แชร์

บทที่ 871

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-01 18:00:00
ไม่รู้เพราะอะไร หญิงสาวคนนี้ รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่มาก กระทั่งเรียกได้ว่าเล็กเลยด้วยซ้ำ

แต่ตอนที่เห็นนางปรากฏตัว

อิงเซ่าจึงโล่งอกขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ราวกับว่าทั้งตัวผ่อนคลายลงมาแล้ว

เบ้าตาซือคงเซี่ยนก็แดงรื้น พูดอะไรไม่ออก ทำได้แค่ใช้ดวงตาที่ลึกซึ้งจ้องเขม็งไปที่จั๋วซือหรานเท่านั้น

จั๋วซือหรานเดินเข้าด้านใน ตอนที่เดินผ่านข้างตัวซือคงเซี่ยน ก็ถูกเขายื่นมือเข้ามาจับกะทันหัน

"อื๋อ?" จั๋วซือหรานหรุบตามองมือที่ถูกซือคงเซี่ยนกุมไว้ สายตามองไปทางซือคงเซี่ยนด้วยความสงสัย

ซือคงเซี่ยนเบ้าตาแดงรื้น ริมฝีปากสั่นระริก หลังจากเขาสูดลมหายใจลึก ก็ค่อยๆ เอยขึ้นว่า "เจ้ามาช่วยข้าอีกแล้ว..."

นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งที่แล้วตนเองถูกซือคงอวี้จับกุม ตอนที่ร่างกายบาดเจ็บหนัก ก็เป็นจั๋วซือหรานที่ช่วยชีวิตเขาออกมา

พอได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็ยิ้มตาโค้ง "ใช่เลย ช่วยชีวิตเจ้าไว้สองครั้งแล้ว จำไว้ด้วยล่ะ"

"สลักไว้ในใจมาตลอด ไม่มีทางลืม" เสียงซือคงเซี่ยนเป็นเสียงในจมูกทุ้มต่ำ มีอาการสั่นระริกเล็กน้อย

จั๋วซือหรานเหล่มองเขาผาดหนึ่ง "เช่นนั้นครั้งต่อไปก็อย่าถอดใจง่ายแบบนี้ ข้าช่วยชีวิตคนมันก็ไม่ใช่เรื่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 872

    ถึงแม้สภาพเขาจะดูขมุกขมอม แต่ดวงตากลับมีประกายที่พูดออกมาไม่ได้ ดวงตาเปล่งประกายอย่างตื่นเต้นมีชีวิตชีวา"คนของชินอ๋องอวี้ด้านนอกเหล่านั้น ใกล้จะทานรับไม่ไหวแล้วขอรับ!" ทหารราบรายงานสายตาซือคงเซี่ยนกับอิงเซ่ามองไปทางจั๋วซือหรานอิงเซ่าถามขึ้น "แม่นางจิ่ว เสียงลั่นฟ้าสะเทือนดินก่อนหน้านั่น...""อา ของข้าเอง" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นมา สีหน้านางค่อนข้างเย็นชา "ภาพที่หน้าประตูข้าเห็นแล้วโมโหหน่อยๆ เลยจัดให้พวกเขาไปหน่อย"จำนวนระเบิดมือที่อยู่ในมิติของนางมีไม่มากนัก แต่ว่าเจ้าของอย่างดินปืนเองก็ไม่ได้ทำยากเท่าไรหลังจากนี้ถ้ามีเวลา นางก็จะทำออกมาเสียหน่อยดังนั้นนางจึงไม่ได้ประหยัดเท่าไร หยิบออกมาหลายลูก ขี่สัตว์อสูรปีก แล้วโยนลงไปจากบนหัวพวกเขานี่มันเรียกอะไรนะ...จั๋วซือหรานคิดอย่างละเอียด น่าจะเป็นการทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศกระมัง?อดพูดไม่ได้ ว่าอำนาจเหนือท้องฟ้านี่ถือว่ามีประโยชน์มากอิงเซ่ากับซือคงเซี่ยนฟังนางบรรยายออกมาสบายๆแต่พอเห็นสายตาที่ดีใจของทหารราบที่เข้ามารายงาน เรื่องนี้น่าจะไม่ได้ดูสบายๆ อย่างที่นางบรรยายมาแน่เพียงแต่จากที่นางเห็น ก็ดูว่าไม่น่าจะเร่งด่วนเท่าไรแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 873

