Share

บทที่ 50

Author: เย่ว์เหมี่ยว
มู่จิ่วซีถูกคำพูดของมู่จิ่วซีแทงใจดำจนเลือดไหล ต้องโทษเขาเองที่ปากเสียถึงได้ไปบอกว่าจะให้เงินนาง 10,000 ตำลึงทอง

มู่จิ่วซีเหลือบมองโม่จุนครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังขมวดบึ้งตึงของฮั้วอวิ๋นเทียนและยิ้มกล่าวออกมา : "แต่ว่าเจ้าเองคงไม่สบายใจแน่ๆ งั้นข้าเดิมพันแข่งขันกับเจ้าหน่อยเป็นไง?"

"ทำไมเจ้าถึงได้มั่นใจว่าข้าจะรู้เรื่องของพวกไส้ศึกนี้?" ฮั้วอวิ๋นเทียนแทบอยากจะหัวเราะและร้องไห้ออกมา

"ถ้าเจ้าไม่รู้ก็ไม่มีใครรู้แล้ว ข้ามั่นใจในความสามารถของเจ้า" สี่คำสุดท้ายของมู่จิ่วซีที่พูดไปทำให้ฮั้วอวิ๋นเทียนไม่มีโอกาสให้ได้ขัดขืน

"ได้ งั้นเจ้าจะเดิมพันแข่งขันอะไร? ทักษะฉิน ?" ฮั้วอวิ๋นเทียนผ่อนคลายลงมา

"ทักษะฉินเจ้าเคยแพ้ให้ข้าแล้ว แต่ให้ข้าชนะอีกเจ้าเองก็จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น งั้นพวกเราแข่งเขียนอักษรล่ะ เป็นไง?"

มู่จิ่วซียิ้มจนตาพริ้มพร้อมกับเอียงคอ ไม่ว่าจะดูยังไงก็ดูเฉลียวฉลาดน่ารัก

"ทักษะฉินของเจ้าชนะเจ้าสำนักฮั้ว?" ทันใดนั้นโม่จุนก็ตกใจและหันไปมองมู่จิ่วซี เขารู้ว่าเพลงของเจ้าสำนักหอดาราจันทราอย่าง "เฟิงชิวฮวง" ซึ่งเคยทำให้ทั้งหกอาณาจักรประหลาด
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 51

    มู่จิ่วซียิ้มขึ้นในฉับพลันและยื่นแบมือสีขาวนวลละอออันละเอียดอ่อนออกไปข้างหนึ่งฮั้วอวิ๋นเทียนมองไปที่มือของนางแล้วก็ยิ้ม จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปจับกับมือของนางครู่หนึ่งโม่จุนมองพวกเขาจับมือกันก็นึกมู่จิ่วซีเมื่อก่อนที่ทำกับเขาเช่นนี้เหมือนกัน ทันใดนั้นในใจก็มีความรู้สึกไม่สบายใจอย่างหนึ่งขึ้นมา"เดี๋ยวข้าให้คนไปเอาพู่กันกับหมึกมาให้" ฮั้วอวิ๋นเทียนกล่าว"ไม่จำเป็น แค่เขียนอักษร ไม่จำเป็นต้องพิธีการขนาดนั้น เราใช้แค่กิ่งไม้เขียนบนพื้นก็พอ แบบนี้ก็จะยิ่งสะท้อนทักษะการระดับการเขียนให้มากยิ่งขึ้นไม่ใช่หรือไง?"ใบหน้าที่งดงามของมู่จิ่วซีก็หันไปมองฮั้วอวิ๋นเทียนฮั้วอวิ๋นเทียนผงะไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็คิดอยู่พักหนึ่งและเห็นด้วยและยิ้มกล่าวออกมาในทันที : "ได้ แบบนี้ก็ยิ่งน่าสนใจกว่าเหมือนกัน?"ทั้งสองคนรีบเดินมาที่ต้นมาต้นหนึ่งในเรือน ฮั้วอวิ๋นเทียนก็เด็ดกิ่งไม้ออกมาสองกิ่ง โดยกิ่งหนึ่งมอบให้มู่จิ่วซี"จิ่วซี" โม่จุนเดินมาอยู่ตรงหน้ามู่จิ่วซีและกล่าวด้วยเสียงทุ้ม "เจ้าทำได้จริงๆ เหรอ? หรือว่าให้ข้าแข่งกับเขาจะดีกว่า"โม่จุนคิดว่าข้อมูลข่าวกรองของไส้ศึกพวกนี้สำคัญมาก ถ้าหากมู่จิ่วซีแพ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 52

