Share

บทที่ 1033

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
“ข้าบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับข้า!”

หลี่เซียวม่านกัดฟันแน่น แล้วหันหลังเตรียมจะเดินจากไป

แต่แล้วก็หยุดชะงักก่อนหันกลับมา “เรื่องลูกแก้วหลิงหลง ขออภัย...”

“รอให้คุณชายใหญ่กลับมา จะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้”

พูดจบ หลี่เซียวม่านก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

ฉินไป๋หลี่ก็กลับไปตามหาลูกแก้วหลิงหลงของเขาต่อ

พวกซีหลานอาศัยอยู่ในลูกแก้วหลิงหลง บัดนี้ลูกแก้วหลิงหลงตกลงไปในคลองแล้วไหลไปตามท่อ มิรู้ว่าไปอยู่ที่ใดแล้ว

พวกเขาคงหนาวเหน็บกันน่าดู

เขาต้องรีบไปหาให้เจอ!

ตามหาไปตามท่อระบายน้ำต้องหาเจอแน่!

ฉินไป๋หลี่ตามหาไปเรื่อย ๆ แต่กลับมิทันสังเกตเห็นว่ามีพวกอันธพาลหลายคนกำลังแอบตามเขาอยู่

เมื่อมาถึงริมทะเลสาบที่ไม่มีผู้คน

จู่ ๆ พวกอันธพาลก็กรูกันเข้ามา

ใช้กระสอบคลุมหัว แล้วใช้ไม้ทุบตีฉินไป๋หลี่อย่างรุนแรง

“คนทรยศแผ่นดิน! สมควรตาย!”

“ตีให้ตาย!”

ฉินไป๋หลี่ดิ้นรนอย่างไรก็มิหลุด เขาถูกกระสอบคลุมหัวแล้วถูกทุบตีอย่างหนัก

ทันใดนั้นเอง ฟู่จิ่งหลีเห็นเหตุการณ์นี้จึงตะโกนขึ้นทันที “หยุด! กำลังทำอะไรกัน!”

เมื่อเห็นว่ามีคนมาแล้ว พวกอันธพาลก็รีบวิ่งหนีไป

ฟู่จิ่งหลีรีบเข้าไปช่วยคนในกระสอบออกมา เมื่อเห็นว่าเป็
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1034

    ณ เมืองผิงหนิงเซียวชูเดินทางกลับไปที่ห้องอย่างเหนื่อยล้า“ท่านอ๋อง การสกัดกั้นล้มเหลวพ่ะย่ะค่ะ! คนของมหาราชาจารย์เหยียนแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มเพื่อซ่อนหล่างชิ่นไว้ กระหม่อมพาคนไปตามหล่างชิ่น กลับเจอคนลึกลับที่เคยอยู่ในซีหยางมาก่อน”“ป่าแห่งนั้นมีบรรยากาศลึกลับแปลกประหลาด กระหม่อมมิกล้าพาคนเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”เซียวชูพูดจบก็คุกเข่าลง“กระหม่อมปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ขอท่านอ๋องโปรดลงโทษด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ฟู่เฉินหวนในชุดขาวมีใบหน้าซีดเผือด เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างสายลมแรงพัดเข้ามา ราวกับจะพัดร่างของเขาให้ปลิวไปได้“นี่คือสิ่งต่อรองที่มหาราชาจารย์เหยียนจะใช้กลับไป แน่นอนว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องหล่างชิ่น”“แต่สิ่งที่เขาต้องการน่าจะเป็นเพียงคำสารภาพของหล่างชิ่นเท่านั้น ส่วนคนอาจต้องตาย”ตราบใดที่หล่างชิ่นมิตกอยู่ในมือพวกเขา มหาราชาจารย์เหยียนก็จะสบายใจดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับคำสารภาพที่เอื้อประโยชน์ต่อเขาจากหล่างชิ่น เขาก็จะกำจัดหล่างชิ่นทันที“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”“ออกเดินทางกลับเมืองหลวง” ฟู่เฉินหวนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเซียวชูเป็นห่วงอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1035

