"หัวหน้านัทถูกทำร้ายร่างกายก่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงถูกไล่ออกล่ะ""ฉันไม่แน่ใจ แต่เรื่องนี้เขาปิดกันให้แซดเลยนะ""เรื่องอะไร""ก็คุณเธอคนที่หัวหน้านัทไปมีเรื่องด้วยน่ะสิ""ทำไม?""เป็นเด็กของ..." คนที่พูดกรอกสายตามองไปทั่วก่อน เพราะกลัวงานจะเข้า "ทำไมวันนี้ก๋วยเตี๋ยวเค็มๆ แกว่าไหม" จากที่ดูจนทั่วแล้วก็ต้องได้รีบหุบปากไว้"แกจะโทษแม่ค้าไม่ได้นะ เพราะแกใส่น้ำปลาเยอะไป" เพื่อนที่นั่งคุยกันเริ่มสนทนาเรื่องอาหารที่กำลังกินอยู่ เมื่อเห็นว่าคู่กรณีของหัวหน้านัทกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกับเพื่อน"วันนี้เราจะทานอะไรกันดี" จ๊ะเอ๋ยืนมองร้านค้าที่เรียงรายกันอยู่ในโรงอาหาร"ทานอะไรก็ได้" ของขวัญเป็นอีกคนที่อยากถามเรื่องนี้ แต่ถ้าเพื่อนอยากเล่าให้ฟังก็คงจะเล่าเอง"ฉันว่าเราไปสั่งอาหาร ร้านนั้นดีกว่า" ไม่ใช่ว่าจ๊ะเอ๋จะไม่เห็นสายตาคนที่มองมา แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ เพราะพวกเขาไม่ได้หาเลี้ยงเธอสักหน่อยเย็นวันเดียวกัน.. ที่บ้าน"ไหนแม่บอกว่าวันนี้มีโอทีไง" ถ้ารู้ว่าแม่ไม่ได้ทำโอที เธอคงจะรอกลับพร้อมกันแล้ว แต่พอมาถึงได้ยังไม่นานก็เห็นแม่กลับมา"บอกแม่มาว่ามันเกิดอะไรขึ้น" จริงๆ ก็มีนั่นแหละ แต่จอยให้เพื่
"ขอโทษค่ะฉันไปด้วยไม่ได้ เพราะฉันต้องรอแม่ออกมาจากที่ทำงาน"คงเป็นครั้งแรกที่พระลักษณ์ถูกปฏิเสธ คนขับรถรีบหันกลับไปมองผู้เป็นนายปี๊ดดด! รถคันหลังบีบแตรเพื่อส่งสัญญาณให้รถคันหน้าขยับจ๊ะเอ๋ตกใจรีบก้าวถอยหลังออกมาจนสะดุดริมฟุตบาท "โอ๊ย" สะโพกของเธอกระแทกลงกับพื้น"คุณเป็นอะไรไหมครับ" พระลักษณ์รีบเปิดประตูลงมาจากรถ แล้วเข้าไปประคองเธอให้ลุกขึ้น"ดูผู้จัดการจะเป็นห่วงผู้หญิงของผมจังเลยนะครับ" รถคันหลังก็คือรถของพระราม เขาลงมาจากรถเช่นกัน"???" ไทยมุงที่แอบยืนอยู่แถวนั้นต่างก็ได้ยินประโยคที่พระรามพูด ว่าจ๊ะเอ๋เป็นผู้หญิงของเขา"คุณเป็นผู้หญิงของหัวหน้ารามหรือครับ" ยืนขึ้นได้ พระลักษณ์ก็ถามประโยคนั้นกับจ๊ะเอ๋"คือ.." นี่เราไปเป็นผู้หญิงของเขาตั้งแต่เมื่อไร แล้วคำว่าผู้หญิงของเขาหมายความว่ายังไง"ดูเหมือนผู้หญิงจะไม่เต็มใจเป็นของนายเลยนะ" แค่เห็นเธออ้ำๆ อึ้งๆ ก็เข้าทางของพระลักษณ์แล้ว"จริงหรือครับคุณจ๊ะ เรามีนัดกันไม่ใช่เหรอ ผมว่าคุณอย่ามัวเสียเวลาคุยกับคนแถวนี้เลยขึ้นรถดีกว่า" ว่าแล้วพระรามก็เดินไปเปิดประตูฝั่งคนที่นั่งข้าง"ขอตัวนะคะ" จ๊ะเอ๋พูดเบาๆ กับพระลักษณ์แล้วก็เดินไป ..แค่นี้ก็เหมื
