ทุกคนในตอนนี้เฝ้าดูอย่างใจจดจ่อ รอซุนกว่างซานช่วยให้คุณหนูมู่ฟื้นเห็นที่สีหน้าที่มั่นใจของหมอซุน ก่อนจะฝังเข็มเงินลงไปหนึ่งเข็มที่ตรงกลางขมับของมู่ซินเฟยจากนั้นก็ตามจุดต่างๆบนใบหน้า เช่น จุดตรงกลางระหว่างคิ้ว เป็นต้น รวมสิบกว่าจุด“พอแล้ว!”หลังทำแบบนี้ผ่านไปครึ่งวัน ซุนกว่างซานก็เช็ดเหงื่อและพูดด้วยท่าทางสงบการรักษาครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามั่นใจมาก!“เอ่อ……เอ่อ……”ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงเบาๆ ออกมาเล็กน้อยในลำคอของมู่ซินเฟย“คุณหนูมู่จะฟื้นแล้วครับ!”ซุนกว่างซานพูดอย่างยิ้มๆทุกคนที่เห็นเหตุการณ์อยู่ตรงนั้น ต่างแสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ“ดี! ดีเลย!หมอซุนนี่อาจารย์หมอสมชื่อจริงๆ ผมจะตอบ……”มู่จ้านพูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งพร้อมสีหน้าปลื้มปิติยินดีทว่าเขาพูดได้แค่ครึ่งประโยค ก็ต้องหยุดลงเสียก่อนเพราะฉากต่อไปนั้นทำให้ใต้เท้าผู้บังคับบัญชาต้องหน้าถอดสี ตกใจจนเกินจะบรรยาย!“เอ่อ! เอ่อ!……”ในลำคอของคุณหนูมู่ยังคงส่งเสียงออกมาไม่หยุด ทว่าเสียงนั้นยิ่งฟังก็ยิ่งแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆราวกับมีความเจ็บปวดทรมานและการดิ้นรนแฝงอยู่ในนั้น เหมือนสียงกรีดร้องจุกอยู่ในลำคอ ไม่สามารถร้องออก
คุณเลือกที่จะเชื่อผมหรือคุณจะถ่วงเวลาช่วยชีวิตเธอเพื่อพาเธอไปโรงพยาบาลกันล่ะ? ”“โอเค ให้คุณรักษา! ถ้าคุณช่วยลูกสาวผมได้จริงๆผมจะรับผิดก้มหัวขอโทษคุณด้วยตัวเองเลย แต่ถ้ารักษาไม่ได้ผมจะฆ่าคุณและหมอกากๆนี่ไปพร้อมกันเลย!"”มู่จ้านจ้องมองเย่เฟิงครู่หนึ่ง จนท้ายที่สุดก็กัดฟันพูดออกมาร่างกายเขาเปล่งออร่าแห่งความโหดเหี้ยมและดุร้าย เป็นลักษณะของผู้นำทหารที่ผ่านสนามรบและการฆ่าศัตรูมาแล้ว ไม่มีสงสัยว่าคำพูดนั้นของเขาจริงหรือไม่เย่เฟิงหัวเราะเบา ๆ และแสดงออกอย่างใจเย็นสงบ: "จริง ๆ แล้วหมอซุนคนนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นหมอที่ไร้ความสามารถ! วิธีการรักษาของเขาถือว่าถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะในร่างกายของลูกสาวคุณถูกคนอื่นเล่นตุกติกมาก่อนอะนะ!"“คุณหมายความว่าไง ”มู่จ้านถามขึ้นด้วยสีหน้าขรึม“นั่นคงต้องถามเขาแล้วล่ะ!”เย่เฟิงชี้ไปที่เสิ่นจี่เมื่อพูดจบ มู่จ้านก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่เสิ่นจี่ด้วยความสงสัยและตั้งคำถามเมื่ออีกฝ่ายได้ยินเช่นนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาพูดด้วยสีหน้าหม่น:“ไอ้หนุ่ม นี่หมายถึงอะไรกัน?คิดว่าตัวเองรักษาเฟยเฟยไม่ได้เลยหาแพะรับบาปงั้นสิ? ต่ำทรามนักนะ!”“ใครบอกว่า
