แชร์

บทที่ 857

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 19:02:59
จิ่งโม่เยี่ยมองเขาด้วยสายตาแบบมองคนโง่แล้วพูดว่า “กระดาษแผ่นนี้ใช้กระดาษที่เขาทำเองกับมือเมื่อสิบกว่าปีก่อน”

“เมื่อเขาสวรรคต ก็ไม่มีใครในโลกนี้ทำกระดาษแบบนี้ได้อีกแล้ว”

“ส่วนหมึกที่ใช้ก็เป็นหมึกบรรณาการทั้งหมด หมึกแบบนี้มีแค่ฮ่องเต้เท่านั้นที่ใช้ได้”

“ถึงแม้ฝีมือของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะชำนาญแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางได้สองสิ่งนี้มา”

“จะว่าไปแล้ว สองสิ่งนี้ได้มายากกว่าราชโองการเสียอีก”

นี่คือเหตุผลที่เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นของจริง

ปู๋เยี่ยโหวดูที่กระดาษแผ่นนั้น แล้วก็ดูลายมือ เขาดูไม่ออกเลยสักนิด

เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ว่าจดหมายฉบับนี้จะจริงหรือปลอม ตอนนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็เป็นคนของเราแล้ว นี่เป็นเรื่องดี”

เรื่องนี้เป็นความจริง

วันนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายมาแสดงความจริงใจอย่างมาก เขาก็พูดตรงไปตรงมา

นางไม่สนใจว่าจดหมายจะจริงหรือปลอม นางสนใจแค่ท่าทีของเสนาบดีฝ่ายซ้าย

ปู๋เยี่ยโหวลูบจมูกแล้วพูดว่า “ก็ใช่นะ ตาแก่นี่ดูจริงใจมาก”

จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้สนใจเขา แต่พูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “อยู่ที่นี่สบายดีไหม? ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่า?”

เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ได้ตอบ ปู๋เยี่ยโหวก็พูดขึ้นมา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 858

    เมื่อเฟิ่งชูอิ่งรับปากท่านเสนาบดีซ้ายว่าจะช่วยพาเด็กสาวกลับจวน นางก็เริ่มลงมือเตรียมการเรื่องนี้ให้เฉี่ยวหลิงไปสืบดูน่าจะเหมาะสมที่สุด ดังนั้นนางจึงเรียกเฉี่ยวหลิงกลับมาทันทีที่เฉี่ยวหลิงกลับมา นางก็ได้กลิ่นแปลกๆนางถามพลางบีบจมูก “เจ้าไปทำอะไรมา”เฉี่ยวหลิงดมกลิ่นตัวเอง แต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไร จึงตอบว่า “ก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ไปป้อนขี้ให้ท่านมหาราชครูกินเท่านั้นเอง”เฟิ่งชูอิ่งรู้ว่าช่วงนี้เฉี่ยวหลิงทำแบบนี้มาตลอด แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนนางกลับมานางก็ไม่ได้มีกลิ่นแบบนี้เฉี่ยวหลิงอธิบายว่า “วันนี้ข้ารู้สึกว่าการป้อนขี้ให้ท่านมหาราชครูกินทีละนิดมันไม่สะใจ ข้าเลยกดหัวเขาลงไปในส้วมให้กินแบบนัันเลย”“ข้านั่งยองๆ อยู่ข้างส้วมนานไปหน่อยเลยติดกลิ่นมา ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”พูดจบนางก็รีบวิ่งออกไปเฟิ่งชูอิ่ง “……”นางไม่คิดเลยว่าเฉี่ยวหลิงจะโหดได้ขนาดนี้กดหัวมหาราชครูลงไปกินขี้ในส้วม นี่มันสุดยอดไปเลย!การชำระล้างร่างกายของวิญญาณร้ายแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป สำหรับมนุษย์ทั่วไปแล้วมันค่อนข้างซับซ้อนแต่เฉี่ยวหลิงได้เรียนวิชาของสำนักลี้ลับจากเหมยตงยวนเพียงแค่ร่ายมนตร์ชำระล้างร่างกายก็สะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 859