เพียงไม่นานคลิปกล้องวงจรปิดตามวันและเวลาที่ขอไปก็ได้ถูกส่งมาให้ทางอีเมลจ๊ะเอ๋เดินอ้อมไปยืนอยู่ข้างๆ เพื่อที่จะมองจอ แต่เธอก็ไม่ได้ยืนใกล้ แค่มองไปให้เห็นหน้าจอก็พอคลิปที่ส่งมาถูกเปิดแบบเร็ว เพื่อที่จะใช้เวลาไม่มากในการดู"หยุดตรงนี้ก่อนค่ะ" หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาคุ้นๆ เดินเข้าไปพระรามหยุดไว้ให้เธอได้ดูแบบชัดๆ"เปิดต่อไปอีกนิดค่ะ" ใบหน้าของเธอค่อยๆ โน้มลงมาใกล้จอ นั่นแสดงว่าใกล้ใบหน้าเขาเช่นกัน มือเรียวเอื้อมไปเพื่อที่จะกดหยุด จังหวะเดียวกับที่พระรามกำลังจะกด มือทั้งสองประสานกันเข้า ใบหน้าเรียวค่อยๆ หันไปมอง คนที่นั่งอยู่เก้าอี้ ซึ่งเขาก็หันมามองเธอเช่นกัน"ขอโทษค่ะ" หญิงสาวรีบขยับออกห่าง "ฉันขอย้อนดูเมื่อกี้อีกนิดหนึ่ง""คุณสงสัยผู้หญิงคนนี้เหรอ" เขาถามพร้อมกับย้อนให้เธอดูกล้อง"หยุดตรงนี้ค่ะ" พอเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นชัดเธอก็จำได้ในทันที "เปิดต่อไปเลยค่ะ" รู้แล้วว่าผู้หญิงที่ออกมาจากห้องน้ำเป็นใคร แต่ที่ให้เขาเปิดต่อเพราะอยากจะเห็นว่าแม่เธอเจ็บตอนนั้นใช่ไหม และมันก็เป็นไปตามที่จ๊ะเอ๋คิดไว้ ..เพียงไม่นานแม่ของเธอก็เดินกระเผลกออกมาจากห้องน้ำ นั่นแสด
ในขณะที่ทำความสะอาดช่วย ของขวัญก็ยังคงรอเอาคำตอบจากจ๊ะเอ๋อยู่"ฉันจะเล่าให้แกฟังก็ได้ แต่จะมาเล่าในที่แบบนี้ได้ยังไง" จ๊ะเอ๋มองไปทั่วโรงอาหาร ถึงแม้ทุกคนจะหันเหความสนใจไปที่อื่นแล้วแต่ก็ยังมีมองมาอยู่บ้าง..ไม่เว้นแม้กระทั่งเขา"รามมองอะไรคะ เดี๋ยวก็เย็นหมดหรอก" แม้แต่มัลลิกาก็ยังรู้ว่าพระรามมองไปที่ไหน"คุณก็กินก่อนสิ" ว่าแล้วพระรามก็ตักอาหารวางใส่จานให้กับมัลลิกา"แกจะไปมองพวกเขาทำไม อย่าบอกนะว่ายังคิดอะไรกับเขาอยู่" ของขวัญเรียกสติเพื่อนให้กลับมา ..เพราะจ๊ะเอ๋มองนี่แหละพระรามถึงได้ตักอาหารให้กับมัลลิกา"ฉันอยากเป็นผู้หญิงคนที่คุณพระรามตักอาหารให้จังเลย" พนักงานที่แอบมองอยู่แถวนั้น ต่างก็อิจฉามัลลิกาไปตามๆ กัน"เราไปหาอะไรกินข้างนอกกันดีกว่า" จ๊ะเอ๋ลุกขึ้น แต่ขาที่เธอแกล้งสะดุดล้ม มันเจ็บจริง ก็เลยเดินไม่ค่อยถนัด"แกเจ็บขาเหรอ""ลมแรงขนาดนั้นไม่เจ็บก็เกินมนุษย์แล้วล่ะ" เธอยอมเจ็บเพื่อที่จะให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บยิ่งกว่า"ไปห้องพยาบาลกันดีกว่า""ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวก็หมดเวลาพักไม่ได้กินข้าวกันพอดี""ไม่กินก็ไม่ต้องกินสิ""ฉันรักแกนะขวัญ""ฉันก็รักแก" ถ้าของขวัญไม่เป็นห่วงเพื่อน มีเหรอที่จะย
"อะไรนะคะ??" จ๊ะเอ๋ถามซ้ำอีกครั้งเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังถูกหรือเปล่า"ท่านประธานเชิญคุณทานข้าวตอนเย็นค่ะ""เชิญฉันเนี่ยนะ คุณเลขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ?" ที่จ๊ะเอ๋รู้ว่าคนที่มาคุยด้วยคือเลขา เพราะอ้อได้แนะนำตัวก่อนหน้านั้นแล้ว"ไม่ได้เข้าใจผิดหรอกค่ะ"จะทำยังไงดีปฏิเสธได้ไหมเนี่ย แต่นั้นท่านประธานเลยนะ แล้วท่านประธานรู้จักเราได้ยังไง เราฮอตขนาดนั้นเลยเหรอ ..หญิงสาวทำได้แค่คิดอยู่ในใจ และก็ตอบรับคำเชิญไปพอคุยกับคุณเลขาเสร็จจ๊ะเอ๋ก็กลับเข้ามาในแผนกเพื่อทำงาน ตอนที่คุย อ้อมาขอหัวหน้าให้เธอออกไปคุยข้างนอก เพราะเรื่องนี้จะให้ใครได้ยินด้วยไม่ได้เย็นวันเดียวกัน..