ณ รัฐวอซิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริการ่างอรชรของหญิงสาวที่ใบหน้าสะสวยไร้ที่ติอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีขาวสั้นรัดรูปกำลังเดินย่างก้าวบนรองเท้าส้นเข็มแบรนด์หรูไปยังห้องของแฟนหนุ่มเพื่อต้องการที่จะเซอร์ไพรส์แต่เธอก็ต้องเจอกับเรื่องที่เซอร์ไพรส์กว่าเมื่อเธอนั้นเปิดประตูคอนโดของแฟนหนุ่มเข้าไป....ติ๊ด~ (เสียงสแกนคีย์การ์ด)แกร็ก~"ที่รัก Happy Anniversa..ry!!" ร่างบางที่เปิดประตูเข้าไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสแต่เธอกับต้องช็อคแล้วหุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นร่างกำยำของแฟนหนุ่มของเธอกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก"กรี๊ดดดดดดดดด!!! แกเป็นใคร" ร่างบางที่ได้สติกลับมาก็กรี๊ดสุดเสียงพร้อมกับเอ่ยถามอย่างเดือดพล่าน"เฮ้ยย! โมเน่" ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงของแฟนสาวก็ชะงักการกระทำทันทีพร้อมกับเรียกชื่อแฟนสาวด้วยสีหน้าตกใจ"ตาบอดดูไม่ออกรึไง" หญิงสาวผมสีบลอนด์ทองที่กำลังนัวเนียกับแฟนหนุ่มของเธอเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดที่เธอมาขัดจังหวะกำลังเข้าได้เข้าเข็ม"ไม่ใช่แบบนั้นนะโมเน่ฟังฉันก่อน" ไนท์แฟนหนุ่มของเธอที่เห็นว่าเธอกำลังเดือดพล่านก็รีบติดกระดุมกางเกงทันทีหมายจะเดินมาคุยกับเธอแต่ก็ถูกหญิงสาวที่
ณ บาร์ดังหรูใจกลางเมืองปลัก!"โถ่เว้ย ทำไม่ชีวิตฉันต้องมาเจอผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ด้วย" ร่างบางที่พึ่งขับรถสปอร์ตมาจอดยังหน้าบาร์สุดหรูใจกลางเมืองก็เอ่ยขึ้นก่อนจะทุบพวงมาลัยรถอย่างเจ็บใจกับสิ่งที่พึ่งเจอมา ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจที่เธอพยายามกลั้นเอาไว้ให้มันไหลออกมาอย่างเงียบๆ ถ้าถามว่าเธอเสียใจแค่ไหนก็คงตอบได้ว่ามากเพราะไนท์เป็นแฟนคนแรกของเธอและเป็นคนที่เธอคิดจะมอบความบริสุทธิ์ให้แก่เขา"ก็แค่ผู้ชายคนเดียว คนอย่างฉันจะมาเสียใจทำไม" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือบางปาดน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะกดโทรศัพท์โทรไปหาเพื่อนรักของเธอ"ฮัลโหล ยัยเวนิสมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ"(วันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้ได้ไหมเดียวกูเลี้ยง) ปลายสายเอ่ยตอบมาในทันที"มึงมีอะไรสำคัญกว่าเพื่อนรักอย่างกูอีกหรอ" โมเน่เอ่ยด้วยน้ำเสียงงอแง(มีสิย่ะ กูเตรียมชุดพรีเซนต์แฟชั่นโชว์รอบไฟนอลอยู่จบไม่จบอยู่ที่มันเลยเนี้ย) เวนิสเอ่ยตอบกลับเธอมาแทบจะในทันทีเพราะว่าเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายแล้วจะจบไม่จบขึ้นอยู่กับงานนี้เลย"เออ ขอให้ผ่านแล้วกันอย่าลืมบัตรเชิญกูด้วยนะ"(ไม่ลืมยะ แค่นี้ก่อนนะมึง)ตู๊ด ตู๊ด~"ไปกินคนเดียวก็ได้วะ" หลัง