    นางมิลังเล รีบลงจากเขาไปทันที สายตาของหล่างชิ่นดุร้ายขณะกัดฟันแน่น “ลั่วชิงยวน รอข้าก่อนเถอะ!”......เมื่อมหาราชาจารย์เหยียนกลับถึงเมืองหลวง สิ่งแรกที่ทำคือนำคำให้การของหล่างชิ่นขึ้นทูลเกล้าฯ ในราชสำนักทั้งการสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน แผนการโจมตีเมืองผิงหนิง ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเขากล่าวโทษลั่วชิงยวนในราชสำนัก บีบบังคับให้จักรพรรดิออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวน ปิดผนึกจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการและประหารตระกูลฉินทั้งตระกูลฟู่จิ่งหานรู้ดีว่าเป็นไปมิได้ที่ลั่วชิงยวนจะสมรู้ร่วมคิดกับเผ่านอกด่าน เพราะนางถือตราประทับของจักรพรรดิสูงสุดไปช่วยเหลือเมืองผิงหนิง แต่บัดนี้ลั่วชิงยวนหายตัวไป อ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังมิกลับมา ฟู่จิ่งหานรับมือกับแรงกดดันจากมหาราชาจารย์เหยียนมิไหวหลังจากพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อยื้อเวลาก็ต่อรองจนสามารถออกคำสั่งจับกุมลั่วชิงยวนไปก่อนมิเช่นนั้นจะถูกบีบให้ประหารตระกูลฉินทั้งตระกูลฟู่เฉินหวนเดินทางอย่างยากลำบากด้วยเส้นทางทุรกันดาร มิสนกลางวันกลางคืน ทันทีที่เข้ามาในเมืองหลวงก็ล้มลงไปมิสามารถทนจนถึงวังหลวงได้จึงถูกนำตัวกลับจวนอ๋องผู้สำเร็จ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1036

    ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดอันแสนสาหัส ไทเฮาเห็นสีหน้าเช่นนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะความโศกเศร้าและความโกรธแค้น กอปรกับอาการบาดเจ็บทางร่างกายจึงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียว“อ๋องผู้สำเร็จราชการ ถึงคราวนี้แล้วก็มิจำเป็นต้องแสร้งทำกับตัวข้าอีกต่อไปแล้ว มิว่าใครก็รู้ว่าเจ้าห่วงใยลั่วเยวี่ยอิง ส่วนลั่วชิงยวนจะเป็นหรือตายก็มิใช่เรื่องสำคัญนักสำหรับเจ้าแล้ว”“ทิ้งนางไว้คนเดียว สถานการณ์ของพวกเราจึงจะกลับคืนสู่ความสงบสุขได้ชั่วคราว”“มิดีหรืออย่างไร?”เพียงแค่ผลักไสความผิดทั้งหมดไปให้ลั่วชิงยวน ตระกูลเหยียนก็จะพ้นจากข้อกล่าวหาและสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้เล็บของฟู่เฉินหวนจิกเข้าไปลึกในฝ่ามือ เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้มากนัก เสียงร้องของลั่วเยวี่ยอิงทรมานเขาอย่างแสนสาหัสทุกวินาที“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ หากพวกท่านจะออกหมายจับลั่วชิงยวน กระหม่อมก็จะมิขัดขวาง”“ปล่อยลั่วเยวี่ยอิงเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ไทเฮายกยิ้มแล้วพูดว่า “ยามนี้ยังมิสามารถมอบคนผู้นั้นให้เจ้าได้หรอก รอให้เรื่องทุกอย่างสงบลงก่อน แล้วลั่วเยวี่ยอิงก็จะได้กลับไปอยู่เคียงข้างเจ้าอย่างปลอดภัย”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1037

