Share

บทที่ 1144

Author: หูเทียนเสี่ยว
"อะไรนะ?!" บนหน้าคนๆนี้มีความโกรธขึ้นมาแล้ว "เจ้าว่าอะไรนะ?"

จั๋วซือหรานหัวเราะพรวด "ข้าบอกว่า เจ้าน่าจะตาบอด ทำไม? ยังฟังไม่ชัดหรือ? ดังนั้นใครกันแน่ที่หูหนวก..."

คนคนนี้น่าจะเป็นคนสำนักเมฆาวารี อยู่ในเมืองอวิ๋นคงได้รับการเคารพมาตลอด เกรงว่าคงจะยังไม่เคยเจอสถานการณ์ปฏิบัติด้วยเช่นนี้

ชั่วขณะหนึ่งยังไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับคำพูดจั๋วซือหรานอย่างไร!

เสียงของจั๋วซือหรานยังคงเย็นเยียบ เอ่ยต่อว่า "ป้ายผ่านทางของข้าอยู่ในมือเจ้าแล้ว ข้างบนเขียนตัวตนของข้าอยู่ชัดๆ แต่เจ้า เป็นแค่ประชาชนที่ไม่มีตำแหน่งไม่มีตัวตนฐานะ คนแบบเจ้า ในเมืองหลวงยังต้องมาคุกเข่าคารวะต่อหน้าข้าด้วยซ้ำ เจ้ามันใครกัน...กล้ามีท่าทีแบบนี้กับข้าเรอะ?"

ดวงตาของคนผู้นี้ถลึงกลมขึ้นมาทันที "เจ้าว่าอะไรนะ?"

"ฟังภาษาคนไม่ออกหรือไร?" จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาเย็นชา "หรือจะบอกว่า ที่นี่เป็นพื้นที่ของสำนักเมฆาวารี ไม่ถูกควบคุมด้วยกฏเกณฑ์ของราชสำนัก?"

คนผู้นี้ถูกจั๋วซือหรานทำให้โกรธจัด ดูแล้วเหมือนจะโต้กลับทันที

คนคุ้มกันข้างกายเขายื่นมือมาขวางไว้ จากนั้นก็ยิ้มให้กับจั๋วซือหราน

"ใต้เท้าโปรดระงับโกรธด้วย ท่านกล่าวเกินไปแล้ว! เมืองอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1145

    ก่อนที่เหลียนเจินจะไปหาข่าว ก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยวางใจว่า "คุณหนู ฟังออกว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาจงใจพูดโรงเตี๊ยมสุ่ยอวิ๋นขึ้นมา ยิ่งไปจากนั้นดูจากชื่อก็เดาไม่ยากเลยว่าเกี่ยวข้องกับสำนักเมฆาวารีแน่ มันจะ...ไม่ค่อยปลอดภัยหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานมองทางเขา ยิ้มขึ้นบางๆ "ข้าไม่ใช่มาเพื่อความปลอดภัยเสียหน่อย ต่อให้พวกเขาไม่พูด โรงเตี๊ยมสุ่ยอวิ๋นนี่พอฟังก็รู้แล้วว่าเกี่ยวข้องกับสำนักเมฆาวารี ข้าต้องไปอยู่แล้ว"เหลียนเจินก็ตระหนักขึ้นได้ว่าความเป็นห่วงของตนเองจะมากเกินไปแล้ว "ข้าน้อยจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้""ระวังตัวด้วย" จั๋วซือหรานยัดเจ้าก้อนเนื้อตัวหนึ่งให้เขา แต่พวกก้อนเนื้อหลังจากกินแมลงกู่ในหลุมฆ่านั่นก็ยังหลับลึกอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าใกล้จะยกระดับแล้วหรือยังตามหลักการ น่าจะให้พวกมันหลับลึกในมิติน้ำพุวิเศษต่อไป เพราะสำหรับพวกมันแล้ว มิติน้ำพุวิเศษเป็นสถานที่ที่สบายมากที่สุดแต่ตอนนี้ถึงอย่างไรก็อยู่ในรังศัตรูจั๋วซือหรานครุ่นคิด จากนั้นก็หยิบเจ้าก้อนเนื้อตัวหนึ่งออกมา ยัดเข้าไปในเสื้อผ้าเหลียนเจิน"คุณหนู นี่คือ...""แมลงกู่ของข้า แต่ว่าตอนนี้มันกำลังหลับลึก เจ้าพยายามอย่าให้เกิดเรื่องอะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1146

