"เอ่อ...คุณชายหลี่ ข้าขี่ม้า...""เจ้าหาได้เคยขี่ม้าไม่ ใช่หรือไม่เฟยหง ถ้าเช่นนั้น เจ้ามาขี่ม้าตัวเดียวกับข้า อู๋ห่าง...เจ้ารับนายน้อยของเจ้าไปขี่ด้วย" หลี่หยางเอ่ยขึ้น ก่อนที่เฟยหงจะพูดจบ เพราะแค่ดู เขาก็รู้ได้ทันที ว่าเฟยหงไม่ใช่แค่ขี่ม้าไม่เป็น แต่เฟยหงไม่เคยขี่ม้าเลยต่างหาก และเขาต้องทำทุกอย่าง อย่างรวดเร็ว ก่อนที่คุณชายเจิ้งจะเตรียมส่งม้าเร็วตามไปทันเขา"เอ่อ...แล้วม้ามันจะไม่...""เจ้าอย่าได้กังวล เจ้าตัวเล็กไม่ต่างจากหญิงสาว เจ้ารีบขึ้นมา ก่อนที่คนของคุณชายเจิ้งจะเตรียมตัวทัน" หลี่หยางไม่พูดเปล่า เข้าก้มลงไปแล้วยกเฟยหงให้ขึ้นมานั่งบนหลังม้า ก่อนที่เขาจะควบม้าออกไปจากคอกอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อู๋ห่างพาหลี่ฟู่ออกไปจากคอกม้าก่อนแล้ว เพราะว่าเขากับอู๋ห่างได้วางแผนกันเอาไว้ ว่าจะแยกกันไปคนละทาง แล้วไปเจอกันที่เหอเป่ย์ หาใช่หัวเมืองหย่งอาน ตามที่บอกเอาไว้ในตอนแรกไม่ เพราะเขาคิดว่าคุณชายเจิ้งจะต้องส่งม้าเร็วตามเขาไปที่หัวเมืองหย่งอานแน่ และเขาให้ซิงเยียนกับอันฉี ทำทีว่าไปที่หัวเมืองหย่งอานแทน "คุณชายหลี่ ท่านหยุดม้าก่อนได้หรือไม่" ชัดเอี้ยวหน้าไปขอร้องคุณชายหลี่ ที่ควบม้าไปข้างหน้าเรื
"คุณชายหลี่ ที่นี่คือ?" ชัดเอี้ยวหน้าไปถามคุณชายหลี่ เมื่อคุณชายหลี่หยุดม้า ในสถานที่ที่มีห้องแถวแออัด แต่ทว่าเงียบสงัดในช่วงดึกดื่นของวันเดียวกัน"ที่นี่เป็นตลาดเหอเป่ย์ ที่ตรงนี้เป็นร้านค้าของข้า ข้าอาศัยหลับนอนอยู่ที่นี่ เวลาที่ข้ามาดูแลร้านค้าของข้า เราจะพักกันที่นี่ชั่วคราว นั่นม้าของอู๋ห่าง อู๋ห่างกับลู่จิวมาถึงที่นี่แล้ว เราเข้าไปด้านในกันเถิด" หลี่หยางบอกกับเข่อซิง ก่อนที่เขาจะลงจากหลังม้า แล้วอุ้มเข่อซิงให้ตามเขาลงมาด้วย"ข้าก้าวขาไม่ออก มันปวดร้าวไปหมด ข้าไม่คิดเลย ว่าการขี่ม้าครั้งแรก ตัวของข้ามันจะเจ็บระบมไปหมดทั่วทั้งตัวเช่นนี้" ชัดพูดพร้อมกับพยายามบิดตัวไปมาอย่างเมื่อยล้า เขาเจ็บระบมไปทั่วทั้งบั้นท้าย จนขาของเขาแทบจะก้าวไม่ออก"ถ้าเช่นนั้น เจ้าค่อยๆเดินตามข้ามา เจ้าเกาะที่แขนของข้า เราจะต้องรีบเดินเข้าไปในร้าน ก่อนที่คนแถวนี้จะเห็นเราในยามที่ดึกดื่นเช่นนี้" หลี่หยางพูดพร้อมกับประคองเข่อซิงให้เดินไปพร้อมกันกับเขาช้าๆ"ท่างป้อ ท่างป้อมาแย้ว ท่างแม่..." ลู่จิวหยุดมองหน้าของแม่ค้าง เมื่อเขาเห็นว่าหน้าของแม่ไม่สวยอย่างที่เขาเคยเห็น"พ่อเอง เจ้าจำพ่อไม่ได้แล้วหรือลู่จิว" ชัดลง
