Share

บทที่ 220

Penulis: ดอกถังร่วงหล่น
ผู้คุ้มกันเห็นเขาก็รีบเอื้อมมือไปประคองแล้วถามว่า “คุณชายใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

เฟิ่งชูอิ่งถือมีดวิ่งไล่ตามมาติดๆ “ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายไอ้คนหื่นกาม!”

ประจวบเหมาะกับตอนนั้นมีผู้คุ้มกันถือโคมไฟผ่านมาพอดี หลินอีฉุนจึงคว้าโคมไฟจากอีกฝ่ายมาส่องหน้าตัวเอง “ญาติผู้น้อง เป็นข้าจริงๆ!”

เขาถูกเฟิ่งชูอิ่งวิ่งไล่ตลอดทางจนผมเผ้ายุ่งเหยิง รองเท้าหลุดหาย สภาพน่าอนาถเกินบรรยาย

ทางด้านเฟิ่งชูอิ่ง นางอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยทีเดียว

นางมองหลินอีฉุนแล้วตะโกนเสียงดัง “เป็นญาติผู้พี่จริงๆ ด้วย!

“แต่ญาติผู้พี่ช่วยอธิบายกับข้าหน่อยได้ไหม ทำไมท่านถึงแอบย่องเข้าห้องของข้ากลางดึกล่ะ?”

หลินอีฉุน “......”

เขามีใจอยากจะจับนางปล้ำ เรื่องนี้ใครเขาจะกล้าสารภาพออกไปตรงๆ กันล่ะ

เพราะถึงอย่างไรเฟิ่งชูอิ่งก็เป็นว่าที่พระชายาของจิ่งโม่เยี่ย เขาย่องเข้าห้องนางกลางดึกเช่นนี้ แล้วยังถูกนางเอามีดไล่ฟันอีก หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชื่อเสียงของเขาคงป่นปี้หมดแน่

ยามนี้แม้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย แต่เขาไม่มีทางยอมสารภาพเรื่องนี้แน่ จึงเอ่ยว่า “เจ้าเป็นคนนัดข้าให้ไปหาที่ห้องมิใช่หรือ?”

หลังจากอ้างเหตุผลดังกล่าวออกไป เขาก็
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Wan Ngamwongwan
กี่ตอนจึงจะจบสักที
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 221

    หลินชูเจิ้งกระวนกระวาย “ชูอิ่ง เจ้าอย่าวู่วามนะ! เจ้ารีบวางมีดลงก่อน!”เฟิ่งชูอิ่งใช้สายตาประณามหยามเหยียดมองหลินชูเจิ้ง “ท่านลุง วันนี้พอข้ากลับมาถึงก็ถูกบ่าวหญิงแซ่จูถือมีดมาทำร้าย“ตกกลางคืนเพิ่งจะเข้านอน ญาติผู้พี่ก็แอบปีนเข้ามาในห้องของข้า คิดจะทำเรื่องมิดีมิร้ายกับข้า“ข้าพยายามขัดขืนอย่างสุดชีวิต เขากลับใส่ร้ายป้ายสีให้ข้าเป็นคนผิด คิดจะบีบคั้นข้าให้ตาย“ข้าอยากถามท่านลุงสักนิด จวนสกุลหลินไม่ยอมรับข้าขนาดนี้เลยหรือ? หากว่าใช่ ข้าจะย้ายข้าวของออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”หลินชูเจิ้งรู้ว่าหากนางย้ายออกไปตอนนี้ล่ะก็ ประชาชนในเมืองหลวงจะมองตนเองเป็นคนอย่างไรเขาไม่อาจทนรับความอับอายได้!อีกอย่างกว่าเขาจะกล่อมนางกลับมาที่จวนสกุลหลินได้มิใช่เรื่องง่าย อยู่ที่นี่เขาวางแผนฆ่านางได้ง่าย หากนางย้ายออกไป เขาก็แทบจะไม่มีโอกาสลงมือกับนางไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตอนนี้ชีวิตของหลินอีฉุนยังอยู่ในกำมือของนางเขาร้อนใจดั่งไฟ “ชูอิ่ง เจ้าใจเย็นๆ ก่อนนะ เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน!”เฟิ่งชูอิ่งจ้องเขา “ท่านลุง เรื่องนี้ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะใช้คำว่า ‘เข้าใจผิด’ มากลบเกลื่อนได้นะเจ้าค

