Share

บทที่ 370

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-08-26 19:12:59
เฟิ่งชูอิ่งทราบข่าวอย่างว่องไว นางพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย

เรื่องนี้ไม่ต้องเปลืองเวลาคิด นางก็รู้ว่าเป็นการแก้แค้นของพระสนมสวี่

นางมีดวงขัดแย้งกับพระสนมสวี่? นางคิดว่าที่นางพูดก็มีเหตุผลอยู่นะ เพราะอย่างไรเสียพระสนมสวี่ก็พยายามจะฆ่านางหลายรอบแล้ว แต่กลับเป็นนางเสียเองที่โดนสั่งสอน

นางคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นดาวหายนะของสตรีที่ใจคอโหดเหี้ยม เจ้าชู้คบผู้ชายไม่เลือกอย่างพระสนมสวี่จริงๆ นั่นแหละ

แต่อย่างไรพระสนมสวี่ก็เป็นมารดาของจิ่งโม่เยี่ย หากนางแต่งงานกับจิ่งโม่เยี่ย พระสนมสวี่ก็จะกลายเป็นแม่สามีของนาง

ดวงสะใภ้ขัดแย้งกับแม่สามี ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ลูกสะใภ้จะต้องเป็นฝ่ายถูกขับออกจากตระกูล

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ยุคสมัยนี้ให้ความสำคัญกับความกตัญญูอย่างมาก

พระสนมสวี่มีฐานที่ได้เปรียบมากกว่า จึงสามารถหาเรื่องทำร้ายนางได้สารพัด

เฟิ่งชูอิ่งไม่เคยคิดจะแต่งงานกับจิ่งโม่เยี่ยจริงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะยอมถอยให้พระสนมสวี่

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พระสนมสวี่คิดจะเผานางทั้งเป็นเลย

ชิชะ วิธีการแบบนี้จะอำมหิตเกินไปหน่อยแล้ว!

นางอยากจะยกเลิกการหมั้นหมายของนางกับจิ่งโม่เยี่ย แล้วยังคิดจะฆ่านางให้ตาย

พระสนมสว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 371

    อีกอย่างสติสัมปชัญญะของนางก็ร้องเตือนว่า ตอนนี้นางล่วงเกินพระสนมสวี่กับอารามเทียนอี้จนถอยกลับไม่ได้แล้ว พวกเขาจะพยายามฆ่านางทุกทางแน่นอนหากไม่มีจิ่งโม่เยี่ยปกป้อง ลำพังนางคนเดียวคงเอาตัวรอดจากเงื้อมมือพวกเขาไม่ได้ที่สำคัญที่สุดคือ พระสนมสวี่ทำแบบนี้เห็นชัดเลยว่าคิดจะแยกพวกเขาสองคน จากนั้นก็ค่อยฆ่าทีละคนหากนางแยกกับจิ่งโม่เยี่ย คาดว่าน่าจะตายเร็วกว่าเดิมนางรู้สึกเสียดายอย่างมาก โอกาสที่จะได้แยกทางกับจิ่งโม่เยี่ยมิได้ผ่านมาง่ายๆ แต่นางกลับไม่อาจตอบตกลงได้นางตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ต้องยินดีอยู่แล้วเพคะ ข้ายังคลายคำสาปให้ท่านอ๋องไม่สำเร็จ ดังนั้นไม่มีทางแยกจากกับท่านอ๋องแน่นอน“ข้ายังอยากร่วมมือกับท่านอ๋อง ช่วยกันฆ่าเทียนซือกับพระสนมสวี่ให้ตาย พวกเราสองคนเป็นคู่หูที่ดีที่สุดเลย!”จิ่งโม่เยี่ยเข้าใจความหมายโดยนัยที่นางจะสื่อ นางไม่ยินดีจะแต่งงานกับเขา แต่จำเป็นจะต้องอยู่ร่วมกับเขา ต้องเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยกันเขาแค่นเสียงฮึเบาๆ “เจ้าก็ยังรู้ความอยู่บ้าง”เฟิ่งชูอิ่งยักคิ้วแล้วส่งยิ้มให้เขา “ไม่ใช่รู้ความเพคะ ข้ายินดีจะร่วมต่อสู้ร่วมถอยกับท่านอ๋องจริงๆ!”จิ่งโม่เยี่ยรู้ว่านางไม

