แชร์

บทที่ 1059

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
สาเหตุที่บอกว่าไม่ปกติ

เพราะถ้าจะเทียบกับลม สู้พูดว่าเป็นกระแสอากาศเล็กๆ ที่มีความเร็วแตกต่างจากกระแสลมรอบๆ จะดีกว่า

และจุดที่ไม่ปกติอยู่ที่ กระแสลมผิดปกตินี้อยู่ข้างหูนางนี่เอง!

ความเร็วในปฏฺิกิริยาของจั๋วซือหรานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด นางจึงเบี่ยงหลบออกมาไม่มากไม่น้อยราวๆ สองชุ่น

แค่สองชุ่นเท่านั้น

แต่ก็หลบพ้นการโจมตีของอีกฝ่ายไปได้

เสียงฉัวะดังขึ้น เส้นผมของนางสองสามเส้น ถูกตัดออกไปข้างๆ ใบหู

"น่าสนใจ" จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น

ร่างของแมงมุมน้อยดูลนลานหน่อยๆ เสียงของมันยังคงขรึมต่ำ "นายท่าน นั่นมันอะไรกัน?"

มันแค่สัมผัสได้เท่านั้น ว่าเมื่อครู่มีอะไรบางอย่างโจมตีเข้ามา แต่กลับมองไม่เห็นจับไม่ได้เลยว่าเป็นอะไรที่โจมตีเข้ามา

จากนั้นของสิ่งนั้นก็หายไปแล้ว รวดเร็วมาก

จั๋วซือหรานยื่นมือไปลูบๆ บนหลังแมงมุมน้อย พลังวิญญาณเข้มข้นวูบหนึ่งถ่ายเข้าไปในตัวแมงมุมกร่างกายที่ยังลนลานของมันแต่เดิมจึงสงบลงมา

"นายท่าน อะไรโจมตีเข้ามากันแน่?!" แมงมุมน้อยถาม

จั๋วซือหรานยิ้ม "ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต"

"ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต?" แมงมุมน้อยทวนซ้ำคำพูดนาง ในน้ำเสียงไม่ค่อยเข้าใจ

"ดังนั้นข้าจึงบอกว่าน่าสนใจไงล่ะ"
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1060

    ดังนั้น ตอนที่สัมผัสได้ถึงกระแสลมเล็กนี้ครั้งถัดมา จั๋วซือหราน...จึงไม่หลบแล้วนางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สัมผัสได้ถึงการถูกโจมตีด้วยพิษ แทงเข้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของตนเองจมูกนางพ่นเสียงฮึดฮัดออกมาเบาๆ เหมือนเป็นเสียงครางเจ็บปวด แต่พอฟังอย่างละเอียดจะพบว่า ไม่ได้เจ็บปวดมากมายอะไนนักพริบตาต่อมามุมปากนางก็ยกขึ้น ยกมือตาม คว้าจับ 'อาวุธ' ที่โจมตีเข้ามาแล้วหยุดอยู่ตรงไหปลาร้านางน่าจะเป็น...อาวุธกระมัง?แต่พอเข้ามือก็รู้สึกว่า...สัมผัสแปลกๆเหมือนกับ...ผิวหนังยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากอีกฝ่ายถูกนางคว้าไว้แล้ว ทำให้ความเร็วลดลงจนไม่อาจฉากหลบไปได้อย่างรวดเร็วดังนั้นรูปร่างของอีกฝ่าย จึงเห็นได้อย่างชัดเจนจั๋วซือหรานมอง...คน? ...สิ่งของที่ถูกตนเองจับเอาไว้?ชั่วขณะหนึ่ง นางไม่รู้ว่าจะพรรณนา...ตัวตนตรงหน้านี้อย่างไรครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง ก็คิดออกมาได้แค่คำเดียว...สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์?หรือ...อาจจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตัวตนตรงหน้าดูแล้ว มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ดูแล้วเป็นมนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียวแต่ผิวหนังขาวซีด ในผิวที่ซีดเซียวนี้ เส้นเลือดเส้นลมปราณก็มีสีดำ ยิ่งไปกว่านั้นบนผิวหนัง ยังมี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1061

