“ข้าน้อยอยู่ตรงนี้ขอรับ!”“มิว่าฟู่เฉินหวนจะอยู่ในเมืองผิงหนิงหรือไม่ เขาก็มิกล้าที่จะมิมาพบหน้าข้า ย่อมมีความผิดปกติ เจ้าจงรีบไปตามซือซิงมาโดยด่วน ข้าต้องการพบเขา”“รับทราบขอรับ!”มหาราชาจารย์เหยียนจึงอยู่ในเมืองนานขึ้นอีกระยะหนึ่ง หนึ่งชั่วโมงต่อมา ถิงกวงก็มาอยู่ตรงหน้ามหาราชาจารย์เหยียน “ท่านมหาราชาจารย์ พบที่คุมขังซือซิงแล้วขอรับ”มหาราชาจารย์เหยียนลุกขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อประตูห้องเปิดออก ซือซิงก็เห็นมหาราชาจารย์เหยียนเดินเข้ามาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม“ท่านมหาราชาจารย์...” ซือซิงรู้สึกตื่นตระหนกทันใดดวงตาของมหาราชาจารย์เหยียนเฉียบคม “ฟู่เฉินหวนให้สิ่งใดแก่เจ้าจึงทำให้เจ้าทรยศข้า?”ซือซิงอธิบายด้วยความตื่นตระหนก “ท่านมหาราชาจารย์ เป็นเพราะลั่วชิงยวนใช้ป้ายของท่านหลอกลวงข้า! ข้าจึงหลงคิดว่าเป็นคำสั่งของท่านขอรับ!”มหาราชาจารย์เหยียนตกใจเมื่อได้ฟังดังนั้น ป้ายของเขาหายไปเมื่อมินานมานี้ แต่หายไปตอนอยู่ที่จวนมหาราชาจารย์ เหตุใดจึงตกไปอยู่ในมือลั่วชิงยวนได้?“เจ้าเห็นชัดหรือไม่ว่านั่นคือป้ายของข้า?”ซือซิงตอบอย่างมั่นใจ “แน่นอนขอรับ!”มหาราชาจารย์เหยียน
ฉินไป๋หลี่ตกใจมาก “ซีหลาน! ซีหลาน!”เขารีบวิ่งตามไปด้วยความตื่นตระหนก ลูกแก้วหลิงหลงกลิ้งไปไกลจนตกลงไปในคลองฉินไป๋หลี่ร้อนใจรีบเอื้อมมือไปคว้าไว้ แต่ลูกแก้วหลิงหลงกลับลอยไปตามน้ำเสียแล้วฉินไป๋หลี่บ้าคลั่ง เขาลุกขึ้นวิ่งออกจากจวนไปตามหาลูกแก้วหลิงหลงที่ไหลไปตามคลองเขาร้อนใจมากจนคุมสติมิได้ แต่เนื่องจากดวงตายังมิหายดีจึงมองมิชัด ทำให้เขาเดินสะดุดและชนเข้ากับสิ่งต่าง ๆ มากมายระหว่างทางนั่นมิใช่เพียงลูกแก้วหลิงหลง นั่นคือภรรยาและบุตรชายที่ตายไปแล้วของเขา! เขายังมิสามารถมองเห็นแสงเดือนแสงตะวันได้และยังมิได้เห็นภรรยาและบุตรชายเลยจะสูญเสียไปมิได้! สูญเสียไปมิได้เด็ดขาด!ฉินไป๋หลี่วิ่งออกจากจวนแม่ทัพใหญ่ แล้วมองไปตามคลองเพื่อตามหาลูกแก้วหลิงหลงจากนั้นก็วิ่งกะโผลกกะเผลกเข้าไปในตลาด เนื่องจากมองมิชัดจึงชนคนไปมากมายแล้วบังเอิญไปชนกับอันธพาล อีกฝ่ายมีสีหน้ามิพอใจขณะผลักเขา “ตาบอดหรืออย่างไร!”“ขออภัย ขออภัยขอรับ” ฉินไป๋หลี่รีบขอโทษอีกฝ่ายมองเขาแล้วกระชากตัวเขาเข้ามา“เฮ้ย นี่มันฉินไป๋หลี่ น้องชายของคนทรยศแผ่นดินมิใช่รึ?”เมื่อพูดจบ ผู้คนรอบข้างต่างก็หันมามองกันเป็นตา