ทันทีที่พูดออกมา สีหน้าของเสิ่นจี่ก็ถอดสีโดยสิ้นเชิง!ความหวาดกลัวและความเกลียดชังอย่างซึมลึกผ่านดวงตาเขาอยู่ชั่วครู่!ฟิ้ว!วินาทีถัดมา เสิ่นจี่ที่เพิ่งโวยวายเศร้าโศกนั้น ก็ระเบิดอารมณ์ออกมาและพุ่งไปที่หน้าต่างชั้นสองทันทีกลายเป็นว่า เขาตั้งใจจะกระโดดออกจากหน้าต่างเพื่อหลบหนี!ผู้บังคับบัญชาที่เห็นแบบนี้ก็สบถออกมาด้วยเสียงต่ำแล้วไล่ตามไปอย่างเร็วราวกับสายฟ้าถึงแม้ว่าเสิ่นจี่จะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทหารนำทหารอย่างผู้บังคับบัญชามู่ทั้งสองคนประมือกันได้ไม่กี่กระบวนท่า เสิ่นจี่ก็ถูกผู้บังคับบัญชามู่ฟาดเข้าที่ท้ายทอยจนหมดสติไม่รู้สึกตัวเมื่อถอดกางเกงชั้นนอกของเสิ่นจี่ออก ก็ได้เห็นผ้าที่พันรอบๆไว้คล้ายกับกางเกงในที่เหมือนผ้าอ้อมเป็นแบบที่นักซูโม่จากประเทศนั้นสวมใส่กัน“ฮึ!คนของประเทศซากุระ?”มู่จ้านส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาและหนักแน่น ดวงตาคู่นั้นฉายแววเย็นชาและโกรธแค้น“ผมก็ว่าแล้ว ไอ้หมานี่ไม่ใช่คนดี!”เมื่อได้เห็นฉากนี้ หลีหย่วนก็กัดฟันแล้วด่าด้วยความโกรธ สีหน้าเขาแฝงความพึงพอใจอยู่เล็กๆ"อืม......"ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงเบาๆ ดังขึ้นมา มู่ซินเฟยที
พอดีเลยเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าจะซื้อบ้านพอดี......ตอนนี้ดูท่าไม่ต้องแล้ว“เออใช่ น้องชาย คุณชื่ออะไร บัตรประชาชนเอามาไหม? ผมจะให้คนไปดำเนินเรื่องให้”มู่จ้านถามย้ำ“เย่เฟิง”เย่เฟิงแนะนําตัวเองด้วยรอยยิ้มเมื่อพูดจบ ซุนกว่างซานที่อยู่ข้างๆ มีท่าทางตกใจเล็กน้อย และด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็ถามว่า: “คุณคือเย่เฟิงเหรอ? คนที่ช่วยชีวิตซ่งเหล่าเย๋ที่ตลาดวันนั้นก็คือคุณ หมอเทวดาใช่ไหม?”เย่เฟิงพยักหน้า:“ผมเอง ทำไมเหรอครับ?”ซุนกว่างซานยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัวไปมาอย่างละอายใจพูดว่า: “มิน่าล่ะ! มิน่า …… ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าคือคุณหมอเทวดา วันนี้ผมคงไม่ทำน่าเกลียดออกมาเช่นนี้แล้ว!”เมื่อคิดถึงตอนที่เย่เฟิงเตือนตัวเองก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเขาพูดสั่งสอนด้วยคำพูดคำจาเสียดสีไป ซุนกว่างซานรู้สึกละอายใจในใจในขณะนี้ หลีหย่วนมองไปที่ซุนกว่างซานแล้วก็มองไปที่เย่เฟิง ความเคลือบแคลงสุดท้ายในใจที่เขามีต่อเย่เฟิงก็ได้หมดไปในที่สุดดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มนี่จะช่วยซ่งเหล่าเย๋จริงๆ!จากนนั้นผู้บังคับบัญชาการมู่ก็ได้เชิญเย่เฟิงลงมานั่งที่ห้องรับแขกข้างล่างอย่างอบอุ่น“เฟยเอ๋อร์ ยังไม่มาขอบคุณผู้มี
