Share

บทที่ 1157

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
“ฆ่าลั่วชิงยวน แล้วให้หม่อมฉันขึ้นเป็นพระชายาของท่านแทน ดีหรือไม่เพคะ?”

ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้อ้อนวอน แต่กลับออกคำสั่งแก่ฟู่เฉินหวน

หากเขามิอยากเจ็บปวดจนตายก็ต้องฆ่าลั่วชิงยวน!

ดวงตาของฟู่เฉินหวนแดงก่ำ เส้นเลือดปูดโปนขณะกำหมัดแน่น นัยน์ตาฉายแววเหี้ยมโหด

เขารวบรวมพลังปราณ สั่นสะเทือนไปทั้งร่างกาย

เขี้ยวเหล็กถูกกระแทกออกจากร่างของเขา

ลั่วเยวี่ยอิงที่กอดเขาจากด้านหลังตกใจ ตัวแข็งทื่อในทันที

ทำได้เพียงก้มลงมองรูโหว่บนหน้าอกที่เต็มไปด้วยเลือด

แล้วถอยหลังเซ ล้มลงบนพื้นหิมะอย่างอ่อนแรง

เลือดไหลออกจากร่างของนาง นางอ้าปากยื่นมือไปหาฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง ช่วย... ช่วยหม่อมฉันด้วย...”

สายตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนจ้องมองสภาพของลั่วเยวี่ยอิง

แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน

เลือดสาดกระเซ็นบนหิมะขาวโพลน แล้วฟู่เฉินหวนก็ล้มลงบนกองเลือดเช่นกัน

เขามิอาจลงมือฆ่าลั่วเยวี่ยอิงได้ แต่กลับใช้เขี้ยวเหล็กสังหารนาง

ความเจ็บปวดแสนสาหัสถาโถมเข้ามาจนยากจะทนทาน

เมื่อซูโหยวที่แอบตามมาเห็นภาพนั้นก็ตกใจมาก

รีบแบกฟู่เฉินหวนขึ้นบ่าแล้วเตรียมกลับไปทันที

เขาเพียงแค่เหลือบมองลั่วเยวี่ยอิงที่ร้องขอความช่วยเหลืออยู
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1158

    ลั่วชิงยวนตกใจ รีบแต่งตัวแล้วสวมเสื้อคลุมตัวหนาเมื่อมาถึงก็เห็นเพียงซูโหยวกำลังสั่งให้คนแบกศพออกไปลั่วชิงยวนเข้าไปเปิดผ้าคลุมออก จึงเห็นร่างไร้วิญญาณของลั่วเยวี่ยอิงร่างกายแข็งทื่อ สวมชุดเนื้อผ้าบางเบา ผิวหนังที่มือและเท้ามีรอยน้ำแข็งกัดนางนอนตายอยู่ท่ามกลางหิมะทั้งคืนเลยหรือ?“นางตายได้อย่างไร?” ลั่วชิงยวนอยากจะเปิดผ้าคลุมออกตรวจดูให้ละเอียดซูโหยวรีบห้ามไว้ “พระชายากำลังป่วย อย่าสัมผัสสิ่งสกปรกเลยขอรับ”“นางหนาวตาย นอนอยู่ในหิมะทั้งคืน”“เมื่อมีคนมาพบตอนเช้า ร่างของนางก็แข็งทื่อแล้วขอรับ”“ข้าจะให้คนนำศพออกไปขอรับ”พูดจบ ซูโหยวก็พาลูกน้องจากไปลั่วชิงยวนยืนมองศพที่ถูกแบกออกไป แล้วรู้สึกแปลกใจเกิดอะไรขึ้น ลั่วเยวี่ยอิงตายเช่นนี้ได้อย่างไร?หลังจากครุ่นคิดแล้ว บางทีฟู่เฉินหวนอาจจะรู้สึกตัวหลังจากทำร้ายนาง จึงสั่งให้ซูโหยวไปฆ่าลั่วเยวี่ยอิงหรือ?มิรู้ว่าการตายของลั่วเยวี่ยอิงจะส่งผลต่อร่างกายของฟู่เฉินหวนหรือไม่เขาคงปวดหัวอย่างหนักลั่วชิงยวนคิดจะไปดูอาการฟู่เฉินหวนแต่กลับทราบว่าฟู่เฉินหวนออกไปตั้งแต่เช้า คงจะเข้าวังไปแล้วลั่วชิงยวนจึงเข้าวังเช่นกันทันทีที่ออ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1159

