แชร์

บทที่ 709

ผู้แต่ง: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 18:00:14
จั๋วซือหรานเดินไปทางเวที

แม้จะบอกว่าอยู่ในห้องเตรียมตัว ก็ญังสามารถได้ยินเสียงเอะอะภายนอกได้

ตอนนี้พอเดินออกมา คลื่นเสียงที่โถมเข้ามาก็ยิ่งเพิ่มความสั่นสะเทือนขึ้นไปอีก

เสียงโหร้อง เสียงก่นด่าของผู้คน เสียงตะโกนลงเดิมพัน และยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ล้วนดังขึ้นไม่หยุดหย่อน

อินเจ๋ออันยืนอยู่ริมเวที สีหน้ายังคงปั้นยากอยู่

สายตาของเขาจ้องมองจั๋วซือหรานอย่างสงสัยระแวดระวัง

สองมือจั๋วซือหรานยังกดอยู่ที่หน้าอก เส้นผมหลังหัวรวบสูงเป็นช่อ กลางหลังสะพายดาบคู่

อินเจ๋ออันจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ในใจคิด ไม่ว่านางจะมีแผนร้ายอะไร ถึงอย่างไรก็มาถึงที่นี่แล้ว พอขี่หลังเสือแล้วมันลงยากก็คงต้องไปต่อ

ยิ่งไปกว่านั้น ซางถิงเองก็ไม่ใช่พวกรับมือง่ายด้วย

เสียงระฆังดังขึ้น

ทั้งสองคนขึ้นเวทีอีกครั้ง จั๋วซือหรานมองคู่มืออีกด้านของเวที

ดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นของอีกฝ่าย ก็กระพริบปริบๆ มองนาง

การทดสอบยกที่สองเริ่มขึ้น

ซางถึงตอนนี้ไม่ได้ใช้เสือเขี้ยวดาบเมื่อครู่ต่อแล้ว

บนอัฒจันทร์คนดูมีแขกไม่น้อยไม่ค่อยเข้าใจ

“เมื่อครู่ใช้เสือเขี้ยวดาบก็ไม่ใช่ว่าชนะมาได้หรือ? ทำไมไม่ใช้ต่อ?!”

“นั่นสิ! เสื้อเขี้ยวดาบเมื่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 710

    หนึ่งคือสัญลักษณ์ของตระกูลซาง อีกหนึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปอีกา (เชวี่ย)แสดงถึงตัวตนฐานะของนาง ว่าคือซางเชวี่ยคุณหนูสี่แห่งตระกูลซางคนรับใช้ข้างๆ นอบน้อมกับนางอย่างมาก“คุณหนู ท่านว่าไหม?” คนรับใช้เอ่ยขึ้น “แม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ แต่ว่าเป็นสายเลือดตระกูลซางจริงๆ ทว่า จากการควบคุมสัตว์ของเขา ดูไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย เสือเขี้ยวดาบแม้จะไม่ค่อยพบเห็นแต่ก็ไม่ได้มหัศจรรย์ขนาดนั้น นากเขาพิษยังกลับดูพิเศษขึ้นหน่อย”“ข้ารู้สึกว่า...” เสียงของหญิงสาวแจ่มชัดกังวาล แต่เส้นเสียงดูเย็นชาหน่อยๆ “สองคนนี้ยังไม่สู้กันจริงจังเลย”“ไม่จริงจัง?” คนรับใช้ไม่เข้าใจ “จั๋วซือหรานแม้ช่วงนี้จะถูกลือกันอย่างกับเป็นเทพเจ้า แต่จะอย่างไรก็ยังเป็นแค่แพทย์เท่านั้น แพทย์จะมีทักษะต่อสู้ได้แค่ไหนกัน...เมื่อครู่นางก็เอาแต่หนีนี่นา”หญิงสาวพอได้ยินก็หัวเราะขึ้นเบาๆ “เจ้าไม่เข้าใจ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนี้แล้วจะหาเงินได้อย่างไรกัน?”คนรับใช้ไม่เข้าใจ “หาเงิน?”แต่ซางเชวี่ยกลับไม่คิดจะพูดอะไรมาก ทำเพียงจดจ้องสถานการณ์ที่เวทีด้านล่างเท่านั้นจั๋วจิ่วคนนั้นยังไม่สู้จริงจัง นางเองก็ไม่ใช่จะไม่เข้าใจ แค่จากการเปลี่ยนแปลงขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 711