"ไหนๆ ก็ตั้งใจจะเสียซิงอยู่แล้วจะกับใครก็คงไม่ต่างกัน""หึ ระวังจะคิดผิดเธอยังไม่รู้จักฉันดี" ร่างแกร่งเค้นหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"แค่นอนด้วยกันไม่จำเป็นต้องรู้จักเลยหนิรู้จักไหม one night stand " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมารูดซิบชุดเกาะอกของเธอออกชุดเดรสเกาะอกสีขาวของร่างบางร่วงหลุดมาอยู่ที่พื้นเผลอให้เห็นเรือนร่างของเธอที่เปลือยเปล่าและผิวขาวเนียนที่ตอนนี้มีเพียงแค่บราปีกนกที่แปะอยู่ที่หน้าอกหน้าใจขนาดใหญ่เกินตัวของเธอและจีสติงตัวจิ๋วปกปิดของสงวนอยู่เท่านั้น"อย่ามาเสียใจที่หลังแล้วกัน" ร่างแกร่งเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองการกระทำของร่างบางที่ตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังเลื่อนมือมาลูบไล้ใบหน้าของเขาจุ๊บ โมเน่ไม่เอ่ยอะไรแต่ดึงใบหน้าของชายหนุ่มที่ดูแล้วน่าจะสูงเกิน 185 เซนติเมตร ให้ลงมาใกล้เธอก่อนที่จะเขย่งปลายเท้าประกบปากจูบกับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างดูดดื่มพร้อมทั้งดึงมือหนาของเขาให้มาจับหน้าอกอันอวบอิ่มของเธออย่างเชิญชวน"ร่าน" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อร่างบางถอนริมฝีปากบางออกจากริมฝีปากหนาของเขา"ผู้ชายก็ชอบแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่รึไง" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเม้มปากแน่นเม
"ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยอมหนิ" เธอคายแก่นกายของผมออกก่อนช้อนตาขึ้นมาเอ่ยตอบมือบางกำแก่นกายยักษ์ผมเอาไว้ก่อนจะใช้ปลายลิ้นเลียจากปลายหัวเห็ดไล่ลงมายังพวงไข่พร้อมกับเลียสลับไปมาก่อนจะอมแก่นกายผมไปทั้งแท่งและผงกหัวขึ้นลงอย่างชำนาน"หึ งั้นหรอ" ผมเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ที่รู้ว่าเธอเคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน ก่อนจะดึงหัวเธอออกมาจากแก่นกายของผมพร้อมทั้งผลักเธอให้นอนราบไปกับที่นอน"อื้ม~ ยังอมไม่อิ่มเลย" เธอเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดที่ผมไปขัดการอมของเธอ"เดียวฉันจะทำให้เธออิ่มจนจุกแทน" ผมเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งดึงจีสติงของเธอออกไปให้พ้นทางเผลอให้เห็นกลีบกุหลาบสีชมพูอ่อนอวบอูมที่ตอนนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเมือกสีขาวใส"นะ..นี่นายจะทำอะไร" เธอเอ่ยขึ้นขณะที่ผมขับขาเธอแยกออกและโน้มหน้าไปยังกลางหว่างขาของเธอแผล็บๆ"อร๊ายย~ อืมม" เธอครางออกมาเสียงกระเส่าเมื่อผมเริ่มบรรเลงปลายลิ้นเลียน้ำใสๆ จากรูสวาทของเธอพร้อมกับใช้มือหนาบีบคลึงหน้าอกของเธอไปด้วยยัยนี้น้ำหวานชะมัดแผล็บๆๆๆง"อื้ม~ เสียว" เธอครางออกมาเสียงกระเส่าพร้อมกับใช้มือเรียวเล็กขยุ่มผมของผมเอาไว้อย่างต้องการระบายความเสียวซ่าก่อนที่ผม