    "เจ้า เจ้าทำได้ยังไงกัน?" ฮั้วอวิ๋นเทียนได้สติกลับมาคนแรก หน้าผากของเขามีเหงื่อซึมออกมาโม่จุนเองก็ได้สติกลับมาในพริบตาเช่นกัน ความรู้สึกตกใจของเขามากยิ่งกว่าฮั้วอวิ๋นเทียน ถึงอย่างไรฮั้วอวิ๋นเทียนก็ไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของมู่จิ่วซี แต่โม่จุนกลับรได้ยินข่าวลือมาตลอดว่านางไม่เคยเรียนและมีความสามารถในศาสตร์สักแขนง ทำอะไรก็ไม่เป็นไอคนที่บอกเขานี่มันไปเห็นผีมาหรือยังไง?อักษรพวกนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังเทียบไม่ติดฝุ่น"ฮิฮิ ข้าเก่งใช่ไหมล่ะ" มู่จิ่วซีชมตัวเอง "อันที่จริงนี่ยังถือว่าไม่ได้ดี ข้าตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยคุ้นมือ ต้องฝึกสักหลายๆ ครั้งจะต้องเขีนได้ดีกว่านี้แน่""เจ้า เจ้า" ฮั้วอวิ๋นเทียนแทบจะร้องไห้ออกมา "เจ้าทำให้ข้ารู้สึกด้อยข้าตัวเอง" ฮั้วอวิ๋นเทียนประสานมือเคารพอย่างเลื่อมใสขณะเดียวในใจของเขาก็ถูกมู่จิ่วซีโจมตีจนรู้สึกย่ำแย่ เขาเองมักจะรู้สึกตลอดว่ามีความสามารถเป็นอันดับหนึ่งและยืนอยู่จุดสูงสุด ไม่คาดคิดว่าจะถูกเด็กสาวคนหนึ่งที่อายุน้อยกว่าสิบปีจัดการอย่างราบคาบราวกับดอกไม้ที่รวงหล่นไหลไปตามสายน้ำเมื่อก่อนก็ทักษะฉิน ตอนนี้ก็มาเป็นเขียนอักษร นางยังมีความสามารถอื่นอีกไหม?ฮั้ว

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 53

    โม่จุนอีกนิดก็เกือบจะสำลักอากาศตาย เขารีบกล่างขึ้นมาอย่างเคืองๆ : "มู่จิ่วซี เจ้าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว ข้าไม่เคยเสียใจ!""งั้นก็ดี ในเมื่อถอนหมั้นกันไปแล้ว เรื่องของข้าก็ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาจัดการไม่ใช่หรือไง? ไม่งั้นข้าก็คงจะเข้าใจผิด" มู่จิ่วซีจ้องไปที่เขาและยิ้มขึ้นมาโม่จุนพอเห็นท่าทีลำพองใจของนาง เขาก็มีความคิดอยากจะกระโจนไปบีบคอนางหายตายเลยจริงๆเขาเป็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนผู้มีเกียรติ ใครบ้างที่ไม่เกรงกลัวเขา คนที่อยู่ต่อหน้าเขาล้วนกลัวตัวสั่น อย่างมากก็ถึงกับมือไม้วางไม่ถูกมีใครคนไหนบ้างที่เหมือนกับมู่จิ่วซีที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ทำให้เขาโกรธมากจนราวกับอายุได้สั้นลงแต่เพื่อไม่ให้ถูกพระพันปีหลวงจับเอามาเป็นประเด็น พระองค์จึงมักจะเรียกเขาให้เข้าไปในวังเพื่ออบรมสั่งสอน เขาจึงได้แต่อดทนกับผู้หญิงคนนี้ที่นับวันยิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ"อย่าโกรธเลย คนอย่างเจ้าพูดดีๆ ไม่ได้ ใจกว้างหน่อยสิ แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ อีกอย่างพ่อของข้าก็ยืนอยู่ฝ่ายเจ้า ความสัมพันธ์ของพวกเราถ้าตึงเครียดเกินไปก็คงจะดูไม่ดีนัก"มู

