"คุณหนูใหญ่และคุณหนูรองตระกูลไป๋กำลังเดินทางมาขอรับ""ดี มีคนคอยคุ้มกันรึเปล่า?""มีขอรับ ทหารมังกรดำแอบเฝ้าคุ้มกันไว้" เย่ฮานกล่าวมู่จิ่วซีก็พยักหน้า ถึงอย่างไรตอนนี้นางตอนนี้ก็เป็นบุคคลมีอิทธิพลในยุคสมัย ไม่รู้ว่าในเงามือมีมากมายกี่คนจับตามองนาง ส่วนเพื่อนของนาง ไม่แน่ก็อาจแฝงด้วยอันตราย ดังนั้นนางจึงต้องได้รับการคุ้มครองจากทุกคนไม่นานนัก ชิงเฟิงและก็มาหาและยิ้มกล่าว : "คุณหนูใหญ่ ท่านผู้สำเร็จราชการแทนออกจากจวนมาแล้วขอรับ""มุ่งหน้ามาที่นี่ใช่ไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วถาม"ใช่ขอรับ เขามาอานเย่ออกมาด้วย" ชิงเฟิงกล่าวมู่จิ่วซีก็ยิ้มและพยักหน้ากล่าว : "ยังดีที่เขามา ไม่งั้นข้าคงได้ผิดคำพูดกับไป๋เฟิ่งหว่านแน่""ท่านผู้สำเร็จราชการแทนใส่ใจกับเรื่องของคุณหนูใหญ่มาก" ชิงเฟิงกล่าว"เจ้าก็รู้?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วมองชิงเฟิงชิงเฟิงก็ยิ้มหัวเราะและกล่าว : "นี่ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ท่านมีความสามารถโดดเด่น จนท่านผู้สำเร็จราชการแทนนับถือท่านหรอกเหรอ?""พูดได้ดี เดี๋ยวกลับไปจะให้รางวัล" มู่จิ่วซีหัวเราะเสียงดังก้องชิงเฟิงทันใดนั้นก็ใบหน้าทำทะมึน เย่ฮานก็หัวจนกุมท้องตัวงอพวกเขาแต่ก่อนต่างล้
ไป๋เฟิ่งหว่านตกใจกล่าว: "ทำไมเย่อู่เหิงมาด้วยล่ะ? หรือว่ามู่จิ่วซีจะเชิญเขามา?""เดี๋ยวก็ได้รู้แล้ว" ไป๋ชิงยิ้มกล่าว พวกนางเคยเจอเย่อู่เหิงมาก่อน และก็รู้ว่าเย่อู่เหิงและมู่จิ่วซีสนิทกันไม่เลวชายรูปงามคนนี้ก็เป็นที่ต้องการหมายปองของหญิงสาวในพระนคร"ท่านพี่ ท่านพ่อบอกว่าเย่อู่เหิงชอบมู่จิ่วซีจริงงั้นเหรอ? เห็นว่าพูดต่อหน้าทุกคนด้วย" ไป๋เฟิ่งหว่านก็รู้ถึงเรื่องในงานเลี้ยงตอนกลางคืนวันนั้น"จิ่วซีออกจะโดดเด่นขนาดนั้น ถ้าข้าเป็นผู้ชายก็คงชอบ ไม่เห็นจะแปลก" ไป๋ชิงยิ้มกล่าวอย่างเรียบเฉยไป๋เฟิ่งหว่านก็เบ้ปากพูดออกมา : "มู่จิ่วซีทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเก่งกาจขนาดนี้ ผู้ชายดีล้วนชอบนาง แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี?""ต่อให้ทุกคนชอบนาง นางก็แต่งงานด้วยได้แค่คนเดียว ผู้ชายคนอื่นยังไงก็ต้องสู่ขอภรรยาแต่งงาน เจ้าจะรีบร้อนอะไร?" ไป๋ชิงก็หัวเราะไป๋เฟิ่งหว่านขึ้นมา"ท่านพี่!" ไป๋เฟิ่งหว่านกระทืบเท้าและก็เห็นมู่จิ่วซียืนอยู่บนชั้น 3 กำลังหัวเราะพวกนาง"จิ่วซี" ไป๋ชิงก็ยิ้มเรียกนาง"กระแอ่ม มู่จิ่วซี เจ้าก็เชิญใต้เท้าเย่มาด้วยเหรอ?" ไป๋เฟิ่งหว่านถามอย่างเขินอายมู่จิ่วซีก็ยิ้มกล่าว : "ใช่ ข้าเชิญหนุ่