    “พี่หญิง ท่านออกมาแล้ว” หล่างมู่รีบลุกขึ้นจากพื้น“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ตลอดเลยหรือ?”หล่างมู่ตอบว่า “ข้ามาดูทุกวันเลยขอรับ”“ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว พี่หญิง ท่านทำอะไรอยู่ข้างในกันแน่ขอรับ?”ใช่แล้ว มิรู้ตัวเลยว่าเวลาผ่านมาครึ่งเดือนแล้วลั่วชิงยวนตบไหล่เขาเบา ๆ แล้วมอบตำรับยาให้เขา “ต่อไปนี้เห็ดใส ๆ พวกนั้นสามารถใช้เป็นยาเช่นนี้ได้”“สามารถรักษาโรคและบาดแผลได้มากมาย ดังนั้นเลิกเอาไปผัดกินกันได้แล้ว”หล่างมู่ตกตะลึง แล้วค่อย ๆ อ่านตำรับยาแต่ละใบ ในตำรับยาแต่ละใบมีการระบุสรรพคุณทางยาไว้อย่างชัดเจน“พี่หญิง นี่ท่านเขียนทั้งหมดนี้เลยหรือขอรับ?”หล่างมู่รู้สึกตกตะลึงและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ที่แท้พี่หญิงอยู่ในนั้นครึ่งเดือนเพื่อเขียนตำรับยาเหล่านี้ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ตำรับยานี้ครบถ้วน เจ้าต้องท่องจำให้ได้ ห้ามใช้ผิดตำรับ”“ข้าคง… ต้องกลับแล้ว” นี่คือสิ่งที่นางสามารถมอบให้พวกเขาก่อนจากไปได้เมื่อหล่างมู่ได้ฟังดังนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววผิดหวัง “พี่หญิง มิอยู่พักอีกสักสองสามวันหรือขอรับ?”“ยังมีหลายสิ่งที่ข้ายังจัดการมิเสร็จในแคว้นเทียนเชวีย หล่างมู่ ต่อไปนี้เผ่านอกด่านก็ต้องพึ่งพาเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1038

    ลั่วชิงยวนเร่งฝีเท้าม้าอย่างมิลดละ โดยมิได้ตระหนักถึงอันตรายใด ๆ เลย เมื่อล่วงเข้าสู่ยามราตรีก็ผ่านเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จึงหยุดพักเพื่อเปลี่ยนอาภรณ์ เพราะชุดสีม่วงนั้นสะดุดตาเกินไป“เจ้าของร้าน เปิดห้องพักหนึ่งห้อง”เจ้าของร้านรับเงินแล้วมอบกุญแจให้ “ห้องหมายเลขสามชั้นบน”ขณะที่ลั่วชิงยวนขึ้นบันได เจ้าของร้านก็หยิบภาพวาดออกมาพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำ แล้วก็ถึงกับตกตะลึงลั่วชิงยวนเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและกำลังจะนอนหลับพักผ่อน ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอก จากนั้นเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงก็ดังขึ้นมาบนบันได แล้วประตูห้องก็ถูกถีบเปิดออก ทหารกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา หลังจากยกภาพวาดมาเปรียบเทียบอีกครั้งแล้วก็ออกคำสั่ง “จับเลย!”ลั่วชิงยวนจึงถูกจับกุม “จับข้าด้วยเหตุใด!”“ผู้ต้องหาต้องถูกจับตามหมายจับ มิจับเจ้าแล้วจะให้จับผู้ใดเล่า!”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบดิ้นรน “ปล่อยข้า ข้าคือพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”“จับพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการนั่นแหละ!”เมื่อเห็นท่าจะถูกนำตัวไปยังศาลากลาง ลั่วชิงยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้กำลังขัดขืน แต่ทันใดนั้นก็มีเงาดำกระโจนลงมาจากท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1039

    นางไปขอยืมผ้าผืนหนึ่งจากแคว้นเทียนเชวียมาจากชาวบ้านจากละแวกนั้นมาสวมใส่ แล้วนำถ่านมาทาให้หน้าดำคล้ำลง จากนั้นซื้อเกวียนบรรทุกผัก แล้วออกเดินทางไปยังแคว้นเทียนเชวีย คราวนี้ก็คงจะหนีซือซิงได้แล้วเมื่อผ่านด่านตรวจก็ปรากฏว่าไม่มีใครจำนางได้เลย ลั่วชิงยวนผ่านด่านเข้ามายังแคว้นเทียนเชวียได้อย่างราบรื่น หลังจากผ่านเมืองผิงหนิงและเดินทางตลอดทั้งวันแล้ว ก็กลับมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เคยมาเมื่อวานตอนเย็น นางรีบไปเปลี่ยนอาภรณ์อีกครั้ง คราวนี้สวมชุดสีดำ สวมหมวกและถือดาบยาว แต่งตัวเป็นนักดาบพเนจร จากนั้นก็ซื้อม้าแล้วเดินทางต่อไป หลังจากเดินทางตลอดทั้งวันทั้งคืนมาหลายวันก็มาถึงเมืองเย่โจวที่มีชีวิตชีวาในตลาดที่คึกคัก มีผู้คนมากมายมุงดูกัน บนกำแพงติดประกาศหมายจับลั่วชิงยวน “ร่วมมือกับคนเผ่านอกด่าน ทรยศแคว้น จุ๊ จุ๊ คนเช่นสมควรถูกประหารชีวิตหากจับได้!”“ช่างชั่วช้ายิ่งนัก!” เสียงด่าทอสาปแช่งดังขึ้นรอบกายลั่วชิงยวนจากไปเงียบ ๆ ที่แท้นางก็ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดร้ายแรงเช่นนี้ ต้องเป็นฝีมือของตระกูลเหยียนเป็นแน่ เช่นนั้นนางยิ่งต้องกลับไป! นางจะมิทนแบกรับความอัปยศอดสูเช่นนี้!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1040