    เสียงครวญคราง เสียงตะโกน เสียงอ้อนวอนชั่วขณะหนึ่ง เสียงเหล่านี้ดังขึ้นไม่ขาดหูที่ประตูเมือง"ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย! ข้ายังไม่อยากตาย!"มีองครักษ์ชินอ๋องอวี้คนหนึ่งถูกระเบิดจนขาขาดทั้งสองข้าง นอนกระเสือกกระสนอยู่บนพื้น นิ้วกำลึกลงไปในดินคำรามแผดเสียงจนตาแทบแตกอาการบาดเจ็บเช่นนี้ของเขา คนรอบๆ ล้วนส่ายหัวกันหมดคิดว่าบาดแผลเขาเช่นนี้ เกรงว่าคงจะมีแค่แม่นางจั๋วจิ่วที่งดงามความสามารถน่าตกตะลึงคนนั้นเท่านั้น ถึงจะสามารถรักษาได้แต่ว่า คนที่สร้างแบดแผลนี้ให้แก่เขา ก็คือแม่นางจั๋วจิ่วที่งดงามความสามารถน่าตกตะลึงคนนั้นและมีทหารราบของค่ายป้องกันลาดตระเวนมองออกแล้ว ว่าคนนี้สังหารทหารราบของพวกเขาไปพอสมควร กระทั่งยังเป็นหนึ่งในองครักษ์ชินอ๋องอวี้ที่นำศพของพวกเขาไปแขวนไว้บนคานประตูด้วยดังนั้นต่อให้เขาตอนนี้จะร้องอย่างน่าเวทนาเพียงใด จากที่พวกเขาเห็นมันก็สมควรแล้ว สาแก่ใจ กรรมตามทันไม่มีความเห็นใจใดๆ ทั้งสิ้นยังมีคนส่วนหนึ่ง ที่มีอาการบาดเจ็บจากระเบิดอยู่ระดับหนึ่งและเหล่าทหารจากฝ่ายต่างๆ ที่ติดตามจั๋วซือหรานมาด้วยกัน ก็จัดการสถานการณ์ยุ่งเหยิง ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้วดังนั้นตอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 874

    "ไม่ต้องให้ท่านลำบากใจหรอก" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ข้าจัดการเอง"เสียงนางยังไม่ทันขาด กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนมือนางที่นี่เงียบลงเป็นเป่าสากไม่ว่าจะคนจากค่ายป้องกันลาดตระเวน หรือว่าคนที่ชินอ๋องอวี้ส่งมา ชั่วขณะหนึ่ง ก็เงียบกันไปหมดสายตาคนทั้งหมดหยุดอยู่บนตัวนางทุกคนล้วนเห็นรอยยิ้มบนมุมปากนางรอยยิ้มที่สวยสด เข้ากับใบหน้างามงด สมบูรณ์แบบจริงๆ!แต่ว่ารอยยิ้มที่งดงามนี้ กลับเต็มไปด้วยความกระหายเลือดเจ้าพวกที่พูดปาวๆ ว่าตนเองเป็นคนของตระกูลใหญ่ก่อนหน้านี้ ไม่ยอมรับการตัดสินจากอำนาจของราชวงศ์ตอนนี้เองก็นิ่งเงียบไปหมดเช่นกัน เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึง...อันตรายที่น่ากลัวอย่างมากจั๋วซือหรานถือดาบยาวอยู่อย่างนั้น ค่อยๆ เดินตรงไปหาพวกเขาเขาเดินผ่านกลุ่มคน กลุ่มคนก็ทยอยกันเปิดทางให้นางหนังตาบางของจั๋วซือหรานเลิกขึ้น ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นใดเหลืออยู่อีก ยิ้มขึ้นอย่างกระหายเลือดและทุกคนก็เห็นริมฝีปากแดงขยับเบาๆ ราวกับกำลังพึมพำอะไร แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน บางทีอาจจะไม่มีใครฟังออกก็ได้นางบ่นขึ้นว่า "ข้าหลับไปสามวัน งานที่ต้องทำก็ไม่ได้ทำ เอาพวกเจ้ามาชดเชยหน่อยแล้วก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 875

    หลังจากเห็นจั๋วซือหรานพูดคำนี้จบ ก็เดินมาข้างศพศัตรูที่ล้มอยู่บนพื้นร่างหนึ่ง ดาบยาวในมือก็ลากเฉียดไปบนร่างเขาทุกคนคิดว่า จั๋วซือหรานน่าจะรังเกียจที่ดาบของตนเองเปื้อนเลือด ดังนั้นจึงจึงใช้เสื้อผ้าศัตรูมาเช็ดคราบเลือดให้สะอาดแต่จั๋วซือหรานกลับใช้ปลายดาบเปิดเสื้อผ้าของเขาออกดาบยาวเล่มเรียวอยู่ในมือนาง คล่องแคล่วว่งไวราวกับเป็นมืออีกข้างของนางอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานใช้ปลายดาบเปิดเสื้อผ้าคนผู้นี้ออก จากนั้นปลายดาบก็ยกตราหนึ่งขึ้นมาจากตัวเขา"นี่คือ...ตราขององครักษ์ชินอ๋องอวี้หรือ?" อิงเซ่าเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ในมือข้ามีอยู่ส่วนหนึ่ง จากนั้นที่นี่ก็น่าจะหามาได้ไม่น้อยเลย"ซือคงเซี่ยนตาเป็นประกายอยู่ข้างๆ น่าจะเดาได้ถึงความคิดของจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าคิดจะไปหลอกพวกเขาใช่ไหม?"จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง ปลายดาบยกตรานี่ขึ้นมา ใช้นิ้วสองนิ้วบีบเอาไว้ ตอบว่า "ซือคงอวี้ยังหากองหนุนจากภายนอก แล้วจะไม่ให้ข้าไปตบตาเขาได้หรือ..."อิงเซ่าเข้าใจความหมายในคำพูดซือคงอวี้กับความคิดของจั๋วซือหรานแล้ว กวักมือเรียกทหารใต้บัญชามาแล้วกำชับออกไป"ไปหาตราจวนชินอ๋องอวี้จากบนตัวพวกเขาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 876