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 54

    "ใครบอก ผู้หญิงที่ไปก็ไม่น้อย เมื่อก่อนข้ายังเคยเห็นองค์หญิงเหวินซิงเลย" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างดูถูก"อะไรนะ เจ้าอย่าพูดจาซี้ซั้ว" มู่เทียนซิงอยากจะอุดปากลูกสาวของเขาเลยจริงๆองค์หญิงเหวินซิงเป็นพระมาตุจฉาของจักรพรรดิองค์น้อย เป็นพระขนิษฐาของจักรพรรดิองค์ก่อน ซึ่งนางชอบไปที่หอนางโลม (พระมาตุจฉา หมายถึง พี่หรือน้องสาวของบิดา, พระขนิษฐา หมายถึง น้องสาว)"ข้าไม่ได้พูดซี้ซั้ว คราวก่อนข้าเองก็ได้ทะเลาะกับนางด้วย ท่านพ่อ ท่านไม่เคยไปท่านไม่รู้หรอก อันที่จริงหอนางโลมมีเหล่าคุณหญิงสูงศักดิ์มากมายที่ไป" มู่จิ่วซียิ้มขึ้นมาอย่างแยบยล"เจ้ายังมีหน้ามาพูดว่าคุณหญิงผู้สูงศักดิ์อีก เจ้าเองก็เป็นดอกเบญจมาส ไม่ใช่ว่าก็เหมือนกันหรือไง" มู่เทียนซิงกล่าวอย่างโมโห (ดอกเบญจมาส เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึงหญิงสาวบริสุทธิ์)"ท่านพ่อ ต่อให้ข้าไม่ไป ทุกคนก็ยังคิดว่าข้ามักชอบไปอยู่ดี ไหนๆ สีเสียงก็เสียหายแล้ว จะยังสนใจให้ได้อะไร ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือจับพวกไส้ศึก เจ้าลองคิดแล้วกันว่ามีใครที่คุ้นเคยหอหล่านจวี๋มากกว่าข้า?" มู่จิ่วซียกข้อได้เปรียบขึ้นมากล่าวมู่เทียนซิงถึงกับผงะไป มู่จิ่วซีก็หัวเราะยิ้มออกมา : "ท่า

