Share

บทที่ 430

Author: ดอกถังร่วงหล่น
เฟิ่งชูอิ่งหันไปเห็นปู๋เยี่ยโหว นางก็พลันหรี่ตาลงเล็กน้อย

นางยิ้มและกล่าวว่า "ความชอบของท่านช่างแปลกใหม่จริงๆ คนธรรมดาคงรับไม่ไหว"

ปู๋เยี่ยโหวกล่าวยิ้มๆ ว่า "งั้นเอาสิ่งที่เจ้ารับไหวก็ได้"

เฟิ่งชูอิ่งไม่อยากสนใจเขา แต่เขากลับกล่าวว่า "ถ้างั้นข้าบอกข่าวที่มีประโยชน์แก่เจ้าไหม?"

เฟิ่งชูอิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ และสมองไม่ค่อยปกตินัก เรียกได้ว่าเป็นพวกผิดแผก

คนอย่างเขามาปรากฏตัวที่นี่ แล้วบอกว่าจะให้นางข่าวดีๆ ให้นางทราบเช่นนี้ มักจะลงเอยด้วยเรื่องไม่ดีเสมอเลย

นางไม่อยากเสียเวลากลับเขาจึงหมุนตัวกลับ เตรียมจะเดินจากไป

ปู๋เยี่ยโหวก็ไม่ขัดขวางนางเขากล่าวยิ้มๆ ว่า "พานเหรินซิ่นต้องตายในวันนี้"

หน้าเฟิ่งชูอิ่งเปลี่ยนสีฉับพลัน หันไปมองเขา

เขายิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัย แต่กล่าวออกมาอย่างน่ากลัวว่า "ตายหน้าประตูวัง ถูกปักร่างคาประตูวังในสภาพเปลือยเปล่า"

เฟิ่งชูอิ่งหน้าถอดสีเล็กน้อย เขาเอ่ยว่า "คราวก่อนเขาเกือบจะฆ่าเจ้า ข้าก็เลยแก้แค้นให้ เจ้าไม่ดีใจหรือ?"

เฟิ่งชูอิ่ง "....."

ดีใจบ้านป้าแกสิ!

วันนี้นางไปพาคนมากมายบุกไปขวางทางพานเหรินซิ่น แล้วก็ไม่ได้คิดจะปิดบังใครด้วย และถึงปิดไปก็ไม่ร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 431

    เฟิ่งชูอิ่งโบกมือพลางกล่าว “ใครบอกว่าข้าจะไปที่ประตูวัง? ข้าไม่ใช่เจ้าเสียหน่อย ไม่สนใจเรื่องชาวบ้านหรอกนะ”ปู๋เยี่ยโหว “...”คนทั่วไปได้ยินเช่นนี้จะต้องไปดูที่ประตูวังสักรอบเพื่อยืนยันคำพูดของเขาเป็นแน่แนวทางจัดการเรื่องราวของเฟิ่งชูอิ่งอยู่เหนือความคาดหมายของเขาองครักษ์ของเขาเดินเข้ามากล่าวว่า “ท่านโหว ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”ปู๋เยี่ยโหวเอ่ยเสียงเรียบ “ปล่อยไปก่อน แค่รอดูต่อไปก็พอ”เฟิ่งชูอิ่งต้องข่มความอยากรู้อยากเห็นในใจถึงไม่ถูกปู๋เยี่ยโหวชักนำได้ แท้จริงแล้วนางก็อยากไปดูที่ประตูวังเหมือนกัน แต่นางรู้ว่านางไปไม่ได้นางไม่รู้ว่าตอนนี้พานเหรินซิ่นตายหรือยังไม่ตาย แต่นางรู้ว่าถ้านางไป พานเหรินซิ่นจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยอีกทั้งเรื่องนี้ยังจะพัวพันมาถึงนาง สลัดอย่างไรก็ไม่หลุดดังนั้นยามนี้การกลับจวนฉู่อ๋องจึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้วสำหรับนางตอนนางเจอพานเหรินซิ่นในวันนี้ก็ไม่เห็นไอมรณะบนใบหน้าเขานี่เพียงพอจะระบุว่าเรื่องนี้ยังไม่มีมูลเหตุที่แน่ชัด ถ้าเขาตาย เป็นไปได้มากว่าอาจเป็นเพราะการตัดสินใจอย่างฉับพลันทันใดของใครบางคนแม้โหงวเฮ้งจะเป็นศาสตร์ที่น่าอัศจร

