แชร์

บทที่ 1033

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“ข้าบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับข้า!”

หลี่เซียวม่านกัดฟันแน่น แล้วหันหลังเตรียมจะเดินจากไป

แต่แล้วก็หยุดชะงักก่อนหันกลับมา “เรื่องลูกแก้วหลิงหลง ขออภัย...”

“รอให้คุณชายใหญ่กลับมา จะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้”

พูดจบ หลี่เซียวม่านก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

ฉินไป๋หลี่ก็กลับไปตามหาลูกแก้วหลิงหลงของเขาต่อ

พวกซีหลานอาศัยอยู่ในลูกแก้วหลิงหลง บัดนี้ลูกแก้วหลิงหลงตกลงไปในคลองแล้วไหลไปตามท่อ มิรู้ว่าไปอยู่ที่ใดแล้ว

พวกเขาคงหนาวเหน็บกันน่าดู

เขาต้องรีบไปหาให้เจอ!

ตามหาไปตามท่อระบายน้ำต้องหาเจอแน่!

ฉินไป๋หลี่ตามหาไปเรื่อย ๆ แต่กลับมิทันสังเกตเห็นว่ามีพวกอันธพาลหลายคนกำลังแอบตามเขาอยู่

เมื่อมาถึงริมทะเลสาบที่ไม่มีผู้คน

จู่ ๆ พวกอันธพาลก็กรูกันเข้ามา

ใช้กระสอบคลุมหัว แล้วใช้ไม้ทุบตีฉินไป๋หลี่อย่างรุนแรง

“คนทรยศแผ่นดิน! สมควรตาย!”

“ตีให้ตาย!”

ฉินไป๋หลี่ดิ้นรนอย่างไรก็มิหลุด เขาถูกกระสอบคลุมหัวแล้วถูกทุบตีอย่างหนัก

ทันใดนั้นเอง ฟู่จิ่งหลีเห็นเหตุการณ์นี้จึงตะโกนขึ้นทันที “หยุด! กำลังทำอะไรกัน!”

เมื่อเห็นว่ามีคนมาแล้ว พวกอันธพาลก็รีบวิ่งหนีไป

ฟู่จิ่งหลีรีบเข้าไปช่วยคนในกระสอบออกมา เมื่อเห็นว่าเป็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1034

    ณ เมืองผิงหนิงเซียวชูเดินทางกลับไปที่ห้องอย่างเหนื่อยล้า“ท่านอ๋อง การสกัดกั้นล้มเหลวพ่ะย่ะค่ะ! คนของมหาราชาจารย์เหยียนแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มเพื่อซ่อนหล่างชิ่นไว้ กระหม่อมพาคนไปตามหล่างชิ่น กลับเจอคนลึกลับที่เคยอยู่ในซีหยางมาก่อน”“ป่าแห่งนั้นมีบรรยากาศลึกลับแปลกประหลาด กระหม่อมมิกล้าพาคนเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”เซียวชูพูดจบก็คุกเข่าลง“กระหม่อมปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ขอท่านอ๋องโปรดลงโทษด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ฟู่เฉินหวนในชุดขาวมีใบหน้าซีดเผือด เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างสายลมแรงพัดเข้ามา ราวกับจะพัดร่างของเขาให้ปลิวไปได้“นี่คือสิ่งต่อรองที่มหาราชาจารย์เหยียนจะใช้กลับไป แน่นอนว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องหล่างชิ่น”“แต่สิ่งที่เขาต้องการน่าจะเป็นเพียงคำสารภาพของหล่างชิ่นเท่านั้น ส่วนคนอาจต้องตาย”ตราบใดที่หล่างชิ่นมิตกอยู่ในมือพวกเขา มหาราชาจารย์เหยียนก็จะสบายใจดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับคำสารภาพที่เอื้อประโยชน์ต่อเขาจากหล่างชิ่น เขาก็จะกำจัดหล่างชิ่นทันที“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”“ออกเดินทางกลับเมืองหลวง” ฟู่เฉินหวนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเซียวชูเป็นห่วงอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1035

