แชร์

บทที่ 308

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-14 18:39:36
ฉินจื๋อเจี้ยนยิ้มเศร้าๆ “ข้ามองนางผิดไปเอง นางกล้าทำเรื่องแบบนี้ลงไป ข้ากับนางก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แล้ว”

เฟิ่งชูอิ่งฟังแล้วก็ใช้สายตาประหลาดมองเขาทีหนึ่ง เขาจึงถามว่า “เจ้ามองข้าแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

เฟิ่งชูอิ่งตอบกลับ “ไม่มีอะไร ข้าแค่สงสัยนิดหน่อย ในใจของเจ้า ชอบท่านอ๋องฉู่มากกว่า หรือว่าชอบว่าที่ภรรยาผู้นั้นมากกว่า?”

ฉินจื๋อเจี้ยน “......”

ตอนแรกเขายังไม่เข้าใจความหมายที่นางสื่อ หลังจากตั้งสติได้แล้วจึงถลึงตาใส่นาง “เจ้าคิดบ้าอะไรน่ะ!

“ท่านอ๋องเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ บุญคุณของเขาหากไม่ยอมชดใช้ ข้าคงต่ำช้ายิ่งกว่าเดรัจฉาน!”

เฟิ่งชูอิ่งยกนิ้วโป้งให้เขา “บุรุษซื่อสัตย์มั่นคง สุดยอดไปเลย!”

ฉินจื๋อเจี้ยน “......”

แม้เขาจะถูกนางชม แต่เขากลับรู้สึกว่ามันแปลกพิกลอย่างไรไม่รู้

เพียงแต่ตอนนี้สภาพจิตใจของเขากำลังย่ำแย่ ก็เลยไม่คิดจะโต้ตอบอะไร

ตอนนี้เขารู้สึกหมดหวังท้อแท้อย่างมาก เขาชอบสตรีนางหนึ่งมาตั้งหลายปี แต่นางกลับกลายเป็นคนแบบนั้นไปเสียได้ เขาเสียใจและผิดหวังไม่น้อย

พอเขาทุกข์ใจ สุราก็เลยเข้าปากไปเสียเยอะ

เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนคอแข็งอะไรอยู่แล้ว พอดื่มแบบไม่ยั้งคิดเช่นนี้ ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 309

    “หลายปีมานี้ ข้าติดตามข้างกายท่านอ๋อง ต้องเห็นเขาพบเจอเรื่องเลวร้ายมากมายนับไม่ถ้วน ต้องเห็นเขาถูกคนใช้กลอุบายทำร้ายสารพัด“เขาต้องทนทุกข์ใจถึงเพียงไหนกัน ต้องแบกรับมากแค่ไหนกัน เจ้าเข้าใจบ้างหรือไม่?”เฟิ่งชูอิ่งได้กลิ่นสุราเหม็นคลุ้งจากตัวของเขา จึงทำหน้าเหมือนปลาตายนางสูดหายใจลึกๆ กล่าวว่า “บิดาเป็นคนใจกว้าง ไม่ถือสาหาความคนเมาผู้หนึ่ง!”นางคิดจะแยกตัวออกไป แต่ฉินจื๋อเจี้ยนกลับคว้าขาของนางไว้ “เจ้าห้ามไปนะ ข้ายังพูดไม่จบเลย!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”อะไรกันเนี่ย!นางไม่น่าสอดมือยุ่งเรื่องชาวบ้านเลย!นางตวาดว่า “เจ้าปล่อยมือนะ!”ฉินจื๋อเจี้ยนตะโกนตอบว่า “ข้าไม่ปล่อย เจ้าต้องฟังข้าให้จบก่อนข้าถึงจะยอมปล่อย”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางชักอยากจะตีเขาจริงๆ แล้วนะ!ฉินจื๋อเจี้ยนร้องห่มร้องไห้ขณะพูดเสียงดังว่า “ถึงแม้ท่านอ๋องจะเคยมีว่าที่พระชายาถึงเจ็ดคน แต่เขาไม่เคยชอบพวกนางเลยสักคน“หลายปีมานี้ข้าติดตามอยู่ข้างกายเขาตลอด เพิ่งเคยเห็นเขาใส่ใจเจ้าเป็นคนแรกนี่แหละ“เขาดีกับเจ้ามากขนาดนี้ ทำไมเจ้าถึงตอบแทนเขาแบบนั้นล่ะ!”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินเขาพูดจาไร้สาระไม่หยุดหย่อน ไม่เหลือความเยือกเย็นและรอบคอบเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 310

