Share

บทที่ 899

Penulis: ดอกถังร่วงหล่น
จิ่งโม่เยี่ยกล่าวอย่างเรียบเฉยไร้อารมณ์ว่า “พูดตามตรง ข้าค่อนข้างสบายใจ”

เส้นทางนี้พระสนมสวี่เป็นคนเลือกเอง เขาไม่เคยบีบบังคับนาง

ตอนที่พระสนมสวี่ตาย เขาอาจจะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ไม่ได้รู้สึกจิตใจว้าวุ่นไม่สงบอย่างแน่นอน

แท้จริงแล้วเขาตกใจยิ่งกว่าจิ่งสือเยี่ยนเสียอีกที่พระสนมสวี่ทำแบบนี้ เรื่องนี้เกินความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง

จิ่งสือเยี่ยนไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ จึงกล่าวด้วยความตกใจว่า “พี่สาม ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นคนแบบนี้!”

ตอนนี้จิ่งโม่เยี่ยไม่อยากพูดไร้สาระกับเขาอีกต่อไป จึงกล่าวสวนออกไปว่า “อย่าคิดว่าข้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”

จิ่งสือเยี่ยนขมวดคิ้ว

จิ่งโม่เยี่ยกล่าวกับคนที่อยู่ด้านหลังว่า “นำศพมหาราชครูออกไป ประกาศให้โลกรู้ว่าอ๋องจิ้นเป็นคนฆ่าเขา”

จิ่งสือเยี่ยนรีบกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ทำ!”

จิ่งโม่เยี่ยกล่าวอย่างใจเย็นว่า “เมื่อครู่มีพยานพบเห็นเจ้าลงมือไม่ใช่น้อย เรื่องนี้เจ้าปฏิเสธไม่ได้”

จิ่งสือเยี่ยนอยากจะบอกว่าที่นี่ไม่มีคนอื่น มีแต่จิ่งโม่เยี่ย จิ่งโม่เยี่ยกำลังใส่ร้ายเขา

ทว่าพริบตาต่อมาเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ จึงหันกลับไปมอง จึงเห็นหัวหน้ากรมราชทัณฑ์และเสนาบ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 900

    เขาพูดจบก็จะเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของเสนาบดีฝ่ายซ้าย แต่เสนาบดีฝ่ายซ้ายกลับเบี่บงหลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็วเสนาบดีฝ่ายซ้ายเห็นชัดเจนว่ามือของจิ่งสือเยี่ยนปาดผ่านใบหน้าที่เปื้อนอุจจาระของเขา เสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่อยากให้ตัวเขาเปื้อนอุจจาระ!ความเร็วในการหลบของเสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่เหมือนขุนนางฝ่ายบุ๋นเลย มันรวดเร็วจนน่าตกใจ จิ่งสือเยี่ยนมองเสนาบดีฝ่ายซ้ายด้วยความตกใจเสนาบดีฝ่ายซ้ายกระแอมเบาๆ แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้ว พวกเราสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”เขาหันไปถามหัวหน้ากรมราชทัณฑ์ว่า “เรื่องที่อ๋องจิ้นฆ่ามหาราชครู พวกท่านจะตัดสินอย่างไร?”หัวหน้ากรมราชทัณฑ์ตอบว่า “มหาราชครูเดิมทีก็ทำความผิดถึงตาย เพียงแต่เพราะเขาเสียสติ พวกเราจึงไม่ได้ตัดสินโทษประหารเขา”“ดังนั้น ถึงแม้อ๋องจิ้นจะฆ่ามหาราชครู ทว่าคดีแบบนี้ โทษของเขาไม่นับว่าร้ายแรง”“ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นเชื้อพระวงศ์ ตามกฎหมายแล้วแค่ปรับเงินร้อยตำลึง ก็พ้นโทษจำคุกได้”เขาแอบถอนหายใจเงียบๆ ในยามปกติจิ่งสือเยี่ยนดูเป็นคนที่มีคุณธรรมและเที่ยงตรง ทว่าเรื่องนี้เขาจัดการได้ย่ำแย่มากจริงๆเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่สายตาย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 901

    แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เขาส่งไปปล่อยข่าวกลับมาด้วยสีหน้าซีดเซียวจิ่งสือเยี่ยนถามว่า “เป็นอะไรไป? ทำตามคำสั่งไม่สำเร็จงั้นหรือ?”ผู้ใต้บังคับบัญชาทำท่าอึกอัก จิ่งสือเยี่ยนจึงพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ อย่ามัวแต่อ้ำอึ้ง”ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบว่า “ข่าวที่ท่านอ๋องให้ผู้น้อยไปปล่อยนั้น ผู้น้อยปล่อยออกไปหมดแล้ว และทุกอย่างก็ราบรื่นดีพ่ะย่ะค่ะ”“นักเล่าเรื่องที่เราจ้างก็เป็นคนที่เก่งที่สุดในเมืองหลวง ความสามารถของพวกเขานั้นไม่ต้องสงสัยเลย”จิ่งสือเยี่ยนถามว่า “ในเมื่อเจ้าทำงานสำเร็จลุล่วงได้ดี แล้วทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น?”ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบว่า “เพราะว่าในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง”จิ่งสือเยี่ยนขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เรื่องเล่า? เรื่องเล่าอะไร?”ผู้ใต้บังคับบัญชาลอบมองเขาแล้วเอ่ยรายงานว่า “หากข้าน้อยพูดความจริง ท่านอ๋องอย่าโกรธนะพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเขาพูดเกริ่นนำมาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น “แค่เรื่องเล่าเรื่องเท่านั้น ทำไมข้าต้องโกรธด้วย?”“เจ้าพูดมาเถอะ ข้าจะไม่ถือโทษโกรธเจ้า”ผู้ใต้บังค

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 902

    จิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!”ใครเป็นคนแต่งเรื่องบ้าบอพวกนี้ขึ้นมา?เรื่องเล่านี้นอกจากจะดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีของเขาอย่างถึงขีดสุด ยังสร้างความเสียหายอย่างยิ่งด้วย!จิ่งสือเยี่ยนรู้สึกว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยเจอเรื่องอะไรที่ทำให้พูดไม่ออกได้ขนาดนี้มาก่อนเขาขบกรามแน่น พูดด้วยความโกรธ “ไปสืบ! ไปสืบให้ข้า! ข้าจะดูว่าใครกันแน่ที่มันเลวทรามต่ำช้าขนาดนี้ กล้าสร้างเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวมาใส่ร้ายข้า!”คนสนิทของเขายืนนิ่งอยู่กับที่จิ่งสือเยี่ยนถามว่า “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปสืบอีก?”คนสนิทตอบว่า “เพราะตอนที่ข้าน้อยกำลังจะไปสืบ ข้าน้อยก็บังเอิญเจอคนที่ปล่อยข่าวลือนั้นพอดี นางฝากข้าน้อยมาบอกท่านอ๋อง”จิ่งสือเยี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง ถามว่า “ใคร? แล้วฝากบอกอะไร?”คนสนิทมองเขาแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “คนผู้นั้นก็คือพระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ”เมื่อจิ่งสือเยี่ยนได้ยินคำนี้ หัวใจเขาก็เต้นแรง พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการก็คือเฟิ่งชูอิ่งแต่เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเฟิ่งชูอิ่งกับจิ่งโม่เยี่ยก่อนหน้านี้ไม่ค่อยดีนัก นางพยายามที่จะหนีออกจากเมืองหลวงหลายครั้งครั้งล่าสุดที่เขาไปที่คุกเพื่อพานาง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 903

    เพราะเรื่องแบบนี้มันไม่สามารถพิสูจน์ได้ตั้งแต่แรกแล้ว อีกอย่างเขาเองก็ร้อนตัวอยู่เล็กน้อยเหมือนกันเขากับเหล่านางสนมในวังหลังก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ใจเสียทีเดียวจิ่งสือเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “อดทน อดทนอีกหน่อย พอคนของเราแทรกซึมเข้ามาในเมืองหลวงได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว”คนสนิทรับคำแล้วก็ถอยออกไปจิ่งสือเยี่ยนเดินวนไปวนมาในห้องด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน จากนั้นก็หยุดอยู่ข้างหน้าต่างเขาเปิดหน้าต่างออกเล็กน้อย ปล่อยให้ลมหนาวพัดเข้ามาข้างในลมหนาวพัดผ่านใบหน้าของเขา ทำให้เขาได้สติจากความเดือดดาลเขาเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “เฟิ่งชูอิ่ง เรื่องพวกนี้เจ้าเดาเอาเอง หรือว่าก่อนหน้านี้เจ้าไปล่วงรู้อะไรมา?”เฉี่ยวหลิงก็ถามคำถามคล้ายๆ กับที่จิ่งสือเยี่ยนถาม “คุณหนู อ๋องจิ้นกับพวกนางสนมมีอะไรกันจริงๆ หรือเจ้าคะ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ไม่รู้ ข้าเดาเอา ข่าวลือแบบนี้มันแก้ต่างได้ยากอยู่แล้ว”“ยิ่งเป็นข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวด้วยแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะยืนยันความบริสุทธิ์”ความจริงแล้วนางรู้เรื่องที่จิ่งสือเยี่ยนมีความสัมพันธ์กับนางสนมในวังหลังไม่ใช่ว่านางสืบจนรู้ แต่นางพอจะรู