จ๊ะเอ๋ส่งข้อความไปบอกแม่ว่าจะไปทานข้าวเย็นกับเพื่อน ถ้าแม่ไม่มีโอทีก็ให้กลับบ้านไปก่อน"ขึ้นรถเลยค่ะ"จ๊ะเอ๋ที่ยืนรออยู่หน้าบริษัทโน้มตัวลงไปมองคนที่เพิ่งจะเลื่อนกระจกรถลงมา แค่เห็นคนขับก็รู้แล้วว่าท่านประธานคงกลัวพนักงานคนอื่นจะเห็น ก็เลยให้เลขารับเธอออกไปด้วย แต่ดีเหมือนกันเธอก็ไม่อยากจะถูกงานเข้าซ้ำบ่อยๆห้องวีไอพีในโรงแรมหรู..เอาวะเกิดมาชาติหนึ่งก็ได้มาทานข้าวในโรงแรมแบบนี้ ..หญิงสาวเดินตามเลขาไปแบบประหม่า"นั่งรอท่านอยู่
"ขอโทษค่ะ" ออกมาถึงข้างนอกหญิงสาวรีบปล่อยมือเขาออกสายตาคมจ้องมองใบหน้าหวาน นัยน์ตาคู่นั้นมีอะไรให้ค้นหามากมาย แต่เธอไม่มีเวลาที่จะค้นหามัน"ขอตัวนะคะ" หัวใจเต้นแรงขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ..หยุดนะจ๊ะเอ๋ เธอจะมาหัวใจเต้นแรงเพราะผู้ชายคนนี้อีกไม่ได้แล้ว"เธอจะไปไหน" มือหนาคว้าร่างของเธอเพื่อหยุดไว้ก่อน"ฉันก็จะกลับบ้านไงคะ""มาที่นี่ทำไม" คำถามนั้นพูดออกมาพร้อมกับปลายสายตาไปที่ป้ายโรงแรม"ทำไมคะ มาโรงแรมต้องมีอย่างเดียวเท่านั้นเหรอ" จ๊ะเอ๋ไม่รู้ว่าพระรามรู้ได้ยังไงว่าเธอเข้าโรงแรมกับท่านประธาน แต่ในเมื่ออยากจะคิดอะไรก็คิดไปสิ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อยขณะที่หญิงสาวกำลังจะหันหลังให้ สายตาเธอมองไปเห็นเสี่ยขจรที่เดินออกมาพอดีแล้วจะรีบออกมาทำไมเนี่ย ..ใบหน้างามซุกลงแผ่นอกของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า จนเขาหันมองไปด้านหลัง เพราะจะให้เธอซบแบบนี้เองคงเป็นไปไม่ได้เสี่ยขจรเดินเข้ามาใกล้หวังจะพูดกับเธอ เพราะแค่สิ่งที่เธอทำไม่สามารถจะหยุดคนแบบขจรได้อยู่แล้ว"มีอะไรจะคุยกับเมียผมอีกหรือครับ""??" จ๊ะเอ๋รู้สึกจั๊กจี้หัวใจขึ้นมาเมื่อได้ยิน แต่เธอก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง หญิงสาวจับมือของเขามาโอบกอดร่าง
จ๊ะเอ๋เดินตามเข้ามาที่ห้อง เพราะอายที่จะไปทะเลาะกับเขาอยู่หน้าแคชเชียร์แบบนั้น"นายจะทำอะไร" พอเข้ามาถึงพระรามก็แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ออกทีละเม็ด"เธอจะอาบน้ำก่อนหรือให้ฉันอาบก่อน""อาบน้ำทำไม""อย่าบอกนะว่าจะไม่อาบน้ำ" สายตาคมมองต่ำลงไปจนถึงใต้สะดือ จนหญิงสาวเอากระเป๋าตัวเองมาปิดบังมันไว้"เรายังตกลงกันไม่ได้เลย" พอรู้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรจ๊ะเอ๋ก็เริ่มไม่พอใจ และมีสิ่งเดียวที่จะหยุดเขาได้ในเวลานี้..นั่นก็คือข้อตกลงที่คุยกันไว้"จะไม่ให้เช็คของหน่อยเหรอ"เช็คของ? เขาเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร "แบบนั้นฉันก็เสียเปรียบคุณน่ะสิ""ได้..พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมทุกอย่างที่เธอต้องการ" ชายหนุ่มยังคงแกะกระดุมเสื้อต่อ"ถ้างั้นพรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน" หญิงสาวกำลังจะเดินออกมาที่ประตู เพิ่งคิดได้ว่าเขาขับรถเข้ามาลึกมากถ้าเดินก็คงจะไกล และตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย"คุณไปเปิดห้องให้ฉันอีกห้องหนึ่ง""ทำไมต้องเปิด เตียงนี้ก็เหมาะสำหรับนอนสองคน"หญิงสาวก็เลยจำใจต้องเดินไปนั่งลงที่เตียง แต่ก่อนอื่นเธอต้องทำให้ตัวเองปลอดภัยไว้ก่อนนั่นก็คือ.."บอกไว้ก่อนนะบ้านพร้อมที่ดินที่ฉันอยากจะได้ ต้องอยู่ในเขตกรุงเท
ในแผนกบัดกรีตะกั่ว..แต่ก่อนว่าดูวังเวงแล้ว เพราะไม่ค่อยมีใครมาพูดด้วย ตอนนี้ดูเหมือนว่าสายหยุดก็จะไม่พูดด้วยเช่นกัน"พี่คะ เรื่องของเสีย..เออ""ถ้าเราตั้งใจเรียนรู้ก็จะไม่มีของเสียออกมาแล้ว" เพราะจ๊ะเอ๋ก็ทำงานมาได้เป็นอาทิตย์แล้ว"จ๊ะก็ตั้งใจทำอยู่นะ" ประโยคนี้เธอพูดออกมาแค่เบาๆ เพราะไม่มีใครมาเอาชิ้นงานที่เธอทำเสียไปแก้ให้"เดี๋ยวพี่ช่วยแก้ให้แล้วกัน" สายหยุดกลั้นใจลุกขึ้นแล้วเดินมาเอาตะกร้าของเสียไปเช็คดูว่าชิ้นไหนพอจะแก้ได้ไหม"ขอบคุณพี่มากนะคะ ฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้คนอื่นไม่ชอบหน้า แต่ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ""ทุกคนเขารู้หมดแล้ว เรื่องที่แจนถูกน้ำร้อนลวกเราจงใจทำใช่ไหม แถมยังใช้เส้นสายให้นัทถูกเอาออกอีก" ถ้าไม่ใช่สายหยุดคนอื่นก็ไม่กล้าพูด"ที่พี่ไม่อยากพูดกับฉันก็เพราะเรื่องนี้เองเหรอ" ดวงตาที่เศร้าอยู่แล้วเริ่มมีน้ำตาคลอออกมา เธอพยายามกลั้นมันไว้เดี๋ยวเขาหาว่าเอาน้ำตามาเพื่อทำให้น่าสงสาร "ฉันไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นหรือเป็นพี่พี่จะทนได้ไหม ถ้าเห็นคนตบตีแม่ตัวเองต่อหน้า""เรื่องนั้นพี่ก็พอจะรู้มาบ้าง แต่เราไม่น่าจะไปใช้ความรุนแรงกลับคืนแบบนั้น""ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นจะแก้ปัญหานี้ยังไง
"คุณทำไมดูไม่ตกใจเลยล่ะ" เข้ามาถึงในห้องก็ยังเห็นว่าเขาปกติ ไม่มีท่าทีตกใจกลัวอะไรเลยตอนเห็นปืนใครบ้างจะไม่ตกใจ แต่พอเห็นว่าเธอกับแม่พยายามปกป้องเขาอยู่ ก็เลยทำให้คลายความกลัวไปได้เยอะ"พ่อคุณเป็นกำนันเหรอ" ที่เขาถามแบบนี้เพราะได้ยิน คนชื่อจ้อยเรียกว่าพ่อกำนัน"ใช่ค่ะ"ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง"นี่คุณ ฉันไม่ได้จะให้คุณนอนในห้องนี้สักหน่อย""ไม่ให้ผมนอนนี่แล้วจะให้นอนไหน""เดี๋ยวพ่อฉันสงบลงแล้วจะหาห้องให้" บ้านเธอกว้างขวาง ห้องนอนก็มีหลายห้อง"คุณคิดว่าพ่อคุณจะสงบง่ายไหม ยิ่งตอนนี้เห็นผมเข้ามาในห้องของคุณด้วยแล้ว""คุณก็อย่าพูดให้ฉันเสียวสันหลังสิ" ตอนเรียนมัธยมเคยถูกพ่อตีมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเรื่องผู้ชายนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้เลยเถิดอะไรมากก็แค่วัยรุ่นอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง"ผมขอนอนพักเอาแรงหน่อยแล้วกัน ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง"อะไรของเขาเนี่ย ยังจะนอนหลับอีกเหรอ"ออกมา!""พ่อ?" เขานอนไปได้แค่ครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนมาจากหน้าห้อง"ไม่ต้องออกมานะลูก ปล่อยให้พ่อบ้าอยู่คนเดียวเถอะ" แม่รีบตามมาห้ามพ่อ"ลูกเราเป็นผู้หญิงนะแม่!""พ่อกล้าขึ