"เข่อซิง...เจ้าตื่นขึ้นมากินยาก่อน เจ้าไม่สบาย เจ้าลุกขึ้นมากินยาก่อนได้หรือไม่" หลี่หยางค่อยๆประคองเข่อซิงให้ลุกขึ้นมากินยา หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาเมื่อตอนเช้ามืด เขาเห็นว่าเข่อซิงนอนเพ้ออยู่ เขาก็เลยเข้าไปปลุกเรียก ทำให้เขารู้ว่าเข่อซิงมีไข้ตัวร้อน"ท่างป้อ ท่างป้อตึ่งเย็วๆ ท่างป้อตึ่งไย้แย้ว" ลู่จิวเข้าไปเขย่าพ่อ เมื่อเขาเห็นว่าพ่อไม่ตื่นสักที"จุ๊ๆ ลู่จิว เจ้าอย่าได้จับตัวของพ่อเข่อซิง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะติดไข้จากพ่อเข่อซิง" หลี่หยางห้ามพร้อมกับจับมือของลู่จิวเอาไว้ ไม่ให้มือของลู่จิวโดนตัวของพ่อเข่อซิงได้"ท่างป้อข้า ข้าม่ายจัก ท่างป้อข้าม่ายจักแย้ว ข้า...ข้าม่ายติกไข้แย้วนะ" ลู่จิวบอกกับพ่อ พร้อมกับเอามือเล็กไปไขว้เอาไว้ทางด้านหลังของตัวเอง เพราะเขากลัวว่า ตัวเองจะนอนไม่ตื่นอย่างพ่อเข่อซิง"คุณชายหลี่ ข้าขอนอนต่อได้หรือไม่ ข้าปวดร้าวไปหมดทั่วทั้งตัว ข้าลุกไม่ไหว" ชัดพูดออกมาเสียงอู้อี้ ก่อนที่เขาจะพยายามปรือตาขึ้นไปมองหน้าของคุณชายหลี่ "เข่อซิง เจ้าไม่สบาย เจ้าต้องตื่นขึ้นมากินยาก่อน แล้วเจ้าค่อยนอนต่อได้หรือไม่เล่า นี่ยา...เจ้ากลั้นใจกินยาสักนิดนะ" หลี่หยางป้อนยาเข่อซิงด้วยความอ
"ข้าต้องขออภัยนายหญิง โรงเตี้ยมของข้าที่ตลาดเหอเป่ย์ เป็นโรงเตี้ยมที่ใหญ่และแพงที่สุดแล้วขอรับ มีห้องที่แพงที่สุด และเป็นส่วนตัวที่สุด แต่หาได้มีบ้านที่เป็นส่วนตัวให้เช่าไม่ นายหญิงดูห้องก่อนดีหรือไม่ขอรับ ข้าจะพานายหญิงขึ้นไปดู ข้าคิดว่านายหญิงจะชอบขอรับ แต่ถ้านายหญิงต้องการบ้านเช่า ต้องเข้าไปในหมู่บ้านหลังตลาด แต่ที่นั่น หาได้สะดวกสบายเท่าโรงเตี้ยมของข้าไม่" หวังเหล่ย เจ้าของโรงเตี้ยมพยายามพูดโน้มน้าวหญิงงามผู้เลอโฉม ที่กำลังตามหาที่พักที่ดีที่สุดในตลาดเหอเป่ย์ และเขารู้ได้ทันที ว่าหญิงผู้นี้ มาถึงโรงเตี้ยมของเขาเป็นหลังสุดท้าย จากการแนะนำมาจากใครหลายคนในตลาดเหอเป่ย์ ที่เขารู้ เพราะถ้าใครต้องการโรงเตี้ยมที่ใหญ่และดีที่สุด ก็มีของเขาที่เดียวในตลาดเหอเป่ย์แห่งนี้"ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะไม่พักที่นี่ ข้าจะไปหาบ้านเช่าในหมู่บ้านหลังตลาด" อี้เฉินบอกกับเจ้าของโรงเตี้ยมด้วยท่าทางที่ไม่สนใจ ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากโรงเตี้ยมหน้าตาเฉย"นายหญิงขอรับ ถ้านายหญิงอยากได้บ้านเช่าที่ดีที่สุด ข้ามี...""ข้าต้องการ เจ้านำข้าไปสิ อย่าได้ชักช้า ข้าต้องการพักผ่อน" อี้เฉินยิ้มเยาะที่มุมปากเล็กน้อย เธอรู้ทั
"คุณหนูอี้เฉินเจ้าคะ รถเข็นไม้เก่าๆที่คุณหนูต้องการ ได้มาแล้วเจ้าค่ะ ข้าซื้อมาจากพ่อค้าขายซาลาเปาในตลาด" จางลี่บอกกับคุณหนูของเธอ หลังจากที่เธอไปหาซื้อของตามที่คุณหนูของเธอสั่งได้แล้ว ในตอนสายของวันต่อมา"แล้วเสื้อผ้าที่ข้าให้เจ้าซื้อมาเล่า เจ้าซื้อมาด้วยหรือไม่" อี้เฉินถามพร้อมกับเหลือบตามองสาวรับใช้คนสนิท ที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเธอ ในขณะที่เธอนั่งหวีผมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง"นี่เจ้าค่ะคุณหนู ข้าซื้อมาแล้วเจ้าค่ะ แล้วข้าก็ทำทีเป็นเดินผ่านหน้าร้านขายไม้ของคุณชายหลี่ ตามที่คุณหนูสั่งด้วยเจ้าค่ะ แต่ข้า...""