มู่จ้านไม่ปกปิดความชื่นชมที่มีต่อเย่เฟิงเลย ตั้งแต่เรียกเขาดุจพี่น้องไปจนถึงจะให้แต่งงานกับลูกสาวเขาคำพูดเขาฟังดูกะทันหัน แต่จริงๆ แล้วคิดมาอย่างดีทักษะแพทย์สูงจนซุนกว่างซานยังต้องอาย หมอเทวดาระดับนี้ถ้าได้คบค้าสมาคม ย่อมมีผลดีเกินจินตนาการได้แถมหลังหยั่งเชิงดูครั้งแรกแล้ว เรื่องความแข็งแกร่งก็โดดเด่น!ยังไม่นับข้อดีอื่นๆ ที่จะได้จากการคบค้าสมาคมกับเย่เฟิงอีกนะ คนแบบนี้เท่านั้นถึงจะสามารถพัฒนากองทัพได้ อนาคตอาจจะไร้ขีดจำกัดได้มู่จ้านนั้นชื่นชมคนมีพรสวรรค์ทั้งใจจริงๆแต่ว่าหลีหย่วนที่อยู่ข้างๆนั้นยิ่งวิตกกังวลตานี่ ยิ่งพูดยิ่งไปไกลเรื่อย!มู่ซินเฟยนี่เป็นนางในฝันเขาเลยนะ ตอนนี้มู่จ้านกลับจะแนะนํานางในฝันเขาให้พี่เขยกระจอกๆคนนี้เหรอ?“ลุงมู่ เขาเป็นพี่เขยผมครับ!”หลีหย่วนไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะ แต่เขากลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ เมื่อพูดจบ ผู้บัญชาการมู่ก็ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง:“พี่เขยคุณ? พี่เขยของพี่สาวคนไหนล่ะ?”“พี่สาวแท้ๆผม หลีเอียน”หลีหย่วนยิ้มอย่างฝืนๆเมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้บัญชาการมู่ก็ส่งเสียง“เชอะ”:“นั่นเป็นปลอมๆนี่!”ชัดเจนว่าผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์เมื
มู่จ้านไม่สามารถทำอะไรได้อื่น จึงได้แต่พูดให้เย่เฟิงมาที่นี่บ่อยๆ และยังให้บัตรผ่านเข้า-ออกพิเศษของเขตทหารให้เย่เฟิงอีกด้วย ออกมาจากเขตทหาร“พวกแกสองคนไปนั่งคันอื่น ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่เขยเป็นการส่วนตัว”หลีหย่นสั่งลูกสองสองคนที่อยู่บนรถ จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งที่นั่งคนขับด้วยตัวเขาเอง“อะไร? อยากคุยเรื่องอะไรอีก? วันนี้ที่ผมตีสนิทผู้บัญชาการมู่ได้ ก่อนหน้านี้กับตระกูลซ่งก็เหมือนกัน”เย่เฟิงที่นั่งฝั่งข้างคนขับเลิกคิ้วแล้วถามหลีหย่วนยิ้มแหะๆ:“ไม่ใช่ ไม่ใช่เร่องนี้! พี่เขย ผมเชื่อใจพี่แล้วตอนนี้……”เขาพูดไปกะแอ่มไปด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย: "ผมกำลังจีบเฟยเฟยอยู่ พี่ก็น่าจะเห็นแล้วเพราะงั้นเรื่องในอดีตที่พี่รู้ พี่เขยพี่ต้องปิดปากเงียบกริบ ห้ามบอกผู้บัญชาการมู่กับเฟยเฟยเด็ดขาด!”มู่จ้านนั้นชื่นชมเย่เฟิงมาก แถมยังให้มู่ซินเฟยเรียกเขาว่าพี่ชายอีก ช่อทางการติดต่อเขาก็ขอไว้หมดแล้ว อนาคตคงได้ติดต่อพูดคุยกันมากขึ้นถ้าเกิดว่าเย่เฟิงหลุดปากพูดอะไรไปล่ะก็หลีหย่วนรู้สึกได้ว่าเขาหมดหวังแน่เมื่อพูดจบ เย่เฟิงก็ส่งเสียง“หืม” ก่อนจะตอบสนองด้วยรอยยิ้มครุ่นคิดบนใบหน้า“ที่พูดนี่ใช่วันที่คุ
ประตูห้องนั่งเล่นถูกผลักออก เย่เฟิงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องนั่งเล่นนี่นอกจากจะมีหลีเอียนและแม่บ้านที่เธอจ้างมาอยู่ที่นี่ ยังมีคู่สามีภรรยาวัยกลางคนหนึ่งคู่และหญิงสาวอีกหนึ่งคนทั้งสามคนสวมเสื้อผ้าเรียบหรู บนร่างกายมีกลิ่นอายของความหรูหราและมีท่าทีที่โอ้อวดเห็นแวบเดียวก็รู้เลยว่าเป็นคนติดนิสัยใช้ชีวิตสะดวกสบายคู่สามีภรรยาวัยกลางคนคือหลีเทียนกัง ลุงรองของหลีเอียนและป้ารอง หลี่เยว่ผิง ส่วนหญิงสาวก็คือหลีถิง ลูกลุงรอง ลูกพี่ลูกน้องของหลีเอียนเมื่อเห็นเย่เฟิงเดินเข้ามา ครอบครัวขอหลีเทียนกังทั้งสามคนก็ชะงักไปชั่วขณะจากนั้น พวกเขามองเย่เฟิงด้วยท่าทีที่มองอย่างตรวจสอบตั้งแต่หัวจรดเท้า“แกก็คือหนุ่มหน้าละอ่อนที่ลูกพี่ลูกน้องฉันหามางั้นเหรอ?”