มู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว: "ใช่ เป็นกล่องหลู่ปันอันพิศวงมากชนิดหนึ่ง เขาบอกว่าจะใช้เหล็กดำทำขึ้นมา หลังจากนี้ข่าวกรองหลังจากถูกสกัดกั้นก็จะไม่ถูกคนเปิดออกได้ในทันที"โม่จุนก็ได้เดินกลับมา แววตาดาสีดำอันมืดมนก็ได้มองใบหน้าอันงดงามของนางมู่จิ่วซีพอหันมองเขาก็เผยยิ้มและกล่าวออกมา : "ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร เจ้าอย่าขี้งกไปหน่อยเลย ข้ารู้จักขอบเขตดี อีกอย่างของสิ่งนี้ข้าทำกับมือเอง แน่นอนว่าข้าเปิดออกได้""เครือค่ายการสอดแนมของทหารมังกรดำของข้าก็ต้องการของแบบนี้ด้วย" น้ำเสียงของโม่จุนไม่พอใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ไม่คิดถึงเครือข่ายข่าวกรองของเขาบ้างเลยหรือไง?"เจ้ามีแผ่นเหล็กที่ทำลายเปิดออกได้ยากรึเปล่า?" มู่จิ่วซีถามโม่จุนกล่าว : "อยากให้มี ก็มีได้แน่นอน แต่ว่ากล่องนั้นจะต้องละเอียดซับซ้อนมากกว่าของเขา""ได้ๆๆ ขอเพียงเจ้ามีวัสดุในการทำ ข้าก็จะวาดให้เจ้าตกลงไหม?" มู่จิ่วซีหมดคำจะพูดกับผู้ชายคนนี้จริงๆ รู้สึกว่าเขาอยากจะเอาชนะฮั้วอวิ๋นเทียนอย่างใดอย่างนั้น"ตอนบ่ายไปดื่มชากับเขาคงมีความสุขมากสินะ?" โม่จุนเปลี่ยนเรื่องและถามขึ้นมามู่จิ่วซีก็เลิกคิ้ว ขณะกำลังจะตอบกลับเขา โม่จุนก้หัน
สีหน้าชิงเฟิงแปลกออกไป มู่เทียนซิงก็กล่าวอย่างโมโหขึ้นมา: "เจ้ามีเรื่องปิดบังข้าใช่ไหม?""คุณท่าน ข้าได้ยินมาจากใต้เท้าเย่บอกว่ามีคนเจอฮูหยินรองแล้วขอรับ"มู่เทียนซิงก็ตกใจนิ่งค้างไป จากนั้นก็พูดขึ้นมา : "เจ้าจะบอกว่าอยู่ที่จวนฉีหรอ?"ชิงเฟิงยิ้มอย่างเขินๆ และพยักหน้า จากนั้นก็เห็นมู่เทียนซิงตะโกนเสียงดัง : "รีบไปเอาม้าข้ามาโดยด่วน!""คุณท่าน ท่านอย่าไปเลยจะดีกว่า ให้คุณหนูทำเรื่องนี้จะดีกว่า" ชิงเฟิงอยากจะอุดหูของเขา แต่เขาเองก็ลำบากใจจริงๆ"เจ้าจะไปเข้าใจอะไร ไอแก่ฉีหู่ซานคนนั้นรับมือง่ายซะที่ไหน ข้ากลัวว่าจิ่วซีจะเสียเปรียบ!" มู่เทียนซิงก็รีบกล่าวออกมาชิงเฟิงก็เลิกคิ้ว ในใจลึกๆ ของเขาไม่เชื่อ ขนาดท่านผู้สำเร็จราชการแทนโม่จุน คุณหนูใหญ่ของพวกเขาก็ยังไม่กลัว แล้วจะมากลัวฉีหู่ซาน?คุณท่าน ข้าอ้างของท่านแย่เกินไปแล้วแต่ว่าชิงเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับขึ้นรถม้าไปยังกระทรวงครัวเรือนส่งม้วนตำรามู่เทียนซิงพอรอจนม้าของเขาจูงออกมาแล้วก็รีบพาองครักษ์สองคนไปยังจวนฉีมู่จิ่วซีและเย่อู่เหิงพอมาถึงปากประตูของจวนฉี ใต้เท้าฉีฉีหู่ซานก็เพิ่งกลับมาจากราชสำนักในตอนเช้า พอเขาลงมาจากรถม้
