“ขอรับคุณชาย”เสียงของความวุ่นวายภายในจวน แม้แต่เสียงกรีดร้องตกใจของสตรีที่อยู่ในเรือนของตน ก็ให้เกิดความงุนงงยิ่งนัก ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาไล่จับตัวพวกตนนั้นคือผู้ใด ส่วนตัวเจ้าเมืองถูกทหารนายหนึ่ง ลากตัวมาพร้อมกับอนุสี่ทำให้ยามนี้ ภายในห้องโถงที่ดูใหญ่โตกลับคับแคบไปทันตาตุบ ตุบ โอ๊ย!เจ้าเมืองเจิ้
ทางฝั่งของอู๋ซูกับทหารห้าสิบนาย ที่มาถึงจวนตระกูลเหลียง ท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่จวนใกล้เคียง ที่เริ่มออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารให้เจ้านาย ต่างขยับเท้าเข้าไปใกล้กำแพงจวนอย่างช้า ๆ เนื่องจากอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตระกูลนี้อู๋ซูไม่รีรอที่จะใช้เท้าของตนถีบประตู แม้จะมีบ่าวไพร่ยืนเฝ้าอยู่ก็ตาม ปัง
ภารกิจบนภูเขาผู่ถัวผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ช่างทอผ้าทุกคนปลอดภัยไร้บาดแผล ส่วนลูกน้องของเหยียนโจวเฟิงถูกสังหารทั้งหมด เนื่องจากไม่มีผู้ใดยอมวางอาวุธในมือเพื่อยอมแพ้ พวกเขายอมตายดีกว่าถูกจับตัวไปทรมานฟงเฉิงฮ่าวพาทั้งทหารและช่างทอผ้าลงจากเขา และกลับมาถึงศาลาว่าการเมืองผู่กังในยามเว่ย หยางไท่หมิงจึงให้ทหาร
ในวันนี้ที่หยางไท่หมิงกลับมาถึงเมืองผู่เถียน ช่างประจวบเหมาะกับการกลับมาของไห่หยุน ที่ได้รับมอบหมายภารกิจสืบประวัติครอบครัวของซูอัน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร“ว่าอย่างไรไห่หยุน ได้เรื่องอันใดกลับมาบ้างรีบพูดมาให้ละเอียด พวกข้าสองคนรอฟังอยู่” ฟงเฉิงฮ่าวถามคนของตนทันทีที่ไห่หยุนเข้ามาพบไห่หยุนค้อมตัวทำค
เช้าวันถัดมาตลอดสองข้างทางของถนน มีชาวบ้านมายืนรอดูขบวนนักโทษกบฏ ที่ถูกเจ้าหน้าที่จากเมืองหลวงตามมาจับถึงเมืองผู่เถียน ไหนจะทรัพย์สมบัติอีกไม่น้อย ซึ่งได้มาจากการกระทำความผิดของขุนนางท้องถิ่นเจ้าเมืองปิงชุนได้ส่งทหารจำนวนห้าร้อยนาย ช่วยคุ้มกันขบวนนักโทษกลับเมืองหลวง แต่ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทาง ซ
ในใจหลิวเฟยเริ่มกระวนกระวาย เกรงว่านายท่านฮ่วนจะเปลี่ยนใจ “เพียงแต่ว่าอันใดหรือขอรับ”“เพียงแต่ว่าข้าคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ นอกจากพวกท่านจะหาเงินมาจ่ายคืนให้ข้าได้แล้ว พวกท่านเองก็จะกลับมาร่ำรวยเช่นเมื่อก่อนอีกครั้ง เป็นอย่างไรนายท่านหลิว สนใจวิธีของข้าหรือไม่” นายท่านฮ่วนยังไม่ยอมพูดให้กระจ่าง เขาเพ
วันถัดมาหลิวฉางฮุ่ยและหลิวชางหรง สองคนพี่น้องออกเดินทางพร้อมคนสนิท ตั้งแต่แสงของดวงอาทิตย์ยังไม่สาดส่องท้องฟ้า เพราะความร้อนรุ่มในใจที่นึกถึงแต่เงินทอง พวกเขาไม่สนว่าทางข้างหน้าที่กำลังจะไปนั้น มิได้มีความโหดเหี้ยมของจินซูอันรออยู่เพียงคนเดียว แต่อู๋ซูกับไห่หยุนที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ย่อมทำหน้าที่ข
“นี่มู่ถงท่านพ่อฝากข้ามาบอกเจ้าว่า หากเจ้ายอมยกร้านผ้าไหมนี้ให้กับท่านพ่อ พวกเรายินดีให้เจ้ากับครอบครัวกลับเข้าตระกูล” หลิวชางหรงไม่อยากเสียเวลา จึงพูดเข้าเรื่องที่ตนตั้งใจมาในวันนี้ทันทีเพียงแต่คนที่ตอบคำถามของหลิวชางหรง มิใช่มู่ถงแต่อย่างใดเพราะเจ้าของเสียงคือซูอัน นางกับพี่สาวรีบลงมาจากบนชั้นสอง
