Share

บทที่ 1035

Author: หูเทียนเสี่ยว
คนขับรถพอได้ยินคำนี้ แม้จะไม่กล้ายืนยัน แต่ก็ยังสัมผัสได้ ว่าคำนี้ของคุณหนู...เหมือนจะไม่ได้มีความหมายแบบปกติ

"คุณ คุณหนู..." คนขับรถเรียกนางขึ้นมาคำหนึ่ง

ครู่ต่อมาจึงมองสิ่งที่นางยื่นส่งมาให้แบบงงงัน

"อืม ถือไว้" จั๋วซือหรานเอาของในมือส่งไปให้คนขับรถ

คนขับรถรับมาแบบอ้ำอึ้ง ในมือถือสองขาหลังของตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกไว้ ราวกับกำลังถืออะไรบางอย่างที่ระเบิดได้ตลอดเวลาไว้อย่างระมัดระวัง

"คุณหนู..." คนขับรถไม่เข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานอย่างชัดเจน แม้จะเดาเอาไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ หรือบางทีอาจยังไม่กล้าที่จะเชื่อ

ถึงอย่างไรคนปกติก็ไม่มีทางเชื่อ พุ่งฝ่าวงล้อมออกมาแล้วแท้ๆ ตนอนี้ยังคดจะหาทางย้อนกลับไปอีก?

จั๋วซือหรานเอ่ยึ้น "เจ้าเอาสองข้านี้ไปย่างเสีย"

"ขอรับ" คนขับรถพยักหน้า ถามขึ้นอย่างระวัง "แล้วท่านล่ะ?"

จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นบอกว่า "ข้าจะกลับไปหน่อย"

แม้ก่อนหน้านี้คนขับรถจะคาดเดาความเป็นไปได้นี้ไว้ แต่ตอนนี้พอได้ยินจั๋วซือหรานบอกออกมาจากปากตนเอง ในใจก็อดตกตะลึงขึ้นมาไม่ได้ "แต่ว่าคุณหนู พวก พวกเรากว่าจะฝ่าวงล้อมออกมาได้!"

พอเขาพูดคำนี้ วินาทีต่อมา ก็เห็นคุณหนูของตนเองยิ้ม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1036

    "ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องคนมากคนน้อยแล้ว นางตำมือขนาดนี้ คนปกติรับมือนางไม่ได้หรอก แล้วจะไปพึ่งจำนวนคนก็ยิ่งไม่มีประโยชน์""ใช่เลย เห็นอาวุธมหัศจรรย์ของนางแล้วนี่ สำแดงพลานุภาพได้ขนาดนั้น แล้วยังรู้สึกว่านางน่าจะยังดูสบายๆ อีกด้วย น่าจะยังมีอะไรซ่อนไว้อีก ถ้าหากเอาคนมาพอจริง หากคิดจะใช้จำนวนคนเพื่อกดดันนาง ก็ยังรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอยู่ดี"เหมือนกับว่า...จะได้เจอกับเรื่องที่น่ากลัว!ตอนนี้เอง ข้างจู่ๆ ก็มีเสียงในเย็ฯชาดังขึ้น ยืนยันคำพูดของเขา "อืม ลางสังหรณ์ของเจ้าถูกจริงๆ เป็นตัวเลือกที่ฉลาด""ใครกัน!" ทุกคนระแวดระวังกันขึ้นมาและก็มีปฏิกิริยาขึ้นอย่างรวดเร็วว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ยังจะเป็นใครได้ เสียงหญิงสาวใสเย็นในหุบเขานี้...นอกจากคนผู้นั้นที่พุ่งฝ่าปากทางด่านช่องเขาออกไปก่อนหน้านี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหนอีก"จั๋วจิ่ว!" ทุกคนมีปฏิกิริยากันขึ้นมา "นี่เจ้ากล้าเข้ามาติดร่างแหเองเลยเรอะ!"พวกเขาเห็นท่าทางที่จั๋วจิ่วที่มองเข้ามาดูจะขี้เกียจหน่อยๆ ด้วยซ้ำ ก้าวย่างแผ่วเบาเดินตรงมาหาพวกเขา"ใช่ๆๆ ข้าเข้ามาติดร่างแหเองเลย" นางบอกกับพวกเขา ไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ แต่กลับยังพยักหน้ายอมรับอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1037