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 372

    เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”พูดจาสัปดนอะไรเนี่ย!นางเหลือบมองเขาก่อนจะพยายามดันตัวออกจากอกของเขา เอนตัวพิงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ “ข้าตายแล้ว เรื่องนี้เอาไว้ข้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ค่อยคุยกันนะเพคะ”กระดาษแผ่นนั้นเป็นสิ่งที่นางเขียนให้เขาก่อนออกจากเมืองหลวงครั้งก่อนตอนนั้นนางคิดว่าอย่างไรก็คงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว เพราะรู้สึกใจหายนิดหน่อยก็เลยเขียนติดตลกไปว่า ‘ขอให้ท่านร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป อายุยืนยาวไม่ป่วยไข้ แต่งงานกับภรรยาที่ดี มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง’ตอนนี้นางหนีออกจากเมืองหลวงไม่สำเร็จ แล้วยังตระหนักได้อีกว่าชะตาชีวิตทั้งคู่ผูกติดกันแล้วซึ่งหากเป็นแบบนั้น จิ่งโม่เยี่ยก็คงแต่งภรรยาไม่ได้ในเร็วๆ วันนี้หรอก อีกทั้งกำหนดวันแต่งงานของพวกเขายังอยู่ในเดือนถัดไปด้วยดังนั้นภรรยาที่ดีในคำอวยพรนั่นจึงกลายเป็นนาง มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง....เรื่องนี้แค่คิดถึงนางก็ชาวาบไปทั้งศีรษะแล้วแกล้งตายดีกว่า พยายามหลบเลี่ยงเท่าที่จะหลบได้จิ่งโม่เยี่ยยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เอ่ยว่า “เฟิ่งชูอิ่ง ข้าน่าจะเป็นบุรุษฐานะสูงส่งที่สุดแล้วที่เจ้าจะไขว่คว้ามาครองได้“ถึงแม้ชื่อเสียงของข้าในเมืองหลวงจะไม่ค่อยดีนั

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 373

    ทว่าคืนนั้นเขาไม่ได้กลับมา นางตื่นเช้ามาก็ส่งเสียงจิ๊ในคำคอเบาๆ ไอ้บุรุษสุนัขนั่นขี้โมโหชะมัดเลยหลังจากนางชำระล้างร่างกายและรับประทานอาหารเช้าแล้ว ก็นั่งรถม้าเพื่อเดินทางเข้าวัง ซึ่งจิ่งโม่เยี่ยนั่งรอนางอยู่บนรถม้าก่อนแล้วเขาหันไปพูดอะไรบางอย่างกับหลางซาน พอได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ จึงเอียงศีรษะมามองนางแสงแดดยามเช้าที่ค่อนข้างเบาบางตกกระทบบนตัวเขา ทำให้เขาดูเย็นชาขึ้นมาหลายส่วน ทำให้เขาดูดุดันมากกว่ายามปกติมากนักหลังจากนางขึ้นไปบนรถม้าแล้ว เขาก็เอนตัวพิงรถม้าคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ สีหน้าเย็นชาไม่คิดจะแลมองนางแม้แต่น้อย นางจึงตัดสินใจเอนพิงรถม้าแล้วหลับตางีบสักพักจิ่งโม่เยี่ยกลับเอ่ยว่า “วันนี้เจ้าจะต้องระวังตัวมากหน่อย หากไม่ผิดจากที่คาดล่ะก็ พระสนมสวี่ไม่ปล่อยให้เจ้าออกจากวังแบบมีลมหายใจแน่”เฟิ่งชูอิ่งอ้าปากหาว “เพคะ ข้าจะพยายามเต็มที่ ทำให้พระสนมสวี่ออกจากวังแบบไม่มีชีวิตให้ได้”จิ่งโม่เยี่ยแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ นางจึงหันไปมองเขา เขาพลันเลิกคิ้วกล่าวว่า “ดูมุ่งมั่นดี!”“หากวันนี้เจ้าทำให้พระสนมสวี่ตายได้ หลังจากนี้ไปข้าจะเคารพเทิดทูนเจ้า เจ้าพูดอะไรข้าจะทำตามทุกอย่าง”เ