    นางมิลังเล รีบลงจากเขาไปทันที สายตาของหล่างชิ่นดุร้ายขณะกัดฟันแน่น “ลั่วชิงยวน รอข้าก่อนเถอะ!”......เมื่อมหาราชาจารย์เหยียนกลับถึงเมืองหลวง สิ่งแรกที่ทำคือนำคำให้การของหล่างชิ่นขึ้นทูลเกล้าฯ ในราชสำนักทั้งการสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน แผนการโจมตีเมืองผิงหนิง ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเขากล่าวโทษลั่วชิงยวนในราชสำนัก บีบบังคับให้จักรพรรดิออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวน ปิดผนึกจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการและประหารตระกูลฉินทั้งตระกูลฟู่จิ่งหานรู้ดีว่าเป็นไปมิได้ที่ลั่วชิงยวนจะสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน เพราะนางถือตราประทับของจักรพรรดิสูงสุดไปช่วยเหลือเมืองผิงหนิง แต่บัดนี้ลั่วชิงยวนหายตัวไป อ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังมิกลับมา ฟู่จิ่งหานรับมือกับแรงกดดันจากมหาราชาจารย์เหยียนมิไหวหลังจากพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อยื้อเวลาก็ต่อรองจนสามารถออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวนไปก่อนมิเช่นนั้นจะถูกบีบให้ประหารตระกูลฉินทั้งตระกูลฟู่เฉินหวนเดินทางอย่างยากลำบากด้วยเส้นทางทุรกันดาร มิสนกลางวันกลางคืน ทันทีที่เข้ามาในเมืองหลวงก็ล้มลงไปมิสามารถทนจนถึงวังหลวงได้จึงถูกนำตัวกลับจวนอ๋องผู้สำเร็จ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1036

    ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดอันแสนสาหัส ไทเฮาเห็นสีหน้าเช่นนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะความโศกเศร้าและความโกรธแค้น กอปรกับอาการบาดเจ็บทางร่างกายจึงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียว“อ๋องผู้สำเร็จราชการ ถึงคราวนี้แล้วก็มิจำเป็นต้องแสร้งทำกับตัวข้าอีกต่อไปแล้ว มิว่าใครก็รู้ว่าเจ้าห่วงใยลั่วเยวี่ยอิง ส่วนลั่วชิงยวนจะเป็นหรือตายก็มิใช่เรื่องสำคัญนักสำหรับเจ้าแล้ว”“ทิ้งนางไว้คนเดียว สถานการณ์ของพวกเราจึงจะกลับคืนสู่ความสงบสุขได้ชั่วคราว”“มิดีหรืออย่างไร?”เพียงแค่ผลักไสความผิดทั้งหมดไปให้ลั่วชิงยวน ตระกูลเหยียนก็จะพ้นจากข้อกล่าวหาและสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้เล็บของฟู่เฉินหวนจิกเข้าไปลึกในฝ่ามือ เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้มากนัก เสียงร้องของลั่วเยวี่ยอิงทรมานเขาอย่างแสนสาหัสทุกวินาที“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ หากพวกท่านจะออกหมายจับลั่วชิงยวน กระหม่อมก็จะมิขัดขวาง”“ปล่อยลั่วเยวี่ยอิงเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ไทเฮายกยิ้มแล้วพูดว่า “ยามนี้ยังมิสามารถมอบคนผู้นั้นให้เจ้าได้หรอก รอให้เรื่องทุกอย่างสงบลงก่อน แล้วลั่วเยวี่ยอิงก็จะได้กลับไปอยู่เคียงข้างเจ้าอย่างปลอดภัย”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1037

