Share

บทที่ 314

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-08-14 18:39:36
จิ่งโม่เยี่ยพูดถึงขนาดนี้แล้ว ขันทีจึงไม่กล้าสอดแทรกอะไรอีก

หลังจากเขากลับวังไปแล้วก็กราบทูลให้ฮ่องเต้เจาหยวนทราบ เดิมทีฮ่องเต้เจาหยวนก็คิดจะจัดการจิ่งโม่เยี่ยอยู่แล้ว เขาจะพาเฟิ่งชูอิ่งมาด้วยหรือไม่ก็ช่างเถอะ

ดังนั้นช่วงพลบค่ำวันนี้ ขันทีจากในวังจึงมาที่จวนอ๋องอีกครั้งเพื่อถ่ายทอดราชโองการว่าสามารถพาเฟิ่งชูอิ่งไปด้วยได้

ซึ่งจิ่งโม่เยี่ยไม่แปลกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาสักเท่าไหร่

ทว่าพอเฟิ่งชูอิ่งได้ยินข่าวว่าตนเองจะต้องเข้าวัง นางก็ปวดหัวทันที

นับตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมายังโลกแห่งนี้ ทุกครั้งที่เข้าวังล้วนต้องเกิดเรื่องร้าย

นางถามจิ่งโม่เยี่ย “ท่านอ๋อง พรุ่งนี้ข้าไม่ไปได้หรือไม่?”

จิ่งโม่เยี่ยจิบชาอย่างสบายอารมณ์ พลางเอ่ยเสียงราบเรียบ “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”

เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจอีกครั้ง นางจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี!

แต่อย่างไรก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ต้องทนใช้ชีวิตกันต่อไป นางยังไม่อยากตาย!

ด้วยเหตุนี้นางจึงนำกระดาษยันต์และพู่กันออกมา แล้วเขียนยันต์แบบยอมรับชะตากรรม

เฉี่ยวหลิงพลันลอยออกมาจากป้ายหยกแล้วช่วยบีบนวดนาง

จิ่งโม่เยี่ยเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วดื่มชาต่อ

ช่วงเวลานั้น ภายในห้องก็มีเพียงความเง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 315

    หากมีโอกาส นางก็ยังหาทางหลบหนีเหมือนเดิมนางถอนหายใจยาวเหยียด “หากท่านไม่ใช่ตัวร้ายก็คงดี ไม่ต้องตายไว แล้วก็ไม่ต้องเป็นบ้าอาละวาดคิดจะฆ่าข้าทุกวัน แบบนั้นคงจะดีมากเลย?”นางกล่าวจบก็อยากหัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ แล้วคิดว่าตนเองจินตนาการเพ้อเจ้อไปไกลแล้วนางอ้าปากหาวหวอด ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ เป่าเทียนที่อยู่บนโต๊ะให้ดับแล้วขยับไปนอนข้างๆ เขาพริบตาที่นางนอนลงข้างเขา จิ่งโม่เยี่ยก็ลืมตาตื่นขึ้นมายันต์ของนางทำให้เขานอนหลับได้ก็จริง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในอันตรายตลอด จึงค่อนข้างมีสัญชาตญาณที่รุนแรงต่ออันตรายตอนที่นางลูบคลำร่างกายส่วนบนของเขา เขาก็ตื่นขึ้นมานานแล้วดังนั้นเขาจึงรับรู้ทุกการกระทำของนางอย่างแจ่มชัด แล้วก็ได้ยินที่นางพูดด้วยความงุนงงปรากฏในแววตาของเขา ตัวร้าย? ตายไว? จะฆ่านาง?เขาพลันเข้าใจทันทีว่าก่อนหน้านี้เขาเกิดความคิดอยากจะฆ่านาง นางคงจะรับรู้ได้เรื่องตายไวเขาก็พอจะเข้าใจ เขาถูกคำสาปเช่นนี้หากแก้ไขไม่ทันเวลา เขาก็คงเหลือเวลาอยู่อีกไม่นานแล้วล่ะแต่คำว่าตัวร้ายมันมาจากไหนกันล่ะ?คำศัพท์นี้เหมือนจะบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย เขาเป็นตัวร้ายสำหรับใครล่ะ? หรือจะบอ

