ดวงตาสวยของหลีเอียนจ้องมองไปเย่เฟิงด้วยสีหน้าสีหน้าดุในบางสถานการณ์จมูกของผู้หญิงนั้นมีไวต่อการจับกลิ่นไม่ต่างจากเครื่องตรวจวัดที่รุ่นใหม่เลยหลิงเอ๋อร์ที่นั่งเบาะข้างคนขับนั้น กลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอถูกประธานสาวจับได้ในทันทีเย่เฟิงใจแป้วที่ถูกเธอถามเข้า เขาส่งเสียง "เอ่อ" ออกมาอย่างไรก็ตาม เขาก็พยักหน้ารับและตอบตามตรงไปว่า: “เพื่อนผมคนหนึ่งมานั่งน่ะ”หลีเอียนทำเสียงฮึ่มในลำคอ ในใจรู้สึกไม่พอใจและโกรธอย่างไม่มีเหตุผลแต่เพราะท่าทีเฉยๆของเย่เฟิง กลับทำให้เธอที่รู้สึกโกรธและไม่พอใจอยู่นั้นไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรดีเธอ……ทําไมถึงโกรธล่ะ?หรือว่าจะ...กับตานี่เป็นไปได้ไง? ต้องเป็นเพราะเขาไม่ขออนุญาติเธอก่อนให้คนออื่นมานั่งรถเธอแน่อีกอย่างเธอกับเขาเป็นเพียงสามีภรรยาในนาม คิดแล้ว……ไม่มีสิทธิ์จะไปถามชีวิตส่วนตัวกันและกันหลีเอียนหันไปมองนั่วนั่วแวบหนึ่ง เห็นแก่เด็ก เธอจึงไม่ได้ถามอะไรเรื่องนี้อีกหลีเอียนทำเสียงฮึ่มในลำคอแล้วพูดว่า: “นี่เป็นรถฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาต คุณมีสิทธิ์อะไรมาให้คนอื่นนั่ง? ครั้งหน้าระวังด้วย!”เย่เฟิงพยักหน้าหงึกหงัก :“ขอโทษครับ! แต่ว่า……”เขาพูดพลางมองใบหน้าด้
เย่เฟิงถึงกับอ้าปากค้างไปชั่วขณะ ทำหน้าเหมือนคนโง่..."นี่ มองพอยัง? มองพอแล้วก็ขับรถไปสิ"หลีเอียนทั้งเขินและรำคาญที่ถูกเขาจ้องแบบนั้น เธอมองค้อนเขาไปหนึ่งที"คิกคิกคิก……คุณป้าสวยมาก! พ่อคือตือโป้ยก่าย ตือโป้ยก่าย คิกคิกคิก……"นั่วนั่วที่นั่งอยู่ด้านหลัง ปรบมือหัวเราะชอบใจเย่เฟิงได้สติอีกครั้ง เขาทำหน้างงขึ้นมาทันที:"ตือโป้ยก่ายอะไร? ลูกไปเรียนมาจากไหน?""พี่หยวนหยวน! เธอบอกว่าพ่อคือตือโป้ยก่าย"เด็กสาวพูดอย่างถูกอกถูกใจเย่เฟิงได้ยินก็นึกถึงหลานสาวตัวน้อยของซ่งเหล่าเย๋ เป็นเด็กน่ารักที่แปลกประหลาดพอตัวเด็กบ้านั่นเรียนโรงเรียนอนุบาลร่วมกับนั่วนั่ว ชอบสอนอะไรไม่ดีให้ลูกสาวเขา!……พริบตาเดียวก็ผ่านมาหลายวันไม่กี่วันที่ผ่านมาเย่เฟิงก็พานั่วนั่วเข้ามาอยู่ที่สวนจักรพรรดิ์ แถมยังจ้างพี่เลี้ยงอีกวันหยุดสัปดาห์เด็กสาวเองไม่ได้มีเย่เฟิงอยู่ข้างๆได้ตลอดเวลา จึงต้องมีใครสักคนคอยดูเธอในช่วงเวลานี้ หลีเอียนได้สั่งให้ฝ่ายการผลิตของบริษัทจัดทำตัวอย่างของยาสี่ชนิดนี้ออกมาแล้วระหว่างนี้ประธานสาวสวยนั้นเข้ามาตรวจสอบด้วยตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของตัวอย่างยาเป็นไปตามที่คาดหวังและ