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 432

    ราชครูเอ่ยเสียงขรึม “บังเอิญจริงๆ”เฟิ่งชูอิ่งรู้ว่าเขามาหาตนเองจะต้องไม่ใช่เรื่องดีอันใดแน่ ทว่ายามนี้ทั้งคู่อยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ต่อให้เขาเสียสติกว่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะลงมือกับนางกลางถนน นางจึงยิ้มบางพลางเอ่ย “ไม่ได้เจอราชครูมาสักพักแล้ว ราชครูดูหล่อเหลาสง่างามกว่าเดิมอีกนะ”ราชครูมองดูท่าทางยิ้มหวานที่ราวกับไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับการลอบโจมตีในวันนั้นของนางแต่ราชครูรู้ว่านางเป็นคนทำเรื่องนั้น กอปรกับเรื่องที่พระสนมสวี่บอกว่าตนเองถูกลอบโจมตีในจวนฉู่อ๋องก่อนหน้านี้ เขาก็รู้แล้วว่านางเลี้ยงวิญญาณร้ายไว้ตนหนึ่งผู้เลี้ยงวิญญาณร้ายโดยมากมักใช่วิธีการโหดร้ายทารุณทำให้วิญญาณร้ายยอมสยบดังนั้น ผู้เลี้ยงวิญญาณร้ายจึงมักมีไอพยาบาทรุนแรงหรือมีกลิ่นอายชั่วร้ายบนร่างแต่เขากลับสัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายดังกล่าวจากบนร่างเฟิ่งชูอิ่งเลยแม้แต่น้อยแม้แต่ในฝัน ราชครูก็คงคิดไม่ถึง วิญญาณร้ายทั่วไปมักสูญเสียสติสัมปชัญญะ ทำอะไรบ้าคลั่งไร้สติ หากไม่ใช้วิธีที่เด็ดขาดรุนแรงก็ไม่มีทางยอมสยบต่อมนุษย์ แต่เฉี่ยวหลิงกลับยอมติดตามเฟิ่งชูอิ่งโดยสมัครใจนอกจากนี้ เฉี่ยวหลิงยังแตกต่างจากวิญญาณร้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 433

    นางขอเก็บคำพูดก่อนหน้านี้คืนมา เขาเป็นพวกมีตาหามีแวว นางเป็นสาวน้อยโฉมสะคราญปานนี้ เขากลับหาว่านางเป็นตัวประหลาดเฒ่า แถมยังสิงร่างผู้อื่นอีก!สิงร่างบ้านเขาสิ!เขาต่างหากที่เป็นตัวประหลาดเฒ่า ทั้งตระกูลเขาเป็นตัวประหลาดเฒ่า!แต่นางรู้ว่าความเข้าใจเช่นนี้ของเขามีแต่ผลดีไม่มีผลเสียสำหรับนาง เขามองความจริงเกี่ยวกับนางไม่ออก นางก็ยิ่งมีพื้นที่ให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเดิมนางคลี่ยิ้มบาง “ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องพวกนี้แล้ว ยังกล้าไร้มารยาทต่อข้าอีก? เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วรึ?”น้ำเสียงยามนี้ของนางค่อนข้างแตกต่างจากน้ำเสียงในยามปกติ แฝงแรงกดดันหลายส่วนเมื่อราชครูได้ยินนางพูดเช่นนั้นกลับรู้สึกโล่งอก นางยอมรับก็ดีแล้วเขาประสานมือกล่าว “ในเมื่อผู้อาวุโสบำเพ็ญจนสำเร็จวิชาสิงร่าง คาดว่าคงมีความสามารถไม่ธรรมดา”“ข้าไม่มีเจตนาจะเป็นปฏิปักษ์กับผู้อาวุโส และไม่มีเจตนาจะสร้างความลำบากให้ผู้อาวุโสด้วยเช่นกัน”“หากผู้อาวุโสยินดีช่วยข้าสังหารจิ่งโม่เยี่ย เรื่องก่อนหน้านี้ก็ให้ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน”เฟิ่งชูอิ่งเข้าใจเจตนาของเขาได้ในทันที คงเป็นเพราะเขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบนางมาหลายครั้ง สังหารนางไม่สำ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 434

