เย่เฟิงพูดเมื่อได้ยินแบบนั้น มุมปากของหลีหย่วนก็ได้กระตุกแม้งเอ่ย! จากน้องชายเป็นไปน้องชายแล้ว?แต่ว่า เย่เฟิงพูดแบบนั้นออกมา เวลาสถานที่ฟังแล้วก็มีความน่าเชื่อถืออย่างมากคุณชายหลีคนนี้ ก็สงสัยเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง“นายเคยช่วยซ่งเหล่าเย๋? แกรู้วิธีรักษาเหรอ?เล่นพนันเป็น กังฟูก็เป็น และทักษะทางการแพทย์ แกเป็นเทพเหรอ?”หลีหย่วนถามอย่างหยอกล้อ“ขอบคุณ! ไม่งั้นพี่สาวนายจะชอบเหรอ?”เย่เฟิงยิ้มแบบไม่ถ่อมตัวเลยแม้แต่น้อย“เหี้ย!”หลีหย่วนรู้สึกว่า หมอนี่มันคุณไม่รู้เรื่องวินาทีถัดมา เขาก็จ้องมองเย่เฟิง:“ฉันก็ยังไม่เชื่อ! เว้นแต่แกจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าแกรู้วิธีรักษาจริง มิฉะนั้น ฉันจะทําทุกอย่างที่ทําได้ เพื่อไล่แกไปจากพี่สาวของฉัน!”เย่เฟิงเบะปาก :“พิสูจน์ยังไง? ช่วยคุณรักษาอาการนอนไม่หลับ ?นี่มันไม่ยากอะไร!”มองจากสีหน้าของอีกฝ่าย เย่เฟิงก็มองออกว่า ช่วงนี้หลีหย่วนนอนไม่ค่อยหลับหลีหย่วนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดทีละคํา:“นายต้องการความยาก? ดี! ฉันพาแกไม่เจอคนคนหนึ่ง ถ้าแกสามารถรักษาเธอได้ ฉันก็เชื่อแก!”“ไม่เพียงแต่เชื่อแก นับจากนี้ไปแกก็เป็นพี่เขยของฉัน ฉันเป็นน้องชายขอ
เมื่อมาถึงห้องบนชั้นสอง ก็มีคนกลุ่มหนึ่งอยู่แล้วเห็นมู่ซินเฟยนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอสวยมาก แต่สีหน้าของเธอได้มีเลือดค้าง ซึ่งดูน่ากลัวเล็กน้อยหลับตา ก็เหมือนกับคนที่อยู่ในสภาพพืชบนเตียง แพทย์ในเสื้อคลุมสีน้ําเงินกําลังสังเกตอาการเธออยู่ชายวัยกลางคนอีกคนที่มีท่าทางเคร่งขรึมยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าที่ไม่ค่อยแสดงสีหน้าอะไรนั้น ตอนนี้ก็ได้เต็มไปด้วยความเป็นห่วงชายวัยกลางคนคนนี้เป็นผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์แห่งหยุนเฉิง มู่จ้าน!นอกจากนี้ อีกด้านหนึ่งของเตียง มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ในสายตาของชายหนุ่ม เต็มไปด้วยความสงสารและความเจ็บปวดใจมองไปที่ลูกสาวของผู้บัญชาการบนเตียงชายหนุ่มชื่อเสิ่นจี่ เขาและมู่ซินเฟยเป็นเพื่อนร่วมชั้นในวิทยาลัย และตอนนี้พวกเขายังเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ในสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพในเมืองหยุนเฉิง และทำงานวิจัยเวลาเดียวกัน ก็เป็นคนที่ตามจีบมู่ซินเฟย อีกอย่างตอนนี้พวกเขาก็ไมีสถานะไม่ชัดเจนหลีหย่วนเข้ามา ก็เห็นมู่ซินเฟยบนเตียงก่อน เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ฟื้น ก็ได้มีความรู้สึกร้อนใจและกังวลวินาทีถัดมา เขาก็มองเสิ่นจี่อย่างเย็นชา ก็เหมือนได้มีไฟสงครามเล็กน
หลังซุนกว่างซานตรวจดูแล้ว ก็พุดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจเมื่อเขาพูดจบ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันดีอกดีใจผู้บังคับบัญชาการมู่นั้นมีสีหน้าตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร เขาพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า:“ดี! เยี่ยมเลย!หมอซุนนี่สมคำร่ำลือจริงๆ ลำบากคุณหมอด้วยครับ!”หลีหย่วนเมื่อรู้ว่ามู่ซินเฟยมีทางรักษาแล้ว ก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมาเพียงแต่ว่าเขานั้นมาเย่เฟิงมาโดยเปล่าประโยชน์ส่วนเสิ่นจี่นั่นแสดงออกอย่างปลื้มปิติและตื่นเต้นยิ่งกว่า เขาจับมือมู่ซินเฟยพร้อมร้องไห้อย่างมีความสุข: "เฟยเฟย ดีจังเลย! ในที่สุดเธอก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว!"