แชร์

บทที่ 853

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 19:02:59
เฟิ่งชูอิ่งกอดอกมองเขาพลางพูดว่า “ก็ได้ งั้นท่านคิดจะคิดค่าบริการเท่าไหร่ล่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็วางถ้วยชาลง “ค่าบริการของข้าก็ไม่สูงหรอก แค่เจ้าช่วยข้าเกลี้ยกล่อมนางให้ยอมมาอยู่จวนข้าก็พอ”

พูดจบเขาก็เหลือบมองไปทางปู๋เยี่ยโหว “พวกเจ้าไม่ชอบจับจุดอ่อนของคนอื่นอยู่แล้วหรือ”

“บัดนี้ ข้าเปิดเผยจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของข้าต่อหน้าพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้ายังมีอะไรต้องกังวลอีก”

ปู๋เยี่ยโหว “...…”

เขารู้สึกว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายเป็นคนเจ้าเล่ห์

เดิมทีเขาอยากจะพูดว่า ถ้าเสนาบดีฝ่ายซ้ายกล้าเล่นตุกติก เขาจะจับเด็กสาวคนนั้นมา

แต่เขายังพูดไม่ทันจบ เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดออกมาก่อนแล้ว

ปู๋เยี่ยโหวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ถ้าไม่รู้ว่าท่านเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้าย ข้าคงคิดว่าท่านโดนปีศาจเข้าสิงแล้ว”

เสนาบดีฝ่ายซ้าย “...…”

เขาอยากจะฆ่าปู๋เยี่ยโหวให้ตาย

ปู๋เยี่ยโหวพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่ข้าคิดว่าเรื่องนี้สามารถร่วมมือกันได้ ท้ายที่สุดพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน”

เสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดอย่างใจเย็น “ข้ากับเจ้าไม่ใช่เพื่อนกัน”

“ครั้งนี้ข้าลงมือก็เพราะเด็กคนนี้ ถ้านางยินยอมช่วยข้า ข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 854

    จิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองไปทางเสนาบดีฝ่ายซ้ายอย่างเย็นชาเสนาบดีฝ่ายซ้ายยิ้มพลางยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ ทำท่าทางให้ดูสมกับตำแหน่งขุนนางใหญ่ แต่กลับพบว่าในถ้วยไม่มีน้ำชาเสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขาจึงรินชาให้ตัวเองพลางพูดว่า “ท่านอ๋องคงไม่คิดว่าไม่คุ้มค่า ตรงกันข้ามยังสนุกกับมันด้วยซ้ำ”พูดจบเขาก็มองกลับไปที่จิ่งโม่เยี่ย “ข้าก็เหมือนกัน”เมื่อเขาพูดมาถึงขั้นนี้ จิ่งโม่เยี่ยจึงพูดว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้ายที่ข้าเห็นตอนนี้ต่างจากที่เคยเห็นมาก่อน”เสนาบดีฝ่ายซ้ายถอนหายใจเบาๆ “คนเราอยู่ในราชสำนัก จะมีสักกี่หน้ากันเชียว?”“หน้าหนึ่งให้ฮ่องเต้เห็น อีกหน้าให้ขุนนางเห็น ตัวตนที่แท้จริงจะแสดงออกต่อหน้าเพื่อนสนิทเท่านั้น”“ท่านอ๋องกับท่านโหวไม่ใช่สวมหน้ากากให้คนอื่นเห็นมาหลายปีแล้วหรือ? เรื่องนี้ข้าคิดว่าพวกท่านน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าข้า”ปู๋เยี่ยโหวเท้าสะเอวพูดว่า “เวลาเจ้าคุยกับจิ่งโม่เยี่ย อย่าลากข้าเข้าไปเกี่ยวด้วยได้ไหม?”เสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่สนใจเขา แต่ถามจิ่งโม่เยี่ยว่า “ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าที่ข้าพูดมีเหตุผลไหม?”จิ่งโม่เยี่ยไม่ตอบแต่ถามกลับว่า “ทำไมต้องเป็นข้า?”“ถึงแม้เสนาบดีฝ่ายซ้ายจะสอบได้จ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 855

    เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “เรื่องนี้อย่าใจร้อน ข้าว่างแล้วจะไปหานางเอง”ถึงแม้ว่าเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะร้อนใจ แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เร่งด่วนอะไรนัก เขาจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นนางก็จำเรื่องนี้ไว้ด้วยล่ะ ข้ากลับก่อนนะ”ตอนที่เขาก้มคำนับเมื่อครู่นั้นทำได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ตอนนี้พอจะยืนขึ้นก็ร้องโอ๊ย โอ๊ยเฟิ่งชูอิ่ง “......”ปู๋เยี่ยโหว “......”ไม่เคยเจอคนแก่ที่เสแสร้งเก่งเท่านี้มาก่อนเลยเสนาบดีฝ่ายซ้ายจ้องไปที่ปู๋เยี่ยโหวแล้วพูดว่า “กำแพงบ้านเจ้าสร้างสูงขนาดนั้นทำไม?”ปู๋เยี่ยโหว “......”นี่มันอะไรกัน เสนาบดีฝ่ายซ้ายปีนกำแพงบ้านเขาแล้วยังมาบ่นกำแพงบ้านเขาอีก นี่มันเหตุผลอะไรกัน?ยิ่งไปกว่านั้น กำแพงบ้านเขามันเกี่ยวอะไรกับเสนาบดีฝ่ายซ้าย!เสนาบดีฝ่ายซ้ายจ้องไปที่เฟิ่งชูอิ่งอีกครั้ง “ถ้าเจ้าตอบตกลงข้าตั้งแต่แรก ข้าก็ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้!”เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนแก่ที่เรื่องมากสุดๆ จึงไม่ตามใจเขาและตอบกลับไปตรงๆ ว่า “ตอนนี้ข้าก็สามารถเปลี่ยนใจได้นะ”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขาจ้องมองนางอีกครั้งพร้อมกับเอามือจับเอวและบิดสะโพกเดินออกไป “คนสมัยนี้ใจคด โลกเสื่อมทรามลงทุกวัน”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 856

    จิ่งโม่เยี่ยกล่าวเบาๆ ว่า “ก่อนหน้านี้ข้าคิดมาตลอดว่าเสด็จพ่อถูกฮ่องเต้เจาหยวนช่วงชิงอำนาจไปอย่างกะทันหัน พระองค์ไม่ได้เตรียมพระทัยไว้”“แต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุขร่มเย็น พระองค์ไม่ใช่คนโง่เขลา”“เป็นไปไม่ได้ที่พระองค์จะไม่ทรงสังเกตเห็นอะไรเลย ไม่ได้เตรียมการอะไรไว้เลย”“คำตอบเดียวก็คือ พระองค์ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว หรืออาจจะพูดได้ว่าพระองค์ยอมสละเพื่อพระสนมสวี่”แม้ว่าฮ่องเต้องค์ก่อนจะสิ้นพระชนม์ไปหลายปีแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือราษฎร ต่างก็กล่าวสรรเสริญพระองค์ความทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิตของพระองค์มาจากพระสนมสวี่ พระองค์ทุ่มเททุกอย่างให้กับพระสนมสวี่ แต่ในใจของพระสนมสวี่กลับไม่เคยมีพระองค์อยู่เลยตอนนี้จิ่งโม่เยี่ยก็ไม่รู้ว่าฮ่องเต้องค์ก่อนคิดอย่างไรในตอนนั้น แต่เขารู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ก่อนในตอนนั้นน่าจะเจ็บปวดอย่างมากจริงๆ แล้วฮ่องเต้องค์ก่อนในตอนนั้นมีทางเลือกมากมาย แต่พระองค์กลับเลือกวิธีที่ทำให้จิ่งโม่เยี่ยไม่รู้ว่าจะตัดสินอย่างไรการที่ฮ่องเต้องค์ก่อนตั้งจิ่งโม่เยี่ยเป็นรัชทายาท ไม่ใช่การตัดสินใจกะทันหัน แต่เป็นการวางแผนไว้ล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 857

