แชร์

บทที่ 849

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 18:00:01
เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินทอง ขอเพียงแค่ให้จัดการเรื่องต่างๆ ในราชสำนักอย่างยุติธรรมก็พอ

แต่ในราชสำนัก จะมีความยุติธรรมที่แท้จริงได้อย่างไร? วิธีการจัดการเรื่องต่างๆ ของเขานั้นน่าพูดถึงทีเดียว

ในการจัดการเรื่องต่างๆ เขาไม่ได้ทำตัวเป็นพวกหัวร้อนวัยรุ่นทั่วไปที่เอาแต่ทำเรื่องวุ่นวาย

เขาจะใช้วิธีอ้อมๆ ในการจัดการเรื่องพวกนี้ แต่ก็สามารถจัดการได้อย่างราบรื่น

เขายังเชี่ยวชาญในการรักษาสมดุลของทุกฝ่าย ถึงจะไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ทุกเรื่อง แต่ก็ทำให้พอใจได้เจ็ดในสิบส่วน

ดังนั้นชื่อเสียงของเขาในเมืองหลวงจึงค่อนข้างดี

ลับหลังผู้คนจะด่าเขาว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่า แต่พอเจอหน้ากันก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ

และเนื่องจากเขาไม่มีพ่อแม่ ภรรยาและลูก จึงไม่มีความต้องการอะไรมาก เงินเดือนแต่ละเดือนนอกจากจะใช้จ่ายในบ้านแล้ว ก็เอาไปช่วยเหลือบัณฑิตยากจน

ปู๋เยี่ยโหวเคยสรุปเรื่องของท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายว่า “ในสถานการณ์แบบนี้ เขาคงไม่มีเงินเหลือติดตัวจริงๆ”

“ในบรรดาขุนนางทั้งเมืองหลวง ท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายน่าจะจนที่สุด”

เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินปู๋เยี่ยโหวพูดถึงท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายเช่นนั้น นางก็รู้สึกว่าเสนาบดี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 850

    ตอนที่เฟิ่งชูอิ่งฟังเรื่องราวของเสนาบดีฝ่ายซ้าย นางรู้สึกสะเทือนใจอยู่บ้างก่อนหน้านี้นางคิดว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายเป็นนักการเมืองที่ชอบเล่นเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ถึงแม้ว่าการกระทำของเขามีขอบเขตของตัวเอง จะไม่ทำเรื่องที่ไร้ความปราณี แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเป็นคนดีถึงตอนนี้ แม้ว่านางยังคงรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนดี แต่ก็นับว่าเป็นคนที่น่าสงสารเขาเหมือนจะประสบพบเจอกับโศกนาฏกรรมใหญ่ๆ ในชีวิตของมนุษย์มาครบถ้วนแล้ว ทั้งสูญเสียพ่อตั้งแต่ยังเด็ก สูญเสียภรรยาตอนวัยกลางคน ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเสนาบดีฝ่ายซ้ายถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “เจ้าอาจจะคิดว่าข้ามาเรียกร้องความสงสารในวันนี้”“ที่จริงแล้ว ความทุกข์และความเจ็บปวดที่แท้จริงนั้น ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้”“สิ่งที่พูดออกไปได้ เป็นเพียงข้อเท็จจริงที่คนนอกสามารถเข้าใจได้ ส่วนสิ่งที่พูดไม่ได้คือความเจ็บปวดและบาดแผลที่ไม่สิ้นสุดในใจ”“วันนี้ข้าพูดเรื่องพวกนี้กับเจ้า ไม่ใช่ว่าต้องการให้เจ้าเห็นใจข้า แต่ข้าเพียงต้องการทำดีกับนางให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”“ข้าอายุไม่น้อยแล้ว สำหรับเรื่องราวในโลกนี้ ไม่กล้าพูดว่าตัวเองสามารถมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 851