เย่อู่เหิงยิ้มกล่าว: "ฮั้วอวิ๋นเทียนคือเจ้าสำนักของหอดาราจันทรา อ้างจากคำพูดของจิ่วซีแล้ว เขาถือว่าเป็นชายรูปงามด้านบุ๋นก็เป็นเลิศ ด้านบู๊ก็มีพรสวรรค์เก่งกาจ""หอดาราจันทรา? นั่นไม่ใช่ว่าเป็นองค์กรมือสังหารหรอกเหรอ?" ไป๋ชิงกล่าวอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย"ไม่ผิดนัก ฉีฟั่งที่ลอบสังหารจิ่วซีก่อนหน้านี้ก็คือมือสังหารของหอดาราจันทรา แต่ว่าหอดาราจันทราแค่เปิดร้านทำธุรกิจ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว""แค่มีเงินก็สามารถจ้างมือสังหารให้ลอบฆ่าคนได้แล้วหรอ?" ไป๋เฟิ่งหว่านอกสั่นขวัญแขวน"หลักการแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ดูจากเป้าหมายลอบสังหารแล้ว ข้าคิดว่าตอนนี้ฮั้วอวิ๋นเทียนไม่มีทางรับจ้างวานลอบสังหารจิ่วซีหรอก พวกเขาถือได้ว่าเป็นเพื่อนกัน" เย่อู่เหิงยิ้มกล่าวเบาๆด้านล่างของหอก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา ไม่นานมู่จิ่วซีก็พาชายในชุดคลุมยาวสีแดงเดินขึ้นมาทั้งสี่คนก็ได้ลุกขึ้นมา มีเพียงผู้หญิงสามคนที่เผยสีหน้าตกใจหวาดกลัวขึ้นมาใบหน้าหล่อเหลาของฮั้วอวิ๋นเทียนกับใบหน้าคมคายดั่งชายชาตรีของโม่จุนและความหล่อเหลาสง่างามของเย่อู่เหิงไม่เหมือนกัน เป็นความงดงามอรชรอันมีเสน่ห์ เป็นใบหน้าที่ยากจะแยกออกได้ว่าคือสตรี
ไป๋ชิงยิ้มขึ้นมาเบาๆ: "เจ้าสำนักฮั้วและท่านผู้สำเร็จราชการแทนเคยมีเรื่องกันงั้นเหรอ?"ฮั้วอวิ๋นเทียนก็นั่งลงด้วยท่าทางครึ้มอกครึ้มใจ : "ชายคนนั้นก็เหมือนแค่นกยูงหัวสูงหยิ่งทระนง ทุกคนจะทำหน้าเคร่งครึม แน่นอนว่าขัดหูขัดตาข้า" ขณะพูดก็หัวเราะยิ้มออกมา"นกยูงหัวสูงหยิ่งทระนง?" ไป๋เฟิ่งหว่านถึลงตาโต นางถึงกับหลุดขำพริดออกมา "ข้าคิดว่าเหมือนน้ำแข็งพันปีและไม่มีวันจะละลายมากกว่า""ข้าเห็นด้วยกับท่านพี่หว่าน ท่านผู้สำเร็จราชการแทนเป็นคนเย็นชาจริงๆ ไม่มีใครจะเข้าใกล้เขาได้เลย" มู่เจินจูก็กล่าวอย่างหน้าแดงขึ้นมา"ท่านผู้สำเร็จราชการแทนเป็นถึงบุคคลระดับสูงที่มีอำนาจ จะมาทำหน้ายิ้มแย้มกับพวกเจ้าได้ที่ไหน" ไป๋ชิงก็ยิ้มและส่ายหัวขึ้นมา "แต่ว่านกยูงหัวสูงหยิ่งทระนงอย่างที่เจ้าสำนักฮั้วพูด ข้ากลับไม่คิดว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนั้นไม่เหมือน"เย่อู่เหิงก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไรและช่วยรินชาให้กับทุกคน"เดี๋ยวพวกเจ้าก็จะได้รู้แล้ว" ฮั้วอวิ๋นเทียนยิ้มขึ้นมา ดวงตาโฉบเฉี่ยวของพญาหงส์หันไปตรงประตู ท่วงท่าของเขางดงามน่าดึงดูดประตูใหย่หอชมจันทร์ ในที่สุดโม่จุนก็ได้มาถึงแล้ว เขากับอานเย่ยืนอยู่ตรงปากประตูพร้อ
