แชร์

บทที่ 311

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-14 18:39:36
เฟิ่งชูอิ่งชะงักเล็กน้อย ตอนที่นางเผลอหยุดนิ่งนั้น เขาก็สาวเท้าเข้ามาถึงตัวนางแล้ว

นางจึงรีบถาม “ท่านอ๋อง ดึกจนป่านนี้แล้วมีธุระอะไรกับข้าหรือ?”

จิ่งโม่เยี่ยตอบกลับอย่างเรียบง่าย “มานอนด้วย”

เฟิ่งชูอิ่ง “......”

เขาก็ตรงเกินไปแล้ว!

นางรีบเอ่ย “แต่ว่าเรือนของท่านอ๋องไม่ได้อยู่ตรงนี้นะ!”

จิ่งโม่เยี่ยเอียงคอเล็กน้อย นัยน์ตาดอกท้อคู่งามฉายแววราบเรียบ “ก่อนคำสาปของข้าจะถูกคลาย เจ้าจะต้องนอนกับข้า”

เฟิ่งชูอิ่งร้อนใจ “ถือสิทธิ์อะไร?”

จิ่งโม่เยี่ยยกเปลือกตาเล็กน้อย “ก็ถือสิทธิ์ที่เจ้ารับปากว่าจะช่วยข้าคลายคำสาปไง”

เฟิ่งชูอิ่ง “......”

จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสริมอีกว่า “เจ้ารับเงินของข้าไปแล้ว ก็ควรจะทำหน้านี้ของตัวเองให้ดีสิ”

เฟิ่งชูอิ่ง “......”

จิ่งโม่เยี่ยไม่สนใจท่าทางของนางและเดินไปที่เตียงโดยตรง

เฟิ่งชูอิ่งรีบพุ่งไปที่เตียงแล้วถามว่า “เรื่องนี้จะเป็นหน้าที่ของข้าได้อย่างไร?”

จิ่งโม่เยี่ยตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ “คำสาปทำให้ข้านอนไม่หลับ ย่อมต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าอยู่แล้ว”

เฟิ่งชูอิ่ง “......”

ตรรกะของเขาทำให้นางหาข้อโต้แย้งไม่ได้ไปชั่วขณะ

จิ่งโม่เยี่ยกวาดแขนยาวๆ ของเขาออกมาเกี่ยวร่างของนางขึ้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 312

    เขาถามหยั่งเชิง “เมื่อคืนนี้ข้าดื่มหนักจนเมา คงไม่ได้พูดจาเหลวไหลออกไปกระมัง?”เฟิ่งชูอิ่งที่เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิท ตื่นมากำลังหงุดหงิดจึงปรายตามองเขา “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”ฉินจื๋อเจี้ยนลูบจมูกเบาๆ “ข้าคิดว่าคงไม่เลวร้ายหรอก”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มเยาะเขาเล็กน้อย “เจ้าไม่ได้พูดจาเหลวไหลอะไรหรอก แค่บอกว่าตอนสิบขวบเคยฉี่รดกางเกง”ฉินจื๋อเจี้ยน “......”เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยต่อว่า “เจ้ายังบอกอีกว่าทำเรื่องอย่างว่าครั้งแรกตอนอายุสิบหก”ฉินจื๋อเจี้ยน “!!!!!!”เฟิ่งชูอิ่งโจมตีเขาแบบต่อเนื่องว่า “คู่นอนของเจ้าในตอนนั้นก็คืออดีตว่าที่ภรรยาของเจ้า จากนั้นเจ้าก็ฝันว่านางรังเกียจเจ้าด้วย”ฉินจื๋อเจี้ยน “...ไม่ต้องพูดแล้ว!”เฟิ่งชูอิ่งไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ “เจ้ายังบอกอีกว่าความสามารถด้านนั้นของเจ้าสู้ท่านอ๋องไม่ได้สักนิด เจ้าค่อนข้างไร้สมรรถภาพ”ฉินจื๋อเจี้ยนใบหน้าแดงก่ำ วิ่งหนีหายไปอย่างร้อนรน นับจากนี้ไปเขาไม่กล้าเงยหน้าตอนอยู่กับนางแล้วเฟิ่งชูอิ่งยืนมองเขาวิ่งหนีออกไปแล้วยกมือเท้าเอว แค่นเสียงฮึในลำคอ “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะทนความอับอายได้!”เมื่อครู่นี้สิ่งที่นางพูดออกไปก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลทั้งหมดหรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 313