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 222

    ฮว๋าซื่อกำลังร้องเพลงพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วย เพลงที่นางร้องยังยั่วยวนอย่างมาก เพราะเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมในหอนางโลมบนตัวของนางยามนี้มีเพียงชุดนอนบางๆ ปกคลุมชั้นเดียว อีกทั้งชุดนอนนั้นยังถูกแหวกออกจนเห็นผิวพรรณด้านในคล้ายนางจะเห็นว่ามีคนอยู่ตรงประตูทางเข้า จึงหันหน้ากลับไปมองหลินชูเจิ้งถึงเพิ่งเห็นว่านางในยามนี้ประทินโฉมได้ยั่วยวนอย่างมาก สีหน้าแววตายังมีจริตเย้ายวนแบบที่นางโลมมักจะใช้กันทว่าตอนนี้ หลินชูเจิ้งไม่รู้สึกเสน่หานางสักนิดเดียว เพียงรู้สึกโกรธจนควันออกหูเท่านั้นเขาชอบสตรีใจกล้า โดยเฉพาะเวลาที่พวกนางอยู่บนเตียง ยิ่งใจกล้าเท่าไหร่ยิ่งดีแล้วเขาก็ชอบมองภรรยาของคนอื่นยามที่อาภรณ์ไม่มิดชิด เผยเรียวขาและเอวคอด แต่เขาไม่อาจทำใจยอมรับฮว๋าซื่อในสภาพแบบนี้ได้เพราะว่าฮว๋าซื่อเป็นภรรยาที่เขาตบแต่งอย่างถูกต้องยามที่ทั้งสองคนระเริงรักบนเตียง ฮว๋าซื่อจะรักษาท่าทีเรียบร้อยอย่างมาก ไม่มีความน่าตื่นเต้นเร้าใจดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจึงมองว่าฮว๋าซื่อไม่มีเสน่ห์ด้านนี้ ตอนแรกที่พบว่านางมีสัมพันธ์สวาทกับสารถีแซ่หลิว สิ่งแรกที่เขานึกได้คือนางถูกคนวางแผนใส่ร้ายแต่พอเขาได้ม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 223

    นางแผดเสียงร้องมาแต่ไกล “ท่านแม่ ช่วยด้วย! ผีหลอก!”วันนี้นางถูกเฉี่ยวหลิงหลอกจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แม้จะเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่นางกลับรู้สึกว่าน่ากลัวกว่าครั้งแรกอีกแผนการและกลอุบายของนางถูกความหวาดกลัวลบหายไปหมดสิ้น เวลานี้นางแทบไม่คิดถึงมันแล้วนางรีบร้อนวิ่งเข้ามา จนกระทั่งไม่สังเกตเห็นเฟิ่งชูอิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยซ้ำเฟิ่งชูอิ่งเห็นสภาพของนาง พลันคิดว่านางคงไม่จำเป็นจะต้องอยู่ชมละครครอบครัวรักใคร่ปานจะกลืนกินตรงนี้แล้ว จึงหมุนตัวเดินจากไปตอนที่มารดาแซ่เฉินคุมร่างฮว๋าซื่อ หางตานางเหลือบไปเห็นว่าเฟิ่งชูอิ่งจากไปแล้ว นางจึงคิดว่าเล่นละครแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอด้วยเหตุนี้เองนางจึงออกจากร่างฮว๋าซื่อ หลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอยพอนางจากมา ฮว๋าซื่อก็ทิ้งตัวลงไปนอนกองกับพื้นเสียงหวีดแหลมของหลินหว่านถิงปลุกนางให้ได้สติ พอนางลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นกลับไม่ใช่หลินหว่านถิง แต่เป็นหลินชูเจิ้งไม่ใช่แค่หลินชูเจิ้ง ด้านหลังของเขายังมีอนุภรรยาคนที่นางเกลียดขี้หน้ามากที่สุดด้วยนางเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “นายท่านมาได้อย่างไรหรือ?”หลินชูเจิ้งเอ่ยเสียงเยือกเย็น “หากข้าไม่มา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 224

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”แม้นางจะเข้าใจตรรกะของเฉี่ยวหลิง แต่นางพูดอะไรไม่ออกจริงๆคืนนี้ เจ้านายของจวนสกุลหลินแต่ละคนล้วนแต่ข่มตาหลับได้อย่างยากลำบากคืนนี้มีแต่เรื่องที่สร้างความอกสั่นขวัญแขวน บรรยากาศภายในจวนจึงอึมครึมอย่างยิ่งข้ารับใช้ภายในจวนต่างพากันซุบซิบนินทาอย่างบ้าคลั่ง ต่อหน้าเจ้านายพวกเขาไม่กล้าพูดอะไร แต่ลับหลังกลับแอบพูดถึงกันเป็นวงกว้างมีเพียงเฟิ่งชูอิ่งที่กลับมานอนอย่างมีความสุขที่ห้อง เช้าวันที่สองยังตื่นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใสนางเหยียดแขนขับไล่ความเมื่อยขบ จากนั้นจึงลุกขึ้นไปล้างหน้าอาบน้ำ นางเพิ่งจะจัดการตัวเองเสร็จ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเฉี่ยวหลิงเปิดประตูและพบว่าอีกฝ่ายคืออนุภรรยาของหลินชูเจิ้ง อนุจ้าวนางถาม “อนุจ้าวมีธุระอะไรหรือ?”ปีนี้อนุจ้าวเพิ่งจะอายุยี่สิบปีเท่านั้น เป็นอนุภรรยาคนใหม่ที่หลินชูเจิ้งเพิ่งจะรับเข้ามา และเป็นที่โปรดปรานพอสมควร ถึงหลินชูเจิ้งจะไม่ได้ไปนอนค้างที่เรือนของนางทุกคืน แต่ก็ไปบ่อยมากทีเดียวอนุจ้าวมองสำรวจเฉี่ยวหลิงเล็กน้อย ถามว่า “คุณหนูต่างสกุลตื่นหรือยัง?”เฟิ่งชูอิ่งโผล่หัวออกมาจากด้านในแล้วถามว่า “อนุจ้าวมาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”อ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 225