หลีถิงยกคิ้วขึ้นและถาม สายตาที่มองเย่เฟิงนั่นราวกับมองสัตว์ที่ซื้อกลับมาจากตลาดถึงแม้ตระกูลหลีจะเคยได้ยินมาบ้างเรื่องคู่หมั้นที่หลีเอียนหามาครั้งนี้ เหมือนจะมีความสามารถอยู่บ้างกำจัดชิวอี้แล้วก็ฆ่ามือสังหารไปเจ็ดคนหรืออะไรพวกนั้นแต่ความสามารถนี้ ในสายตาของพวกเขาแล้วก็ไม่เท่าไหร่นี่ต่อสู้เก่ง ไม่ได้ช่วยแสดงสถานะทางสังคมอะไรน
ที่ต้องบอกพวกฉันก็บอกไปหมดแล้ว จะทำอะไรก็คิดเองแล้วกันฮึ!ที่คุณชายฉู่ยังจีบแกแบบดีๆ ไม่ใช่เพราะแกเป็นคนของตระกูลหลีเหรอถ้าแกถูกไล่ออกจากตระกูลหลี แกยังจะเหลืออะไร? ตระกูลหลีไม่สนใจแกแล้ว คุณชายฉู่ก็มีวิธีเป็นร้อยเพื่อให้ได้แก ถึงตอนนั้นก็เป็นแค่ของเล่นไม่ใช่เหรอ?ทำมาเป็นสูงส่ง! เชอะ!”หลี่เยว่ผิง ป้ารองที่เห็นลูกสาวตัวเองเสียใจนั้นก็พูดกัดเหน็บออกมาทันทียังคิดแสดงท่าทีราวกับยืนบนศีลธรรมสูงส่งแล้วทำสีหน้าว่าหลีเอียนเห็นแก่ตัวพูดแบบนี้จริงๆแล้วก็น่าเกลียดไปหน่อยหลีเอียนหน้าแดงก่ำ ดวงตาสวยฉายแววความโกรธแค้นอย่างไม่ตั้งใจแต่เธอไม่เก่งเรื่องทะเลาะกับคนอื่น ตัวเธอสั่นไหวเล็กน้อยจากความโกรธ“คนที่เป็นผู้ใหญ่ แต่กลับทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าด่าเด็ก ดูแล้วชีวิตนี่คงอยู่ไม่ทันแก่ล่ะมั้ง”เย่เฟิงที่อยู่ด้านข้างทนฟังไม่ไหวแล้วเมื่อเห็นหลีเอียนต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวสามหน่อนี่ท่าทางที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและโกรธของเธอ ทำให้เขารู้สึกสงสารในใจยังไงเธอก็เป็นภรรยาเขาตามกฎหมายสามีอย่างเขา จะทนยืนดูอยู่ข้างๆได้เหรอ?เมื่อพูดจบ หลี่เยว่ผิงก็ทำสีหน้าดุ ก่อนจะชี้ไปที่เย่เฟิง: "ที่นี่แกมี
เย่เฟิงเหลือบมองกู่เหมิงและถามเบา ๆ : “ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?”“วันนั้นในโรงพยาบาล หลี่ชื่อที่อยู่ข้างกายคุณกู่ ก็คือคนที่ขายยาเม็ด! แล้วเขาก็เป็นของคุณ คุณชายเย่ คุณจะไม่ปฏิเสธใช่มั้ย?”ดวงตาของกู่เหมิงเป็นประกาย ขณะที่จ้องมองไปที่เย่เฟิงและถามในเวลานี้ ชายชราผู้เย่อหยิ่งโบกมือและพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด: “กู่เหมิง เลิกพูดจาอ้อมค้อมสักที!”ขณะที่ชายชราพูด เขาก็มองเย่เฟิงและพูดด้วยสีหน้าแข็งกร้าว: “เจ้าหนู เราจะไม่พูดเรื่องไร้สาระกับเจ้าอีก บอกสูตรและวิธีการกลั่นยาเม็ดหยางหยวนตันมาเถอะ ตระกูลกู่จะซื้อสูตรนั่น!”