    ความรู้สึกขมขื่นกัดกินหัวใจหากครั้งนั้นเขามิได้หลอกลวงลั่วชิงยวน หากเขาจริงใจต่อนางตั้งแต่แรก ผลลัพธ์คงต่างออกไป.........ท่ามกลางพายุหิมะร่างไร้วิญญาณของลั่วเยวี่ยอิงถูกโยนทิ้งไว้ในสุสานไร้ญาติปราศจากพิธีกรรมฝังศพใด ๆ ทิ้งแล้วก็จากไปเลยในเงามืดมีเงาดำทะมึนสะกดรอยตามเงียบ ๆ มาจนถึงสุสานรอจนคนพวกนั้นจากไป ลั่วฉิงจึงรีบวิ่งเข้ามาดูตรวจสอบแล้วพบว่าลั่วเยวี่ยอิงสิ้นใจแล้วจริง ๆ เมื่อมองบาดแผลที่หน้าอกของศพ ลั่วฉิงก็ตกใจ นี่คือรอยแผลจากเขี้ยวเหล็กฟู่เฉินหวนช่างเหี้ยมหาญนัก เขาใช้วิธีนี้ฆ่าคน มิกลัวตายบ้างหรืออย่างไร!น่าเสียดาย ลั่วเยวี่ยอิงเป็นหมากที่ดี แต่กลับต้องตายไปเสียแล้วแต่ก็ต้องโทษที่นางโง่เองลั่วฉิงกำลังจะจากไปด้วยความมิพอใจแต่แล้วก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันกลับมามองศพของลั่วเยวี่ยอิงนัยน์ตาฉายแววเย็นชาแล้วค่อย ๆ เดินไปนั่งยอง ๆ ข้างศพ จากนั้นกัดฟันแน่นโผเข้าหาศพ แล้วกัดกินเนื้ออย่างบ้าคลั่งเลือดจากศพสาดกระเซ็นน่าสยดสยองยิ่งนักมีคนเดินผ่านมาพอดี เมื่อเห็นเงาร่างคุกเข่ากัดกินศพอยู่ไกล ๆ ก็ตกใจจนทิ้งของในมือ แล้ววิ่งหนีไปลั่วฉิงได้ยินเสียงจึงห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1160

    ลมหนาวพัดหอบเอาหิมะโปรยปรายกระทบใบหน้างามจนระบมเจ็บยิ่งนักซ่งเชียนฉู่ฝ่าลมและหิมะติดตามเฉินเซี่ยวหานมุ่งหน้าสู่หุบเขาลึกโชคยังดีที่ฝนมิได้โปรยปรายลงมา เส้นทางยามราตรีจึงพอเดินได้สะดวกครั้นเมื่อเฉินเซี่ยวหานมาถึงถ้ำงูแห่งเดิม นางก็ตกตะลึงยิ่งนัก เฉินเซี่ยวหานรู้จักสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร?นางสะกดกลั้นความหวาดหวั่นเดินตามเข้าไปในถ้ำ บรรยากาศเย็นยะเยือกส่งผลให้ขนลุกชันทั่วกายลัดเลาะไปตามทางคดเคี้ยว อุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้นบ้างเส้นทางนี้ช่างคุ้นเคย นางเคยมาเยือนที่นี่เมื่อกลางวันเพื่อนำยาไปมอบให้ฉู่จิ้งกระทั่งบัดนี้ นางยังมิอาจหยั่งรู้ได้ว่าเหตุใดเฉินเซี่ยวหานจึงมาที่นี่ในยามวิกาลทันใดนั้น เสียงหอบหายใจก็ดังขึ้น ทำเอานางขนหัวลุกหวาดกลัวในใจ แต่ก็ฝืนใจเดินเข้าไปภาพเบื้องหน้าทำให้นางตกตะลึงราชันย์อสรพิษถูกตาข่ายคลุมไว้ บนตาข่ายเต็มไปด้วยโลหิตและยันต์อาคมที่นางอ่านมิออกราชันย์อสรพิษพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เกล็ดแข็งทั่วร่างไหม้เกรียมส่งเสียงดังฉ่าส่วนเฉินเซี่ยวหานชักดาบสั้นออกมาอย่างรวดเร็วซ่งเชียนฉู่ตกใจยิ่งนัก“หยุดนะ!” นางตะโกนพลางวิ่งเข้าไปเฉินเซี่ยวหานสะดุ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1161