    จิ่งโม่เยี่ยมองเขาด้วยสายตาแบบมองคนโง่แล้วพูดว่า “กระดาษแผ่นนี้ใช้กระดาษที่เขาทำเองกับมือเมื่อสิบกว่าปีก่อน”“เมื่อเขาสวรรคต ก็ไม่มีใครในโลกนี้ทำกระดาษแบบนี้ได้อีกแล้ว”“ส่วนหมึกที่ใช้ก็เป็นหมึกบรรณาการทั้งหมด หมึกแบบนี้มีแค่ฮ่องเต้เท่านั้นที่ใช้ได้”“ถึงแม้ฝีมือของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะชำนาญแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางได้สองสิ่งนี้มา”“จะว่าไปแล้ว สองสิ่งนี้ได้มายากกว่าราชโองการเสียอีก”นี่คือเหตุผลที่เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นของจริงปู๋เยี่ยโหวดูที่กระดาษแผ่นนั้น แล้วก็ดูลายมือ เขาดูไม่ออกเลยสักนิดเฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ว่าจดหมายฉบับนี้จะจริงหรือปลอม ตอนนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายก็เป็นคนของเราแล้ว นี่เป็นเรื่องดี”เรื่องนี้เป็นความจริงวันนี้เสนาบดีฝ่ายซ้ายมาแสดงความจริงใจอย่างมาก เขาก็พูดตรงไปตรงมานางไม่สนใจว่าจดหมายจะจริงหรือปลอม นางสนใจแค่ท่าทีของเสนาบดีฝ่ายซ้ายปู๋เยี่ยโหวลูบจมูกแล้วพูดว่า “ก็ใช่นะ ตาแก่นี่ดูจริงใจมาก”จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้สนใจเขา แต่พูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า “อยู่ที่นี่สบายดีไหม? ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่า?”เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ได้ตอบ ปู๋เยี่ยโหวก็พูดขึ้นมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 858

    เมื่อเฟิ่งชูอิ่งรับปากท่านเสนาบดีซ้ายว่าจะช่วยพาเด็กสาวกลับจวน นางก็เริ่มลงมือเตรียมการเรื่องนี้ให้เฉี่ยวหลิงไปสืบดูน่าจะเหมาะสมที่สุด ดังนั้นนางจึงเรียกเฉี่ยวหลิงกลับมาทันทีที่เฉี่ยวหลิงกลับมา นางก็ได้กลิ่นแปลกๆนางถามพลางบีบจมูก “เจ้าไปทำอะไรมา”เฉี่ยวหลิงดมกลิ่นตัวเอง แต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไร จึงตอบว่า “ก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ไปป้อนขี้ให้ท่านมหาราชครูกินเท่านั้นเอง”เฟิ่งชูอิ่งรู้ว่าช่วงนี้เฉี่ยวหลิงทำแบบนี้มาตลอด แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนนางกลับมานางก็ไม่ได้มีกลิ่นแบบนี้เฉี่ยวหลิงอธิบายว่า “วันนี้ข้ารู้สึกว่าการป้อนขี้ให้ท่านมหาราชครูกินทีละนิดมันไม่สะใจ ข้าเลยกดหัวเขาลงไปในส้วมให้กินแบบนัันเลย”“ข้านั่งยองๆ อยู่ข้างส้วมนานไปหน่อยเลยติดกลิ่นมา ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”พูดจบนางก็รีบวิ่งออกไปเฟิ่งชูอิ่ง “……”นางไม่คิดเลยว่าเฉี่ยวหลิงจะโหดได้ขนาดนี้กดหัวมหาราชครูลงไปกินขี้ในส้วม นี่มันสุดยอดไปเลย!การชำระล้างร่างกายของวิญญาณร้ายแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป สำหรับมนุษย์ทั่วไปแล้วมันค่อนข้างซับซ้อนแต่เฉี่ยวหลิงได้เรียนวิชาของสำนักลี้ลับจากเหมยตงยวนเพียงแค่ร่ายมนตร์ชำระล้างร่างกายก็สะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 859