ชายชราคนนี้นามว่ากู่เฉิน และเขาเป็นหมอกลั่นยาเม็ดจากตระกูลกู่ นอกจากนี้เขายังเป็นจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ด้วยสถานะของเขาในตระกูลกู่นั้นเหนือกว่าหรือเทียบเท่ากับผู้อาวุโสของตระกูล และเขาได้รับความเคารพจากผู้อื่นมานานหลายปีแล้วด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้สั่งสมนิสัยหยิ่งผยองและค่อนข้างแข็งกระด้างเวลาติดต่อกับผู้อื่นหลังจากพูดจบ เย่เฟิงก็มองไปที่ชายชรากู่เฉินด้วยท่าทางหยอกล้อ“ตระกูลกู่จะซื้อเหรอ? แล้วพวกคุณตั้งใจว่าจะจ่ายให้ผมยังไงล่ะ?”กู่เฉินส่งเสียงฮึและตอบว่า: “คุณต้องการหยก
จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กเดินเข้าห้องเรียน เขาถึงหันหลังกลับและจากไปนับตั้งแต่นั่วนั่วป่วยครั้งที่แล้ว เย่เฟิงก็ให้ความสำคัญกับทุกช่วงเวลาแห่งความสุขของนั่วนั่วมากยิ่งขึ้น และจะบันทึกทุกรายละเอียดในชีวิตของเธอเป็นครั้งคราวอันที่จริงในใจของเขารู้สึกกลัวอยู่บ้างจริงๆ!กลัวว่าจะไม่สามารถถอนคำสาปของนั่วนั่วได้ กลัวว่าจะจะต่อกรกับตระกูลเย่เก่าแก่ได้ไม่ทันลูกสาวของเขาจะอายุครบเจ็ดขวบ!เย่เฟิงคิดกับตัวเอง: เย่อินเสวียนบอกว่าผู้ที่ได้รับสืบทอดจี้หยกรูปมังกร จะสามารถไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้!ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาน่าจะเป็นคนที่ได้รับสืบทอดจี้หยกนั่นเย่เฟิงยังจำได้ว่า ตอนที่เขาหมดสติไปครั้งแรก มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในสมองของเขาแต่เสียงนั่นก็ไม่เคยปรากฏอีกเลย!ในร่างกายของเขา คงไม่ได้มีจิตวิญญาณอื่นอยู่ด้วยหรอกใช่มั้ย?“รุ่นพี่! รุ่นพี่? ได้ยินผมมั้ย?”ขณะกำลังคิด เย่เฟิงก็เรียกใครคนนั้นขึ้นมาในใจ เขาอยากพยายามสื่อสารกับอีกฝ่ายทว่า ในสมองของเขากลับไร้เสียงตอบรับใด ๆ...เย่เฟิงแอบสงสัยว่าเขาคิดมากเกินไปหรือเปล่า เขาจึงส่ายหัวและเตรียมที่จะขึ้นรถและออกไป“คุณชายเย่ รอช้าก่อน!”ในขณะ
ใบหน้าของลู่ไฉ่หยุนเผยความร้ายกาจออกมาชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเย่เฟิงจริงๆ!เฉาเหนียนถอนหายใจและหันไปพูดกับภรรยาของเขา: “ไฉ่หยุน เราให้เงินกับเย่เฟิงไปดีกว่านะ ถึงยังไงเมื่อก่อนเราก็รับปากเขาไว้แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เฟิง ในวันนั้น หลี่ชื่อคงฆ่าเราทั้งตระกูล…”จริง ๆ แล้ว เฉาเหนียนอยากจ่ายเงิน 4000 ล้านให้เย่เฟิงตามที่เขาเป็นหนี้อยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินแล้วจริง ๆหลังจากให้เย่เฟิงไป 2500 ล้านบาทในครั้งแรก เงินทุนของเฉาเหนียนที่เขามีอยู่ก็เหลือน้อยลง เงินอีกส่วนหนึ่งของตระกูลเฉาก็ฝากไว้ในบัญชีของลู่ไฉ่หยุนตอนนี้ถ้าลู่ไฉ่หยุนไม่เห็นด้วย เขาก็นำเงินมาจ่ายเย่เฟิงไม่ได้“เฉาเหนียน คุณโง่หรือเปล่า? วันนั้นปล่อยให้เย่เฟิงมันขอเงินได้ยังไง? นั่นมันเป็นการแบล็กเมล์กันชัดๆ! อีกอย่าง ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ฆ่าหลี่ชื่อเพื่อช่วยเราแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์ แล้วคุณยังจะให้เงินเขาอีกเหรอ? ถุ้ย!!”ลู่ไฉ่หยุนกัดฟันแล้วด่าอย่างดูถูก ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธทันใดนั้นใบหน้าของเฉาเหนียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง: “หลี่ชื่อเป็นลูกชายของผมนะ แล้วเย่เฟิงจะฆ่าเขาได้ยังไง?”เมื่อกล่าวถึงหลี่ชื่อ หัวใจของเฉาเหนียน