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 55

    เย่อู่เหิงลงมาจากรถม้า พอเห็นมู่จิ่วซีเดินออกมาจากประตู ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ"ใต้เท้าเย่ ท่านมาได้อย่างไร?" มู่จิ่วซียิ้มแย้มพร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้า เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปหล่อที่สง่างามและอ่อนโยน มู่จิ่วซีก็รู้สึกอารมร์ดีขึ้น"คุณหนูใหญ่มู่ ท่านต้องการออกไปข้างนอก?" เย่อู่เหิงพอเห็นนางแต่งกายอลังการมากกว่าปกติ ในใจของเขาก็รู้สึกประหลาดใจ ว่าจวนครอบครัวตระกูลไหนจัดงานเลี้ยงตอนกลางคืนงั้นเหรอ?"ใช่ ข้าจะออกไปทำธุระ ถ้าใต้เท้าเย่มีธุระคุยกับข้า งั้นนั่งรถม้าข้าและคุยกันไประหว่างทางไหม?" รถม้าของมู่จิ่วซีเป็นรถม้าขนาดใหญ่ที่หรูหราของจวนตระกูลมู่ สามารถนั่งได้แปดคนโดยไม่แออัด"ได้ขอรับ" เย่อู่เหิงก็มีธุระคุยกับนางจริงๆ หลังจากตอบรับคำ ทั้งสองก็ขึ้นรถไป ส่วนเย่ฮานและชิงเฟิงที่สามารถเข้าไปนั่งในรถม้าด้วยได้ ก็ได้แต่ต้องย้ายไปนั่งหน้ารถม้า"คุณหนูใหญ่มู่ ท่านจะไปไหนหรือขอรับ?" เย่อู่เหิงสงสัยจริงๆมู่จิ่วซีก็เผยยิ้มออกมาและกล่าว : "พุดไปเจ้าก็จะดูถูกข้า ข้าคืนนี้จะไปที่หอหล่านจวี๋""หอหล่านจวี๋?" เย่อู่เหิงตกตะลึง จากนั้นพอเขาเริ่มคิดต่อไปหลังจากนั้น ใบหน้าหล่อเหลาของเข

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 56

    "ข้าก็ไม่กล้ามั่นใจ แต่ทุกคนต่างรู้ว่าคุณหญิงอัครเสนาบดีได้ป่วยนอนติดเตียงอยู่ตลอดเวลา นี่ก็เป็นเวลาสิบปีแล้ว อีกไม่นานก็ใกล้จะต้องไปแล้ว พระเจ้าช่วย ข้าจะต้องรีบไปดู" มู่จิ่วซีพริบตาก็ให้เย่ฮานกลับรถม้ามุ่งไปยังจวนอัครมหาเสนาบดี"ตอนนี้ ? ท่านไม่ไปหอหล่านจวี๋แล้วเหรอ ?""ไปสิ แต่ตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่ ข้าเดิมทีกะว่าจะไปนั่งคุยกับเพื่อนที่นั่นก่อน แต่ข้าจะต้องยืนยันก่อนว่าคุณหญิงอัครเสนาบดีเป็นเหมือนกับท่านแม่ของข้าหรือไม่ ใต้เท้าเย่ เจ้ารู้ไหมว่าหากคุณหญิงของอัครเสนาบดีถูกพิษเงาหอมนิโลบลเข้าไป มันหมายถึงอะไร?"เสียงของมู่จิ่วซีทั้งเย็นชาและสั่นเครือเย่อู่เหิงถึงกับเกร็งขึ้นมาทั้งตัวในพริบตาราวกับลมหนาวเย็นได้พัดผ่านออกมาจากขา"ใต้เท้าเย่ เจ้าไปตรวจสอบอีกทีว่าบรรดาคนในครอบครัวของใต้เท้าในราชสำนักยังมีคนในครอบครัวที่มีอาการป่วยหนักอีกหรือไม่? ไม่ใช่เพียงแค่สิบปีที่ผ่านมานี้ แต่อาจจะแค่ไม่กี่ปีนี้ ถึงแม้อาจจะยังไม่ถึงขั้นเอาชีวิต แต่จะต้องมีสัญญาณบ่งบอกเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่"มู่จิ่วซีมองไปที่เย่อู่เหิงอย่างจริงจัง"ข้าน้อยจะรีบไปดำจัดการในทันที" เย่อู่เหิงก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จะน่าก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 57