    "เจ้า..." ดวงตาของหัวหน้าคนคุ้มกันถลึงตาโต สายตาแสดงความตกใจปนพรั่นพรึง จ้องมองจั๋วซือหรานด้วยความระแวดระวังเขากำลังจะถาม ว่านางยิ้มอะไร?เพิ่งจะส่งเสียงพยางค์แรกออกมา ม่านตาก็หดลงเขาจ้องมองใต้กระดูกไหปลาร้าของนาง บาดแผลน่ากลัวเลือดเนื้อเหวอะหวะที่เดิมทียังมีเลือดพิษสีดำทะลักออกมา กำลังฟื้นตัว...แบบที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า!เห็นฉากนี้คาตา ถ้าแค่มีสมองหน่อยก็คงพิจารณาได้ไม่ยากแล้ว ว่าที่นางบาดเจ็บเมื่อครู่ เป็นแค่เหยื่อล่อเท่านั้น!เหยื่อล่อที่เอาไว้ล่อพวกเขาออกมา!หัวหน้าคนคุ้มกันก่อนหน้านี้ที่ยังดูคล่องแคล่วปราดเปรียว ตอนนี้กลับตึงขึ้นมาแล้ว เส้นประสาททุกเส้นทั่วร่างล้วนกำลังระแวดระวังจั๋วซือหรานโบกมือไปเช็ดรอยเลือดดำที่ขอบแผลก่อนหน้า บนผิวหนังก็เหลืออยู่เพียงรอยแดงจางๆ เท่านั้นเป็นไปได้ว่าอีกไม่นานนัก รอยแดงพวกนี้ก็คงหายไปหมด กระทั่งร่องรอยที่เคยบาดเจ็บ ก็น่าจะไม่เหลือหรอ"หุ่นเชิดความมืดหรือ?" จั๋วซือหรานทวนคำที่ออกจากปากหัวหน้าคนคุ้มกันเมื่อครู่อีกรอบ นางยกมุมปากขึ้น เอ่ยขึ้นอย่างสนอกสนใจ "ดูท่า ของดีของเจ้านายพวกเจ้าจะมีอยู่ไม่น้อยเลยสินะ"จั๋วซือหรานไม่ค่อยเข้าใจกับวิช

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1062

    และตอนนี้เอง นิ้วของเขาขยับกลไกบนตลับหุ่นเชิดหุ่นเชิดตัวนั้นที่ยืนอยู่ข้างๆ จั๋วซือหราน จู่ๆ ก็ขยับขึ้นมาแล้วมือข้างหนึ่งของมัน ถูกจั๋วซือหรานกำไว้แน่น ดังนั้นมันจึงยกเท้าขึ้นมาแล้วเตะกวาดใส่จั๋วซือหรานอย่างรุนแรงบนเท้ายังมีคมมีที่แหลมคมด้วย!เตะกวาดจนมีเสียงลมดัง "วูม..." ขึ้นมา!วิธีรับมือของจั๋วซือหรานง่ายดายมาก ปล่อยการควบคุมที่มือมันก่อน กระโดดขึ้นในที่เดิม ก็เบี่ยงหลบการเตะของมันได้แล้วส่วนมันพอได้รับอิสระภาพ ก็ฉากออกไปอย่างรวดเร็วปฏิกิริยาของหัวหน้าคนคุ้มกันนั่นก็รวดเร็ว และฉับไวมาก!เขารู้ว่าหญิงสาวคนนี้ค่อนข้างตำมือ ไม่ใช่คนทั่วไปจะรับมือได้ ดังนั้น เขาจึงคิดแต่จะรักษาสมบัติของนายท่านเอาไว้พอหุ่นเชิดความมืดหลุดจากมือนางมา!เขาก็เริ่มถอยหนีทันที! ไม่สนใจจะต่อสู้ต่อ ถอยกลับอย่างรวดเร็วแผนในใจก็เรียบง่ายมาก เดิมทียังอยู่ในหมอกพิษ ขีดจำกัดระยะสายตาก็ส่งผลกระทบมากพอควรแล้วรีบถอยหนี แล้วหายไปท่ามกลางหมอกพิษ ก็ไม่แน่ว่าจะถูกหาตัวเจอยิ่งไปกว่านั้นในใจหัวหน้าคนคุ้มกันก็มีตัวเปรียบเทียบอยู่แล้ว ถ้าหากหญิงสาวคนนี้สามารถหาพวกเขาพบได้เร็วขนาดนี้ เมื่อครู่บางทีคงไม่ต้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1063

