"วันนี้จะดีหรอคะ?" โนวาทวนคำถามกับฮิวทำหน้าที่พี่เลี้ยงตามที่แม่บุญธรรมสั่งมา ร่างบางในชุดสูทประโปรงสั้นสีนู้ด ทานนมจืดบนโต๊ะอาหาร หลังได้รับสายคำสั่งให้เข้าดูงานบริษัทเครื่องยนต์รถวันนี้
"ดีสิครับคุณหนู นายหญิงรออยู่ที่บริษัทแล้วครับ" ฮิวย้ำตอบ ยืนอยู่ด้านข้างเก้าอี้ ไล่ทำสร้างกิจวัตรประจำของคุณหนูในไอแพดเครื่องใหญ่
"แม่ฉันน่าจะรู้นะว่าเลือกคนผิด" สกายในชุดสูทสีดำเนียบเดินก้าวขายาวนั่งลงตรงหัวโต๊ะอาหาร มีป้าแหวนกับลูกมือถือถาดอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม
"วาแค่กลัวจะทำพ่อแม่เสียหน้าต่างหาก" เธอเอ่ยบอกตามความจริง เงยหน้ามองใบหน้าหนาชั่วครู่ ก้มลงกัดแซนวิชในมือต่อ
"แสดงว่าที่ผ่านมาไม่มีสมองในหัวเลยสิ" มาเฟียหนุ่มไล่สายตามองทางอื่น เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรตัวเธออยู่แล้ว เพียงเพราะวันนี้มีประชุมใหญ่ อย่างเลี่ยงไม่ได้
"มีค่ะ วาก็เป็นคน เผื่อพี่สกายลืม" โนวาเถียงกลับยอกย้อน ในเมื่อถูกสอนให้ไม่กลัวคน หนึ่งในนั้นก็ควรมีเขารวมด้วย
"จำไว้ว่าพ่อแม่ฉันสั่งสอนให้สืบทอดบริษัทต่อเผื่อลืม!" มือหนากระแทกแก้วน้ำในมือวางเสียงดัง ทำลูกน้องสะดุ้งตามกัน สายตาเข้มจ้องเด็กน้อยที่กล้าเถียงผู้ใหญ่
"ขอบคุณค่ะที่เตือนสติ" จะฝืนกินต่อไปคงไม่อร่อย โนวาลุกขึ้นก้มหัวขออนุญาตออกไปก่อน โดยมีฮิวเดินตามประตูเบาะหลัง และเป็นคนขับรถให้
"วาทำบาปไว้เยอะหรอพี่ฮิว" น้ำเสียงหวานปนความโมโห หากไม่ติดว่าแม่มีบุญกับเธอมากขนาดไหน คงไม่ต้องมาทนอยู่กับคนแบบนี้
"งานบุญต้องเข้าแล้วครับ" ฮิวพูดออกตลกเพื่อให้คุณหนูของเขาไม่เครียดก่อน ที่จะเจอเรื่องกดดันภายในบริษัท เงยหน้ามองตอบผ่านกระจกหลังเท่านั้น
"เฮ้อ!"
บริษัทสหธิฤดีการยนต์....
"แม่จะให้เอทินสอนงานในบริษัทนะ" สิรินภาโอบไหล่ลูกสาวไว้ เอ่ยบอกภายในห้องทำงานของประธานให้รับรู้
"พึ่งรู้ว่าตำแหน่งรองประธานไม่ใช้ผู้ช่วย" สกายพูดขึ้น เหลือบสายตามองใบหน้าแม่ ไม่มีความหมายผ่านสายตาคู่นั้น
"งั้นเอาอย่างนี้ โนวาไปเรียนรู้งานในห้องพี่ดีไหม จะได้เก่งแบบพี่ด้วย" อาจเพราะสกายต้องรับหน้าที่ดูแลแทนเธอกับสามี ย่อมมีความเก่งกว่าใครในบริษัททั้งสิ้นอยู่แล้ว
"หนูจะไม่โดนกินหัวหรอคะ" โนวาหันไปกระซิบเข้าหูสิรินภา ทำเธอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ทว่าน้ำเสียงหวานทำคนภายในห้องได้ยินเช่นกัน
"ในหัวไม่มีสมองจะเอาไว้ทำไม" สกายพูดถากถาง ตีสีหน้านิ่ง เขาเองไม่ชอบให้คนอ่านความรู้สึกจากสีหน้า มือสองข้างเท้าเอวหนาไว้ มันช่างเสียเวลาและน่ารำคาญเวลาเดียวกัน
"ดูเหมือนคุณหนูจะซ้อมตกนรกเลยเนอะพี่เอทิน" ฮิวหันไปกระซิบใกล้หูรุ่นพี่ ยืนรอหน้าห้องรอคอยเจ้านาย เอทินเองเห็นโนวามาตั้งแต่เล็กๆ จนบัดนี้กลายเป็นเจ้านายซะแล้ว
"กูสิเหมือนอยู่กลางนรก ก้าวทางไหนมีแต่ตายกับตาย" เอทินส่ายหน้าราวกับเห็นภาพตามคำพูด
แอร๊ด!!!