    ให้ความรู้สึก...แปลกประหลาดมากๆจั๋วซือหรานมองออกถึงความคิดของผู้จัดการ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "เจ้าให้พนักงานนำไปก็พอ ม้าของข้าจะตามไปเอง""อย่างนี้นี่เอง" ผู้จัดการจึงส่งสายตาให้กับพนักงานพนักงานเข้ามานำม้าไปเรือนหลังโรงเตี๊ยมทันทีอันที่จริงสายตาเมื่อครู่นี้ของผู้จัดการ ยังมีความหมายอื่นอยู่ด้วยพนักงานเข้าใจเจตนาเป็นอย่างดี ความหมายของผู้จัดการคือ ให้เขาหาโอกาสมองดูในรถม้าด้วยว่ามีสถานการณ์แบบไหนพนักงานนำรถม้าไปถึงเรือนด้านหลัง จากนั้นก็สังเกตไปรอบๆ พอพบว่าไม่มีคนกำลังมองตนเองเขาก็เลยยื่นมือออกไปเลิกม่ารถม้าออกเบาๆ คิดจะเปิดดูว่าด้านในมีสถานการณ์อย่างไรตอนเพิ่งแง้มเปิดได้เล็กน้อย กระทั่งยังไม่ทันได้มองว่าเป็นอย่างไรความเจ็บปวดที่รุนแรงวูบหนึ่ง ก็ซัดเข้าใส่อวัยวะสัมผัสทั้งหมดของเขา พริบตานั้น เหมือนความคิดกับการคิดอ่านทั้งหมดหายไปจนหมดสิ้นความเจ็บปวด มีแต่ความเจ็บปวด"อ๊าๆๆๆ...!"พนักงานล้มลงพื้นร้องครวญคราง เขากรีดร้องอย่างน่าเวทนา กระทั่งแขกทั้งหมดก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน!และตอนนีเ้อง ผู้จัดการที่กำลังนำจั๋วซือหรานไปที่ห้องพักก็ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าเวทนานี้ขึ้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1147

    ผู้จัดการไม่กล้าพูดแล้ว นำจั๋วซือหรานไปที่ห้องแขกอย่างว่าง่ายน่าจะเพราะเข้าใจแล้ว ว่านี่เป็นคนที่ไม่ควรไปแหยมด้วย ดังนั้นผู้จัดการกระทั่งคำพูดก็ยังระมัดระวังขึ้นมาไม่น้อยหลังจากส่งจั๋วซือหรานมาที่ห้อง ผู้จัดการก็กลับมาถึงโถงหน้า ถึงเพิ่งได้รู้สถานการณ์ที่ประตูเมืองก่อนหน้านี้"ข้าก็ว่านางเป็นหญิงสาวคนหนึ่งทำไมถึงได้บ้าคลั่งขนาดนี้ ที่แท้ก็คนชั้นสูง..." ผู้จัดการมุมปากกระตุก แม้ปากจะพูดว่าคนใหญ๋โต แต่ในสีหน้ากลับไม่ได้ดูมีความเคารพอยู่เลยในความคิดในสายตาเหมือนจะมีอาการประชดประชันอยู่ด้วย"สรุปคือ เจ้าคอยจับตาดูทางนี้ คนแบบนี้ถ้าหากดึงเป็นพวกไม่ได้ ทางที่ดีก็อย่าไปผิดใจด้วย""ทราบแล้ว""แล้วก็ ช่วงนี้เรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักเจ้าน่าจะเข้าใจอยู่ คนชั้นสูงแบบนาง เข้ามาในเมืองก็ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ดังนั้นเจ้าพยายามคิดหาวิธีตรวจสอบรถม้าของนางหน่อย...""ตรวจสอบไม่ได้" ผู้จัดการขมวดคิ้ว"อะไรคือตรวจสอบไม่ได้?" คนที่เข้ามาพูดกับผู้จัดการ น่าจะมีตัวตนระดับหนึ่งในสำนักเมฆาวารี หลังจากได้ยินคำนี้ของผู้จัดการ ในสีหน้าก็มีอาการไม่พอใจขึ้นอย่างชัดเจนผู้จัดการตอบว่า "เมื่อครู่ตอนนาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1148