    เรื่องนี้ก็ถูกเปิดโปงออกมาตรงๆเสนาบดีฝ่ายซ้ายเห็นราชโองการที่วางอยู่บนโต๊ะ ก็หยิบขึ้นมาดูแวบหนึ่งเขาเห็นแล้วก็หนังตากระตุก “พวกเจ้ากำลังทำราชโองการปลอม?”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “แน่นอนว่าไม่ ราชโองการนี้มหาราชครูเป็นคนเขียน พวกเราเอามาจากจวนมหาราชครู”เสนาบดีฝ่ายซ้ายหยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “ลายมือนี้ถึงจะคล้ายกับของฮ่องเต้องค์ก่อนมาก แต่ก็ไม่ใช่ลายมือของฮ่องเต้องค์ก่อน”“การลอกเลียนแบบนี้ถึงจะไม่เลว แต่ได้เพียงรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้แก่นแท้”เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างประหลาดใจ “ฟังเจ้าพูดแบบนี้ เหมือนเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้?”เสนาบดีฝ่ายซ้ายยิ้มแล้วพูดว่า “สิ่งที่ข้าชอบทำที่สุดในชีวิตก็คือการลอกเลียนแบบลายมือ”“การเลียนแบบลายมือคนอื่นไม่ใช่เรื่องยาก”เขาพูดถึงตรงนี้ก็มองไปที่เฟิ่งชูอิ่ง “สาวน้อย เอาอย่างนี้ดีไหม เจ้าเอาตั๋วเงินคืนข้า แล้วข้าทำงานชดใช้ทุนเป็นไง?”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ปู๋เยี่ยโหว “......”เสนาบดีฝ่ายซ้ายรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไร?เรื่องเขียนราชโองการปลอม พอดูดจากปากของเสนาบดีฝ่ายซ้าย กลับกลายเป็นเรื่องที่พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเขาเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้ายน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 852

    เขาเดินไปสองสามก้าวแล้วหันกลับมามอง เห็นเสนาบดีฝ่ายซ้ายนั่งสงบนิ่งอยู่ที่เดิม ท่าทางยังคงดูเป็นเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่คุ้นเคยเขาเบะปากเล็กน้อย แล้วไปหาหมึกพู่กันและกระดาษมาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหยิบพู่กันกับหมึกขึ้นมาเขียนราชโองการ จากนั้นทั้งเฟิ่งชูอิ่งและปู๋เยี่ยโหวก็เงียบไปเพราะพวกเขาเห็นแล้วว่าลายมือนี้เหมือนกับลายมือบนราชโองการฉบับจริง แต่ลายมือบนราชโองการดูมีพลังกว่าปู๋เยี่ยโหวยกนิ้วโป้งให้เสนาบดีฝ่ายซ้าย “ท่านเจ๋งสุดยอด!”เสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดอย่างใจเย็น “แค่นี้ยังถือว่าไม่ได้อะไร ข้ายังมีความสามารถพิเศษอีกอย่างที่ยังไม่ได้แสดง”ทั้งสองคนจ้องมองเขาพร้อมกันเขาถามปู๋เยี่ยโหว “มีมีดขนาดเล็กกับไม้ที่เหมาะกับการแกะสลักไหม?”ครั้งนี้ปู๋เยี่ยโหวไม่ได้ถามอะไรต่อ สั่งให้คนนำของมาให้ทันทีเสนาบดีฝ่ายซ้ายหยิบมีดเล็กและไม้ขึ้นมา ภายในเวลาไม่นานก็แกะสลักตัวอักษรบนตราลัญจกรของฮ่องเต้ออกมาอย่างคร่าวๆจากนั้นเขาก็นำไม้ที่แกะสลักนั้นจุ่มหมึกแล้วประทับลงบนกระดาษ ตัวอักษรที่ปรากฏก็เหมือนกับบนตราลัญจกรของฮ่องเต้เพียงแต่ว่านี่แกะสลักจากไม้ จึงไม่ละเอียดเท่าของจริงเฟิ่งชูอิ่งทำเสียง “ซี้ด” เบาๆ “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 853

    เฟิ่งชูอิ่งกอดอกมองเขาพลางพูดว่า “ก็ได้ งั้นท่านคิดจะคิดค่าบริการเท่าไหร่ล่ะ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็วางถ้วยชาลง “ค่าบริการของข้าก็ไม่สูงหรอก แค่เจ้าช่วยข้าเกลี้ยกล่อมนางให้ยอมมาอยู่จวนข้าก็พอ”พูดจบเขาก็เหลือบมองไปทางปู๋เยี่ยโหว “พวกเจ้าไม่ชอบจับจุดอ่อนของคนอื่นอยู่แล้วหรือ”“บัดนี้ ข้าเปิดเผยจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของข้าต่อหน้าพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้ายังมีอะไรต้องกังวลอีก”ปู๋เยี่ยโหว “...…”เขารู้สึกว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายเป็นคนเจ้าเล่ห์เดิมทีเขาอยากจะพูดว่า ถ้าเสนาบดีฝ่ายซ้ายกล้าเล่นตุกติก เขาจะจับเด็กสาวคนนั้นมาแต่เขายังพูดไม่ทันจบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดออกมาก่อนแล้วปู๋เยี่ยโหวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ถ้าไม่รู้ว่าท่านเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้าย ข้าคงคิดว่าท่านโดนปีศาจเข้าสิงแล้ว”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “...…”เขาอยากจะฆ่าปู๋เยี่ยโหวให้ตายปู๋เยี่ยโหวพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่ข้าคิดว่าเรื่องนี้สามารถร่วมมือกันได้ ท้ายที่สุดพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน”เสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดอย่างใจเย็น “ข้ากับเจ้าไม่ใช่เพื่อนกัน”“ครั้งนี้ข้าลงมือก็เพราะเด็กคนนี้ ถ้านางยินยอมช่วยข้า ข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 854

    จิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองไปทางเสนาบดีฝ่ายซ้ายอย่างเย็นชาเสนาบดีฝ่ายซ้ายยิ้มพลางยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ ทำท่าทางให้ดูสมกับตำแหน่งขุนนางใหญ่ แต่กลับพบว่าในถ้วยไม่มีน้ำชาเสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขาจึงรินชาให้ตัวเองพลางพูดว่า “ท่านอ๋องคงไม่คิดว่าไม่คุ้มค่า ตรงกันข้ามยังสนุกกับมันด้วยซ้ำ”พูดจบเขาก็มองกลับไปที่จิ่งโม่เยี่ย “ข้าก็เหมือนกัน”เมื่อเขาพูดมาถึงขั้นนี้ จิ่งโม่เยี่ยจึงพูดว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้ายที่ข้าเห็นตอนนี้ต่างจากที่เคยเห็นมาก่อน”เสนาบดีฝ่ายซ้ายถอนหายใจเบาๆ “คนเราอยู่ในราชสำนัก จะมีสักกี่หน้ากันเชียว?”“หน้าหนึ่งให้ฮ่องเต้เห็น อีกหน้าให้ขุนนางเห็น ตัวตนที่แท้จริงจะแสดงออกต่อหน้าเพื่อนสนิทเท่านั้น”“ท่านอ๋องกับท่านโหวไม่ใช่สวมหน้ากากให้คนอื่นเห็นมาหลายปีแล้วหรือ? เรื่องนี้ข้าคิดว่าพวกท่านน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าข้า”ปู๋เยี่ยโหวเท้าสะเอวพูดว่า “เวลาเจ้าคุยกับจิ่งโม่เยี่ย อย่าลากข้าเข้าไปเกี่ยวด้วยได้ไหม?”เสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่สนใจเขา แต่ถามจิ่งโม่เยี่ยว่า “ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าที่ข้าพูดมีเหตุผลไหม?”จิ่งโม่เยี่ยไม่ตอบแต่ถามกลับว่า “ทำไมต้องเป็นข้า?”“ถึงแม้เสนาบดีฝ่ายซ้ายจะสอบได้จ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 855

    เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “เรื่องนี้อย่าใจร้อน ข้าว่างแล้วจะไปหานางเอง”ถึงแม้ว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะร้อนใจ แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เร่งด่วนอะไรนัก เขาจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นนางก็จำเรื่องนี้ไว้ด้วยล่ะ ข้ากลับก่อนนะ”ตอนที่เขาก้มคำนับเมื่อครู่นั้นทำได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ตอนนี้พอจะยืนขึ้นก็ร้องโอ๊ย โอ๊ยเฟิ่งชูอิ่ง “......”ปู๋เยี่ยโหว “......”ไม่เคยเจอคนแก่ที่เสแสร้งเก่งเท่านี้มาก่อนเลยเสนาบดีฝ่ายซ้ายจ้องไปที่ปู๋เยี่ยโหวแล้วพูดว่า “กำแพงบ้านเจ้าสร้างสูงขนาดนั้นทำไม?”ปู๋เยี่ยโหว “......”นี่มันอะไรกัน เสนาบดีฝ่ายซ้ายปีนกำแพงบ้านเขาแล้วยังมาบ่นกำแพงบ้านเขาอีก นี่มันเหตุผลอะไรกัน?ยิ่งไปกว่านั้น กำแพงบ้านเขามันเกี่ยวอะไรกับเสนาบดีฝ่ายซ้าย!เสนาบดีฝ่ายซ้ายจ้องไปที่เฟิ่งชูอิ่งอีกครั้ง “ถ้าเจ้าตอบตกลงข้าตั้งแต่แรก ข้าก็ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้!”เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนแก่ที่เรื่องมากสุดๆ จึงไม่ตามใจเขาและตอบกลับไปตรงๆ ว่า “ตอนนี้ข้าก็สามารถเปลี่ยนใจได้นะ”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขาจ้องมองนางอีกครั้งพร้อมกับเอามือจับเอวและบิดสะโพกเดินออกไป “คนสมัยนี้ใจคด โลกเสื่อมทรามลงทุกวัน”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 856

