มีคนต้องการให้เธอตาย !
แล้วใครกันหละที่อยากให้เธอตาย
เมื่อคำถามนี้เกิดขึ้นในหัว ร่างโปร่งแสงของเธอก็หายวาบกลับมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง
“เอ๊ะ ฉันกลับมาบ้านได้ยังไง”
เกศราเดินเข้าบ้านผ่านประตูเข้าไป ได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากห้องสาวใช้ เธอจึงเดินทะลุประตูห้องเข้าไปเห็นนังแจ๋วกำลังนั่งอยู่บนตักไอ้เข้มผู้เป็นสามี
“พี่ทำงานให้แจ๋วสำเร็จแล้วนะ ขอรางวัลให้พี่บ้างซีคนดี”
ไอ้เข้มหุ่นล่ำเป็นคนสวนประจำบ้าน ซุกไซ้ซอกคอคนรักสาว
“แหม... ก็แค่ตัดเบรกรถยัยคุณนายหน้าโง่ งานง่าย ๆ แค่นี้พี่จะเอารางวัลอะไรเยอะแยะ”
แจ๋วสะบัดเสียงคล้ายไม่พอใจ แต่กลับไม่ผลักไสสามีออก หญิงสาวลูบไล้ปลุกอารมณ์ของเขาเช่นกัน
เกศราได้ยินเช่นนั้นถึงกลับตาเขียวปัด “หน็อยแน่ ! เป็นเพราะมึงสองตัวนี่เองที่ทำให้ฉันต้องตาย พวกแกเกลียดอะไรฉันหนักหนา เงินเดือนฉันก็ให้ ด่าก็แทบจะไม่เคย”
ผีสาวยืนโกรธเกรี้ยวอยู่กลางห้อง ในขณะที่สองหนุ่มสาวบนเตียงยังคงนัวเนียกันไม่เลิก
“ถึงงานจะง่าย แต่งานนี้ แจ๋วได้ค่าจ้างมาไม่น้อยไม่ใช่หรือ”
“ก็พอใช้ได้สบาย ๆ ไปครึ่งปีเชียวหละ เดี๋ยวถ้าคุณพิมพ์ทราบแน่ชัดว่าคุณนายตายแน่แล้วก็จะโอนเงินให้ฉันอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ เงินค่าจ้างนี้พอให้ฉันกับพี่หนีกลับไปตั้งตัวที่บ้านนอกเชียวหละ”
เกศราได้ยินเช่นนั้นถึงก็โผเข้าไปหานังแจ๋ว ตะคอกถามเสียงดังว่า
“อีพิมพ์ที่จ้างแกมาฆ่าฉันมันเป็นใคร บอกมานะนังแจ๋ว”
แต่แจ๋วกลับไม่ได้ยินเสียงผีสาว อีกทั้ง ยังถูกนายเข้มดึงเข้าไปกอดจูบอย่างดูดดื่ม
“อึก... อื้ออออ”
“อีแจ๋ว อีร่าน กอดจูบกับผู้ชายแน่นเชียว หิวมากนักหรือมึง ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้”
เกศราโวยวาย พยายามจะดึงตัวนางแจ๋วออก ในจังหวะนั้นเองนายเข้มคนสวนก็พลิกร่างนางแจ๋วลงกับเตียง
“ว๊าย !”
เกศราล้มลงไปด้วยสัญชาตญาณเดิมที่เคยเป็นมนุษย์ ทำให้ร่างของแจ๋วทาบทับลงกับวิญญาณของเธอ
“อ๊ะ !”
เกศราเบิกตาโตด้วยความตกใจ เมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจับท่อนแข็ง ๆ ที่กำลังร้อนฉ่า
หญิงสาวก้มลงมองมือตัวเองช้า ๆ แล้วพบว่ามือของแจ๋วกำลังจับดุ้นลำเขื่อง แต่เธอกลับรู้สึก และสัมผัสได้ หรือว่าเธอได้สิงร่างนี้ไปแล้ว !