    “หลายปีมานี้ ถ้าข้าไม่อยู่แกคงตายไปแล้ว ของทุกอย่างที่แกมีเป็นของข้า”“พอแกอายุสิบห้าเมื่อไหร่ แกต้องมาเป็นลูกสะใภ้ลูกชายข้า”พูดจบนางก็พยายามแย่งหยกที่เด็กสาวถืออยู่ในมือเด็กสาวกำไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้ข้า ท่านเอาไปไม่ได้!”ป้าคนนั้นแสยะยิ้มเยาะ “แม่แกตายไปแล้ว ศพก็เน่าเปื่อยไปแล้ว แกเก็บของนี่ไว้มีประโยชน์อะไร!”“เอามาให้ข้าดีกว่า ข้าจะเอาไปขายเอาเงินมาสร้างบ้านได้ตั้งครึ่งหลัง พอแกแต่งเข้ามาจะได้มีที่อยู่”พูดจบนางก็ออกแรงยื้อแย่งก่อนหน้านี้เด็กสาวไม่เคยขัดขืนเวลาถูกนางผลัก แต่ครั้งนี้กลับไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาดป้าโกรธจัด “นังเด็กเวรนี่ หน้าด้านนักนะ!”พูดจบก็ทำท่าจะตบหน้าเด็กสาวแต่ไม่ว่าอย่างไรมือของนางก็ตบไม่ลง เหมือนมีอะไรมาจับมือไว้กลางอากาศป้าเห็นภาพนี้ก็ตกใจ หน้าซีดเล็กน้อย “อะไรกันเนี่ย?”เด็กสาวคิดว่าวันนี้คงจะโดนตีเหมือนทุกครั้งแต่ฝ่ามือที่คิดว่าจะโดนกลับไม่มาถึง ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจนางเห็นมือของป้าหยุดอยู่ห่างจากหน้าประมาณสามนิ้ว เหมือนโดนของเข้าจากนั้นเด็กสาวก็เห็นมือของป้าหักไปด้านหลังอย่างแปลกประหลาด ป้าร้องเสียงหลง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 860

    แรงเตะนั้นมหาศาล ราวกับจะเตะอวัยวะภายในของเขาให้เคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมเขากระแทกกับต้นไม้ด้านหลังอย่างแรง ล้มลงไปกองกับป้าคนนั้นสมองของเขายังพอใช้ได้มากกว่าป้าคนนั้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองป้าที่สลบไปข้างๆ แล้วนึกถึงแรงเตะที่เหมือนมาจากไหนก็ไม่รู้ เขาไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้วเขาก็เห็นเด็กหญิงยังยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ประตูรั้วก็ปิดเองโดยฉับพลันเขายังได้ยินเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นข้างหูว่า “ถ้าแกล้งนางอีก ข้าจะฆ่าล้างครัวแก!”พอได้ยินคำนี้ ขาเขาก็อ่อนยวบ ไม่สนใจเมียตัวเอง รีบวิ่งกลับบ้านแล้วปิดประตูอย่างแน่นหนาวันนี้เฉี่ยวหลิง ได้รับคำสั่งจากเฟิ่งชูอิ่งให้มาสืบข่าว จริงๆ แล้วนางไม่อยากยุ่งเรื่องของเด็กหญิงคนนี้เลยนางแค่ต้องสืบเรื่องให้เรียบร้อย แล้วรายงานให้เฟิ่งชูอิ่งก็พอแต่พอเห็นป้าคนนั้นรังแกเด็กหญิง นางก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองเคยถูกทารุณ ไม่ว่าอย่างไรก็อดทนไม่ไหวเลยต้องลงมือนางนึกถึงคำพูดของ เฟิ่งชูอิ่งที่บอกว่านางสามารถลงมือได้ ตราบใดที่ไม่ฆ่าคนก็พอนางจึงสั่งสอนป้าคนนั้นกับสามีของนางหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ นางก็รู้สึกโล่งใจแต่ไม่ทันไร ความโล่งใจนั้นก็หายไปเพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 861