    "แฮ่ก...! แฮ่ก...!"บนคอเขามีเสียงหอบหายใจหนักๆ"ติ๋ง...ติ๋ง..."มือเขากุมไว้บนบ่าตนเอง เลือดสดไหลออกมาจากแผล ไหลลงไปตามมือ ไปรวมกันที่ปลายนิ้ว หยดติ๋งๆ ลงบนพื้นเขากุมแผลของตนเองวิ่งหนีอยู่ในป่าหมอกพิษก็เหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าระยะสายตามัวเลือนไปหมดและไม่รู้ว่าเพราะหมอกหนาเป็นเหตุ หรือว่าเพราะลมหายใจเขาหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ หมอกพิษที่สูดเข้าไปก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สติสัมปชัญญะค่อยๆ เลือนราง...แต่เขารู้ ว่าตนเองห้ามหยุด ถ้าหยุด...คือความตายเครื่องจักรสังหารนั่นกำลังตามาติดๆ อย่างไม่ลดละ ถ้าแค่ตนเองหยุดลงมา ถึงตอนนั้น บาดแผลบนตัวก็จะไม่ใช่แค่นี้แล้ว จะต้อง...ตายแน่นอน!แต่ว่า มันก็เหนื่อยเหลือเกินหนังตาเองก็หนักขึ้นทุกที ร่างกายเองก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ข้อต่อทุกข้อเหมือนเหมือนถูกเทน้ำหนักลงไป ทำเอารู้สกหนักอึ้งจนแทบจะแบกไว้ไม่ไหวแล้ว!เท้าของเขาก็เหมือนกับการเคลื่อนไหวแบบเครื่องจักร ก้าวตรงไปด้านหน้าทำซ้ำไปเรื่อยๆภายใต้การเคลื่อนไหวที่หนักอึ้งนี้ ถ้าแค่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ก็จะทำลายสมดุลนี้ลงราวกับประสาททรายที่พังทลายลงกลายเป็นกองทรายแต่ตอนนี้เอง"โอ๊ะ.

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1064

    หัวหน้าคนคุ้มกันตกตะลึงอึ้งไปแล้วเพราะว่า เขาจำเสียงนี้ได้ นี่คือจั๋วซือหราน...คนที่ทำให้เขาโมโหจนเข็ดฟันและลนลานจนหลังเย็นวาบ"เจ้า...ทำไม..." เขาอ้าปากพะงาบ ไม่รู้เพราะติดพิษ หรือว่าเพราะตกตะลึงมากเกินไป ชั่วขณะหนึ่ง กระทั่งความสามารถในการพูดก็เหมือนจะช้าลงมาเสียแล้วจั๋วซือหรานจุ๊ปาก เดินมาตรงหน้าเขาจากนั้นจึงนั่งยองลงมาข้างหน้าเขาหัวหน้าคนคุ้มกันแหงนตามองนาง เขารู้สึกว่า...ท่าทางของนางตอนนี้ เหมือนกับกำลังมองหมาแมวจรจัดอยู่อย่างไรอย่างนั้นและเจ้าเครื่องจักรสังหารนั่น หุ่นเชิดความมืดที่แปลกประหลาด ก็ยืนอยู่ด้านหลังนาง ยังคงค้างอยู่ในท่าขกสองมืออันแหลมคมราวกับรูปสลักก็มิปานภาพเหล่านี้ตรงหน้า ล้วนทำให้เขาตกตะลึงพรึงเพริด ล้วนทำให้เขายากที่จะเชื่อได้"นี่มัน...เพราะอะไรกัน?" ในที่สุดเขาก็ส่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากจากในลำคอนี่มันเพราะอะไรกัน? ทำไมหุ่นเชิดความมืดที่เขาใช้ถึงได้หันมาโจมตีเขา?แล้วเพราะอะไรนางถึงกลับมาช่วยเขา?เพราะอะไรกัน?จั๋วซือหรานเบ้ปาก จุ๊ปากออกมาทีหนึ่ง เหลือบมองตลับหุ่นเชิดเปื้อนเลือดในอกของเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "เจ้าคิดว่านี่เป็นสมบัติล้ำค่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1065

    หัวหน้าคนคุ้มกันนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำกลับมาว่า "ขอบคุณมาก"จั๋วซือหรานแค่โบกไม้โบกมือ หมุนตัวเก็บหุ่นเชิดความมืดกลับไปหัวหน้าคนคุ้มกันกระทั่งมองไม่ออกว่านางเก็บหุ่นเชิดความมืดไว้ที่ไหน เพราะตลับหุ่นเชิดความมืดตอนนี้ดูแล้วก็ยังว่างเปล่าอยู่จั๋วซือหรานเตรียมจะออกเดิน คิดๆ แล้วจึงเหลือบมองตลับหุ่นเชิดในมือถามขึ้นว่า "เจ้านายของเจ้า ไปเอาของเล่นชั่วร้ายแบบนี้มาจากไหนกัน?"จั๋วซือหรานอันที่จริงก็พอเดาได้ว่าหัวหน้าคนคุ้มกันนี้ไม่มีทางพูดออกมา แต่นางอย่างไรก็ได้ ถึงยังไงก็แค่ถามดูเท่านั้น จะพูดไม่พูดมันก็เรื่องของอีกฝ่ายรออยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ยินเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันจั๋วซือหรานจึงตระหนักขึ้นว่า อีกฝ่ายน่าจะไม่ยอมบอกแล้วนางเองก็ไม่ใส่ใจ ถึงอย่างไรวันนี้ก็ได้ของไม่คาดคิดมาแล้วนางไม่มีความคิดที่จะให้หัวหน้าคนคุ้มกันต้องลำบากใจอีก ถึงอย่างไรตอนที่นางกลับถึงเมืองหยาง ก็ต้องไปหาผู้เฒ่าเหอคนนั้นอยู่แล้ว ไปสอบถามว่าเป็นอย่างไรกันแน่แต่ว่า จั๋วซือหรานเพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันดังลอดเข้ามา "เจ้าสำนักเมาฆาวารีคือปรมาจารย์วิชาเหยี่ยน ในสำนักเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1066