ยังไม่ทันที่เกศราจะหายตกใจ ที่จู่ ๆ ก็เข้าไปสิงในร่างของสาวใช้ได้ นายเข้มก็รีบถอดเสื้อผ้าของตนออกจนหมด แล้วเอาลำดุ้นของตนยัดเข้าปากหญิงสาว
“อุก”
เกศราในร่างของแจ๋วแทบจะขย้อนออกมา เพราะไม่เคยอมของใหญ่เท่านี้มาก่อน
“โม๊กให้พี่เป็นรางวัลหน่อยนะเมียจ๋า”
นายเข้มขยุ้มผมหญิงสาว แล้วอัดลำดุ้นเข้าปาก ขยับซอยสะโพกเข้า ๆ ออก ๆ
“อ๊อก... อื้ออ ออ”
ผีสาวในร่างคนใช้ไม่มีทางหลีกเลี่ยง อีกทั้ง เธอก็ไม่เคยอมของใหญ่แบบนี้มาก่อน ก็ชักจะเคลิ้ม ๆ จึงรูดริมฝีปาก อม ๆ ดูด ๆ อย่างเอร็ดอร่อย
“อู้ยยยย ซี้ดดดด อา.. แจ๋วจ๋า วันนี้อมเก่งจัง อื้อออ อา”
นายเข้มร้องครางซี้ดปาก เอามือกดหัวเกศราแน่น จากนั้นก็ดึงมือเธอขึ้นมา แล้วค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าหญิงสาวออกช้า ๆ ถอดทีละชิ้นพร้อมกับโลมเลียไปด้วย
“งื้ออออ นายเข้ม อา”
เกศราเผลอครางออกมา พร้อมกับร่างบิดไปมาอย่างความเสียวซ่าน เมื่อนายเข้มเอื้อมมือจับบีบเคล้าคลึงเต้านมอวบ ๆ ไม่คิดว่าคนสวนหนุ่มจะร้อนแรงเหลือเกิน
“ทำไมไม่เรียกพี่เข้มเหมือนเมื่อก่อนจ๊ะ”
นายเข้มชะงัก ด้วยแปลกใจ
ผีสาวในร่างของแจ๋วจึงรีบแก้ตัวว่า “จะเรียกนายเข้ม หรือ พี่เข้ม ยังไงก็เป็นผัวฉันเหมือนกันไม่ใช่หรือจ๊ะ”
“ไอ้เหมือนมันก็เหมือน แต่เรียกนายเข้มทีไร พี่ก็คิดว่าคุณนายกำลังเรียกนะสิ”
เกศราแกล้งทำเสียงแห้วขึ้น “พี่เอาแต่พูดอยู่นั่น จะเอาไหมรางวัล ถ้าไม่ทำต่อฉันไปล่ะ”
เธอทำทีเป็นแง่งอนแล้วพลักเขาออกเบา ๆ
“โธ่ ๆ ทูนหัว เอาสิจ๊ะ จ้วยพี่แข็งแบบนี้แล้วจะให้เอาไปปล่อยกับใครล่ะ”
นายเข้มรีบกอดแจ๋ว สัมผัสเรือนร่างนุ่มนิ่ม เล้าโลมหญิงสาวให้อ่อนระทวยอีกครั้ง
“อ่า... พี่เข้ม”
เกศราในร่างของแจ๋วครางเบาๆ
แล้วนายเข้มก็พรมจูบจนมาถึงเนินเนื้อสาวของหญิงสาว เขาเอานิ้วชำแรกเข้าร่องสาว กดนิ้วสอดเข้าข้างใน
“อู้ยยย อา พี่เข้ม งื้ออออ อา”
เกศราคราง บิดร่างเร่าๆ รู้สึกเสียวมากๆ เมื่อถูกลำนิ้วซอยเข้าร่องเข้า ๆ ออก ๆ ถี่ ๆ
แซ็บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อ๊ะ ๆ อา ๆ”
เธอเผยอริมฝีปากอ้าคราง พร้อมกับกดหัวเข้มลงกับเนินสวาท แอ่นเนินเนื้อสาวเบียดถูไถไปกับปากนายเข้ม
“อูยยย เสียวไม่ไหวแล้ว เลียสิคะ ดูดแรง ๆ ซีพี่เข้ม”
นายเข้มได้ยินเช่นนั้น ก็ใช้ลิ้นตวัดเลียติ่งเสียวบนเนินสาวถี่ ๆ พร้อมกับแยงนิ้วเข้า ๆ ออก ๆ
แผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
แซ็บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อ้ายย...ซี้ดด... ดูดแรง ๆ อีก ซี้ดด...โอววว...เสียว ซี้ดดด อา”เกศรารู้สึกว่าร่างที่ตนเองสิงอยู่น้ำหวานเริ่มไหลแฉะออกมา ยิ่งนายเข้ม กดปากฝังลึก แล้วดูดติ่งเสียว เธอยิ่งแอ่นร่างเร่า ๆ ร้องครางใหญ่ เด้งเนินสาวอัดกับใบหน้าแฟนหนุ่มแผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆนายเข้มช้อนมือเข้าใต้สะโพกหญิงสาว แล้วดันให้เนินเนื้อสาวหยัดเข้าหาปากตนมากขึ้น ก่อนดูดหอยดังจ๊วบ ๆ“ซี้ดดดด เสียวววว อา”ผีสาวร่างแจ๋วร้องลั่น ร่างบิดแอ่นเนินสาวของเธอใส่ปากชายหนุ่มแทบจะเอาส่วนนั้นกระแทกหน้าเขาแรงๆ“อ๊า !”ในที่สุดร่างของเธอก็เกร็งสะท้าน น้ำหวานแตกออกพรวด ๆนายเข้มรีบตวัดลิ้นเลียอย่างหิวกระหายแผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆเกศราในร่างของคนใช้สาวถึงสวรรค์ด้วยปากของคนสวน เขาเก่งเหลือเกิน แค่ปากยังเสียวสะท้านเพียงนี้ ถ้าได้ดุ้นใหญ่ ๆ ที่สัมผัสเมื่อครู่กระแทกจะเสียวแค่ไหนเพียงแค่คิดถึงตรงนี้ น้ำหวานของเธอก็ฉ่ำแฉะออกมาอีกแล้ว เสียวรูสาวจนน้ำไหลแฉะอยากเอากับคนสวนจริงๆเมื่อคิดได้ดังนั้น เกศราก็ผลักร่างนายเข้มให้ล้มนอนกับเตียง แล้วขึ้นเธอจับดุ้นยักษ์จ่อเข้าที่รู แล้วกดร่องสาวลงขย่มส๊วบ