    บางทีพวกเขาไม่ใช่ไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ แต่พอถูกสายตาที่แผ่จิตสังหารเช่นนี้ของนางกวาดเข้ามา ก็เหมือนทำลายความคิดนี้ทิ้งไปแล้วคนจาก 'สำนักเมฆาวารี' ที่ถูกนางเลือกออกมาเหล่านั้น ล้วนใช้สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือมองพวกเขาแต่พวกเขากลับเลี่ยงสายตาอ้อนวอนเหล่านี้ไป ตอนนี้ใครก็ไม่กล้าไปยุ่งกับหญิงสาวที่เหมือนสุนัขบ้าคนนี้พวกเขาเห็นจั๋วซือหรานลากคนของ 'สำนักเมฆาวารี' ออกไปกระทั่งเสียงร้องก็ยังร้องไม่ออก เหมือนถูกพลังไร้รูปร่างอะไรบางออกไปพวกเขาที่เข้าใจต่อตัวจั๋วจิ่วก็จะชัดเจนดี ว่านั่นคือไหมกู่ของพิษกู่ร้อยไหมหลายตัวของจั๋วจิ่วกระทั่งข่าวที่ปันอวิ๋นให้กับพวกเขาในตอนแรก พิษกู่ร้อยไหมที่เขาหลอมสกัดขึ้นมา ก็ยังไม่มีพลานุภาพมากขนาดนี้เลยแต่ว่าปันอวิ๋นเองก็พูดแล้ว แมลงกู่พวกนี้เป็นของที่แล้วแต่ปัจเจกบุคคล อาจเป็นของหวานของคนหนึ่ง และอาจเป็นยาพิษของอีกคนหนึ่งแมลงกู่แบบเดียวกัน พออยู่ในมือของปรมาจารย์กู่ที่ต่างกัน ก็อาจจะสำแดงพลังที่แตกต่างกันออกมาได้ถ้าต้องพูดเช่นนี้ขึ้นมาจริง พลานุภาพของพิษกู่ร้อยไหมหลายตัวในมือจั๋วซือหรานนี้คือสุดยอดแล้ว...พวกเขากระทั่งกังวลว่าคนเหล่านี้จะถู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1038

    แล้วจึงยกใบไม้ขึ้น กินอย่างเอร็ดอร่อยขึ้นมาทั้งที่อย่างกันนอกป่าแบบนี้ แต่พอนางกินขึ้นมา กลับไม่ได้ดูหยาบกร้านเลยแม้แต่น้อย มองแล้วดูสง่างามหน่อยๆ ด้วย"กินสิ งงอะไรกัน" จั๋วซือหรานเชิดคางให้กับคนขับรถเขาจึงเพิ่งได้สติกลับมา ยกใบไม้ขึ้นแล้วลงมือกินก่อนหน้านี้ยังรู้สึกงงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน ตอนนี้กลับสนแต่กินๆ แล้วก็กินอารารร้อนๆ ปลอบประโลมใจคนได้ดีที่สุด อารมณ์เขาสงบลงมาอย่างรวดเร็วถามจั๋วซือหรานคำหนึ่ง "คุณหนู พวกเขาคือ...ตัวประกันหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานเหลือบมองไปทางคนของสำนักเมฆาวารี "พวกเขาเป็นคนของสำนักเมฆาวารี เดิมทีคิดว่าพอถามเสร็จจะจัดการทิ้ง แต่พอตอนนี้เจ้าบอกว่าตัวประกัน ก็เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาแล้ว"คนพวกนั้นถูกสกัดจุดพูดเอาไว้ จึงพูดอะไรไม่ออกแต่ก็ไม่ได้สกัดการได้ยินไว้ ดังนั้นจึงได้ยินการสนทนากันของจั๋วซือหรานกับคนขับรถ พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาก็ทยอยกันถลึงตาโตน่าจะเพราะไม่คิดว่า หญิงสาวงดงามตรงหน้าจะมีความโหดร้ายระดับนี้เลยทีเดียว!และไม่รู้ว่าเพราะคำพูดของจั๋วซือหรานสร้างบทบาทขึ้นหรือเปล่าหรือบางทีตอนที่พูดออกมานางจงใจทำให้พวกเขาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 2

    ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 3

    แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 4

    น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมากใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมายเฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิมทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันทีแต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาแต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง"อ๊าก ๆ——!“ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัวสายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้นหากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมาในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 5

    ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพเฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้*จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1038

    แล้วจึงยกใบไม้ขึ้น กินอย่างเอร็ดอร่อยขึ้นมาทั้งที่อย่างกันนอกป่าแบบนี้ แต่พอนางกินขึ้นมา กลับไม่ได้ดูหยาบกร้านเลยแม้แต่น้อย มองแล้วดูสง่างามหน่อยๆ ด้วย"กินสิ งงอะไรกัน" จั๋วซือหรานเชิดคางให้กับคนขับรถเขาจึงเพิ่งได้สติกลับมา ยกใบไม้ขึ้นแล้วลงมือกินก่อนหน้านี้ยังรู้สึกงงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน ตอนนี้กลับสนแต่กินๆ แล้วก็กินอารารร้อนๆ ปลอบประโลมใจคนได้ดีที่สุด อารมณ์เขาสงบลงมาอย่างรวดเร็วถามจั๋วซือหรานคำหนึ่ง "คุณหนู พวกเขาคือ...ตัวประกันหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานเหลือบมองไปทางคนของสำนักเมฆาวารี "พวกเขาเป็นคนของสำนักเมฆาวารี เดิมทีคิดว่าพอถามเสร็จจะจัดการทิ้ง แต่พอตอนนี้เจ้าบอกว่าตัวประกัน ก็เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาแล้ว"คนพวกนั้นถูกสกัดจุดพูดเอาไว้ จึงพูดอะไรไม่ออกแต่ก็ไม่ได้สกัดการได้ยินไว้ ดังนั้นจึงได้ยินการสนทนากันของจั๋วซือหรานกับคนขับรถ พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาก็ทยอยกันถลึงตาโตน่าจะเพราะไม่คิดว่า หญิงสาวงดงามตรงหน้าจะมีความโหดร้ายระดับนี้เลยทีเดียว!และไม่รู้ว่าเพราะคำพูดของจั๋วซือหรานสร้างบทบาทขึ้นหรือเปล่าหรือบางทีตอนที่พูดออกมานางจงใจทำให้พวกเขาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1037

