Share

บทที่ 175

Penulis: เย่ว์เหมี่ยว
กรมพระราชวังนครบาล !

ดวงตากลมโตของมู่จิ่วซีหรี่จนเป็นเส้นบาง ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยแววตาที่ชาญฉลาดและกำลังครุ่นคิด จากนั้นมุมปากก็กระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชาและชั่วร้าย

กรมพระราชวังนครบาลได้จับกุมไส้ศึก และคนบุกรุกแคว้นไว้หลายคน ซึ่งในยุคปัจจุบันเทียบเท่ากับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ คนที่ถูกจับเข้าไปโดยพื้นฐานแล้วก็แทบไม่มีวันได้ออกมา ต้องทนทรมาณต่างๆ จนเลือดไหลดั่งธารา โดยล้วนเป็นการกระทำอย่างลับๆ

ไม่เหมือนกับศาลต้าหลี่ ห้องขังกระทรวงราชทัณฑ์ ซึ่งบางครั้งก็อาจออกมาได้เห็นเดือนเห็นตะวันบ้าง

มู่จิ่วซีจำได้ว่าเจ้าของร่างเดิมเคยไปที่กรมพระราชวังนครบาลเมือ่ไม่กี่ปีก่อน โดยไปพร้อมกับท่านพ่อมู่เทียนซิง เท่าที่นางจำได้คือลักษณะมืดๆ คล้ายเป็นก้อนหินใหญ่สีดำที่ชื้นแฉะ

ห้องโถงใหญ่สองข้างมีปากหลุมขนาดใหญ่ โดยบอกว่าได้โยนคนตายลงไปจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว

มู่จิ่วซีก็มองไปยังหนอนแมลงพิษในชามที่ตายทั้งหมดและเอาไปกำจัดทิ้งทั้งหมดจนสะอาด จากนั้นนางก็ไปฝึกเฟิงเหยียนหยูเฟย

อันตรายที่วัดเป้ากั๋วคราวนี้ ก็ทำให้กำลังภายในของนางสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วชำนาญมากขึ้น นี่ยิ่งทำให้นางฝึกฝนสัมผัสรับรู้ความร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 176

    มู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว : "น้องสามของข้าอยู่ไหม?""คุณชายสามมู่อยู่ขอรับ แต่ว่าตอนนี้เวลายังเช้าไปหน่อย เขาอาจยังคงไม่ตื่น" องครักษ์คนหนึ่งก็กล่าวอย่างเขินอายสีหน้าของลู่เวยหย่าก็เปลี่ยนไปพร้อมกับกล่าวอย่างหงุดหงิด : "ไอลูกตัวแสบคนนี้ ทำไมถึงได้ขี้เกียจขนาดนี้เนี่ย?""ท่านนี้คือป้าสะใภ้รองของข้า พวกเราขอเข้าไปพบหน่อย" มู่จิ่วซีกล่าวองครักษ์คนหนึ่งก็พาทั้งสามคนเดินเข้าไป เหอเฟิงเฝ้าอยู่ที่รถม้า ส่วนหลิวฮั่วก็ตามหลังมู่จิ่วซีเดินเข้าไปพอเข้ามา ลู่เวยหย่าและป้าจ้าวก็เริ่มหันมองซ้ายขวาไปรอบด้านพร้อมกับสีหน้าที่วิตกกังวล"ทำไมข้างในถึงได้รู้สึกอึมครึมวังเวงขนาดนี้" ป้าจ้าวกล่าว"ที่นี่มีคนตายตั้งมากมาย แน่นอนว่าต้องอึมครึมวังเวง ทุกวันล้วนจับไส้ศึกของแคว้นอื่นเอาไว้ได้ ทั้งถูกทรมานให้สารภาพ ให้ไม่สารภาพก็ต้องถูกทรมานต่อไป แน่นอนว่าพวกเขาไม่ปราณีกับพวกไส้ศึกพวกนี้อยู่แล้ว"มู่จิ่วซีเดินไปพูดไปสีหน้าของป้าจ้าวเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก มือที่นางช่วยพยุงลู่เวยหย่าก็ยิ่งจับแน่นมากยิ่งขึ้น"คุณหนูใหญ่ คุณชายสามมู่อยู่ที่ห้องพักองครักษ์ด้านตะวันตก เชิญทางด้านนี้ขอรับ""อืม อ้อ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 177

