Share

บทที่ 1125

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนเข้าไปถวายการรักษาด้วยการฝังเข็มและถวายยาให้จักรพรรดิสูงสุด

อาการประชวรของจักรพรรดิสูงสุดเริ่มดีขึ้น แต่ยังพูดและเดินมิคล่อง

ฟู่จิ่งหานและฟู่เฉินหวนต่างก็คอยพยุงจักรพรรดิสูงสุดเดินเล่นในสวน

“เหนื่อยแล้ว” จักรพรรดิสูงสุดหยุดพัก

ฟู่จิ่งหานประคอง “หากทรงเหนื่อยก็กลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

แต่จักรพรรดิสูงสุดมิยอมกลับ “ไม่”

ฟู่จิ่งหานคุกเข่าลง “เช่นนั้นให้ลูกแบกเสด็จพ่อกลับดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า แล้วเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ “แดด”

ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จักรพรรดิสูงสุดประสงค์จะอาบแดดที่นี่ ให้คนไปนำเก้าอี้มาเถิดเพคะ”

จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

เมื่อเอนกายลงบนเก้าอี้ มินานจักรพรรดิสูงสุดก็หลับไป

ฟู่จิ่งหานนำผ้าห่มมาห่มให้ แล้วคอยเฝ้าอยู่มิห่าง

ฟู่เฉินหวนจูงมือลั่วชิงยวนเดินเล่นในสวน พลางเอ่ยขึ้นว่า “ชิงยวน ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณเรื่องอันใดเพคะ?”

“ขอบคุณที่รักษาเสด็จพ่อ ข้ามิเคยคิดว่าเสด็จพ่อจะกลับมาพูดได้อีกครั้ง”

ลั่วชิงยวนยิ้ม “ขอบคุณแค่วาจาหรือเพคะ?”

ฟู่เฉินหวนยิ้ม ก่อนจะประคองหน้านางมาจุมพิต

“เจ้าต้องการสิ่งใด?”

“นอกจากใต้หล้าใบนี้ ข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Lalipatr Saokaew
กรุณาช่วยอัพเดทตอนต่อๆไปด้วยค่ะรออยู่ค่ะ
goodnovel comment avatar
Padaphet-lttc TuLu
Why???????
goodnovel comment avatar
Kanchanee Taothong
อยู่ดีไม่อัพตอนอีกล่ะจบง่ายๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1126

    “เมืองฉินสามารถรวบรวมกองกำลังกบฏได้สามหมื่นนาย โดยไม่มีวี่แววมาก่อน แสดงว่าทหารสามหมื่นนายนี้ก็คือชาวเมืองเมืองฉิน ตระกูลเหยียนเปลี่ยนเมืองฉินเป็นฐานที่มั่นของกองทัพแล้ว”“ดังนั้นที่นั่นย่อมแข็งแกร่งที่สุด แม้แม่ทัพใหญ่จะมิอยู่ เมืองฉินก็ยังยากจะโจมตี”“ควรให้ท่านอ๋องนำทัพไปปราบด้วยพระองค์เอง”“ส่วนเป่ยตี้นั้นผู้คนกระจัดกระจายกันไปในแต่ละพื้นที่ ดูจากภูมิแคว้นแล้ว ที่นั่นน่าจะมีทหารฝีมือดีประจำการ และรอบ ๆ ล้วนเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน เหมาะกับแม่ทัพใหญ่ที่มีไหวพริบ เชี่ยวชาญการซุ่มโจมตีแบบมิให้ตั้งตัว”“และปกป้องชาวบ้านให้มากที่สุด”“องค์ชายห้าเหมาะสมที่สุด”“...”ลั่วชิงยวนวิเคราะห์และจัดการทุกอย่างขุนนางทั้งหลายต่างตกตะลึงพวกเขามิคิดว่า สตรีคนหนึ่งจะมีความสามารถในการวางแผนการรบ มิแพ้แม่ทัพใหญ่ผู้มากประสบการณ์เลยฟู่เฉินหวนยืนกอดอกมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาลึกซึ้งมุมปากเผยรอยยิ้มจางเหล่าขุนนางต่างมองลั่วชิงยวนด้วยความชื่นชมเมื่อนางกล่าวจบ ก็มีขุนนางถามด้วยความสงสัย “แล้วซีหลิงเล่าขอรับ?”“หากเป็นเช่นนี้ แม่ทัพใหญ่ก็ออกไปหมด ไม่มีใครไปซีหลิงเลยหรือขอรับ? คงจะมิส่งทหารอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1127