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 316

    พอจิ่งโม่เยี่ยพูดแบบนั้น จิ่งสือเยี่ยนก็พลันรู้สึกมีความผิดตัดตัว เอ่ยเสียงอ่อยว่า “พี่สามกล่าวได้ถูกต้อง”เขาลอบมองเฟิ่งชูอิ่งอย่างระมัดระวัง “แม่นางเฟิ่งวันนี้เข้าวังมาด้วยหรือ”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “ข้าไม่เคยร่วมงานเลี้ยงแบบนี้มาก่อน ท่านอ๋องฉู่จึงมาพาเปิดหูเปิดตาเพคะ”จิ่งสือเยี่ยนจึงกล่าว “แม่นางเฟิ่งกำลังจะแต่งงานกับพี่สามแล้ว หลังจากนี้ไปงานเลี้ยงในวัง แม่นางเฟิ่งคงได้เข้าร่วมอีกบ่อยๆ”ตอนแรกนางลืมไปแล้ว พอเขาพูดถึงนางจึงได้ว่าเหลือเวลาอีกเพียงเดือนกว่าๆ นางกับจิ่งโม่เยี่ยก็จะแต่งงานกันแล้ว เป็นเรื่องที่ชวนห่อเหี่ยวจริงๆ จิ่งสือเฟิงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยด้วยท่าทางมีเลศนัย “ก็แค่เด็กสาวบ้านนอกที่ไม่เคยพบเจอโลกภายนอก จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอีกสักร้อยรอบก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้หรอก”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มรับ “คำพูดของท่านอ๋องเฉินเหมาะจะใช้กับพวกโง่ยิ่งนักเพคะ“คนบางคนโง่เหมือนควายตั้งแต่เกิด ต่อให้ถือกำเนิดในราชวงศ์ก็ยังโง่ไม่เปลี่ยนแปลง”จิ่งสือเฟิงหน้าดำทะมึน “เจ้าด่าใครโง่กัน?”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มบางๆ “แน่นอนว่าใครรับไปก็ด่าคนนั้นแหละเพคะ”จิ่งสือเฟิงคิดจะอาะวาด จิ่งสือเยี่ยนรีบห้ามปรามว่า “เสด็จพ่

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 317

    จิ่งโม่เยี่ยหันไปหาเฟิ่งชูอิ่ง “เขาก็คือเจ้าขยะที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟังก่อนหน้านี้“ความจริงแล้วคนที่อยู่บนโลกใบนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นขยะทั้งนั้น แค่ยอมรับว่าตัวเองเป็นขยะไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย“แต่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นขยะ แต่ยังทำตัวหน้าด้านไร้ยางอาย เจอหน้าก็คิดจะท้าทายอีกฝ่าย แบบนั้นทั้งไร้ค่าทั้งโง่เขลาเลยล่ะ”ระหว่างทางมาวังหลวง จิ่งโม่เยี่ยเล่าเรื่องเกี่ยวกับแคว้นหนานเยว่ให้เฟิ่งชูอิ่งฟังแบบคร่าวๆ แล้วตอนที่นางได้ยินครั้งแรกก็ถึงกับอึ้งไปเลย เพราะว่าเรื่องนี้ไม่เคยถูกพูดถึงในนิยายมาก่อนจิ่งโม่เยี่ยอาศัยเพียงกองทัพหมาป่าหิมะสามหมื่นนายโดยไม่มีกองกำลังสนับสนุน ในสถานการณ์ที่ต้องคอยระวังไม่ให้ใครลอบกัด แต่กลับบุกเข้าไปถึงเมืองหลวงแคว้นหนานเยว่ได้สำหรับนางแล้ว เรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อสุดๆ ไปเลยเรื่องแบบนี้หากเกิดขึ้นในยุคสมัยอื่น อาจจะถูกคนบันทึกลงในหนังสือเป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ชื่นชมสรรเสริญ แล้วยังฉวยโอกาสนี้ยึดครองแคว้นหนานเยว่ ขยายอาณาเขตแว่นแคว้นตนเองด้วยทว่าจนถึงป่านนี้แล้ว ฮ่องเต้เจาหยวนก็ยังไม่ยอมให้ใครพูดถึงเรื่องของจิ่งโม่เยี่ย หลังจากจบเรื่องแล้วนอกจากจะไม

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 318

    จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “ข้าทราบว่าตามหลักแล้วควรจะตอบว่าเต็มใจตามที่เสด็จอาต้องการ เพราะถึงอย่างไรก็มีพวกต่างแคว้นจับตาดูอยู่“หากข้าไม่รับปาก แคว้นของเราก็อาจจะถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ บอกว่าขุนนางและกษัตริย์ขัดแย้งกันเอง“แต่ว่าแคว้นหนานเยว่ถูกข้ายกทัพไปตีถึงเมืองหลวงตั้งแต่ตอนอายุสิบสี่แล้ว พวกเขาตอบโต้ไม่ได้เหมือนลูกไก่อ่อนหัด ไหนเลยจะคู่ควรให้ข้าลงมือ?“หากเสด็จอาเห็นพวกเขาขัดหูขัดตา ท่านก็สั่งให้ข้ายกทัพลงใต้อีกครั้งเถอะ ข้ารับประกันว่าจะตีแคว้นพวกเขาให้ย่อยยับเลย“ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งเลย ต่อให้เปลี่ยนแคว้นหนานเยว่เป็นรัฐบรรณาการแล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของเราก็ไม่ใช่ปัญหา”พานเหรินซิ่น “!!!!!!”ฮ่องเต้เจาหยวน “......”เรื่องที่จิ่งโม่เยี่ยยกทัพลงใต้ในปีนั้น แม้เขาจะพยายามปิดข่าวและมีเพียงไม่กี่คนในราชสำนักที่ทราบ แต่อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องจริง ไม่อาจลบทิ้งได้เดิมทีเขาคิดว่าช่วงหลายปีมานี้จิ่งโม่เยี่ยน่าจะหลาบจำบ้างแล้ว ควรรู้จักเก็บซ่อนเขี้ยวเล็บของตนเองเอาไว้ ไม่กล้าแข็งกร้าวต่อหน้าเขาอีกแต่บัดนี้เขาเพิ่งได้รู้ว่า เขาประเมินจิ่งโม่เยี่ยผิดไปแล้ว จิ่งโม่เ