    สถานการณ์ที่ประตูค่ายเป็นอย่างไร จั๋วซือหรานก็ขี้เกียจจะไปยุ่งแล้วนางเข้าไปในค่ายทหารน่าจะเพราะอิงเซ่ากำชับเอาไว้แล้ว เหล่าหัวกะทิของค่ายป้องกันลาดตระเวนจึงมารอกันอยู่ที่ลานฝึกยุทธ์พอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา แต่ละคนก็สายตาเป็นประกายจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "พวกเรากระตือรือล้นขนาดนี้เชียว""ขออุทิศชีวิตแด่แม่นางจิ่ว"เหล่าหัวกะทิทยอยกันตะโกนออกมาซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้างๆ ตอนที่มองไปทางจั๋วซือหราน สายตาก็มีแววทอดถอนใจขึ้นมาเขารออยู่ที่ค่ายป้องกันลาดตระเวนพักหนึ่ง ดังนั้นสำหรับความศรัทธาต่อจั๋วซือหรานของเหล่าทหารนั้นจึงชัดเจนอย่างมากตอนนั้นถ้าหากนางไม่บุกเดี่ยวเข้ามา สถานการณ์พิษกู่เมื่อตอนนั้น ต่อให้อิงเซ่าจะรับมือกับควบคุมได้ทันท่วงทีแต่เรื่องที่ค่ายป้องกันลาดตระเวนจะกลายเป็นนรกบนดินก็อยู่ที่ช้าหรือเร็วเท่านั้นแล้วนางช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ช่วยไว้ทั้งค่ายป้องกันลาดตระเวนทหารราบเหล่านี้ ความศรัทธานับถือต่อจั๋วซือหราน ไม่ได้น้อยไปกว่าอิงเซ่าเลยแม้แต่น้อยสามารถอุทิศชีวิตให้จั๋วซือหรานได้ สามารถติดตามนางไปแก้ไขสถานการณ์ลำบากของค่ายคุ้มกันนอกเมืองได้ พวกเขาต่อให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 877

    จั๋วซือหรานหลังจากได้ยิน ก็หัวเราะขึ้นมาทันทีพอเทียบกับตอนที่ไม่ได้แปลงโฉม สภาพที่เวลานางยิ้มแล้วงดงามล่มเมืองแบบนั้นตอนนี้พอนางยิ้มขึ้นมา มีความสดใสที่เข้มแข็ง เฉลียวฉลาดอย่างเปิดเผย"ถึงอย่างไร...ถ้าคิดจะแต่งให้สวยก็ยากมาก แต่ถ้าคิดจะแต่งให้น่าเกลียดหน่อยคือง่ายแสนง่าย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคำพูดนี้ ถ้าคนอื่นมาพูด เกรงว่าคงทำให้คนรู้สึกว่า...หน้าใหญ่เหลือเกินถึงกล้าพูดเช่นนี้แต่ก็มีแค่คุณหนูจั๋วจิ่วคนนี้เท่านั้น ที่พูดคำพูดนี้ออกมาแล้วไม่ทำให้คนรู้สึกแย่กระทั่งยังทำให้คนรู้สึกว่าคำพูดนี้เป็นเรื่องจริงด้วย"แม่นางจิ่วพูดมาถูกต้องอย่างที่สุด" รองแม่ทัพรีบประสานมือเอ่ยขึ้น "แม่นางจิ่ว ข้าเลือกคนเรียบร้อย อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว"จั๋วซือหรานพยักหน้าส่งตราออกไป "ให้พวกเขาพกไว้คนละชิ้น""ขอรับ!" รองแม่ทัพขานรับคำหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ "แม่นางจิ่ว พวกเขาไม่ได้สวมชุดของจวนชินอ๋องอวี้ ไม่เป็นไรหรือ?"ก่อนหน้านี้รองแม่ทัพพิจารณาถึงปัญหานี้แล้ว แต่เขารู้สึกว่า แม่นางจิ่วคิดอะไรรอบคอบ ในเมื่อนางกล้าทำเช่นนี้ แน่นอนว่านางจะต้องมีเหตุผลที่มั่นใจจั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 878