    “พี่หญิง ท่านออกมาแล้ว” หล่างมู่รีบลุกขึ้นจากพื้น“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ตลอดเลยหรือ?”หล่างมู่ตอบว่า “ข้ามาดูทุกวันเลยขอรับ”“ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว พี่หญิง ท่านทำอะไรอยู่ข้างในกันแน่ขอรับ?”ใช่แล้ว มิรู้ตัวเลยว่าเวลาผ่านมาครึ่งเดือนแล้วลั่วชิงยวนตบไหล่เขาเบา ๆ แล้วมอบตำรับยาให้เขา “ต่อไปนี้เห็ดใส ๆ พวกนั้นสามารถใช้เป็นยาเช่นนี้ได้”“สามารถรักษาโรคและบาดแผลได้มากมาย ดังนั้นเลิกเอาไปผัดกินกันได้แล้ว”หล่างมู่ตกตะลึง แล้วค่อย ๆ อ่านตำรับยาแต่ละใบ ในตำรับยาแต่ละใบมีการระบุสรรพคุณทางยาไว้อย่างชัดเจน“พี่หญิง นี่ท่านเขียนทั้งหมดนี้เลยหรือขอรับ?”หล่างมู่รู้สึกตกตะลึงและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ที่แท้พี่หญิงอยู่ในนั้นครึ่งเดือนเพื่อเขียนตำรับยาเหล่านี้ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ตำรับยานี้ครบถ้วน เจ้าต้องท่องจำให้ได้ ห้ามใช้ผิดตำรับ”“ข้าคง… ต้องกลับแล้ว” นี่คือสิ่งที่นางสามารถมอบให้พวกเขาก่อนจากไปได้เมื่อหล่างมู่ได้ฟังดังนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววผิดหวัง “พี่หญิง มิอยู่พักอีกสักสองสามวันหรือขอรับ?”“ยังมีหลายสิ่งที่ข้ายังจัดการมิเสร็จในแคว้นเทียนเชวีย หล่างมู่ ต่อไปนี้เผ่านอกด่านก็ต้องพึ่งพาเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1038

    ลั่วชิงยวนเร่งฝีเท้าม้าอย่างมิลดละ โดยมิได้ตระหนักถึงอันตรายใด ๆ เลย เมื่อล่วงเข้าสู่ยามราตรีก็ผ่านเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จึงหยุดพักเพื่อเปลี่ยนอาภรณ์ เพราะชุดสีม่วงนั้นสะดุดตาเกินไป“เจ้าของร้าน เปิดห้องพักหนึ่งห้อง”เจ้าของร้านรับเงินแล้วมอบกุญแจให้ “ห้องหมายเลขสามชั้นบน”ขณะที่ลั่วชิงยวนขึ้นบันได เจ้าของร้านก็หยิบภาพวาดออกมาพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำ แล้วก็ถึงกับตกตะลึงลั่วชิงยวนเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและกำลังจะนอนหลับพักผ่อน ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอก จากนั้นเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงก็ดังขึ้นมาบนบันได แล้วประตูห้องก็ถูกถีบเปิดออก ทหารกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา หลังจากยกภาพวาดมาเปรียบเทียบอีกครั้งแล้วก็ออกคำสั่ง “จับเลย!”ลั่วชิงยวนจึงถูกจับกุม “จับข้าด้วยเหตุใด!”“ผู้ต้องหาต้องถูกจับตามหมายจับ มิจับเจ้าแล้วจะให้จับผู้ใดเล่า!”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบดิ้นรน “ปล่อยข้า ข้าคือพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”“จับพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการนั่นแหละ!”เมื่อเห็นท่าจะถูกนำตัวไปยังศาลากลาง ลั่วชิงยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้กำลังขัดขืน แต่ทันใดนั้นก็มีเงาดำกระโจนลงมาจากท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1039

    นางไปขอยืมผ้าผืนหนึ่งจากแคว้นเทียนเชวียมาจากชาวบ้านจากละแวกนั้นมาสวมใส่ แล้วนำถ่านมาทาให้หน้าดำคล้ำลง จากนั้นซื้อเกวียนบรรทุกผัก แล้วออกเดินทางไปยังแคว้นเทียนเชวีย คราวนี้ก็คงจะหนีซือซิงได้แล้วเมื่อผ่านด่านตรวจก็ปรากฏว่าไม่มีใครจำนางได้เลย ลั่วชิงยวนผ่านด่านเข้ามายังแคว้นเทียนเชวียได้อย่างราบรื่น หลังจากผ่านเมืองผิงหนิงและเดินทางตลอดทั้งวันแล้ว ก็กลับมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เคยมาเมื่อวานตอนเย็น นางรีบไปเปลี่ยนอาภรณ์อีกครั้ง คราวนี้สวมชุดสีดำ สวมหมวกและถือดาบยาว แต่งตัวเป็นนักดาบพเนจร จากนั้นก็ซื้อม้าแล้วเดินทางต่อไป หลังจากเดินทางตลอดทั้งวันทั้งคืนมาหลายวันก็มาถึงเมืองเย่โจวที่มีชีวิตชีวาในตลาดที่คึกคัก มีผู้คนมากมายมุงดูกัน บนกำแพงติดประกาศหมายจับลั่วชิงยวน “ร่วมมือกับคนเผ่านอกด่าน ทรยศแคว้น จุ๊ จุ๊ คนเช่นสมควรถูกประหารชีวิตหากจับได้!”“ช่างชั่วช้ายิ่งนัก!” เสียงด่าทอสาปแช่งดังขึ้นรอบกายลั่วชิงยวนจากไปเงียบ ๆ ที่แท้นางก็ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดร้ายแรงเช่นนี้ ต้องเป็นฝีมือของตระกูลเหยียนเป็นแน่ เช่นนั้นนางยิ่งต้องกลับไป! นางจะมิทนแบกรับความอัปยศอดสูเช่นนี้!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1040