    บางทีพวกเขาไม่ใช่ไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ แต่พอถูกสายตาที่แผ่จิตสังหารเช่นนี้ของนางกวาดเข้ามา ก็เหมือนทำลายความคิดนี้ทิ้งไปแล้วคนจาก 'สำนักเมฆาวารี' ที่ถูกนางเลือกออกมาเหล่านั้น ล้วนใช้สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือมองพวกเขาแต่พวกเขากลับเลี่ยงสายตาอ้อนวอนเหล่านี้ไป ตอนนี้ใครก็ไม่กล้าไปยุ่งกับหญิงสาวที่เหมือนสุนัขบ้าคนนี้พวกเขาเห็นจั๋วซือหรานลากคนของ 'สำนักเมฆาวารี' ออกไปกระทั่งเสียงร้องก็ยังร้องไม่ออก เหมือนถูกพลังไร้รูปร่างอะไรบางออกไปพวกเขาที่เข้าใจต่อตัวจั๋วจิ่วก็จะชัดเจนดี ว่านั่นคือไหมกู่ของพิษกู่ร้อยไหมหลายตัวของจั๋วจิ่วกระทั่งข่าวที่ปันอวิ๋นให้กับพวกเขาในตอนแรก พิษกู่ร้อยไหมที่เขาหลอมสกัดขึ้นมา ก็ยังไม่มีพลานุภาพมากขนาดนี้เลยแต่ว่าปันอวิ๋นเองก็พูดแล้ว แมลงกู่พวกนี้เป็นของที่แล้วแต่ปัจเจกบุคคล อาจเป็นของหวานของคนหนึ่ง และอาจเป็นยาพิษของอีกคนหนึ่งแมลงกู่แบบเดียวกัน พออยู่ในมือของปรมาจารย์กู่ที่ต่างกัน ก็อาจจะสำแดงพลังที่แตกต่างกันออกมาได้ถ้าต้องพูดเช่นนี้ขึ้นมาจริง พลานุภาพของพิษกู่ร้อยไหมหลายตัวในมือจั๋วซือหรานนี้คือสุดยอดแล้ว...พวกเขากระทั่งกังวลว่าคนเหล่านี้จะถู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1036

    "ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องคนมากคนน้อยแล้ว นางตำมือขนาดนี้ คนปกติรับมือนางไม่ได้หรอก แล้วจะไปพึ่งจำนวนคนก็ยิ่งไม่มีประโยชน์""ใช่เลย เห็นอาวุธมหัศจรรย์ของนางแล้วนี่ สำแดงพลานุภาพได้ขนาดนั้น แล้วยังรู้สึกว่านางน่าจะยังดูสบายๆ อีกด้วย น่าจะยังมีอะไรซ่อนไว้อีก ถ้าหากเอาคนมาพอจริง หากคิดจะใช้จำนวนคนเพื่อกดดันนาง ก็ยังรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอยู่ดี"เหมือนกับว่า...จะได้เจอกับเรื่องที่น่ากลัว!ตอนนี้เอง ข้างจู่ๆ ก็มีเสียงในเย็ฯชาดังขึ้น ยืนยันคำพูดของเขา "อืม ลางสังหรณ์ของเจ้าถูกจริงๆ เป็นตัวเลือกที่ฉลาด""ใครกัน!" ทุกคนระแวดระวังกันขึ้นมาและก็มีปฏิกิริยาขึ้นอย่างรวดเร็วว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ยังจะเป็นใครได้ เสียงหญิงสาวใสเย็นในหุบเขานี้...นอกจากคนผู้นั้นที่พุ่งฝ่าปากทางด่านช่องเขาออกไปก่อนหน้านี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหนอีก"จั๋วจิ่ว!" ทุกคนมีปฏิกิริยากันขึ้นมา "นี่เจ้ากล้าเข้ามาติดร่างแหเองเลยเรอะ!"พวกเขาเห็นท่าทางที่จั๋วจิ่วที่มองเข้ามาดูจะขี้เกียจหน่อยๆ ด้วยซ้ำ ก้าวย่างแผ่วเบาเดินตรงมาหาพวกเขา"ใช่ๆๆ ข้าเข้ามาติดร่างแหเองเลย" นางบอกกับพวกเขา ไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ แต่กลับยังพยักหน้ายอมรับอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1035