    “แต่ในจิตใต้สำนึกของท่านต้องมีข้าอยู่แน่ๆ พอท่านเห็นข้าถูกคนรังแกในวันนี้ ท่านก็เลยเข้ามาช่วยเหลือข้า”เฉี่ยวหลิง “......”ถ้านางไม่มีความทรงจำเรื่องการถูกทรมานจนตายในกรมราชทัณฑ์ นางอาจจะเผลอหลงเชื่อคำพูดของเด็กสาวคนนี้ไปแล้วนางอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้าจริงๆ!”เด็กสาวได้ยินนางปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็รู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้เสียงดังออกมาทันที “ท่านแม่ ข้ารู้ว่าข้าทำตัวไม่ดี ข้ายังไม่ดีพอ”“แต่ข้าคิดถึงท่านแม่มาก ข้ารักท่านแม่มากจริงๆ!”“ได้โปรดอย่าทิ้งข้าเลยนะ!”เฉี่ยวหลิง “!!!!!!”นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย?เด็กสาวร้องไห้เสียใจอย่างหนัก เสียงของนางดังทะลุจนไปถึงห้องข้างๆห้องข้างๆ เดิมทีแค่รู้สึกสงสัย พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็เชื่อว่าแม่ของเด็กสาวกลับมาหานางแล้วจริงๆคนที่จิตใจไม่ซื่อคิดถึงสิ่งที่พวกเขาทำกับเด็กสาวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็พากันหวาดกลัวจนตัวสั่น ปิดประตูบ้านให้หนาแน่นขึ้นอีกหลายส่วนแต่คนเหล่านี้ไม่รู้เลยว่าถ้าวิญญาณร้ายหมายจะเอาชีวิตจริงๆ วิญญาณร้ายก็สามารถลอยทะลุผ่านกำแพงเข้าไปได้การปิดประตูอย่างแน่นหนาเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 862

    เฉี่ยวหลิงไม่อยากจะพูดอะไรอีกแล้วจริงๆนางหันไปมองเด็กสาวตัวน้อยที่นอนหลับอย่างน่ารักน่าเอ็นดูอยู่ตรงนั้น ด้วยความรู้สึกสงสารเด็กสาวตัวน้อยดูน่ารักมาก แต่เพราะได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าจึงยังมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนักเฟิ่งชูอิ่งมองนางแล้วพูดว่า "ข้าจะไปเรียกท่านพ่อก่อน จะได้รักษาแผลให้นางสักหน่อย"เหมยตงยวนเข้ามาตรวจดูอาการของเด็กสาวตัวน้อยอย่างรวดเร็วเด็กสาวตัวน้อยไม่มีปัญหาอะไรมาก เพียงแต่ขาดสารอาหารเป็นเวลานาน ประกอบกับวันนี้เจอเรื่องกระทบจิตใจมากเกินไปและเสียเลือดไปมาก จึงหมดสติไปเหมยตงยวนทำแผลให้นางแล้วปล่อยให้นางนอนหลับพักผ่อน หลังจากนั้นก็บำรุงร่างกายให้ดีหลังจากเฟิ่งชูอิ่งฟังจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนหน้านี้นางไม่เคยเห็นเด็กสาวตัวน้อยมาก่อน เพียงแต่ฟังคำบรรยายของเสนาบดีฝ่ายซ้าย คิดว่าถึงแม้พ่อแม่นางจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เพื่อนบ้านข้างเคียงก็ยังดูแลนางอยู่บ้างแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านางคิดผิดมหันต์เด็กสาวตัวน้อยขาดสารอาหารเป็นเวลานาน แสดงว่าความเป็นอยู่ของนางยังเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขประกอบกับสิ่งที่เฉี่ยวหลิงเห็นในวันนี้ แสดงว่านางถูกเพื่อนบ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 863

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายเลือกใช้วิธีผิด ถ้าตอนนั้นเขาหาวิธีพาเด็กสาวตัวน้อยกลับไปที่จวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายโดยตรง ปัญหานี้อาจจะไม่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกนางลูบหัวเด็กสาวตัวน้อยแล้วพูดว่า "เจ้าวิเคราะห์ได้ถูกต้อง"ในเวลานั้นเอง ปู๋เยี่ยโหวก็เดินเข้ามาในห้องทานอาหาร "ชูชู ได้ยินมาว่าจุดอ่อนของเสนาบดีฝ่ายซ้ายถูกเฉี่ยวหลิงพาเข้าจวนแล้วหรือ?"หลังจากพูดจบเขาก็สังเกตเห็นเด็กสาวตัวน้อย "หา เด็กคนนี้เองหรือ? ดูแล้วเป็นเด็กที่ทั้งน่ารักและเรียบร้อยนี่นา!"เขาหมายความว่าเด็กสาวตัวน้อยดูไม่น่ารำคาญชวนไม่สบอารมณ์เหมือนเสนาบดีฝ่ายซ้ายเด็กสาวตัวน้อยเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขา นางดึงชายแขนเสื้อของเฟิ่งชูอิ่งแล้วพูดว่า "ท่านยังบอกอีกว่าท่านไม่ใช่เทพธิดา!""ท่านเป็นเทพธิดา ส่วนเขาเป็นเทพเซียน!"ในสายตาของนาง ไม่ว่าจะเป็นเฟิ่งชูอิ่งหรือปู๋เยี่ยโหว ต่างก็งดงามเกินความเป็นจริงเหมือนกับภาพวาดเฟิ่งชูอิ่งคลี่รอยยิ้มอย่างจนใจ ขณะที่ปู๋เยี่ยโหวหัวเราะอย่างชอบใจ "เด็กน้อย เจ้ามีสายตาที่ยอดเยี่ยม! เอาล่ะ อันนี้ข้าให้เจ้า"หลังจากพูดจบเขาก็ยื่นกล่องใบหนึ่งให้เด็กสาวตัวน้อย ข้างใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 864

    เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ไม่ใช่ ข้าเป็นสหายของเขา”เด็กสาวมองเฟิ่งชูอิ่งกับปู๋เยี่ยโหวสลับไปมาหลายรอบ เหมือนจะสื่อว่าอ๋อ ที่แท้พวกท่านก็เป็นแบบนี้กันนี่เอง!เฟิ่งชูอิ่ง “…...”ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะ!ปู๋เยี่ยโหวเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “เด็กน้อย เจ้าอยากกินอะไรก็บอกมาได้เลยนะ ข้าจะให้ห้องครัวทำให้”เด็กสาวตอบ “ข้าอยากกินขาไก่”ในความคิดของนาง นี่คืออาหารที่ราคาแพงที่สุดแล้วปู๋เยี่ยโหวรีบสั่งห้องครัวให้ทำอาหารทันทีดังนั้น ตอนเที่ยงเด็กสาวก็ได้กินขาไก่ที่นางแทบจะไม่เคยมีโอกาสได้กินถึงแม้นางจะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงให้นางอยู่ที่นี่ แต่นางก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับนางเด็กสาวหนีไปไหนไม่ได้ จึงได้แต่อยู่ที่จวนของปู๋เยี่ยโหวไปก่อนตอนที่เฉี่ยวหลิงพาเด็กสาวมา นางไม่ได้เอาเสื้อผ้าติดตัวมาด้วย แม้จะเอาเสื้อผ้าของเด็กสาวมาด้วย เสื้อผ้าของอีกฝ่ายก็ขาดรุ่งริ่งทั้งหมดเพราะเด็กสาวเข้าใจผิดคิดว่าเขากับเฟิ่งชูอิ่งมีความสัมพันธ์กันในเชิงคนรัก ปู๋เยี่ยโหวจึงรู้สึกว่าเด็กสาวช่างมีสายตาที่เฉียบแหลม เขาจึงค่อนข้างชื่นชอบเด็กสาวคนนี้ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ช่างตัดเย็บในจวนทำเสื้อผ้าให้เด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 865

    ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กสาวจะเชื่อใจแค่เฉี่ยวหลิง แต่การที่ยอมเชื่อเฉี่ยวหลิงแล้วย้ายเข้าไปอยู่ในจวนปู๋เยี่ยโหวก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากเขาได้ยินเฟิ่งชูอิ่งเล่าเรื่องที่เพื่อนบ้านทำกับเด็กสาว ดวงตาของเขาก็สาดประกายเย็นชาด้วยฐานะของเขา การจัดการกับพวกที่รังแกเด็กสาวนั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเสนาบดีฝ่ายซ้ายเป็นคนที่รักษาคำพูด หลังจากที่เด็กสาวย้ายเข้าไปอยู่ในจวนปู๋เยี่ยโหว เขาก็เขียนราชโองการฉบับใหม่ขึ้นมาและประทับตราลงไปเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตะลึงเมื่อเห็นตราประทับบนราชโองการฉบับนั้นนี่แหละที่เรียกว่าของปลอมที่เหมือนของจริงยิ่งไปกว่านั้นเขายังใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง เรียกได้ว่าไม่มีที่ติเลยแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของตราลัญจกรก็ยังสมบูรณ์แบบที่สำคัญคือ ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีไหน ถึงทำให้ราชโองการดูเก่าได้เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ฝีมือของเสนาบดีฝ่ายซ้ายนี่สุดยอดจริงๆ!""ต่อไปไม่ต้องเป็นเสนาบดีฝ่ายซ้ายแล้ว ไปตั้งแผงขายของบนสะพานข้ามแม่น้ำ รับรองรวยเละแน่นอน!"เสนาบดีฝ่ายซ้ายลูบเคราแล้วพูดว่า "ก็แค่ฝีมือเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น""ด้วยชื่อเสียงของข้า ไม่ต้องไปตั้งแผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

DMCA.com Protection Status