    ในคืนวันที่สาม ขณะเดินทางผ่านเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งก็พบว่าชาวเมืองต่างสวมผ้าปิดหน้า เสียงไอดังระงม มีคนนอนอยู่ตามมุมต่าง ๆลั่วชิงยวนเห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าน่าจะมีโรคระบาดจึงสั่งเซียวชู “ส่งคำสั่งลงไป ให้กองทัพถอยไปสามลี้ อ้อมไปทางอื่น หากพบเมืองลักษณะเดียวกันให้ถอยอีก ห้ามผ่านเด็ดขาด”เซียวชูรับคำ “ขอรับ!”กองทัพจึงถอยทัพ อ้อมไปทางอื่นมุ่งหน้าสู่ซีหลิงเซียวชูสั่งการแล้วก็กลับมา “พระชายา แล้วท่านเล่าขอรับ?”“ข้าจะเข้าไปดู” ลั่วชิงยวนลงจากม้า“ระวังด้วยนะขอรับ” เซียวชูรีบลงจากม้าตามลั่วชิงยวนเข้าเมืองเสียงไอจากรอบด้านทำให้เมืองนี้ดูหดหู่ เซียวชูยกมือปิดปากปิดจมูกลั่วชิงยวนเดินสำรวจ ดูแล้วก็เป็นโรคระบาดจริง ๆ“ชิงยวน!”จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากมิไกลลั่วชิงยวนหันไปมองจึงเห็นซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานซ่งเชียนฉู่ส่งชามยาให้เฉินเซี่ยวหาน แล้ววิ่งเข้ามาหาลั่วชิงยวนตกใจ “เชียนฉู่ เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?”ซ่งเชียนฉู่มองชาวบ้านที่นอนอยู่ แล้วกล่าวว่า “พวกเราเดินทางผ่านมา พบว่าที่นี่มีโรคระบาด มีคนตายไปมากแล้ว หากมิควบคุมจะลุกลามไปทั่ว”“จึงหยุดพัก ทำให้เสียเวลาไปบ้าง มิค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1128

    ดวงตาของลั่วชิงยวนก็แดงก่ำเช่นกัน นางนั่งลงกอดซ่งเชียนฉู่“เจ้าทำดีที่สุดแล้ว”“เจ้ามิอาจช่วยทุกคนได้หรอก”แม้จะนำยามาให้แล้ว แต่ก็มีหลายคนที่รอมิไหวทำให้ต้องเห็นพวกเขาสิ้นใจ ความรู้สึกไร้พลังนี้ช่างน่าหดหู่ยิ่งนักซ่งเชียนฉู่เสียใจมาก นางพูดด้วยเสียงสะอื้น“หากข้ามาเร็วกว่านี้ เร็วกว่านี้อีกนิด พวกนางก็คงมิตาย”ลั่วชิงยวนกอดปลอบ “เจ้ามาเร็วมากแล้ว หากเจ้ามิได้แวะดูที่นี่ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้คงไม่มีใครรอดแล้ว”“เจ้าช่วยคนไว้มากมายแล้ว”แม้จะเสียใจ แต่ซ่งเชียนฉู่ก็เรียกกำลังใจกลับมาได้อย่างรวดเร็วทั้งสองกลับไปโรงหมอแล้วต้มยาต่อ จากนั้นก็นำไปแจกจ่ายให้คนไข้ที่เหลือแจกยาเสร็จก็มืดค่ำพอดีซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานเหนื่อยล้า และพิงกำแพงหลับไปลั่วชิงยวนนั่งสมาธิบนหลังคา เซียวชูยืนเฝ้าอยู่ข้าง ๆ มิกล้าห่างออกไปแม้แต่นิ้วเดียวรุ่งเช้าซ่งเชียนฉู่กับลั่วชิงยวนไปดูในเมือง หลายคนอาการดีขึ้นมากทั้งสี่คนจึงช่วยกันขุดหลุมและเผาศพเผาทำลายข้าวของที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดหลังจากจัดการทุกอย่างก็เสียเวลาในเมืองนี้ไปสองวันทั้งสี่คนรีบออกเดินทางไปซีหลิงลั่วชิงยวนถาม “เซียวชู คนของ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1129