    “ผู้ชายก็สารเลวเหมือนกันหมด หากโอนอ่อนผ่อนตามมากไป เขาก็จะคิดว่าเจ้าไม่น่าสนใจ บางครั้งก็ต้องต่อต้านเขาบ้าง รับรองว่าได้ผลดีมากเชียวล่ะ”เฟิ่งชูอิ่งคิดไม่ถึงว่าอนุจ้าวจะพูดเรื่องพวกนี้กับนาง จึงแอบประหลาดใจเล็กน้อยอนุจ้าวเห็นสีหน้าของนางจึงกล่าวอย่างขบขัน “เจ้าไม่ต้องมองข้าเช่นนั้นหรอก ที่ข้าพูดเรื่องแบบนี้กับเจ้า แท้จริงแล้วเป็นการทำเพื่อตัวข้าเองนี่แหละ“ฮว๋าซื่อนางโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก ข้าอยู่ใต้อำนาจของนางก็ใช้ว่าจะใช้ชีวิตสุขสบาย“คนที่ไม่ชอบขี้หน้านางทั้งหมด สำหรับข้าถือว่าเป็นคนดีที่น่าคบหาทั้งสิ้น”เฟิ่งชูอิ่งคลี่ยิ้มออกมา “อนุจ้าวเป็นคนที่สุดยอดจริงๆ”อนุจ้าวถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “ข้าไม่ได้สุดยอดอะไรหรอก ข้าก็แค่ต้องหาทางเอาตัวรอดให้ตัวเอง“ในภายภาคหน้าหากเจ้าต้องการเล่นงานฮว๋าซื่อ มีอะไรที่ข้าช่วยเหลือได้ก็บอกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”เฟิ่งชูอิ่งเม้มริมฝีปากแล้วตอบว่า “ได้”หลังจากอนุจ้าวระบายความในใจจนหมดแล้วก็ไม่รั้งอยู่ต่อ นางผินหน้าเดินจากไปทันที เฟิ่งชูอิ่งทราบว่าเดิมทีอนุจ้าวเป็นบุตรสาวตระกูลขุนนาง หลังจากตระกูลได้รับโทษจึงถูกปลดเป็นข้าทาสบริวารหลังจากนั้นก็มีคนออกมาล้า

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 226

    คนผู้นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจิ่งสือเยี่ยนสาเหตุที่เฟิ่งชูอิ่งประหลาดใจขนาดนี้ เพราะว่าเขาในตอนนี้ใบหน้ามีสีน้ำมันแต่งแต้ม สวมเสื้อกั๊กถักจากฟาง เผยช่วงแผงอกแกร่งที่มีกล้ามแน่นๆเขามัดผมรวบสูงเป็นช่อ แล้วยังเสียบขนไก่ป่าเอาไว้อีกสองสามเส้น ท่าทางโดยรวมดูแล้วเหมือนคนบ้านป่าอยู่ไม่น้อยเขาที่เป็นอย่างนี้หากเทียบกับตอนที่เจอในพระราชวังครั้งก่อนแล้ว กลับดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม แล้วยังดูดิบเถื่อนขึ้นเล็กน้อยด้วยเขาส่งยิ้มบางๆ ให้นาง แล้วยังอวดเขี้ยวทั้งสองข้างให้เห็นอีกเดิมทีเขาก็เป็นพระเอกในนิยายอยู่แล้ว รูปร่างหน้าตาจึงดีแบบไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดเพียงแต่ลักษณะนิสัยของเขาไม่ค่อยจะคล้ายคลึงกับพระเอกขนาดนั้น เขาไม่ได้สูงส่งเย็นชา ไม่ได้เอาแต่ใจ มีเพียงความน่ารักแม้เฟิ่งชูอิ่งจะรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าแตกต่างจากลักษณะที่บรรยายในนิยายมากไปหน่อย แต่พอเห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว นางก็แอบรับไม่ได้อยู่เล็กน้อยนางสะกดความประหลาดใจไว้แล้วเอ่ยถาม “จิ้นอ๋องทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะเพคะ?”จิ่งสือเยี่ยนตอบว่า “อ้อ ใกล้จะถึงงานเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างแล้ว วันนี้สำนักศึกษาหลวงมีซ้อมการแสดงในพิธีน่ะ หลังจากเสร็จแล

