Share

บทที่ 298

Author: ดอกถังร่วงหล่น
เฟิ่งชูอิ่งได้ยินสิ่งที่จิ่งสือเยี่ยนพูดก็อยากจะตบปากเขาให้รู้แล้วรู้รอด!

นางพยายามอย่างหนักกว่าจะปลอบจิ่งโม่เยี่ยให้สงบลงได้ ไอ้หมอนี่โผล่มาพูดประโยคเดียว ความพยายามก่อนหน้านี้ของนางก็สูญเปล่าแล้ว!

จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้พูดอะไร แค่เอนตัวพิงรถม้า ยกมือข้างหนึ่งเท้าศีรษะ มองนางด้วยท่าทางคล้ายยิ้มไม่คล้ายยิ้ม ทว่าแววตาอันตรายอย่างยิ่ง

เฟิ่งชูอิ่งตอนนี้จะต้องหาวิธีแก้สถานการณ์โดยด่วน นางจึงตีหน้าเคร่งขรึมแล้วเอ่ยว่า “ท่านอ๋องจิ้น เรื่องแบบนี้จะพูดส่งเดชไม่ได้นะเพคะ!

“ข้าขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้าออกมาจากเงื้อมมือของคนจวนสกุลหลินและเทียนซือ

“แต่ข้าไม่เคยรับปากท่านสักคำว่าจะไปชมฤดูฝนร่วมกับท่านที่เจียงหนาน แล้วก็ไม่ได้ทิ้งท่านเอาไว้แล้วหนีออกมาเพียงลำพังอะไรนั่นด้วย!”

นางกล่าวไปด้วยขยิบตาให้จิ่งสือเยี่ยนไปด้วย เพื่อไม่ให้เขาพูดอะไรออกมาอีก

ในที่สุดจิ่งสือเยี่ยนก็เข้าใจแล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ตอนแรกเฟิ่งชูอิ่งได้พาสาวใช้ติดตัวมาด้วยคนหนึ่ง แต่ตอนนี้คนที่อยู่กับนางคือทหารองครักษ์ของจิ่งโม่เยี่ยทั้งหมด

ตอนนี้ถึงเขาจะมองไม่เห็นจิ่งโม่เยี่ยที่นั่งอยู่บนรถม้า แต่ก็พอจะเดาได้ว่าแปดส่วนจิ่งโ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Sukanya Sangpheng
นางเอกอยู่ยากแท้ ตายไปเถอะ
goodnovel comment avatar
ลูกเป็ด ขี้เหร่
11/8/67 อัพเดท 1ตอน ตอนที่297
goodnovel comment avatar
Wasinee Khanon
อยากให้อัพเดตเยอะๆตอนค่ะสนุกมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 299

    เขากล่าวจบก็เผ่นหนีออกไปอย่างว่องไวโดยไม่รอคำอนุญาตจากจิ่งโม่เยี่ยก่อนจะไปใช่ว่าเขาไม่อยากอธิบายแทนเฟิ่งชูอิ่งต่อสักสองสามประโยค แต่เพราะสถานการณ์แบบนี้ยิ่งอธิบายก็ยิ่งถูกเข้าใจผิดเขารู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดี น่าจะมีวิธีรับมือกับจิ่งโม่เยี่ยได้จิ่งโม่เยี่ยก็ไม่คิดขวางเขา เพียงเลิกเปลือกตามองเฟิ่งชูอิ่ง “เจ้ายังมีอะไรจะพูดกับข้าอีกไหม?”เฟิ่งชูอิ่งไม่ตอบแล้วถามกลับ “หากข้าบอกว่า ระหว่างข้ากับท่านอ๋องจิ้นไม่มีอะไรทั้งนั้น ท่านอ๋องจะเชื่อหรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ยใช้มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะแล้วเอ่ย “เจ้าคิดว่าไงล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งสูดหายใจลึกๆ แล้วตอบ “ข้ารู้ว่าเรื่องนี้พูดออกไปก็คงไม่มีใครเชื่ออยู่ดี แต่ว่ามันคือเรื่องจริง“ท่านอ๋องจิ้นก็แค่สงสารที่ข้าตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร จึงมีน้ำใจช่วยเหลือข้าครั้งหนึ่งเท่านั้น”จิ่งโม่เยี่ยยื่นมือเรียวยาวของเขาลากผ่านลำคอของนาง เอ่ยเสียงเรียบว่า “เฟิ่งชูอิ่ง ข้าเคยบอกเจ้าหรือเปล่าว่าข้าเกลียดคนโกหกมากที่สุด?”เขาเรียนวรยุทธ์มานาน ปลายนิ้วจึงหยาบกร้านเล็กน้อย พอเขาลากผ่านไปแบบนี้ก็ทำให้นางคันยุกยิกไปด้วยเพียงแต่ปลายนิ้วของเขาเย็นราวกับน้ำแข็ง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 300