"พึ่งรู้ว่าผู้บริหารไม่มีมารยาท" สกายเอ่ยปากคล้ายคำด่าด้วยซ้ำ วางปากกาในมือลง จ้องมองหาคำตอบนัยน์ตาน้องชายเจ้าเล่ห์
"นึกว่าพี่ไม่อยู่ซะอีก" กาว์นเดินมาพิงตัวตรงโต๊ะทำงานของโนวา อันที่จริงโต๊ะนี้ถูกวางไว้ในห้องของสิรินภาเอง หากจะแยกตัวเอทินมาคงทำให้สกายไม่พอใจ พาลไม่เข้าประชุมอีก
"สนใจเรื่องงาน?" น้ำเสียงเข้มเยือกเย็นถามตอกย้ำ หากไม่โดนตามตัวน้องชายตัวดีแทบจะไม่มาเหยียบที่นี่สักครั้ง เขาไล่ปรายตามองหญิงสาวพึ่งฉีกยิ้มหวานออกตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้
"ป่าวแต่จะมาดูพนักงานคนใหม่" นิสัยกึ่งล้อกึ่งเล่นตอบ ก้มลงมองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะที่โนวาอ่านอยู่ การกระทำทั้งคู่อยู่ในสายตาเข้ม
"ยังไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะพี่กาว์น" หากหวังดีเกี่ยวกับเรื่องบริษัทก็ควรไม่ตั้งข้อครหากันเอง เธอควรจะให้เกียรติพี่ชาย ในเมื่อเขาดูหวังดี มือเรียวกำปากกาชี้ตรงข้อเจรจาที่เอทินพึ่งสอนไป
"เหมือนเรื่องที่บ่อนยังเคลียร์ไม่จบนะ" สกายยังลดสายตามอง หากน้องชายยังทำเรื่องไร้สาระอยู่ คงต้องเอ่ยเรื่องงานเพื่อเตือนสติ คำพูดของเขาทำกาว์นหยุดชะงัก น้อยครั้งจะถูกตักเตือน
"อ้อลืมเลย ไว้พี่จะแวะมาสอนแล้วกัน" กาว์นเงยหน้าลูบหัวเล็ก ยืนลำตัวตรงมองหน้าพี่ชาย ก่อนเดินออกจากห้องรองประธาน
"อ่อยเก่งสินะ" ใบหน้าก้มลงส่ายไปมา จดจ่อกับเอกสารการประชุมในวันนี้ ขีดเส้นลายมือลงประจำตำแหน่ง โนวาไม่ได้โต้ตอบ เพียงเอ่ยบอกกับเอทินว่าจะไปเดินพักสายตาชั่วครู่
"ปากว่างไปด้วยสินะ" โนวาเร่งเท้าเล็กโซนห้องอาหารของชั้น หยิบช้อนตักกาแฟใส่แก้วหลายรอบตามอารมณ์ขุ่นมัว
"พอเถอะครับคุณหนู มีหวังคุณสกายได้พ่นไฟในห้องแน่" หลังเห็นคุณหนูออกจากห้อง ฮิวก็เดินตามบอกเตือนสติ แต่ความดื้อดึงไม่อาจหยุดได้ ถือแก้วกาแฟสีเข้มเข้าห้องไป เขาทำได้เพียงส่ายหน้าเท่านั้น
"วาชงกาแฟมาเผื่อค่ะ"
"ฉันไม่ได้ขอ กินเองสิ" สกายวางปากกาลงบนกองเอกสารหันมาจ้องกดดันให้เธอดื่ม จะมาทำดีในตอนนี้ไม่แปลกหน่อยหรอ ดูเหมือนเธอจะอ่อนหัดในเรื่องนี้
"โนวาแพ้กาแฟ" น้ำเสียงหวานตอบอ่อนลง เพราะมันคือเรื่องจริง การเข้าบริษัทกับพ่อแม่ในต่างประเทศทำเธอต้องเผลอชิมแล้วเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ
"ฉันไม่ได้ถาม"
..........................................