ฉีหู่ซานพอได้ยิน ใบหน้าแก่ชราก็กระตุกขึ้นมาและเดินออกไปยังประตูใหญ่พร้อมกับเรียกยามเฝ้าประตูให้เปิดประตูเย่อู่เหิงโบกมือพร้อมกับเดินนำตรงเข้าไป จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือให้เจ้าหน้าที่กระจายออกตรวจค้นจวนฉีตามเรือนต่างๆ ของสมาชิกในตระกูล"คุณหนูใหญ่ เรือนของฉีเล่อฉี่เป็นเรือนตรงทางด้านตะวันออกขอรับ" เย่อู่เหิงกล่าวเสียงต่ำกับมู่จิ่วซี"งั้นพวกเราไปดูทางด้านนั้นกัน" มู่จิ่วซีหันมองไปยังใบหน้าอันแก่ชราของฉีหู่ซาน "เย่ฮาน เจ้าไปตรวจค้นเรือนอื่น ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่รู้จักลู่เวยหย่า"เย่ฮานก็รีบรับคำและพากองตรวจค้นของเขาไปอีกด้านหนึ่ง"พวกเจ้ายังสงสัยเล่อฉี่อีกหรือ?" ฉีหู่ซานถาม "นางไม่ใช่ไส้ศึกจริงๆ""ใต้เท้าฉี น้องสาวของท่านไม่ได้ธรรมดา" มู่จิ่วซีกระตุกยิ้ม นอยยิ้มนี้ทำให้ฉีหู่ซานอกสั่นขวัญแขวน"มู่จิ่วซี เจ้าพูดความจริงกับข้าว่าเล่อฉี่เป็นไส้ศึกหรือไม่?" ฉีหู่ซานเดินไล่ตามอยู่ข้างๆ มู่จิ่วซีและถามอย่างจริงจัง"ใต้เท้าฉี ถ้าข้าบอกว่าใช่ เจ้าจะยอมจัดการนางเพื่อส่วนรวมไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วมองเขา แววตาอันคมกริบทำให้ฉีหู่ซานใจหายฉีหู่ซานสั่นไปทั้งตัว อารมณ์บนใบหน้าอันแก่ชราช่างตระกา
ที่น่าโมโหกว่าก็คือทำให้นางหลังจากนี้ยากจะหาสามีที่ดีแต่งงานด้วยได้อีกทั้งท่านอ๋องหกที่นางชอบกลับต้องการสู่ขอมู่จิ่วซี นั่นยิ่งทำให้นางโกรธแค้นมู่จิ่วซีถึงขีดสุดมู่จิ่วซีผู้หญิงคนนี้แต่ก่อนตอนไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างก็ทำผู้คนรำคาญ ตอนนี้หลังจากทำเรื่องน่ามหัศจรรย์ก็ทำให้นางรู้สึกรังเกียจ"หงเย่ เจ้าอย่าหาเรื่องมู่จิ่วซี ผู้หญิงคนนี้ยุ่งเกี่ยวให้น้อยจะเป็นการดีที่สุด ตอนนี้เป็นหัวแก้วหัวแหวนของพระพันปีหลวงและท่านผู้สำเร็จราชการแทน ทำคุณประโยชน์ให้กับแคว้นเกาอวิ๋น เจ้าเอาตัวเองไปเปรียบกับนาง แบบนี้เจ้าก็จะอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ใช่หรือไง? ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ"คำพูดสั่งสอนชี้แนะลูกสาวของฉีหู่ซานไม่ได้เข้าหัวของฉีหงเย่เลยเห็นแค่นางจู่ๆ ก็หันหลังและเดินตรงออกไปฉีหู่ซานคิดว่านางปล่อยวางได้ก็เลยถอนหายใจส่วนฉีหงเย่กับซิวเซียงบ่าวสาวใช้ของนางพอเดินมาถึงตรงมุมหนึ่ง นางก็บอกข้างหูซิวเซียงซิวเซียงก็เผยสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมาและกล่าว : "คุณหนู แบบนี้จะดีหรือเจ้าคะ?""ครอบครัวเจ้ายังอยากจะมีชีวิตรอดไหม? อยากให้น้องชายของเจ้าเข้าวังไปเป็นขันทีหรือไง? เจ้าอยากจะตัดกล่องดวงใจเซี