    ซ่งเชียนฉู่สะดุ้งตกใจนัก รีบกางแขนขวางหน้าเฉินเซี่ยวหานพลางมองราชันย์อสรพิษเลื้อยลงไปจากหน้าผาแต่นางกลับเหยียบอยู่บนตาข่ายดักอสรพิษเมื่อราชันย์อสรพิษร่วงลงสู่ผืนน้ำ น้ำหนักมหาศาลจึงฉุดร่างนางร่วงลงไปด้วยร่างบอบบางพลัดตกลงจากปากถ้ำจมดิ่งสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง“เชียนฉู่!” เฉินเซี่ยวหานตกใจสุดขีด รีบวิ่งไปยังปากถ้ำแล้วมองลงไปเบื้องล่าง เห็นเพียงห้วงน้ำลึกดำมืด เขากัดฟันแน่นก่อนจะรีบวิ่งออกจากถ้ำอ้อมไปยังทิศทางของห้วงน้ำซ่งเชียนฉู่ตกสู่ห้วงน้ำเย็นยะเยือก ร่างกายถูกโอบล้อมด้วยความหนาวเหน็บจนแทบขาดใจ นางดิ้นรนสุดกำลังท่ามกลางห้วงน้ำลึก ราชันย์อสรพิษรัดร่างนางไว้ แล้วพาว่ายออกจากห้วงน้ำเย็นอย่างรวดเร็วแม้รอดพ้นจากห้วงน้ำ แต่นางยังคงหนาวสั่นไปทั้งตัวในขณะนั้น เฉินเซี่ยวหานก็ตามมาถึงพอดีนางยังมิทันตั้งสติ ราชันย์อสรพิษก็รัดร่างนางแล้วพาเข้าไปซ่อนตัวในพงหญ้า“หยุดนะ!” เฉินเซี่ยวหานรีบวิ่งตามมาราชันย์อสรพิษรัดนางหลบหนีมุ่งหน้าสู่ป่าลึกบนภูเขาสายลมพัดหิมะปกคลุมพื้น ร่องรอยต่าง ๆ จึงเลือนหายไปอย่างรวดเร็วเฉินเซี่ยวหานไล่ตามมิทันเขาร้อนรนใจและรู้สึกเสียใจยิ่งนัก และรีบออก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1162