เธอส่งเสียงงัวเงียตอบกลับไป เพราะอยู่ในร่างมนุษย์จึงรู้สึกอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงหลังจากทำกิจกรรมบนเตียงอย่างหนัก“นี่ นังแจ๋ว ฉันได้รับข่าวการตายของเกศแล้วนะ” เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้หญิง “เดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้แกตามที่ตกลงกันเอาไว้”เกศราได้ยินเช่นนั้นถึงกับเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ”คำพูดของเกศราในร่างของสาวใช้ ทำเอาคนปลายสายชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับมาว่า“เอาเป็นว่า... งานที่ฉันสั่งให้แกทำเห็นผลเรียบร้อยแล้ว ฉันจะโอนเงินตามที่ตกลง แค่นี้แหละ”ตื้ด ๆ ตื้ด ๆ ตื้ด ๆปลายสายตัดไปแล้ว เกศรายังคงกำโทรศัพท์แน่น เสียงผู้หญิงที่โทรมาเมื่อสักครู่ช่างคุ้นหูมาก และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่สั่งให้คนใช้มาตัดสายเบรกรถเธอ !“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าแกเป็นใคร”เกศราคำรามออกมา พลางจิ้มลงบนจอโทรศัพท์เพื่อไล่ดูชื่อที่โทรมาเมื่อสักครู่“คุณพิมพ์ เพื่อนคุณนาย”เธออ่านออกเสียงเบา ๆ มือของเธอถึงกลับสั่นระริก หัวใจเหมือนถูกค้อนปอนด์ทุบลงที่กลางใจจนเจ็บไปหมด“พิมพ์... ทำไม.. ทำไมเป็นแก เราเป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่เหรอ”เกศราน้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด และสับสน เธอดีกับเพื่อนสาวคนนี
ผีสาวกระโดดโหยงถอยห่างออกมาด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้เธอก็มองดูชายคนนั้นดี ๆ แล้วพบว่า เขาเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ ผิวตลอดทั้งตัวสีแดงดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง ครึ่งบนสวมเครื่องประดับโบราณสีนิล ถือไม้สามง่าม ใบหน้าคมเข้มน่าเกรงขาม โดยเฉพาะดวงตาที่ดุมากแม้ว่าเขาจะดูน่ากลัว แต่ทำไมเกศรากลับรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์ต่อเพศหญิงอย่างเหลือล้น“คุณคือยมทูตเหรอ”เกศราเลียบเคียงถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เหอะ”บุรุษนุ่งชุดโบราณผู้นั้นไม่ตอบ กลับเชิดหน้าแล้วแค่นเสียงในลำคอ ราวกับว่าหญิงสาวได้พูดอะไรที่เป็นการดูถูกเขาเข้าแล้วเกศราจึงเดาต่อไปอีกว่า “ถ้าไม่ใช่ยมทูต งั้นท่านก็คงเป็นยมบาลสินะ”“เจ้าอยู่กับข้าในนรกนับพันปีแล้ว ยังกล้าลืมข้าได้ เหอะ” น้ำเสียงนั้นคล้ายกับว่าน้อยใจ “แต่ช่างเถอะ ข้าไม่เอาความกับผีอ่อนแอเช่นเจ้าหรอก วันนี้เจ้าต้องไปลงนรกกับข้า”“ไม่นะ ! ข้าไม่ลงนรก” เกศราถอยหนีออกไปอีกหลายก้าวพลางส่ายหน้า “คนที่สมควรไปลงนรก คือไอ้ดอนสามีชั่ว กับนังพิมพ์แพศยาแย่งผัวชาวบ้านนู้น”“ฮ่า ๆ” ยมบาลหัวเราะดังลั่น แล้วเอ่ยเสียงดังกังวานว่า “เกศรา... เจ้าคิดว่าตนเองดีกว่าคนพวกนั้นนักหรือ ข้าต้องมาลากเจ้าไปลงนร
จ่ายาวโอดครวญ พลางบ่นผู้กองหนุ่มในใจว่า ‘ผู้กองยังโสดทำงานหามรุ่งหามค่ำได้สิ ผมจะแช่งให้ผู้กองมีเมียไว ๆ จะได้รู้รสชาติความโหดในชีวิตแบบผมบ้าง’“เอาเถอะ ๆ จ่าไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก เดี๋ยวผมไปรับผลการชันสูตรเอง”“จริงเหรอผู้กอง”จ่ายาวร้องเสียงหลงตาวาว แทบจะกระโดดกอดผู้กองคนใหม่“ผมเคยพูดเล่นเหรอจ่า แต่อย่าแอบกลับก่อนเวลาราชการหละ ไม่งั้นผมรายงานสารวัตแน่”“ครับผม”จ่ายาวตะเบ๊ะท่าขึงขัง แล้วยิ้มหน้าบานออกไปด้วยเหตุนี้ผู้กองหนุ่มที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวนคดีจึงต้องมารับผลชันสูตรพลิกศพของเกศราที่โรงพยาบาลเองโรงพยาบาลหาที่จอดรถยากมาก