    จิ่งโม่เยี่ยเพิ่งจะค้นพบความจริงบางอย่าง เขาอยากเก็บนางเอาไว้ข้างกาย ไม่ได้อยากเก็บศพเย็นชืดของนางเพียงอย่างเดียวเขาอยากเห็นนางยิ้มให้ อยากเห็นนางแสดงสีหน้าที่หลากหลายให้เขาดู ไม่ใช่ใบหน้าแข็งทื่อของศพที่ไร้ลมหายใจความรู้สึกพวกนี้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก อารมณ์ในใจของเขาปั่นป่วนไปหมดเหมือนน้ำมันที่โดนไฟลาม และกำลังต้มเขาจนเดือดพล่านเฟิ่งชูอิ่งไม่รู้ว่าเขากำลังเกิดความรู้สึกซับซ้อนอยู่ในใจ นางรู้สึกเพียงจิตสังหารที่พลุ่งพล่านของเขานางแอบหงุดหงิดอยู่ในใจ แต่ก็ต้องพยายามข่มเอาไว้ เอ่ยต่อว่า “ท่านอ๋องเคยบอกว่าหากมีท่านอยู่ด้วย จะไม่มีใครทำร้ายข้าได้“แล้วตอนที่คนของจวนสกุลหลินกับเทียนซือร่วมมือกันสังหารข้าท่านอ๋องอยู่ไหน? ตอนที่ชีวิตข้าแขวนอยู่บนเส้นด้าย ท่านอ๋องอยู่ที่ไหน?”จิ่งโม่เยี่ยมองสบตาดวงตาที่แดงก่ำของนาง ความทรงจำพรั่งพรูเข้ามาในสมอง เขาเคยสัญญากับนางไว้จริงๆเฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่าจิตสังหารของเขาเบาบางลงแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าประมาท นางเอ่ยต่อว่า “ท่านอ๋องก็รู้ว่าข้าไม่มีมิตรสหายในเมืองหลวง คนในครอบครัวก็คิดแต่จะวางแผนเล่นงาน หวังเอาชีวิตข้าอยู่ตลอดเวลา“ทางฝั่งเทียนซือนั่น ก็เป็นภัย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 301