    หลังจากตบหัวตัวเองเสร็จ เขาก็เห็นว่าเฟิ่งชูอิ่งกำลังมาทางนี้ จึงรีบเดินตัวลีบติดกำแพงหนีออกไป จิ่งโม่เยี่ยเห็นแบบนั้นก็ปากกระตุกไม่หยุดจิ่งโม่เยี่ยตระหนักจากก้นบึ้งของจิตใจ หากพูดถึงการจัดการใครสักคนต้องยกให้เฟิ่งชูอิ่งจริงๆในขณะเดียวกันนั้น คนเฝ้าประตูก็เข้ามา “ท่านอ๋อง มีคนจากในวังมาพ่ะย่ะค่ะ”รอยยิ้มที่มุมปากของจิ่งโม่เยี่ยเลือนหายไปทันที เขาเอ่ยเสียงเย็นชา “พาเข้ามา”ฮ่องเต้เจาหยวนส่งคนมาจวนเขาตอนนี้ ไม่มีทางเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอนขันทีผู้มาเยือนเดิมทีมิได้อยากจะทำงานนี้นัก เขาถวายบังคมด้วยท่าทางองอาจ “คารวะท่านอ๋องฉู่”จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ “มีอะไร?”ขันทีรีบเอ่ยตอบ “เมื่อวันก่อนมีคณะทูตเดินทางมาจากหนานเยว่ ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับราชทูตในวันพรุ่งนี้ และมีพระประสงค์ให้ท่านอ๋องฉู่เข้าร่วมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”จิ่งโม่เยี่ยรู้อยู่แล้วว่ามีราชทูตจากหนานเยว่ เดินทางมา ก่อนหน้าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะว่าเรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกทั้งหากจะว่ากันตามหลักแล้ว หนานเยว่เป็นศัตรูของเขาเหตุผลก็ง่ายมาก หลังจากฮ่องเต้เจาหยวนขึ้นครองราชย์ อีกฝ่ายยังหวาดระแวงในตัวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 314

    จิ่งโม่เยี่ยพูดถึงขนาดนี้แล้ว ขันทีจึงไม่กล้าสอดแทรกอะไรอีกหลังจากเขากลับวังไปแล้วก็กราบทูลให้ฮ่องเต้เจาหยวนทราบ เดิมทีฮ่องเต้เจาหยวนก็คิดจะจัดการจิ่งโม่เยี่ยอยู่แล้ว เขาจะพาเฟิ่งชูอิ่งมาด้วยหรือไม่ก็ช่างเถอะดังนั้นช่วงพลบค่ำวันนี้ ขันทีจากในวังจึงมาที่จวนอ๋องอีกครั้งเพื่อถ่ายทอดราชโองการว่าสามารถพาเฟิ่งชูอิ่งไปด้วยได้ซึ่งจิ่งโม่เยี่ยไม่แปลกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาสักเท่าไหร่ทว่าพอเฟิ่งชูอิ่งได้ยินข่าวว่าตนเองจะต้องเข้าวัง นางก็ปวดหัวทันทีนับตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมายังโลกแห่งนี้ ทุกครั้งที่เข้าวังล้วนต้องเกิดเรื่องร้ายนางถามจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ข้าไม่ไปได้หรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ยจิบชาอย่างสบายอารมณ์ พลางเอ่ยเสียงราบเรียบ “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจอีกครั้ง นางจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี!แต่อย่างไรก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ต้องทนใช้ชีวิตกันต่อไป นางยังไม่อยากตาย!ด้วยเหตุนี้นางจึงนำกระดาษยันต์และพู่กันออกมา แล้วเขียนยันต์แบบยอมรับชะตากรรมเฉี่ยวหลิงพลันลอยออกมาจากป้ายหยกแล้วช่วยบีบนวดนางจิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วดื่มชาต่อช่วงเวลานั้น ภายในห้องก็มีเพียงความเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 315

    หากมีโอกาส นางก็ยังหาทางหลบหนีเหมือนเดิมนางถอนหายใจยาวเหยียด “หากท่านไม่ใช่ตัวร้ายก็คงดี ไม่ต้องตายไว แล้วก็ไม่ต้องเป็นบ้าอาละวาดคิดจะฆ่าข้าทุกวัน แบบนั้นคงจะดีมากเลย?”นางกล่าวจบก็อยากหัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ แล้วคิดว่าตนเองจินตนาการเพ้อเจ้อไปไกลแล้วนางอ้าปากหาวหวอด ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ เป่าเทียนที่อยู่บนโต๊ะให้ดับแล้วขยับไปนอนข้างๆ เขาพริบตาที่นางนอนลงข้างเขา จิ่งโม่เยี่ยก็ลืมตาตื่นขึ้นมายันต์ของนางทำให้เขานอนหลับได้ก็จริง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในอันตรายตลอด จึงค่อนข้างมีสัญชาตญาณที่รุนแรงต่ออันตรายตอนที่นางลูบคลำร่างกายส่วนบนของเขา เขาก็ตื่นขึ้นมานานแล้วดังนั้นเขาจึงรับรู้ทุกการกระทำของนางอย่างแจ่มชัด แล้วก็ได้ยินที่นางพูดด้วยความงุนงงปรากฏในแววตาของเขา ตัวร้าย? ตายไว? จะฆ่านาง?เขาพลันเข้าใจทันทีว่าก่อนหน้านี้เขาเกิดความคิดอยากจะฆ่านาง นางคงจะรับรู้ได้เรื่องตายไวเขาก็พอจะเข้าใจ เขาถูกคำสาปเช่นนี้หากแก้ไขไม่ทันเวลา เขาก็คงเหลือเวลาอยู่อีกไม่นานแล้วล่ะแต่คำว่าตัวร้ายมันมาจากไหนกันล่ะ?คำศัพท์นี้เหมือนจะบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย เขาเป็นตัวร้ายสำหรับใครล่ะ? หรือจะบอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 316