“ข้าบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับข้า!” หลี่เซียวม่านกัดฟันแน่น แล้วหันหลังเตรียมจะเดินจากไปแต่แล้วก็หยุดชะงักก่อนหันกลับมา “เรื่องลูกแก้วหลิงหลง ขออภัย...”“รอให้คุณชายใหญ่กลับมา จะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้”พูดจบ หลี่เซียวม่านก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว ฉินไป๋หลี่ก็กลับไปตามหาลูกแก้วหลิงหลงของเขาต่อพวกซีหลานอาศัยอยู่ในลูกแก้วหลิงหลง บัดนี้ลูกแก้วหลิงหลงตกลงไปในคลองแล้วไหลไปตามท่อ มิรู้ว่าไปอยู่ที่ใดแล้วพวกเขาคงหนาวเหน็บกันน่าดูเขาต้องรีบไปหาให้เจอ!ตามหาไปตามท่อระบายน้ำต้องหาเจอแน่!ฉินไป๋หลี่ตามหาไปเรื่อย ๆ แต่กลับมิทันสังเกตเห็นว่ามีพวกอันธพาลหลายคนกำลังแอบตามเขาอยู่เมื่อมาถึงริมทะเลสาบที่ไม่มีผู้คนจู่ ๆ พวกอันธพาลก็กรูกันเข้ามาใช้กระสอบคลุมหัว แล้วใช้ไม้ทุบตีฉินไป๋หลี่อย่างรุนแรง“คนทรยศแผ่นดิน! สมควรตาย!”“ตีให้ตาย!”ฉินไป๋หลี่ดิ้นรนอย่างไรก็มิหลุด เขาถูกกระสอบคลุมหัวแล้วถูกทุบตีอย่างหนักทันใดนั้นเอง ฟู่จิ่งหลีเห็นเหตุการณ์นี้จึงตะโกนขึ้นทันที “หยุด! กำลังทำอะไรกัน!”เมื่อเห็นว่ามีคนมาแล้ว พวกอันธพาลก็รีบวิ่งหนีไปฟู่จิ่งหลีรีบเข้าไปช่วยคนในกระสอบออกมา เมื่อเห็นว่าเป็
ณ เมืองผิงหนิงเซียวชูเดินทางกลับไปที่ห้องอย่างเหนื่อยล้า“ท่านอ๋อง การสกัดกั้นล้มเหลวพ่ะย่ะค่ะ! คนของมหาราชาจารย์เหยียนแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มเพื่อซ่อนหล่างชิ่นไว้ กระหม่อมพาคนไปตามหล่างชิ่น กลับเจอคนลึกลับที่เคยอยู่ในซีหยางมาก่อน”“ป่าแห่งนั้นมีบรรยากาศลึกลับแปลกประหลาด กระหม่อมมิกล้าพาคนเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”เซียวชูพูดจบก็คุกเข่าลง“กระหม่อมปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ขอท่านอ๋องโปรดลงโทษด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ฟู่เฉินหวนในชุดขาวมีใบหน้าซีดเผือด เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างสายลมแรงพัดเข้ามา ราวกับจะพัดร่างของเขาให้ปลิวไปได้“นี่คือสิ่งต่อรองที่มหาราชาจารย์เหยียนจะใช้กลับไป แน่นอนว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องหล่างชิ่น”“แต่สิ่งที่เขาต้องการน่าจะเป็นเพียงคำสารภาพของหล่างชิ่นเท่านั้น ส่วนคนอาจต้องตาย”ตราบใดที่หล่างชิ่นมิตกอยู่ในมือพวกเขา มหาราชาจารย์เหยียนก็จะสบายใจดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับคำสารภาพที่เอื้อประโยชน์ต่อเขาจากหล่างชิ่น เขาก็จะกำจัดหล่างชิ่นทันที“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”“ออกเดินทางกลับเมืองหลวง” ฟู่เฉินหวนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเซียวชูเป็นห่วงอ