    “ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องการแก้คำสาป มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้มากมาย วิธีการของเจ้าอาจจะไม่ได้ผลก็ได้”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับจมอยู่ในภวังค์ เขาไม่คิดจะปล่อยนางไปตั้งแต่แรกแล้วไม่ว่าจะตัวเขาหรือศัตรูของเขาก็ล้วนแต่เป็นอันตรายต่อชีวิตของนางทั้งนั้น การรั้งอยู่ข้างกายเขาถึงจะไม่ต้องเสี่ยงตายทุกวัน แต่ก็ไม่ได้น้อยไปกว่านั้นหรอกแล้วเมื่อกี้นี้เขายังคิดจะฆ่านางอยู่เลย!นางก้มศีรษะลงโดยไม่พูดอะไร ภายในรถม้าจึงเงียบสงัดทันทีจิ่งโม่เยี่ยรู้ว่าถึงนางจะเอาแต่ทำตัวทะเล้นไปวันๆ แต่ความจริงแล้วเป็นคนที่มีความคิดและหลักการของตัวเองวันนี้เขาตามตัวนางพบและพากลับไปได้ แต่ใช่ว่าหลังจากนี้นางจะไม่คิดหนีอีก แล้วเขาก็ไม่อาจอยู่เฝ้านางได้ตลอดเวลาด้วยหากใช้ไม้แข็งกับนางอย่างเดียว อาจจะทำให้นางเกิดความคิดต่อต้านได้ง่ายแล้วเขายังทำใจฆ่านางไม่ลงอีก เขาไม่ได้ต้องการเพียงศพเย็นชืดของนาง เพราะฉะนั้นต้องหาวิธีอื่นเขาล้วงหยิบข้อความที่นางเขียนทิ้งเอาไว้ “มีลูกเต็มบ้าน เจ้าคิดจะให้ใครคลอดลูกให้ข้าเต็มบ้านล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ตอนแรกนางคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว ดังนั้นก็เลยทั้งใจจะกวนบาท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 302

    เฟิ่งชูอิ่งยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว จิ่งโม่เยี่ยก็กดปลายจมูกของเขาลงมาคลอเคลียกับปลายจมูกของนางแล้วช่วงเวลานี้ ทั้งสองคนต่างสัมผัสลมหายใจของกันและกันได้นางใช้มือผลักตัวเขาออกไปแล้วถลึงตาใส่เขาเขาจ้องมองนางแน่นิ่ง “หากข้าคิดจริงจังล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งเหมือนได้ยินเสียงวิ้งๆ ดังอยู่ในหัว ในใจนางปราศจากความเขินอาย ไม่มีความยินดี มีเพียงความหวาดกลัวนางรู้ว่าเขากำลังสารภาพความในใจแบบอ้อมๆ อยู่ แต่นางอยากจะมีชีวิตยืนยาวกว่านี้จริงๆ ไม่อยากถูกวายร้ายสุดยิ่งใหญ่แล้วยังบ้าคลั่งแบบเขาหลงรักหรอกพวกเขาอยู่ร่วมกันมาเพียงไม่นาน แต่นางก็พอจะเข้าใจนิสัยของอีกฝ่ายหากนางปฏิเสธเขาตรงๆ ด้วยนิสัยของอีกฝ่ายมีโอกาสสูงมากที่จะฆ่านางตายตรงนี้แต่หากไม่ปฏิเสธ คาดว่าเขาก็อาจจะจับนางปลดเปลื้องอาภรณ์ในรถม้าคันนี้แน่....เผชิญหน้ากับคนประเภทนี้ เป็นการทดสอบทั้งสติปัญญาและการควบคุมอารมณ์ไปพร้อมกันเฟิ่งชูอิ่งสูดหายใจลึกๆ กล่าวว่า “การมีลูก ต้องเกิดจากการยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย ถึงจะสำเร็จลุล่วงได้“ข้ารู้สึกเคารพนับถือท่านอ๋องอย่างมาก ไม่มีทางคิดเกินเลยกับท่านอ๋องแน่นอนเพคะ”คำพูดของนางฟังดูคลุมเครือ แต่ความหมายกลับ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 303