    ใต้เท้าอัครมหาใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีเสนาบดีไป๋ชินเตี่ยนก็ตะโกนออกมาอย่างโมโห เขาได้เดินออกมายืนตรงประตูบ้านใหญ่ด้านนอกด้านนอกชายคา แววตาดุจเสือทั้งสองข้างก็มองมู่จิ่วซีอย่างดุร้ายแต่ที่แปลกคือมู่จิ่วซีมาพบแค่ไป๋ชิงแต่ทำไมต้องแต่งตัวสวยขนาดนี้ด่วย? นางต้องการจะทำอะไร?"มู่จิ่วซีขอคารวะใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีไป๋" มู่จิ่วซีเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทันที จากนั้นก็ย่อถวายความเคารพอัครมหาเสนาบดีไป๋"มู่จิ่วซี ดึกขนาดนี้แล้วมาหาชิงเอ๋อร์มีธุระอะไร?" อัครมหาเสนาบดีไป๋อายุประมาณ 40 ปี เป็นคนเฉลียวฉลาดมีความสามารถ แน่นอนเขาไม่หลงกลอุบายของมู่จิ่วซี นังผู้หญิงพาลโมโหโวยวายคนนี้ เขาได้เรียนรู้มาหลายครั้งแล้วและก็เพราะนาง เขากับมู่เทียนซิงแทบจะเป็นคู่อาฆาตกันแล้ว ปัญหาคือทุกครั้งพระพันปีหลวงมักจะช่วยมู่จิ่วซี จนทำให้เขาโกรธจนแทบจะอกแตกตาย"ใต้เท้าอะครเสนาบดี ข้ากับไป๋ชิงถือว่าเป็นสหายกัน การที่ข้ามาหาเพื่อนเพื่อพูดคุย พวกเจ้าต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?" มู่จิ่วซีหัวเราะส่ายหัว"มู่จิ่วซี เจ้าเคยมีเรื่องดีๆ ด้วยงั้นรึ?" ไป๋เฟิ่งหว่านหัวเราะเย็นชาออกมาทันที"ไป๋เฟิ่งหว่าน ถ้าข้ามาหาเจ้า แน่นอนว่าจ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 58

    เพียงแต่มู่จิ่วซีไม่คาดคิดว่าเรือนของไป๋ชิงจะตั้งอยู่มุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจวนอัครมหาเสนาบดี จวนอัครมหาเสนาบดีใหญ่โตมาก จำเป็นต้องเดินสักระยะหนึ่งกว่าจะถึงส่วนไป๋ชิงตอนนี้กลับมีสีหน้ากังวลอย่างไม่มีอะไรเทียบได้และกำลังวิ่งออกมาพอดีมู่จิ่วซีพอเห็นบ่าวรับใช้ของจวนอัครมหาเสนาบดีตามออกมาด้วยสี่คน นางก็ยิ้มกล่าวให้กับไป๋ชิง : "คุณหนูใหญ่ไป๋ พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในดีกว่าไหม?"ไป๋ชิงรู้ว่ามู่จิ่วซีมาหานาง นางเองรู้สึกว่ามันน่าแปลกอย่างมาก พอเห็นรูปลักษณ์ที่สวยงามของมู่จิ่วซี นางเองถึงกับตั้งสติตอบสนองอย่างไม่ทันมู่จิ่วซีเดินเข้ามาตรงๆ จากนั้นก็รับสั่งกับเย่ฮาน : "เย่ฮาน เจ้าเฝ้าอยู่ตรงนี้ ห้ามใครเข้ามาใกล้เด็ดขาด"เย่ฮานก็ส่งเสียงตอบรับมาหนึ่งคำและยืนอยู่ตรงปากประตู บ่าวรับใช้ทั้งสี่คนก็รู้สึกเสียมารยาทเล็กน้อยเมื่อเผชิญกับบหน้าอันเย็นชาของเย่ฮานบ่าวรับใช้สองคนของไป๋ชิงก็ถูกไล่ให้ออกไป มู่จิ่วซีและไป๋ชิงก็เดินมาถึงห้องของไป๋ชิงและปิดประตูลงมู่จิ่วซียังคงไม่มั่นใจและหันมองไปรอบๆ และยังตรวจสอบตรงหน้าต่างอีกด้วย"คุณหนูใหญ่มู่ เจ้ามีธุระอะไรกับข้างั้นเหรอ?" มู่จิ่วซีทำให้ไป๋ชิ

Latest chapter

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status