    เฟิ่งชูอิ่งแสร้งทำเป็นใคร่ครวญ นางลากเสียงเป็นเชิงครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “เจ้าต้องการให้บิดาทำอะไร?”น้ำเสียงของนางแฝงความไม่สบอารมณ์ที่เย็นชาอยู่หลายส่วนปฏิกิริยาเช่นนี้เหมาะสมกับตัวตนของนางที่สุดแล้ว ราชครูเห็นท่าทางของนางก็พอใจมากจึงกล่าวว่า “ผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย”“แค่ต่อไปผู้อาวุโสไม่สนใจเรื่องของจิ่งโม่เยี่ยก็พอ”“หลังจากเขาตายไป หากผู้อาวุโสไม่ต้องการอยู่ในเมืองหลวง ข้าก็สามารถส่งผู้อาวุโสไปจากเมืองหลวงได้”คิ้วของเฟิ่งชูอิ่งเลิกขึ้นเล็กน้อย “บิดาจะได้ประโยชน์อันใดจากเรื่องนี้?”ราชครูตอบ “เมื่อครู่ข้าพูดไปแล้ว ขอเพียงผู้อาวุโสไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ข้าสามารถมอบทรัพยากรที่ดีที่สุดให้ผู้อาวุโส”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มเย็น “เจ้าพูดปากเปล่าก็จะให้ข้าไม่ยุ่งเรื่องนี้ สิ่งที่สัญญาก็เป็นเรื่องในอนาคต ทำไมบิดาจะต้องเชื่อเจ้า?”ราชครูดูจะเข้าใจความกังวลของนาง จึงล้วงของสิ่งหนึ่งออกมาแล้วส่งมาถึงตรงหน้านาง กล่าวว่า “นี่คือยาลูกกลอนที่ข้าหลอมด้วยตนเอง”“ยาลูกกลอนนี้ช่วยเสริมพลัง ขณะเดียวกันยังช่วยปรับสภาพให้วิญญาณกับร่างกายเข้ากันได้ดีขึ้น”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแวบหนึ่ง แล้วยื่นม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 435

    เดิมนั้นนางยังคิดอยู่ว่าจะทำลายค่ายกลนี้อย่างไร กลัวว่าถ้านางลงมือต่อหน้าราชครู เขาอาจดูออกว่านางไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เขาคิดยามนี้ราชครูเป็นฝ่ายปลดค่ายกลนั้นไปเอง นางจึงไม่ต้องเปลืองแรงนางลอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอก นางไม่เพียงผ่านด่านนี้มาได้ แต่ยังหลอกราชครูสำเร็จอีกด้วยต่อไปเมื่อถึงเวลาก็สามารถหาโอกาสเหมาะๆ สังหารราชครูได้แล้วนางเพิ่งจากไป บุรุษสวมชุดนักพรตคนหนึ่งก็เดินเข้ามาถาม “ราชครู ยังจะสังหารพานเหรินซิ่นอยู่หรือไม่?”ราชครูทอดสายตาลงเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “แน่นอนว่าต้องฆ่า อย่างไรเสียวันนี้เฟิ่งชูอิ่งก็นำองครักษ์ของจิ่งโม่เยี่ยมาล้อมจับพานเหรินซิ่น”“พอพานเหรินซิ่นตาย ฝ่าบาทจะต้องพิโรธแน่นอน และคงจะตรวจสอบเรื่องนี้จนถึงที่สุด”“ขอเพียงตรวจสอบพบว่าองครักษ์ของจิ่งโม่เยี่ยล้อมจับเขา ก็จะสามารถเชื่อมโยงเรื่องนี้เข้ากับจิ่งโม่เยี่ย”บุรุษในชุดนักพรตเอ่ยอย่างกังวลอยู่บ้าง “แต่เฟิ่งชูอิ่งกับจิ่งโม่เยี่ยล้วนไม่ได้มาทางวังหลวง”ราชครูเอ่ยเสียงเย็นชา “ไม่เป็นไร แค่เรื่องนี้สามารถเชื่อมโยงถึงจิ่งโม่เยี่ยได้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องให้เขาอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ”“อย่างไรเสียด้วยสถา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 436

    อันที่จริงจิ่งโม่เยี่ยไม่เห็นพานเหรินซิ่นอยู่ในสายตาสักนิด การสั่งสอนพานเหรินซิ่นสามารถทำได้ แต่การสังหารพานเหรินซิ่นทำให้มีปัญหาตามมามากเกินไป เขาจึงไม่คิดจะลงมือยามนี้พานเหรินซิ่นตายแล้ว ด้วยนิสัยของฮ่องเต้เจาหยวนจะต้องจดบัญชีนี้ไว้ที่เขาแน่นอน ทีนี้ความยุ่งยากก็จะตามมาก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอก เขากลัวว่าเฟิ่งชูอิ่งอยู่ที่จวนแล้วจะถูกคนรังแก จึงให้หลางซานอยู่กับนาง กำชับหลางซานเป็นพิเศษว่าให้ปกป้องนางให้ดีนางกลับดีนัก อาศัยช่วงที่เขาไม่อยู่บ้านพาคนไปจัดการพานเหรินซิ่นเฟิ่งชูอิ่งยิ้มบาง “ไม่ต้องเกรงใจเพคะ แต่ข้าทำเพื่อท่านอ๋องขนาดนี้ก็นับว่าคู่ควรกับคำขอบคุณของท่านอ๋องจริงๆ นั่นล่ะ”นางรู้แต่แรกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะให้จิ่งโม่เยี่ยลงมือ พอดีกับที่เขาไม่อยู่ นางจึงลงมือเองเสียเลยพอเขากลับมาก็มาพูดจาแปลกๆ กับนางแบบนี้ นางก็ต้องโต้ตอบกลับไปอยู่แล้วสิจิ่งโม่เยี่ยฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่านางไม่พอใจ สตรีช่างเอาใจยากเหลือเกินเขากระแอมเบาๆ “สถานการณ์ในเมืองหลวงซับซ้อน คนที่อยากให้ข้าตายมีเยอะกว่าที่เจ้าคิดมากนัก”“เรื่องต่อจากนี้ ข้าจะจัดการเอง เจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่งแล้ว”เฟิ่งช