"ประธานเหรินนี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เขาเสนออะไรให้คุณคะ ฉันก็ให้ได้เหมือนกัน!"หลีเอียนกัดฟันถาม "ประธานหลี! พอเถอะครับ อย่าทําให้ผมอึดอัดเลย"เหรินลี่ชวิ๋นส่ายหัวพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น"คุณหนูหลี เงื่อนไขนี้คุณทำไม่ได้แน่ครับ! ฮึฮึ!"ทนายลวี ชายสวมแว่นตาทองนี่พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย"เงื่อนไขคืออะไรกันแน่ ลองบอกมาสิ?"หลีเอียนพูดอย่างโกรธเคืองทนายลวีตบที่ไหล่เหรินลี่ชวิ๋นแล้วพูดว่า: "ลูกชายเถ้าแก่เหรินเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง และตอนนี้เข้าสู่ระยะวิกฤติแล้ว! แม้แต่โรงพยาบาลเอกชนยังช่วยไม่ได้! แต่คุณชายฉู่ช่วยชีวิตเด็กคนนั้นได้! คุณคิดว่าเถ้าแก่เหรินจะฟังใครล่ะ?"เหรินลี่ชวิ๋นถอนหายใจแรงก่อนจะกล่าวกับหลีเอียนด้วยรอยยิ้มลำบากใจ: "ประธานหลี ขอโทษจริงๆครับ! แม้ครั้งก่อนเหลี่ยงเหลี่ยงลูกชายของผมถูกพิษแต่รอดมาได้นั้น ทว่าโรคกลับทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เข้าสู่ระยะวิกฤติผมไม่สามารถทนดูลุกชายผมตายได้ ทนายลวีช่วยติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์จีนท่านหนึ่ง ซึ่งมียาเทวดาในมือ รับประกันว่าสามารถรักษาอาการได้แม้ในระยะวิกฤติก็สามารถช่วยให้เหลี่ยงเหลี่ยงมีชีว
แม้ว่าเย่เฟิงจะช่วยชีวิตลูกชายของเขาเมื่อครั้งก่อน แต่ผลงานโดดเด่นเพียงครั้งเดียว เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถทำให้เหรินลี่ชวิ๋นเชื่อได้ถ้าให้เทียบ แน่นอนว่าเขาจะเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมายาวนานอยู่แล้วทั้งยังท่าทีที่แสดงออกมาของเย่เฟิงและหลีเอียนในตอนนี้ จากสายตาของเหรินลี่ชวิ๋นรู้สึกว่าคงยอมทำทุกอย่างไม่เลือกวิธีอยู่หน่อยๆเอ๋ เขามียาเทวดา คุณก็มีด้วยงั้นสินะ?เพื่อให้ผมเซ็นสัญญากับพวกคุณแล้ว คุณเคยเห็นชีวิตลูกผมอยู่ในสายตาบ้างไหม?ผมจะเชื่อใจพวกคุณได้ยังไงกันหลีเอียนเห็นแววตาต่อต้านในดวงตาของเหรินลี่ชวิ๋น สีหน้าผิดหวังเธอก็เผยออกมาทันทีเวลานี้ทนายลวีก็ได้รับสายสายหนึ่ง ฟังปลายสายพูดไม่กี่ประโยค ก็เดินมายื่นให้หลีเอียน"คุณหนูหลีสายจากคุณชายฉู่ครับ มีอะไรจะให้คุณฟัง"ทนายลวีดันแว่นตาทองขึ้นก่อนจะพูดอย่างไม่แยแสหลีเอียนรับมันมาก่อนจะกัดฟันพูด:"ฉู่เทียนหลง!""ฮึ หลีเอ๋อร์ เป็นอะไรเหรอนี่คือ? โกรธมากเลยสิ?"อีกด้านของโทรศัพท์มีเสียงขี้เล่นดังจากปลายสาย"ฉู่เทียนหลง ไอ้สารเลวน่ารังเกียจ! ยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า ถึงใช้วิธีสกปรก! ให้ฉันพนันกับตระกูลอย่างยุติธรรมส