    คนขับรถพอได้ยินคำนี้ แม้จะไม่กล้ายืนยัน แต่ก็ยังสัมผัสได้ ว่าคำนี้ของคุณหนู...เหมือนจะไม่ได้มีความหมายแบบปกติ"คุณ คุณหนู..." คนขับรถเรียกนางขึ้นมาคำหนึ่งครู่ต่อมาจึงมองสิ่งที่นางยื่นส่งมาให้แบบงงงัน"อืม ถือไว้" จั๋วซือหรานเอาของในมือส่งไปให้คนขับรถคนขับรถรับมาแบบอ้ำอึ้ง ในมือถือสองขาหลังของตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกไว้ ราวกับกำลังถืออะไรบางอย่างที่ระเบิดได้ตลอดเวลาไว้อย่างระมัดระวัง"คุณหนู..." คนขับรถไม่เข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานอย่างชัดเจน แม้จะเดาเอาไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ หรือบางทีอาจยังไม่กล้าที่จะเชื่อถึงอย่างไรคนปกติก็ไม่มีทางเชื่อ พุ่งฝ่าวงล้อมออกมาแล้วแท้ๆ ตนอนี้ยังคดจะหาทางย้อนกลับไปอีก?จั๋วซือหรานเอ่ยึ้น "เจ้าเอาสองข้านี้ไปย่างเสีย""ขอรับ" คนขับรถพยักหน้า ถามขึ้นอย่างระวัง "แล้วท่านล่ะ?"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นบอกว่า "ข้าจะกลับไปหน่อย"แม้ก่อนหน้านี้คนขับรถจะคาดเดาความเป็นไปได้นี้ไว้ แต่ตอนนี้พอได้ยินจั๋วซือหรานบอกออกมาจากปากตนเอง ในใจก็อดตกตะลึงขึ้นมาไม่ได้ "แต่ว่าคุณหนู พวก พวกเรากว่าจะฝ่าวงล้อมออกมาได้!"พอเขาพูดคำนี้ วินาทีต่อมา ก็เห็นคุณหนูของตนเองยิ้ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1034

    เขางงเป็นไก่ตาแตก นายท่านแค่พูดไม่กี่คำ? แต่ว่านี่...กำลังคุยกับแมงมุมอยู่จริงหรือ? ด้านนอกลือกันว่า คุณหนูของเขาเป็นนักภาษาสัตว์ ที่แท้...ก็เป็นเรื่องจริงสินะ!ราชาแมงมุมหน้าผียกแขนเคียวประกายหิมะขึ้น ฉีกแควกเปิดรังไหมสีขาวที่ห่อด้วยใยแมงมุมซึ่งอยู่ด้านหลังพวกมันออกมาเผยให้เห็นของที่ถูกห่ออยู่ด้านใน มีหลายรังไหมที่ห่อแมลงรูปร่างประหลาดไว้ ดูแล้วเหมือนเป็นหิ่งห้อยกับผึ้งรวมร่างกันแล้วขยายใหญ่ขึ้นใหญ่ขนาดแพะตัวหนึ่ง มีปีกใส ร่างท่อนบนกับขาหลังที่เหมือนมีแรงดีดมหาศาลแบบตั๊กแตนแต่ช่วงทอ้งกลับเหมือนผึ้ง ส่วนหางมีเหล็กในพิษแหลมคมแต่คนที่เห็นอะไรมาเยอะ ก็จะมองออกว่า นี่คือตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยก สัตว์ประหลาดประเภทแมลงที่จัดการได้ยากชนิดหนึ่งเพราะมันเป็นแมลงแบบอยู่เป็นฝูง แล้วยังมีเหล็กในพิษเหมือนผึ้งอีกด้วย พอโจมตีเข้ามาเป็นกลุ่ม พลังโจมตีนั้นดูถูกไม่ได้เลย ในป่าต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่ง ก็ไม่แน่ว่าจะกล้าเข้าไปยุ่งกับตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกพวกนี้ผู้บำเพ็ญที่เป็นมนุษย์เองแน่นอนว่าไม่กล้า แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าขาหลังที่ใหญ่โตของตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกนี้จะมีรสชาติยอดเยี่ยมมากๆ ในโลกมนุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1033