    ถ้าจะเล่น ก็ต้องเล่นให้ใหญ่หน่อยรองแม่ทัพรู้สึกเหมือนจิตสังหารบนตัวแม่นางจิ่ว ราวกับเป็นของจริงขึ้นมา!ต่อให้อยู่ข้างๆ นาง ก็เหมือนถูกจิตสังหารอันคมกริบนี้ทิ่มแทงเข้ามาแล้ว!ไม่นานนัก ค่ายคุ้มกันก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว!ค่ายคุ้มกันที่แม่ทัพฮ่าวฉีบัญชาการ เป็นจุดเหมาะสมที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายสิบลี้ ด้านหน้าค่ายเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ด้านหลังติดกับหน้าผาสูงชั้นที่ล้อมด้วยป่าหนาทึบยิ่งไปกว่านั้นในค่ายใหญ่ยังสร้างกำแพงสูง บนกำแพงสูงทุกระยะยี่สิบสามสิบเมตรก็จะมีหอธนูอยู่หอหนึ่งพูดได้ว่าป้องกันง่ายโจมตียากตอนนี้ ประตูค่ายมีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่คนเหล่านี้ล้วนแขวนป้ายจวนชินอ๋องอวี้ไว้ แต่เสื้อผ้านั้นแตกต่างกัน ดูยุ่งเหยิงไปหมดยิ่งไปกว่นั้นยังมองออกไม่ยาก ว่าหน้าตากับบุคลิกคนเหล่านี้...ไม่ใช่คนแคว้นชางทั้งหมดมีคนที่ถักเปียเล็กบนหัว ผิวค่อนข้างคล้ำ ดวงตาลึกซึ้ง มีความเป็นคนต่างแดนมากมีคนที่ผิวขาว ดวงตาดูลึกลับ กระทั่งสีของตาดำยังหลากหลายสีสันอาวุธในมือเองก็มากมายหลายแบบ ดาบหอกกระบองขวานแส้ยาว...มีมันทุกอย่างสำเนียงการพูดก็มีความเป็นต่างแดน หางเสียงยกสูงกดต่ำแตกต่างกันยิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 879

    ฟันของรองแม่ทัพกัดแน่นจนมีเสียง!มือข้างหนึ่งถือกล้องสองทางไกลไว้แน่น จนแทบจะบีบมันจนพัง"ไอ้พวก...เดรัจฉาน!"ต่อให้รู้ว่าชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติของสงคราม แต่พอได้เห็นฉากเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกอึดอัดในใจ มันเดือดดาล!คนอื่นไม่เห็นภาพที่จั๋วซือหรานกับรองแม่ทัพเห็นแต่ก็ถูกอารมณ์ของรองแม่ทัพระบาดไปแล้วรีบร้อนถามขึ้นว่า "ท่านรองแม่ทัพ ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"แม้จะได้ยินจั๋วซือหรานพูดว่าตั้งคานประตูขึ้นมาแล้ว จากสถานการณ์ที่ประตูค่ายป้องกันลาดตระเวนก่อนหน้านี้ ก็พอจะเดาได้ ว่าสถานการณ์ทางนั้นจะต้องไม่ได้ใช่ภาพที่น่าดูแน่นอน"พวกเขาตั้งคานประตูด้วยหรือ? ที่ค่ายคุ้มกันเนี่ยนะ? เจ้าพวกเดรัจฉาน..." มีทหารหัวกะทิคนอื่นๆ ก่นด่าตามขึ้นมาแล้วรองแม่ทัพกัดฟันเอ่ยว่า "น่าเวทนากว่าสถานการณ์ประตูค่ายของพวกเราเสียอีก พวกเขาทางนี้...แขวนหัวคนขึ้นไป!"ตอนที่รองแม่ทัพพูดออกมา น้ำเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันนั่น ก็ราวกับอยากจะดื่มเลือดของอีกฝ่าย กินเนื้อของอีกฝ่ายเสียให้ได้อย่างนั้น"คนที่ตายไปในค่ายคุ้มกัน...มากกว่าในค่ายพวกเรามาก" รองแม่ทัพกัดฟันพูดจั๋วซือหรานพูดขึ้นข้างๆ "แน่นอน พวกต่างแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 886