    นางมองไปยังศัตรูที่อยู่ตรงหน้ากระทั่งสายตายังไม่ทันจับหน้าตาของคนผู้นี้ได้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของอีกฝ่ายดังขึ้นมาฟังแล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์เชิงลบอย่างเย็นชาหรือโกรธแค้นเลยถ้าให้พูดขึ้นมาจริงๆ จั๋วซือหรานกระทั่งรู้สึกว่า เสียงหัวเราะนี้ฟังแล้วดูอบอุ่นอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำคล้ายกับสายลมสายฝน แสงตะวันยามบ่ายอย่างไรอย่างนั้นเหมือนกับว่า นี่ไม่ใช่การโจมตีเพื่อช่วงชิงชีวิต แต่เป็นแค่ใช้กิ่งไม้หรือข้าวฟ่างหางหมามาแย่เจ้าเล่นเท่านั้นและเพราะความรู้สึกนี้ การโจมตีถึงตายบวกกับรอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน จึงเกิดความแตกต่างขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนั้น จั๋วซือหรานจึงได้ยินเส้นเสียงที่อบอุ่นอ่อนโยนของอีกฝ่าย ทุ้มต่ำ ในน้ำเสียงกระทั่งไม่มีความเป็นศัตรูเลยด้วยซ้ำเอ่ยขึ้นมาว่า "กันได้ดี ลองกันอีกครั้งดูไหม?"ในใจจั๋วซือหรานสั่นกึกเพราะน้ำเสียงเช่นนี้...นางคุ้นเคยมาก มั่นใจในตนเอง ไม่เร่งไม่ร้อน ดังนั้นพอได้ยินในหูของฝั่งตรงข้าม กระทั่งทำให้เกิดความรู้สึกหยิ่งผยองหน่อยๆ...นี่เป็นน้ำเสียงที่นางเคยใช้กับศัตรูและคู่ต่อสู้ตอนนี้พอได้ยินจากปากคนอื่น เอาจริงๆ ก็รู้สึกเป็นเอกลักษณ์อยู่เหม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1067

    ตอนนี้เอง เขาจึงเห็นเจ้าสิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรลักษณะวงรีนั่นอยู่ที่ใต้เท้าตนเองขณะเดียวกัน เขาก็เห็นว่าร่างของหญิงสาวตรงหน้าถอยฉากไปอย่างรวดเร็วเขาขมวดคิ้ว "นี่มันคืออะ..."เสียงยังไม่ทันขาดเสียงสนั่นก็ดังขึ้น!"ตูม...!"เสียงระเบิดดังลั่น แทบจะดังก้องไปทั้งป่า!ทำเอานกนับไม่ถ้วนบินกันแตกตื่น!จั๋วซือหรานไม่รีรอ หมุนตัวหนีออกไปอย่างไม่ลังเลวิชาร่างเปิดออกทั้งหมด ความเร็วเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดและไม่รู้ว่าเมื่อครู่ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอะไร รู้สึกเหมือนเป็นศัตรูแข็งแกร่งที่จับตัวได้ยากจริงๆดังนั้น ปกตินางจะไม่ค่อยใช้ของอย่างระเบิดมือเท่าไรนัก เพราะเสียงมันดังเกินไป ดึงดูดสายตาคนมากไปแต่เมื่อครู่คิดแล้ว เหมือนมีแค่สิ่งนี้ที่เหมาะสมที่สุด และให้ผลไม่คาดคิดมากที่สุดแล้วก็ตามคาด ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่คาดคิดขึ้นมาได้แต่จั๋วซือหรานก็ไม่ได้ประมาท นางไม่รู้สึกว่าระเบิดมือลูกนั้นจะทำให้อีกฝ่ายตายได้แต่ก็น่าจะทำให้อีกฝ่ายลำบากพอควร ส่วนตนเองก็ถือโอกาสนี้ฉากหลบออกมาเสีย จึงเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดเพียงแต่ว่า สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ...ปฏิกิริยาและความเร็วของอีกฝ่าย เร็วได