ผู้กองแจ็คจึงจอดรถไว้ที่ริมถนนด้านข้างของโรงพยาบาลจากนั้นก็เดินเท้าเข้ามาในจังหวะที่เขากำลังจะเดินเข้าประตูโรงพยาบาลนั้น หางตาของเขาบังเอิญเหลือบเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเสื้อกาวสีขาวตัวสั้นกำลังจะก้าวข้ามถนนในขณะที่รถวิ่งไปมาไม่ขาดสายท่าทางของเธอคนนั้นราวกับมองไม่เห็นรถที่วิ่งสวนกันไปมา เลือดตำรวจที่เป็นนักช่างสังเกต ช่างสงสัย และชอบแส่ทุกเรื่องของชาวบ้านก็หันขวับไปมองเธออย่างพิจารณาเธอคนนั้นเหมือนง่วง ๆ ซึม ๆ สติไม่อยู่กับตัวแล้ว เขาจึ
ทั้งสองจูบปากกันอย่างดูดดื่ม เรือนร่างนวลเนียนของหญิงสาวค่อย ๆ เลื้อยไปบนตัวของชายหนุ่ม“จ๊วบ.... อืม”ดอมตวัดปลายลิ้นเอาหัวนมเธอเข้าปากแล้วดูดดึงจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ“อ๊ะ.. อา ดอมขา พิมพ์เงี่ยนอีกแล้ว”หญิงสาวครางครวญ แล้วหล่อนก็เป็นฝ่ายดูดยอดอกปลุกความเสียวซ่านให้เขาบ้าง“โอ้วววว พิมพ์... คุณก็ทำผมแข็งโด่หมดแล้ววว อา”ดอนครางกระหึ่มเมื่อมือน้อย ๆ ของหญิงสาวกำรอบลำดุ้นของเขา แล้วเคลื่อนปากลงมาอมเข้าไปทั้งดุ้น แล้วตวัดลิ้นที่ปลายหัวบากถี่ ๆ ก่อนดูดแรงๆม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ“อูยยยย พิมมมม อา”เขาเด้งเอวขึ้นด้วยความเสียวซ่านที่ถูกดูดอมเข้าลึก ๆ จนเกือบมิดด้ามม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆแผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆหญิงสาวช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างหยาดเยิ้ม ดุ้นของผัวเพื่อนช่างอร่อยเหลือเกิน เธอจับลำดุ้นของเขาสาวรูด ใช้ปลายลิ้นไล้เลียเล่นอย่างชอบใจ“อู้ยยยยย... พิมมม ผะ ผมจะไม่ไหวแล้ววว ซี้ดด อา”ดอนครางใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน เด้งเอวเข้าใส่ปากหญิงสาว เธอยิ่งกํามันแน่นแล้วรูดปากใหญ่ในที่สุดเขาก็ทนความเสียวซ่านไม่ไหว ระเบิดน้ำแตกออกใส่ปากเมียน้อย“อ๊ากกกกก”ม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆแผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เกศราอยากจะเข้าไปบีบคอให้ชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นแดดิ้นไปต่อหน้าต่อตา แต่เธอสัมผัสพวกเขาไม่ได้ ทำได้เพียงสิงร่างสตรีที่จิตใจอ่อนแอเธอจะทำอย่างไรหนอให้โลกรับรู้ว่าคนชั่วสองคนนี้วางแผนฆาตกรรมเธอ !แล้วสายตาของผีสาวก็เห็นผู้หญิงที่อยู่ห้องข้าง ๆ กำลังเดินสะลึมสะลือ ในมือถือโทรศัพท์เพื่อส่องแสงนำทางไปเข้าห้องน้ำ ทำให้เธอคิดถึงแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหายตัวแวบเข้าไปสิงร่างของพิมพ์วาบ.....พิมพ์ที่กำลังนอนกอดดอนหอบกระเส่าด้วยอารมณ์รัญจวน จู่ ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้น ดวงตาแข็งกร้าวทำเอาชายหนุ่มที่กำลังนัวเนียเธออยู่ชะงัก ถามหญิงสาวด้วยความแปลกใจว่า“พิมพ์ เป็นอะไร หรือว่าเมื่อครู่ผมยังปรนเปรอความสุขให้คุณไม่พอ”ท้ายประโยคชายหนุ่มซุกไซ้ลงไปจูบที่ซอกคอของชู้สาวเพื่อเอาใจเกศราในร่างของเพื่อนสนิท รีบกะพริบตา ปรับสีหน้า แล้วปั้นยิ้มฉ่ำเยิ้ม“ดอนขา.... ความสุขที่คุณให้มันล้นปรี่จนเต็มร่องพิมพ์เลยค่ะ แต่เมื่อครู่พิมพ์แค่นึกถึงเกศราเขาน่ะค่ะ”“จะไปนึกถึงคนอื่นทำไมกัน คิดถึงอนาคตเราสองคนดีกว่า”ดอนส่งเสียงตอบอู้อี้ผ่านริมฝีปากที่กำลังพรมจูบลงมาจนถึงทรวงอกของหญิงสาว“อะ... ดอนขา...”เกศราในร่างคนอื่นส่งเส