แต่คนที่หวังประจบประแจงองค์ชายน้อย ย่อมไม่รอดพ้นการลงทัณฑ์จากฮ่องเต้ “หึ พวกเจ้าทุกคนควรยึดองค์ชายเจิ้งหลงรวมถึงคุณชายกับคุณหนู จากตระกูลหยางและตระกูลฟงเป็นแบบอย่าง ต้องมีความพยายามในการฝึกฝนให้มากกว่านี้ อย่าได้เกียจคร้านจะได้ไม่ทำให้บิดามารดาพวกเจ้าต้องขายหน้าส่วนเจ้ากู่จื่อเซียวเป็นถึงอาจารย์ของ
ฟงเหยาเหวินยืดหลังตรงสายตาเย็นชา เขายังไม่ทันได้พูดอะไรเพราะถูกหยางเฟิ่งเซียนพูดแทนเสียก่อน “ข้ากับญาติผู้พี่ไม่ได้เริ่มก่อเรื่องวุ่นวาย แต่เป็นองค์ชายกับองค์หญิงต่างหากที่เริ่มก่อน พวกเขาต้องการเอากระดาษที่มีตัวอักษรของพวกเราไป” หยางเฟิ่งเซียนกล่าวตอบอย่างไม่เกรงกลัวผู้เป็นอาจารย์องค์ชายและองค์หญิ
หยางเฟิ่งเซียนได้ยินญาติผู้พี่เริ่มตอบกลับ จึงพูดเสริมด้วยเสียงเล็ก ๆ ตามประสาเด็ก แต่ใช่ว่าภายในหัวของหยางเฟิ่งเซียนจะไม่คิดอันใด “ส่วนฝีมือหัดเขียนของหม่อมฉันยังไม่ดีพอ หากถวายไปแล้วหมึกไม่สมดุลหรือเส้นขาดความสง่างาม มันอาจจะทำให้เสียเกียรติขององค์หญิงได้เช่นกัน”องค์ชายและองค์หญิงขมวดพระขนง พระพั
หนึ่งปีต่อมาณ วังหลวงอันโอ่อ่าซึ่งมีสำนักวั่งซูเก๋อ สถานที่สำหรับให้ความรู้แก่องค์ชายองค์หญิง รวมถึงบุตรหลานขุนนาง ที่ถูกคัดเลือกเข้ามาเรียนร่วมเป็นสหายของเชื้อพระวงศ์ยามเยาว์วัย และสองคู่แฝดจากตระกูลหยางกับตระกูลฟง ก็เป็นผู้ถูกเลือกจากฮ่องเต้ที่ทรงเล็งเห็นความสามารถแต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพระราชนัดด
สองคู่แฝดจากสองตระกูลที่เกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน เด็กน้อยทั้งสี่คนถูกเลี้ยงดูด้วยความรักและความเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายายหรือท่านลุงท่านน้า ตั้งแต่สองคู่แฝดเริ่มหัดคลานจนเดินก้าวแรกได้ อยากหยิบจับสิ่งใดหรือจ้องมองสิ่งที่อยากได้ล้วนได้รับสิ่งนั้นเสมอในเมื่อมีคนเอาใจย่อมมีคนคอยขัด โดยให้เหตุผลสำหร
“ไอหยา ฮูหยินน้อยสงสัยลูก ๆ ของท่านจะกลัวคำขู่ไม่น้อย คนน้องถึงได้รีบตามออกมาทันที ท่านออกแรงเบ่งอีกครั้งนะเจ้าคะ”ซูอันรวบรวมลมหายใจอีกครั้ง และออกแรงเบ่งเพื่อให้บุตรอีกคนรีบออกมา เพราะตอนนี้นางเหนื่อยจนแทบจะหมดแรงอยู่แล้ว และในที่สุดเสียงร้องอันไพเราะก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ฮูหยินน้อยคนนี้เป็นคุณหนูเจ้
เยี่ยนหลิงกัดฟันแน่นมือจิกผ้าปูที่นอนจนยับย่น นางรู้ดีว่าต้องเข้มแข็งกับการให้ชีวิตใหม่ของบุตรของนาง “ลูกแม่พวกเจ้ารีบออกมาเถิดอย่าได้กลั่นแกล้งแม่เช่นนี้เลย หากยังไม่ยอมออกมาแม่อาจขาดใจตายเอาได้ แล้วพวกเจ้าจะกลายเป็นเด็กกำพร้อมแม่นะ”“จินฮูหยินหัวเด็กคนแรกเริ่มโผล่ออกมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านแข็งใจเบ่งออก
ข่าวการตั้งครรภ์ของบุตรสาวนายท่านตระกูลจิน ผู้เป็นเจ้าของร้านผ้าไหมทอเมฆาต่างกระจายไปถึงหูของคู่ค้า เมื่อใดที่ได้แวะเวียนมายังเมืองผู่เถียน ล้วนมีของขวัญติดไม้ติดมือมาเสมอ ซูอันไม่มีอาการแพ้ท้องอย่างอื่น มีเพียงการให้สามีตัวติดกับนางเท่านั้น ส่วนเยี่ยนหลิงกว่าจะหายเหม็นสามี อายุครรภ์ก็ปาเข้าไปเกือบห
“หลิงเอ๋อร์! เจ้าอาการหนักถึงเพียงนี้ ไยไม่ให้น้องเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเล่า หากเจ้าหมดสติล้มลงจนบาดเจ็บจะทำเช่นไร ท่านพี่พาลูกขึ้นไปนอนพักบนเตียงก่อนเถิดเจ้าค่ะ”“ได้ ๆ ๆ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกับลูกกันแน่ฮูหยิน เมื่อเช้าก่อนจะแยกกลับเรือนยังดี ๆ อยู่แท้ ๆ” มู่ถงไม่เคยเจออาการแพ้ท้องของสตรีตั้งครรภ์ เนื