    หล่างชิ่นแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจ รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้า ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น “เมื่อคืนนี้เป็นเพราะเจ้าเองรึ!”หล่างชิ่นหัวเราะเยาะเย้ย “ใช่ ข้าเอง” “ข้ารอเจ้าอยู่ที่เมืองเย่โจว เพราะที่นี่เป็นทางเดียวที่เจ้าต้องผ่านกลับไปยังเมืองหลวง!” “เป็นข้าเองที่บอกให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมคนร้ายที่โรงเตี๊ยม” “เมื่อคืนข้าเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง” “เป็นอย่างไรบ้างเล่า? มิใช่เพียงแต่เจ้าเท่านั้นที่ฉลาดนะลั่วชิงยวน” หล่างชิ่นกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง เตรียมที่จะเพลิดเพลินไปกับการทรมานลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างชิ่น ดูเหมือนว่าฝีมือของนางจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก ดูมิรู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย และกลิ่นยาที่คุ้นเคยที่นี่ด้วย เหมือนว่าจะเป็น...หมอยา ลั่วชิงยวนนึกขึ้นได้ นั่นคือลั่วฉิง!หล่างชิ่นเปิดถุงกระสอบในมือ งูพิษตัวหนึ่งพุ่งออกมาฉกมือหล่างชิ่น แต่หล่างชิ่นกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นางจับงูพิษตัวนั้นขึ้นมาอย่างมิใส่ใจ และนำมันเข้ามาใกล้ใบหน้าของลั่วชิงยวน“ข้าไม่มีเหล็กตราทาส เช่นนั้นข้าจะให้มันกัดหน้าเจ้าแทนการประทับรอยตราทาสแทนดีหรือไม่?”รอยยิ้มดุร้ายบนใบห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1041

    ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง มันได้ผลจริง ๆ “หล่างชิ่น ข้าจะยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ให้เจ้าฆ่า รีบมาสิ”หล่างชิ่นจ้องมองด้วยความโกรธ นางกำกริชแน่นอีกครั้ง แล้วยันตัวคลานไปแทงลั่วชิงยวน แต่ยังมิถึงสองก้าว นางก็ถูกความเจ็บปวดที่รุนแรงกว่าเดิมทรมานจนล้มลงกับพื้น ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทรมานสุดขีด“กรี๊ด”“ลั่วชิงยวน เจ้าทำอะไรกับข้า! โอ๊ย!”หล่างชิ่นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ลั่วชิงยวนมองด้วยความเย้ยหยันแล้วคุกเข่าลง“เจ้าอยากฆ่าข้านักมิใช่รึ มาสิ”“ทุกครั้งที่เจ้าคิดจะฆ่าข้า จะทำให้เจ้าปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิดเลยใช่หรือไม่?”“เช่นนั้นเจ้ายังจะอยากฆ่าข้าอยู่อีกหรือ?”ดวงตาของหล่างชิ่นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่นางมิสามารถจับกริชให้แน่นได้ด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดทำให้เล็บของนางจิกลงบนพื้นจนเป็นหลุมลึก“ลั่วชิงยวน! เจ้าฆ่าข้าสิ! ฆ่าข้า!” หล่างชิ่นคำรามด้วยความโกรธแค้นลั่วชิงยวนหัวเราะเบาๆ “ข้ามิฆ่าเจ้าหรอก”“ข้าจะช่วยเจ้าให้เจ้ามีชีวิตอยู่ ให้เจ้าได้เห็นคนที่เจ้าเกลียดที่สุดอยู่ตรงหน้า แต่เจ้าจะไม่มีทางฆ่าคนคนนั้นได้ตลอดไป”ลั่วชิงยวนอยากจะลองใช้หล่างชิ่นเป็นหนูทดลอง เพื่อดูว่าจะหาทางช่วยฟ

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status