    จิ่งโม่เยี่ยกล่าวเบาๆ ว่า “ก่อนหน้านี้ข้าคิดมาตลอดว่าเสด็จพ่อถูกฮ่องเต้เจาหยวนช่วงชิงอำนาจไปอย่างกะทันหัน พระองค์ไม่ได้เตรียมพระทัยไว้”“แต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุขร่มเย็น พระองค์ไม่ใช่คนโง่เขลา”“เป็นไปไม่ได้ที่พระองค์จะไม่ทรงสังเกตเห็นอะไรเลย ไม่ได้เตรียมการอะไรไว้เลย”“คำตอบเดียวก็คือ พระองค์ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว หรืออาจจะพูดได้ว่าพระองค์ยอมสละเพื่อพระสนมสวี่”แม้ว่าฮ่องเต้องค์ก่อนจะสิ้นพระชนม์ไปหลายปีแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือราษฎร ต่างก็กล่าวสรรเสริญพระองค์ความทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิตของพระองค์มาจากพระสนมสวี่ พระองค์ทุ่มเททุกอย่างให้กับพระสนมสวี่ แต่ในใจของพระสนมสวี่กลับไม่เคยมีพระองค์อยู่เลยตอนนี้จิ่งโม่เยี่ยก็ไม่รู้ว่าฮ่องเต้องค์ก่อนคิดอย่างไรในตอนนั้น แต่เขารู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ก่อนในตอนนั้นน่าจะเจ็บปวดอย่างมากจริงๆ แล้วฮ่องเต้องค์ก่อนในตอนนั้นมีทางเลือกมากมาย แต่พระองค์กลับเลือกวิธีที่ทำให้จิ่งโม่เยี่ยไม่รู้ว่าจะตัดสินอย่างไรการที่ฮ่องเต้องค์ก่อนตั้งจิ่งโม่เยี่ยเป็นรัชทายาท ไม่ใช่การตัดสินใจกะทันหัน แต่เป็นการวางแผนไว้ล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 857

    จิ่งโม่เยี่ยมองเขาด้วยสายตาแบบมองคนโง่แล้วพูดว่า “กระดาษแผ่นนี้ใช้กระดาษที่เขาทำเองกับมือเมื่อสิบกว่าปีก่อน”“เมื่อเขาสวรรคต ก็ไม่มีใครในโลกนี้ทำกระดาษแบบนี้ได้อีกแล้ว”“ส่วนหมึกที่ใช้ก็เป็นหมึกบรรณาการทั้งหมด หมึกแบบนี้มีแค่ฮ่องเต้เท่านั้นที่ใช้ได้”“ถึงแม้ฝีมือของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะชำนาญแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางได้สองสิ่งนี้มา”“จะว่าไปแล้ว สองสิ่งนี้ได้มายากกว่าราชโองการเสียอีก”นี่คือเหตุผลที่เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นของจริงปู๋เยี่ยโหวดูที่กระดาษแผ่นนั้น แล้วก็ดูลายมือ เขาดูไม่ออกเลยสักนิดเฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ว่าจดหมายฉบับนี้จะจริงหรือปลอม ตอนนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็เป็นคนของเราแล้ว นี่เป็นเรื่องดี”เรื่องนี้เป็นความจริงวันนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายมาแสดงความจริงใจอย่างมาก เขาก็พูดตรงไปตรงมานางไม่สนใจว่าจดหมายจะจริงหรือปลอม นางสนใจแค่ท่าทีของเสนาบดีฝ่ายซ้ายปู๋เยี่ยโหวลูบจมูกแล้วพูดว่า “ก็ใช่นะ ตาแก่นี่ดูจริงใจมาก”จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้สนใจเขา แต่พูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “อยู่ที่นี่สบายดีไหม? ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่า?”เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ได้ตอบ ปู๋เยี่ยโหวก็พูดขึ้นมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

DMCA.com Protection Status