“ถ้าพี่มีเงินมากพอก็อาจจะพอซื้อของจากตระกูลกู่ได้มากหน่อย! แน่นอนว่า ถ้ามีพลังมากพอ ก็อาจจะไปปล้นดูก็ได้นะ เหอะๆ…”พอพูดถึงประโยคสุดท้าย หญิงสาวตรงหน้าก็ทำหน้าหยอกล้อ และพูดจาแหย่เย่เฟิงสีหน้าของเย่เฟิงเป็นประกาย และถามออกมาโดยไม่รู้ตัว: “ตระกูลกู่แข็งแกร่งแค่ไหน?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่อินเสวียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง: “ไม่ได้ตั้งใจที่จะปล้นจริงหรอกใช่มั้ย? เท่าที่ฉันรู้ ตระกูลกู่เคยมีผู้นำตระกูลระดับสร้างแก่นลมปราณ ผู้นำตระกูลเฒ่าคนนั้นไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายสิบปีแล้ว ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ส่วนผู้นำตระกูลปัจจุบันกับบรรดาผู้พิทักษ์และผู้อาวุโสหลายคน ต่างก็เป็นจอมยุทธ์ระดับพื้นฐานลมปราณขั้นปลาย”“เอ่อ…”สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เขายักไหล่และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นไปหาพวกเขาเพื่อเจรจาแลกเปลี่ยนคงจะดีกว่า”ตามความเข้าใจของเขา ระดับพลังของจิตมังกรบำเพ็ญเซียนถูกแบ่งจากระดับต่ำสุดไปสูงสุดคือ ระดับรวบรวมลมปราณ ระดับพื้นฐานลมปราณ ระดับสร้างแก่นลมปราณ ระดับสำเร็จแก่นลมปราณ ระดับแก่นก่อกำเนิด ระดับก่อรูปธรรม ระดับสูญรูปธรรม ระดับมหายาน ระดับวิบาก รวม 9 ระดับพลัง
เย่เฟิงหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินแบบนั้น: “คราวนี้ คำสาปจะถูกยกเลิกโดยไม่เอ่ยถึงจี้หยกได้ไหม”ครั้งก่อนผู้หญิงคนนี้หลอกเขา บอกว่าเธอสามารถระงับคำสาปได้ด้วยจี้หยกรูปมังกรแล้วครั้งนี้ เธอจะพูดจริงอย่างนั้นเหรอ“ฉัน...ฉันไม่กลัวพี่ทรมานฉันหรือไง ครั้งนี้ทุกอย่างที่ฉันบอกพี่เป็นเรื่องจริงทุกอย่างนะ!”เย่อินเสวียนกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายเย่เฟิงถามเธออีกครั้งว่าเขาจะตามเจอตระกูลเย่เก่าแก่ได้ยังไง“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน! ตระกูลเย่ที่ซ่อนตัวอยู่ของเราเป็นแค่เครือหนึ่งเท่านั้น มีเพียงหัวหน้าตระกูลและบุคคลสำคัญเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสืบหาที่ตั้งของตระกูลเย่เก่าแก่ได้! และฉันขอแนะนำว่าอย่ายั่วยุตระกูลเย่เก่าแก่ในตอนนี้จะดีกว่า! ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกพี่หรอกนะ อย่าว่าแต่ตระกูลเย่เก่าแก่เลย แค่ตระกูลเครือข่ายแยกย่อยอย่างเราก็สามารถกำจัดพี่ได้ง่ายๆ!!”เย่อินเสวียนเบะปากพูดใบหน้าของเย่เฟิงมืดหม่นราวกับธาราลึก หลังจากพยักหน้า เขาก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเคร่งขรึมเย่อินเสวียนหวาดกลัว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที: “พี่คิดจะทำอะไร”เธอรับรู้แรงสังหารของเย่เฟิงได้อย่างชัดเจน!ผู้ชายคนนี้ คิดอยาก