"ผู้จัดการ?" พอรู้ว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องคือใคร ของขวัญรีบปิดประตูกลับคืนไว้เหมือนเดิม "ขะ..คุณมาทำไมคะ""ตกใจเหมือนเห็นผี" โชคดีที่เขาก้าวขาถอยกลับทันจังหวะที่เธอปิดประตู ถ้าไม่งั้นได้หน้าแหกแน่ "เปิดประตูออกมาคุยกันก่อน""คุณไม่เห็นหรือไงว่าฉันอยู่ในสภาพไหน""ไม่ได้ใส่อะไรยังเห็นมาแล้ว แค่นี้ทำไมต้องอาย"นี่แสดงว่าเขายังคงจำได้เหรอ? ..ของขวัญพยายามบอกตัวเองว่าเขาคงลืมแล้ว เพราะเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา แต่ทำไมเขายังจำได้ล่ะ "ฉันขออาบน้ำก่อนเดี๋ยวออกไปหา""คุณจะให้ผมยืนรออยู่ตรงนี้เหรอ""ไม่รู้จะมาทำไม แล้วนี่เมื่อไรพระรามกับจ๊ะเอ๋จะมา" หญิงสาวพึมพำออกมาแค่เบาๆ แต่ก็ยอมเปิดประตูให้ห้องเช่าของเธอไม่ได้กว้างขวาง แต่ก็แบ่งโซนที่ใช้ทำเป็นครัว ห้องน้ำในตัว ส่วนเตียงนอนก็จะถูกจัดวางไว้อีกมุมหนึ่งในห้องเดียวกัน"คุณนั่งรอก่อนแล้วกัน" ในห้องนี้ถ้าจะนั่งรอก็คงมีแค่เตียงนอน จากที่ไม่เคยเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย เธอก็เลยต้องได้เอาเข้าไป เพราะจะมาเปลี่ยนต่อหน้าเขาคงไม่ได้แล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จของขวัญก็ออกมา"คุณมีอะไรจะคุยกับฉันก็ว่ามาสิ""เก็บเสื้อผ้าเดี๋ยวจะพากลับบ้าน""ไห
ชายหนุ่มออกมาจากห้องของผู้เป็นพ่อก่อนที่จะกลับเข้าห้องตัวเอง สายตาคมก็ได้มองไปที่.."เข้ามาหาผมหน่อย"กาญจนาหันมองกลับไปด้านหลัง เพราะดูเหมือนว่าผู้จัดการจะไม่ได้พูดกับตัวเอง"เมื่อสักครู่ผู้จัดการบอกใครคะ" พรทิพย์ก็มีความสงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะด้านหลังของคุณเลขามีอยู่สองคน เผื่อว่าผู้จัดการจะเรียกใช้ตัวเองบ้าง"พี่ว่าคงจะบอก.." กาญจนาตวัดสายตามองไปที่ของขวัญ "เข้าไปหาผู้จัดการสิ"มีธุระอะไรต้องเรียกเราอีกเนี่ย ..หญิงสาววางงานไว้แล้วก็เดินมาที่ห้องของเขาแกร็ก! แอดดด.. "อุ๊ย.. ขอโทษค่ะ" มัวแต่คิดอยู่ว่าเขาจะคุยอะไรด้วยก็เลยลืมเคาะประตู พอเปิดเข้าไปแล้วก็ต้องได้ปิดไว้ก่อนก๊อก ก๊อก "เข้ามา""ผู้จัดการให้ฉันเข้ามามีอะไรคะ" หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องนี้แล้ว"บ้านของคุณอยู่ที่ไหน""คะ?""คุณเป็นคนจังหวัดอะไร""ถามแปลก..ฉันก็เป็นคนทุกจังหวัดนั่นแหละค่ะ" ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แค่ไม่อยากจะบอกว่าบ้านอยู่ที่ไหน ..แต่พอเห็นสายตาของเขามองมา ของขวัญก็เลยต้องได้บอกไป"เคลียร์งานเสร็จอีกสองวันเดี๋ยวจะพากลับบ้าน" เขาพูดเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับคำพูดของตัวเองเลย"อะไรนะคะ?""อยากจะกลับบ้านไม