นางมิลังเล รีบลงจากเขาไปทันที สายตาของหล่างชิ่นดุร้ายขณะกัดฟันแน่น “ลั่วชิงยวน รอข้าก่อนเถอะ!”......เมื่อมหาราชาจารย์เหยียนกลับถึงเมืองหลวง สิ่งแรกที่ทำคือนำคำให้การของหล่างชิ่นขึ้นทูลเกล้าฯ ในราชสำนักทั้งการสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน แผนการโจมตีเมืองผิงหนิง ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเขากล่าวโทษลั่วชิงยวนในราชสำนัก บีบบังคับให้จักรพรรดิออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวน ปิดผนึกจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการและประหารตระกูลฉินทั้งตระกูลฟู่จิ่งหานรู้ดีว่าเป็นไปมิได้ที่ลั่วชิงยวนจะสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน เพราะนางถือตราประทับของจักรพรรดิสูงสุดไปช่วยเหลือเมืองผิงหนิง แต่บัดนี้ลั่วชิงยวนหายตัวไป อ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังมิกลับมา ฟู่จิ่งหานรับมือกับแรงกดดันจากมหาราชาจารย์เหยียนมิไหวหลังจากพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อยื้อเวลาก็ต่อรองจนสามารถออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวนไปก่อนมิเช่นนั้นจะถูกบีบให้ประหารตระกูลฉินทั้งตระกูลฟู่เฉินหวนเดินทางอย่างยากลำบากด้วยเส้นทางทุรกันดาร มิสนกลางวันกลางคืน ทันทีที่เข้ามาในเมืองหลวงก็ล้มลงไปมิสามารถทนจนถึงวังหลวงได้จึงถูกนำตัวกลับจวนอ๋องผู้สำเร็จ
ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดอันแสนสาหัส ไทเฮาเห็นสีหน้าเช่นนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะความโศกเศร้าและความโกรธแค้น กอปรกับอาการบาดเจ็บทางร่างกายจึงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียว“อ๋องผู้สำเร็จราชการ ถึงคราวนี้แล้วก็มิจำเป็นต้องแสร้งทำกับตัวข้าอีกต่อไปแล้ว มิว่าใครก็รู้ว่าเจ้าห่วงใยลั่วเยวี่ยอิง ส่วนลั่วชิงยวนจะเป็นหรือตายก็มิใช่เรื่องสำคัญนักสำหรับเจ้าแล้ว”“ทิ้งนางไว้คนเดียว สถานการณ์ของพวกเราจึงจะกลับคืนสู่ความสงบสุขได้ชั่วคราว”“มิดีหรืออย่างไร?”เพียงแค่ผลักไสความผิดทั้งหมดไปให้ลั่วชิงยวน ตระกูลเหยียนก็จะพ้นจากข้อกล่าวหาและสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้เล็บของฟู่เฉินหวนจิกเข้าไปลึกในฝ่ามือ เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้มากนัก เสียงร้องของลั่วเยวี่ยอิงทรมานเขาอย่างแสนสาหัสทุกวินาที“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ หากพวกท่านจะออกหมายจับลั่วชิงยวน กระหม่อมก็จะมิขัดขวาง”“ปล่อยลั่วเยวี่ยอิงเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ไทเฮายกยิ้มแล้วพูดว่า “ยามนี้ยังมิสามารถมอบคนผู้นั้นให้เจ้าได้หรอก รอให้เรื่องทุกอย่างสงบลงก่อน แล้วลั่วเยวี่ยอิงก็จะได้กลับไปอยู่เคียงข้างเจ้าอย่างปลอดภัย”