แต่มาตอนนี้ จากคำบอกกล่าวของหลานเขอซี เย่เฟิงได้รับรู้ว่าพ่อแม่ของเขา...ตายแล้ว!ดังนั้น การอยู่กับคนไร้ความจริงใจอย่างเย่อินเสวียนจึงไม่มีความหมายอีกต่อไป!ดวงตาคู่งามของเย่อินเสวียนกะพริบสองสามครั้ง ก่อนที่เธอจะกัดฟันแล้วพูดว่า “อยากถามอะไรก็ถามมา!”เย่เฟิงพยักหน้า...ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เย่อินเสวียนก็ลุกขึ้น แล้ววิ่งพุ่งไปทางประตูหวังจะหลบหนี!แต่ว่าเย่เฟิงเตรียมพร้อมไว้ก่อนอยู่แล้ว เมื่อเขาเห็นแบบนั้น เขาก็ตบคู่ต่อสู้ด้วยฝ่ามือของเขา!ฝ่ามือของเขาเปล่งพลังชี่แท้แข็งแกร่งและพุ่งออกไปราวกับรอยประทับฝ่ามืออรหันต์โจมตีเข้าที่ด้านหลังเย่อินเสวียนด้วยความเร็วดุจสายฟ้า!พลั่ก!ทันใดนั้น เย่อินเสวียนก็กระอักเลือดออกมา เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากฝ่ามือของเย่เฟิงจนล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ในการต่อสู้ครั้งแรก เย่อินเสวียนยังหนีรอดจากเงื้อมมือของเย่เฟิงได้แต่ในเมื่อตอนนี้ เย่เฟิงทะลวงถึงระดับพื้นฐานลมปราณแล้ว แล้วเขาจะปล่อยผู้หญิงคนนี้หนีไปได้ยังไง?วินาทีต่อมา เย่เฟิงโยนเย่อินเสวียนลงบนเตียง ดึงผ้าปูที่นอนมาปิดตัวเธอไว้เพื่อปิดร่างกายบอบบางที่ทำให้เขาเลือดสูบฉีดเย่อินเสวียนจ้องมองเขา ก
เมื่อถูกผลักออกในจังหวะเวลาแบบนั้น เย่อินเสวียนตกตะลึงไปชั่วขณะ แววตาของเธอวูบไหวไม่สงบเธอจ้องมองเย่เฟิงอยู่ครู่หนึ่งด้วยความประหลาดใจปนกับความตกใจ จะยังไงเย่อินเสวียนก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกปฏิเสธเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากแบบที่หาเจอได้ไม่บ่อยนัก รวมกับเสน่ห์ที่เธอทำใส่เขา เขาน่าจะต้องโดนพลังของกู่เสน่ห์หาถึงจะถูกตามปกติแล้ว ขอแค่เธอกระดิกนิ้วเรียก อีกฝ่ายก็ควรจะลุ่มหลงไปกับร่างกายของเธอสิ!แต่ในเวลาแบบนี้ เขากลับผละตัวเธอออกอย่างนั้นเหรอ?“พี่เฟิง นี่พี่ทำอะไรคะ? ที่ว่ายังไม่ถึงขั้นนั้นหมายความว่ายังไง ฉันชอบพี่มาตั้งนานแล้ว ทั้งที่ฉันทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้วแท้ ๆ ทำไมพี่ยังทำตัวลังเลแบบนี้อยู่อีก นี่พี่ยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า”ใบหน้าของเย่อินเสวียนมืดหม่น เธอถามด้วยความไม่พอใจและความขุ่นเคืองเย่เฟิงโบกมือ: “ผมยังไม่พร้อม! วันนี้คุณมาหาผมมีเรื่องอะไรเหรอ เรามาคุยเรื่องจริงจังกันก่อนดีกว่านะ”เย่อินเสวียนกลอกตาใส่เย่เฟิงอย่างเย้ายวน ก่อนจะขมวดคิ้ว “แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องจริงจังหรือไงคะ”ขณะที่เธอพูด เธอก็กัดริมฝีปากแล้วเริ่มเข้าหาเย่เฟิงอีกครั้งโครม!แต่ว่าคราวนี้ เย่เฟิงปล