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”สถานการณ์แบบนี้ต้องใช้คำไหนมาบรรยายดีล่ะ?มันเหมือนตอนที่นางแอบนินทาใครสักคน แล้วเจ้าของหัวข้อสนทนาก็จับได้แบบคาหนังคาเขา....ถึงนางจะเป็นคนที่ถูกจับได้ แต่เมื่อครู่นี้นางก็พูดจามีสาระไปไม่น้อยเลยนะนางกระแอมไอแล้วกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง “ฉินจ๋างสื่อดื่มสุราจนเมาแล้ว รบกวนท่านอ๋องสั่งคนพาเขากลับไปพักด้วยเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยคลี่ยิ้มมุมปาก เมื่อรวมกับสายตาของเขาแล้ว มันก็ดูมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบอกไม่ถูกเขาเดินเข้ามาหาเฟิ่งชูอิ่งอย่างช้าๆ “ข้าเหมือนปลายหอกเงินแต่จริงแล้วเป็นเพียงลำเทียน ดูงดงามแต่ใช้การไม่ได้?”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางคิดว่าเขาอาจจะเป็นภูตผีปีศาจจริงๆ ก็ได้ เพราะชอบมาปรากฏตัวในที่ที่นางคิดไม่ถึงทุกทีเลยอีกอย่างคำพูดที่นางเอ่ยออกมาไปแล้ว ไม่มีทางเก็บกลับมาได้ด้วยในเวลาแบบนี้ ต่อให้นางจะมีความผิดติดตัวจนกระวนกระวายขนาดไหน ก็ต้องทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนางเอ่ยตอบสีหน้าเรียบเฉย “ท่านอ๋องได้ยินผิดแล้ว เมื่อครู่นี้ข้าไม่ได้พูดถึงท่านอ๋อง ข้าว่าฉินจ๋างสื่อต่างหาก“เขาเป็นผู้ชายอกสามศอก แต่กลับดื่มสุราจนเมามายไม่ได้สติ จะไม่ให้เร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 311

    เฟิ่งชูอิ่งชะงักเล็กน้อย ตอนที่นางเผลอหยุดนิ่งนั้น เขาก็สาวเท้าเข้ามาถึงตัวนางแล้วนางจึงรีบถาม “ท่านอ๋อง ดึกจนป่านนี้แล้วมีธุระอะไรกับข้าหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยตอบกลับอย่างเรียบง่าย “มานอนด้วย”เฟิ่งชูอิ่ง “......”เขาก็ตรงเกินไปแล้ว!นางรีบเอ่ย “แต่ว่าเรือนของท่านอ๋องไม่ได้อยู่ตรงนี้นะ!”จิ่งโม่เยี่ยเอียงคอเล็กน้อย นัยน์ตาดอกท้อคู่งามฉายแววราบเรียบ “ก่อนคำสาปของข้าจะถูกคลาย เจ้าจะต้องนอนกับข้า”เฟิ่งชูอิ่งร้อนใจ “ถือสิทธิ์อะไร?”จิ่งโม่เยี่ยยกเปลือกตาเล็กน้อย “ก็ถือสิทธิ์ที่เจ้ารับปากว่าจะช่วยข้าคลายคำสาปไง”เฟิ่งชูอิ่ง “......”จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสริมอีกว่า “เจ้ารับเงินของข้าไปแล้ว ก็ควรจะทำหน้านี้ของตัวเองให้ดีสิ”เฟิ่งชูอิ่ง “......”จิ่งโม่เยี่ยไม่สนใจท่าทางของนางและเดินไปที่เตียงโดยตรงเฟิ่งชูอิ่งรีบพุ่งไปที่เตียงแล้วถามว่า “เรื่องนี้จะเป็นหน้าที่ของข้าได้อย่างไร?”จิ่งโม่เยี่ยตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ “คำสาปทำให้ข้านอนไม่หลับ ย่อมต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าอยู่แล้ว”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ตรรกะของเขาทำให้นางหาข้อโต้แย้งไม่ได้ไปชั่วขณะจิ่งโม่เยี่ยกวาดแขนยาวๆ ของเขาออกมาเกี่ยวร่างของนางขึ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 312