เจ้าเห็นคุณชายหลี่หรือไม่" อี้เฉินหยุดหวีผมแล้วหันไปมองหน้าของจางลี่อย่างรอคำตอบ"มีลูกค้าอยู่เต็มร้านเลยเจ้าค่ะ แต่คุณชายหลี่กับแม่นางเฟยหง ข้าหาได้เห็นไม่เจ้าค่ะ หรือว่าจะอยู่ที่ร้านขายถ้วยชามเจ้าคะ หรือไม่ก็ร้านขายผ้า แต่ร้านขายผ้ามันอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย ข้าเกรงว่าคุณหนูจะรอข้านาน ข้าก็เลยรีบกลับมาก่อนเจ้าค่ะ" จางลี่อ้อมแอ้มพูดออกมาในท้ายประโยค"ร้านขายผ้ากับร้านขายถ้วยชาม เดี๋ยวข้าจะไปดูเอง ว่าแต่เจ้าซื้อสิ่งใดมาให้ข้าขายบ้าง เอาเสื้อผ้ามา ข้าจะได้เปลี่ยนเสียที" อี้เฉินถามเสีย
"อร่อย ซาลาเปาอร่อยมากขอรับคุณชาย ข้าขอซื้อ... เอ่อ..." ชัดหยุดพูด เมื่อเขานึกขึ้นได้ ว่าเขาไม่มีเงิน แถมตอนนี้เขายังมานอนป่วยให้เป็นภาระของคุณชายหลี่อีก เขากินซาลาเปาไปสองลูกแล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะกินอีก แต่เขาก็ไม่อยากแย่งลูกชาย เพราะว่าลูกชายก็ดูจะชอบกินซาลาเปาสะเหลือเกิน"เจ้าอยากกินซาลาเปาอีกใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้อู๋ห่างไปดูให้ ว่ารถเข็นขายซาลาเปายังอยู่ที่หน้าร้านหรือไม่" หลี่หยางบอกกับเข่อซิง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่หน้าร้าน เพราะว่าตอนนี้ตงกับอู๋ห่างอยู่ที่หน้าร้านทั้งสองคน ทั้งคู่กำลังยืนดูรถเข็นไม้เก่าๆ ที่ผู้คนกำลังรุมซื้อซาลาเปาราคาถูกอยู่"ข้าขอตามท่านไปด้วยได้หรือไม่" ชัดไม่พูดเปล่า เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินตามคุณชายหลี่ออกไปที่หน้าร้าน แล้วปล่อยให้ลู่จิวนั่งกินซาลาเปาอยู่คนเดียวในห้อง เพราะว่าเขาก็อยากจะเห็นตลาดของเหอเป่ย์เหมือนกัน ว่าตลาดมันจะมีอะไรขายบ้าง และที่สำคัญ เขาอยากจะเห็นร้านขายซาลาเปา ที่เขาติดใจในความอร่อยของมัน"เจ้าเด็กหลี่ฟูอยู่ที่ร้านขายผ้า ถ้าเช่นนั้นคุณชายหลี่กับแม่นางเฟยหง หาได้อยู่ที่อื่นไม่ ต้องอยู่ที่ร้านขายผ้าด้วย
"จางลี่...เจ้าปิดประตูหน้าต่างดีแล้วหรือไม่" อี้เฉินถามสาวรับใช้คนสนิท พร้อมกับมองไปรอบๆบ้าน เพื่อดูความเรียบร้อยไปด้วย หลังจากที่เธอทิ้งรถเข็นไม้เก่าๆคันนั้นเอาไว้ที่ท้ายตลาด เพื่อความรวดเร็วในการหลบหนี ก่อนที่เธอกับจางลี่ จะรีบกลับมาที่บ้านเช่าหลังตลาด "ข้าปิดประตูหน้าต่างดีแล้วเจ้าค่ะคุณหนู แล้วเหตุใด คุณหนูถึงได้รีบหนีมาเช่นนั้นเล่าเจ้าคะ แล้วพรุ่งนี้...""