    ฝูซูกับเฮยหลิงอยู่ระหว่างทางขึ้นไปห้องหรูบนหอ ก็ได้ยินเสียงโหร้องกึกก้องขึ้นมาจากอัฒจันทร์คนดูตอนที่พวกเขาเข้าไปในห้องหรู ก็เห็นเฟิงหร่านคุณหนูสิบตระกูลเฟิงเข้าสภาพในตอนนี้ ไม่สนใจว่าเป็นหญิงสาวชั้นสูง หรือว่าจะเป็นคุณหนู หรือกระทั่งเป็นสตรีอ่อนหวานอีกแล้วนางยืนอยู่บนเก้าอี้ สายตาจ้องมองเวทีประลองเป็นประกายสองมือกำหมัดแน่น ดูจดจ่อเอามากๆฝูซูรีบถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้างเป็นอย่างไรบ้าง? สู้เสร็จแล้วหรือยัง? คุณหนูชนะไหม?”ตาของเฟิงหร่านยังไม่ย้ายไปไหน ยังคงจับจ้องที่เบื้องล่างไม่วางตา แต่ตอบฝูซูกลับมาเสียงต่ำ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความทึ่ง “ยังไม่จบ แต่คุณหนูจั๋ว...นางร้ายกาจมาก!”ฝูซูรีบเดินไปมองสถานการณ์บนเวทีประลองสภาพของเจี่ยงเทียนซิงดูหนักแน่นกว่าเฟิงหร่านพอควร จึงเล่าสถานการณ์ที่พวกเขาพลาดไปตอนไปลงเดิมพันออกมารอบหนึ่งที่แท้ พวกเขาก็พุ่งกันไปลงเดิมพันจั๋วซือหรานพอส่งสัญญาณเสร็จ ก็ไม่คิดจะทำเป็นอ่อนแอในการต่อสู้แล้วภายใต้การจับตาของทุกคน บาดแผลเหล่านั้นบนตัวนาง ก็เริ่มฟื้นตัวกลับอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่าและการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าเหมือนนางโดนผลกระทบความเป็นพิษจากนาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 712

    ถามขึ้นว่า “ตาข้าแล้วหรือยัง?”สายตาของซางถิงจ้องนางเขม็ง เขากุมมือในแส้แน่น สะบัดข้อมือแส้ยาวในมือดีดตึง ปลายแหลมสะบัดไปทางจั๋วซือหราน“วูม...!” เสียงผ่าอากาศดังขึ้นจากนั้นแส้ก็ส่งเสียงเผียะขึ้นกลางอากาศ ราวกับตัดอากาศจนขาดเป็นท่อนอย่างไรอย่างนั้นและร่างของจั๋วซือหรานก็ไหววูบ ดูแล้วไม่มีอาการซมซานหรือโซซัดโซเซตอนที่หลบหลีกก่อนหน้านี้เลยความเร็วการเคลื่อนไหวของนางสูงมาก แต่ในสายตาของทุกคน กลับดูเชื่องช้าความรู้สึกแตกต่างระหว่างความเร็วและช้าที่สลับไปมานี้ ทำให้คนรู้สึกเริ่มปวดตาขึ้นมาทุกคนเห็นเห็นว่านางอยู่ต่อหน้าต่อตาชัดๆ นางเพียงแค่ก้าวอย่างสงบไม่กี่ก้าวราวกับเดินเล่นในสวนหลังบ้านเท่านั้นกระทั่งความตึงเครียดสักนิดก็ไม่มีแต่การโจมตีของแส้ที่น่าตกตะลึงนั่น ก็ถูกนางเบี่ยงหลบไปได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ถูกกระทั่งชายเสื้อของนางด้วยซ้ำ!ส่วนการโจมตีจากแส้ของซางถิงก็ยังไม่หยุด กระหน่ำเข้ามาราวกับห่าฝน เหมือนไม่ต้องการให้มีเวลาหยุดพักทั้งที่ซัดแส้ออกไปแท้ๆ มันควรจะมีช่วงจังหวะที่ค้างกลางอากาศกับจังหวะดึงแส้กลับมารวมพลังตวัดออกไปอีกจึงจะถูกแต่นั่นแทบจะไม่มีเลยการโจมตีแส้ของซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 2

    ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 3

    แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 4

    น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมากใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมายเฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิมทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันทีแต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาแต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง"อ๊าก ๆ——!“ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัวสายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้นหากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมาในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 5

    ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพเฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้*จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 712

    ถามขึ้นว่า “ตาข้าแล้วหรือยัง?”สายตาของซางถิงจ้องนางเขม็ง เขากุมมือในแส้แน่น สะบัดข้อมือแส้ยาวในมือดีดตึง ปลายแหลมสะบัดไปทางจั๋วซือหราน“วูม...!” เสียงผ่าอากาศดังขึ้นจากนั้นแส้ก็ส่งเสียงเผียะขึ้นกลางอากาศ ราวกับตัดอากาศจนขาดเป็นท่อนอย่างไรอย่างนั้นและร่างของจั๋วซือหรานก็ไหววูบ ดูแล้วไม่มีอาการซมซานหรือโซซัดโซเซตอนที่หลบหลีกก่อนหน้านี้เลยความเร็วการเคลื่อนไหวของนางสูงมาก แต่ในสายตาของทุกคน กลับดูเชื่องช้าความรู้สึกแตกต่างระหว่างความเร็วและช้าที่สลับไปมานี้ ทำให้คนรู้สึกเริ่มปวดตาขึ้นมาทุกคนเห็นเห็นว่านางอยู่ต่อหน้าต่อตาชัดๆ นางเพียงแค่ก้าวอย่างสงบไม่กี่ก้าวราวกับเดินเล่นในสวนหลังบ้านเท่านั้นกระทั่งความตึงเครียดสักนิดก็ไม่มีแต่การโจมตีของแส้ที่น่าตกตะลึงนั่น ก็ถูกนางเบี่ยงหลบไปได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ถูกกระทั่งชายเสื้อของนางด้วยซ้ำ!ส่วนการโจมตีจากแส้ของซางถิงก็ยังไม่หยุด กระหน่ำเข้ามาราวกับห่าฝน เหมือนไม่ต้องการให้มีเวลาหยุดพักทั้งที่ซัดแส้ออกไปแท้ๆ มันควรจะมีช่วงจังหวะที่ค้างกลางอากาศกับจังหวะดึงแส้กลับมารวมพลังตวัดออกไปอีกจึงจะถูกแต่นั่นแทบจะไม่มีเลยการโจมตีแส้ของซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 711