วิญญาณของเกศราเด้งออกมาจากร่างของผู้หญิงในชุดนอนคนนั้น ทำให้เจ้าของร่างตัวจริงมีสติคืนมาด้วยอาการงงงวยหล่อนกะพริบตาปริบ ๆ มองหน้าผู้ชายที่ตนกําลังทับอยู่ส่วนผู้กองแจ็อุทานด้วยความแปลกใจเมื่อพบว่าผู้หญิงที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตมาจากระเบียงนั้น คือ...“หมอหมวย !”“ผู้กอง คะ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ”“ผมต่างหากที่ต้องถามคุณ ดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้คุณปีนข้ามระเบียงไปห้องคนอื่นเขาทำไม”“ฉันเนี่ยนะปีนระเบียง”หมอหมวยร้องเสียงหลง คราวนี้หล่อนตื่นตัวเต็มที่แล้ว“ก่อนที่จะอธิบายอะไร คุณหมอช่วยลุกออกไปจากตัวผมก่อนได้ไหมครับ”ผู้กองแจ็คสีหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทุกขณะ เพราะร่างกายนุ่มนิ่มของหมอหมวยที่ทับอยู่บนตัวเขาเริ่มจะทำให้อารมณ์ของเขาปั่นป่วนเสียแล้ว“เอ๊ะ...”หมอหมวยรีบดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ“เอ่อ... ผมติดต่อขอเช่าห้องเพื่อซุ้มดูคนร้ายที่ห้องนู้น”ผู้กองแจ็คชี้ไปยังห้องพักที่ติดกับห้องของพิมพ์อีกฝั่ง“คิดไม่ถึงว่า พอเปิดประตูระเบียงออกมา แล้วจะบังเอิญเห็นคุณกำลังปีนระเบียงออกมาจากห้องนั้น จนเกือบจะตกตึกลงไปตายแล้วนะคุณ”ประโยคสุดท้ายเขาเสียงเข้มขึ้น คล้ายกับจะดุหญิงสาวกลาย ๆ“ฉันไม่ร
“โอ้ว... เจ้าเด็กนี่ พองสู้ปากดีนัก”เกศราตาวาว เห็นแก่นกายของหนุ่มน้อยพองใหญ่จนคับปากเช่นนั้นก็ทำเอาเธอน้ำแฉะออกมาที่หว่างขา รู้สึกหงี่ขึ้นมาเหมือนกันม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆแผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ“อู้ยยยย อา พะ พี่สาว ดูดผมจนแข็งหมดแล้ว”ผีสาวได้ยินเสียงเขาร้องขึ้นเช่นนั้นก็ชะงัก รีบคายดุ้นออกจากปาก“น้องมองเห็นพี่ด้วยรึ”“แล้วทำไมจะไม่เห็นล่ะ”“กะ ก็....”เกศราคิดจะบอกว่าตนเองเป็นผี ก็กลัวว่าน้องมันจะกลัวจนดุ้นหด อดเย้วกันพอดีจึงเลื้อยตัวขึ้นคร่อมตัวหนุ่มน้อยอย่างยั่วยวนแล้วตอบบ่ายเบี่ยงไปว่า“เรื่องเห็นไม่เห็นช่างมันเถอะจ้ะ.... เอาเป็นว่าถ้าน้องมองเห็นพี่ คืนนี้มันแน่นอน”สิ้นคำ เกศราก็โผเข้ากอดและจูบปากหนุ่มน้อยก่อน อีกทั้งยังเลื่อนมือลงไปจับแก่นกายแล้วสาวแก่นลำจนมันดิ้นสู้มือ“หืม....”หนุ่มน้อยครางหือในลำคอ เขาบดจูบเธออย่างหนักหน่วงพอกัน อีกทั้งยังแทรกมือเข้าไปลูบไล้โหนกเนินที่เธอแอ่นบิดเอวเร่า ๆ อย่างโหยหา“อึก.... อื้อออ”เกศราครางฮือในลำคอด้วยความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะช่ำชองนักจากนั้น เกศราก็รีบถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วทิ้งตัวลงนอนถ่างอวดเขา“เมื่อครู่ทำรูปนางแบบ
ในขณะที่แม่ทัพยมราชอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น เขาก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่า“ไม่.. ไม่นะ อย่า”เสียงนั้นทำให้เขาสะดุ้งตื่นตามสัญชาตญาณนักรบที่ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อปรับสายตาให้คุ้นเคยกับความมืดแล้ว เขาจึงเห็นว่าที่แท้เป็นเสียงของหนุ่มน้อยอาการของคนที่นอนอยู่ข้างเตียงเขาคล้ายกับกำลังฝันร้ายมาก มีเหงื่อผุดซึมตามหน้าผาก ปากพึมพำ“ยะ อย่าทำข้าเลย ไม่นะ อย่า”แม่ทัพยมราชจึงเอื้อมมือไปหมายจะปลุกให้ตื่นจากฝันร้าย แต่กลับกลายเป็นว่าหนุ่มน้อยผู้นั้นกลับผวาคว้าเอามือเขาไปจับไว้แน่น“ช่วยด้วย ช่วยข้าที ข้ากลัวเหลือเกิน”เขารู้สึกว่าเสียงของหนุ่มน้อยช่างเวทนาเหลือเกิน จึงไม่ดึงมือกลับ อีกทั้งยังลงจากเตียงนอนของตน แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เด็กชาย“เจ้าอยู่กับข้าที่นี่ ไม่มีผู้ใดจะทำร้ายเจ้าได้”แม่ทัพยมราชกระซิบบอกอย่างแผ่วเบา แล้วคนที่ฝันร้ายเมื่อครู่ก็มีอาการสงบลง อีกทั้งร่างบางพลิกตัวซุกใบหน้าหาอกอุ่น คล้ายกับลูกแมวที่กำลังซุกเข้ากับอกแม่เขาก้มลงมองใบหน้างดงามในอ้อมแขน ทั้งกลิ่นหอมรัญจวนทั้งดวงหน้างดงามเกินบุรุษ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกจนยากจะบรรยาย จึงปล่อยให้หนุ่มน้อยนอนกอดตนจนถึงรุ่งสาง