จางลี่!! เจ้าเห็นหรือไม่ ว่าเข่อซิงมองข้า เหมือนกับสงสัยในตัวของข้า เจ้าดูที่มือของข้าสิ เหตุใดเจ้าถึงได้ลืมที่มือของข้า" อี้เฉินพูดพร้อมกับยื่นมือไปให้สาวรับใช้คนสนิทดูไปด้วย เพราะว่าเธอแอบชำเลืองมองหน้าของเข่อซิง เข่อซิงมองมาที่มือของเธอ แล้วมองหน้าของเธอด้วยสายตาที่สงสัย ทำให้เธอต้องรีบหนีออกมากจากตรงนั้น"เออ...คุณหนู!! ข้าขออภัยเจ้าค่ะ ข้าสะเพร่าที่ไม่ดูให้ดีก่อนเจ้าค่ะ" จางลี่ยกมือขึ้นคำนับเป็นการขอโทษคุณหนูของเธอ "ข้าต้องคิดการณ์ใหม่ รถเข็นซาลาเปาคันนั้น หาใช้การได้ไม่" อี้เฉินพูดพร้อมกับเดินไปมา อย่างคนที่กำลังใช้ความคิด"ถ้าเช่นนั้น คุณหนูให้คนของคุณชายเจิ้งมาช่วยดีหรือไม่เจ้าคะ ถ้าเข่อซิงจำคุณหนูได้ คุณชายหลี่ก็ต้อง.
"ลี่เฉี่ยว เจ้าเห็นสิ่งใดที่น่าสงสัยหรือไม่" อู๋ห่างถามลี่เฉี่ยว ที่เขาเป็นคนสั่งให้มานั่งเฝ้าบ้านเช่า ที่หลังตลาด เพราะว่ามีบ้านเช่าไม่กี่หลัง ที่สวยและราคาแพงที่สุด รวมไปถึงโรงเตี้ยมที่ดีที่สุดด้วย เขาส่งคนให้ไปเฝ้าหมดทุกที่ ตามที่เข่อซิงบอก"ข้าหาได้เห็นว่ามีบ้านหลังไหนไม่ ที่น่าสงสัย...ท่านอู๋ห่าง ท่านอู๋ห่าง มีหญิงสาวที่มีท่าทางน่าสงสัย เดินออกมาจากบ้านเช่าหลังนั้นขอรับ ข้า...""จุ๊ๆ ตามหลังของนางไป อย่าให้นางรู้ตัว" อู๋ห่างยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้ลี่เฉี่ยวหยุดพูด ก่อนที่เขาจะกระซิบเสียงเบา"ขอรับ" ลี่เฉี่ยวพยักหน้ารับคำเสียงเบา ก่อนที่เขาจะเดินตามหญิงสาวผู้น่าสงสัยไป ในขณะที่อู๋ห่างแอบย่องเข้าไปใกล้กับบ้านเช่า หลังที่หญิงสาวที่เป็นลูกค้าของร้านขายซาลาเปาเดินออกมา เขาจำหน้าได้ว่าเป็นลูกค้าที่ยืนอยู่ข้างกายของแม่ค้าขายซาลาเปาที่สุด และเขาคิดว่าเป็นจางลี่ คนสนิทของอี้เฉิน ทีแรกเขายืนมองแต่แม่ค้าขายซาลาเปา ทำให้เขาไม่ได้สังเกตหน้าของลูกค้าเลยสักคน เขาแค่มองผ่านๆ จนเข่อซิงพูด ทำให้เขานึกได้ว่าเขาเคยเห็นใบหน้านี้ที่ไหน ถึงจะใส่เสื้อผ้าที่คล้ายกับคนเหอเป่ย์ก็เถอะ..."แม่นางอี้เฉินจริงเช่น
"เข่อซิง ข้ากับเจ้าทำงานกันมานานแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนหรือไม่ ข้ากับเจ้าควรจะหาที่พักผ่อนอยู่ด้วยกันตามลำพังบ้าง เจ้าว่าดีหรือไม่เล่า" หลี่หยางถามเข่อซิงเสียงนุ่ม ในขณะที่เข่อซิงกำลังนั่งทำซาลาเปาอยู่อย่างตั้งใจ หลังจากที่พวกเขากลับมาจากไปเที่ยวที่บนหุบเขา เวลาก็ล่วงเลยมานานหลายเดือน จนจะเข้าสู่ฤดูหนาวอีกแล้ว พวกเขากลับมาอยู่ที่ร้านขายผ้า ที่หัวเมืองเหอเป่ย์ตามเดิม เข่อซิงก็กลับมานั่งหัดทำซาลาเปาจนเก่ง แล้วตอนนี้เข่อซิงก็เปิดร้านขายเครื่องดื่มคู่กับซาลาเปา เป็นร้านแรกที่ทำร้านหรูหราใหญ่โต และมีภาชนะที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นให้กับคนเมืองเหอเป่ย์เป็นอย่างมาก เพราะว่าหลี่หยางทำภาชนะใส่เครื่องดื่มกับจานชาม จากสแตนเลสสตีลมาใช้ในร้านของเข่อซิงเป็นที่แรก พร้อมกับวางขายในร้านที่เปิดใหม่อีกแห่งหนึ่ง และตอนนี้หลี่หยางก็มีร้านขายพวกแก้วกับจานชามเพิ่มที่หัวเมืองเหอเป่ย์ รวมกับพวกร้านขายผ้ากับร้านขายไม้ แล้วก็เครื่องประดับสี่ร้านด้วยกัน ไม่รวมกับร้านอาหารของเข่อซิง ส่วนลู่จิวได้ไปอยู่ที่บ้านเกิดของหลี่หยาง เพื่อไปเรียนแล้วก็อยู่กับปู่กับย่า ก่อนที่ลู่จิวจะถูกส่งไปเรียนตามหัวเมือ