    ฝูซูกับเฮยหลิงอยู่ระหว่างทางขึ้นไปห้องหรูบนหอ ก็ได้ยินเสียงโหร้องกึกก้องขึ้นมาจากอัฒจันทร์คนดูตอนที่พวกเขาเข้าไปในห้องหรู ก็เห็นเฟิงหร่านคุณหนูสิบตระกูลเฟิงเข้าสภาพในตอนนี้ ไม่สนใจว่าเป็นหญิงสาวชั้นสูง หรือว่าจะเป็นคุณหนู หรือกระทั่งเป็นสตรีอ่อนหวานอีกแล้วนางยืนอยู่บนเก้าอี้ สายตาจ้องมองเวทีประลองเป็นประกายสองมือกำหมัดแน่น ดูจดจ่อเอามากๆฝูซูรีบถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้างเป็นอย่างไรบ้าง? สู้เสร็จแล้วหรือยัง? คุณหนูชนะไหม?”ตาของเฟิงหร่านยังไม่ย้ายไปไหน ยังคงจับจ้องที่เบื้องล่างไม่วางตา แต่ตอบฝูซูกลับมาเสียงต่ำ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความทึ่ง “ยังไม่จบ แต่คุณหนูจั๋ว...นางร้ายกาจมาก!”ฝูซูรีบเดินไปมองสถานการณ์บนเวทีประลองสภาพของเจี่ยงเทียนซิงดูหนักแน่นกว่าเฟิงหร่านพอควร จึงเล่าสถานการณ์ที่พวกเขาพลาดไปตอนไปลงเดิมพันออกมารอบหนึ่งที่แท้ พวกเขาก็พุ่งกันไปลงเดิมพันจั๋วซือหรานพอส่งสัญญาณเสร็จ ก็ไม่คิดจะทำเป็นอ่อนแอในการต่อสู้แล้วภายใต้การจับตาของทุกคน บาดแผลเหล่านั้นบนตัวนาง ก็เริ่มฟื้นตัวกลับอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่าและการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าเหมือนนางโดนผลกระทบความเป็นพิษจากนาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 710

    หนึ่งคือสัญลักษณ์ของตระกูลซาง อีกหนึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปอีกา (เชวี่ย)แสดงถึงตัวตนฐานะของนาง ว่าคือซางเชวี่ยคุณหนูสี่แห่งตระกูลซางคนรับใช้ข้างๆ นอบน้อมกับนางอย่างมาก“คุณหนู ท่านว่าไหม?” คนรับใช้เอ่ยขึ้น “แม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ แต่ว่าเป็นสายเลือดตระกูลซางจริงๆ ทว่า จากการควบคุมสัตว์ของเขา ดูไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย เสือเขี้ยวดาบแม้จะไม่ค่อยพบเห็นแต่ก็ไม่ได้มหัศจรรย์ขนาดนั้น นากเขาพิษยังกลับดูพิเศษขึ้นหน่อย”“ข้ารู้สึกว่า...” เสียงของหญิงสาวแจ่มชัดกังวาล แต่เส้นเสียงดูเย็นชาหน่อยๆ “สองคนนี้ยังไม่สู้กันจริงจังเลย”“ไม่จริงจัง?” คนรับใช้ไม่เข้าใจ “จั๋วซือหรานแม้ช่วงนี้จะถูกลือกันอย่างกับเป็นเทพเจ้า แต่จะอย่างไรก็ยังเป็นแค่แพทย์เท่านั้น แพทย์จะมีทักษะต่อสู้ได้แค่ไหนกัน...เมื่อครู่นางก็เอาแต่หนีนี่นา”หญิงสาวพอได้ยินก็หัวเราะขึ้นเบาๆ “เจ้าไม่เข้าใจ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนี้แล้วจะหาเงินได้อย่างไรกัน?”คนรับใช้ไม่เข้าใจ “หาเงิน?”แต่ซางเชวี่ยกลับไม่คิดจะพูดอะไรมาก ทำเพียงจดจ้องสถานการณ์ที่เวทีด้านล่างเท่านั้นจั๋วจิ่วคนนั้นยังไม่สู้จริงจัง นางเองก็ไม่ใช่จะไม่เข้าใจ แค่จากการเปลี่ยนแปลงขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 709

    จั๋วซือหรานเดินไปทางเวทีแม้จะบอกว่าอยู่ในห้องเตรียมตัว ก็ญังสามารถได้ยินเสียงเอะอะภายนอกได้ตอนนี้พอเดินออกมา คลื่นเสียงที่โถมเข้ามาก็ยิ่งเพิ่มความสั่นสะเทือนขึ้นไปอีกเสียงโหร้อง เสียงก่นด่าของผู้คน เสียงตะโกนลงเดิมพัน และยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ล้วนดังขึ้นไม่หยุดหย่อนอินเจ๋ออันยืนอยู่ริมเวที สีหน้ายังคงปั้นยากอยู่สายตาของเขาจ้องมองจั๋วซือหรานอย่างสงสัยระแวดระวังสองมือจั๋วซือหรานยังกดอยู่ที่หน้าอก เส้นผมหลังหัวรวบสูงเป็นช่อ กลางหลังสะพายดาบคู่อินเจ๋ออันจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ในใจคิด ไม่ว่านางจะมีแผนร้ายอะไร ถึงอย่างไรก็มาถึงที่นี่แล้ว พอขี่หลังเสือแล้วมันลงยากก็คงต้องไปต่อยิ่งไปกว่านั้น ซางถิงเองก็ไม่ใช่พวกรับมือง่ายด้วยเสียงระฆังดังขึ้นทั้งสองคนขึ้นเวทีอีกครั้ง จั๋วซือหรานมองคู่มืออีกด้านของเวทีดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นของอีกฝ่าย ก็กระพริบปริบๆ มองนางการทดสอบยกที่สองเริ่มขึ้นซางถึงตอนนี้ไม่ได้ใช้เสือเขี้ยวดาบเมื่อครู่ต่อแล้วบนอัฒจันทร์คนดูมีแขกไม่น้อยไม่ค่อยเข้าใจ“เมื่อครู่ใช้เสือเขี้ยวดาบก็ไม่ใช่ว่าชนะมาได้หรือ? ทำไมไม่ใช้ต่อ?!”“นั่นสิ! เสื้อเขี้ยวดาบเมื่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 708

    การยั่วยุเช่นนี้ดูหยาบมาก แต่จั๋วซือหรานกระทั่งไม่คิดจะกลบเกลื่อนเลยสักนิด จนแทบจะเขียนคำว่าข้ากำลังยั่วเจ้าสี่คำนี้ไว้บนหน้าโต้งๆ เลยด้วยซ้ำสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าจะบอกว่าอินเจ๋ออันขึ้นหลังเสือจนลงมายากแล้วก็ไม่ได้เกินเลยอะไรพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน เขากัดฟันเอ่ยขึ้น “พูดจาใหญ่โตเหลือเกิน! ยกนี้เจ้ายังไม่ชนะเลย แล้วทำไมข้าจะต้องกลัวด้วย?!”อินเจ๋ออันพูดจบ ก็เคาะระฆังทันที ประกาศชัยชนะของซางถิงและให้ทุกคนเฝ้ารอยกที่สองตามหลักการแล้วระหว่างยก จะต้องมีแพทย์เข้ามารักษาบาดแผลให้แต่จั๋วซือหรานตนเองก็เป็นแพทย์ ทำให้แพทย์ที่เจี่ยงเทียนซิงจัดมาจึงยืนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตรงนั้น“แม่...แม่นางจิ่ว”จั๋วซือหรานหันไปมองเขา “แพทย์หรือ?”“ใช่ ใช่แล้ว เจ้าสำนักให้ข้าเข้ามา...” แพทย์ยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นว่าแผลบนตัวจั๋วซือหรานเหล่านั้นสมานเสร็จเรียบร้อยแล้วจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว เอ่ยว่า “เรื่องรักษาก็ไม่ต้องแล้วล่ะ เขายังมีอะไรจะมาบอกข้าอีกไหม?”“มี” แพทย์ถอนหายใจโล่ง เอ่ยต่อว่า “เจ้าสำนักให้ข้ามาบอกท่านว่า คนของตระกูลซางที่มา คือซางเชวี่ยคุณหนูสี่ที่ถูกคนในตระกูลให้ความสำคัญมากในปัจจุบันค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 707