ย้อนเหตุการณ์......ในยามค่ำคืนมืดมิด เม็ดฝนโหมกระหน่ำ แรงพายุพัดพาสิ่งของปลิวว่อนไร้น้ำหนัก จนมองไม่เห็นท้องถนนเอี๊ยด!!!!"คุณธนัท!" เสียงสิรินภากรี๊ดร้อง ทันทีที่รถหรูจอดหลังเสียหลักพุ่งชนฟุตบาทข้างทาง ถนนลื่นไร้การมองเห็น แขนเรียวโอบกอดเด็กชายสองคนแน่น หลังเบาะคนขับ เธอรีบเอื้อมมือไปสะกิดเรียกสติสามี ดวงตากลมเฉียวเห็นหัวของเขาถูกกระแทกเข้าพวงมาลัย"ผมไม่เป็นอะไร เดี๋ยวให้ไอปิติมาขับต่อ" ร่างกายกำยำเปิดประตูลงรถ ขวักมือเรียกบอดี้การ์ดจากคันหลัง ลงเข้ามานั่งแทนที่คนขับ"สกายกับกาว์นลูกแม่ เจ็บตรงไหนไหม" สิรินภาถามลูกชายวัยสิบขวบกับเจ็ดขวบ น้ำตาเอ่อล้นอาบแก้มเนียนเร่งปาดออก ตกใจเสียขวัญจากเหตุการณ์เมื่อกี้"ไม่ครับ""ตรงนั้นมีเด็ก" นิ้วมือเล็กของสกายชี้ไป ตรงข้ามกับเลนรถของเขา มีรถเก๋งสองคันชนคว่ำจอดอยู่ คล้ายสะเก็ดไฟกำลังเริ่มลุก เด็กหญิงตัวน้อยร้องไม่หยุด อยากคลานออกรถแต่ขาติดอยู่"นั่นเด็กนี่คะคุณธนัท สกายรอแม่ในรถนะครับ" เธอจับลูกสองคนนั่งลงบนเบาะเอนตัวลงจากรถ สามีกับบอดี้การ์ดรีบวิ่งตามกลัวจะถูกรถที่มาตามเชียวชน สิรินภาคว้าดึงตัวเด็กหญิง ธนัทช่วยอีกแรงเป็นจังหวะพอดี ที่ไฟลุกเหิม
เหตุการณ์ปัจจุบัน......."แม่ว่าถึงเวลาแล้วนะ ที่โนวาต้องกลับไปเรียนที่ประเทศบ้านเกิดเรา" สิรินภาเอ่ยบอกกับโนวา เธอเคยบอกเรื่องสถานะบุตรบุญธรรมให้ได้รู้ เธอตั้งใจเลี้ยงดูแลมาถนอมอย่างดี ปานที่แม่คนนึงจะทำได้ โนวาเองยอมรับและเข้าใจ ไม่เคยคิดน้อยต่อเรื่องพวกนี้บัดนี้เธอและสามีค่อนข้างมีอายุมากขึ้น หน้าที่การงานควรจะหาคนมาสืบสานต่อ แม้ลูกชายสองคนจะทำได้ดีอยู่แล้ว เวลานี้ผ่านมาสิบกว่าปี เธอกำลังจะเรียนปริญญาโทต่อเอกบริหารตามที่สิรินภาขอไว้"แล้วพี่สกายกับกาว์นจะเลิกไม่ชอบโนวาแล้วหรอคะ" เธอถามอย่างใสซื่อ ทุกครั้งที่กลับเมืองไทย หรือสองพี่ชายหนุ่มแวะเรื่องธุรกิจถึงฝรั่งเศส โนวาไม่เคยอยู่ในสายตา กับโดนเหยียดหยาม บางครั้งกลั่นแกล้งด้วยซ้ำไป"ป่านนี้พี่เขาเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว หนูเป็นน้องยังไงซะพวกพี่เขาต้องเอ็นดูน้องตัวเองแน่นอนจ๊ะ" แม่บุญธรรมค่อยๆพูดจาหว่านล้อม ถึงใจจะรู้ดีว่าอาจจะมีปัญหาตามมา แต่คงน้อยนัก"ใช่ว่าพ่อแม่จะไม่กลับไปซะเมื่อไหร่ละโนวา" ธนัทเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมอง เธอสมควรที่จะรับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในบริษัท เพราะพวกเขาสั่งสอนเรื่องพวกนี้มาไม่เคยขาด"โนวาแล้วแต่พ่อกับแม่ค่ะ"