"หือ...คุณชาย!!หนาวหรือขอรับ เหตุใดท่านถึงได้มานอนเบียดข้าเช่นนี้" ชัดถามด้วยนํ้าเสียงที่งัวเงีย เมื่อเขาโดนเบียดแปลกๆ ที่ว่าแปลกๆ เพราะว่าคนที่เบียดเขาตัวอุ่นๆเหมือนกับอุ่นเนื้อ เหมือนกับถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วอย่างนั้นแหละ และน่าจะใช่อย่างที่เขาคิด เพราะว่าคนที่นอนเบียดเขา มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่งแล้ว ในขณะที่ตอนนี้เขากับคุณชายหลี่นอนอยู่ในกระโจม ที่อยู่ในหุบเขา ซึ่งบนเขาอากาศหนาวมาก ถึงใกล้จะเข้าฤดูร้อนแล้วก็เถอะ"เข่อซิง...ข้ากับเจ้า เราเป็นคนรักกันมานานโขแล้ว และข้าก็รอให้แผลที่ท้องของเจ้าหายมานานแล้วเช่นกัน ข้ายังต้องรอสิ่งใดอีกเช่นนั้นหรือ" หลี่หยางไม่ถามเปล่า เขาถอดเสื้อผ้าออกให้กับเข่อซิงไปด้วย"คุณชาย...คุณชายเออ... เคยนอนกับ นอนกับผู้ชาย...""เจ้าจะถามข้า ว่าข้าเคยนอนกับชายด้วยกันไหม ใช่หรือไม่" หลี่หยางกระซิบถามข้างหูของเข่อซิงเสียงกระเส่า มือก็ลูบไล้ไปที่หน้าท้องแบนราบ ของคนที่นอนนิ่งให้เขากอดได้อย่างตามใจ เขาลูบไล้เลยไปที่ท่อนเอ็น ที่เริ่มแข็งชี้โด่ขึ้น ตั้งแต่ถูกถอดเสื้อผ้าออกในยามที่ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้"ซี๊ส...คุณชายขอรับ อ่า...ข้าไม่สงสัยแล้วขอรับ อื้ออออ" ชัดครางเสียงแ
"เข่อซิง...เหตุใดเจ้าถึงได้เงียบเช่นนี้เล่า เจ้าไม่ดีใจเช่นนั้นหรือ ที่ข้าคิดเช่นเดียวกับเจ้า หรือว่าเจ้าพูดว่ารักข้า เจ้าแค่หยอกล้อข้าเล่นเท่านั้น" หลี่หยางถามเข่อซิงที่นั่งเงียบมาตลอด ตั้งแต่เขาบอกว่า เขาคิดแบบเดียวกันกับเจ้าตัวแล้ว ในขณะที่ตอนนี้พวกเขา เข้ามาอยู่ในห้องพักกันเพียงลำพังสองคนแล้ว เข่อซิงนั่งพิงหัวเตียงอยู่ เพราะว่าเขาต้องนอนพักหลังมื้ออาหารเช้า และยาต้มสมุนไพรที่เขาได้ดื่มไปแล้ว"หาเป็นเช่นนั้นไม่ขอรับ ข้าดีใจจนข้าพูดสิ่งใดไม่ออกต่างหากเล่า ข้าไม่คิดว่าทาสอย่างข้า จะมีชายที่สูงศักดิ์อย่างคุณชายหลี่มารักข้าได้ แล้ว...เออ...ท่านพ่อกับท่านแม่ของคุณชายเล่า พวกท่านจะยอมรับได้หรือไม่ขอรับ" ชัดถามเสียงเศร้า เพราะว่าถึงเขาจะดีใจ ที่คุณชายหลี่มีความรู้สึกอย่างเดียวกันกับเขา แต่ความรักของชายที่รักกับชาย ก็ใช่ว่าจะราบรื่น ยิ่งเป็นสมัยเก่าอย่างนี้ด้วย อย่าว่าแต่สังคมไม่ยอมรับเลย สังคมยังไม่รู้จักด้วยซํ้ามั้ง และนี่คือเหตุผลที่เขานั่งเงียบ เพราะว่านอกจากที่เขากับคุณชายจะใจตรงกันแล้ว แล้วต่อไปจะใช้ชีวิตกันยังไง เขายังคิดไม่ออกเลย เขามัวแต่คิดว่าชีวิตไม่ได้ยืนยาว อยากทำอะไรก็ให้รีบท