    มีร่องรอยบางสิ่งที่ถูกลากไปบนพื้นนางเดินตามรอยนั้นไปในป่าตรงจุดที่พุ่มไม้หนาทึบที่สุด ลั่วชิงยวนเห็นคนนอนอยู่บนพื้นนางรีบวิ่งเข้าไปดู ชายคนนั้นมีรอยไหม้ทั่วร่าง เสื้อผ้าไหม้เกรียมจนมองมิออกว่าเป็นใครมีเสียงเหมือนสัตว์กำลังเลื้อยคลานดังมาจากด้านข้างลั่วชิงยวนมองไปตามเสียงในความมืดมีงูเลื้อยเข้าไปในพุ่มไม้ มีรอยไหม้ทั่วตัวจนเผยให้เห็นเนื้อหนังพุพอง น่าสยดสยองลั่วชิงยวนตกตะลึง“ฉู่จิ้ง!”แต่เขามิตอบ เลื้อยหายไปในพุ่มไม้เป็นแผลไฟไหม้ทั้งตัวไฟที่ไหม้สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยคือเพลิงประกายแก้วเมื่อติดไฟแล้วจะดับมิได้ เป็นไฟที่ร้อนแรงที่สุด ผู้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายหลายคนใช้ไฟนี้ปราบสิ่งชั่วร้ายและภูตผีปีศาจฉู่จิ้งเข้าไปช่วยคนโดยยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองคงบาดเจ็บหนักและสูญเสียพลังไปมากแน่นอนลั่วชิงยวนนั่งลงตรวจชีพจรให้ชายคนนั้น ปรากฏว่ายังมีชีวิตอยู่นางรีบร้องเรียก “เชียนฉู่!”เมื่อได้ยินเสียงนาง เซียวชูก็หน้าซีด รีบวิ่งเข้าไปในป่าเพราะกลัวว่าพระชายาจะเป็นอันตรายซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานก็รีบตามมาเมื่อเห็นคนนอนอยู่ที่พื้น ซ่งเชียนฉู่ก็โผเข้าไปหา “ท่านพ่อ!”ลั่วชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1130

    ทุกคนต่างหน้าซีด“ท่านพ่อ ท่านบาดเจ็บสาหัส อย่าเพิ่งร้อนใจ ค่อย ๆ พูดเถิดเจ้าค่ะ” ซ่งเชียนฉู่ร้อนใจพ่อของซ่งเชียนฉู่พยายามพยุงตัวนั่ง แล้วจับมือซ่งเชียนฉู่ “เชียนฉู่ เจ้ามิน่ากลับมาเลย”“พวกเจ้ารีบไปเถิด หากมิไปตอนนี้จะมิทันแล้ว!”ซ่งอวี่ร้อนรน และผลักซ่งเชียนฉู่ “ไปเถิด มิต้องสนใจพ่อ รีบลงเขาไป ออกไปจากซีหลิงเสีย!”“ท่านพ่อ ข้าจะทิ้งท่านไปได้อย่างไร หากจะลงเขาก็ต้องลงไปด้วยกัน!”เฉินเซี่ยวหานเข้ามาแบกซ่งอวี่ขึ้นหลัง “ขอรับท่านลุง พวกเราจะทิ้งท่านได้อย่างไร จะไปก็ต้องไปด้วยกัน”ลั่วชิงยวนเห็นซ่งอวี่ร้อนรนเช่นนั้น ก็เดาว่าเขาน่าจะรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่มีเวลาถาม พวกเขาจึงตัดสินใจลงเขาก่อนเพราะท่าทางของซ่งอวี่แสดงว่าบนเขามีอันตรายทุกคนระแวดระวัง เดินกลับทางเดิมแล้วลงเขาไปภูเขาลูกนี้สูงชัน ทางขึ้นลงมีเพียงทางเดียวกลางคืนน้ำค้างลงหนัก การเดินทางจึงล่าช้าเพราะต้องระวังลื่นตกจากบันไดหินแต่เมื่อเดินมาถึงกลางเขาก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินโฉบลงมา ทำให้ทุกคนตกใจ“อาเสิน...”แล้วก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างล่างทุกคนหยุดเดินมินานก็เห็นหล่างมู่วิ่งขึ้นมาอย่างเหนื่อยหอบ“พี่หญิง ท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1131

    ซ่งอวี่ก็ตกใจ“ว่ากระไรนะ?”“หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องหยุดพวกมัน!”กล่าวจบ ซ่งอวี่ก็พูดว่า “สมุนไพรในสำนักมิได้ถูกเผาหมด! ยังมีเก็บไว้ในห้องใต้ดินอีกมากหลาย อยู่ติดกับห้องเก็บน้ำแข็ง ไฟไหม้เข้าไปมิถึง”“เชียนฉู่ เจ้ารู้วิธีเปิดกุญแจ”“เมื่อปลอดภัยแล้วให้นำสมุนไพรทั้งหมดออกไปช่วยเหลือผู้คน อย่าให้ตกอยู่ในมือโจร!”ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “เจ้าค่ะ”ทันใดนั้นอาเสินก็บินมาบนฟ้า แล้วส่งเสียงร้องเตือนลั่วชิงยวนหน้าซีด “พวกมันกำลังมาแล้ว”หล่างมู่รีบวิ่งกลับมา “พี่สาว พวกมันใกล้มาถึงแล้ว พวกเราอ้อมไปหลบหลังสำนักก่อนเถิด”“บางทีพวกมันค้นหามิพบก็อาจจะถอนกำลัง”ทุกคนจึงออกเดินทางอีกครั้ง อ้อมไปหลบหลังสำนักหลบกลุ่มโจรที่กำลังขึ้นเขาซ่อนตัวในป่าทึบหลังสำนัก มองเห็นไฟในสำนักยังมิมอดดับลั่วชิงยวนครุ่นคิดสักพักก็มองหาพื้นที่ราบเรียบ จากนั้นหยิบกระดาษยันต์ออกมาหลายแผ่น ก่อนกรีดฝ่ามือวาดยันต์ด้วยเลือด“พี่หญิง ท่านทำอะไร?”ลั่วชิงยวนวาดยันต์ไปพลางตอบ “วงเวทสะกดวิญญาณ”“หากพวกมันค้นมาถึงที่นี่ก่อนฟ้าสางจะได้หลอกล่อพวกมันได้”วาดเสร็จ นางก็แบ่งให้หล่างมู่ “เจ้าไปทางนั้น แปะไว้บนต้นไม้”“ขอร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1132