“ข้าเป็นเด็กหนุ่มจากภูเขาฝากนู้นหมายมาดว่าจะเดินทางเข้าเมืองมาหางานทำ” องค์หญิงเก็จมณีปั้นเรื่องอย่างคล่องปาก “คิดไม่ถึงว่าจะเจอโจรป่าดักปล้น หากไม่ได้ท่านแม่ทัพช่วยเอาไว้ ข้าคงถูกพวกมันปล้นแล้วฆ่าตายที่กลางป่าแน่ ๆ ขอบพระคุณท่านแม่ทัพมาก ๆ ขอรับ”“ไม่เป็นไร... เป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องปกป้องดูแลประชาชนชาวศากยะบุรีทุกคน”“มีท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ แผ่นดินศากยะบุรีจึงสงบร่มเย็นเช่นนี้ ข้าต้องขอบใจท่านจริง ๆ”องค์หญิงเก็จมณีเผลอตัวใช้วาจาเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ที่กำลังกล่าวชมขุนนางผู้จงรักภักดี“วาจาเจ้า.....”แม่ทัพยมราชขมวดคิ้วองค์หญิงเก็จมณีคล้ายจะรู้ตัวว่าเผยพิรุธออกมาจึงแสร้งทำเป็นตกใจกลัว “ข้าพูดอะไรผิดไปหรือไม่ขอรับ” นางรีบลงจากเตียงลงมาคุกเข่าขอขมาเขา “ข้าเองก็เพิ่งจะเคยเห็นแม่ทัพตัวเป็น ๆ หากมีสิ่งใดที่ทำผิดไปขอท่านแม่ทัพโปรดอภัยให้ข้าด้วย อย่าลงโทษข้าเลย”แม่ทัพยมราชเห็นท่าทีเช่นนั้นก็คิดว่าตนคงจะระแวงมากเกินไป จึงเอ่ยว่า “ข้ายังไม่ได้กล่าวโทษเจ้าเลย ลุกขึ้นเถอะ”“ขอบคุณขอรับ”“หากว่าเจ้ายังไม่มีที่ไป ก็อยู่ช่วยงานรับใช้ข้าที่นี่แล้วกัน”แม่ทัพยมราชเสนอขึ้น“ท่านอนุญาตให้ข้าอยู่ที่นี่
“จริงอย่างเจ้าว่า ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ตัวมันหอมน่ากิน ใบหน้ายังจิ้มลิ้มน่าลอง ลูกพี่ ข้าว่าจับมันกลับไปเป็นชายบำเรอความสุขให้พวกเราดีกว่า”มันเอ่ยจบก็ยื่นมือเข้ามาหมายจะลูบแก้มเนียน“อย่ามาแตะต้องตัวข้านะ เจ้าโจรชั่ว” องค์หญิงเก็จมณีปัดมือมันออกด้วยความโกรธจัด “รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร”“พวกข้าไม่สนหรอกนะว่าเจ้าจะเป็นใคร เพราะอย่างไรเสียพวกข้าก็จะได้ทั้งเงินแล้วก็ตัวเจ้า เฮ้ยพวกเรา จับมันกลับไปที่รังโจร”สิ้นคำ พวกมันก็รุมกันเข้ามาหมายจะจับนางร่างเล็ก ๆ หลบวูบรอดพ้นจากโจรผู้หนึ่ง แล้วอาศัยความว่องไววิ่งหนีไปให้เร็วที่สุด“เฮ้ย ! พวกเราตาม มันหนีไปไม่ได้ไกลหรอก”เสียงฝีเท้าโห่ร้องของพวกโจรใจชั่ววิ่งไล่ตามมาราวกับผีร้าย“ช่วยด้วยยยย ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยย ข้าถูกโจรปล้นแล้วววว”องค์หญิงเก็จมณีทั้งวิ่งทั้งตะโกนไปด้วยความหวาดกลัว หัวใจเต้นระทึก ในหูอื้ออึงไปหมด วิ่งเตลิดเข้าไปในป่าลึกไม่สนใจว่าจะถูกกิ่งไม้ขีดข่วนทิ่มแทงเข้าไปในเนื้ออ่อนจนเจ็บแปลบ“โอ๊ย !”องค์หญิงเก็จมณีสะดุดล้มลงบนพื้น พวกโจรจึงวิ่งตามมาทัน แล้วล้อมนางไว้อีกครั้ง“ฮ่า ๆ เจ้าหนุ่มหน้าหวาน จะวิ่งให้เหนื่อยทำไม ยังไงก็หนีไม่พ้นอย
ณ กรุงศากยะบุรี ในแดนมนุษย์ ท่านพญายมบาลได้เกิดเป็นแม่ทัพใหญ่ในกรุงศากยะบุรี นามว่า ‘ยมราช’ ทรงฝักใฝ่ในการทำสงครามเป็นอย่างยิ่ง ไปรบที่ไหนก็ชนะทุกครั้ง จนได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งสงคราม”แม้ว่าจะเก่งกาจด้านการรบ แต่เขากลับป่วยเป็นโรคประหลาด ปวดหัวเหมือนถูกเข็มนับพันเล่มทิ่มเข้ามาในหัวอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องพึ่งน้ำมนต์ศักดิ์ของหลวงพ่อใหญ่ของวัดไพศาล ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวทุก ๆ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ แม่ทัพยมราชจะเดินทางมากราบหลวงพ่อใหญ่ขอรับน้ำมนต์ด้วยตนเองชายหนุ่มก้มลงกราบหลวงพ่อใหญ่ในท่วงท่างามสง่า แม้จะอยู่ในชุดชาวบ้าน แต่รัศมีน่าเกรงขามของแม่ทัพใหญ่ก็ยังแผ่ออกมาให้คนใกล้ตัวยำเกรง“นมัสการหลวงพ่อขอรับ”“อืม.... น้ำมนต์อาตมาเตรียมไว้ให้แล้ว อยู่ตรงหน้านั่นแหละ”หลวงพ่อใหญ่ชี้ไปที่กระบอกไม้ไผ่บรรจุน้ำสมุนไพรปลุกเสก ท่านรู้จักแม่ทัพยมราชเมื่อ 25 ปีก่อนในตอนนั้นแม่ทัพใหญ่ที่เป็นเพื่อนสนิทของท่านได้พาเด็กชายวัยขวบเศษที่กำลังกรีดร้องไห้อย่างน่าเวทนาเข้ามาหา“พระท่าน โปรดช่วยลูกของข้าด้วยเถิด ข้ามีลูกชายคนเดียวก็มาป่วยเป็นโรคประหลาด หมอหลวงในวังก็ยังรักษาไม่ได้ ท่านเป็นที่พึ