"คุณชายขอรับ ข้าอยากเดินออกไปที่หน้าร้านขายผ้า ข้าอยากเห็นร้านซาลาเปา ว่ายามเช้าเช่นนี้มีลูกค้าหรือไม่ ข้าขอเดินออกไปได้หรือไม่ขอรับ" ชัดขอคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่แหบเบา เมื่อเขาตื่นขึ้นในเช้าของวันต่อมา เขามองไปรอบๆแล้ว เขาจำได้ว่าเขานอนอยู่ที่ไหน เพราะว่าเมื่อวาน หลังจากที่เขากินซุปข้าวโพดอิ่มแล้ว เลี่ยงเฟิ่งก็ให้เขาดื่มยาต้มสมุนไพรไปถ้วยหนึ่ง เขาก็หลับยาวจนมาถึงเช้าเลย ระหว่างทางเจออะไรบ้าง เขาเข้ามานอนในห้องพักตรงนี้ได้ยังไง เขายังไม่รู้สึกตัวเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาดูมีเรี่ยวแรงขึ้น จนเขาอยากจะลองเดินออกไปดูที่หน้าร้านขายผ้า ว่าที่หน้าร้านขายผ้า รถเข็นไม้ที่เขาใช้ขายซาลาเปา ยังอยู่เหมือนเดิมไหม และยังมีลูกค้าอยู่หรือเปล่า"เจ้าจะออกไปได้เช่นไร เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ข้า...""คุณชายหลี่พาข้าออกไปได้หรือไม่เล่า ข้ารู้สึกว่าอยากออกไปข้างนอก นอนอยู่เช่นนี้ ข้าปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัวแล้วขอรับ" ชัดขอร้องคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่ออดอ้อน เอาสิ เขาอ้อนขนาดนี้ ถ้าคุณชายหลี่ยอมใจอ่อนพาเขาไป ก็แสดงว่าคุณชายหลี่ต้องมีใจให้กับเขาบ้างแหละวะ ที่เขากล้าอ้อนคุณชายหลี่เช่นนี้ เพราะว่าเม
"คุณชายหลี่ขอรับ รถม้าพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางขอรับ" อู๋ห่างบอกกับคุณชายหลี่ หลังจากที่เขาดูคนของเขา ขนของขึ้นไปบนรถม้าเรียบร้อยแล้ว มีรถม้าสองคัน โดยที่รถม้าคันหนึ่ง ขนเสบียงกับพวกข้าวของเครื่องใช้ ที่จำเป็นในการรักษาเข่อซิง และอีกคันหนึ่ง ให้ลู่จิวกับอันฉีแล้วก็เข่อซิงนอน และมีเลี่ยงเฟิ่งนั่งไปด้วย เพื่อดูแลเข่อซิงในระหว่างทาง ส่วนเขากับซิงเยียน แล้วก็คุณชายหลี่กับคนของเขาขี่ม้าไป ไปครั้งนี้เขาพาคนของเขาไปเยอะกว่าทุกครั้ง เพื่อป้องกันภัยจากพวกโจรระหว่างทาง "หลี่หยาง เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ พ่อหาได้เห็นด้วยกับเจ้าไม่ แต่พ่อก็บังคับเจ้าไม่ได้ เพราะว่าเจ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว" พ่อพูดกับลูกชายเสียงเครียด "ท่านพ่อขอรับ ท่านแม่ขอรับ ข้าต้องขออภัย ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้ แต่ท่านพ่อกับท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลกับข้า สิ่งใดที่ข้าได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ข้าจะไม่มีวันเสียใจเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าข้าจะตัดสินใจผิดพลาด แต่ข้าก็เป็นคนตัดสินใจเอง ข้าขอให้ท่านทั้งสองรับรู้เอาไว้ ข้าจะทำปัจจุบันของข้าให้ดีที่สุด เพราะว่าปัจจุบันจะบ่งบอก ว่าอดีตกับอนาคตของข้าจะไปในทิศทางไหน ทุกอย่างข้าเลือกเอง ข้าก็พร้อมที่จะรั