มู่จิ่วซีรู้สึกว่าสายของโม่จุนนั้นคมกริบและแฝงไปด้วยคำเตือน"ไม่ต้องหรอก ข่าวกรองนี้ข้ายกให้เป็นของขวัญกับคุณหนูใหญ่มู่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านผู้สำเร็จราชการแทนอย่างท่าน" ฮั้วอวิ๋นเทียนกล่าวอย่างไม่รักษาน้ำใจเลยไป๋ชิง ไป๋เฟิ่งหว่านและมู่เจินจูซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะก็ไม่กล้าพูดอะไรตั้งแต่โม่จุนเข้ามา แต่ชายหนุ่มรูปงามทั้งสามช่างทำให้จิตใจเบิกบานจริงๆแต่บรรยากาศที่เปลี่ยนไปในพริบตาแบบนี้ ก็ทำให้พวกนางถึงกับตกใจเนื้อเต้นฮั้วอวิ๋นเทียนและท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่แท้ก็ไม่ใช่เพื่อนกัน"ฮิๆ ขอบคุณท่านพี่ฮั้วที่มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ข้า" มู่จิ่วซีรีบพูดขึ้นมา "มาๆๆ กว่าจะออกมารวมตัวกันได้ทั้งที พวกเรามาดื่มกันสักแก้วเถอะ"มู่จิ่วซีก็ยกจอกเหล้าขึ้นมายังดีที่ทุกคนให้เกียรติไว้หน้า โม่จุนยกจอกเหล้าคนมาช้าเป้นคนสุดท้าย แต่อย่างน้อยเขาก็ยกขึ้นมา"เจ้าวันนี้เล่นอุบายอะไรของเจ้า?" โม่จุนหลังจากวางจอกเหล้าลง แววตาสีดำอันดุเดือดก็หันไปมองนางและกล่าว"โม่จุน เจ้าเลิกเคร่งเครียดขนาดนี้ได้ไหม ข้าแค่เรียกพวกเจ้าออกมาทานข้าว ถ้าไม่เชื่อ เจ้าไปถามอู่เหิงพวกเขาดู"เย่อู่เหิงก็ยิ้มกล่าวขึ้นมา : "เมื
มู่จิ่วซีก็ดีใจขึ้นมาทันทีและยิ้มกล่าว: "แน่นอนว่าเป็นของสนุก มาสิ แต่ละคนเอาไปคนละอัน"ขณะพูดก็เอากล่องไม้แจกจ่ายให้พวกผู้ชายคนละใบ ส่วนของที่ทำมาจากลวดเหล็กก็เอาไปแบ่งให้กับพวกผู้หญิง"นี่คือกล่องกลไกหรอ?" ฮั้วอวิ๋นเทียนlสนใจเป็นอย่างมาก สายตาก็ทอเป็นประกาย เขาพอหยิบขึ้นมาบนมือก็รู้ได้ทันที"ไม่เชิง นี่คือกล่องหลู่ปันที่ออกแบบมาไม่ซ้ำกัน ค่อนข้างน่าสนใจ สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำก็แค่เปิดออกมา อย่าแรงมากนัก" มู่จิ่วซีพยักหน้าและก็กล่าว (หลู่ปัน เทพเจ้าแห่งการก่อสร้างของจีน ช่างไม้จากนครหลู่เมืองที่ถือขนบขงจื๊อทางตอนเหนือของจีน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงระหว่างศตวรรษที่แปดถึงศตวรรษที่ห้าก่อนคริสตกาล)จากนั้นก็ยิ้มกล่าวกับพวกผู้หญิงทั้งสามคน : "ในมือของพวกเจ้าเองก็เป็นกลไกเช่นกัน ลวดเหล็กสองเส้นได้ผูกพันเข้าด้วยกัน สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำก็คือแก้ปมออก พอแก้ออกแล้วลวดเหล็กจะมีลักษณะเหมือนกัน แล้วก็อย่าใช้แรงพยายามแก้ปมล่ะ"น่าสนใจ น่าสนใจ จิ่วซีต้องการจะประเมินสมันสมองของทุกคนสินะ" ฮั้วอวิ๋นเทียนก็ดูสนใจมีเลศนัยขึ้นมา"แหม มันสมองหรอ ข้าไม่ไวหรอก ข้าโง่มากเลย" ไป๋เฟิ่งหว่านหยิบขึ้นมาไว้ในมือและ