คฤหาสน์สหธิฤดีนายหญิงและเจ้านายชายเดินมาด้วยรูปลักษณ์สง่างามรัศมีแผ่กระจาย เหล่าบอดี้การ์ดพร้อมเพียงต้อนรับอย่างรู้งาน โนวาก้าวขาเข้าอย่างช้าๆ นานมากแล้วที่เธอไม่ค่อยมาเหยียบที่นี่ เพียงเพราะกลัวสองพี่ชายใจอมหิต ไม่เคยต้อนรับเธอ"สกายกับกาว์นล่ะ" สิรินภาคล้องแขนเรียวลูกสาวบุญธรรม เกินไปนั่งลงบนโซฟา ตามด้วยสามีนั่งลงข้างกัน แหวนป้าแม่บ้านถือถาดน้ำเสิร์ฟวางบนโต๊ะ"คุณทั้งสองกำลังจะกลับแล้วค่ะ" แหวนก้มหน้าตอบอย่างเสงี่ยม เธออยู่ดูแลมาตั้งแต่นายหญิงเพิ่งจะแต่งงานกัน ช่วยดูแลคุณหนูชายทั้งสองมาตลอด"พาคุณหนูเอาของไปเก็บที่ห้องด้วยนะแหวน" นายหญิงเอ่ยสั่ง หันมายิ้มให้โนวาเคยชิน"แม่กับพ่อต้องไปธุระอีกที่นึง เดี๋ยวจะกลับมานะลูก" เธอสวมกระชับกอด เรียกสามีลุกตามกันไป ทิ้งโนวาไว้กับแหวน"ป้าแหวนพาโนวาขึ้นข้างบนเถอะ นั่งเครื่องมานอนไม่หลับเลยค่ะ" หญิงสาวตั้งใจพูดอย่างเป็นกันเอง ครั้นแม่และพ่อออกไป เธอสวมกอดป้าแหวนอย่างคิดถึง ออดอ้อนราวกับเด็กทุกครั้งมาที่นี่"เบาๆค่ะคุณหนูป้าแก่แล้วหายใจไม่ทัน" อายุกำลังมากขึ้น จะเล่นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างไร ป้าแหวนพาขึ้นบรรไดใหญ่กลางใจบ้าน ห้องนอนชั้นสอง
เช้าวันใหม่....หญิงสาวในชุดนักศึกษาย่องเท้าเล็กเข้าห้องครัวเงียบ วันนี้เป็นวันแรกที่เธอต้องรายงานตัวในฐานะนักศึกษาปริญญาโท หากไปช้าจะเป็นที่จับตามอง"คุณหนูมาแอบทำไรในนี้คะ" ป้าแหวนเร่งเข้ามา หลังแม่บ้านอีกคนไปกระซิบบอก "หนูอยากทานแค่นมจืดแก้วเดียวเองค่ะ" เธอแสร้งทำหน้าเศร้าอย่างเด็กอดได้ของเล่น เบะปากเรียวล้อเลียน"โถ่คุณหนู เดี๋ยวเสื้อผ้าเลอะเทอะหมดค่ะ ไปๆป้าแหวนจะพาไปนั่ง" ป้าแหวนโอบเอวบาง พานั่งบนโต๊ะอาหารใหญ่ สัดส่วนรูปร่างรวมถึงผิวพรรณถูกดูแลมาเป็นอย่างดีทุกระเบียบนิ้ว ทำผู้มาเยือนใหม่ยืนตาค้าง"น้องโนวา" สายตาเข้มฉายแววเจ้าเล่ห์ตามนิสัยเจ้าชู้เรื่องสตรี ขึงตามองร่างบางคล้ายโดนดึงดูด ยกยิ้มมุมปากกว้าง ป้าแหวนละตัวออก ไม่รับฟังเจ้านายพูดคุยกัน"เอ่อ..สวัสดีค่ะพี่กาว์น" มือเรียวพนมยกขึ้นไหว้ ช่วงเหตุการณ์ในวัยเด็กย้อนเข้าหัว อย่างน้อยกาว์นยังพอทำดีกับเธอบ้าง อาจจะเพียงน้อยนิดก็ตาม"จะไปมหาลัยพี่ไปส่งไหม" ชุดเสื้อเชิ้ตสีดำยับยู้ยี่ สภาพอดนอนคงอาจจะพึ่งกลับ ขาดการพักผ่อน แล้วสิรินภาสั่งให้ฮิวเป็นคนช่วยดูแลเธอ คงจะไม่รบกวนคนอื่นให้ยุ่งยากเสียดีกว่า"แม่สั่งพี่ฮิวไว้แล้วค่ะ" น้ำเสีย