    เฟิ่งชูอิ่งอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา นางแค่อยากมีชีวิตอยู่ แต่กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้ชีวิตแล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?หลบหนีหรือ?นางรู้ดีว่าด้วยความสามารถของจิ่งโม่เยี่ย หากเขาไม่ยอมปล่อยนางไป โอกาสที่นางจะหนีรอดก็ลดน้อยลงมากจนแทบไม่มีเหลือนางอัดอั้นจนบรรยายไม่ถูกเลยหลังจากจิ่งโม่เยี่ยออกไปก็ไม่เคยกลับเข้ามาในรถม้าอีกจนกระทั่งถึงเวลากินอาหารค่ำ เฟิ่งชูอิ่งถึงได้พบหน้าเขาอีกครั้ง เขายังคงเหมือนตอนที่พบกันครั้งแรก สีหน้าท่าทางภายนอกดูอบอุ่นอ่อนโยน ทว่าแววตากลับดุร้ายเฟิ่งชูอิ่งพยายามถอยห่างจากเขาอย่างแนบเนียน ยิ่งห่างได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดีจิ่งโม่เยี่ยเห็นปฏิกิริยาของนางแล้วก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ทว่าตอนที่เขาหยิบตะเกียบขึ้นมากลับทำหักท่อนคามือเขาไม่มีวันเหมือนเสด็จพ่อของเขาโดยเด็ดขาด ที่กลายเป็นคนบ้าเสียสติเพราะสตรีนางหนึ่ง ยอมยกหัวใจทั้งดวงให้นาง แล้วยังยอมทิ้งชีวิตและแผ่นดินอีกเขามีเรื่องที่ต้องการทำหลายอย่าง ไม่มีทางเสียการเสียงานเพราะนางหรอกเนื่องจากทั้งสองคนต่างก็อยากจะหลีกเลี่ยงอีกฝ่าย ไม่ต้องพบหน้ากันได้ยิ่งดี ดังนั้นตลอดทางกลับไปยังเมืองหลวงพวกเขาจึงไม่ได้ทะเลาะเบาะแ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 304

    ก่อนหน้านี้จิ่งโม่เยี่ยทำอะไรไม่สนใจใคร เห็นใครขัดหูขัดตาก็ลงมือหมด จนแทบไม่มีจุดอ่อนอะไรแล้วก่อนหน้านี้จิ่งโม่เยี่ยก็ไม่สนใจสักนิดว่าพระชายาของตนเองจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ปล่อยให้ฮ่องเต้เจาหยวนทำทุกอย่างได้ตามใจชอบทว่าตอนนี้จิ่งโม่เยี่ยให้ความสำคัญกับเฟิ่งชูอิ่ง แปลว่าเขามีใจให้เฟิ่งชูอิ่งแล้วเมื่อก่อนเทียนซือเคยตรวจดวงชะตาของจิ่งโม่เยี่ย ชีวิตนี้เขาจะหวั่นไหวกับคนแค่คนเดียวเท่านั้น อีกทั้งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่ง เป็นประเภทที่ลึกลับแบบสุดๆ จนไม่อาจพบเจอได้ง่ายๆก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชะตาชีวิตของคนผู้นั้นถึงได้แปลกนัก แต่หลังจากเขาได้พบกับเฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจทันที เพราะเดิมทีนางไม่ใช่คนของโลกใบนี้หลังจากจิ่งโม่เยี่ยเผลอใจไปแล้ว ก็จะเหมือนกับอดีตฮ่องเต้ในยามนั้น ที่จะรักปักใจกับคนเพียงผู้เดียวซึ่งสำหรับเทียนซือแล้ว เขามองว่ามันเป็นจุดอ่อนอันยิ่งใหญ่หากมีจุดอ่อนดังกล่าว การจะฆ่าจิ่งโม่เยี่ยก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายในตอนนั้นเอง พระสนมสวี่ก็เดินเข้ามาด้วยสภาพดวงตาแดงก่ำ นางเห็นเทียนซือกำลังยิ้มจึงเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้ายิ้มอะไรนักหนา?”เทียนซือเห็นนางเป็