    คนขับรถทำตามความต้องการของจั๋วซือหราน หยุดรถม้าลงมาจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ก็เก็บกิ่งไม้ส่วนหนึ่งเข้ามา ก่อเป็นกองไฟเล็กๆคนขับรถเดิมทียังคิดจะทำตัวให้กล้าเข้าไว้ ถึงอย่างไร...ออกจากบ้านมาภายนอก จะให้คุณหนูมาทำงานหยาบๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน?!แต่ว่า คุณหนูก็ทำได้ทั้งเร็วและดีเลย...คนขับรถแอบรู้สึกดีใจที่คุณหนูยังต้องการให้เขาขับรถต่อให้จั๋วซือหรานกอดเขาอยู่ข้างกองไฟ ดูเหมือนจะเบื่อๆ อย่างไรอย่างนั้นแสงไฟสะท้อนในดวงตานาง ครู่ต่อมา นางก็กลอกตามองไปทางด่านช่องภูเขาก่อนหน้านี้ เหลือบมองไปครู่หนึ่งช่วงการเหลือบมองนี้ ทำให้คนขับรถเกิดเครียดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล "มี...มีคนตามมาหรือ?"จั๋วซือหรานส่ายหัว หยิบท่อนไม้ออกมาเขี่ยกองไฟเล่น "กลัวคนไล่มาทำไมกัน เพียงแต่ว่า แมงมุมของข้ายังไม่กลับมากันเลย ข้าเองก็หิวแล้วด้วย"คนขับรถอันที่จริง...ก็ยังฟังความสัมพันธ์ของเหตุและผลไม่ค่อยเข้าใจนัก แมงมุมไม่กลับมากับหิวแล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?แต่เขาก็ไม่ได้ถามละเอียด แต่รีบพูดขึ้นว่า "บนรถมีเสบียงแห้งอยู่ขอรับ คุณหนูจะกินเสียหน่อยไหม?"จั๋วซือหรานส่ายหัวถ้านางยอมกินพวกนั้น ก็คงไม่ต้องหิว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1032

    จนตอนเลิกเสื้อผ้าขึ้นแล้วมองดู...บนกล้ามเนื้อหน้าท่องที่แน่นกระชับ แข็งแรง นกจากรอยเลือดบางส่วนแล้ว...ก็แทบเหลืออะไรอยู่เลยถ้าหากไม่ใช่ยังมีรอยเลือดสะดุดตากับรอยแผลเป็นจางๆ ที่เหลืออยู่บนนั้น ใครก็มองไม่ออกทั้งนั้นว่าก่อนหน้านี้เคยบาดเจ็บมา"เอ๋?" ผู้ใต้บัญชาสงสัยขึ้นมา "เป็นไปได้อย่างไร...ทั้งที่เลือดออกมากขนาดนี้แท้ๆ"ปันอวิ๋นลุกขึ้นนั่ง ใช้มือปัดๆ ฝุ่นบนเสื้อผ้าออก ท่วงท่ายังคงสง่างามเช่นเคย เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ "มีคนก่อนที่จะออกไปรักษาให้ข้าไว้น่ะ"ผู้ใต้บัญชาพอได้ยินคำนี้ ก็คิดถึงเป้าหมายของนายท่านวันนี้ขึ้นมา ต่อมาจึงตอบสนองกลับมาได้ "นายท่านจะบอกว่า...แม่นางจั๋วจิ่วคนนั้น?"ปันอวิ๋นไม่ตอบ เพียงแต่ในสายตามีความสนใจขึ้นอย่างลึกซึ้งผู้ใต้บัญชาถาม "นายท่าน ่ทางนี้ไม่มีเรื่องของเราแล้วกระมัง? กลับกันไหม?""ไม่" ปันอวิ๋นปฏิเสธ "กลับไปไม่มีอะไรทำ นางน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ"ปันอวิ๋นกำชับกับผู้ใต้บัญชา "ไป ดูว่านางไปหยุดลงที่ไหน คิดจะไปไหน จากนั้นมารายงานข้าด้วย""ขอรับ"อีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานหลังจากผ่านด่านช่องภูเขามาได้ ก็เป็นทางราบม้าวิ่งคนขับรถอดถอนใจยินดีไม่ได้ "โว้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1031