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 437

    เฟิ่งชูอิ่งแค่เห็นเขาก็รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า จะไปที่ไหนก็เจอแต่คนเลวผู้นี้จริงๆฮ่องเต้เจาหยวนกล่าวกับจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เยี่ยเอ๋อร์ เราถามเจ้าหน่อยว่าการตายขององค์ชายหนานเยว่เกี่ยวข้องกับเจ้าหรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ยตวัดสายตาขึ้นมองฮ่องเต้เจาหยวนพลางตอบ “ไม่พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เจาหยวนทราบว่าเขาไม่มีทางยอมรับ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะปฏิเสธเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา จึงเลิกคิ้วอย่างอดไม่ได้จิ่งโม่เยี่ยเสริมมาอีกประโยคอย่างเหนื่อยหน่าย “อย่างไรเสีย เขาก็แค่คนไร้ประโยชน์ผู้หนึ่ง”“หากกระหม่อมอยากฆ่าเขา ก็คงฆ่าไปตั้งแต่ตอนพังประตูวังหนานเยว่แล้ว”ฮ่องเต้เจาหยวน “...”แม้คำกล่าวนี้จะเป็นความจริง แต่ก็ออกจะเป็นการตบหน้าเขาไปสักหน่อยในนั้นยังแฝงไว้ด้วยเจตนาร้ายต่างๆ นานา รวมถึงความหยิ่งยโสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจิ่งโม่เยี่ยเรื่องคราวก่อน แม้ฮ่องเต้เจาหยวนจะสัมผัสได้ว่าจิ่งโม่เยี่ยอยู่เหนือการควบคุม แต่เขาที่โผงผางป่าเถื่อนเช่นนี้ก็ทำให้ฮ่องเต้เจาหยวนรู้สึกว่ายากจะสำเร็จการใหญ่ฮ่องเต้เจาหยวนเอ่ยเสียงขรึม “แต่วันนี้มีคนเห็นคู่หมั้นของเจ้านำองครักษ์จากจวนอ๋องไปสร้างความลำ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 438

    คำพูดของเฟิ่งชูอิ่งคือความจริง วันนี้ตอนนางไปทวงหนี้พานเหรินซิ่นก็คิดไว้เรียบร้อยแล้วปู๋เยี่ยโหวหาเรื่องนางอยู่ได้ทุกวัน นางจะต้องลากเขาลงน้ำไปด้วยให้ได้ดังนั้นนางจึงไปหาคนที่ปู๋เยี่ยโหวพาไปอารามเทียนอี้วันนั้น รับปากพวกเขาว่าถ้าได้เงินมาจะแบ่งให้พวกเขาทั้งหมดหากไม่ได้เงิน คนที่ไปด้วยวันนี้ก็จะได้รับคนละสิบตำลึงคนเหล่านั้นล้วนแต่เป็นนักเลงข้างถนน ปกติชีวิตไม่ได้สุขสบายนัก เงินสิบตำลึงสำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยนอกจากนี้ พานเหรินซิ่นยังเป็นชาวหนานเยว่ ไม่กล้าทำอะไรพวกเขาจริงๆ พวกเขาจึงให้ความร่วมมือกับเฟิ่งชูอิ่งอย่างเต็มที่ปู๋เยี่ยโหวได้ยินวาจาเฟิ่งชูอิ่งก็รู้แล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรยามนี้เขาเสียใจเหลือเกินที่พาคนเหล่านั้นไปก่อเรื่องที่อารามเทียนอี้กับเฟิ่งชูอิ่งในวันนั้นไปครั้งเดียวก็เท่ากับยื่นจุดอ่อนของเขาให้ถึงมือเฟิ่งชูอิ่ง นางจึงนำมาใช้ประโยชน์ไม่จบไม่สิ้นเรื่องที่น่าโมโหที่สุดก็คือ ครั้งนั้นคนเหล่านั้นโกนผมจนโล้น การตามหาเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่ง เขายังไม่อาจบอกปัดว่าไม่เกี่ยวกับตนเองฮ่องเต้เจาหยวนมองมาที่ปู๋เยี่ยโหวอย่างเย็นชา “ล้วนแต่เป็นคนของเ

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status