    เกรงว่าคงเพราะ..ขนมชาเขียวยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องการเดินกระมัง ดังนั้นตอนที่ควบคุมร่างของเหลียนเจินให้เดินจึงดูแปลกประหลาด"ขนมชาเขียวนี่เจ้า..." จั๋วซือหรานเองก็ตระหนักขึ้นมาได้ ว่าสถานการณ์นี้แม้จะน่าตกตะลึง แต่ก็ไม่ใช่เวลาจะมาซักไซ้ไล่เรียงต้องรีบรักษาแผลให้กับเหลียนเจินจั๋วซือหรานแตะลงไปบนตัวเหลียนเจินสองสามที ตามหลักการ ขนมชาเขียวควรจะออกมาจากตัวของเหลียนเจินจึงจะถูกแต่กลับไม่มีเลยแต่กลับไม่มีจั๋วซือหรานได้ยินเสียงฟ่อๆ ของขนมชาเขียว "นายท่าน เขาบาดเจ็บหนักมาก ข้า่ยังออกไปไม่ได้!"จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว จึงยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากเหลียนเจิน จากนั้นก็สำรวจชีพจรที่หลังเขาอีกหน่อย พลังวิญญาณการแพทย์สายวิเศษที่อ่อนโยนยิ่งใหญ่หลั่งไหลเข้าไปในเส้นลมปราณของเหลียนเจินกระตุ้นพลังยาลูกกลอนให้ออกฤทธิ์ทันที"แค่ก! แค่กๆ...!" เหลียนเจินไอขึ้นมาอย่างรุนแรง ตอนที่ไอ เลือดสดก็ทะลักออกมาจากในปากด้วยแต่บนสีหน้า กลับดูดีขึ้นมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานตอนนี้จึงยื่นมือไปกดบนตัวเขาอีกที ขนมชาเขียวจึงออกมาจากบนตัวเหลียนเจินขนมชาเขียวถอนใจโล่งออกมาดัง 'ฟิ้ว' กอดนิ้วของจั๋วซือหรานไว้ เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1149

    แบบนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วส่วนเรื่องว่า ต่อให้ฉลาดแบบจั๋วซือหราน ก็ยังถูกน้องชายเล่นงานด้วยวิธีนี้จนไม่มีแผนรับมือไปชั่วขณะเลยทีเดียว"เจ้าเด็กคนนี้..." จั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ "ข้าไม่รู้เลยว่าจะหาตัวเขาได้จากไหน""แต่อย่างน้อยคุณชายจั๋วหวายก็ยังปลอดภัย ไม่ใช่ถูกทำเป็นผู้ทดลองยาก็ยังถือเป็นเรื่องดี" เหลียนเจินเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานจุ๊ปาก "ถ้าเขายังอยู่ในการดูแลของสำนักเมฆาวารี ตอนข้าไปช่วยเขาออกมา ต่อให้เขาถูกทำเป็นผู้ทดลองยาแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้เข้าไปเสริมให้กับคุณหนูสำนักเมฆาวารี ข้าก็ยังมีวิธีรักษาเขาอยู่""แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตนเองซ่อนอยู่ที่ไหน ถ้าหากเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น ข้าก็ไม่รู้ทั้งนั้น ไม่แน่ว่าจะจับปฏิกิริยาได้ด้วย บางทีอาจจะอันตรายยิ่งกว่า" จั๋วซือหรานถอนหายใจออกมาแต่ว่า เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ต้องคิดหาวิธีแก้ไขจั๋วซือหรานถึงอย่างไรก็ยังเป็นจั๋วซือหราน เมื่อครู่ตอนที่นางรู้สถานการณ์ที่น้องชายตนเองหนีออกมา ก็แค่ตกตะลึงไปจนยังไม่ทันนึกแผนรับมือออกเท่านั้นแต่ตอนนี้มีแผนออกมาแล้วจั๋วซือหรานครุ่นคิด เอ่ยขึ้นว่า "เอาแบบนี้ อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็เอาเรื่องที่ข้ามาเมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1150

    ถ้าไม่ยอมให้เขาออกมาล่ะก็..."ไม่ขอรับ เขาให้ข้าออกมา" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น "เพียงแต่ว่า ด้านนอกโรงน้ำชามีคนซุ่มอยู่ พอข้าออกมาจากโรงน้ำชาครู่เดียว ก็มีคนลอบโจมตีเข้ามา ข้าน้อยไร้ความสามารถ สู้พวกเขาไม่ได้ ถูกทำบาดเจ็บสาหัส...ถ้าหากไม่ใช่เพราะวิธีการที่นายท่านใส่ไว้บนตัวข้าน้อย วันนี้ข้าน้อยคง...กลับมาไม่ได้แล้ว""ในกลุ่มพวกเขา มีปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนอยู่หลายคน บกวกับหุ่นเชิดของพวกเขา คนก็มีมากกว่า ข้าน้อยหนีออกมาไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่นั้นหุ่นเชิดพวกเขายังฉาบยาพิษไว้อีก" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น"หุ่นเชิดฉาบยาพิษก็ดูเป็นเรื่องปกติ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ถึงอย่างไรการจะเพิ่มพลังต่อสู้กับพลังสังหารของหุ่นเชิด ก็เป็นเรื่องที่ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนไม่มีทางพลาด"เหลียนเจินเข้าใจหลักการนี้อย่างเห็นได้ชัด พยักหน้า จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า "เพียงแต่ว่าเหมือนเพราะพิษนี้ ทำให้แมลงกู่ที่นายท่านทิ้งไว้บนตัวข้าก็ถูกปลุกขึ้นมา ตอนที่ข้าบาดเจ็บหนักจนเสียความสามารถการเคลื่อนไหว จู่ๆ ก็เข้าควบคุมข้า หนีการโจมตีเหล่านั้นออกมา..."ตอนที่เหลียนเจินพูดถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็ได้ยินเสียงฟ่อๆ ของขนมชาเขียวขึ้นในมิตินาง "ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1151