"เชี้ย ลืมใส่ถุงยาง" หลังจากที่เสร็จด้วยกันทั้งคู่ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมใส่ถุงยางอนามัยแถมยังปล่อยในใส่ยัยนี่อีกเลยรีบเอาแก่นกายออกทำให้น้ำรักขาวขุนของผมไหลออกมาจากรูสวาทของเธอและเปอะเปื้อนเต็มขาอ่อนของเธอไปหมดป๊อก~"แล้วฉันจะท้องไหม" เธอเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งเงยหน้ามามองที่ผมด้วยสีหน้ากังวล"กินยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ท้อง" ผมปรับสีหน้าให้ราบเรียบตามเดิมก่อนจะเอ่ยพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่นอนซบอกผมเหมือนลูกแมวที่หอบเหนื่อย"อีกรอบได้ไหม" เธอเอ่ยพร้อมกับมองผมตาปริบๆ"หึ ติดใจคว_ฉันล่ะสิ" ผมเค้นหัวเราะออกมาจากในลำคอกับคำขอของเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมกับพลิกตัวเธอลงกลับมานอนราบบนที่นอนเหมือนเดิมพร้อมจับขาเธอให้อ้าอีกรอบและจับท่อนเอ็นร้อนที่ตอนนี้กลับมาแข็งอีกครั้งไปจ่อกับรูสวาทของเธอก่อนจะอัดเข้าไปอย่างสุดลำส๊วบ!"ซี้ดดด~ ทำไมยังแน่นอยู่วะ" ผมเอ่ยด้วยเสียงกระเส่าเมื่อภายในโพรงสวาทของเธอมันยังคงตอดรัดแก่นกายของผมแน่นเหมือนกับครั้งแรกที่เสียบไปก่อนที่จะเริ่มขยับสะโพกและเริ่มบรรเลงบทรักอีกครั้งและอีกครั้งจนรุ่งสาง"อ้ะๆๆ ดราก้อน"ตับ ตับ ตับ"อ่าา โมเน่"Dragon EndMonet Part- เช้าวันรุ่งขึ้น -"โอ้ย ปวด
ติ๊งต๊อง~"มาแล้วๆ " ร่างบางของโมเน่รีบเดินไปเปิดประตูและเอ่ยขึ้นทีเมื่อได้ยินเสียงกริ่ง"ยา แล้วเล่ามาให้ละเอียดเดียวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น" ทันทีที่โมเน่เปิดประตูห้องเวนิสก็เอ่ยขึ้นและเดินตรงไปนั่งที่โซฟาหรูกลางห้องพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคาดคั้น"เออ คือว่า.." โมเน่ที่รับยามาก็เดินตามมานั่งตรงข้ามกับเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"โอ้ย มึงไม่ต้องมาอ้ำๆ อึ้งๆ เล่ามาเร็วๆ ""เมื่อวานกูตั้งใจจะไปเซอร์ไพร์ไนท์หลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จแต่กูไปเจอมันนอกใจกู กูเลยลากพวกมันมาตบแล้วบอกเลิกแล้วทีนี้ที่กูชวนมึงไปเที่ยวแล้วมึงไม่ว่างกูเลยไปคนเดียวแต่ว่าเมามากไปหน่อย... " หลังจากที่โดนเวนิสคาดคั้นโมเน่ก็เลยตัดสินใจเล่าทั้งหมดในคราวเดียวด้วยความไวแสงจนแทบไม่เว้นจังหวะหายใจ"มึงก็เลยไปมีอะไรกับคนที่ไม่รู้จัก? " เวนิสหลังจากฟังจบก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตกใจและรู้สึกผิดในคราวเดียวกันที่ปล่อยให้เพื่อนไปคนเดียวเมื่อคืน"ใช่ และที่แย่ไปกว่านั้นกูขอซื้อเขากินด้วยอะมึง" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าโอดครวญ"อีโมเน่!! โอ้ยกูปวดหัวรีบๆ แดกยาเข้าไปก่อนเลย" เวนิสเอ่ยขึ้นอย่างตกใจยิ่งกว่าเดิม