    ปรมาจารย์เซี่ยก็ยิ้มอย่างเขินๆ ออกมา เขามองมู่จิ่วซีจากนั้นก็หันไปมองลู่เวยหย่าลู่เวยหย่าตอนนี้โกรธมากจริงๆ จนนางสั่นไปทั้งตัวและถามออกมา : "เขา เขาหลังจากมาที่นี่ก็เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?"ปรมาจารย์เซี่ยรู้สึกว่าขายหน้าแต่ก็ยังพยักหน้าและกล่าว : "ฮูหยินรอง ลุกชายเจ้าทุกครั้งที่เอ่ยถึงแม่ทัพใหญ่มู่ออกมา คนอื่นๆ ก็ล้วนทำอะไรไม่ได้""แล้วทำไมไม่โบยเขาให้ตาย!" ลู่เวยหย่าโมโหจนเดินอาดๆ ไปข้างหน้าบานประตูห้องถูกทีบจะเปิดออก สองคนข้างในที่ต่อสู้กันก็หยุดลงทันทีแะลหันมามอตรงปากประตู"ท่านแม่?" มู่หยางชุนหันหน้ามามอง จากนั้นก็เอ่ยกล่าวออกมาอย่างไม่แน่ใจส่วนอีกคนหนึ่งคือหลิวเว่ยก็กำลังขี่หลังเขาอยู่ ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขากดดันเหนือกว่ามู่หยางชุนได้อย่างสมบูรณ์หลิวเว่ยก็รีบลงมาจากหลังของมู่หยางชุนและรีบถอยไปยืนข้างๆพร้อมกับหันไปมองปรมาจารย์เซี่ยด้วยสีหน้าที่กังวล"ไอลูกตัวแสบ เจ้าอยู่ในกรมพระราชวังนครบาลแล้วทำตัวแบบนี้เนี่ยนะ?" ลู่เวยหย่าตะคอกใส่เขา"ท่านแม่ พวกเขารังแกข้า ข้าไม่ได้อยากมาอยู่ที่นี่เลย" มู่หยางชุนจู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา"เจ้า เจ้ายังจะมีหน้ามาร้องไห้อีก ข้ากับพี่

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 178

    มู่หยางชุนตกตะลึงไปในพริบตา สีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุดสองแม่ลูกกำลังคุยกัน ป้าจ้าวยืนอยู่ที่ประตู หลิวฮั่วยืนอยู่ตรงข้ามนาง คอยสังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องส่วนมู่จิ่วซีกับปรมาจารย์เซี่ยพอออกจากห้องพักขององครักษ์ก็เดินขึ้นไปด้านเหนือ"คุณหนูใหญ่มู่ อาการบาดเจ็บของท่านผู้สำเร็จราชการแทนเป็นอย่างไรบ้าง?""ไม่เป็นไรแล้ว อีกเดี๋ยวก็มากระโดดโลดเต้นได้" มู่จิ่วซีตอบมา"เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี ไส้ศึกก็กำเริบเสิบสานเสียเหลือเกิน""ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ยังจัดระดมคนตั้งมากมายในเวลาสั้นๆ อธิบายได้ว่าพวกเขาซุ่มกำลังอยู่ในคนของแคว้นเกาอวิ๋นไม่น้อยเลย พวกเราจำเป็นต้องคิดหาวิธีค้นหารังของพวกเขาออกมา"มู่จิ่วซีหัวเราะเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง ใบหน้าเรียวถามขึ้นด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม "ศพเหล่านั้นถูกแขวนไว้ที่ประตูเมืองฝั่งเหนือหมดแล้วใช่ไหม?"ปรมาจารย์เซี่ยพยักหน้าตอบ "แขวนไว้หมดแล้ว เพียงแต่ประชาชนถูกทำให้อกสั่นขวัญแขวนกันหมด""ถ้าหากครอบครัวแตกสลายหมด นั่นถึงจะเป็นการตายอย่างแท้จริง" มู่จิ่วซียิ้มเย็นชา "การเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่พระชารวังนครบาลล้วนเป็นใต้เท้าโจวเหยาจัดการใช่หรือ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 179