ของขวัญที่ยังไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ก็แอบคิดในใจอยู่หรอกว่า ทำไมเขาพาเธอมาดินเนอร์ อยากจะพูดอะไรกับเราหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าต้องพามาเปลืองเงินแบบนี้"ทานสิครับ" พระลักษณ์เอื้อมมือมาตักอาหารวางใส่จานตรงหน้าให้กับเธอแบบอ่อนโยน"??" หญิงสาวแปลกใจมากขึ้น แบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้ว แต่เธอก็เล่นไปตามเกมที่เขาวางไว้ "ขอบคุณค่ะ""คุณไม่ชอบแบบนี้หรือครับ"ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้น ไม่นะของขวัญ เรายังไม่รู้เลยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร เธออย่าหวั่นไหวกับเขาเด็ดขาด ..เพราะแต่ละคำพูดแต่ละประโยคที่ออกมาจากปากผู้ชายตรงหน้ามันช่างละมุนยิ่งนัก จนของขวัญเผลอเคลิ้มไปกับคำหวานพวกนั้น"วันหลังอยากไปไหนก็บอกผมแล้วกัน จะได้หาเวลาว่างให้" ชายหนุ่มยังคงทำใบหน้าละมุนนั่นไง..ว่าแล้ว ..จากที่มองหน้าเขาแบบตกอยู่ในภวังค์ ตอนนี้ดวงตาของเธอมองสอดส่ายไปทั่วห้องอาหารหรูแห่งนี้"คุณพูดจริงนะคะ ฉันอยากไปหลายที่เลย" เสียงของเธอเริ่มเปลี่ยนไป จากที่พูดแบบไม่มีหางเสียง ตอนนี้น้ำตาลยังอายพระลักษณ์ก็เลยต้องได้มองหน้าเธออีกครั้ง "แล้วคุณอยากไปไหนล่ะครับ""อยากกลับบ้านค่ะ""กลับบ้าน?" ชายหนุ่มมองไปดู กลุ่มคนที่เขารู้แล้วแหละว่าเป็นนักข่าว เพรา
"ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น""แล้วผู้จัดการจะคุยเรื่องอะไรล่ะคะ" เขาไม่คิดเลยเหรอว่าเราจะอาย ..พอถูกเบรคของขวัญก็นึกอายขึ้นมา เรื่องเมื่อคืนนี้มีอะไรต้องให้พูดกันอีกนอกจากเรื่องที่เขาทำกับเธอแบบนั้น"ถ้าคุณพ่อเรียกตัวไปพบ ก็บอกท่านไปว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น""??" อะไรกันท่านประธานจะเรียกตัวเราไปพบเหรอ แค่ผู้จัดการเธอก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว นี่ท่านประธานเลยนะ "ฉันไม่ไปค่ะ" คิดดูแล้วถ้าท่านประธานเรียกไปพบ เธอขอลาออกดีกว่า"ไม่ไปไหน?""ก็ถ้าท่านประธานเรียกตัวไปพบฉันขอไม่ไปพบท่านไงคะ""ผมแค่พูดเผื่อไว้ถ้าท่านเรียกตัวคุณไป" พระลักษณ์รู้ดีว่ายังไงพ่อก็ต้องเรียกตัวเธอไปคุยเรื่องนี้อยู่แล้วทำไมเราต้องไปด้วย เขาต่างหากที่ทำกับเรา "ฉันไม่ไปหรอกค่ะ เพราะฉันโกหกใครไม่เป็น""โกหก?""ก็ใช่ไงคะ คุณจะให้ฉันบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง..ก็ในเมื่อมันมี""เธอคิดจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ" แค่จูบเขาไม่คิดว่ามีอะไรอยู่แล้วคิดว่าฉันจะแบล็คเมล์เลยเหรอ? ..ของขวัญคิดว่าแค่จะพูดให้ผู้จัดการไปเคลียร์กับพ่อเอง "แล้วแต่ผู้จัดการจะคิดแล้วกันค่ะ ฉันขอออกไปทำงาน" ทำไมเรื่องวุ่นวายต้องเกิดขึ้นกับเราด้วย จริงๆ แล้วของขวัญไม่ใช่ค