ณ งานแฟชั่นโชว์เวลา 18.00 น."ยินดีด้วยนะมึง โชว์มึงดีมากเลยได้ A แน่นอน" โมเน่เอ่ยกับเวนิสทันทีเมื่อโชว์จบลงพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้แสนสวยเพื่อเป็นการแสดงความยินดีให้แก่เพื่อนรักของเธอ"ขอบใจนะเพื่อนรัก เดียวกูเคลียร์วิชานี้เสร็จวันศุกร์ไปปาร์ตี้กันไหมกูเลี้ยงเอง" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มดีใจที่งานของเธอจบลงด้วยดีและมีเหล่าอาจารย์ต่างชื่นชมโชว์ของเธอ"ไม่ได้ว่ะ กูต้องกลับไทยแล้วแด๊ดดี๊เรียกให้กลับด่วน" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเสียดาย"ทำไมรีบกลับจัง มีปัญหาไรรึป่าว""แด๊ดดี๊บอกสาขาที่ฝรั่งเศสมีปัญหาเลยจะรีบไปดู""น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรมึงเดียวค่อยเจอกันที่ไทยกูก็จะกลับสิ้นเดือนนี้""กรี๊ด จริงหรอ" โมเน่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดขีดโมเน่เองกลับไปก็กลัวเหงาเช่นกันเพราะนอกจากเวนิสที่เป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อนุบาลเธอก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนด้วยนิสัยเอาแต่ใจไม่ยอมใครของพวกเธอและไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคบกันมาแค่สองคนมาตลอด"จริงสิยะ""งั้นคืนนี้เราไปดินเนอร์กันเบาๆ เพื่อเป็นการฉลองที่เราสองคนจบแล้วดีไหม""ได้ มึงเลือกร้านเลยเดียวกูเคลียร์สถานที่คืนเขาก่อน" เวนิสเอ่ยพร้อมทั้งหันไปม
Monet Partหลังจากที่ฉันกินข้าวเย็นเสร็จก็ขอตัวขึ้นมาบนห้องทันทีเพราะรู้เหมือนเพลียและรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจากการเดินทาง"ดราก้อนงั้นหรอ""คงไม่ใช่หรอกมั้ง" ฉันที่ล้มตัวบนที่นอนเอ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดโทรไปหายัยเวนิส(ว่าไงยะถึงแล้วหรอ)"ถึงได้สักพักแล้ว มึงงงง" (เป็นไรทำไมทำเสียงอย่างงั้นยะ)"เมื่อกี้แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊กูให้งานแรกกูทำคือดีลกับบริษัท GR แล้วคนที่กูต้องไปดิวด้วยคือผู้บริหารบริษัทที่ชื่อมิสเตอร์ดราก้อน"(แล้วไงต่อยะ)"ก็คนที่กูไปขอซื้อเขากินก็ซื้อดราก้อนมึงว่าจะเป็นคนเดียวกันไหม"(โอ้ย อีนี่ก็คิดมากคนที่มึงไปขอซื้อนั้นเขาเป็นบาร์เทนเดอร์อันนี้เขาเป็นเจ้าของบริษัทเลยนะยะ) "แต่มึงว่าจะไม่บังเอิญไปหน่อยหรอวะ"(แล้วคนชื่อดราก้อนมันมีคนเดียวในโลกรึไงกูไปนอนต่อดีกว่าแค่นี้แหละ)ตู๊ดๆๆ"คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง" ฉันเอ่ยหลังจากยัยเวนิสวางสายไป เเต่ก็จริงอย่างที่ยังเวนิสบอกมันคงไม่บังเอิญโลกกลมขนาดที่บาร์เทนเดอร์จะกลายมาเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่โตขนาดนั้นหรอกMonet End- วันต่อมา -ก๊อกๆ"คุณหนูเสร็จรึยังค่ะคุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ""เสร็จแล้วค่ะ ช้อยบอกหม
หญิงสาวตะโกนเรียกชื่อมาเฟียหนุ่มขึ้นมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างเบิกเมื่อเห็นว่าเขาถูกกระสุนยิงเข้าที่แขนเพื่อที่จะมาช่วยผลักเธอให้พ้นจากกระสุน"ซี๊ด~ " ดราก้อนที่ถูกยิงเข้าที่แขนก็ทำสีหน้าเจ็บเพียงเล็กน้อยเพราะดีว่ากระสุนนี้เพียงแค่เฉี่ยวดีว่าไม่ฝังเข้าที่แขนแต่ก็เป็นรอยเฉี่ยวที่ลึกพอสมควร"ดะ...