    แต่พอพูดขึ้นมาจริงๆ นางเองก็เป็นพวกที่ชอบลองผิดลองถูกเหมือนกันสำหรับวิชาและความรู้บางส่วนที่อยู่เหนือระบบของวิชาควบคุมสัตว์ของโลกนี้ดังนั้นถึงได้ใช้เวลาช่วงที่ว่า พูดคุยกับซางถิงขึ้นมาจึงลองเอ่ยถามจากปากของซางถิงดู เกี่ยวกับความรู้ที่อยุ่เหนือวิชาควบคุมสัตว์ซางถิงบอกนางว่า ถ้าต้องพูดขึ้นมาจริงๆ อันที่จริงวิชาควบคุมสัตว์ของแดนใต้ ชนะต้าชางไปไกลเลยดังนั้นวิชาควบคุมสัตว์ของตระกูลซางในต้าชางนี้ยังพอถูไถ แต่ถ้าอยู่ที่แดนใต้ล่ะก็ ตระกูลซางของพวกเขาหากคิดจะใช้วิชาควบคุมสัตว์ขึ้นเป็นที่หนึ่งของเมือง เกรงว่าคงจะยากมากจั๋วซือหรานเองก็รู้ได้จากในคำพูดของซางถิง ว่าคนแดนใต้เหล่านั้นน่าจะเพราะพรสวรรค์แตกต่างกัน พรสวรรค์ในด้านควบคุมสัตว์ ดีกว่าคนของต้าชางหน่อยดังนั้นด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเชี่ยวชาญกว่าในวิชากู่ด้วยเช่นกันเพราะแมลงกู่ถึงแม้จะแยกเฉพาะออกมา แต่ด้วยพื้นฐานดั้งเดิม ก็ยังเป็นพวกสัตว์ประหลาดอยู่จั๋วซือหรานรู้สึกว่า ที่ซางถิงพูดมาก็มีเหตุผลอยู่ซางถิงยังบอกว่า นักควบคุมสัตว์แดนใต้ มีทั้งพวกนักควบคุมสัตว์ มีทั้งพวกที่ค้นคว้าจนเป็นปรมาจารย์กู่ และยังมีพวกที่กลายเป็นนักใช้แมลงด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 885

    รองแม่ทัพใจเย็นลงมาหน่อย เอ่ยขึ้นว่า "แต่ว่า...ถ้าหากห่างกันเกินไป ถ้าเราเล็งพลาดก็จะเสียของเปล่า"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ตาก็ยิ้มโค้งขึ้นมา "ไม่เป็นไร รอให้ข้าเริ่มโจมตีพวกเขาก่อน ดึงดูดความสนใจพวกเขาเข้ามา ให้พวกเขาอยู่ในขอบเขตการยิ่งของพวกเขา"รองแม่ทัพฟังน้ำเสียงของแม่นางจั๋วจิ่วแล้ว ก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ที่ตนเองกังวล แม่นางจิ่วนั้นคิดรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้วร่วมมือกับคนเช่นนี้ หรือก็คือ ฟังคำสั่งของคนเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ใจสงบได้มากจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "อีกสักครู่ พวกเราก็ทำกันแบบนี้..."......เวลาลากมาถึงตอนนี้หัวของคนเถื่อนต่างแดนนั่น ระเบิดเละเป็นแตงโมเน่าภายใต้สายตาของทุกคนขาวๆ แดงๆ สาดกระเซ็นไปโดนตัวคนข้างๆคนเหล่านี้ไม่ใช่คนพวกที่ไม่เคยเห็นคนตาย จึงไม่ถึงกับตกใจอะไรนักแต่ความตายกะทันหันนี้ต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาหวาดหวั่นยิ่งไปกว่านั้นในคนเถื่อนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนที่มีความสามารถเป็นเอกลักษณ์อยู่ในนี้มีคนที่เบ้าตาลึกคนหนึ่ง ทำปางมือขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หลับตาลงข้างหนึ่ง แล้วเปิดตาขึ้นอีก!ดวงตาของเขา กลายเป็นตาเหลืองอำพันคมก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 884