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 319

    จิ่งสือเฟิง “......”เขาบอกแล้วว่าเขาเกลียดเฟิ่งชูอิ่งมากที่สุด!เขาเอ่ยเสียงเย็นชา “นั่นเพราะว่าช่วงหลายปีมานี้ฝีมือของน้องสามมิค่อยดีนัก ข้าก็เลยให้โอกาสเขาได้ลับคมตัวเอง”จิ่งโม่เยี่ยกล่าวเสียงยานคาง “ข้าไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะมองข้าอย่างไร ข้ายินดียกโอกาสนี้ให้พี่รอง”จิ่งสือเฟิง “......”โอกาสแบบนี้ เขาไม่ต้องการสักนิด!ฮ่องเต้เจาหยวนมองเฟิ่งชูอิ่งอย่างพินิจ แต่กลับมองจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เยี่ยเอ๋อร์ข้าเองก็ไม่ได้เห็นวรยุทธ์ของเจ้านานมากแล้ว เจ้าก็ประลองกับคนจากแคว้นหนานเยว่หน่อยเถอะ“ข้าอยากรู้ว่าฝีมือเจ้ายอดเยี่ยมสักแค่ไหน!”คำพูดนี้ฟังดูดี แต่กลับไม่เหลือช่องว่างให้จิ่งโม่เยี่ยปฏิเสธเลยเพราะว่าเขาคือฮ่องเต้ คำพูดของเขาหนักแน่นดุจขุนเขา ผู้อื่นไม่สามารถโต้แย้งได้เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกรังเกียจอยู่ในใจ คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเล่นงานเขาให้รู้สำนึกสักรอบ นางจึงเอ่ยว่า “ท่านอ๋องเฉิน ดูสิเพคะ ฝ่าบาทก็คิดว่าท่านสู้ท่านอ๋องฉู่ไม่ได้!”จิ่งสือเฟิง “......”ฮ่องเต้เจาหยวน “......”ถึงเขาจะไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วก็สามารถเข้าใจแบบนั้นได้พอเฟิ่งชูอิ่งอธิบายแบบนั้น

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 320

    จิ่งสือเฟิงถลึงตาใส่เฟิ่งชูอิ่งอย่างเดือดดาล ชี้หน้านางอยู่นานแต่พูดไม่ออกแม้แต่ครึ่งคำจิ่งสือเยี่ยนใช้จังหวะที่จิ่งสือเฟิงมองไม่เห็น แอบยกนิ้วโป้งให้เฟิ่งชูอิ่ง นางจึงยักคิ้วตอบเล็กน้อยไม่นานนักจิ่งโม่เยี่ยก็เปลี่ยนชุดจิ้นจวง[footnoteRef:1]สีดำและเดินออกมา [1: ชุดโบราณ สวมใส่เวลาต้องการความคล่องตัว] อาภรณ์ตัวนี้เขานำมาจากจวนอ๋องฉู่ด้วย จึงพอดีตัวอย่างยิ่ง ขับเน้นไหล่กว้างและเอวคอดของเขา ราวถึงต้นขากำยำสองข้างจนโดดเด่นรูปร่างของเขาองอาจ เพียงยืนอยู่เฉยๆ ก็แผ่กลิ่นอายแห่งการเข่นฆ่าออกมาแล้วปกติเขาจะสวมแต่อาภรณ์สีขาวดุจหิมะ จึงมีรูปลักษณ์ดูอบอุ่นอ่อนโยน แต่พอเปลี่ยนเป็นชุดสีดำแล้ว บรรยากาศของเขาก็เปลี่ยนไปด้วยเฟิ่งชูอิ่งได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง นางพบว่าจิ่งโม่เยี่ยเหมือนเพชฌฆาตที่พรากหัวใจของสาวๆ ไปอย่างแท้จริงหากเขาไม่ใช่คนที่อารมณ์รุนแรงคาดเดายาก ไม่ชื่นชอบการฆ่าคนเป็นว่าเล่น นางคงจะควบคุมจิตใจตนเองไม่ได้นานแล้วตอนนี้ต่อให้นางจะถูกความหล่อเหลาของเขาล่อลวง แต่พอนึกถึงภาพการตายของเฉินเยี่ยนเซิง แล้วนึกถึงเรื่องที่เขาเคยคิดจะฆ่านาง ความหลงใหลก็หลายไปทันทีพานเหรินซิ่นพูดจาเหมือ