    พอจิ่งโม่เยี่ยพูดแบบนั้น จิ่งสือเยี่ยนก็พลันรู้สึกมีความผิดตัดตัว เอ่ยเสียงอ่อยว่า “พี่สามกล่าวได้ถูกต้อง”เขาลอบมองเฟิ่งชูอิ่งอย่างระมัดระวัง “แม่นางเฟิ่งวันนี้เข้าวังมาด้วยหรือ”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “ข้าไม่เคยร่วมงานเลี้ยงแบบนี้มาก่อน ท่านอ๋องฉู่จึงมาพาเปิดหูเปิดตาเพคะ”จิ่งสือเยี่ยนจึงกล่าว “แม่นางเฟิ่งกำลังจะแต่งงานกับพี่สามแล้ว หลังจากนี้ไปงานเลี้ยงในวัง แม่นางเฟิ่งคงได้เข้าร่วมอีกบ่อยๆ”ตอนแรกนางลืมไปแล้ว พอเขาพูดถึงนางจึงได้ว่าเหลือเวลาอีกเพียงเดือนกว่าๆ นางกับจิ่งโม่เยี่ยก็จะแต่งงานกันแล้ว เป็นเรื่องที่ชวนห่อเหี่ยวจริงๆ จิ่งสือเฟิงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยด้วยท่าทางมีเลศนัย “ก็แค่เด็กสาวบ้านนอกที่ไม่เคยพบเจอโลกภายนอก จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอีกสักร้อยรอบก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้หรอก”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มรับ “คำพูดของท่านอ๋องเฉินเหมาะจะใช้กับพวกโง่ยิ่งนักเพคะ“คนบางคนโง่เหมือนควายตั้งแต่เกิด ต่อให้ถือกำเนิดในราชวงศ์ก็ยังโง่ไม่เปลี่ยนแปลง”จิ่งสือเฟิงหน้าดำทะมึน “เจ้าด่าใครโง่กัน?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “แน่นอนว่าใครรับไปก็ด่าคนนั้นแหละเพคะ”จิ่งสือเฟิงคิดจะอาะวาด จิ่งสือเยี่ยนรีบห้ามปรามว่า “เสด็จพ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 317

    จิ่งโม่เยี่ยหันไปหาเฟิ่งชูอิ่ง “เขาก็คือเจ้าขยะที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟังก่อนหน้านี้“ความจริงแล้วคนที่อยู่บนโลกใบนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นขยะทั้งนั้น แค่ยอมรับว่าตัวเองเป็นขยะไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย“แต่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นขยะ แต่ยังทำตัวหน้าด้านไร้ยางอาย เจอหน้าก็คิดจะท้าทายอีกฝ่าย แบบนั้นทั้งไร้ค่าทั้งโง่เขลาเลยล่ะ”ระหว่างทางมาวังหลวง จิ่งโม่เยี่ยเล่าเรื่องเกี่ยวกับแคว้นหนานเยว่ให้เฟิ่งชูอิ่งฟังแบบคร่าวๆ แล้วตอนที่นางได้ยินครั้งแรกก็ถึงกับอึ้งไปเลย เพราะว่าเรื่องนี้ไม่เคยถูกพูดถึงในนิยายมาก่อนจิ่งโม่เยี่ยอาศัยเพียงกองทัพหมาป่าหิมะสามหมื่นนายโดยไม่มีกองกำลังสนับสนุน ในสถานการณ์ที่ต้องคอยระวังไม่ให้ใครลอบกัด แต่กลับบุกเข้าไปถึงเมืองหลวงแคว้นหนานเยว่ได้สำหรับนางแล้ว เรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อสุดๆ ไปเลยเรื่องแบบนี้หากเกิดขึ้นในยุคสมัยอื่น อาจจะถูกคนบันทึกลงในหนังสือเป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ชื่นชมสรรเสริญ แล้วยังฉวยโอกาสนี้ยึดครองแคว้นหนานเยว่ ขยายอาณาเขตแว่นแคว้นตนเองด้วยทว่าจนถึงป่านนี้แล้ว ฮ่องเต้เจาหยวนก็ยังไม่ยอมให้ใครพูดถึงเรื่องของจิ่งโม่เยี่ย หลังจากจบเรื่องแล้วนอกจากจะไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 318

    จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “ข้าทราบว่าตามหลักแล้วควรจะตอบว่าเต็มใจตามที่เสด็จอาต้องการ เพราะถึงอย่างไรก็มีพวกต่างแคว้นจับตาดูอยู่“หากข้าไม่รับปาก แคว้นของเราก็อาจจะถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ บอกว่าขุนนางและกษัตริย์ขัดแย้งกันเอง“แต่ว่าแคว้นหนานเยว่ถูกข้ายกทัพไปตีถึงเมืองหลวงตั้งแต่ตอนอายุสิบสี่แล้ว พวกเขาตอบโต้ไม่ได้เหมือนลูกไก่อ่อนหัด ไหนเลยจะคู่ควรให้ข้าลงมือ?“หากเสด็จอาเห็นพวกเขาขัดหูขัดตา ท่านก็สั่งให้ข้ายกทัพลงใต้อีกครั้งเถอะ ข้ารับประกันว่าจะตีแคว้นพวกเขาให้ย่อยยับเลย“ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งเลย ต่อให้เปลี่ยนแคว้นหนานเยว่เป็นรัฐบรรณาการแล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของเราก็ไม่ใช่ปัญหา”พานเหรินซิ่น “!!!!!!”ฮ่องเต้เจาหยวน “......”เรื่องที่จิ่งโม่เยี่ยยกทัพลงใต้ในปีนั้น แม้เขาจะพยายามปิดข่าวและมีเพียงไม่กี่คนในราชสำนักที่ทราบ แต่อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องจริง ไม่อาจลบทิ้งได้เดิมทีเขาคิดว่าช่วงหลายปีมานี้จิ่งโม่เยี่ยน่าจะหลาบจำบ้างแล้ว ควรรู้จักเก็บซ่อนเขี้ยวเล็บของตนเองเอาไว้ ไม่กล้าแข็งกร้าวต่อหน้าเขาอีกแต่บัดนี้เขาเพิ่งได้รู้ว่า เขาประเมินจิ่งโม่เยี่ยผิดไปแล้ว จิ่งโม่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 319

    จิ่งสือเฟิง “......”เขาบอกแล้วว่าเขาเกลียดเฟิ่งชูอิ่งมากที่สุด!เขาเอ่ยเสียงเย็นชา “นั่นเพราะว่าช่วงหลายปีมานี้ฝีมือของน้องสามมิค่อยดีนัก ข้าก็เลยให้โอกาสเขาได้ลับคมตัวเอง”จิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงยานคาง “ข้าไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะมองข้าอย่างไร ข้ายินดียกโอกาสนี้ให้พี่รอง”จิ่งสือเฟิง “......”โอกาสแบบนี้ เขาไม่ต้องการสักนิด!ฮ่องเต้เจาหยวนมองเฟิ่งชูอิ่งอย่างพินิจ แต่กลับมองจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เยี่ยเอ๋อร์ข้าเองก็ไม่ได้เห็นวรยุทธ์ของเจ้านานมากแล้ว เจ้าก็ประลองกับคนจากแคว้นหนานเยว่หน่อยเถอะ“ข้าอยากรู้ว่าฝีมือเจ้ายอดเยี่ยมสักแค่ไหน!”คำพูดนี้ฟังดูดี แต่กลับไม่เหลือช่องว่างให้จิ่งโม่เยี่ยปฏิเสธเลยเพราะว่าเขาคือฮ่องเต้ คำพูดของเขาหนักแน่นดุจขุนเขา ผู้อื่นไม่สามารถโต้แย้งได้เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกรังเกียจอยู่ในใจ คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเล่นงานเขาให้รู้สำนึกสักรอบ นางจึงเอ่ยว่า “ท่านอ๋องเฉิน ดูสิเพคะ ฝ่าบาทก็คิดว่าท่านสู้ท่านอ๋องฉู่ไม่ได้!”จิ่งสือเฟิง “......”ฮ่องเต้เจาหยวน “......”ถึงเขาจะไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วก็สามารถเข้าใจแบบนั้นได้พอเฟิ่งชูอิ่งอธิบายแบบนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status