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1074

    เพียงแต่ว่า ถ้าจะให้พูดจริงๆ เฟิงเหยียนเองก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากออกเมืองหลวงมาก็อยากจะติดตามหญิงสาวคนนั้นทั้งที่จำไม่ได้แล้วแท้ๆ ทั้งที่ตัดสินใจจะขีดเส้นคั่นแล้วแท้ๆแต่ก็ยังตามนางมาเพราะรู้ว่านางระแวดระวังแค่ไหน ก็เลยใช้วิะีการแปลงโฉมที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่เข้าใกล้นางอยู่ตลอด จนกระทั่งนางเข้ามาในป่าทวนแสงนี้พอมาถึงพื้นที่ป่าที่หมอกพิษหนาทึบ สัมผัสของคนเราก็จะอ่อนแอลง ตอนนี้จึงร่นระยะเข้าใกล้ขึ้นมาและเพราะเหตุนี้ จึงได้มองออกถึงหลงเฉิน...ภาชนะมังกรหนามม่วงตั้งแต่แรกเห็นหลงเฉินเป็นอาจารย์ของเขา หนึ่งในภาชนะสัตว์เทพที่สภาผู้อาวุโสรวบรวมเข้ามาตอนนั้นที่สภาผู้อาวุโสให้หลงเฉินได้เจอกับเขา สั่งสอนเขา ให้เขาพึ่งพาศรัทธาเป็นอาจารย์ เป้าหมายหลักๆ แล้ว อันที่จริงก็คือแบบนั้นสภาผู้อาวุโสหวังจะรวบรวมภาชนะหงส์แดงเข้ามา เพียงแต่เนื่องจากตระกูลเฟิงเจ้าเล่ห์เกินไป เพื่อรับประกันว่าตระกูลตนเองยังสามารถใช้ประโยชน์พลังของสัตว์เทพได้ จึงใช้มันออกมาแทบทุกวิถีทางไม่ว่าจะพันธนาการดวงวิญญาณของสัตว์เทพ หรือลงมือกับภาชนะสัตว์เทพอย่างเขาดังนั้นสภาผู้อาวุโสจึงทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1073

    เหล่าสัตว์ประหลาดในใจก็บริสุทธิ์มากๆ ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาต่อจั๋วซือหรานของพวกมันดังนั้นพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน จึงรู้สึกว่าจั๋วซือหรานเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรอย่างนั้นขนมถั่วแดงเอ่ยขึ้นฮึดฮัด "ใครกล้ามารังแกนายท่านของข้า? ข้าจะไปจัดการเขาคนแรกเลย!""ข้าคนที่สอง..." ขนมมะม่วงเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย"ข้าคนที่สาม...""ข้าคนที่สี่...""..."อารมณ์จั๋วซือหราน เหมือนถูกเจ้าก้อนเนื้อพวกนี้แหย่ให้ดีขึ้นมาพอควรนางยื่นมือไปจับสองตัวเข้ามา นวดคลึงไว้ในมือเหมือนกับคนแก่คลึงบอลเพื่อสุขภาพนวดไปด้วยก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ "มีพวกเจ้าอยู่ข้าก็อารมณ์ดีแล้ว ถ้าอารมณ์ไม่ดี พวกเราก็ไปหาคนกับหาเรื่องระบายให้ดีก็พอแล้ว"ราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหรานเหมือนดีขึ้นมาไม่น้อย จึงผ่อนลมลงมา "ได้ ข้าจะไปสั่งสอนเจ้าพวกตระกูลเหอนั่นพร้อมนายท่านเลย""ใช่เลย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พูดถึงตระกูลเหอ...ไอ้ของที่ข้าโยนเข้ามาในมิติเมื่อครู่ล่ะ?"เดิมทีน่าจะเป็นของที่น่าสนใจอยู่ แต่ดันถูกเจ้ามนุษย์กิ้งก่านั่นมาขัด นางจึงลืมไปเลย ตอนนี้เพิ่งจะนึกออกหุ่นเชิดตัวนั้นล่ะ?ราชาแมงมุมหน้าผียื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1072