    ซ่งเชียนฉู่กลับมานั่งข้างกองไฟ อาศัยไออุ่นในถ้ำผิงอาภรณ์ให้แห้งแม้กระนั้นก็ยังคงหนาวสั่น ศีรษะหนักอึ้งนางอิงกายกับผนังถ้ำ อยากข่มตานอน แต่ก็มิอาจข่มตาลงได้ ใจจดจ่ออยู่กับภายนอกถ้ำนางยังพอมีที่กำบังลมหนาว แล้วราชันย์อสรพิษเล่าจะเป็นเช่นไรเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่กลับกลัวว่านางจะหวาดกลัวจึงยอมออกไปข้างนอกถ้ำ มิยอมให้นางเห็นนางรู้สึกสะเทือนใจยิ่งนักยิ่งคิดถึงเฉินเซี่ยวหานก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจและโกรธมากขึ้นไปอีก นางอดมิได้ที่จะกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นในพงหญ้านอกถ้ำ ราชันย์อสรพิษเฝ้ามองร่างในถ้ำอย่างเงียบเชียบเห็นนางร้องไห้ปานจะขาดใจ แต่ก็มิกล้าเข้าไปปลอบโยน......หลังจากทรมานอยู่จนฟ้าสาง ซ่งเชียนฉู่ก็ป่วยเป็นไข้และเริ่มไอกองไฟในถ้ำมอดดับลงแล้วซ่งเชียนฉู่เอนตัวพิงผนังถ้ำ ร่างกายร้อนรุ่มไปหมด แต่ก็หนาวจนต้องขดตัวฉู่จิ้งเห็นดังนั้นก็รู้ทันทีว่านางกำลังเป็นไข้ตัวร้อนต้องรีบพานางออกไปจากที่นี่“ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ”ซ่งเชียนฉู่ตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือแล้วเห็นราชันย์อสรพิษอยู่ที่ทางเข้าถ้ำเมื่อรู้ว่าเขาจะพานางลงเขา นางจึงลุกขึ้นเดินตามนางเดินตามเขามุ่งหน้าลงจากเขาไปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1163

    ซ่งเชียนฉู่โกรธจนตัวสั่น หันหลังวิ่งลงเขาไปแต่ทางลงชันนัก ทำให้เท้าพลาดลื่นไถล ร่างกลิ้งตกเขาไปเฉินเซี่ยวหานตกใจสุดขีด รีบวิ่งลงไปช่วยนางแต่ก็มิอาจไล่ตามความเร็วของร่างที่กลิ้งตกลงไปได้ทันนางกลิ้งลงมาจนถึงตีนเขาเมื่อเฉินเซี่ยวหานวิ่งตามมาถึง นางก็หยุดนิ่ง“เชียนฉู่ เป็นอย่างไรบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือไม่? ข้าจะแบกเจ้าเอง!” เฉินเซี่ยวหานรีบเข้าไปหมายจะแบกนางขึ้นหลังแต่ซ่งเชียนฉู่ผลักเขาออกแล้วคว้ากิ่งไม้ข้างกายมาพยุงตัวลุกขึ้น เดินกะเผลกออกจากป่า“เชียนฉู่ เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่? ข้าจะพาเจ้ากลับไปทำแผล” เฉินเซี่ยวหานเอ่ยอย่างร้อนใจนางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าตามข้ามา”พูดจบนางก็ใช้ไม้เท้าค้ำยันเดินจากไปอย่างรวดเร็วเฉินเซี่ยวหานเป็นห่วงจึงเดินตามไปตลอดทางและพยายามจะอธิบาย“เชียนฉู่ ตอนแรกข้าเข้าใกล้เจ้าก็เพื่อดีงูจริง ๆ”“ตอนนั้นพ่อของข้าป่วย หมอบอกว่าใช้ดีงูรักษาได้ ข้าจึงสืบหาจนรู้ว่าเจ้ามีดีงู”“แต่ข้ามิเคยคิดร้ายต่อเจ้า มิเคยคิดจะหลอกใช้เจ้าเลย”“พวกเขาเคยใช้ชีวิตคนในครอบครัวข้ามาบีบบังคับ แต่ข้ามิยอม ข้ามิเคยทำร้ายเจ้า ตอนที่อยู่กับเจ้า ข้าจริงใจ!”“จนกระทั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1164