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 321

    ในสถานที่จัดงานมีขุนนางวัยหนุ่มแน่นอยู่หลายคน ตอนที่พวกเขาได้ยินคำพูดดังกล่าวก็ตะโกนพร้อมกัน “แคว้นเราจะชนะ ท่านอ๋องฉู่จะชนะ!”พอใช้แคว้นมาบังหน้า บุญคุณความแค้นก็ต้องเก็บเอาไว้ทีหลัง เพราะนี่เป็นการรักชาติ ทุกคนย่อมต้องช่วยกันโห่ร้องตะโกนฮ่องเต้เจาหยวนคิดว่าเฟิ่งชูอิ่งขัดขวางแผนการของเขามาก แต่เขาทำได้เพียงฉีกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ว่าที่พระชายาของเยี่ยเอ๋อร์น่าสนใจไม่น้อยเลย”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินแบบนั้นก็รีบตอบกลับทันที “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เอ่ยชม หม่อมฉันเพียงแค่ทนเห็นแคว้นที่เป็นรัฐบรรณาการของแคว้นเราแท้ๆ แต่กลับวางท่าหยิ่งยโสไม่ได้เพคะ!”นางกล่าวด้วยท่าทางฮึกเหิม ฮ่องเต้เจาหยวนจึงยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้กล่าวอะไรนางก็ไม่ต้องการให้เขากล่าวต่อเหมือนกัน เพราะอย่างไรวันนี้นางก็ก่อเรื่องลงไปแล้ว ไม่ว่าจิ่งโม่เยี่ยจะแพ้หรือชนะ ก็เป็นการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของแคว้นทั้งนั้นนางแค่ต้องการฐานเสียงหากจิ่งโม่เยี่ยชนะจะดีที่สุด แต่หากเขาแพ้หรือตายขึ้นมา นางที่อยู่ในฐานะว่าที่พระชายาของเขา ก็จะไม่ถูกฮ่องเต้เจาหยวนรังแกเอาง่ายๆ ทางด้านจิ่งโม่เยี่ยได้ก้าวขึ้นไปบนเวทีประลองแล้ว ผู้คนทั้งหมดจึงขยับเข้าไปล้อ

    Last Updated : 2024-08-14
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 322

    แม้จิ่งโม่เยี่ยจะเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส แต่ช่วงเวลานี้เกี่ยวข้องกับความเป็นตายของเขา เขาจึงฝืนหลบการโจมตีปลิดชีพจากค้อนยักษ์ที่ทุบลงมาได้ ค้อนดังกล่าวทุบลงพื้นข้างๆ จนเกิดเป็นแอ่งขนาดใหญ่หากค้อนนั่นทุบโดนร่างกายของเขาจังๆ ล่ะก็ กระดูกทั่วร่างเขาคงแหลกละเอียด!เหงื่อเย็นเยียบไหลลงมาจากขมับของจิ่งโม่เยี่ย หัวใจของเขาทวีความรวดร้าวรุนแรงกว่าเดิมชือหลุนเห็นสภาพการณ์ตรงหน้าก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา ก่อนจะฟาดค้อนทุบร่างของจิ่งโม่เยี่ยอีกครั้งดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เขารู้ดีว่าตนเองน่าจะยื้อได้อีกไม่นานเฟิ่งชูอิ่งเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็รู้สึกถึงความผิดปกติทันทีนางรู้จักจิ่งโม่เยี่ยเป็นอย่างดี เขาเป็นคนถึกทนอย่างยิ่ง หากไม่เจ็บปวดแสนสาหัสจริงๆ เขาไม่มีทางอยู่ในสภาพนี้หรอก!นางรีบตะโกน “หยุดนะ สุขภาพของท่านอ๋องมีปัญหา ยกเลิกการประลองเดี๋ยวนี้!”ไม่มีใครสนใจนางสักนิด ทุกคนที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ล้วนแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอดเฟิ่งชูอิ่งสังเกตเห็นเทียนซือยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เขายืนอยู่ริมเวทีประลอง กำลังจ้องมองมาทางนางด้วยสายตาเย็นชาดุจน้ำแข็งในแววตาของเขาบ่งบอกถึงการท้าทาย ความสะใจและจิตสังห

    Last Updated : 2024-08-14

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status