    “หล่างมู่ เซียวชู!” ลั่วชิงยวนร้องเรียกพลางชักกระบี่ แล้วหยุดฝีเท้าหันหลังกลับหล่างมู่กับเซียวชูก็หยุดเช่นกัน รีบเข้าต่อสู้ขัดขวางศัตรูที่ไล่ตามมา“ชิงยวน!” ซ่งเชียนฉู่ร้องด้วยความเป็นห่วง“พวกเจ้าไปก่อน พวกเราจะตามไป!” ลั่วชิงยวนตะโกนเร่งซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานรีบหนีไปอย่างรวดเร็วยิ่งลั่วชิงยวนต่อสู้กับศัตรูเหล่านี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาคือคนแคว้นหลีมิใช่โจรธรรมดามิน่าแปลกใจที่ใช้เพลิงประกายแก้วเผาสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยหลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือดก็สังหารศัตรูไปได้ส่วนหนึ่งมีคนกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวขึ้น นำโดยชายผู้ถือกระบี่พิชิตมารเดินเข้ามาอย่างดุดันดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองลั่วชิงยวนหล่างมู่จะเข้าไปสู้ แต่ลั่วชิงยวนรีบดึงไว้ “ไป!”“อย่ามัวสู้ติดพัน”ถ่วงเวลาให้ซ่งเชียนฉู่ได้มากที่สุดก็พอทั้งสามคนรีบวิ่งหนีชายผู้ถือกระบี่พิชิตมารเร่งฝีเท้า แล้วกระโจนเข้ามา คมกระบี่พุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนรู้ตัว รีบหันไปรับมือทันทีทันใดนั้นก็มีเงาดำพุ่งลงมาจากฟ้า แล้วใช้กรงเล็บแหลมคมตะปบชายผู้นั้นอย่างแรง เขายกมือขึ้นป้องหน้าลั่วชิงยวนชะงักอาศัยจังหวะที่อาเส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1133

    ซ่งอวี่ที่นั่งพักอยู่ด้านข้างกล่าวว่า “เมื่อรอดพ้นภัยครั้งนี้ พวกเจ้าก็นำเครื่องยาสมุนไพรออกไปช่วยเหลือผู้คนได้”เฉินเซี่ยวหานพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พวกมันรู้แล้วว่าเราอยู่บนเขา คงจะพยายามตามฆ่าเราให้ได้แน่นอน หากจับเรามิได้ คงมิยอมจากไปง่าย ๆ ““ที่นี่จะซ่อนได้นานสักเท่าใด”คงซ่อนได้มินานจริง ๆลั่วชิงยวนถาม “หล่างมู่ ก่อนเจ้าจะขึ้นมา ซีหลิงเป็นอย่างไรบ้าง? มีโจรกลุ่มอื่นอีกหรือไม่?”หล่างมู่พยักหน้า “มีขอรับ”“มีมิน้อยเลย พวกมันก่อกวนหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องหลบหนี และปล้นชิงอาหาร”“แต่พี่หญิงวางกำลังไว้แล้ว น่าจะป้องกันได้”ลั่วชิงยวนมิแปลกใจ นางพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “พวกนั้นมิใช่โจรธรรมดา แต่เป็นคนแคว้นหลีปลอมตัวมา”“สาเหตุที่ก่อกวนชาวบ้านคงเพื่อแพร่เชื้อโรคระบาด”“ยากที่จะรับมือ”“ทหารม้าสามพันนายที่เรานำมากระจายกำลังกันป้องกัน ต้องดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ถอนกำลังมิได้”“มิเพียงแต่ถอนกำลังมิได้เท่านั้น แต่เรายังต้องส่งยาไปให้พวกเขาด้วย!”“มิเช่นนั้นหากโรคระบาดลุกลาม ต่อให้มีทหารหมื่นนายก็ควบคุมมิได้”ซ่งอวี่ได้ฟังดังนั้นก็กังวล “เครื่องยาสมุนไพรที่นี่ จะนำออกไปท

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status