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 904

    เฉี่ยวหลิงถอนหายใจ “คุณหนู ตอนนี้คุณหนูก็ออกโรงช่วยเขาแล้ว ยอมรับว่าชอบเขาก็ไม่เสียหายหรอกเจ้าค่ะ”“อีกอย่าง เขาก็เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว ข้าที่อยู่ข้างๆ ยังมองออกเลย เขารักคุณหนูจริงๆ”“เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเพื่อคุณหนู ยอมตามใจคุณหนูทุกอย่าง จะไม่บังคับให้คุณหนูทำอะไรอีกแล้ว”“เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อคุณหนู เรื่องครั้งนั้นพูดได้ว่าเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง”“คุณหนูจะลงโทษเขาอย่างไรก็ได้ แต่อย่าลงโทษตัวเองเลย”“ถ้ายังตัดใจจากเขาไม่ได้ก็คบกับเขาไปเถอะเจ้าค่ะ ถ้าเขาทำตัวไม่ดีกับคุณหนู หรือคุณหนูหมดรักเขาแล้ว คุณหนูก็ไปจากเขาได้ทุกเมื่อ”เฟิ่งชูอิ่งมองเฉี่ยวหลิง นางรู้สึกว่าสาวใช้คนนี้รู้เรื่องเยอะเกินไปแล้วเฉี่ยวหลิงกลับเข้ามาใกล้แล้วพูดเบาๆ ว่า “อีกอย่าง เขาก็หน้าตาดี เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในใต้หล้า”“ถึงแม้ว่าคุณหนูกับเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากัน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ”“ในความคิดของข้า ผู้ชายแบบนี้หายากนัก ถึงคุณหนูจะไม่ชอบเขา อย่างน้อยก็น่าจะนอนกับเขาสักสองสามครั้ง”“ถ้าเขาลีลาไม่ยอดเยี่ยมหรือเข้ากับคุณหนูไม่ได้ คุณหนูก็แค่ถีบหัวส่งเขาท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 905

    ขณะที่นายบ่าวสองคนกำลังคุยกันอยู่ ปู๋เยี่ยโหวก็โผล่หน้าเข้ามา เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า "ชูชู ข้าได้ยินมาว่าเจ้าแต่งเรื่องเกี่ยวกับจิ่งสือเยี่ยน""วันนี้ข้าตั้งใจไปฟังมา ฮ่าๆ ตลกมากเลยล่ะ!"เขากล่าวพลางหัวเราะเสียงดัง เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่าท่าทางของเขาดูเหมือนคนโง่เขลายิ่งกว่าเดิม จนแทบไม่อยากจะมองต่อปู๋เยี่ยโหวยืนกอดอกกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้คนทั้งเมืองหลวงต่างคิดว่าจิ่งสือเยี่ยนเป็นสุภาพบุรุษ พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำเอาคนตาบอดพวกนั้นตกตะลึงไปเลย"เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หันไปพูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า "เรื่องที่เจ้าแต่งนั้นยอดเยี่ยมมาก เจ้าพอจะบอกข้าได้ไหมว่านางสนมที่แอบมีความสัมพันธ์กับจิ่งสือเยี่ยนคือใครบ้าง?"เฟิ่งชูอิ่งถามว่า "เจ้าถามเรื่องนี้ทำไม? อย่าบอกนะว่าคิดจะไปนอนกับนางสนมพวกนั้นด้วย?"ปู๋เยี่ยโหว “......”นางคิดว่าเขาเป็นคนแบบไหนกัน!เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า "ข้าไม่ใช่จิ่งสือเยี่ยนนะ ไม่ได้ต่ำช้าขนาดนั้น""แค่คิดถึงหน้าตาของฮ่องเต้เจาหยวน รวมถึงนิสัยของจิ่งสือเยี่ยน หากต้องใช้ผู้หญิงคนเดียวกันกับพวกเขา ข้าก็รู้สึกคลื่นไส้จะอาเจียนแล้ว!"เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางรู้สึกว่าเขากำลั