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 374

    จิ่งโม่เยี่ยวาดแขนออกไปคว้าเฟิ่งชูอิ่งเข้ามากอด ก่อจะหันมองไปด้านหลังประตูอย่างเย็นชาฉากแบบนี้คุ้นตาอย่างมาก เพราะตอนแรกที่เขาพาเฟิ่งชูอิ่งมาเข้าร่วมงานเลี้ยงในวัง เทียนซือก็วางกับดักแบบนี้เอาไว้ที่ประตูเหมือนกันครั้งนั้นอันตรายอย่างมาก หากนางตอบสนองไม่เร็วพอ เขาคงจะติดกับที่เทียนซือวางไว้แล้วเขาคิดว่าครั้งนี้ก็อาจจะเหมือนกับคราวนั้น แววตาจึงฉายความระแวดระวังเฟิ่งชูอิ่งสอดมือไปใช้คาถาบางอย่างที่เอวของเขา ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ มองเขาเขาชะงักเล็กน้อย มองไม่ออกว่านางคิดจะทำอะไรเพียงเห็นนางหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ใช้ตนเองเป็นกำแพงบดบังสายตาของคนอื่น ก่อนจะใช้เข็มแทงแขนของเขาจิ่งโม่เยี่ย “......”เฟิ่งชูอิ่งพลันตื่นตระหนกและเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง ไม่เป็นไรนะเพคะ?“ทหารรีบมาทางนี้เร็วเข้า มีคนลอบใช้อาวุธโจมตี!”นางตะโกนออกไปแบบนั้น ก่อนจะขยับตัวมาบังด้านหน้าจิ่งโม่เยี่ยจิ่งโม่เยี่ย “......”หากมิใช่เพราะเขาเห็นนางใช้เข็มแทงเขากับตา เขาคงจะเชื่อที่นางพูดไปแล้วเขาเข้าใจเจตนาของนางอย่างฉับพลัน นางคิดจะชิงลงมือก่อน ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นมีโอกาสสร้างสถานการณ์ต่อหน้าพวกเ

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 375

    จิ่งโม่เยี่ยร่วมแสดงกับนางด้วย “เจ้าบอกว่าไม่ได้ลอบสังหารข้า เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักโหรหลวง ทำไมถึงขึ้นไปอยู่บนเพดานของห้องทรงพระอักษรได้ล่ะ?“ข้าจำได้ว่าตำแหน่งที่เจ้าร่วงลงมาเมื่อครู่นี้เหมือนจะไม่มีชั้นหนังสือนะ นอกจากคานของเพดานก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว”สือซง “......”ตอนแรกเขาคิดจะอ้างว่าวันนี้ฮ่องเต้เจาหยวนเรียกตัวเขามาตรวจสอบตำราปฏิทิน แต่กลับถูกคำพูดของจิ่งโม่เยี่ยอุดปากจนพูดอะไรไม่ออกจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเย็นชา “เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีก หากไม่ใช่เพราะชูอิ่งตอบสนองไว ข้าคงจะตายเพราะอาวุธลับของเจ้าไปแล้ว”เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเข็มเงินที่ปักอยู่บนแขนของจิ่งโม่เยี่ย ตนเองไม่คิดว่าเข็มเล่มแค่นี้จะฆ่าเขาได้หรอกทว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเรื่องสำคัญคือเข็มเงินเล่มนี้ปักอยู่บนแขนของเขาเพราะตอนที่เขาเข้าวังมาจะต้องถูกค้นตัว วัตถุอันตรายทุกชนิดไม่อาจพกเข้ามาในวังได้ ดังนั้นเข็มเล่มนี้จะต้องเป็นฝีมือของคนอื่นยิงใส่เขาณ เวลานี้ แม้สือซงจะกระจ่างแจ้งว่าตนเองถูกคนใส่ร้าย แต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดีเขาหันไปหาฮ่องเต้เจาหยวนแล้วโอดครวญ “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบว่าเข็มเงินบนตัวของท่า

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 376

    จิ่งโม่เยี่ยประคองนางเล็กน้อย “อย่าพูดอะไรโง่ๆ สิ วันนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงจะต้องตายไปแล้ว“เจ้าทำได้ดีมากแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเจ้าได้อย่างไร“ข้าพอใจเจ้าอย่างมาก เสด็จอาพระราชทานสมรสได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก”เขากล่าวจบก็หันไปบอกฮ่องเต้เจาหยวน “ขอบพระทัยเสด็จอา!”พอทั้งสองยืนใกล้ชิดกันเช่นนี้ ก็ดูเป็นคู่รักที่บุรุษผ่าเผยสตรีอ่อนหวาน เหมาะสมกันอย่างมากไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันฮ่องเต้เจาหยวนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแย้ม ทว่าแววตากลับหม่นแสงฮ่องเต้เจาหยวนเป็นคนพระราชทานการสมรสในครั้งนี้เอง ตอนแรกฮ่องเต้เจาหยวนคิดจะบอกว่าหากพวกเขาไม่พอใจการจับคู่ครั้งนี้ ก็สามารถยกเลิกได้แล้วดูตอนนี้สิ คำพูดของพวกเขาทั้งสองคนอุดปากเขาจนโต้ตอบไม่ได้เลยที่สำคัญคือเขาเป็นฮ่องเต้ วาจาหนักแน่นดุจขุนเขา ไม่สามารถถอนคำพูดของตนเองได้ตามใจชอบ เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเขาเหลือบมองเฟิ่งชูอิ่ง นางยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงนั้น ท่าทางอ่อนแอเปราะบาง ดูแล้วน่าสงสารอย่างยิ่งคนแบบนี้ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่อำมหิตม