เช้าวันใหม่.....เหตุเพราะร่างกายหญิงสาวยังปรับตัวไม่ทัน กับอากาศที่แปรเปลี่ยนจากสถานที่โนวาเคยอยู่มา ร่างบางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ไอร้อนผ่านออกจากลมหายใจกระทบริมฝีปากบาง แทบไม่รู้สึกตัว ปิดตาลงนอนหลับต่อจนเวลาล่วงเลยก๊อก ก๊อก!เสียงเคาะประตูรัว หลังไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนในห้อง ทำใจหญิงช่วงวัยกำลังชราวูบไหว"คุณหนูเป็นอะไรหรือป่าวคะ" ป้าแหวนเปิดประตูเดินเข้าห้องหลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน ครั้นผิดเวลาที่บอกไว้ เห็นโนวานอนห่มผ้าห่อตัวสั่น สีหน้าซีดเซียว"หนูรู้สึกหนาวค่ะ" น้ำเสียงเล็กแหบลง ป้าแหวนเอื้อมมือวัดไข้กับหน้าผากมน ต้องรีบชักมือกลับ อุณหภูมิสูงจัดกลัวเธอจะชักก่อน"ตัวร้อนจี๋เลยค่ะ รอป้าเดี๋ยวนะคะคุณหนู" เจ้านายชายยังไม่มีใครกลับเข้ามาก่อนที่ป้าแหวนจะขึ้นข้างบน จึงนึกถึงคนที่นายหญิงกำชับให้คอยดูแลคุณหนู หากจะพาลงไปเองคงไม่ไหว"ฮิว!!!!" ป้าแหวนตะโกนเสียงดังลั่นเรียกฮิว หวังให้เขาพาเธอไปส่งโรงพยาบาลในตอนนี้"ครับป้าแหวน" ฮิวเร่งวิ่งขึ้นมาชั้นบน สีหน้านิ่งเหมือนกับถูกฝึกเก็บอารมณ์มาอย่างดี"คุณหนูไม่สบายต้องพาไปโรงพยาบาล" ป้าแหวนเอ่ยอย่างร้อนรน พาคนรับฟังใจคอไม่ดี หากละเลยหน้าที่นายกหญ
"วันนี้จะดีหรอคะ?" โนวาทวนคำถามกับฮิวทำหน้าที่พี่เลี้ยงตามที่แม่บุญธรรมสั่งมา ร่างบางในชุดสูทประโปรงสั้นสีนู้ด ทานนมจืดบนโต๊ะอาหาร หลังได้รับสายคำสั่งให้เข้าดูงานบริษัทเครื่องยนต์รถวันนี้"ดีสิครับคุณหนู นายหญิงรออยู่ที่บริษัทแล้วครับ" ฮิวย้ำตอบ ยืนอยู่ด้านข้างเก้าอี้ ไล่ทำสร้างกิจวัตรประจำของคุณหนูในไอแพดเครื่องใหญ่"แม่ฉันน่าจะรู้นะว่าเลือกคนผิด" สกายในชุดสูทสีดำเนียบเดินก้าวขายาวนั่งลงตรงหัวโต๊ะอาหาร มีป้าแหวนกับลูกมือถือถาดอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม"วาแค่กลัวจะทำพ่อแม่เสียหน้าต่างหาก" เธอเอ่ยบอกตามความจริง