Share

บทที่ 78

Author: ดอกถังร่วงหล่น
หลังจากเฟิ่งชูอิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์ดี นางก็ตกใจจนสะดุ้งเฮือก

เพราะภายในห้องของนางมีจิ่งโม่เยี่ยในอาภรณ์สีขาวหิมะ กำลังเอนตัวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลักของนาง ขายาวของเขายกพาดบนโต๊ะตัวเล็กข้างๆ ขณะที่ในมือถือจอกชาและยกขึ้นจิบเล็กน้อย

กลิ่นหอมของชาฟุ้งทั่วห้อง ไอน้ำลอยขึ้นมาจากถ้วยชาอย่างช้าๆ บดบังใบหน้าส่วนหนึ่งของเขา

ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมเสน่ห์ของเขาถูกไอน้ำปิดไปครึ่งหนึ่ง ทำให้ดูลึกลับน่าค้นหายิ่งกว่าเดิม

นี่เป็นครั้งแรกที่เฟิ่งชูอิ่งเห็นเขาแล้วตกใจจนหัวใจแทบหลุดจากอก หลังจากใจเต้นกระหน่ำอยู่สักพักก็สงบลงในท้ายที่สุด

ไอ้บุรุษเฮงซวยคนนี้นิสัยเสียจะตายไป แถมยังทำเรื่องโหดร้ายได้หน้าตาเฉย แต่หน้าตาของเขาก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ รูปร่างก็ดีมากด้วย

ขอแค่เขาไม่ใช่จอมวายร้ายในนิยาย และไม่ได้เป็นคนอายุสั้น ลำพังแค่หน้าตาของเขาอย่างเดียว นางก็คิดว่าการแต่งงานกับเขามันคือกำไรชัดๆ

แต่พอนางนึกถึงจุดจบของเขาขึ้นมา นางก็รู้สึกจิตใจด้านชาทันที

นางยิ้มหวานให้เขาแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนจะรินชาใส่ถ้วยให้ตัวเอง เอ่ยถามว่า “ท่านอ๋องมาได้อย่างไรเพคะ?”

อันที่จริงนางสงสัยมากกว่า ว่าเขาไปเอาน้ำจากไหนม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
ิBcit
แต่ละตอนสั้นมากๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
Phanumas Phisaphong
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 79

    จิ่งโม่เยี่ยเหล่ตามองนาง แต่นางทำเป็นมองไม่เห็นเขา ก่อนจะหยิบกระดาษยันต์ขึ้นมาเขียนอย่างรวดเร็ววันนี้นางกำจัดพลังงานชั่วร้ายในตัวเขาจนเบาบางลงมากใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที นางก็เขียนยันต์จำนวนสิบแผ่นเสร็จสิ้น จากนั้นจึงยกถ้วยน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยถามนาง “ยันต์พวกนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง?”เฟิ่งชูอิ่งไม่ได้ตอบคำถามของเขา เพียงกล่าวว่า “มีเรื่องหนึ่งที่ท่านอ๋องต้องทำความเข้าใจก่อนเพคะ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังขอให้ข้าช่วยคลายคำสาป รบกวนท่านอ๋องให้ความเคารพข้าบ้าง“ส่วนเรื่องยันต์ ข้าจะมอบเพียงยันต์ที่เกี่ยวข้องกับการแก้คำสาปให้ท่านอ๋องเท่านั้น ยันต์อย่างอื่นไม่นับรวมเพคะ”นางกล่าวถึงตรงนี้ก็ระบายยิ้มบางๆ “หากท่านอ๋องชื่นชอบยันต์ที่ข้าเขียน ท่านสามารถจ่ายเงินซื้อเพิ่มได้ หนึ่งแผ่นราคาหนึ่งพันตำลึง ไม่รับมัดจำทุกกรณี”จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้พูดอะไร เพียงก้าวเดินเข้าไปหานางอย่างช้าๆ นางตกใจจนถอยหลังกรูด “ท่านอ๋องคิดจะทำอะไรเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่สนใจนาง เขาก้าวเดินต่อไปข้างหน้า นางก็ต้องก้าวถอยหลังเรื่อยๆ จนกระทั่งไปจนมุมที่กำแพงเขาตัวสูงกว่านางมาก เวลาที่ยืนประจันหน้ากับเขา นางจึงรู้สึกกด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 80

    จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชา “อยู่ด้วยกันจนผมขาว? บนโลกใบนี้มีใครอยู่ด้วยกันจนผมขาวบ้าง!”เขานึกถึงความทรงจำที่ไม่ค่อยจะดีขึ้นมาได้ สายตาจึงดูดุร้ายขึ้นหลายส่วนเฟิ่งชูอิ่งจึงเอ่ยกับเขาว่า “ท่านอ๋องพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะเพคะ บนโลกใบนี้จะไม่มีคนอยู่ร่วมกันยันแก่เฒ่าเลยได้อย่างไร?“คู่สามีภรรยาที่รักใคร่ปรองดองในใต้หล้ามีตั้งมากมาย พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผูกสมัครรักกันไปทั้งชาติ“เพียงแต่คู่สามีภรรยาแบบนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะประคับประคองกัน ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเสมือภาค“คู่รักที่ฝ่ายหนึ่งถูกกดให้ต่ำจนไร้ค่ากว่าฝุ่นผงเช่นนั้น ไม่มีวันอยู่ร่วมกันได้ยาวนานอยู่แล้ว เพราะว่าพวกเขาสามารถทอดทิ้งฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย“คู่สามีภรรยาที่อยู่กันจนแก่เฒ่าได้จริงๆ ทั้งสองคนจะต้องเคียงบ่าเคียงไหล่ ให้ความเคารพฝ่ายตรงข้ามจากใจจริง แล้วก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจเพคะ”นัยน์ตาของจิ่งโม่เยี่ยดูล้ำลึกกว่าเดิม เขาเอ่ยช้าๆ ว่า “เจ้าคิดจะอยู่กับข้าจนแก่เฒ่าหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยมองเขาแล้วกล่าว “ตอนนี้ใช่เพคะ แต่หากท่านอ๋องไม่คิดจะเคารพข้าสักนิด ข้าคิดว่าความรักที่ข้ามีให้ท่านสักวันก็คง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 81

    เขาลองสับคอเขาหลายต่อหลายครั้งก็ยังไม่สลบสักที หากยังสับต่อไป เขาคงได้กลับมาคิดบัญชีกับนางชุดใหญ่แน่ๆ ดังนั้นนางจึงยิ้มหวานให้จิ่งโม่เยี่ยแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้ข้าถูกสับทีเดียวก็นอนหลับไปเลย วันนี้พวกเรามาทำกันเหมือนเดิมเถอะ”นางกล่าวจบก็กระชากแขนของเขาแล้วจับเหวี่ยงข้ามบ่า โยนตัวของเขาลงไปบนเตียงโดยตรงจิ่งโม่เยี่ย “......”จิ่งโม่เยี่ย “!!!!!!”หลายปีที่ผ่านมาเขาเคยถูกคนวางกับดักใช้กลอุบายมากมาย สถานการณ์จึงไม่ค่อยสู้ดีนักทว่าคนพวกนั้นพออยู่ต่อหน้าของเขา ต่างก็แสดงท่าทางเกรงใจนอบน้อม ไม่มีใครกล้าลงมือกับเขาซึ่งๆ หน้ามาก่อนทว่าสตรีที่ใจกล้าไม่เกรงฟ้าดินคนนี้ กลับกล้าลงมือสับคอเขา แล้วยังกล้าจับเขาทุ่มอีกต่างหาก!สีหน้าของเขาจึงมืดครึ้มเหมือนพายุตั้งเค้าเฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าท่าทางของเขาก็รู้สึกสะใจเงียบๆ นางจะทำให้เขาได้รู้เองว่าการถูกคนรังแกโดยไม่อาจโต้ตอบได้มันรสชาติเป็นอย่างไร!นางรู้ว่าถึงเขาจะลงมือโหดเหี้ยมสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางทำร้ายนางจนถึงขั้นตายแน่นอน เพราะเขาจำเป็นจะต้องใช้นางคลายคำสาปอยู่หลังจากนางโยนเขาลงเตียงแล้ว จึงยื่นมือไปกอดเขาแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋อง เป็น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 82

    เฟิ่งชูอิ่งคิดจะยอมแพ้แต่โดยดีและขอให้เขาอภัย แต่ตอนที่นางเห็นรูปเต่าบนหน้าของเขา นางก็พยายามเกร็งหน้าไม่ให้หลุดขำออกไปจิ่งโม่เยี่ยถาม “เจ้ากำลังหัวเราะเยาะข้าหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งรีบเอ่ยว่า “มิกล้า! ข้าก็แค่คิดว่าท่านอ๋องหล่อมาก ถูกท่านอ๋องนอนคร่อมเช่นนี้ช่างมีความสุขเหลือเกิน”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขากำลังจะคิดบัญชีกับนางแท้ๆ ทำไมถึงกลายเป็นเขาถูกนางหยอกล้อได้ล่ะนัยน์ตาของเขาเย็นเยียบ นางจึงเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง คำสาปของท่านมีข้าเพียงคนเดียวที่สามารถแก้ได้ ใจเย็นไว้เพคะ ใจเย็นๆ ไว้!”จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกว่าหลังจากนางรู้เรื่องนี้เป็นต้นมา นางก็ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำอีกต่อไป เขาจ้องนางและเอ่ยว่า “ข้าใจเย็นลงแล้ว แต่เจ้ากลับไม่หยุดรนหาที่ตายสักที“ข้าคิดว่าหากเจ้าขาดหูไปสักข้าง หรือว่าตาบอดไปสักข้าง ก็คงไม่ส่งผลต่อการแก้คำสาปให้ข้าหรอกกระมัง”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”นางประมาทเกินไป ลืมไปได้อย่างไรว่าเขามันบ้า เรื่องแบบนี้เขาพูดจริงทำจริงแน่นอนตอนนี้ไม่ว่านางจะหนีหรือหยิบยันต์ออกมาสู้ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วนางจึงตัดสินใจโน้มคอของเขาลงมาแล้วจูบปากเขาหนึ่งทีจิ่งโม่เยี่ย “......”จิ่งโม่เยี่ย “