    จั๋วซือหรานคิดๆ "ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไรดี?" นางยิ้มตาโค้ง "ในอนาคตข้าจะหาวิธีตอบแทนเจ้าแน่"ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง "เยี่ยนหราน""เยี่ยนหราน?" จั๋วซือหรานรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม ตนเองทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีมารยาท จึงยื่นมือไปตรงหน้าเขา "สองตัวอักษรไหนหรือ?"ชายหนุ่มเห็นนางยื่นฝ่ามือขาวนวลมาตรงหน้า สายตานิ่งงันไปครู่หนึ่งมุมปากยกขึ้น ค่อยๆ ยกมือขึ้นมา มือข้างหนึ่งประคองหลังมือนาง นิ้วของมืออีกข้างก็วาดลงไปเบาๆ บนฝ่ามือนาง"คำว่าเยี่ยนที่แปลว่าสงบ หรานที่แปลว่าเผาไหม้" ชายหนุ่มเอ่ยตอบเขาชะงักไป เหมือนนึกอะไรออกขึ้นมา ถามว่า "แม่นางชื่อว่าอะไรหรือ?"จั๋วซือหรานมองเขาอย่างครุนคิด ดวงตาลึกซึ้งขึ้นมาแต่ว่าสีหน้าของชายคนนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจั๋วซือหรานจึงตอบว่า "สกุลจั๋ว จั๋วซือหราน ยินดีที่ได้รู้จัก" ในดวงตาของนางมีรอยยิ้มที่ดูลึกลับ "เช่นนั้นพวกเราก็มีวาสนากันสินะ มีชื่อหรานด้วยกันทั้งคู่"ชายหนุ่มไม่พูดอะไรมาก เพียงเอ่ยขึ้นว่า "ในป่านี้อันตราย เจ้ารีบออกจากที่นี่จะดีที่สุด ไม่รู้ว่าเจ้านั้นถ้าตั้งตัวแล้วหาที่นี่เจอ คงได้วุ่นวายกันพอดี"จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1071

    "ความหมายของเจ้าคือ มนุษย์กิ้งก่าเมื่อครู่นี้..." จั๋วซือหรานเรียกว่าคำว่า 'มนุษย์มังกร' ออกมาไม่ได้จริงๆ นางเอ่ยต่อว่า "บนตัวถูกปิดผนึกพลังของมังกรหนามม่วงไว้หรือ?"และเหมือนเพราะนางตอบสนองได้รวดเร็ซ สายตาของชายหนุ่มที่มองไปทางนาง ก็พยักหน้าให้อย่างชื่นชม"พวกองค์กร...ที่มีพลังค่อนข้างลึกล้ำบางส่วน จะรวบรวมพลังพวกนี้ไว้" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น "เลี้ยงคนแบบนี้เอาไว้ในองค์กร เหมือนกับชุบเลี้ยงอาวุธไว้นั่นล่ะ เป็นดาบที่ใช้การได้ดีเลยทีเดียว"พริบตาที่ได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็อดคิดไปถึงสภาผู้อาวุโสนั่นไม่ได้นางขมวดคิ้ว ครุ่นคิด แล้วก็ยังถามขึ้นว่า "ถ้าพลังแข็งแกร่งพอล่ะก็ ยังถูกพวกองค์กรพวกนี้ควบคุมได้อีกหรือ?"ชายหนุ่มไม่ได้พยักหน้าและส่ายหัวให้กับคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน หลังจากที่ชะงักไปเล็กน้อย จึงเอ่ยขึ้นว่า "องค์กรที่พลังลึกล้ำเช่นนี้ ก่อนที่จะทำให้คนเหล่านี้เปลี่ยนเป็นเช่นนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีทางที่จะให้ดาบที่ตนเองตีไว้ ต้องหันมาเฉือนมือตนเองแน่นอน..."ในน้ำเสียงเขามีอาการทอดถอนใจอยู่ "และหนทางเดียวของคนเหล่านี้ ก็คือการตื่นขึ้น แต่การตื่นนั้นก็ยังยากยิ่งกว่าข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1070