    ลั่วชิงยวนฟังซ่งเชียนฉู่เล่าหลังจากร่ำไห้พร่ำเพ้อแล้วหัวใจพลันหนักอึ้งนางมิเคยคาดคิดมาก่อนว่าเฉินเซี่ยวหานจะเข้าหาซ่งเชียนฉู่เพราะหมายปองดีงูเช่นกันซ่งเชียนฉู่ตัวร้อนจัด นางร้องไห้อยู่นานก็สลบไปลั่วชิงยวนจัดแจงให้นางพักผ่อน แล้วไปยังห้องข้าง ๆ เพื่อไปหาเฉินเซี่ยวหานเฉินเซี่ยวหานเห็นนางมาก็รีบถามไถ่ “นางเป็นอย่างไรบ้าง? เมื่อคืนนางตกน้ำ ซ้ำยังโดนความหนาวเย็นจากหิมะตกหนักอีก คงจะ...”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ท่านเป็นห่วงนาง แล้วเหตุใดจึงหลอกลวงนาง?”เฉินเซี่ยวหานก้มหน้าเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “บางเรื่องเมื่อโกหกไปแล้วก็มิอาจบอกความจริงได้อีก”“ข้าทนเห็นผลลัพธ์หลังจากนางรู้ความจริงมิได้”“เช่นเดียวกับตอนนี้”ลั่วชิงยวนเข้าใจความคิดของเขาแต่การโกหกเป็นสิ่งที่ผิดตั้งแต่แรก“ครอบครัวท่านถูกข่มขู่หรือ?”“ท่านเห็นสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยถูกฆ่าล้างตระกูลจึงหวาดกลัว เลยคิดจะเอาดีงูหรือ?”เฉินเซี่ยวหานพยักหน้า “ตอนแรกที่ข้าเข้าใกล้นางเป็นการหลอกลวงจริง แต่เมื่อข้ารู้ว่านางไม่มีดีงู ข้าก็เลิกคิดแล้ว”“ข้ามิเคยคิดจะผ่าเอาดีงู พวกเขาบีบบังคับ ข้าก็บอกเพียงว่าซ่งเชี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1165

    “แล้วเชียนฉู่...”ลั่วชิงยวนตอบ “นางยังป่วยอยู่ ข้าจะดูแลนางเอง ท่านไปจัดการเรื่องครอบครัวก่อนเถิด”“ตกลง”เฉินเซี่ยวหานออกจากตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการรุ่งเช้าวันต่อมาซ่งเชียนฉู่ตื่นแต่เช้านางมายังหน้าห้องลั่วชิงยวน“ชิงยวน”ลั่วชิงยวนลุกขึ้นนั่ง “เจ้าตื่นเช้าจัง”ซ่งเชียนฉู่สวมเสื้อคลุมหนาเดินเข้ามา ลมหายใจกลายเป็นไอ “อืม เมื่อคืนหิมะตก ตอนนี้หิมะก็ยังตกหนักมาก”ลั่วชิงยวนเห็นนางมีสีหน้ากังวลจึงถามพลางแต่งตัว “เป็นอะไรไป?”ซ่งเชียนฉู่ลังเล “มิรู้ว่าฉู่จิ้งเป็นอย่างไรบ้าง”“เป็นเพราะข้า เขาถึงบาดเจ็บสาหัส”เมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังดังนั้นจึงนึกขึ้นได้“พอดีว่าวันนี้ข้าว่างพอดี ข้าจะไปพบเขาบนเขากับเจ้า นำยาไปให้เขาด้วย”ซ่งเชียนฉู่พยักหน้าทั้งสองจึงออกจากตำหนักแล้วออกจากเมืองหลวง มุ่งหน้าขึ้นเขาไปยังถ้ำงูเดิม แต่ฉู่จิ้งมิได้อยู่ที่นั่นทั้งสองจึงออกตามหาไปทั่วซ่งเชียนฉู่กังวล “ปกติข้าจะสัมผัสถึงพลังของเขาได้ แต่วันนี้กลับสัมผัสมิได้เลย เขาคงมิตายไปแล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนปลอบใจ “มิหรอก เขาอาจจะเข้าสู่ช่วงจำศีล”“ลองหาดูก่อน”ทั้งสองหาอยู่บนเขานาน ในที่สุดก็พบร่า

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status