"เลี่ยงเฟิ่ง อาการของเข่อซิงเป็นเช่นไรบ้าง" หลี่หยางเดินเข้ามาในห้องรักษา ในช่วงคํ่าของวัน หลังจากที่เขาได้นอนพักเต็มอิ่มแล้ว"อาการของเข่อซิงยังคงที่ขอรับ โชคดีที่ไม่มีอาการตัวร้อนเป็นไข้ ข้าคอยเช็ดตัวแล้วก็คอยหยดยาต้มสมุนไพร ให้เข่อซิงกินทีละหยดขอรับ อย่างน้อยก็เป็นยาช่วยสมานแผล ในยามที่เข่อซิงไม่ได้สติอยู่เช่นนี้ และยาสมุนไพรตัวนี้ แก้ไข้ได้ด้วยขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งตอบคำถาม พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตามตัวให้กับเข่อซิงไปด้วย"เลี่ยงเฟิ่ง เจ้าคิดว่า เออ...เข่อซิงจะรอดพ้นคืนนี้ได้หรือไม่" หลี่หยางถามเสียงเบา เมื่อเขาเห็นสภาพเข่อซิงนอนตัวขาวซีด กว่าตอนก่อนที่เขาจะขึ้นไปนอนพักเสียอีก สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกหน่วงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก คำพูดที่เข่อซิงชอบบอกกับเขา มันเข้ามาในความรู้สึกของเขาตอนนี้ ว่าชีวิตของคนเรามันไม่ได้ยืนยาว แต่มันก็ไม่ควรที่จะสั้นขนาดนี้ไม่ใช่หรือ"ข้าตอบไม่ได้ขอรับ แต่ก็มีเรื่องดีอยู่นะขอรับ ที่เข่อซิงไม่มีอาการไข้ตัวร้อน นั่นหมายความว่า แผลที่ท้องของเข่อซิงไม่เกิดการติดเชื้อด้านในขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งพูดปลอบใจคนถาม เพราะว่าตอนนี้ใบหน้าของคุณชายหลี่ดูเป็นกังวล จนเ
"คุณชายหลี่...""เลี่ยงเฟิ่ง อาการของเข่อซิงเป็นเช่นไรบ้าง" หลี่หยางถามด้วยนํ้าเสียงที่ร้อนใจ เมื่อเลี่ยงเฟิ่งเปิดม่านประตูออกมาจากห้องรักษา ในขณะที่เขาเดินวนไปมาที่หน้าห้อง เพื่อรอฟังอาการของเข่อซิง เขามาถึงนานแล้ว แต่เขาไม่กล้าเปิดม่านเข้าไป เพราะเขากลัวว่าจะรบกวนเลี่ยงเฟิ่งในขณะที่กำลังรักษาเข่อซิงอยู่"เข่อซิงเสียเลือดมากขอรับ ถ้าผ่านวันนี้ไปได้อาจจะมีโอกาสรอด แต่ถ้าไม่พ้นวันนี้...""เจ้าต้องการสิ่งใด ต้องการยาชนิดไหนเลี่ยงเฟิ่ง ข้าจะให้คนไปตามหามาให้เจ้า แต่เจ้าต้องช่วยชีวิตของเข่อซิงให้กลับมา...""ข้าไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว คุณชายขอรับ...ท้องของเข่อซิง ถูกแทงเข้าไปโดนจุดสำคัญหลายจุด ทำให้เสียเลือดมาก คุณชายเข้าไปดูเข่อซิงสิขอรับ เข่อซิงตัวซีดขาวเพราะว่าเสียเลือดมาก ข้าเย็บแผลใส่ยาและห้ามเลือดให้แล้ว ที่เหลือแค่เพียงรอ เออ...รอให้เข่อซิงฟื้นขึ้นมาเท่านั้นขอรับ เรื่องยารักษาข้ามีเพียงพอแล้วขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งพูดทั้งที่คุณชายหลี่ นั่งลงไปบนเก้าอี้หน้าห้องอย่างคนที่หมดแรงแล้ว"คุณชายขอรับ คุณชายขึ้นไปพักผ่อนบนห้องเถิดขอรับ นี่มันก็สายมากแล้ว ลู่จิวกับนายท่านทั้งสอง ลงมาจากบนบ้านใหญ่แล้ว