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 83

    เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะคิกคัก “เขาบอกให้ข้าไปร่วมงานเลี้ยงของราชวงศ์ แปลว่าก่อนจะถึงงานนั้น เขาจะไม่มีวันตัดหูหรือควักลูกตาข้าแน่นอน”เฉี่ยวหลิง “ทำไมล่ะเจ้าค่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “เพราะเขาก็ต้องรักษาหน้าตาเหมือนกัน หากข้ากลายเป็นคนพิการ เขาจะต้องอับอายขายหน้าแน่”เฉี่ยวหลิง “......มีเหตุผล แต่ท่านไปยั่วโมโหเขาแบบนี้ ไม่กลัวว่าหลังจบงานเลี้ยงแล้วเขาจะมาตัดหูท่านหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งโบกมือไปมา “เรื่องหลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันสิ”หากถึงตอนนั้นจริงๆ นางก็แค่หาทางเบี่ยงเบนความสนใจเขาอีกรอบไง!อย่างไรเสียคืนนี้นางก็ได้ทุบตีเขาแล้ว นอกจากนี้ยังเขียนคำว่าหวางปา(เจ้าโง่) กับวาดเต่าไปด้วย นางรู้สึกเบิกบานใจสุดๆ เลยเฉี่ยวหลิงมองนางด้วยท่าทางกังวลตอนนี้เฉี่ยวหลิงเป็นร่างวิญญาณ เป็นคนที่ตายไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือวิญญาณ นางก็ยังไม่เคยเห็นใครใจกล้าเท่าเฟิ่งชูอิ่งมาก่อนเลยเฟิ่งชูอิ่งใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหนเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้กังวลเท่ากับเฉี่ยวหลิง เพราะนางไม่ใช่คนที่ยอมใครอยู่แล้วจิ่งโม่เยี่ยต้องได้รับความช่วยเหลือจากนางแท้ๆ แต่กลับยังคิดจะรังแกนาง บีบคั้นนาง กล้าดีอย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 84

    ทว่าตอนนี้ฉินจื๋อเจี้ยนไม่เห็นว่าจิ่งโม่เยี่ยมีท่าทางอยากจะไปตัดมือคนผู้นั้นเลย กลับกัน ดูเหมือนจะไม่ได้โกรธขนาดนั้นด้วยกลอุบายกลั่นแกล้งกันแบบนี้ คล้ายจะเป็นฝีมือของสตรีเสียมากกว่า เหมือนเป็นเรื่องสนุกในเรือนนอนอย่าบอกนะว่าจิ่งโม่เยี่ยมีคนที่ชอบแล้ว?ทว่าเขากลับปัดความคิดนั้นทิ้งไปทันทีเพราะเขาตระหนักดีว่าจิ่งโม่เยี่ยเติบโตมากับอะไรบ้าง รู้ว่าคนแบบจิ่งโม่เยี่ย ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกทำให้เขาหวั่นไหวได้หรอกแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะ?ตอนที่เขาเดินจนถึงประตู จิ่งโม่เยี่ยก็ถามเขาว่า “จื๋อเจี้ยน หากเจ้าพบเจอกับคนที่ใจกล้าบ้าบิ่นมากๆ เจ้าจะทำอย่างไร?”ฉินจื๋อเจี้ยนได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งทันที รีบก้าวฉับๆ เขาไปหาอีกฝ่ายอย่างว่องไว “หากข้าพบเจอคนแบบนั้น ข้าก็น่าจะเมินเฉยเสียมากกว่า“หากท่านอ๋องพบกับคนแบบนั้น ก็น่าจะใช้กระบี่แทงตายสินะพ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยตอบเสียงเรียบ “คนผู้นั้นมีประโยชน์มาก ตอนนี้ยังฆ่าไม่ได้”ความอยากรู้อยากเห็นของฉินจื๋อเจี้ยนทำงานทันที “ในเมื่อฆ่าไม่ได้ ถ้างั้นก็ต้องเอาตัวเขามาไว้ในจวน“จากนั้นก็ทรมานเขาทุกวัน ใช้แส้เฆี่ยนเขาทุกคืน ทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าตาย แต่ก็ยั