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 305

    เทียนซือเอ่ยเบาๆ “ตอนแรกหากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าก็คงตายไปนานแล้ว”พระสนมสวี่ถอนหายใจ “ข้าทำให้เจ้าเสียเวลามาตั้งนานหลายปี....”“ไม่ใช่” เทียนซือเอ่ยตัดบทนาง “เจ้าไม่ได้ทำข้าเสียเวลาเลย ข้าเต็มใจรอเจ้าเอง“แค่ข้าอยู่เคียงข้างเจ้าได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดในชีวิตข้าแล้ว”พระสนมสวี่ยิ้มหวาน “เจ้าก็เอาแต่พูดแบบนี้ ข้ารู้สึกผิดจนไม่รู้จะทำอย่างไรเลย“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ช่วยกันหาทางฆ่าจิ่งโม่เยี่ยก่อนดีกว่า ข้าไม่อยากให้สิบสามต้องทรมานอีกแล้ว”เทียนซือนัยน์ตาคมปลาบ “เรื่องนี้ข้ามีความคิดอยู่แล้ว....”เขากล่าวจบก็กระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของพระสนมสวี่ พระสนมสวี่ฟังจบดวงตาก็สว่างวาบทันทีนางเม้มปาก “วิธีการดีเลย ข้าจะไปพบฝ่าบาทเดี๋ยวนี้แหละ”นางกล่าวจบก็หมุนตัวเดินออกไปทันที ตอนแรกเทียนซือยังอยากพูดอะไรต่ออีก แต่เห็นท่าทางตื่นเต้นของนาง คำพูดที่เหลือของเขาจึงไม่อาจพูดออกไปได้สายตาของเขาหม่นแสงลงอย่างช้าๆ หลายปีมานี้ ไม่ว่าเขาจะทุ่มเทให้นางมากขนาดไหน ในใจของนางก็มีเพียงฮ่องเต้เจาหยวนคนเดียวเท่านั้นเขารู้ สาเหตุที่นางรักองค์ชายสิบสามมากขนาดนั้น เป็นเพราะว่าองค์ชายสิบสามเป็นลูกที่เกิดจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 306

    ฉินจื๋อเจี้ยนแทบจะตาถลนออกมา คิดว่าตัวเองหูฝาดไป เอ่ยถามว่า “เมื่อกี้เจ้าว่าอย่างไรนะ?”คนเฝ้าประตูร้อนใจ “เมื่อครู่นี้ตระกูลฉินส่งข่าวมาว่าตระกูลเจิ้งขอยุติการหมั้นหมาย นายท่านใหญ่สั่งให้ท่านคืนของแทนใจให้กับตระกูลเจิ้งขอรับ”ฉินจื๋อเจี้ยนสีหน้ามืดครึ้มอย่างมากคู่หมั้นของเขาเป็นบุตรีภรรยาเอกของตระกูลเจิ้ง นายท่านผู้เฒ่าของตระกูลเจิ้งแม้จะมีตำแหน่งขุนนางไม่สูง เป็นแค่อาลักษณ์ขั้นสี่ของฝ่ายตรวจการอีกทั้งตระกูลเจิ้งกับตระกูลฉินรู้จักกันมานาน เขากับบุตรีภรรยาเอกตระกูลเจิ้งก็หมั้นหมายกันตั้งแต่เด็ก ทั้งสองคนนับว่าเป็นสหายวัยเยาว์ สนิทสนมรู้ใจกันมิน้อยตอนแรกที่เขาได้รับเลือกจากอดีตฮ่องเต้ให้เป็นเพื่อนร่วมเรียนของจิ่งโม่เยี่ย คนในเมืองหลวงต่างลือกันว่าเขาอนาคตรุ่งโรจน์แต่เขาได้เป็นสหายร่วมเรียนกับจิ่งโม่เยี่ยเพียงไม่นาน อดีตฮ่องเต้ก็สวรรคต จิ่งโม่เยี่ยที่ควรจะกลายเป็นจักรพรรดิครองแคว้นก็ถูกฮ่องเต้เจาหยวนเล่นงานจนกลายเป็นตัวตลกในราชวงศ์ แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง สถานการณ์ของเขาน่ากระอักกระอ่วนยิ่งกว่าจิ่งโม่เยี่ยอีกคนในตระกูลฉินสั่งให้เขาตีตัวออกห่างจากจิ่งโม่เยี่ย ตัดขาดห้ามไปมาหาสู่กันอีก

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status