“พี่หญิง ท่านออกมาแล้ว” หล่างมู่รีบลุกขึ้นจากพื้น“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ตลอดเลยหรือ?”หล่างมู่ตอบว่า “ข้ามาดูทุกวันเลยขอรับ”“ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว พี่หญิง ท่านทำอะไรอยู่ข้างในกันแน่ขอรับ?”ใช่แล้ว มิรู้ตัวเลยว่าเวลาผ่านมาครึ่งเดือนแล้วลั่วชิงยวนตบไหล่เขาเบา ๆ แล้วมอบตำรับยาให้เขา “ต่อไปนี้เห็ดใส ๆ พวกนั้นสามารถใช้เป็นยาเช่นนี้ได้”“สามารถรักษาโรคและบาดแผลได้มากมาย ดังนั้นเลิกเอาไปผัดกินกันได้แล้ว”หล่างมู่ตกตะลึง แล้วค่อย ๆ อ่านตำรับยาแต่ละใบ ในตำรับยาแต่ละใบมีการระบุสรรพคุณทางยาไว้อย่างชัดเจน“พี่หญิง นี่ท่านเขียนทั้งหมดนี้เลยหรือขอรับ?”หล่างมู่รู้สึกตกตะลึงและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ที่แท้พี่หญิงอยู่ในนั้นครึ่งเดือนเพื่อเขียนตำรับยาเหล่านี้ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ตำรับยานี้ครบถ้วน เจ้าต้องท่องจำให้ได้ ห้ามใช้ผิดตำรับ”“ข้าคง… ต้องกลับแล้ว” นี่คือสิ่งที่นางสามารถมอบให้พวกเขาก่อนจากไปได้เมื่อหล่างมู่ได้ฟังดังนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววผิดหวัง “พี่หญิง มิอยู่พักอีกสักสองสามวันหรือขอรับ?”“ยังมีหลายสิ่งที่ข้ายังจัดการมิเสร็จในแคว้นเทียนเชวีย หล่างมู่ ต่อไปนี้เผ่านอกด่านก็ต้องพึ่งพาเ
ลั่วชิงยวนเร่งฝีเท้าม้าอย่างมิลดละ โดยมิได้ตระหนักถึงอันตรายใด ๆ เลย เมื่อล่วงเข้าสู่ยามราตรีก็ผ่านเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จึงหยุดพักเพื่อเปลี่ยนอาภรณ์ เพราะชุดสีม่วงนั้นสะดุดตาเกินไป“เจ้าของร้าน เปิดห้องพักหนึ่งห้อง”เจ้าของร้านรับเงินแล้วมอบกุญแจให้ “ห้องหมายเลขสามชั้นบน”ขณะที่ลั่วชิงยวนขึ้นบันได เจ้าของร้านก็หยิบภาพวาดออกมาพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำ แล้วก็ถึงกับตกตะลึงลั่วชิงยวนเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและกำลังจะนอนหลับพักผ่อน ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอก จากนั้นเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงก็ดังขึ้นมาบนบันได แล้วประตูห้องก็ถูกถีบเปิดออก ทหารกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา หลังจากยกภาพวาดมาเปรียบเทียบอีกครั้งแล้วก็ออกคำสั่ง “จับเลย!”ลั่วชิงยวนจึงถูกจับกุม “จับข้าด้วยเหตุใด!”“ผู้ต้องหาต้องถูกจับตามหมายจับ มิจับเจ้าแล้วจะให้จับผู้ใดเล่า!”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบดิ้นรน “ปล่อยข้า ข้าคือพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”“จับพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการนั่นแหละ!”เมื่อเห็นท่าจะถูกนำตัวไปยังศาลากลาง ลั่วชิงยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้กำลังขัดขืน แต่ทันใดนั้นก็มีเงาดำกระโจนลงมาจากท