"หมดแรงแล้วใช่หรือไม่ไอ้เด็กน้อย เจ้าเตรียมตัวตายตามท่านอี้เจ๋อกับท่านไฉ่หงสะเถิด" หนึ่งในกองโจรที่ปิดหน้าอยู่ เดินเข้าไปหาชายตัวเล็กที่เริ่มหมดแรง ที่จะเก็บก้อนหินปาใส่พวกเขาแล้ว หลังจากที่สหายของเขาหัวแตกกันแทบจะทุกคนแล้ว ในขณะที่สหายของชายตัวเล็กผู้นี้ กำลังต่อสู้กับสหายของพวกเขาอยู่อีกด้าน"เข้ามาเลย ข้ารอพวกเจ้าอยู่" ชัดกวักมือเรียกพวกโจรยิกๆ ทั้งที่เขาเหนื่อยจนใจแทบจะขาดแล้ว โดยที่มืออีกข้างหนึ่งเขากำก้อนหินเอาไว้แน่น เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวครั้งสุดท้าย เพราะว่าเขาไม่มีโอกาสได้ก้มลงไปเก็บก้อนหินอีก พวกโจรมันล้อมเขาเอาไว้ในระยะประชิดตัวแล้ว แต่เขาก็ทำหน้าว่ามีไพ่ที่เหนือกว่า จนพวกโจรมันลังเลไม่มั่นใจ ว่าทำไมเขาตัวเปล่า ถึงไม่ท่าทีว่ากลัวพวกมันเลย"เข่อซิง!!" หลี่หยางมองไปที่เข่อซิงด้วยความเป็นห่วง เพราะว่าเข่อซิงไม่มีอาวุธอะไรในมือเลย แต่เขายังไปช่วยไม่ได้ เพราะพวกโจรก็รุมเขาอยู่ไม่ต่างจากซิงเยียนและเข่อซิงเลย "ฆ่ามันสิ พวกเจ้ารอสิ่งใดอยู่เล่า!!" หนึ่งในกองโจรที่ล้อมคนตัวเล็กเอาไว้อยู่สั่งขึ้น เมื่อไม่มีใครเข้าไปฆ่าผู้ชายตัวเล็กที่กวักมือเรียกพวกเขาอยู่สักที"ไม่เปิดกันใช่ไหม งั้น
"คุณชายหลี่ พวกโจรมันตามมาขอรับ" ซิงเยียนหันไปตะโกนบอกกับคุณชายหลี่ พร้อมกับควบม้าไปด้วยไม่หยุด พวกเขาช้าไม่ได้ เพราะว่าพวกโจรตามมาเร็วมาก"ท่านซิงเยียน ข้าขอมีดสั้นของท่านได้หรือไม่" ชัดตะโกนไปสุดเสียง เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ในขณะที่คุณชายหลี่กับซิงเยียน จะต้องควบม้าหนีพวกโจร ที่เขาหันไปดูแล้วตามมาเป็นสิบเลย ทั้งคนทั้งม้า"เข่อซิง...เจ้าคิดจะทำสิ่งใด" หลี่หยางถามเข่อซิง ก่อนที่เขาจะหันไปมองทางด้านหลัง ที่ตอนนี้ม้าของพวกโจรวิ่งใกล้เข้ามาแล้ว เขาคิดว่าซิงเยียนจะเอามีดสั้นมาให้เข่อซิงได้ยังไง ไหนเมื่อพวกเขาต้องรีบหนี ไม่สามารถหยุดม้าได้"ข้าจะต้องหยุดพวกมัน ไม่ให้ตามพวกเรามาได้ ถ้ามีดสั้นไม่มี ข้าขอใช้ดาบของท่านได้หรือไม่" ชัดหันไปถามคุณชายหลี่ แต่มือของเขาก็ดึงดาบของคุณชายหลี่ออกมาจากฝักแล้ว ถึงเขาจะใช้ดาบไม่เป็น แต่ก็ดีกว่าไม่มีอาวุธอะไรเลย เพราะว่าซิงเยียนเองก็ต้องควบม้าหนี คงจะเอามีดสั้นมาให้เขาไม่ได้"เจ้าใช้ดาบเป็นเช่นนั้นรึ" หลี่หยางถามด้วยนํ้าเสียงที่เป็นห่วง สายตาของเขาก็มองไปข้างหน้า เพื่อที่จะหนีพวกโจรให้ได้"พวกเจ้าตามมา อยากได้ของมีค่าใช่หรือไม่" ชัดเอี้ยวหน้าไปถามพวกโจร โดย