ฉีเล่อฉี่สั่นไปทั่งตัวพร้อมกับมองมู่จิ่วซีอย่างไม่เชื่อ"ป้าสะใภ้รองของข้าลู่เวยหย่าได้มาหาเจ้าใช่ไหม? นางอยู่ไหน? เจ้าตอนนี้พูดออกมา ข้าสามารถรับประกันความปลอดภัยเจ้าได้ ถ้าหากเจ้ายังหลงผิดอยู่อีก คนที่ตายจะไม่ใช่แค่เจ้า ทั้งจวนฉีจะชิบหายไปพร้อมกับเจ้าด้วย!"ฉีเล่อฉี่ลุกขึ้นมาในทันที แต่ก็ไม่ได้เดินแม้แต่ก้าว นางกลับล้มพับไปกองกับพื้น เหงื่อได้ผุดออกมาจากตรงหน้าผากนาง สภาพของนางเหมือนจะตกใจกลัวมาก"เจ้าอย่ามาปฏิเสธ มีคนเห็นลู่เวยหย่าเข้าออกในจวน ถ้าไม่ใช่เจ้ากับนางติดต่อกัน งั้นในจวนฉีก็คงจะมีคนอื่นอีก เมื่อเป็นแบบนี้ทั้งจวนฉีก็จะได้รับโทษประหารเก้าชั่วโคตร" มู่จิ่วซียิ้มอย่างเย็นชากล่าวออกมาบรรดาสาวใช้ต่างกลัวจนไปหลบที่มุมห้อง ล้วนไม่มีใครกล้าเข้ามาพยุงฉีเล่อฉี่"ฉีเล่อฉี่ ข้าไม่ได้มีเวลามากนัก เจ้าไม่พูดข้าก็มีวิธีจับลู่เวยหย่า แต่โอกาสในการเอาชีวิตรอดของเจ้าก็คงจะไม่มีแล้ว"มู่จิ่วซีพอพูดจบก็เดินออกไปข้างนอก"ข้า..." ฉีเล่อฉี่สูดหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับปลาที่กำลังจะตาย "มู่จิ่วซี ถ้าข้าพูด ข้าก็จะไม่ต้องตาย พี่ชายข้าก็จะไม่โดนหางเลขไปด้วยใช่ไหม?""ข้ามู่จิ่วซีพูดคำไหนคำนั้น โ
ส่วนฉีเล่อฉี่ที่ตกใจจนไปนั่งกับพื้นก็ไม่รู้ว่าเพราะบังเอิญหรือไม่ เลยเป็นการเปิดโอกาสให้คนใต้เตียงได้ลอบโจมตีเข็มเงินปรากฎในมือและฝังตรงรอบคอ 4 จุด เลือดที่ไหลออกมาก็หยุดลงมู่จิ่วซีถอนหายใจและปาดเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากฉีหู่ซานตกใจกับเลือดที่นองพื้นและมีดบินซึ่งปักตรงคอของฉีเล่อฉี่ ผนวกกับที่ถูกมู่จิ่วซีตะคอกใส่ สภาพของเขาเลยดูโง่"มีโสมชั้นดีไหม เอาไปหั่นเป็นแว่นใส่นางปากนางประทังลมหายใจก่อน!" มู่จิ่วซีถาม"มี จะไปเอาให้เดี๋ยวนี้" ด้านหลังก็มีคนกล่าวออกมา มู่จิ่วซีก็ไม่รู้ว่าเป็นใครฉีหู่ซานคืนสติกลับมาและกล่าวอย่างร้อนลน : "คุณหนูใหญ่มู่ เล่อฉี่จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?""ตอนนี้ประคองอาการไว้ได้ แต่ว่าใต้เท้าฉี เรื่องของน้องสาวท่านถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ" มู่จิ่วซีเหลือบมองฉีหู่ซานครู่หนึ่งฉีหู่ซานตกใจจนรีบคุกเข่าลงต่อหน้าของมู่จิ่วซีจนมีเสียงดัง "ตึก""คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าช่วยข้าด้วยเถอะ ช่วยจวนฉีด้วยเถอะ ข้าไม่รู้อะทั้งนั้นจริงๆ เล่อฉี่ถูกข้าตามใจจนเสียคนจริงๆ" ฉีหู่ซานจะไม่รู้จักสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไรมู่จิ่วซีไม่มีทางสังหารฉีเล่อฉี่ งั้นนางก็คงถูกฆ่าปิดปาก ใต้เตียงก็ถ
มู่จิ่วซีได้ยกถ้วยชาขึ้นมาจรดตรงริมฝีปาก กลิ่นหอมของชาผลไม้ก็กระทบเข้ากับจมูก แต่ทว่ากลับทำให้นางเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย"ช้าก่อน!" ฉีหู่ซานจู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา เขาเอื้อมมือไปทางมู่จิ่วซีเพื่อห้ามมู่จิ่วซีดื่มชา"ซิวเซียง! นี่มันเรื่องอะไร? คุณหนูให้เจ้าเอาชามามอบให้คุณหนูใหญ่มู่งั้นหรือ?" ฉีหู่ซานพอเห็นซิวเซียง