    นายบ่าวไม่นานนักก็มาถึงโรงน้ำชาที่เหลียนเจินมาหาข่าวไว้ก่อนหน้านี้ด้านในโรงน้ำชามีสายตาจับจ้องอยู่ไม่น้อย พอเห็นว่าเหลียนเจินไปแล้วกลับมา จึงมีคนกระซิบกระซาบส่งข่าวอย่างรวดเร็วไม่นานนัก ก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังลอดมาจากด้านใน ใช้น้ำเสียงที่ดูเหนือกว่าเอ่ยขึ้นว่า "โย่ว? ไม่หลาบจำสินะ? นี่ยังกล้ามาอีก ดูท่าก่อนหน้านี้จะสั่งสอนไปไม่พอ!"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เอียงตามองเหลียนเจินผาดหนึ่งเหลียนเจินสบสายตากับนายท่าน พยักหน้าเงียบๆ แสดงออกว่าเสียงนี้คือคุณชายฉินก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานหรี่ตาลง มุมปากกลับยกขึ้นมา มองไปทางต้นกำเนิดเสียงประตูโรงน้ำชา ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น สวมชุดคลุมค่อนข้างหรูหรา ในดวงตามีความประชดประชันเล็กๆแต่ตอนที่สายตาเห็นใบหน้าจั๋วซือหราน ก็ตะลึงไปฉับพลันแต่ก็เป็นเรื่องปกติ ใครก็ตามตอนเห็นใบหน้านี้ของจั๋วซือหรานครั้งแรก ยากนักที่จะไม่มีปฏิกิริยาครู่หนึ่งนางถึงตั้งตัวกลับมาได้ หัวเราะเชอะขึ้นมา "ทำไม? หาคนมาช่วยแล้วรึ?"จั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นตาก็โค้งเผยรอยยิ้มสวยจริงๆทำเขาตะลึงงันไปในพริบตา "เจ้า..."จั๋วซือหรานยิ้มตาหยีถามเขา "เมื่อครู่ คนของ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1152

    คนหลายคนกรูกันเข้ามาจากรอบด้านทันที ล้อมจั๋วซือหรานเอาไว้คุณชายฉินทนความเจ็บปวดไว้ หัวเราะเย็นชาขึ้นมา "แม่นาง เจ้านี่ช่างกล้าเหลือเกิน ข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาสวยหรอกนะ ถึงไม่อยากจะทำอะไรเจ้า เจ้าคุกเข่าลงขอโทษข้า จากนั้นก็ออกไปเที่ยวเล่นกับคุณชายอย่างข้าซะ เรื่องนี้ก็จะแล้วกันไป ดีไหม?""ไม่ดี" จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชาขึ้นมา แหงนตามองเขา "แล้วกันไปหรือ? ไม่เห็นจะน่าสนใจ ข้าไม่คิดจะให้มันจบลงแค่นี้"พูดจบ นางก็เหลือบมองไปยังคนที่ล้อมอยู่รอบๆจากนั้นสายตาก็กลับมาอยู่บนหน้าคุณชายฉิน เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงให้คนพวกนี้ซุ่มโจมตีลูกน้องข้าอยู่ด้านนอกสินะ?"คุณชายฉินเลิกคิ้วขึ้น ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ถือว่ายอมรับแล้วจั๋วซือหรานรู้สึกพอใจกับเรื่องนี้อยู่ ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็พอดีเลย จัดการมันซะทีละคน ไม่ต้องหนีไปไหนกันทั้งหมดนั่นล่ะจั๋วซือหรานโบกมือหยิบป้ายตาโยนไปบนหน้าคุณชายฉิน พลางลากเขาเดินออกไปด้านนอกในโรงน้ำชาเดิมทียังคึกคักอยู่ มีคนไม่น้อยที่คอยดื่มชาฟังมหรสพตอนนี้พอมีอะไรให้ดู ก็ดึงดูดสายตาทั้งหมดไปทันทีคุณชายฉินรีบรับป้ายนั้นที่นางโยนเข้ามามือเป็นร

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status