ผมสีดำขลับยาวสยายถึงกลางหลัง รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร ใบหน้างดงามยิ่งกว่านางอัปสร แม้ว่าเดินอยู่ในเมืองนรกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเศร้าหมองมัว แต่เรือนกายนางกลับกระจ่างแจ้งประดุจดอกบัวบานเหนือโคลนตม“องค์อินทร์ท่านสั่งลงมา ให้ลงทัณฑ์นางตามสมควร แต่อย่าได้ให้ความงามของนางมีอันต้องมลทิน รอเวลากลับสู่สรวงสวรรค์ แล้วกำชับให้ข้าดูแลนางเป็นพิเศษ”ท่านยมบาลกล่าวเสียงเรียบกากีได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างเย้ยหยันให้กับโชคชะตาตนเอง ชีวิตของนางไม่ว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติ ล้วนถูกบุรุษกำหนดตีตรา และจองจำ“เจ้ายิ้มอันใด”ยมบาลมิได้ละสายตาไปจากวิญญาณสตรีผู้นั้นเลย จึงทำให้รู้ว่านางยิ้ม แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะแย้มเพียงน้อยนิด“ข้ามิได้ทำอันผิด แต่กลับถูกสั่งให้ลงทัณฑ์ครั้งแล้วครั้งเล่า”น้ำเสียงนั้นทั้งตัดพ้อทั้งน้อยใจกับชะตาชีวิตที่มีความงามเป็นหนึ่ง แต่หาความรักจริงใจจากผู้ใดไม่ได้แม้น้อยนิด“เจ้าลักลอบคบชู้สู่ชาย มักมากในกาม เมื่อตายแล้วต้องถูกลงทัณฑ์โดยการโยนลงไปทะเลน้ำกามกรด จากนั้น ก็ต้องปีนป่ายต้นงิ้วที่มีหนามแหลมคม หากเจ้าตกลงมาก็จะถูกสุนัขกัดกินอวัยวะโสมมที่เจ้าใช้ล่อผู้ชาย”น้ำเสียงยมบาลเยือกเ
เกศราตาโต อ้าปากค้าง“ใช่” ยมบาลยืดอกตอบรับ “เจ้าคิดว่าคนธรรมดาจะมองเห็นวิญญาณแล้วทำอย่างว่ากับเจ้าได้รึ”เขาขึ้นไปประชุมที่แดนสวรรค์แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จริง แต่ในโลกมนุษย์ผ่านไปเกือบจะหนึ่งวันแล้ว จึงเปิดโอกาสให้ผีสาวตนนี้ใช้อิทธิฤทธิ์ป่วนโลกมนุษย์จนวุ่นวายไปหมดผีสาวยิ้มอิหลักอิเหลื่อ หวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วเธอก็อยากจะตายไปเสียอีกครั้ง“เมื่อสักครู่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ท่านอย่าได้ถือสาเลยนะ”ยมบาลได้ยินเช่นนั้นใบหน้าที่แดงอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งแดงก่ำยิ่งขึ้น เขาตวาดด้วยเสียงอันดังว่า“กากี ! สำหรับเจ้าแล้ว การมีความสัมพันธ์ทางกายก็เป็นแค่การสมสู่เพื่อความสนุกสินะ นางผีสำส่อนเช่นเจ้า ข้าจะจับเจ้าไปลงทัณฑ์ในนรก”สิ้นคำ ยมบาลก็เสกโซ่ออกมา แล้วตวัดรัดที่ข้อมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้เคร้ง“ว๊าย”เกศรากรีดร้องเสียงหลง ยังไม่ทันจะรู้ตัว นางก็ถูกจับลงไปยมโลกเสียแล้วณ ยมโลกยมบาลล่ามกากีด้วยโซ่ศิลาที่แข็งแรงที่สุดไม่มีใครสามารถตัดขาดได้นอกจากเขา จากนั้นก็ลากนางมายังบัลลังก์ยมบาล เมื่อเขานั่งลง นางก็ถลาล้มลงแทบเท้าของเขา“โอ๊ย ! ท่านยม ฉันเจ็บนะ เบา ๆ หน่อยสิ” วิญญาณผีสาวร้องโอดครวญอ