    "อุก" คิ้วงามของปันอวิ๋นขมวดเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูเจ็บปวดมากเท่าไรเขาเหลือบมองแผลที่เอวตนเองผาดหนึ่ง จุ๊ปากขึ้นมา "จะสังหารสามีรึ"ในน้ำเสียงที่พูดกระทั่งมีความยานคางอยู่เล็กน้อยจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก ดังนั้นจึงขี้เกียจจะไปแกสรรพนามเขาใหม่นางยื่นมือไปจับข้อมือปันอวิ๋นเขาก้มลงมืองข้อมือที่ถูกจับไว้ผาดหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังวูบหนึ่งที่ค่อยๆ ถ่ายเข้ามา"อื๋อ?" ในจมูกปันอวิ๋นมีเสียงพยางค์ความสงสัยดังขึ้นมาแต่เขายังไม่ทันจะมีปฏิกิริยา จั๋วซือหรานก็คลายมือออกแล้ว จากนันจึงยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง ถีบเขาตกลงไปจากบนรถน่าจะเพราะการกระทำนี้ของนางเกินจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ดังนั้นตอนที่จั๋วซือหรานถีบเขาลงจากรถม้า สีหน้าของปันอวิ๋นจึงเหลือเครื่องหมาย '???' เอาไว้อยู่พักหนึ่งหลังของปันอวิ๋นสัมผัสกับพื้นดิน กระแทกจนเจ็บปวดขึ้นมา เขาไม่ได้ใส่ใจนัก และได้ยินเสียงใสเย็นชาของหญิงสาวที่เหมือนมีแววขบขันลอยแว่วมาตามลม:"รักษาให้เจ้าแล้วนะ เอาไว้เจอกันใหม่ เจ้าหุบเขาปัน"ปันอวิ๋นล้มลงอยู่กับพื้น จึงเอามือไปรองที่หลังคออย่างเกียจคร้าน นอนมันบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1030

    ฝุ่นดินเหล่านั้นกระทั้งทำให้สายตาของคนขับเลือนรางด้วยแต่เขาก็ไม่กล้าหยุด ทำตามคำสั่งของนายท่านอย่างเดียวเท่านั้น ตรงไป! ตรงไป!เขาเองก็ไม่รู้ว่าคูน้ำข้างหน้าพวกนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร แต่สรุปคือเขาต้องตรงไปอย่างเดียว!ที่คิดไม่ถึงก็คือ รถม้าแม้จะโคลงเคลง แต่ก็ไม่ได้หยุดลง!ในใจคนขับคิดขึ้นมาอย่างตกตะลึง หรือว่าแมงมุมพวกนั้นจะถมคูน้ำจนเรียบได้จริง!จากนั้นเขาจึงเห็นว่าคุณหนูยกมือตบเบาๆ ไปที่ตัวม้า ส่งแรงปลอบประโลมออกมาคนขับถามเสียงขึ้นเสียงเล็ก "คุณหนู เป็นอย่างไรบ้าง?""โอ้ ไม่เป็นไร ม้าแค่เครียดนิดหน่อย แมงมุมน้อยของข้าตัวใหญ่ไปหน่อย มันเลยตกใจน่ะ ข้าปลอบเสียหน่อย" จั๋วซือหรานตอบคนขับตอนนี้จึงเพิ่งรู้ "นี่พวกมันถมคูน้ำจนเรียบแล้วหรือ?"จั๋วซือหรานร้องอืมเสียงหนึ่ง "สัตว์ประหลาดอย่างพวกแมงมุมชนิดนี้ มีแขนเคียวคู่นั้นอยู่ ถนัดการขุดเจาะเป็นที่สุด แค่ถมคูน้ำแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย"คนขับเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "ดีจริงๆ เช่นนั้นพวกเราก็ออกไปได้แล้ว!"ปากทางด่านช่องภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่หลังจากที่ฝุ่นดินสลายไป คนขับก็หรี่ตาลง เห็นว่าที่ปากทางด่านช่องภูเขามีคนคนหนึ่งยืนอยู่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status