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 377

    “ข้าก็เลยนึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นสำนักโหรหลวงคำนวณดวงชะตาของพวกเขาอย่างเดียว ไม่ได้คำนวณของข้าด้วย”นางกล่าวถึงตรงนี้ก็ก้มหน้าลง “ฝ่าบาท พวกเขายังไม่ทันได้แต่งงานกัน ข้าก็เป็นถึงเพียงนี้แล้ว“หากพวกเขาแต่งงานกันขึ้นมา เกรงว่าข้าคงจะถูกดวงนางขัดแย้งจนชีวิตหาไม่ ฝ่าบาทได้โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย!”ยามที่นางร่ำไห้ออกมาดูอ่อนแอน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก ใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสารฮ่องเต้เจาหยวนเผลอตัวคิดจะคว้านางเข้ามากอดปลอบ ทว่านึกขึ้นได้ว่าตรงนี้มีสายตามากมายจับต้อง ฐานะทั้งสองคนไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเขาพยายามข่มความหุนหันพลันแล่นในใจ เอ่ยกับจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าสดใส “เยี่ยเอ๋อร์ ตอนแรกที่พระราชทานสมรสให้เจ้า แม้ข้าจะให้สำนักโหรหลวงคำนวณดวงชะตาแล้ว“แต่ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าแปดอักษรของเฟิ่งชูอิ่งจะขัดแย้งกับดวงชะตาของมารดาเจ้า ดูจากสถานการณ์ยามนี้แล้ว ข้าเองก็ลำบากใจไม่น้อย!”ความหมายของเขาชัดเจนมาก เขาลำบากใจที่ต้องตัดสิน ดังนั้นจิ่งโม่เยี่ยควรจะเป็นคนถอนหมั้นกับเฟิ่งชูอิ่งเองจิ่งโม่เยี่ยลอบแสยะยิ้มในใจ ทว่ากล่าวด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า “ข้าคิดว่าพระสนมสวี่น่าจะถูกหลอกแล้วล่ะ”ฮ่องเต้เจาหยวนถาม

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 378

    ดาบไม้ท้อในมือของเขาเป็นสมบัติตกทอดจากบรรพบุรุษ สามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงได้และเพราะว่ามันทำมาจากไม้ท้อ มันจึงไม่มีความคม สามารถนำเข้ามาในวังได้ยามที่ปลายแหลมของดาบไม้ท้อเคลื่อนที่ไปทางไหน ก็จะมีไอเหมันต์กระเพื่อมเป็นระลอกเฟิ่งชูอิ่งเผชิญหน้ากับปลายคมดาบไม้ท้อด้วยความสงบนิ่ง ดวงตาเมล็ดซิ่งของนางกลมโต ดูอ่อนหวานไร้พิษภัยหากเป็นคมดาบไม้ท้อเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สร้างความเสียหายอะไร ถึงเฟิ่งชูอิ่งจะเป็นวิญญาณที่มาจากโลกอื่น แต่นางไม่ใช่ภูตผีปีศาจจิ่งโม่เยี่ยคิดจะขยับไปขวางหน้าเฟิ่งชูอิ่ง แต่นางกระตุกแขนเสื้อของเขาเบาๆ เขาจึงทราบว่านางสามารถรับมือได้เจ้าอารามเห็นเฟิ่งชูอิ่งยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาก็พลันหรี่เล็กลงฮ่องเต้เจาหยวนอยู่ตรงนี้ด้วย เขาต้องตั้งใจแสดงฝีมือให้ดีๆ จึงเอ่ยเสียงดังว่า “ดาบไม้ท้อในมือของข้าสร้างจากต้นท้อพันปีที่ถูกสายฟ้าฟาดในยุคบรรพกาล!“กระบี่เล่มนี้เป็นปรปักษ์กับภูตผีปีศาจทั้งหมด ทุกที่ที่คมกระบี่นี้เคลื่อนผ่าน ปีศาจร้ายจะถูกเพลิงเผาไหม้เป็นจุณ!”เขากล่าวจบก็ท่องคาถาเชื่อมต่อกับยันต์ เขาคิดว่าอีกประเดี๋ยวเฟิ่งชูอิ่งจะต้องถูกไฟลุกไหม้แน่นอนซึ่งก

    Last Updated : 2024-08-26

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status