    จากนั้นจึงได้ยินเขาเสริมมาให้คำหนึ่ง "ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ใช่กิ้งก่าด้วย"จั๋วซือหรานมองเขา "ไม่ใช่กิ้งก่า? แต่เกล็ดหนังทั้งตัวนั่น...แล้วนิสัยเป็นศัตรูกับพวกแมลง ก็ไม่น่าจะเป็นของพวกจระเข้หรือเปล่า..."จั๋วซือหรานพูด น่าจะเพราะรู้สึกว่าคำพูดต่อจากนี้มันน่าขำ ดังนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา เอ่ยต่อว่า "คงไม่ได้เป็นมังกรหรอกนะ..."จากนั้น นางจึงเห็นว่า...ชายหนุ่มคนนี้ หลังจากได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็จ้องมาที่นาง ไม่พูดอะไรจั๋วซือหรานตกตะลึงไป นางกัดริมฝีปาก "หรือว่าเป็นจริงๆ...?"แม้จะยอมรับโลกแฟนตาซีนี้ได้นานแล้ว กระทั่งหงส์แดงก็ยังมีเลย นางเองก็ยังยอมรับได้ แต่ว่า...มังกรหรือ?แม้จะบอกว่าพลังของคนเมื่อครู่ทำให้นางเกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นา แต่...มังกรเนี่ยนะ?!ชาติที่แล้วนางมาจากแผ่นดินใหญ่ แนวคิดเรื่องมังกร มันไม่ใช่แค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ฝังรากลึกใจเชิงวัฒนธรรม เป็นคำที่สื่อถึงความหมายดีดีมีศิริมงคลแต่เมื่อกี้นี้มัน...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "มังกรดีดีที่ไหนที่หน้าตาเป็นแบบนั้นกัน...ดูแล้วอย่างกับถูกดองเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น"ชายหนุ่มเดิมทีที่มีสีหน้าเคร่งขรึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1069

    เพราะก่อนหน้านี้ที่แล่นผ่านไป ลมหายใจร้อนที่คุ้นเคยจั๋วซือหรานคิดถึงสิ่งนั้นขึ้นมาในพริบตา...ใช่ ผู้ชายที่สมองกลวงไปแล้ว จำนางไม่ได้แล้วคนนั้นเพียงแต่รู้สึกตกตะลึงหน่อยๆ ในใจรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อแต่พอแหงนตาขึ้นมอง...ไม่ใช่เขาที่เข้ามาในสายตาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง แปลกหน้าอย่างสิ้นเชิงเลย แม้ดูแล้วหน้าตาจะหล่อเหลา ถือได้ว่าเป็นใบหน้าคมคายคนหนึ่งแต่ในคิ้วตาไม่มีส่วนไหนทีคล้ายกันเลยแต่ให้พูดตรงๆ ใบหน้าของเจ้าคนสมองพังนั่นก็สวนทางกับธรรมชาติจริงๆ พอคิดว่าจะมีคนที่มีใบหน้าคล้ายกับการสวนทางธรรมชาตินั่นแล้ว ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่จั๋วซือหรานตอนแรกก็ค่อนข้างหลงใหลใบหน้านั้นอยู่ พอได้เห็นใบหน้านั่นก็รู้สึกอารมณ์จะดีขึ้นมาเลย"เจ้า..." จั๋วซือหรานมองชายหนุ่มตรงหน้า เดิมทียังคิดจะพูดอีกคำสองคำ แต่ก็ตระหนักได้ ว่าตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะคุยกันนางเหลือบมองไปทางเจ้า 'ร่างสัตว์' ที่มีเกล็ดหนังของสัตว์ประหลาดคนนั้น แต่ก็พบว่า...หายไปแล้ว?แม้ไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไรแต่อันตรายยังคงอยู่ จั๋วซือหรานมีเวลาพิจารณาสถานการณ์รอบๆ อย่างละเอียด จากนั้นก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา...ไม่ใช่ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1068

    แต่คิดไม่ถึงว่า...!จั๋วซือหรานกระทั่งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองเห็ฯ มันคืออะไรมนุษย์หรือ? หรือว่า...สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์อะไร?ถ้าเป็นข้อหลังจริง สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ลึกลับที่ตนเองเห็นวันนี้มันจะมากไปหน่อยไหม?ผิวหนังส่วนหนึ่งของเขา ดูแล้วมีสีม่วงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ถูกระเบิดมือทำร้ายเอาแล้ว!เพราะกางเกงกว่าครึ่งของเขา กับเสื้อผ้ากว่าครึ่งของเขา ล้วนถูกระเบิดไปหมดแล้ว ส่วนขอบเสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยยังมองเห็นคราบเลือดอยู่แทบจะยืนยันได้ ว่าเขาก่อนหน้านี้ถูกระเบิดมือทำร้ายเข้าไปแล้วและผิวหนังส่วนที่ควรถูกระเบิดจนบาดเจ็บไปแล้ว ตอนนี้กลับมีสีม่วงขึ้นมาเล็กน้อยดูแล้ว กระทั่งยังมีความรู้สึกแข็งแกร่งบางอย่างอีกด้วย!เหมือนจะเป็น...เกล็ดหนัง?จุดที่ถูกระเบิดทำร้ายจนบาดเจ็บบางส่วนบนหน้าเขา น่าจะเป็ฯจุดที่ถูกสะเก็บระเบิดสาดเข้าไป เวลานี้ก็กลายเป็นเกล็ดหนังสีม่วงเข้มไปแล้วไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งตาซ้ายก็ยังเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเป็น ดวงตาแนวตั้งที่เย็นชา คล้ายกับสัตว์เลือดเย็นอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานเองก็พูดไม่ถูก ว่าตอนนี้ ปฏิกิริยาแรกของนางคือ...คนผู้นี้อาจจะเป็นนักค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1067