    เสียงดังชิ้ง!สองดาบเก็บเข้าฝักเสียงนี้ก็ราวกับทำให้คนทุกคนในอัฒจันทร์คนดูได้สติกลับมาและได้เห็นหญิงสาวชุดแดงจัดระเบียบเสื้อผ้าบนตัว รอยขาดเหล่านั้นบนชุดแดง เผยให้เห็นผิวขาวนวลของนาง กับรอยแผลที่อยู่บนผิวนั้น...เพียงแต่ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า หลังจากที่นางร่วงลงมาจากเวที บาดแผลบนตัวนางที่มาจากเสือเขี้ยวดาบนั้น เลือดหยุดไหลไปแล้ว ความรู้สึกบอบช้ำทั้งตัวก่อนหน้านี้ ตอนนี้ค่อยๆ สลายไปแล้วนางกระทั่งเดินมาตรงหน้าผู้ดูแลการตัดสินไกล่เกลี่ยอินเจ๋ออันที่อยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นว่า “คนของเจ้าชนะแล้ว ยังไม่ประกาศอีกหรือ?”อิ๋นเจ๋ออันได้สติกลับมา เขาจ้องเขม็งที่จั๋วซือหราน ตระหนักขึ้นมาได้ถึงความผิดปกติแต่กลับพูดไม่ออกว่าตรงไหนที่ผิดปกติซางถิงชนะได้อย่างเป็นธรรมชาติ นางเองก็แพ้อย่างเป็นธรรมชาติ...แต่ยิ่งดูธรรมชาติเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกผิดปกติเพราะแพ้ชนะเดิมทีไม่ใช่เรื่องที่ให้คำใช้คำว่าเป็นธรรมชาติมาพรรณนาแล้วหญิงสาวคนนี้เดิมทีก็ฉลาดเป็นกรด ถ้าหากเขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เช่นนั้นก็จะต้องผิดปกติอย่างแน่นอนอินเจ๋ออันเงยขึ้นมองซางถิงบนเวทีผาดหนึ่งซางถิงถึงแม้จะสวมหน้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 706

    ตอนที่มันกระโจนไปถึงขอบเวที จั๋วซือหรานกำลังหันหลังให้มัน ปลายเท้าเพิ่งจะแตะพื้นต้องรู้ด้วย ว่าคนคนเราตอนที่ค้างอยู่กลางอากาศ ในจังหวะนี้ หากคิดจะทำอะไรเพื่อเปลี่ยนทิศทางร่างกาย จะต้องมีจุดเป็นแรงส่งด้วยแต่ตำแหน่งนี้ จั๋วซือหรานไม่มีจุดแรงส่งอะไรแล้วดังนั้น ทุกคนจึงมองเห็นว่าพอเท้านางแตะพื้น เสือเขี้ยวดาบก็จะกระโจนไปถึง ก่อนหน้าที่นางจะกระโจนหลบ ก็สามารถพุ่งเข้าขย้ำนางได้แล้ว!สายตาคนทั้งหมดล้วนจ้องเขม็ง ราวกับว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดเปลี่ยนเป็นช้าลงสายตาทุกคนจับจ้องไม่วางตา ล้วนรอให้ฉากที่เลือดของนางซ่านกระเซ็นปรากฏขึ้นมา!แต่ทว่า สถานการณ์ที่ทำให้คนทั้งหมดคาดไม่ถึง กลับปรากฏขึ้นแล้ว!ปลายเท้าของจั๋วซือหรานพอแตะบนเวทีที่ทำจากหินต้องห้ามตอนนั้นเอง เสือเขี้ยวดาบก็กัดไปทางด้านหลังคอนาง จังหวะนั้น บนเวทีกลับนิ่งเงียบไม่มีเสียงกระทั่งมีคนกลั้นหายใจ!“ฉูด...!” มีเสียงเลือดสดสาดกระเซ็นดังขึ้นเลือดสดสีแดง ย้อมเข้าที่ข้างคอและคอเสื้อนาง...“นาง...” มีคนงึมงำขึ้นมา ในสายตามีสีหน้าไม่อยากเชื่อ“...แพ้แล้ว” มีคนเอ่ยขึ้น“แต่ว่า...”ถ้าไม่นับบาดแผลเหล่านั้นที่นางได้มาจากการห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 705