    “หลายปีมานี้ ถ้าข้าไม่อยู่แกคงตายไปแล้ว ของทุกอย่างที่แกมีเป็นของข้า”“พอแกอายุสิบห้าเมื่อไหร่ แกต้องมาเป็นลูกสะใภ้ลูกชายข้า”พูดจบนางก็พยายามแย่งหยกที่เด็กสาวถืออยู่ในมือเด็กสาวกำไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้ข้า ท่านเอาไปไม่ได้!”ป้าคนนั้นแสยะยิ้มเยาะ “แม่แกตายไปแล้ว ศพก็เน่าเปื่อยไปแล้ว แกเก็บของนี่ไว้มีประโยชน์อะไร!”“เอามาให้ข้าดีกว่า ข้าจะเอาไปขายเอาเงินมาสร้างบ้านได้ตั้งครึ่งหลัง พอแกแต่งเข้ามาจะได้มีที่อยู่”พูดจบนางก็ออกแรงยื้อแย่งก่อนหน้านี้เด็กสาวไม่เคยขัดขืนเวลาถูกนางผลัก แต่ครั้งนี้กลับไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาดป้าโกรธจัด “นังเด็กเวรนี่ หน้าด้านนักนะ!”พูดจบก็ทำท่าจะตบหน้าเด็กสาวแต่ไม่ว่าอย่างไรมือของนางก็ตบไม่ลง เหมือนมีอะไรมาจับมือไว้กลางอากาศป้าเห็นภาพนี้ก็ตกใจ หน้าซีดเล็กน้อย “อะไรกันเนี่ย?”เด็กสาวคิดว่าวันนี้คงจะโดนตีเหมือนทุกครั้งแต่ฝ่ามือที่คิดว่าจะโดนกลับไม่มาถึง ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจนางเห็นมือของป้าหยุดอยู่ห่างจากหน้าประมาณสามนิ้ว เหมือนโดนของเข้าจากนั้นเด็กสาวก็เห็นมือของป้าหักไปด้านหลังอย่างแปลกประหลาด ป้าร้องเสียงหลง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 860

    แรงเตะนั้นมหาศาล ราวกับจะเตะอวัยวะภายในของเขาให้เคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมเขากระแทกกับต้นไม้ด้านหลังอย่างแรง ล้มลงไปกองกับป้าคนนั้นสมองของเขายังพอใช้ได้มากกว่าป้าคนนั้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองป้าที่สลบไปข้างๆ แล้วนึกถึงแรงเตะที่เหมือนมาจากไหนก็ไม่รู้ เขาไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้วเขาก็เห็นเด็กหญิงยังยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ประตูรั้วก็ปิดเองโดยฉับพลันเขายังได้ยินเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นข้างหูว่า “ถ้าแกล้งนางอีก ข้าจะฆ่าล้างครัวแก!”พอได้ยินคำนี้ ขาเขาก็อ่อนยวบ ไม่สนใจเมียตัวเอง รีบวิ่งกลับบ้านแล้วปิดประตูอย่างแน่นหนาวันนี้เฉี่ยวหลิง ได้รับคำสั่งจากเฟิ่งชูอิ่งให้มาสืบข่าว จริงๆ แล้วนางไม่อยากยุ่งเรื่องของเด็กหญิงคนนี้เลยนางแค่ต้องสืบเรื่องให้เรียบร้อย แล้วรายงานให้เฟิ่งชูอิ่งก็พอแต่พอเห็นป้าคนนั้นรังแกเด็กหญิง นางก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองเคยถูกทารุณ ไม่ว่าอย่างไรก็อดทนไม่ไหวเลยต้องลงมือนางนึกถึงคำพูดของ เฟิ่งชูอิ่งที่บอกว่านางสามารถลงมือได้ ตราบใดที่ไม่ฆ่าคนก็พอนางจึงสั่งสอนป้าคนนั้นกับสามีของนางหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ นางก็รู้สึกโล่งใจแต่ไม่ทันไร ความโล่งใจนั้นก็หายไปเพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 861