    หล่างชิ่นแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจ รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้า ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น “เมื่อคืนนี้เป็นเพราะเจ้าเองรึ!”หล่างชิ่นหัวเราะเยาะเย้ย “ใช่ ข้าเอง” “ข้ารอเจ้าอยู่ที่เมืองเย่โจว เพราะที่นี่เป็นทางเดียวที่เจ้าต้องผ่านกลับไปยังเมืองหลวง!” “เป็นข้าเองที่บอกให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมคนร้ายที่โรงเตี๊ยม” “เมื่อคืนข้าเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง” “เป็นอย่างไรบ้างเล่า? มิใช่เพียงแต่เจ้าเท่านั้นที่ฉลาดนะลั่วชิงยวน” หล่างชิ่นกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง เตรียมที่จะเพลิดเพลินไปกับการทรมานลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างชิ่น ดูเหมือนว่าฝีมือของนางจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก ดูมิรู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย และกลิ่นยาที่คุ้นเคยที่นี่ด้วย เหมือนว่าจะเป็น...หมอยา ลั่วชิงยวนนึกขึ้นได้ นั่นคือลั่วฉิง!หล่างชิ่นเปิดถุงกระสอบในมือ งูพิษตัวหนึ่งพุ่งออกมาฉกมือหล่างชิ่น แต่หล่างชิ่นกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นางจับงูพิษตัวนั้นขึ้นมาอย่างมิใส่ใจ และนำมันเข้ามาใกล้ใบหน้าของลั่วชิงยวน“ข้าไม่มีเหล็กตราทาส เช่นนั้นข้าจะให้มันกัดหน้าเจ้าแทนการประทับรอยตราทาสแทนดีหรือไม่?”รอยยิ้มดุร้ายบนใบห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1041

    ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง มันได้ผลจริง ๆ “หล่างชิ่น ข้าจะยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ให้เจ้าฆ่า รีบมาสิ”หล่างชิ่นจ้องมองด้วยความโกรธ นางกำกริชแน่นอีกครั้ง แล้วยันตัวคลานไปแทงลั่วชิงยวน แต่ยังมิถึงสองก้าว นางก็ถูกความเจ็บปวดที่รุนแรงกว่าเดิมทรมานจนล้มลงกับพื้น ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทรมานสุดขีด“กรี๊ด”“ลั่วชิงยวน เจ้าทำอะไรกับข้า! โอ๊ย!”หล่างชิ่นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ลั่วชิงยวนมองด้วยความเย้ยหยันแล้วคุกเข่าลง“เจ้าอยากฆ่าข้านักมิใช่รึ มาสิ”“ทุกครั้งที่เจ้าคิดจะฆ่าข้า จะทำให้เจ้าปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิดเลยใช่หรือไม่?”“เช่นนั้นเจ้ายังจะอยากฆ่าข้าอยู่อีกหรือ?”ดวงตาของหล่างชิ่นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่นางมิสามารถจับกริชให้แน่นได้ด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดทำให้เล็บของนางจิกลงบนพื้นจนเป็นหลุมลึก“ลั่วชิงยวน! เจ้าฆ่าข้าสิ! ฆ่าข้า!” หล่างชิ่นคำรามด้วยความโกรธแค้นลั่วชิงยวนหัวเราะเบาๆ “ข้ามิฆ่าเจ้าหรอก”“ข้าจะช่วยเจ้าให้เจ้ามีชีวิตอยู่ ให้เจ้าได้เห็นคนที่เจ้าเกลียดที่สุดอยู่ตรงหน้า แต่เจ้าจะไม่มีทางฆ่าคนคนนั้นได้ตลอดไป”ลั่วชิงยวนอยากจะลองใช้หล่างชิ่นเป็นหนูทดลอง เพื่อดูว่าจะหาทางช่วยฟ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1275