“โอ้ว... เจ้าเด็กนี่ พองสู้ปากดีนัก”เกศราตาวาว เห็นแก่นกายของหนุ่มน้อยพองใหญ่จนคับปากเช่นนั้นก็ทำเอาเธอน้ำแฉะออกมาที่หว่างขา รู้สึกหงี่ขึ้นมาเหมือนกันม๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆแผล่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ“อู้ยยยย อา พะ พี่สาว ดูดผมจนแข็งหมดแล้ว”ผีสาวได้ยินเสียงเขาร้องขึ้นเช่นนั้นก็ชะงัก รีบคายดุ้นออกจากปาก“น้องมองเห็นพี่ด้วยรึ”“แล้วทำไมจะไม่เห็นล่ะ”“กะ ก็....”เกศราคิดจะบอกว่าตนเองเป็นผี ก็กลัวว่าน้องมันจะกลัวจนดุ้นหด อดเย้วกันพอดีจึงเลื้อยตัวขึ้นคร่อมตัวหนุ่มน้อยอย่างยั่วยวนแล้วตอบบ่ายเบี่ยงไปว่า“เรื่องเห็นไม่เห็นช่างมันเถอะจ้ะ.... เอาเป็นว่าถ้าน้องมองเห็นพี่ คืนนี้มันแน่นอน”สิ้นคำ เกศราก็โผเข้ากอดและจูบปากหนุ่มน้อยก่อน อีกทั้งยังเลื่อนมือลงไปจับแก่นกายแล้วสาวแก่นลำจนมันดิ้นสู้มือ“หืม....”หนุ่มน้อยครางหือในลำคอ เขาบดจูบเธออย่างหนักหน่วงพอกัน อีกทั้งยังแทรกมือเข้าไปลูบไล้โหนกเนินที่เธอแอ่นบิดเอวเร่า ๆ อย่างโหยหา“อึก.... อื้อออ”เกศราครางฮือในลำคอด้วยความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะช่ำชองนักจากนั้น เกศราก็รีบถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วทิ้งตัวลงนอนถ่างอวดเขา“เมื่อครู่ทำรูปนางแบบ
วิญญาณของเกศราเด้งออกมาจากร่างของผู้หญิงในชุดนอนคนนั้น ทำให้เจ้าของร่างตัวจริงมีสติคืนมาด้วยอาการงงงวยหล่อนกะพริบตาปริบ ๆ มองหน้าผู้ชายที่ตนกําลังทับอยู่ส่วนผู้กองแจ็อุทานด้วยความแปลกใจเมื่อพบว่าผู้หญิงที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตมาจากระเบียงนั้น คือ...“หมอหมวย !”“ผู้กอง คะ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ”“ผมต่างหากที่ต้องถามคุณ ดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้คุณปีนข้ามระเบียงไปห้องคนอื่นเขาทำไม”“ฉันเนี่ยนะปีนระเบียง”หมอหมวยร้องเสียงหลง คราวนี้หล่อนตื่นตัวเต็มที่แล้ว“ก่อนที่จะอธิบายอะไร คุณหมอช่วยลุกออกไปจากตัวผมก่อนได้ไหมครับ”ผู้กองแจ็คสีหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทุกขณะ เพราะร่างกายนุ่มนิ่มของหมอหมวยที่ทับอยู่บนตัวเขาเริ่มจะทำให้อารมณ์ของเขาปั่นป่วนเสียแล้ว“เอ๊ะ...”หมอหมวยรีบดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ“เอ่อ... ผมติดต่อขอเช่าห้องเพื่อซุ้มดูคนร้ายที่ห้องนู้น”ผู้กองแจ็คชี้ไปยังห้องพักที่ติดกับห้องของพิมพ์อีกฝั่ง“คิดไม่ถึงว่า พอเปิดประตูระเบียงออกมา แล้วจะบังเอิญเห็นคุณกำลังปีนระเบียงออกมาจากห้องนั้น จนเกือบจะตกตึกลงไปตายแล้วนะคุณ”ประโยคสุดท้ายเขาเสียงเข้มขึ้น คล้ายกับจะดุหญิงสาวกลาย ๆ“ฉันไม่ร
เกศราอยากจะเข้าไปบีบคอให้ชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นแดดิ้นไปต่อหน้าต่อตา แต่เธอสัมผัสพวกเขาไม่ได้ ทำได้เพียงสิงร่างสตรีที่จิตใจอ่อนแอเธอจะทำอย่างไรหนอให้โลกรับรู้ว่าคนชั่วสองคนนี้วางแผนฆาตกรรมเธอ !แล้วสายตาของผีสาวก็เห็นผู้หญิงที่อยู่ห้องข้าง ๆ กำลังเดินสะลึมสะลือ ในมือถือโทรศัพท์เพื่อส่องแสงนำทางไปเข้าห้องน้ำ ทำให้เธอคิดถึงแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหายตัวแวบเข้าไปสิงร่างของพิมพ์วาบ.....พิมพ์ที่กำลังนอนกอดดอนหอบกระเส่าด้วยอารมณ์รัญจวน จู่ ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้น ดวงตาแข็งกร้าวทำเอาชายหนุ่มที่กำลังนัวเนียเธออยู่ชะงัก ถามหญิงสาวด้วยความแปลกใจว่า“พิมพ์ เป็นอะไร หรือว่าเมื่อครู่ผมยังปรนเปรอความสุขให้คุณไม่พอ”ท้ายประโยคชายหนุ่มซุกไซ้ลงไปจูบที่ซอกคอของชู้สาวเพื่อเอาใจเกศราในร่างของเพื่อนสนิท รีบกะพริบตา ปรับสีหน้า แล้วปั้นยิ้มฉ่ำเยิ้ม“ดอนขา.... ความสุขที่คุณให้มันล้นปรี่จนเต็มร่องพิมพ์เลยค่ะ แต่เมื่อครู่พิมพ์แค่นึกถึงเกศราเขาน่ะค่ะ”“จะไปนึกถึงคนอื่นทำไมกัน คิดถึงอนาคตเราสองคนดีกว่า”ดอนส่งเสียงตอบอู้อี้ผ่านริมฝีปากที่กำลังพรมจูบลงมาจนถึงทรวงอกของหญิงสาว“อะ... ดอนขา...”เกศราในร่างคนอื่นส่งเส