ทันใดนั้นก็รู้สึกท่าไม่ดีซิวเซียงตกใจจนหดเกร็งตัวสั่นและพูดติดๆ ขัดๆ : "คุณท่าน คุณหนูให้บ่าวเอาชามาให้ บอกว่าคุณหนูใหญ่มู่คงลำบากแย่ พวกเราคงไม่อาจทำเฉยได้ ดังนั้นเลยเรียกบ่าวเอาชาผลไม้ที่เพิ่งชงเสร็จไปให้คุณหนูเจ้าค่ะ"ฉีหู่ซานขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าลูกสาวของเขาเองเกลียดมู่จิ่วซีจะตายชัก ไม่มีทางเจตนาดีขนาดนี้ได้ เกรงว่าในชาผลไม้นี้คงจะเติมอะไรส่วนผสมอะไรลงไป"ข้าเองก็กระหายแล้ว คุณหนูใหญ่มู่ ให้ข้าได้ดื่มก่อนเถอะ" ขณะพูดก็ยื่นมือไปรับมู่จิ่วซีเลิกคิ้วและรู้สึกว่าคงจะมีอะไรสักอย่างเลยเอาถ้วยชาที่ยังไม่ได้ดื่มให้ฉีหู่ซาน จากนั้นก็เห็นใบหน้าของซิวเซียงซีดขาวในทันที ตอนฉีหู่ซานกำลังจะดื่ม ซิวเซียงก็คุกเข่าลงกับพื้นจนมีเสียงดัง "ตึก""คุณท่าน อย่าดื่มเจ้าค่ะ!" ซิวเซียงรีบพู
"เอาน้ำชานี้กรอกปากคุณหนูสามตระกูลฉีลงไป!" มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็ออกคำสั่งขึ้นมา"กรี๊ด อย่า อย่าเข้ามา!" ทันใดนั้นฉีหงเย่ก็กรีดร้องขึ้นมาและรีบคลานถอยกลับไปแต่เย่ฮานตอนนี้กลับโกรธอย่างมาก เขารุดไปข้างหน้าและกดแขนของนางเอาไว้ เจ้าหน้าที่อีกคนก็ไปหยิบเอากาน้ำชาที่ซิวเซียงวางเอาไว้มาซิวเซียงคุกเข่ากับพื้นพร้อมกับอกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าหวาดกลัวอย่างมากไม่คาดคิดว่ามู่จิ่วซีจะไม่รับรู้ถึงยาพิษ แต่กลับเป็นคุณท่านของนางเองที่มองออกนางรู้ซะที่ไหนว่าตอนมู่จิ่วซียกขึ้นมาจรดริมฝีปากก็รู้แล้วว่าในชาผลไม้มีบางอย่างผิดปกติ อีกอย่างท่าทางวิตกกังวลก่อนหน้านี้ของซิวเซียงก็ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ"อย่านะ ข้าไม่เอา!" ฉีหงเย่ดิ้นรนสุดชีวิต "เป็น เป็นยาเบื่อหนู!"ทุกคนต่างตกลึง ไม่คาดคิดว่าฉีหงเย่จะชั่วร้ายได้ถึงขั้นนี้ ถึงขนาดเอายาเบื่อหนูให้มู่จิ่วซีดื่ม เป็นยาพิษที่เวลาออกฤทธิ์จะทรมานอย่างมาก โดยพื้นฐานแทบจะไม่มีทางช่วยให้รอดได้ฉีหู่ซานก็ล้มพับเหมือนว่าวสายป่านขาด ยังดีที่เจ้าหน้าที่ข้างๆ ได้คว้าพยุงเอาไว้ ไม่งั้นเขาก็คงล้มไปทั้งยืน"เจ้า เจ้ากล้าบังอาจ..." ฉีหู่ซานแทบจะหายใจไม่ทันและก
ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล
จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด
มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล
"แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก
มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา
"ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน
เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด
"เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน
จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่