    ฟู่เฉินหวนหาได้แปลกใจไม่ คนที่ปรากฏตัวที่นี่ได้ย่อมมิใช่คนธรรมดาเขามิได้ตอบ เพราะกำลังครุ่นคิดฉินอี้พูดต่อ “คนของเฉินชีล้อมภูเขาทั้งลูกไว้แล้ว เจ้าบาดเจ็บสาหัส ออกไปเองมิได้หรอก”“มีเพียงการไปกับข้าเท่านั้น ข้าจึงจะพาเจ้าออกจากที่นี่ได้”“อีกอย่าง เจ้าก็น่าจะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเฉินชี ถึงแม้ว่าเจ้าจะรอดชีวิตออกจากภูเขาลูกนี้ก็เข้าเมืองหลวงมิได้อยู่ดี และไม่มีทางได้พบลั่วชิงยวน”“ทั่วแผ่นดินแคว้นหลี มีเพียงข้าเท่านั้นที่ช่วยเจ้าได้”ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลง “เงื่อนไขคืออะไร?”“เจ้าอุตส่าห์มาช่วยข้า คงต้องมีเงื่อนไขกระมัง”ฉินอี้ยกยิ้ม “ข้าชอบคบหากับคนฉลาด!”“สิ่งเดียวที่ข้าอยากทำ ก็คือฆ่าเฉินชี!”แววตาของฉินอี้เต็มไปด้วยจิตสังหารเฉินชีควบคุมกองทัพ มักทำอะไรตามใจชอบถึงแม้ว่าภายนอกจะเชื่อฟังราชวงศ์ แต่ความจริงแล้วเขาแทบมิยอมรับข้อบังคับของราชวงศ์ มิเคยเห็นใครอยู่ในสายตายิ่งไปกว่านั้น เขามิเคยนับถือองค์ชายผู้นี้เลย คอยแต่จะเยาะเย้ยเสมอเมื่อมีโอกาสสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดในชีวิตคือ ฆ่าเฉินชี!ฟู่เฉินหวนดูออก ฉินอี้มิได้โกหกเรื่องนี้ ความเกลียดชังในดวงตาของเขาแทบจะพวยพุ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1274

    นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหลบ ทว่าหาได้มีทางหลบได้ไม่ เงาดำหลายร่างจับร่างจองนางเหวี่ยงไปมาร่างของนางราวกับใบไม้ที่ถูกลมพัดปลิวไปมา ชนกำแพง ชนประตู ชนต้นไม้จนเลือดไหลออกมาดูน่าเวทนายิ่งนักมีคนหลายคนยืนดูความเคลื่อนไหวในเรือนจากในที่มืดระยะไกล แล้วต่างหัวเราะอย่างพึงพอใจ“คิดว่าจะเก่งแค่ไหนกันเชียว กล้ามาท้าทายจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดารา สุดท้ายก็ได้แค่นี้”“ความจริงนางก็มิได้เก่งหรอก มิรู้ว่าปราบสิบวายร้ายได้อย่างไร”“ส่งไปอีกสองตัว! ทรมานอีกสักรอบ อีกสองวันข้างหน้าเมื่อไปหอรักษ์ดารา นางอาจจะยอมแพ้ไป!”พูดจบ พวกเขาก็เปิดกล่องที่ผนึกด้วยยันต์แปดทิศ และกระดาษยันต์หนึ่งแผ่นก็เริ่มควบคุมสิ่งของในกล่องให้บินออกมาทันใดนั้นก็มีเท้าข้างหนึ่งยื่นออกมาเตะกล่องคว่ำสิ่งที่พุ่งออกมาทันทีนั้นส่งเสียงคำรามอันน่าสยดสยอง ทำให้หลายคนตกใจพลันรีบถอยหลังหลบกันไป“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึไร!” หลายคนรีบลุกขึ้นตะโกนใส่อวี๋โหรวที่เตะกล่องคว่ำพวกเขาลุกขึ้นยืน ทุกคนตัวสูงกว่าอวี๋โหรวยิ่งทำให้อวี๋โหรวดูตัวเล็กดูน่ารังแกแต่อวี๋โหรวกลับมองพวกเขาด้วยแววตาเย็นชา “พอได้แล้ว!”“หากทำให้นางตาย ข้าจะดูว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status