    ปรมาจารย์เซี่ยส่ายหัวตอบทันที "ใต้เท้าหวางชิงทุกวันจะนำคนออกไปตั้งแต่เช้า ค่ำคืนดึกดื่นจึงกลับมา บางครั้งก็อยู่กันทั้งคืนด้วย ลำบากน่าดู""เขาจับไส้ศึกมาได้บ้างไหม?""มี พอจับกลับมาก็จะทำการสอบสวนอย่างเข้มงวด เพียงแต่ล้วนเป็นพวกปลาซิวปลาสร้อย ใต้เท้าหวางเองก็ดูจะยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ แล้ว" ปรมาจารย์เซี่ยยิ้มขืน "เขาคือคนที่ขันแข็งที่สุดในกรมพระราชวังนครบาลแล้ว"มู่จิ่วซีพยักหน้า พอกำลังจะถามอะไรเพิ่มเติม คนทางนั้นก็ตะโกนมาว่า "ปรมาจารย์เซี่ย ใต้เท้าโจวให้ท่านพาคุณหนูใหญ่มู่ไปพบ""ได้" ปรมาจารย์เซี่ยขานตอบทันที "คุณหนูใหญ่ พวกเราไปพบใต้เท้าโจวทางนั้นก่อน กลับมาค่อยไปเจอกับพวกไส้ศึกดีไหม?""วันนี้ข้าไปไปพบพวกไส้ศึกหรอก เดิมทีก็คิดจะไปเยี่ยมใต้เท้าโจวอยู่แล้ว" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มทั้งสองคนไปถึงในห้องโถงหลักชั้นสามของกรมพระราชวังนครบาลอย่างรวดเร็วใต้เท้าโจวเหยาอยู่ในชุดข้าราชการสีดำปักพญาอินทรี ดูองอาจน่าเกรงขาม บนใบหน้าเหลี่ยมมีอาการโกรธขึ้งอยู่"จิ่วซีคารวะใต้เท้าโจว" มู่จิ่วซีพอเข้ามาก็คารวะทักทายใบหน้าเคร่งขรึมของโจวเหยาก็เผยรอยยิ้มเอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่มู่มาเยี่