    เขาถามหยั่งเชิง “เมื่อคืนนี้ข้าดื่มหนักจนเมา คงไม่ได้พูดจาเหลวไหลออกไปกระมัง?”เฟิ่งชูอิ่งที่เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิท ตื่นมากำลังหงุดหงิดจึงปรายตามองเขา “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”ฉินจื๋อเจี้ยนลูบจมูกเบาๆ “ข้าคิดว่าคงไม่เลวร้ายหรอก”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มเยาะเขาเล็กน้อย “เจ้าไม่ได้พูดจาเหลวไหลอะไรหรอก แค่บอกว่าตอนสิบขวบเคยฉี่รดกางเกง”ฉินจื๋อเจี้ยน “......”เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยต่อว่า “เจ้ายังบอกอีกว่าทำเรื่องอย่างว่าครั้งแรกตอนอายุสิบหก”ฉินจื๋อเจี้ยน “!!!!!!”เฟิ่งชูอิ่งโจมตีเขาแบบต่อเนื่องว่า “คู่นอนของเจ้าในตอนนั้นก็คืออดีตว่าที่ภรรยาของเจ้า จากนั้นเจ้าก็ฝันว่านางรังเกียจเจ้าด้วย”ฉินจื๋อเจี้ยน “...ไม่ต้องพูดแล้ว!”เฟิ่งชูอิ่งไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ “เจ้ายังบอกอีกว่าความสามารถด้านนั้นของเจ้าสู้ท่านอ๋องไม่ได้สักนิด เจ้าค่อนข้างไร้สมรรถภาพ”ฉินจื๋อเจี้ยนใบหน้าแดงก่ำ วิ่งหนีหายไปอย่างร้อนรน นับจากนี้ไปเขาไม่กล้าเงยหน้าตอนอยู่กับนางแล้วเฟิ่งชูอิ่งยืนมองเขาวิ่งหนีออกไปแล้วยกมือเท้าเอว แค่นเสียงฮึในลำคอ “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะทนความอับอายได้!”เมื่อครู่นี้สิ่งที่นางพูดออกไปก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลทั้งหมดหรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 313

    หลังจากตบหัวตัวเองเสร็จ เขาก็เห็นว่าเฟิ่งชูอิ่งกำลังมาทางนี้ จึงรีบเดินตัวลีบติดกำแพงหนีออกไป จิ่งโม่เยี่ยเห็นแบบนั้นก็ปากกระตุกไม่หยุดจิ่งโม่เยี่ยตระหนักจากก้นบึ้งของจิตใจ หากพูดถึงการจัดการใครสักคนต้องยกให้เฟิ่งชูอิ่งจริงๆในขณะเดียวกันนั้น คนเฝ้าประตูก็เข้ามา “ท่านอ๋อง มีคนจากในวังมาพ่ะย่ะค่ะ”รอยยิ้มที่มุมปากของจิ่งโม่เยี่ยเลือนหายไปทันที เขาเอ่ยเสียงเย็นชา “พาเข้ามา”ฮ่องเต้เจาหยวนส่งคนมาจวนเขาตอนนี้ ไม่มีทางเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอนขันทีผู้มาเยือนเดิมทีมิได้อยากจะทำงานนี้นัก เขาถวายบังคมด้วยท่าทางองอาจ “คารวะท่านอ๋องฉู่”จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ “มีอะไร?”ขันทีรีบเอ่ยตอบ “เมื่อวันก่อนมีคณะทูตเดินทางมาจากหนานเยว่ ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับราชทูตในวันพรุ่งนี้ และมีพระประสงค์ให้ท่านอ๋องฉู่เข้าร่วมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”จิ่งโม่เยี่ยรู้อยู่แล้วว่ามีราชทูตจากหนานเยว่ เดินทางมา ก่อนหน้าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะว่าเรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกทั้งหากจะว่ากันตามหลักแล้ว หนานเยว่เป็นศัตรูของเขาเหตุผลก็ง่ายมาก หลังจากฮ่องเต้เจาหยวนขึ้นครองราชย์ อีกฝ่ายยังหวาดระแวงในตัวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 314

    จิ่งโม่เยี่ยพูดถึงขนาดนี้แล้ว ขันทีจึงไม่กล้าสอดแทรกอะไรอีกหลังจากเขากลับวังไปแล้วก็กราบทูลให้ฮ่องเต้เจาหยวนทราบ เดิมทีฮ่องเต้เจาหยวนก็คิดจะจัดการจิ่งโม่เยี่ยอยู่แล้ว เขาจะพาเฟิ่งชูอิ่งมาด้วยหรือไม่ก็ช่างเถอะดังนั้นช่วงพลบค่ำวันนี้ ขันทีจากในวังจึงมาที่จวนอ๋องอีกครั้งเพื่อถ่ายทอดราชโองการว่าสามารถพาเฟิ่งชูอิ่งไปด้วยได้ซึ่งจิ่งโม่เยี่ยไม่แปลกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาสักเท่าไหร่ทว่าพอเฟิ่งชูอิ่งได้ยินข่าวว่าตนเองจะต้องเข้าวัง นางก็ปวดหัวทันทีนับตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมายังโลกแห่งนี้ ทุกครั้งที่เข้าวังล้วนต้องเกิดเรื่องร้ายนางถามจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ข้าไม่ไปได้หรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ยจิบชาอย่างสบายอารมณ์ พลางเอ่ยเสียงราบเรียบ “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจอีกครั้ง นางจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี!แต่อย่างไรก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ต้องทนใช้ชีวิตกันต่อไป นางยังไม่อยากตาย!ด้วยเหตุนี้นางจึงนำกระดาษยันต์และพู่กันออกมา แล้วเขียนยันต์แบบยอมรับชะตากรรมเฉี่ยวหลิงพลันลอยออกมาจากป้ายหยกแล้วช่วยบีบนวดนางจิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วดื่มชาต่อช่วงเวลานั้น ภายในห้องก็มีเพียงความเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 315