เงยหน้ามองใบหน้าหนาชั่วครู่ ก้มลงกัดแซนวิชในมือต่อ"แสดงว่าที่ผ่านมาไม่มีสมองในหัวเลยสิ" มาเฟียหนุ่มไล่สายตามองทางอื่น เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรตัวเธออยู่แล้ว เพียงเพราะวันนี้มีประชุมใหญ่ อย่างเลี่ยงไม่ได้"มีค่ะ วาก็เป็นคน เผื่อพี่สกายลืม" โนวาเถียงกลับยอกย้อน ในเมื่อถูกสอนให้ไม่กลัวคน หนึ่งในนั้นก็ควรมีเขารวมด้วย"จำไว้ว่าพ่อแม่ฉันสั่งสอนให้สืบทอดบริษัทต่อเผื่อลืม!" มือหนากระแทกแก้วน้ำในมือวางเสียงดัง ทำลูกน้องสะดุ้งตามกัน สายตาเข้มจ้องเด็กน้อยที่กล้าเถียงผู้ใหญ่"ขอบคุณค่ะที่เตือนสติ"
เช้าวันใหม่.....เหตุเพราะร่างกายหญิงสาวยังปรับตัวไม่ทัน กับอากาศที่แปรเปลี่ยนจากสถานที่โนวาเคยอยู่มา ร่างบางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ไอร้อนผ่านออกจากลมหายใจกระทบริมฝีปากบาง แทบไม่รู้สึกตัว ปิดตาลงนอนหลับต่อจนเวลาล่วงเลยก๊อก ก๊อก!เสียงเคาะประตูรัว หลังไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนในห้อง ทำใจหญิงช่วงวัยกำลังชราวูบไหว"คุณหนูเป็นอะไรหรือป่าวคะ" ป้าแหวนเปิดประตูเดินเข้าห้องหลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน ครั้นผิดเวลาที่บอกไว้ เห็นโนวานอนห่มผ้าห่อตัวสั่น สีหน้าซีดเซียว"หนูรู้สึกหนาวค่ะ" น้ำเสียงเล็กแหบลง ป้าแหวนเอื้อมมือวัดไข้กับหน้าผากมน ต้องรีบชักมือกลับ อุณหภูมิสูงจัดกลัวเธอจะชักก่อน"ตัวร้อนจี๋เลยค่ะ รอป้าเดี๋ยวนะคะคุณหนู" เจ้านายชายยังไม่มีใครกลับเข้ามาก่อนที่ป้าแหวนจะขึ้นข้างบน จึงนึกถึงคนที่นายหญิงกำชับให้คอยดูแลคุณหนู หากจะพาลงไปเองคงไม่ไหว"ฮิว!!!!" ป้าแหวนตะโกนเสียงดังลั่นเรียกฮิว หวังให้เขาพาเธอไปส่งโรงพยาบาลในตอนนี้"ครับป้าแหวน" ฮิวเร่งวิ่งขึ้นมาชั้นบน สีหน้านิ่งเหมือนกับถูกฝึกเก็บอารมณ์มาอย่างดี"คุณหนูไม่สบายต้องพาไปโรงพยาบาล" ป้าแหวนเอ่ยอย่างร้อนรน พาคนรับฟังใจคอไม่ดี หากละเลยหน้าที่นายกหญ