    พวกเขาอยากจะตะโกนโห่ร้อง!อยากจะกู่ก้องความน่าเกรงขามของแม่นางจิ่วแต่ตอนนี้ ล้วนทำได้แค่กลั้นเอาไว้ก่อน มีบางคนกลั้นไว้จนหน้าแดงก่ำแล้วด้วย!ทหาที่แบกปืนให้จั๋วซือหรานก่อนหน้า ก็รู้สึกเจ็บเหมือนบ่าแทบฉีก!แต่เพราะก่อนหน้านี้เขาจ้องเขม็งไปทางฝั่งศัตรู แล้วยังต้องรักษาตัวไม่ให้ขยับ ดังนั้นเขาจึงทำให้ตนเองมีสมาธิอยู่ตลอดดังนั้นคนอื่นอาจจะไม่เห็นขั้นตอนทั้งหมดแต่ว่าเขาเห็นแล้ว ปากกระบอกปืนอยู่บนบ่าเขา หูของเขาได้ยินเสียงทึบเสียงนั้นดังกว่าที่คนอื่นได้ยินอยู่พอควร!จากนั้นเขาก็เห็นกับตา ว่าหัวของคนเภื่อนนั่นระเบิกออกมาราวกับลูกแตงโม!พริบตานั้น เขากระทั่งลืมความเจ็บปวดบนไหลตัวเองไป...เลือดทั้งตัวเหมือนถูกเผาไหม้จนเดือดพล่านขึ้นมาแล้ว!นี่มัน...นี่มันถึงใจสุดๆ!ที่พวกเขารู้สึกถึงใจ ก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะพวกเขายิ่งเข้าใกล้ประตูค่ายคุ้มกัน ก็ยิ่งมองเห็นฉากคานประตูหัวมนุษย์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไม่มีใครที่เห็นฉากแบบนี้ แล้วใจจะยังสงบอยู่ได้ พวกเขาใช้พลังทั้งหมดอดกลั้นความโกรธและความชิงชังเอาไว้ดังนั้น ภายใต้อารมณ์เช่นนี้ พอเห็นแตงโตที่ระเบิดเละนั่น จะไม่รู้สึกสะใจได้อย่างไร!ถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 883

    เหล่าคนเถื่อนกลุ่มนี้ที่หน้าประตูค่ายคุ้มกัน ไม่ได้รู้สึกเลยแม้แต่น้อย ว่าในกลุ่มคนที่เข้ามาจากที่ไกลๆ เหล่านั้น...หรือก็คือคนที่พวกเขาคิดว่ามาเป็นพวกองครักษ์ชินอ๋องอวี้ที่มาจากเมืองหลวง เหล่าองครักษ์ที่จัดการแก้ไขสถานการณ์ในเมืองหลวง และจัดการจั๋วซือหรานไปแล้วพวกนั้นด้านในมีร่างอรชนเพรียวบางหนึ่งซ่อนอยู่!เข้าใกล้ประตูค่ายคุ้มกันเข้ามาแล้วรองแม่ทัพตึงเครียดขึ้นมา น้ำเสียงดูไม่ค่อยมั่นคงแล้ว เขาเอ่ยถามจั๋วซือหรานเสียงต่อว่า "แม่นางจิ่ว แบบนี้ไหวแน่หรือ?"จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ "ปัญหาไม่ใหญ่ นี่ ข้าว่าเจ้าคนผิวดำไว้เปียนั่นน่ะ เหมือนจะไม่เลวนักในกลุ่มของพวกเขานะ ที่ยืนอยู่ข้างหน้านั่นน่ะ เอาเขานั่นล่ะ"รองแม่ทัพกลืนน้ำลายเอื๊อก พยักหน้า เขากดเสียงต่ำสั่งออกไป "ทุกคนทั้งหมดเตรียมตัว พอแม่นางจิ่วโจมตี พวกเราทั้งหมดให้หยุดลง รักษาท่าทีระวังภัยไว้!"ทุกคนไม่กล้าส่งเสียงรับคำสั่ง แต่กดเสียงต่ำขานรับทราบออกมาในมือจั๋วซือหรานถือสิ่งดำๆ เล่มหนึ่งไว้ในมือ ทาบลงไปบนบ่าของทหารคนหนึ่งใช้ แผ่นเกราะบ่าของทหารเกราะเบาคนนี้ ช่วยรับแรงกระทกจากเจ้าของสี่ดำนี้ให้จั๋วซือหรานได้พอดีในใจเขาตกต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 882

    แต่ว่า ฉีฮ่าวรู้สึกว่า คนอื่นอาจจะไม่ได้แต่คนของค่ายคุ้มกันอย่างพวกเขาทำได้และเป็นไปตามคาด ตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของฉีฮ่าวเหล่าขุนพลที่ในตายังลังเลก่อนหน้า ก็เหมือนจะวางใจลงมาได้แล้ว"แม่นางจิ่วจะต้องคิดวิธีการออกแน่นอน!""ใช่ แม่นางจิ่วทำได้แน่!"ถ้าหากขุนนางหรือแม่ทัพคนไหนมีชื่อเสียงบารมีขนาดนี้ องค์จักรพรรดิเฒ่าก็คงต้องครั่นคร้ามขึ้นบ้างแต่ว่านี่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยชีวิตเขามาแล้วไม่ว่าอย่างไรเขาก็ครั่นคร้ามขึ้นมาไม่ได้เลยตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีทหารเข้ามารายงาน"รายงานขอรับ!"ทหารส่งสารรีบวิงเข้ามาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง สีหน้าดูเคร่งขรึม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพ! ห่างออกไปด้านนอกมีกองทหารม้ามาอีกกองหนึ่ง กำลังตรงมาทางประตูค่ายคุ้มกัน..."เหล่าขุนพลพอได้ยิน สีหน้าก็ปั้นยากขึ้นมา "มาอีกแล้วหรือ? เป็นพวกคนเถื่อนหรือเปล่า?""ไม่ใช่คนเถื่อนขอรับ" ทหารส่งสารตอบมีขุนพลคนหนึ่งหัวเราะเย็นชาขึ้นมา "เช่นนั้นก็น่าจะเป็นกองหนุนของชินอ๋องอวี้นั่นล่ะ"เพราะข่าวนี้ที่ทหารส่งสารนำเข้ามา เหล่าขุนพลที่กว่าจะมีสีหน้าดีขึ้นมาได้ ก็กลับไปมีแรงกดดันอีกครั้งพอเทียบกับคว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 881