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 180

    "ถ้าทำให้ประชาชนของทั้งเมืองร่วมกันเป็นหูเป็นตารายงาน เช่นนี้ศัตรูก็จะตึงเครียด กลางวันไม่กล้าออกมา แล้วถ้าออกจะออกมาตอนกลางคืน ทว่าหลังจากที่ใช้งานกฎห้ามออกภายนอกยามวิกาลพวกเราก็จะจับตัวคนได้ง่ายขึ้นเรื่องนี้หากเริ่มต้นแล้ว คนของทางเราจำเป็นต้องมีให้เพียงพอ ดังนั้นข้าจึงให้กรมกลาโหมระดมทหารห้าพันนายเข้าไปในกรมพระราชวังนครบาล เพื่อมาช่วยใต้เท้าโจวโจวเหยาสีหน้ายินดี พอได้ยินมู่จิ่วซีพูดเช่นนี้ก็เอ่ยแสดงท่าทีทันที "ความคิดดีมาก แต่ว่าคุณหนูใหญ่มู่ไประดมทหารของกรมกลาโหมได้อย่างไรกัน? บอกกับท่านผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?""ยังไม่ได้บอก แต่เดี๋ยวข้าก็จะบอกเขาเอง วางใจเถิด ท่านผู้สำเร็จราชการแทนจะเห็นด้วย" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม"ดูท่าระหว่างคุณหนูใหญ่มู่กับท่านผู้สำเร็จราชการแทนจะมีความเชื่อใจกันแล้ว" โจวเหยาเผยรอยยิ้มเย้าแหย่"นั่นล่ะ แต่ว่าใต้เท้าโจวก็อย่าคิดเบนไป พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน ต่อให้ข้ามีความคิดอยู่บ้าง แต่ชายคนนั้นก็จะมาถอนหมั้นครั้งที่สองแน่ เรื่องเกียรติข้าไม่เอาก็ได้ แต่ท่านพ่อกับพระพันปีหลวงจะเสียใจเอาน่ะสิ" มู่จิ่วซีเบ้ปาก"ฮ่าๆๆ คุณหนูใหญ่มู่ ข้าชอบท่านขึ้นมาเ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 181

    มู่จิ่วซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ : "หรือว่าใต้เท้าโจวคิดว่ากรมพระราชวังนครบาลไม่มีไส้ศึก?"โจวเหยาสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขามู่จิ่วซีอย่างไม่อยากจะเชื่อเขาพบว่าสายตาของนางคมกริบและเกรงขาม เขารู้ว่านางนั้นจงใจ"กรมพระราชวังนครบาลมีไส้ศึกรึ?" โจวเหยาถามกลับ "ข้าเมื่อก่อนแม้จะเคยคิดถึงเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่ข้าก็เคยลองตรวจสอบครั้งหนึ่งแล้ว ที่นี่ควรจะสะอาดไม่มีไส้ศึก""ใต้เท้าโจว เงาหอมนิโลบลถูกพบในตำหนักในเมื่อ 20 กว่าปีก่อน การวางยาพิษไปจนถึงอาการกำเริบและสุดท้ายเสียชีวิต จำเป็นต้องใช้เวลาที่ยาวนานอย่างมาก นั่นหมายถึงอะไร รู้ไหม?""นั่นหมายถึงไส้ศึกได้เข้ามาที่แคว้นเกาอวิ๋นตั้งนานแล้ว แฝงตัวเข้ามาอย่างได้อย่างลึกมากๆ การแฝงตัวเข้ามาได้เป็นเวลานานขนาดนี้ หากไส้ศึกคนหนึ่งเอาแต่กบดานเงียบมาโดยตลอด ไม่มีแนวโน้มที่จะไต่เต้าขึ้นมา แบบนั้นไส้ศึกพวกนั้นก็คงไม่ใส่ไส้ศึกที่ดี และก็คงไม่ถูกใช้ให้ทำงานสำคัญ"มู่จิ่วซีค่อยๆ กล่าวออกมาใบหน้าแก่ชราของโจวเหยาก็ซีดขาวเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาเข้าใจว่ามู่จิ่วซีกำลังพูดอะไร"ข้าขอไม่พูดแล้วกันว่าข้าเจออะไรมาหรือข้ากำลังสงสัยอะไร กรมพระราชวังนครบาลจะต้อ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 182