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 227

    กิจการไปได้สวยขนาดนี้ ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะขาดทุนเหมือนที่จดบัญชีเอาไว้เลยมองปราดเดียว เฟิ่งชูอิ่งก็รู้แล้วว่าฮว๋าซื่อตั้งใจใช้อำนาจกลั่นแกล้งนางนางกระจ่างแจ้งในใจ ก่อนจะเดินวนรอบๆ ร้านค้า เตรียมจะหาผ้าสักพับเพื่อทำอาภรณ์ พร้อมกับตรวจดูการทำงานของร้านไปด้วยเพียงแต่นางยังไม่ทันจะเอ่ยปาก หลงจู๊ก็เดินหน้าปลาบปลื้มเข้ามาหานาง “คุณหนู ในที่สุดท่านก็มาเสียที”เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “เจ้ารู้จักข้าหรือ?”หลงจู๊ตอบว่า “ข้าไม่รู้จักท่านหรอก แต่ข้ารู้จักมารดาของท่าน“ท่านหน้าตาเหมือนกับมารดาของท่านมาก มองแวบเดียวข้าก็จำได้แล้ว“ตอนนั้นมารดาของท่านมีบุญคุณต่อข้าอย่างมาก ข้าก็เลยทำงานเป็นหลงจู๊ที่ร้านแห่งนี้ ช่วยดูแลกิจการแทนนาง“ข้าเฝ้ารอให้ท่านมาที่ร้านแห่งนี้มาโดยตลอด แต่ท่านกลับไม่เคยมา“ข้าเคยไปหาท่านที่จวนสกุลหลินด้วย แต่กลับไม่เคยได้พบกับท่านเลย ใจข้ารู้สึกเป็นกังวลอยู่มิน้อย“วันนี้ในที่สุดก็ได้พบท่านเสียที ข้าดีใจจนบอกไม่ถูกเลยขอรับ!”เฟิ่งชูอิ่งมองดวงตาที่เป็นสีแดงระเรื่อของเขา ดูแล้วเหมือนคนที่ซาบซึ้งยินดีอย่างมากนางจึงเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ข้ายังเด็กนัก ท่านป้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 228

    ไม่ต้องพูดถึงคนตระหนี่ถี่เหนียวอย่างฮว๋าซื่อเลย เป็นไปไม่ได้ที่นางจะตรวจไม่เจอการทำบัญชีปลอมนิทานที่หลงจู๊เล่าอาจจะหลอกเด็กสาวที่โง่เขลาและโลภมากได้ แต่มันหลอกนางไม่ได้หรอกตอนนั้นจิ่งสือเยี่ยนอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นนางคงลงมือจัดการหลงจู๊ไปแล้วหลังจากนางออกมาก็ยอมเดินตามหลงจู๊มาอย่างใจเย็น กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่ใช่เพราะนางอยากรู้ว่าหลงจู๊คิดจะทำอะไร นางคงกระทืบเขาไปแล้วแม้นางจะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่จะต้องไม่ใช่สถานที่ดีๆ แน่ ดังนั้นนางไม่มีทางเข้าไปหรอกอีกทั้งหลงจู๊ยังกระซิบกระซาบเสียงเบาอีก เป็นหลักฐานยืนยันอย่างดีว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยนางกำลังคิดว่าจะปล่อยเฉี่ยวหลิงทะลุกำแพงไปสำรวจสถานการณ์อีกฝั่งดีไหม จิ่งสือเยี่ยนก็มาขวางนางไว้ก่อน “ห้ามเข้าไปนะ”เขาโผล่มาแบบกะทันหัน เฟิ่งชูอิ่งจึงตกใจจนสะดุ้งโหยง หากเมื่อครู่นี้เฉี่ยวหลิงเอาหัวทะลุกำแพงเข้าไปสอดส่องอีกฝั่งจริงๆ ล่ะก็ งานนี้ได้แตกตื่นของจริงแน่นางสงบจิตสงบใจแล้วเอ่ยถาม “องค์ชายมาได้อย่างไรเพคะ?”จิ่งสือเยี่ยนตอบว่า “เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินที่เจ้าสนทนากับหลงจู๊แล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ“ข้าเป็นห่วงก็เลยแอบตามมา

Bab terbaru

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status