"ที่แท้วันนี้เจ้าก็ให้พวกข้ามาลองทดสอบให้เจ้างั้นสินะ" ในใจโม่จุนก็คิดว่ามู่จิ่วซีผู้หญิงคนนี้มีหรือจะทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์เสียง "แกร๊ก" ดังขึ้น กล่องไม้ในมือโม่จุนได้ถูกเปิดออกและในเวลาเดียวกัน กล่องในมือของฮั้วอวิ๋นเทียนก็มีเสียงแกร๊กดังเปิดออกมาส่วนเย่อู่เหิงนั้นช้าอยู่หน่อย แต่เขาก็เปิดออกมาได้แล้ว"กล่องพวกนี้น่าพิศวงจริงๆ" ดวงตาเย่อู่เหิงทอประกายทั้งสองข้าง "พวกเราแลกกันหน่อยไหม?" เขาสนใจมากขึ้นไปอีกฮั้วอวิ๋นเทียนยิ้มขึ้นมาและพยักหน้ากล่าว : "หัวสมองของจิ่วซีทำมาจากอะไร ขนาดกลไกแบบนี้นางยังคิดออกมาได้" จกานั้นเขากับเย่อู่เหิงก็สลับแลกกันแต่เขายังไม่ได้เริ่มแก้ปริศนาในทันที แต่กลับส่งต่อให้โม่จุนโม่จุนก็เหลือบมองเขาครู่หนึ่ง และเอาในมือแลกกับของเขา แบบนั้นในมือทั้งสามคนก็สลับไม่เหมือนกันทันใดนั้นทั้งสามคนก็ก้มหน้างุ่มง่ามขึ้นมามู่จิ่วซีเองก็นั่งลงทานอาหารและยิ้มกล่าวออกมา : "ในหัวของข้ามีเรื่องสนุกอีกหลายอย่าง เดี๋ยวค่อยกลับไปทำออกมา จากนั้นก็เอาไปไว้ที่หอโม่ช่างเหวิน ถ้าชายงามอย่างพวกเจ้าสามคนมักไปนั่งที่หอโม่ช่างเหวินล่ะก็ ธุรกิจของข้าก็คงจะรุ่งเรืองดีวันดีคืน"
มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็ดวงตาทอเป็นประกายและกล่าวขึ้นมา: "ให้ตายสิ ท่านพี่ฮั้ว เจ้าพูดได้ดีจริงๆ พูดได้ตามมาตรฐานหลักเกณฑ์ในการเลือกคู่ครองเลย ฮาๆๆ มาๆๆ มาดื่มด้วยกันสักจอก"ฮั้วอวิ๋นเทียนก็หัวเราะออกมาทันที พอกันไปมองโม่จุนก็ยิ้มกล่าวออกมา : "จิ่วซี เจ้าเมื่อก่อนไม่ใช่คนแบบนี้""เจ้าก็เอาแต่พูดถึงเมื่อก่อน เมื่อก่อนเป็นความคิดของหญิงสาว ขอเพียงเป็นหนุ่มรูปงามก็ล้วนได้ทั้งหมด ตอนนี้พอคิดดูแล้วตอนนี้ก็ไร้เดียงสาเกินไป รูปงามไปแล้วมีข้าวกินอื่มหรือไง? รูปงามไปเอาไว้เฉยชมได้ทั้งชีวิตหรือไง?" มู่จิ่วซีหลังจากดื่มเหล้าก็ส่ายหัวและเงยหน้าขึ้นมา "ไม่ได้ไง ดังนั้น ข้าตอนนี้ก็เลยเปลี่ยนแปลง"โม่จุนแค่ฟังก็รู้สึกไม่สบายใจ นางกำลังพูดถึงเขางั้นเหรอ? แต่ก่อนนางมองว่าเขาดูดี เลยอยากจะแต่งกับเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว?"แกร๊ก!" กล่องในมือของเย่อู่เหิงก็ส่งเสียงดังออกมา เขาเปิดออกได้แล้ว"ช่างน่าพิศวงจริงๆ" เย่อู่เหิงกล่าวอย่างอารมณ์ดีคึกคัก จากนั้นก็มองในมือของฮั้วอวิ๋นเทียน มันยังมีอีกกล่องที่เขายังไม่ได้ลองเล่น เขาอยากจะเล่น"อู่เหิง เจ้าทานสักหน่อยสิ พวกเขายังแก้ไม่ได้เลย" มู่จิ่วซีก็ยิ้มกล่าว "อะ