    เหมือนกับตอนในค่ายป้องกันลาดตระเวน ชื่อเสียงของจั๋วซือหราน ใช้การได้เช่นเดียวกับที่ค่ายคุ้มกันยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับตอนที่อยู่ในค่ายป้องกันลาดตระเวน อิงเซ่าตอนนั้นที่ไปช่วยใต้เท้าต่งคัง เนื่องจากตั้งตัวได้เร็ว บวกกับอาณาเขตของค่ายป้องกันลาดตระเวณไม่ใหญ่นักดังนั้นสถานการณ์ตอนนั้น จึงควบคุมได้ค่อนข้างทันท่วงทีแต่ค่ายคุ้มกันตอนนั้น เละเทะไปหมดแล้วทว่าภายใต้สถานการณ์นั้น จั๋วซือหรานก็ยังมาได้ทันท่วงที จัดการควบคุมสถานการณ์เอาไว้จุดนี้ ไม่ว่าจะมองอย่างไร เหล่าขุนพาลค่ายคุ้มกัน ก็ล้วนได้รับบุญคุณของจั๋วซือหรานมามีความเชื่อใจและหวังดีกับนางมากขึ้นพอได้ยินชื่อแม่นางจั๋วจิ่วจากปากของแม่ทัพ เหล่าทหารทุกนายก็จ้องมองตาไม่กระพริบเพียงรอแม่ทัพพูดออกมา ว่าแม่นางจิ่วพูดอะไรกันแน่"แม่นางจิ่วเคยบอกกับข้าว่า ฝ่าบาทกับพระสนมเอกอยู่ในค่ายคุ้มกัน ในปัจจุบันนี้ เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว!"ฉีฮ่าวกดเสียงต่ำ "แม่นางจิ่วนำความปลอดภัยของฝ่าบาทกับพระสนมเอกฝากไว้ที่ค่ายคุ้มกัน เชื่อมั่นในค่ายคุ้มกัน..."พอได้ยินคำนี้ สีหน้าและสายตาของเหล่าทหารก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นมาฉีฮ่าวเอ่ยต่อว่า "แต่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 880

    "กองทหารที่อ่อนแอเช่นนี้ แคว้นแบบนี้ กลับทำให้ดินแดนทางใต้ของพวกเราสยบมาตั้งนานขนาดนี้""พอคิดถึงเรื่องที่แคว้นเราต้องส่งเครื่องบรรณณาการให้กับแคว้นที่อ่อนแอแบบนี้แล้ว มันน่าโมโหเสียจริง!""นี่! ไอ้พวกอ่อนแอแคว้นชาง! เลิกหดหัวอยู่ในกำแพงสูงแล้วออกมาได้แล้ว!""ให้ตายเถอะ! พวกเจ้าไม่ใช่เก่งนักหรือ! รีบออกมาเร็ว ให้พวกข้าได้สังหารทิ้งเสียหน่อย!""ฮ่าๆๆ! ข้าว่าพวกเขาคงจะกลัวกันแล้ว ตายไปตั้งมากขนาดนี้ กลัวตายกันสินะ คงจะกลัวว่าถ้าออกมาอีกคงถูกวพกเราเด็ดหัวไปแขวนคานประตูล่ะสิ!""ต้าชางอะไรกัน! ข้าเห็นแต่ไอ้พวกอ่อนแอกระจุกหนึ่ง เรียกว่าชางขี้ขลาดไปเลยดีกว่า!"คำวิจารณ์ถากถางเช่นนี้ของศัตรูดังขึ้นไม่ขาดหู ลือเข้าไปถึงในค่ายทหาร ลอดเขาไปในหูของทหารที่อยู่บนกำแพงแล้วจึงผ่านการรายงานของเหล่าทหาร ส่งเข้าไปในกระโจมแม่ทัพทุกถ้อยทุกคำหลังจากที่เหล่าแม่ทัพยุทธ์ไ้ดยินคำพูดเหล่านี้ ก็โมโหจนตาแดงก่ำแทบจะควบคุมเลือดที่เดือดพล่านและความโกรธแค้นในอกไม่อยู่ทันที!อาวุธที่ถืออยู่ก็อยากจะเอาออกไปสั่งสอนเจ้าพวกคนเถื่อนเหล่านี้!"ฝ่าบาท! ท่านแม่ทัพ! ข้าขอติดตามไปด้วย! ต่อให้ตายสักพันครั้งก็ไม่เสีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 879