ดราก้อนเเขนนาย ฮึก" หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนด้วยความกลัวและตกใจพร้อมกับชี้ไปที่แขนข้างขวาของมาเฟียหนุ่มที่ตอนนี้เลือดไหลจนชุ่มแขนเสื้อเชิ้ตของเขา"หลับตาไว้จนกว่าฉันจะบอกให้ลืมตา" ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าและแววตาเป็นโหดเหี้ยวก่อนจะสไลค์ปืนเพื่อเตรียมจะยิงทั้งที่ตอนนี้เขาเหลือกระสุนเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น"อืม" หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมอย่างที่เธอนั้นไม่เคยเห็นมาก่อนหลังจากที่หญิงสาวหลับตาลงดราก้อนก็หันกลับไปทางชายฉกรรจ์ที่นอนอยู่กับพื้นทรายพร้อมกับกำลังเล็งปืนมาทางเขาทั้งที่ตนเองเเทบจะยืนไม่ไหวเพราะเลือดไหลนองออกมาจากขาที่ถูกมาเฟียหนุ่มยิงจนเลอะพื้นทรายสีขาวดราก้อนที่เห็นแบบนั้นได้แต่ก
หญิงสาวกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเธอวิ่งมาเกือบถึงชายหาดหมายจะเจอเหล่าลูกน้องของดราก้อนมาช่วยเหลือเธอแต่เธอก็ต้องผิดหวังพร้อมกับตาเบิกกว้างด้วยความตกใจกลัวทันทีเมื่อเรือที่มาจอดเทียบใกล้ๆ เรือสปีดโบ๊ทของดราก้อนเป็นเรือของชายฉกรรจ์ที่ไล่ยิงเธอเเละดราก้อนเมื่อเช้าและพวกเขากำลังเล็งปืนมาที่เธอโมเน่หลับตาปี๋เมื่อคิดว่าเธอคงไม่รอดแล้วแน่ๆ พร้อมกับได้ยินเสียงปืนที่ลั่นผ่านเธอไปแต่เธอกับไม่รู้สึกเจ็บอะไรพร้อมกับเสียงของมาเฟียหนุ่มดังขึ้น"ฉันบอกแล้วใช่ไหมไม่ให้ไปไหน! " ดราก้อนตวาดลั่นพร้อมกับรีบวิ่งมาดึงเธอไปหลบหลังเขาหญิงสาวที่หลบอยู่หลังมาเฟียหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มพร้อมกับมองไปยังเรือของอีกฝ่ายก็เห็นว่าคนที่เล็งจะยิงเธอเมื่อกี้ตอนนี้ถูกดราก้อนยิงตกทะเลไปแล้ว"มึงฆ่าลูกพี่แล้วก็เพื่อนกู กูไม่ปล่อยไว้แน่!! " ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่เหลือรอดอยู่เอ่ยขึ้นเสียงดังลั่นด้วยใบหน้าเครียดเเค้นพร้อมกับเล็งปืนมาที่เขา"เดียวฉันนับหนึ่งถึงสามเธอวิ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้เข้าใจไหม""แล้วนายล่ะ""ไม่ต้องถามมากฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำ! " ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมกับเล็งปืนไปที่เ
"ที่นี่เกาะอะไร" ร่างบางที่เดินตามหลังมาเฟียหนุ่มเข้าไปในเกาะเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะเมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอไม่เห็นเรือหรือแม้แต่ผู้คนอาศัยอยู่เลย"ไม่รู้ แต่น่าจะเป็นเกาะที่ไม่มีเจ้าของ" ดราก้อนเอ่ยขณะที่เขาเเละเธอเดินลึกเข้าไปเพื่อที่จะหาที่หลบภัย"พวกมันจะตามเรามาไหม" โมเน่เอ่ยถามมาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นกังวลและหวาดกลัว"ตาม" "นี่ ฉันยังไม่อยากตายนะ! " หลังจากสิ้นคำตอบของดราก้อนร่างบางก็รีบตวาดออกมาทันทีพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างหวาดกลัวว่าพวกนั้นจะตามมาเจอ"เธออยู่กับฉันไม่ตายหรอก""มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วฉันยังสาวยังสวยอยู่จะไม่ยอมตายเด็ดขาดและถ้าฉันตายฉันจะมาหักคอนายคนแรก! ""ผีฉันก็ขมขืน""ไอทุเรศ แล้วพวกลูกน้องนายจะมารับตอนไหน""ไม่รู้ที่นี้ไม่มีสัญญานโทรศัพท์" ดราก้อนเอ่ยขึ้นตามความจริงเพราะตั้งแต่ลงเรือมาเขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลายต่อหลายครั้งก็ไม่มีคลื่นสัญญาขึ้นมาเลยสักขีดเดียว"หมายความว่าไง นี่ฉันต้องอยู่ที่เกาะนี่ถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้จนกว่าลูกน้องนายจะหาเจอทั้งๆ ที่มีคนจะไล่ฆ่าเราน่ะหรอ! " โมเน่ตวาดขึ้นเสียงดัง"ใช่" ดราก้อนเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งก่อนจะหย
- 20 นาทีต่อมา -"อรุณสวัสดิ์ครับนาย" เสียงทักทายยามรุ่งสางของเหล่าบรรดาลูกน้องที่เริ่มตื่นมาเริ่มงานกันอีกครั้งเอ่ยทักทายดราก้อนที่พึ่งเดินออกมาจากโกดังพร้อมกับหญิงสาว"เตรียมสปีดโบ๊ทไว้ให้กูแล้วใช่ไหม" มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นมาตินและเฟรดเดินมา"ครับ นายจะให้ผมขับไปให้ไหมคับ" มาตินเอ่ยพร้อมกับยื่นกุญแจเรือสปีดโบ๊ทให้กับผู้เป็นนาย"ไม่ต้อง" มาเฟียหนุ่มเอ่ยก่อนจะเดินนำโมเน่ไปยังเรือสปีดโบ๊ทที่จอดรอเขาไว้อยู่ที่ชายฝั่ง- บนเรือสปีทโบ๊ท -"แค่จะดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องออกมาไกลขนาดนี้เลยหรอ? " โมเน่เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าดราก้อนขับเรือออกมาค่อนข้างที่จะไกลจากชายฝั่งอย่างรู้สึกสงสัยและหวั่นๆ ใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"จุดนี้เป็นจุดที่สวยที่สุดแล้ว" ดราก้อนที่ขับเรือสปีดโบ๊ทมาถึงยังจุดที่เขาต้องการก็ทำการดับเครื่องพร้อมกับเอ่ยขึ้นและเป็นจังหวะเดียวกันกับพระอาทิตย์ที่กำลังโผลขึ้นมาจากขอบฟ้า"สวยจังเลย" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นอย่างหลงไหลจนลืมเรื่องที่เธอเป็นกังวนในใจไปจนหมดสิ้น"ชอบไหม" ดราก้อนที่มองร่างบางอยู่ด้วยสายตาอ่อนโยนก็เอ่
"วิวตรงนี้สวยจัง" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงระเบียงชั้น 2 ของโกดังและทอดสายตามองไปที่ทะเลอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาตรงหน้า"นั้นสิ สวยจัง" เวนิสที่มองท้องทะเลยามค่ำคืนกับเพื่อนรักของตนเอ่ย"มึงยังไม่ได้บอกกูเลยนะว่ามึงไปอยู่กับเอเทรนได้ยังไง" โมเน่เอ่ยพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ม้าหินอ่อนที่ตั้งไว้ที่ระเบียงพร้อมทั้งจ้องมาที่เวนิสอย่างต้องการคำตอบ"เรื่องมันยาว" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มลงต่ำด้วยแววตาเศร้าที่สั่นไหว"เล่ามากูพร้อมรับฟัง" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งจับมือเพื่อนรักของตนมากำไว้อย่างให้กำลังใจ"คือว่า....." เวนิสเงยหน้ามองเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างหลากหลายความรู้สึกก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้โมเน่ฟัง"เหี้ยมาก แล้วตอนนี้อีเเม่เลี้ยงมึงอยู่ไหนกูจะไปจัดการมันเอง" หลังจากที่โมเน่ได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เวนิสเอ่ยเล่าให้ฟังก็รู้สึกโกรธแค้นแทนเพื่อนทันทีและรู้สึกเสียใจไปในคราวเดียวกันที่เธอเองไม่สามารถช่วยอะไรได้"ไม่ต้องถึงมือมึงหรอกกูรอคิดบัญชีกับมันอยู่แค่หาจังหวะ" เวนิสเอ่ยขึ้นด้วยแววตาเครียดแค้น"แล้วมึงอยู่กับเอเทรนมันดูแลมึงดีไหม""ก็ดี หรือกูเริ่มปรับตัวได้ก
