หม่อมฉันอ้วนขึ้นหรือเไร หากหม่อมฉันอ้วนเหมือนเดิม ท่านก็จะดีใจใช่หรือไม่เพคะ?”ฟู่เฉินหวนอุ้มนางขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าฉลาดมาก”“ท่าน!” ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นฟู่เฉินหวนจับมือน

DMCA.com Protection Status