"??" คนที่อยู่ในห้องไม่รู้หรอกว่าหน้าห้องกำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะม่านรูดที่นี่เป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวนจากข้างนอก หรือเสียงที่อยู่ข้างในก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ "คุณพ่อ?""จ๊ะ??" ไม่ได้ตกใจแค่พระลักษณ์ ของขวัญที่ตามออกมาก็ตกใจไม่ต่างกัน"ขวัญอยู่ในห้องนั้นจริงๆ ด้วย" จ๊ะเอ๋เอ่ยพูดออกมาเบาๆ พระรามต้องรีบโอบร่างเธอไว้ก่อนที่เข่าจะทรุด "พี่ชายของคุณทำอะไรเพื่อนฉัน" หญิงสาวเฝ้าแต่โทษตัวเองที่ดึงเพื่อนเข้ามาเดือดร้อนด้วย"เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่คะ" นักข่าวไม่พลาดสักช๊อต และตอนนี้ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างได้ถูกบันทึกเป็นคลิปไว้หมดแล้ว รอแค่เวลาเผยแพร่"ลูกมาทำอะไรที่นี่" พระนายถามออกไปด้วยท่าทางที่ปกติมาก ไม่ตื่นตระหนกเหมือนคนอื่นเลย"คือว่าผม.." พระลักษณ์มองสายตาพ่อก็รู้แล้วว่าไม่ได้ปกติเหมือนใบหน้าและคำพูดที่แสดงออกมาในเวลานี้เลย"ก็บอกแล้วไงว่าพ่อรู้เรื่องนี้แล้ว จะคบกันพ่อก็ไม่ว่า"???? เครื่องหมายนี้ไม่ได้ผุดขึ้นแค่พระลักษณ์ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สงสัยและแปลกใจ เพราะพระนายทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติ และรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว"ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ
"ทำยังไงดีโทรก็ไม่ติด" จ๊ะเอ๋พยายามโทรหาของขวัญ แต่ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ของเพื่อนจะถูกปิดเครื่อง"เราไปดูที่ห้องเช่าก่อน..ขวัญอาจจะนั่งแท็กซี่กลับไปแล้ว" ในขณะที่ขับรถไปห้องของขวัญ พระรามก็ทำได้แค่พูดปลอบใจเธอ"ภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะ"ในเวลาต่อมา..ที่ห้องเช่า"ขวัญยังไม่กลับมาเลย" จ๊ะเอ๋เริ่มใจไม่ดี เมื่อมาถึงเห็นว่ากุญแจคล้องจากด้านนอก "ทำยังไงดี""เดี๋ยวเรากลับไปโรงแรมอีกครั้ง ไปขอดูกล้องวงจรปิด" ที่เขายังไม่ไปขอดูเพราะกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ และต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่าเพื่อนของเธอไม่ได้กลับมาที่ห้องพัก[โรงแรมที่ใช้จัดงาน]"นั่นลูกชายของคุณพระนายไม่ใช่เหรอ" นักข่าวที่กำลังจะกลับ เห็นพระรามแล้วจ๊ะเอ๋เดินผ่านเข้าไปด้านในก็เลยจำได้"พวกเขาจะเข้าไปทำไม งานเลี้ยงเลิกแล้วไม่ใช่เหรอ""อยากรู้ก็ตามไปดูสิ" นักข่าวทั้งสองเดินตามไปแบบไม่ให้รู้ตัว"เรามาขอดูกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถครับ" เขาไปถึงพระรามก็พูดกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม"มีอะไรเกิดขึ้นคะ""เพื่อนของเรายังไม่กลับบ้าน" แล้วจ๊ะเอ๋ก็เล่าให้ฟังว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างพนักงานได้ยินแบบนั้นก็ตรวจเช็คกล้องวงจรปิดให้ทันที บางกรณีถ้าแขก