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 906

    เรื่องเล่าของปู๋เยี่ยโหวมีรายละเอียดดังนี้หลังจากฮ่องเต้เจาหยวนทรงประชวรหนัก จิ่งสือเยี่ยนก็รู้สึกว่าแผ่นดินนี้สมควรเป็นของเขา สนมวังหลังของฮ่องเต้เจาหยวนก็ควรตกเป็นของเขาเช่นกัน นี่แหละคือการสืบทอดมรดกของบรรพบุรุษอย่างแท้จริงดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างเขาจึงแวะไปเล่นสนุกกับสนมในวังหลังจิ่งสือเยี่ยนไม่เพียงชอบนางสนมที่สวยสดเยาน์วัยเท่านั้น แต่ยังชอบบรรดาสนมสูงวัยด้วย เขารู้สึกว่าสนมที่อายุมากมีรสชาติจัดจ้านมากกว่าดังนั้นเขาจึงหลับนอนกับสนมสูงวัยในวังทุกคน ยกเว้นพระมารดาของเขาเองในตอนแรกฮองเฮาไม่เต็มใจ แต่หลังจากที่จิ่งสือเฟิงตายไป ฮองเฮาก็ฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเขา และยอมมีสัมพันธ์สวาทกับเขาขันทีและนางกำนัลในวังหลายคนรู้เห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ของพวกเขาเนื่องจากจิ่งสือเยี่ยนจะเป็นองค์ชายเพียงคนเดียวที่มีอำนาจอย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นคนเดียวที่สามารถต่อกรกับจิ่งโม่เยี่ยได้ ดังนั้นทุกคนจึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งถึงขั้นระเริงรักกันต่อหน้าฮ่องเต้เจาหยวนเดิมทีพระองค์กำลังฟื้นตัว แต่กลับถูกพวกเขากระตุ้นจนกระอักเล

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 907

    “เจ้าโตจนป่านนี้แล้ว ตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง จะไม่รู้แก่ใจเชียวหรือ?”สีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนย่ำแย่อย่างมาก เขาทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่างแต่เฟิ่งชูอิ่งพูดก่อนที่เขาจะได้อ้าปากว่า “ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว พูดต่อเดี๋ยวข้าด่าเอานะ”“ถึงแม้ว่าเราจะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว ไม่จำเป็นต้องไว้หน้ากันอีกแล้ว”“แต่ถ้าเจ้าคิดว่าจะเถียงชนะข้าได้ ก็ไม่เป็นไร ข้าจะเถียงด้วย”“บอกตามตรง ข้ายังมีคำด่าอีกเยอะ ถ้าไม่รังเกียจ ข้าสามารถด่าแบบรวดเดียวไม่พักได้ รับรองไม่ซ้ำ”ไม่เห็นจะยากตรงไหน นางแค่ทวนคำด่าที่น้องสาวนางเคยด่าเขาเอาไว้ก็พอ ไม่ต้องคิดเองด้วยซ้ำจิ่งสือเยี่ยน “......”เดิมทีเขาคิดว่าคำด่าของนางเมื่อครู่นี้ก็แย่มากแล้วแต่ฟังจากน้ำเสียงของนาง คำพูดเหล่านั้นดูเหมือนจะยังสุภาพอยู่ นางยังไม่ได้เริ่มด่าจริงจังจิ่งสือเยี่ยนเติบโตมาในราชวงศ์ ปกติได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีการพูดแบบเอาหลักเหตุผลเข้าสู้เขาทำได้ แต่คำด่าเขาก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญนักประเด็นคือ ถึงแม้เขาจะรู้คำด่าเยอะจริงๆ เขาก็ไม่สามารถทิ้งภาพลักษณ์ขององค์ชายมายืนด่ากับนางตรงนี้ได้สถานการณ์แบบนี้ ถึงด่าชนะก็ขายหน้า ด่าแพ้ก็ขายหน

Bab terbaru

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status