“ไม่ต้องห่วงหรอก! ผมจะใช้ภาพพวกนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด!”“ลองจินตนาการดูสิ ว่ามันจะน่าตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้เปิดภาพถ่ายพวกนี้ในงานแต่งของเย่เฟิงและหลีเอียน?”“ฮ่าฮ่า ๆ ๆ…”ทนายลวีพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์......ขณะเดียวกัน ที่อีกด้านหนึ่งเย่เฟิงและเย่อินเสวียนมาถึงโรงแรม และเปิดห้องห้องหนึ่ง!สิ่งที่เย่เฟิงไม่คาดคิด คือผู้หญิงคนนี้เลือกเปิดห้องสวีทคู่รักจริงๆหลังจากเข้ามาด้านใน ภายในห้องมีไฟสีชมพูสลัว ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกเป็นพิเศษเย่เฟิงเลิกคิ้วมองเย่อินเสวียนด้วยสายตาประหลาดใจทว่ากลับเห็นเพียงดวงตาคู่งามของอีกฝ่าย ร่างกายของเธอราวกับกำลังปล่อยฟีโรโมนชวนให้หลงใหล และทุกการเคลื่อนไหวล้วนสามารถดึงดูดผู้คนจนไม่อาจละสายตานี่มันเสน่ห์เหรอ?ดวงตาของเย่เฟิงหรี่ลง ในใจได้แต่ส่งเสียงฮึเป็นเชิงเยาะเย้ยวินาทีต่อมา เขากลืนน้ำลายและถามว่า “อินเสวียน คุณคงจะไม่...”เย่อินเสวียนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่วินาทีต่อมา เธอจะเดินกรีดกรายเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าเขา“พี่เฟิง พี่ไม่อยากเหรอคะ? วันนี้ฉันจะทำให้พี่สนุกแทบขาดใจเลยละ!”เธอเหยียดนิ้วเรียวยาวออกกรีดไปตามหน้าอกของเย่เฟิงวิน
เย่เฟิงหัวเราะเยาะวินาทีต่อมา เขาก็เดินไปเปิดประตูข้างที่นั่งคนขับ แล้วดึงเย่อินเสวียนออกมาจากรถก่อนจะคว้าเอวเธอมาโอบอย่างรวดเร็ว!เย่อินเสวียนทำส่งเสียงตกใจเล็กน้อยและเหลือบมองโจวชิง แล้วหันไปคล้องแขนของเธอรอบคอของเย่เฟิง: “พี่เฟิง เรารีบไปกันเถอะค่ะ! ฉันจองห้องที่โรงแรมเอาไว้แล้วนะคะ! ห้องแบบสวีทเลยนะ!”เย่เฟิงสาดสายตามองโจวชิง และพูดอย่างเยาะเย้ย: “โจวชิง เคยได้ยินหรือเปล่าว่าม้าดีไม่กลับไปกินฟางเก่าน่ะ? ต่อให้ผมหิวยังไง ผมก็ไม่กลับไปกินของเหลือทิ้งหรอก! ยิ่งกว่านั้น ผมไม่ได้หิว! ใครบอกคุณว่าผมขาดผู้หญิง”โจวชิงมองเย่อินเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ เย่เฟิง ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเธอไม่นึกเลยว่าคนที่อยู่ในรถไม่ใช่นั่วนั่ว แต่กลับเป็น…ผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้มอีกคน!ชายหนุ่มยากจนในตอนนั้น มาตอนนี้กลับถูกรายล้อมไปด้วยสาวสวย!แม้เธอจะมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกละอายเล็กน้อยเมื่อเทียบตัวเองกับเย่อินเสวียนเธอยังนึกว่าเย่เฟิงหลงเธอเข้าแล้วซะอีก ทำแบบนี้มันน่าตลกสิ้นดี!“เย่เฟิง! นี่แกว่าใครเป็นของเหลือทิ้ง? แก ไอ้ผู้ชายชั่ว!”“แกมันคนได้ใหม่ลืมเก่า