    ตอนนี้เอง เขาจึงเห็นเจ้าสิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรลักษณะวงรีนั่นอยู่ที่ใต้เท้าตนเองขณะเดียวกัน เขาก็เห็นว่าร่างของหญิงสาวตรงหน้าถอยฉากไปอย่างรวดเร็วเขาขมวดคิ้ว "นี่มันคืออะ..."เสียงยังไม่ทันขาดเสียงสนั่นก็ดังขึ้น!"ตูม...!"เสียงระเบิดดังลั่น แทบจะดังก้องไปทั้งป่า!ทำเอานกนับไม่ถ้วนบินกันแตกตื่น!จั๋วซือหรานไม่รีรอ หมุนตัวหนีออกไปอย่างไม่ลังเลวิชาร่างเปิดออกทั้งหมด ความเร็วเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดและไม่รู้ว่าเมื่อครู่ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอะไร รู้สึกเหมือนเป็นศัตรูแข็งแกร่งที่จับตัวได้ยากจริงๆดังนั้น ปกตินางจะไม่ค่อยใช้ของอย่างระเบิดมือเท่าไรนัก เพราะเสียงมันดังเกินไป ดึงดูดสายตาคนมากไปแต่เมื่อครู่คิดแล้ว เหมือนมีแค่สิ่งนี้ที่เหมาะสมที่สุด และให้ผลไม่คาดคิดมากที่สุดแล้วก็ตามคาด ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่คาดคิดขึ้นมาได้แต่จั๋วซือหรานก็ไม่ได้ประมาท นางไม่รู้สึกว่าระเบิดมือลูกนั้นจะทำให้อีกฝ่ายตายได้แต่ก็น่าจะทำให้อีกฝ่ายลำบากพอควร ส่วนตนเองก็ถือโอกาสนี้ฉากหลบออกมาเสีย จึงเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดเพียงแต่ว่า สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ...ปฏิกิริยาและความเร็วของอีกฝ่าย เร็วได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1066

    นางมองไปยังศัตรูที่อยู่ตรงหน้ากระทั่งสายตายังไม่ทันจับหน้าตาของคนผู้นี้ได้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของอีกฝ่ายดังขึ้นมาฟังแล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์เชิงลบอย่างเย็นชาหรือโกรธแค้นเลยถ้าให้พูดขึ้นมาจริงๆ จั๋วซือหรานกระทั่งรู้สึกว่า เสียงหัวเราะนี้ฟังแล้วดูอบอุ่นอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำคล้ายกับสายลมสายฝน แสงตะวันยามบ่ายอย่างไรอย่างนั้นเหมือนกับว่า นี่ไม่ใช่การโจมตีเพื่อช่วงชิงชีวิต แต่เป็นแค่ใช้กิ่งไม้หรือข้าวฟ่างหางหมามาแย่เจ้าเล่นเท่านั้นและเพราะความรู้สึกนี้ การโจมตีถึงตายบวกกับรอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน จึงเกิดความแตกต่างขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนั้น จั๋วซือหรานจึงได้ยินเส้นเสียงที่อบอุ่นอ่อนโยนของอีกฝ่าย ทุ้มต่ำ ในน้ำเสียงกระทั่งไม่มีความเป็นศัตรูเลยด้วยซ้ำเอ่ยขึ้นมาว่า "กันได้ดี ลองกันอีกครั้งดูไหม?"ในใจจั๋วซือหรานสั่นกึกเพราะน้ำเสียงเช่นนี้...นางคุ้นเคยมาก มั่นใจในตนเอง ไม่เร่งไม่ร้อน ดังนั้นพอได้ยินในหูของฝั่งตรงข้าม กระทั่งทำให้เกิดความรู้สึกหยิ่งผยองหน่อยๆ...นี่เป็นน้ำเสียงที่นางเคยใช้กับศัตรูและคู่ต่อสู้ตอนนี้พอได้ยินจากปากคนอื่น เอาจริงๆ ก็รู้สึกเป็นเอกลักษณ์อยู่เหม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status