    หากมีโอกาส นางก็ยังหาทางหลบหนีเหมือนเดิมนางถอนหายใจยาวเหยียด “หากท่านไม่ใช่ตัวร้ายก็คงดี ไม่ต้องตายไว แล้วก็ไม่ต้องเป็นบ้าอาละวาดคิดจะฆ่าข้าทุกวัน แบบนั้นคงจะดีมากเลย?”นางกล่าวจบก็อยากหัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ แล้วคิดว่าตนเองจินตนาการเพ้อเจ้อไปไกลแล้วนางอ้าปากหาวหวอด ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ เป่าเทียนที่อยู่บนโต๊ะให้ดับแล้วขยับไปนอนข้างๆ เขาพริบตาที่นางนอนลงข้างเขา จิ่งโม่เยี่ยก็ลืมตาตื่นขึ้นมายันต์ของนางทำให้เขานอนหลับได้ก็จริง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในอันตรายตลอด จึงค่อนข้างมีสัญชาตญาณที่รุนแรงต่ออันตรายตอนที่นางลูบคลำร่างกายส่วนบนของเขา เขาก็ตื่นขึ้นมานานแล้วดังนั้นเขาจึงรับรู้ทุกการกระทำของนางอย่างแจ่มชัด แล้วก็ได้ยินที่นางพูดด้วยความงุนงงปรากฏในแววตาของเขา ตัวร้าย? ตายไว? จะฆ่านาง?เขาพลันเข้าใจทันทีว่าก่อนหน้านี้เขาเกิดความคิดอยากจะฆ่านาง นางคงจะรับรู้ได้เรื่องตายไวเขาก็พอจะเข้าใจ เขาถูกคำสาปเช่นนี้หากแก้ไขไม่ทันเวลา เขาก็คงเหลือเวลาอยู่อีกไม่นานแล้วล่ะแต่คำว่าตัวร้ายมันมาจากไหนกันล่ะ?คำศัพท์นี้เหมือนจะบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย เขาเป็นตัวร้ายสำหรับใครล่ะ? หรือจะบอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 316

    พอจิ่งโม่เยี่ยพูดแบบนั้น จิ่งสือเยี่ยนก็พลันรู้สึกมีความผิดตัดตัว เอ่ยเสียงอ่อยว่า “พี่สามกล่าวได้ถูกต้อง”เขาลอบมองเฟิ่งชูอิ่งอย่างระมัดระวัง “แม่นางเฟิ่งวันนี้เข้าวังมาด้วยหรือ”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “ข้าไม่เคยร่วมงานเลี้ยงแบบนี้มาก่อน ท่านอ๋องฉู่จึงมาพาเปิดหูเปิดตาเพคะ”จิ่งสือเยี่ยนจึงกล่าว “แม่นางเฟิ่งกำลังจะแต่งงานกับพี่สามแล้ว หลังจากนี้ไปงานเลี้ยงในวัง แม่นางเฟิ่งคงได้เข้าร่วมอีกบ่อยๆ”ตอนแรกนางลืมไปแล้ว พอเขาพูดถึงนางจึงได้ว่าเหลือเวลาอีกเพียงเดือนกว่าๆ นางกับจิ่งโม่เยี่ยก็จะแต่งงานกันแล้ว เป็นเรื่องที่ชวนห่อเหี่ยวจริงๆ จิ่งสือเฟิงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยด้วยท่าทางมีเลศนัย “ก็แค่เด็กสาวบ้านนอกที่ไม่เคยพบเจอโลกภายนอก จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอีกสักร้อยรอบก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้หรอก”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มรับ “คำพูดของท่านอ๋องเฉินเหมาะจะใช้กับพวกโง่ยิ่งนักเพคะ“คนบางคนโง่เหมือนควายตั้งแต่เกิด ต่อให้ถือกำเนิดในราชวงศ์ก็ยังโง่ไม่เปลี่ยนแปลง”จิ่งสือเฟิงหน้าดำทะมึน “เจ้าด่าใครโง่กัน?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “แน่นอนว่าใครรับไปก็ด่าคนนั้นแหละเพคะ”จิ่งสือเฟิงคิดจะอาะวาด จิ่งสือเยี่ยนรีบห้ามปรามว่า “เสด็จพ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status