"ไม่ได้หรอกครับ นายหญิงเป็นผู้หญิงของนายเรียกนายหญิงถูกแล้วครับ" ลูกน้องคนเดิมเอ่ยขึ้นเพราะว่าถ้าเธอผู้หญิงของนายเขายังไงก็ต้องเรียกว่านายหญิงเท่านั้น"ช่างมันเถอะจะเรียกอะไรก็เรียก แต่ข้าวกล่องมันจะพอไปมีแรงทำงานอะไร" โมเน่กรอกตาไปมาอย่างไม่อย่างไม่อยากสนใจกับสรรพนามที่ลูกน้องของดราก้อนเรียกตนก่อนจะเอ่ยต่อพร้อมกับกวักมือเรียกเฟรดที่ยืนอยู่กับดราก้อนให้มาหาเธอ"เฟรดมานี้หน่อย""ครับ" เฟรดที่พึ่งเดินมาถึงเธอเอ่ย"เดียวนายสั่งกุ้งลอฟเตอร์มา 100 ตัวนะ"" 100 ตัว? " เฟรดเอ่ยทวนอีกครั้งด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจกับจำนวน"ใช่ แล้วก็ข้าวผัดปูด้วยที่นี้มีกี่คน" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองไปรอบๆ โกดังที่ตอนนี้มีเหล่าลูกน้องมากมายทำงานกันอยู่อย่างไม่มีใครได้หยุดพัก"ประมาณ 250 คน ครับ" "งั้นข้าวผัดปู 300 กล่อง ปลาหมึกย่าง 50 โล ปลาเผา 200 ตัว ปูม้านึ่งด้วย""สั่งมาให้คนกินหรอครับ? ""ฉันคงสั่งมาเลี้ยงผีเจ้าที่มั้ง นี้พวกนายจะกินไรไหมเดียวฉันเลี้ยงเอง" โมเน่เอ่ยเหวี่ยงใส่เฟรดอย่างหงุดหงิดกับสิ่งที่เขาถามเชิงแขวะเธอก่อนจะหันไปเอ่ยถามเอลิค เฟยหลงและแดเนียลที่ยังคงทำงานกันอยู่เช่นกัน"หึ ไม่ใช่ใช้เงินเพื
"ไง สาวน้อยมานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียว" แดเนียลที่พึ่งเดินมาจากการตรวจงานอีกด้านของโกดังเสร็จก็เอ่ยทักหญิงสาวที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟารับแขกของโกดัง"ตอนแรกมีเฟรดด้วยแต่ฉันใช้ไปซื้อชานมไข่มุก" หญิงสาวเอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเพราะสายตาของเธอยังคงจดจ่อกับเกมส์ในโทรศัพท์ของตนเองอยู่"ฮ่าๆ เธอนี้ใจกล้าไม่เบาเลยนะใช้มือซ้ายคนสนิทของเพื่อนฉันไปซื้อชานมไข่มุก" แดเนียลที่ได้ยินที่หญิงสาวเอ่ยก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันทีก่อนจะเอ่ยต่อ"แล้วมันแปลกตรงไหนคะหรือว่าใช้ไม่ได้? " โมเน่ที่เห็นว่าแดเนียลกำลังหัวเราะกับคำสั่งที่เอใช้เฟรดก็ขมวดคิ้วพร้อมกับเงยหน้ามองชายหนุ่มพร้อมกับเอ่ยขึ้น"ป่าวหรอก ไม่ใช่ใช้ไม่ได้แต่ฉันแค่ไม่เคยเห็นใครใช้ไอเฟรดไปทำอะไรแบบนั้นมาก่อน""งั้นตอนนี้ก็เห็นแล้วนะคะ" "เธอนี้ฝีปากใช้ได้ แต่ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงของดราก้อนหรือว่าที่นายหญิงใหญ่ของตระกูลมันก็ควรระวังคำพูดไว้บ้าง" แดเนียลเอ่ยกับหญิงสาวเสียงเรียบอย่างต้องการจะตักเตือนเธอเพราะแค่เขาเจอเธอแค่ไม่กี่ครั้งก็พอจะเดาได้ว่าเธอคงแสบใช่ย่อยจากวีรกรรมต่างๆ ที่เธอทำกับเพื่อนรักของเขา"ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของเขาหรือนายหญิงอะ
"กำหนดมันวันเสาร์ไม่ใช่หรอ? " หลังจากที่มาตินเอ่ยจบมาเฟียหนุ่มก็เงยหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นทันที"คุณเฟยหลงบอกว่ามีสายบอกตำรวจมันรู้แล้วว่าเสาร์นี้เลยจะเลื่อนเวลาส่งของให้ไวขึ้นครับ""อืม แล้วตอนนี้พวกมันไปที่ท่าเรือกันรึยัง""คุณเฟยหลงอยู่ท่าเรือที่สตูลกับคุณเอลิคแล้วครับส่วนคนอื่นๆ กำลังตามไป""บอกพวกมันว่าเดียวกูตามไป""ครับ" หลังจากที่รับคำสั่งจากผู้เป็นนายเสร็จมาตินก็รีบออกไปทันทีพร้อมกับดราก้อนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายไปยังเบอร์ของหญิงสาว( ฮะโหล )"งานเธอยังเหลืออีกเยอะไหม"( ไม่ฉันมีแค่เซ็นเอกสารแทนแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊มีอะไรรึป่าว ) โมเน่เอ่ยถามด้วยความสงสัย"เดียวฉันไปรับ"หลังจากที่เขาเอ่ยจบก็กดตัดสายทันทีโดยไม่ฟังคำตอบของคนปลายสายพร้อมกับเก็บงานทุกอย่างและลุกออกไปจากห้องทำงานทันทีอย่างรีบร้อน- บนรถ -"นี่นายจะพาฉันไปไหน" เสียงของหญิงสาวที่มาเฟียหนุ่มพึ่งไปรับมาจากโรงแรมของเธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปข้างทางที่ตอนนี้รถตู้คันหรูกำลังแล่นอยู่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าปกติ"เดียวถึงก็รู้เอง" ดราก้อนเอ่ยพร้อมทั้งเช็คงานที่เขาต้องทำให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ผ่านทางไอแพด"นายคงไม่ได้พาฉันไปฆ่า
- เช้าวันต่อมา -"อื้อ~ " ร่างบางงัวเงียตื่นขึ้นมาในยามเช้าของวันใหม่ก็บิดขี้เกียจไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาพร้อมกับค่อยๆ ลืมตาและมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้จะแปดโมงแล้วก่อนจะรีบดีดตัวขึ้นมามองดูรอบๆ ห้องก็พบกับความว่างเปล่า"ไปทำงานแล้วหรอ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อไม่เห็นว่ามีเหงาของร่างสูงอยู่ภายในห้องก่อนจะเดินลงมาจากเตียงเพื่อตรงไปยังห้องน้ำด้วยสภาพเปลือยเปล่าหลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จได้ไม่นานร่างบางก็รีบแต่งตัวแต่งหน้าและเดินลงบันไดมาอย่างรีบร้อนเพราะว่าวันนี้พ่อและแม่ของเธอไลน์มาบอกว่าต้องไปดูงานที่ญี่ปุ่นด่วนให้เข้าไปเซ็นเอกสารตอนเช้าแทนให้"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณโมเน่" มะลิที่เห็นโมเน่รีบร้อนเดินลงบันไดมาก็เอ่ยขึ้น"ดราก้อนไปทำงานแล้วหรอ" หญิงสาวเอ่ยถามถึงมาเฟียหนุ่มเมื่อเธอชะโงกหน้าที่ดูที่ห้องอาหารแล้วไม่เห็นว่ามีเขานั่งอยู่"ยังค่ะพึ่งทานข้าวเช้าเสร็จตอนนี้ไปรอคุณโมเน่ที่รถ" "รอฉัน? " โมเน่เอ่ยด้วยสีหน้ามึนงงพร้อมกับใช้นิ้วชี้ที่หน้าตัวเองว่าเขาจะรอเธอทำไม"ใช่ค่ะ คุณโมเน่จะรับอะไรเช้านี้ดีคะ" "เอาแค่แซนวิชพอฉันจะเอาไปกินบนรถ" "ได้ค่ะ"หลังจากที่หญิงสาวเอ่ยจบก็ไปนั่งเล่นโทรศัพท์รอสาวใช้ไปนำอ