เช้าวันใหม่....หญิงสาวในชุดนักศึกษาย่องเท้าเล็กเข้าห้องครัวเงียบ วันนี้เป็นวันแรกที่เธอต้องรายงานตัวในฐานะนักศึกษาปริญญาโท หากไปช้าจะเป็นที่จับตามอง"คุณหนูมาแอบทำไรในนี้คะ" ป้าแหวนเร่งเข้ามา หลังแม่บ้านอีกคนไปกระซิบบอก "หนูอยากทานแค่นมจืดแก้วเดียวเองค่ะ" เธอแสร้งทำหน้าเศร้าอย่างเด็กอดได้ของเล่น เบะปากเรียวล้อเลียน"โถ่คุณหนู เดี๋ยวเสื้อผ้าเลอะเทอะหมดค่ะ ไปๆป้าแหวนจะพาไปนั่ง" ป้าแหวนโอบเอวบาง พานั่งบนโต๊ะอาหารใหญ่ สัดส่วนรูปร่างรวมถึงผิวพรรณถูกดูแลมาเป็นอย่างดีทุกระเบียบนิ้ว ทำผู้มาเยือนใหม่ยืนตาค้าง"น้องโนวา" สายตาเข้มฉายแววเจ้าเล่ห์ตามนิสัยเจ้าชู้เรื่องสตรี ขึงตามองร่างบางคล้ายโดนดึงดูด ยกยิ้มมุมปากกว้าง ป้าแหวนละตัวออก ไม่รับฟังเจ้านายพูดคุยกัน"เอ่อ..สวัสดีค่ะพี่กาว์น" มือเรียวพนมยกขึ้นไหว้ ช่วงเหตุการณ์ในวัยเด็กย้อนเข้าหัว อย่างน้อยกาว์นยังพอทำดีกับเธอบ้าง อาจจะเพียงน้อยนิดก็ตาม"จะไปมหาลัยพี่ไปส่งไหม" ชุดเสื้อเชิ้ตสีดำยับยู้ยี่ สภาพอดนอนคงอาจจะพึ่งกลับ ขาดการพักผ่อน แล้วสิรินภาสั่งให้ฮิวเป็นคนช่วยดูแลเธอ คงจะไม่รบกวนคนอื่นให้ยุ่งยากเสียดีกว่า"แม่สั่งพี่ฮิวไว้แล้วค่ะ" น้ำเสีย
คฤหาสน์สหธิฤดีนายหญิงและเจ้านายชายเดินมาด้วยรูปลักษณ์สง่างามรัศมีแผ่กระจาย เหล่าบอดี้การ์ดพร้อมเพียงต้อนรับอย่างรู้งาน โนวาก้าวขาเข้าอย่างช้าๆ นานมากแล้วที่เธอไม่ค่อยมาเหยียบที่นี่ เพียงเพราะกลัวสองพี่ชายใจอมหิต ไม่เคยต้อนรับเธอ"สกายกับกาว์นล่ะ" สิรินภาคล้องแขนเรียวลูกสาวบุญธรรม เกินไปนั่งลงบนโซฟา ตามด้วยสามีนั่งลงข้างกัน แหวนป้าแม่บ้านถือถาดน้ำเสิร์ฟวางบนโต๊ะ"คุณทั้งสองกำลังจะกลับแล้วค่ะ" แหวนก้มหน้าตอบอย่างเสงี่ยม เธออยู่ดูแลมาตั้งแต่นายหญิงเพิ่งจะแต่งงานกัน ช่วยดูแลคุณหนูชายทั้งสองมาตลอด"พาคุณหนูเอาของไปเก็บที่ห้องด้วยนะแหวน" นายหญิงเอ่ยสั่ง หันมายิ้มให้โนวาเคยชิน"แม่กับพ่อต้องไปธุระอีกที่นึง เดี๋ยวจะกลับมานะลูก" เธอสวมกระชับกอด เรียกสามีลุกตามกันไป ทิ้งโนวาไว้กับแหวน"ป้าแหวนพาโนวาขึ้นข้างบนเถอะ นั่งเครื่องมานอนไม่หลับเลยค่ะ" หญิงสาวตั้งใจพูดอย่างเป็นกันเอง ครั้นแม่และพ่อออกไป เธอสวมกอดป้าแหวนอย่างคิดถึง ออดอ้อนราวกับเด็กทุกครั้งมาที่นี่"เบาๆค่ะคุณหนูป้าแก่แล้วหายใจไม่ทัน" อายุกำลังมากขึ้น จะเล่นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างไร ป้าแหวนพาขึ้นบรรไดใหญ่กลางใจบ้าน ห้องนอนชั้นสอง