เย่เฟิงที่กําลังจะดึงหลีเอียนออกไปนั้น ตอนนี้กลับหยุดเมื่อเห็นว่าทนายลวีเปิดประตูห้องวีไอพีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาต้อนรับคนที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามาเหรินลี่ชวิ๋นนั้นยิ่งกว่าอีก เขารีบวิ่งไปหาพร้อมโค้งคำนับ"หมอซุนหมอเทวดา คุณมาแล้ว! เชิญ เชิญนั่งเลยครับ!"อีกฝ่ายคือแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงมายาวนาน และชีวิตลูกชายเขาก็ต้องพึ่งหมอคนนี้ ดังนั้นที่เหรินลี่ชวิ๋นเคารพแบบนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากเห็นเหรินลี่ชวิ๋นกับทนายลวียืนซ้ายคนขวาคน ล้อมแพทย์แผนจีนผู้มีชื่อเสียงคนนี้ ถึงขั้นเบียดเย่เฟิงและหลีเอียนออกเพื่อเดินเข้าข้างใน"ไปกันเถอะ จะบากหน้าอยู่ที่นี่ไปทำไม?"หลีเอียนดึงแขนเย่เฟิงแล้วพูดอย่างเหน็บแนม"ไม่เป็นไร รอเดี๋ยว"เย่เฟิงส่ายหัว นั่นทำให้ประธานสาวสวยคนนี้เกิดความสงสัยในแววตาเธอตานี่เมื่อกี้ยังจะรีบไปอยู่เลย ตอนนี้กลับไม่รีบซะงั้น?ในตอนนี้ ซุนกว่างซานถูกเชิญนั่งอย่างเคารพ เหรินลี่ชวิ๋นกับทนายลวีประกบซ้ายขวา เอ่ยคำเยินยอไม่ขาดสาย"หมอซุนหมอเทวดา คุณนี่ยอดแพทย์แผนจีนอันดับหนึ่งของเยียนเซียจริงๆ!""ถูกๆ! มะเร็งเม็ดเลือดขาวเข้าขั้นวิกฤต ทั้งโลกอับจนไร้ทางรักษา คุณกลั
เพล้ง!เอ๋……ทว่าทันทีที่พูดจบ ซุนกว่างซานก็ปัดน้ำชาที่เหรินลี่ชวิ๋นส่งให้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มตัวน้ำชาร้อนๆ กระเด็นไปโดนตัวและใบหน้าเหรินลี่ชวิ๋นทันทีเหรินลี่ชวิ๋นดูงงงวยและไม่กล้าโกรธ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมซุนหมอเทวดาเป็นอะไรไปณ เวลานี้ซุนกว่างซานก็รีบเดินไปหยุดตรงหน้าเย่เฟิง เขาก้มตัวเล็กน้อยและโค้งคำนับให้เย่เฟิงท่าทางราวกับนักเรียนที่ได้เจออาจารย์ตัวเองเสียอย่างงั้น"หมอเทวดาเย่ คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ?"เห็นแบบนี้เหรินลี่ชวิ๋นก็เช็ดน้ำชาบนใบหน้า รู้สึกกระตุกวูบในใจอย่างอดไม่ได้ดวงตาของทนายลวีเบิกกว้าง เขานี่โง่นักนี่มันเรื่องอะไรกันแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ทำไมถึงเคารพต่อคนหนุ่มสาวแบบนี้กัน?"ยาที่ผมให้คุณไป คุณจะใช้กับลูกชายเถ้าแก่เหรินงั้นเหรอ? "เย่เฟิงถามเรียบๆ"นี่… ใช่ครับ! ทนายลวีติดต่อมาหาผมเมื่อวาน บอกว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะวิกฤต แล้วถามว่าผมสามารถรักษาได้ไหม พอดีกับที่หมอเทวดาเย่เพิ่งให้ยาตัวใหม่กับผมมาหลายตัว ผมก็เลย…"ซุนกว่างซานอธิบายเขาฟังจากที่ทนายลวีกับเหรินลี่ชวิ๋นพูดเมื่อครู่ก็พาเดาเรื่องต่างๆได้บ้าง"ผมไม่ยินยอมจะไ