    “แต่ในจิตใต้สำนึกของท่านต้องมีข้าอยู่แน่ๆ พอท่านเห็นข้าถูกคนรังแกในวันนี้ ท่านก็เลยเข้ามาช่วยเหลือข้า”เฉี่ยวหลิง “......”ถ้านางไม่มีความทรงจำเรื่องการถูกทรมานจนตายในกรมราชทัณฑ์ นางอาจจะเผลอหลงเชื่อคำพูดของเด็กสาวคนนี้ไปแล้วนางอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้าจริงๆ!”เด็กสาวได้ยินนางปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็รู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้เสียงดังออกมาทันที “ท่านแม่ ข้ารู้ว่าข้าทำตัวไม่ดี ข้ายังไม่ดีพอ”“แต่ข้าคิดถึงท่านแม่มาก ข้ารักท่านแม่มากจริงๆ!”“ได้โปรดอย่าทิ้งข้าเลยนะ!”เฉี่ยวหลิง “!!!!!!”นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย?เด็กสาวร้องไห้เสียใจอย่างหนัก เสียงของนางดังทะลุจนไปถึงห้องข้างๆห้องข้างๆ เดิมทีแค่รู้สึกสงสัย พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็เชื่อว่าแม่ของเด็กสาวกลับมาหานางแล้วจริงๆคนที่จิตใจไม่ซื่อคิดถึงสิ่งที่พวกเขาทำกับเด็กสาวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็พากันหวาดกลัวจนตัวสั่น ปิดประตูบ้านให้หนาแน่นขึ้นอีกหลายส่วนแต่คนเหล่านี้ไม่รู้เลยว่าถ้าวิญญาณร้ายหมายจะเอาชีวิตจริงๆ วิญญาณร้ายก็สามารถลอยทะลุผ่านกำแพงเข้าไปได้การปิดประตูอย่างแน่นหนาเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 988

    เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขา ตอนนี้บนใบหน้าของเขามีบาดแผลเลือดไหลซึมอยู่หลายแห่ง น่าจะเป็นฝีมือของปลากินคนองคาพยพทั้งห้าที่เคยดูสดใสร่าเริงของเขา กลับดูดุร้ายน่ากลัวขึ้นหลายส่วนเมื่อมีรอยฟันปลาเหล่านั้นนางเอ่ยอย่างปลงตก “เจ้านี่หนังเหนียวจริงๆ นะ เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก”สมกับเป็นพระเอกของเรื่อง เป็นผู้มีบุญวาสนาโดยแท้ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเหนื่อยจะแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริงแล้ว เขามองนางด้วยสายตามืดดำ “เจ้าคงผิดหวังมากสินะ?”“จิ่งโม่เยี่ยรักเจ้ามากขนาดนั้น หากเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า เดาสิว่าเขาจะทำอย่างไร?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะตอบว่า “คิดไม่ออก เจ้าลองเดาเองไหม?”จิ่งสือเยี่ยนจ้องมองนาง พยายามมองมาความหวาดกลัว ความวิตกกังวลจากสีหน้าของนาง แต่กลับไม่พบอะไรเลยแววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย “ถ้าข้าใช้เจ้าแลกกับใต้หล้าแห่งนี้ คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะยอมไหม?”เฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจังอีกครั้ง “คงไม่มั้ง ถึงเขาจะยอม เจ้าก็คงไม่ปล่อยข้าและเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”“สุดท้ายเราสองคนก็คงต้องตายด้วยน้ำมือเจ้า ดังนั้นเขาคงไม่ยอมแลกหรอก”พูดจบนางก็บอกกับจิ่งสือเยี่ยนอีกว

DMCA.com Protection Status