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 85

    หลังจากผู้ดูแลโจวเข้ามาก็จัดการปิดประตู ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้านาง โขกศีรษะให้นางแล้วกล่าวว่า “คุณหนูต่างสกุล ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”เฟิ่งชูอิ่งเห็นว่าบนหน้าของเขามีรอยมือสีดำเข้มติดอยู่จำนวนมาก ที่คอก็มีรอยถูกรัดสีดำอยู่เช่นกัน จึงทราบว่าเมื่อคืนเขาคงจะถูกทรมานมิใช่น้อยนางจึงหันมองวิญญาณร้ายที่เกาะติดผู้ดูแลโจวอีกครั้ง ร่างวิญญาณของอีกฝ่ายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากวิญญาณร้ายจะเติบโตขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกลืนกินพวกเดียวกัน หรือไม่ก็กัดกินอารมณ์ด้านลบของคนเป็นอาหารดูจากสภาพของวิญญาณร้าย คงจะได้กินความกลัวกับความหวาดผวาของผู้ดูแลโจวไปไม่น้อยเลยเฟิ่งชูอิ่งถามเสียงเรียบ “ผู้ดูแลโจวคิดได้แล้วหรือ?”ผู้ดูแลโจวแหงนหน้าขึ้นมองนาง “ขอแค่คุณหนูต่างสกุลยอมช่วยชีวิตข้า หลังจากนี้ไปข้าจะยอมรับใช้ท่านทุกอย่าง”เมื่อคืนนี้เขาเชิญนักพรตท่านหนึ่งมาทำพิธีในบ้าน ผลคือพิธียังทำไม่ทันจะเสร็จ นักพรตคนนั้นก็โดนอะไรบางอย่างจับขึ้นไปแขวนบนคานไม้แล้วหลังจากพวกเขาช่วยกันพานักพรตคนนั้นลงมา นักพรตคนนั้นก็เผ่นหนีออกไปแบบไม่ลืมหูลืมตา ปฏิเสธที่จะข้องเกี่ยวกับพวกเขาอีกเมื่อคืนนี้นอกจากเขาจะโดนผีอำแล้ว ยังเกือบจะถูกรัดคอตายด้ว

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 86

    ผู้ดูแลโจวตอบ “ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้พูดออกมา ข้าก็เลยไม่ทราบว่านางเป็นใคร“แต่ฟังจากน้ำเสียงของฮูหยินในตอนนั้น นายท่านเหมือนจะเป็นคนรักของมารดาท่านขอรับ”เฟิ่งชูอิ่ง “......”น้ำเน่าขนาดนี้เลยหรือ?นางคิดพิจารณาดูแล้วว่าเรื่องพวกนี้มันไม่สมเหตุสมผล ต่อให้เป็นคนที่ไม่มีสมอง ก็ไม่มีทางส่งตัวลูกสาวให้คนรักเก่าเอาไปดูแลหรอกในความทรงจำของร่างเดิม มารดาของนางเป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่งแต่น่าเสียดาย ความทรงจำของร่างเดิมก่อนจะมาอยู่ที่จวนสกุลหลินเลือนรางมาก เฟิ่งชูอิ่งพยายามจะค้นหาความทรงจำของร่างเดิม แต่ก็ไม่พบข้อมูลอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนางจึงเอ่ยเสียงเรียบ “นอกจากเรื่องนี้แล้ว เจ้ายังรู้อะไรอีกบ้าง?”ผู้ดูแลโจวมองสบตานาง “หากคุณหนูต่างสกุลช่วยชีวิตข้าแล้ว ความลับเรื่องอื่นที่ข้ารู้มา สามารถค่อยๆ คุยกันทีหลังได้ขอรับ”เฟิ่งชูอิ่งระบายยิ้ม นางลองตรวจโหงวเฮ้งของผู้ดูแลโจวเล็กน้อย เขาเป็นคนต่ำต้อยเลวทรามที่แล่นเรือตามลม[footnoteRef:1] แล้วยังเป็นคนที่ใจดำอำมหิตอีกด้วย [1: ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ โอนเอียงไปฝั่งโน้นทีฝั่งนี้ที ] วาจาของเขาเชื่อถือไม่ได้ ทำอะไรก็ยึดถือผลประโยชน์เป็นหลัก ไร้ยาง

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status