เมื่อเหรินลี่ชวิ๋นได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติเขารู้ว่าเย่เฟิงกําลังเยาะเย้ยเขา แต่เพื่อลูกชายเขาเลยยอมทำเรื่องหน้าอายนี่"คุณเย่ ประธานหลี, ผมรู้ตัวว่าผิดไปแล้วจริงๆ ผมรับรองว่าครั้งนี้เราจะร่วมมือกันอย่างจริงใจ เห็นแก่ลูกผมที่ยังเด็กอยู่เถอะ คุณเย่ใจดีมีเมตตายิ่ง ช่วยลูกชายผมด้วยเถอะ!"ผมขอร้อง!ขอแค่ช่วยลูกสาวได้ เงื่อนไขอะไรผมก็รับได้ทั้งนั้น "เหรินลี่ชวิ๋นคุกเข่าลงบนพื้น ก้มหัวโขกลงไปเหมือนกับตำกระเทียม พร้อมทั้งน้ำมูกน้ำตาไหลพรากไปมาเขาร้องไห้จริง ๆ เมื่อคิดได้ว่าลูกอาจจะจะต้องตายเพราะความโง่เขลาของเขา เหรินลี่ชวิ๋นเริ่มคิดอยากตายในใจหลีเอียนดึงแขนเย่เฟิงเบา ๆ เห็นเขาอยู่ในสภาพแบบนี้ก็รู้สึกเห็นใจ เธอพูดเสียงเบาๆ: "เย่เฟิง พอเถอะ ถ้าเขายินดีร่วมมือ ก็อย่าทำให้เรื่องมันเลวร้ายเกินไปเลย"เย่เฟิงแอบบอกว่าคุณนี่ใจอ่อน ก่อนจะส่ายหัวแล้วหยิบกระเป๋าเอกสารแล้วดึงสัญญาออกมาหลีเอียนวันนี้ตั้งใจจะมาทำการเซ็นสัญญากับเหรินลี่ชวิ๋น ดังนั้นเธอจึงนำเอกสารสัญญามาด้วย"ราคาวัตถุดิบยาดูเหมือนจะสูงไปหน่อย"เย่เฟิงพูดพึมพําเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหรินลี่ชว
สุนัขที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เขารีบหนีออกจากห้องอย่างตื่นตระหนกดวงตาคู่สวยของประธานสาวคนสวย หันไปมองทางเย่เฟิง รอยยิ้มที่น่าหลงใหลปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของเธอถ้าบอกว่าฉู่เทียนหลงคือเมฆดำที่ห่อหุ้มเธอ งั้นเย่เฟิงเหมือนแสงแดดที่สองผ่านเมฆดํานั้นเข้ามาวินาทีถัดมา เย่เฟิงรู้สึกถึงกลิ่นหอมละมุนพัดผ่านหน้าเขา พร้อมกับสัมผัสอ่อนโยนที่แตะใบหน้าเขา"คุณดีจังเลย!"ในช่วงเวลานั้น หลีเอียนยิ้มสวยและมีเสน่ห์จนไม่อาจอธิบายได้เหมือนกับเด็กหญิงตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความภูมิใจหลังจากที่ได้ระบายความรู้สึกออกไปเย่เฟิงส่งเสียง "เอ่อ" พร้อมกลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้นี่หลีเอียนจูบเขาเหรอ?แม่ง! เขาไม่รู้สึกอะไรเลยนะ นี่จูบเสร็จแล้วเหรอ?ผู้หญิงคนนี้ไม่จริงใจเอาเสียเลยไม่กี่นาทีต่อมา……เย่เฟิงยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งไปที่หน้าเหรินลี่ชวิ๋น: "สิ่งนี้ที่ผมเรียกว่า 'หญ้าไขกระดูกมังกร' ถ้ามีมันผมสามารถรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ คุณมีสิ่งนี้อยู่ในมือหรือเปล่า?"เย่เฟิงวาดภาพสมบัติฟ้าดินอย่างหญ้าไขกระดูกมังกรตามที่เขาจำได้ออกมา เพื่อให้เหรินลี่ชวิ๋นตรวจดูในฐานะที่เขาเป็นผู้ค้าส่งวัต