นักข่าวที่ประจำอยู่หน้างาน ก็เห็นอยู่ว่ามีคู่รักเดินมาด้วยกัน แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่ามาร่วมงานปกติพระนายมองออกไปที่หน้างาน ก็ไม่พอใจเอามากๆ เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กควงผู้หญิงคนนั้นมาด้วยพระลักษณ์ที่กำลังพาของขวัญไปคุยกันมุมหนึ่งของงานนั้น แต่ยังไม่ได้คุยเลยด้วยซ้ำก็มองไปเห็นพ่อที่เรียกตัวให้เข้ามาหาก่อน"ผู้จัดการมีอะไร..?" ของขวัญกำลังจะถามว่าผู้จัดการมีอะไรจะคุยกับเธอ แต่พอมองอีกทีผู้จัดการเดินไปโน่นแล้ว "อะไรวะ เรียกเรามาคุยด้วยซะดิบดี" หญิงสาวมองซ้ายมองขวา เพราะถ้าใครเห็นคงน่าอายมาก"จะทำยังไง" พระนายยื่นใบหน้าเข้าไปถามลูกชายเบาๆ เพราะไม่อยากให้แขกที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกัน"ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะ..""อย่าให้พ่อได้ยินคำว่าไม่แน่ใจอีก" ลูกชายยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ ผู้เป็นพ่อก็พูดสวนขึ้น"ผมจะพยายามแล้วกันครับ" พระลักษณ์เดินออกมาแล้วก็มองว่าผู้หญิงสองคนที่เขาชวนมางานด้วย คนไหนพอที่จะเรียกใช้งานได้"คุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ" และเขาก็เลือกที่จะเดินมาหา.."ลิกาหรือคะ?""ถ้าคุณช่วยผมได้ ผมจะตอบแทนอย่างงาม""ช่วยอะไรคะผู้จัดการ" "ช่วยแยกผู้หญิงคนนั้นออกจากพระรามหน่อย"มัลลิกามอง
[ห้องเช่าของขวัญ]ตอนที่โทรคุยกันจ๊ะเอ๋บอกให้เพื่อนกลับห้องไปก่อนเดี๋ยวตามไปหา"เข้ามาข้างในก่อน" ของขวัญเปิดประตูห้องให้กับจ๊ะเอ๋ สายตาไม่ได้มองเพื่อนหรอกแต่มองคนที่เดินตามหลังเข้ามา"ฉันรู้ว่าแกอยากจะถามอะไร" เพราะคิดว่าของขวัญต้องอยากรู้แน่ว่าทั้งสองกลับมาคบกันแล้วเหรอ ทำไมถึงตามติดเหมือนเงาเลย"แกพร้อมที่จะเล่าให้ฉันฟังไหมล่ะ" ของขวัญแอบน้อยใจอยู่ไม่ใช่น้อย ที่ได้ยินเรื่องราวของเพื่อนจากปากคนอื่น แต่ถ้าเพื่อนพร้อมที่จะเล่าให้ฟังป่านนี้คงเล่าแล้ววันต่อมาที่บริษัท"จริงเหรอ?" ตอนนี้ข่าวที่ผู้จัดการชวนมัลลิกาไปออกงานรู้กันไปทั่วทั้งบริษัทแล้ว"จริงสิ..ได้ยินมาจากเจ้าตัวเองเลยแหละ""ทำไมเราไม่ถูกเชิญแบบนี้บ้าง""เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรามาเม้าท์เรื่องที่ทำไมผู้จัดการถึงเชิญมัลลิกา" คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต่างก็จ้องตา เพราะผู้จัดการก็ยังโสด ส่วนมัลลิกาตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าคงไม่สมหวังจากพระรามแล้วล่ะ"นางหาที่เกาะใหม่ได้เร็วมาก""มาโน่นแล้ว" อีกคนรีบสะกิดเพื่อนไว้เมื่อเห็นมัลลิกาเดินยิ้มแป้นเข้ามาในบริษัท"คุณมัลลิกา""คะ""วันนี้ดูอารมณ์ดีจังเลยนะคะ""จริงเหรอคะ..ไม่รู้เลยนะเนี่ย""คืนนี