    ฝูซูไม่เข้าใจคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง “เจ้าสำนัก...หมายความว่าอย่างไร?”“คุณหนูของเจ้าพอบาดเจ็บ เจ้าก็กระวนกระวายขึ้นมาเลยสินะ” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “เจ้าลืมแผนการคุณหนูของเจ้าไปแล้วหรือ?”“แผนของคุณหนู...” ฝูซูงึมงำขึ้นมาครึ่งคำ จู่ๆ ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาแผนของคุณหนูคือ ยกแรกคุณหนูจะแพ้ ยกที่สองชนะแบบหวุดหวิด และยกที่สามค่อยเอาชนะดังนั้นยกแรก นางจึงตั้งใจจะแพ้นางตอนนี้ทำตัวอ่อนแอ ก็เพื่อให้คนอื่นคิดว่านางไม่ไหว รู้สึกว่านางต้องแพ้แน่พอยิ่งเดิมพันทางนางน้อยลงแค่ไหน อัตราต่อรองของนางก็จะยิ่งสูงขึ้นเจี่ยงเทียนซิงเอ่ยต่อ “บนตัวนางล้วนมีแต่แผลถลอกทั้งนั้น ด้วยฝีมือพลังวิญญาณวิชาแพทย์ของนาง ถ้านางไม่จงใจคุมพลังตนเองไว้ แผลแค่นี้เพียงไม่นานก็สมานหายดีแล้ว”“เอ่อ...” ปฏิกิริยาของฝูซูเองก็เป็นเช่นนี้ กระทั่งความกังวลก็ยังแขวนเติ่งอยู่ตรงนั้นไม่มีที่ลง พอกังวลก็เหมือนจะเกินเหตุ แต่ถ้าไม่กังวลก็เหมือนไม่ซื่อสัตย์พอ“นั่นมันเสือเขี้ยวดาบเลยนะ สัตว์ประหลาดแบบนี้ สามารถหลบหนีแบบนี้ภายใต้การต่อสู้กับมัน อันที่จริงแค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว ว่านางเก่งกาจกว่าเสื้อเขี้ยวดาบเยอะเลย เจ้าไม่รู้สึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 704

    “ใช่เลย แส้นี้ฟาดจนทำให้จั๋วจิ่วต้องมุ่งไปทางปากสัตว์ประหลาดของเขาเลยทีเดียว!”เมื่อครู่ คนทั้งหมดล้วนมองเห็น ซางถิงที่อยู่บนเวที พอเริ่มต้นก็ทำเอาจั๋วซือหรานประหลาดใจไปเลยทีเดียวพอฟาดแส้เข้ามา จั๋วซือหรานก็จำต้องหลบไปยังตำแหน่งที่แส้โจมตีไม่ถึงและซางถิงเองก็อัญเชิญสัตว์ประหลาดออกมาทันที ปรากฏตัวรอในทิศทางนั้นอยู่แล้วในสายตาของผู้ชม นั่นจึงเป็นการที่จั๋วซือหรานถูกซางถิงต้อนไปยังปากของสัตว์ประหลาดของตนเอง!แต่ไม่นานนัก ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหมด หญิงสาวในสนาม ก็มีปฏิกิริยาขึ้นฉับพลันในจังหวะสะเก็ดไฟกระทั่งไม่มีใครมองเห็น ว่าสองดาบที่หลังนางปรากฏขึ้นมาเมื่อไร!แต่ก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว ดาบยาวสองเล่มนั้น ถูกนางแบกไขว้ไว้ที่หลัง ตอนนี้ก็ล้วนทยอยกันออกจากฝัก ถูกนางกุมมั่นเอาไว้ในมือสัตว์ประหลาดที่ซางถิงเรียกออกมาคือเสือเขี้ยวดาบตัวหนึ่งสัตว์ประหลาดที่ดุดันเช่นนี้ แล้วยังเป็นพวกตระกูลแมว พอมาอยู่บนเวทีประลอง อันที่จริงก็ได้เปรียบพอควรเพราะไม่เพียงแต่ดุร้าย แต่ยังคล่องตัวอีกด้วย!ถ้าหากจะพูดว่าสัตว์ประหลาดนี้มีจุดบกพร่องอะไร จุดบกพร่องนั้นจะต้องเป็นเพราะความยอดเยี่ยมเกินไป ความยาก

DMCA.com Protection Status