เหตุการณ์ปัจจุบัน......."แม่ว่าถึงเวลาแล้วนะ ที่โนวาต้องกลับไปเรียนที่ประเทศบ้านเกิดเรา" สิรินภาเอ่ยบอกกับโนวา เธอเคยบอกเรื่องสถานะบุตรบุญธรรมให้ได้รู้ เธอตั้งใจเลี้ยงดูแลมาถนอมอย่างดี ปานที่แม่คนนึงจะทำได้ โนวาเองยอมรับและเข้าใจ ไม่เคยคิดน้อยต่อเรื่องพวกนี้บัดนี้เธอและสามีค่อนข้างมีอายุมากขึ้น หน้าที่การงานควรจะหาคนมาสืบสานต่อ แม้ลูกชายสองคนจะทำได้ดีอยู่แล้ว เวลานี้ผ่านมาสิบกว่าปี เธอกำลังจะเรียนปริญญาโทต่อเอกบริหารตามที่สิรินภาขอไว้"แล้วพี่สกายกับกาว์นจะเลิกไม่ชอบโนวาแล้วหรอคะ" เธอถามอย่างใสซื่อ ทุกครั้งที่กลับเมืองไทย หรือสองพี่ชายหนุ่มแวะเรื่องธุรกิจถึงฝรั่งเศส โนวาไม่เคยอยู่ในสายตา กับโดนเหยียดหยาม บางครั้งกลั่นแกล้งด้วยซ้ำไป"ป่านนี้พี่เขาเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว หนูเป็นน้องยังไงซะพวกพี่เขาต้องเอ็นดูน้องตัวเองแน่นอนจ๊ะ" แม่บุญธรรมค่อยๆพูดจาหว่านล้อม ถึงใจจะรู้ดีว่าอาจจะมีปัญหาตามมา แต่คงน้อยนัก"ใช่ว่าพ่อแม่จะไม่กลับไปซะเมื่อไหร่ละโนวา" ธนัทเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมอง เธอสมควรที่จะรับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในบริษัท เพราะพวกเขาสั่งสอนเรื่องพวกนี้มาไม่เคยขาด"โนวาแล้วแต่พ่อกับแม่ค่ะ"
ย้อนเหตุการณ์......ในยามค่ำคืนมืดมิด เม็ดฝนโหมกระหน่ำ แรงพายุพัดพาสิ่งของปลิวว่อนไร้น้ำหนัก จนมองไม่เห็นท้องถนนเอี๊ยด!!!!"คุณธนัท!" เสียงสิรินภากรี๊ดร้อง ทันทีที่รถหรูจอดหลังเสียหลักพุ่งชนฟุตบาทข้างทาง ถนนลื่นไร้การมองเห็น แขนเรียวโอบกอดเด็กชายสองคนแน่น หลังเบาะคนขับ เธอรีบเอื้อมมือไปสะกิดเรียกสติสามี ดวงตากลมเฉียวเห็นหัวของเขาถูกกระแทกเข้าพวงมาลัย"ผมไม่เป็นอะไร เดี๋ยวให้ไอปิติมาขับต่อ" ร่างกายกำยำเปิดประตูลงรถ ขวักมือเรียกบอดี้การ์ดจากคันหลัง ลงเข้ามานั่งแทนที่คนขับ"สกายกับกาว์นลูกแม่ เจ็บตรงไหนไหม" สิรินภาถามลูกชายวัยสิบขวบกับเจ็ดขวบ น้ำตาเอ่อล้นอาบแก้มเนียนเร่งปาดออก ตกใจเสียขวัญจากเหตุการณ์เมื่อกี้"ไม่ครับ""ตรงนั้นมีเด็ก" นิ้วมือเล็กของสกายชี้ไป ตรงข้ามกับเลนรถของเขา มีรถเก๋งสองคันชนคว่ำจอดอยู่ คล้ายสะเก็ดไฟกำลังเริ่มลุก เด็กหญิงตัวน้อยร้องไม่หยุด อยากคลานออกรถแต่ขาติดอยู่"นั่นเด็กนี่คะคุณธนัท สกายรอแม่ในรถนะครับ" เธอจับลูกสองคนนั่งลงบนเบาะเอนตัวลงจากรถ สามีกับบอดี้การ์ดรีบวิ่งตามกลัวจะถูกรถที่มาตามเชียวชน สิรินภาคว้าดึงตัวเด็กหญิง ธนัทช่วยอีกแรงเป็นจังหวะพอดี ที่ไฟลุกเหิม