    ฟันของรองแม่ทัพกัดแน่นจนมีเสียง!มือข้างหนึ่งถือกล้องสองทางไกลไว้แน่น จนแทบจะบีบมันจนพัง"ไอ้พวก...เดรัจฉาน!"ต่อให้รู้ว่าชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติของสงคราม แต่พอได้เห็นฉากเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกอึดอัดในใจ มันเดือดดาล!คนอื่นไม่เห็นภาพที่จั๋วซือหรานกับรองแม่ทัพเห็นแต่ก็ถูกอารมณ์ของรองแม่ทัพระบาดไปแล้วรีบร้อนถามขึ้นว่า "ท่านรองแม่ทัพ ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"แม้จะได้ยินจั๋วซือหรานพูดว่าตั้งคานประตูขึ้นมาแล้ว จากสถานการณ์ที่ประตูค่ายป้องกันลาดตระเวนก่อนหน้านี้ ก็พอจะเดาได้ ว่าสถานการณ์ทางนั้นจะต้องไม่ได้ใช่ภาพที่น่าดูแน่นอน"พวกเขาตั้งคานประตูด้วยหรือ? ที่ค่ายคุ้มกันเนี่ยนะ? เจ้าพวกเดรัจฉาน..." มีทหารหัวกะทิคนอื่นๆ ก่นด่าตามขึ้นมาแล้วรองแม่ทัพกัดฟันเอ่ยว่า "น่าเวทนากว่าสถานการณ์ประตูค่ายของพวกเราเสียอีก พวกเขาทางนี้...แขวนหัวคนขึ้นไป!"ตอนที่รองแม่ทัพพูดออกมา น้ำเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันนั่น ก็ราวกับอยากจะดื่มเลือดของอีกฝ่าย กินเนื้อของอีกฝ่ายเสียให้ได้อย่างนั้น"คนที่ตายไปในค่ายคุ้มกัน...มากกว่าในค่ายพวกเรามาก" รองแม่ทัพกัดฟันพูดจั๋วซือหรานพูดขึ้นข้างๆ "แน่นอน พวกต่างแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 878

    ถ้าจะเล่น ก็ต้องเล่นให้ใหญ่หน่อยรองแม่ทัพรู้สึกเหมือนจิตสังหารบนตัวแม่นางจิ่ว ราวกับเป็นของจริงขึ้นมา!ต่อให้อยู่ข้างๆ นาง ก็เหมือนถูกจิตสังหารอันคมกริบนี้ทิ่มแทงเข้ามาแล้ว!ไม่นานนัก ค่ายคุ้มกันก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว!ค่ายคุ้มกันที่แม่ทัพฮ่าวฉีบัญชาการ เป็นจุดเหมาะสมที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายสิบลี้ ด้านหน้าค่ายเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ด้านหลังติดกับหน้าผาสูงชั้นที่ล้อมด้วยป่าหนาทึบยิ่งไปกว่านั้นในค่ายใหญ่ยังสร้างกำแพงสูง บนกำแพงสูงทุกระยะยี่สิบสามสิบเมตรก็จะมีหอธนูอยู่หอหนึ่งพูดได้ว่าป้องกันง่ายโจมตียากตอนนี้ ประตูค่ายมีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่คนเหล่านี้ล้วนแขวนป้ายจวนชินอ๋องอวี้ไว้ แต่เสื้อผ้านั้นแตกต่างกัน ดูยุ่งเหยิงไปหมดยิ่งไปกว่นั้นยังมองออกไม่ยาก ว่าหน้าตากับบุคลิกคนเหล่านี้...ไม่ใช่คนแคว้นชางทั้งหมดมีคนที่ถักเปียเล็กบนหัว ผิวค่อนข้างคล้ำ ดวงตาลึกซึ้ง มีความเป็นคนต่างแดนมากมีคนที่ผิวขาว ดวงตาดูลึกลับ กระทั่งสีของตาดำยังหลากหลายสีสันอาวุธในมือเองก็มากมายหลายแบบ ดาบหอกกระบองขวานแส้ยาว...มีมันทุกอย่างสำเนียงการพูดก็มีความเป็นต่างแดน หางเสียงยกสูงกดต่ำแตกต่างกันยิ่ง

DMCA.com Protection Status