    "ได้" มู่จิ่วซีกล่าวรับคำ จากนั้นก็เห็นลู่เวยหย่าและป้าจ้าวเดินออกไปนางไม่ได้สนสีหน้าท่าทีเอาแต่ใจของมู่หยางชุน เพียงแต่สามวันหลังจากนี้ มู่หยางชุนที่คิดว่าตัวเองรอดแล้วต้องถูกคนจับไปที่ค่ายทหาร บอกว่าแม่ทัพมู่สั่งมาหากเขายังไม่ได้เรื่อง ไม่เอาถ่านอีกก็ไม่ต้องกลับบ้านและรองแม่ทัพก็จะบอกกับมู่หยางชุน ว่าแม่ทัพใหญ่มีคำสั่งมา ขอเพียงเขาไม่ตายก็จะต้องถูกฝึกฝนอย่างเหี้ยมโหดมู่จิ่วซีไม่เคยคิดถึงการลงโทษแบบนี้มาก่อน ต่อให้ร้องไห้ฟ้าถล่มแผ่นดินถลายก็ไม่มีประโยชน์ แต่ว่าสามปีหลังจากนี้ มู่หยางชุนก็จะกลายเป็นทหารที่แท้จริง ยิ่งเขาเติบโตขึ้น เขาก็จะยิ่งรู้สึกขอบคุณมู่จิ่วซีพี่สาวของเขาคนนี้ที่เข้มงวดกับเขานี่เป็นเรื่องหลังจากนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงก่อนมู่จิ่วซีให้เหอเฟิงไปส่งลู่เวยหย่าและป้าจ้าวกลับจวนไปก่อน นางกับหลิวฮั่วก็ยืนตรงปากประตูกรมพระราชวังนครบาลมองดูรถม้าจากไป"คุณหนูใหญ่ หลังจากท่านไปแล้ว มีคนสามคนมาหาที่ห้องของคุณชายสาม โดยทั้งหมดเรียกให้คุณชายสามไปฝึกฝน แต่ป้าจ้าวกลับคุยกับคนหนึ่งในนั้น แล้วก็หยิบขนมให้กับคนๆ นั้นด้วยชิ้นหนึ่ง อีกทั้งยังบอกให้ดูแลคุณชายสาม คนๆ นั้นมีชื่อว่าเ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 183

    หลายคนที่อยู่นอกห้องตกใจจนสะดุ้ง มู่จิ่วซีรีบเปิดประตูพุ่งเข้าไปพอนางเข้าไปก็เห็นชามใบหนึ่งแตกกระจายอยู่ตรงหน้าเตียงของโม่จุน เปียกกระจายไปเต็มพื้น"ท่านอ๋อง นั่นเป็นยาของท่านนะ!" อานเย่ผู้น่าสงสารก็เด้งตัวลุกขึ้นมาจากเก้าอี้เอนกาย เขาตะลึงตกใจและมองไปยังนายท่านที่นอนอยู่บนเตียง ถึงอย่างไรนั่นก็เกิดหลังจากเสียงตะโกนดีใจด้านนอกเมื่อครู่เขายังดีๆ อยู่ แต่จู่ไม่รู้ทำไมเขาก็เอาชามยาตรงหัวเตียงเขวี้ยงแตกซะงั้น? ไม่ง่ายเลยกว่ายาที่ต้มเสร็จจะเย็นลงได้มู่จิ่วซีรีบพุ่งไปที่ข้างเตียง ก็เห็นว่าโม่จุนนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาซีดขาว แต่สีหน้ากลับเคร่งขรึมดำทะมึน นี่เขากำลังโกรธ?ดวงตาสีดำสนิทอันคมกริบก็เหลือบมองมาที่นาง"ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้น?" มู่จิ่วซีรีบถามโม่หยวนชิงก็วิ่งเข้ามาและรีบกล่าว : "เสด็จพี่ห้า นี่ท่านจะโมโหงอแงเป็นเด็กไปแล้วไหม ถ้าไม่ชอบยาขม ก็อย่ามาเขวี้ยงแบบนี้สิ แพทย์หลวงอู๋คงร้องไห้แน่"สายตาของโม่จุนพริบตาก็หันไปมองโม่หยวนชิง ราวกับว่าอดไม่ได้จนอยากจะมองให้ทะลุเป็นรูสักสองสามรูบนตัวของเขา"ข้าเห็นเจ้าแล้วหงุดหงิด ไสหัวกลับจวนเจ้าไปซะ!" โม่จุนกล่าวอย่างโมโห

Bab terbaru

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status