เย่เฟิงมองไปที่อีกฝ่าย นัยน์ตาลึกนั่นแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างแม้เสิ่นจี่จะแสดงออกราวดีใจมาก แต่เย่เฟิงกลับสังเกตเห็นสีหน้าเยาะเย้ยของเขาอยู่แวบหนึ่งสีหน้าเยาะเย้ยนี่ มุ่งเป้าไปที่ใครกันนะ?ในตอนนั้นก็เห็นหมอซุนหยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อทำความสะอาดแล้วก็จะเริ่มทำการฝังเข็มและในจังหวะนั้นเอง เย่เฟิงกลับก้าวไปข้างหน้าพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: "คุณหมอซุน ไม่ได้นะครับ! ถ้าคุณฝังเข็มพวกนี้ลงไป คุณหนูมู่ไม่เพียงแต่จะไม่ฟื้นแล้วยังเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วยครับ!"ทันทีที่พูดจบ
ทุกคนในตอนนี้เฝ้าดูอย่างใจจดจ่อ รอซุนกว่างซานช่วยให้คุณหนูมู่ฟื้นเห็นที่สีหน้าที่มั่นใจของหมอซุน ก่อนจะฝังเข็มเงินลงไปหนึ่งเข็มที่ตรงกลางขมับของมู่ซินเฟยจากนั้นก็ตามจุดต่างๆบนใบหน้า เช่น จุดตรงกลางระหว่างคิ้ว เป็นต้น รวมสิบกว่าจุด“พอแล้ว!”หลังทำแบบนี้ผ่านไปครึ่งวัน ซุนกว่างซานก็เช็ดเหงื่อและพูดด้วยท่าทางสงบการรักษาครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามั่นใจมาก!“เอ่อ……เอ่อ……”ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงเบาๆ ออกมาเล็กน้อยในลำคอของมู่ซินเฟย“คุณหนูมู่จะฟื้นแล้วครับ!”ซุนกว่างซานพูดอย่างยิ้มๆทุกคนที่เห็นเหตุการณ์อยู่ตรงนั้น ต่างแสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ“ดี! ดีเลย!หมอซุนนี่อาจารย์หมอสมชื่อจริงๆ ผมจะตอบ……”มู่จ้านพูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งพร้อมสีหน้าปลื้มปิติยินดีทว่าเขาพูดได้แค่ครึ่งประโยค ก็ต้องหยุดลงเสียก่อนเพราะฉากต่อไปนั้นทำให้ใต้เท้าผู้บังคับบัญชาต้องหน้าถอดสี ตกใจจนเกินจะบรรยาย!“เอ่อ! เอ่อ!……”ในลำคอของคุณหนูมู่ยังคงส่งเสียงออกมาไม่หยุด ทว่าเสียงนั้นยิ่งฟังก็ยิ่งแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆราวกับมีความเจ็บปวดทรมานและการดิ้นรนแฝงอยู่ในนั้น เหมือนสียงกรีดร้องจุกอยู่ในลำคอ ไม่สามารถร้องออก
คุณเลือกที่จะเชื่อผมหรือคุณจะถ่วงเวลาช่วยชีวิตเธอเพื่อพาเธอไปโรงพยาบาลกันล่ะ? ”“โอเค ให้คุณรักษา! ถ้าคุณช่วยลูกสาวผมได้จริงๆผมจะรับผิดก้มหัวขอโทษคุณด้วยตัวเองเลย แต่ถ้ารักษาไม่ได้ผมจะฆ่าคุณและหมอกากๆนี่ไปพร้อมกันเลย!"”มู่จ้านจ้องมองเย่เฟิงครู่หนึ่ง จนท้ายที่สุดก็กัดฟันพูดออกมาร่างกายเขาเปล่งออร่าแห่งความโหดเหี้ยมและดุร้าย เป็นลักษณะของผู้นำทหารที่ผ่านสนามรบและการฆ่าศัตรูมาแล้ว ไม่มีสงสัยว่าคำพูดนั้นของเขาจริงหรือไม่เย่เฟิงหัวเราะเบา ๆ และแสดงออกอย่างใจเย็นสงบ: "จริง ๆ แล้วหมอซุนคนนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นหมอที่ไร้ความสามารถ! วิธีการรักษาของเขาถือว่าถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะในร่างกายของลูกสาวคุณถูกคนอื่นเล่นตุกติกมาก่อนอะนะ!"“คุณหมายความว่าไง ”มู่จ้านถามขึ้นด้วยสีหน้าขรึม“นั่นคงต้องถามเขาแล้วล่ะ!”เย่เฟิงชี้ไปที่เสิ่นจี่เมื่อพูดจบ มู่จ้านก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่เสิ่นจี่ด้วยความสงสัยและตั้งคำถามเมื่ออีกฝ่ายได้ยินเช่นนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาพูดด้วยสีหน้าหม่น:“ไอ้หนุ่ม นี่หมายถึงอะไรกัน?คิดว่าตัวเองรักษาเฟยเฟยไม่ได้เลยหาแพะรับบาปงั้นสิ? ต่ำทรามนักนะ!”“ใครบอกว่า
ทันทีที่พูดออกมา สีหน้าของเสิ่นจี่ก็ถอดสีโดยสิ้นเชิง!ความหวาดกลัวและความเกลียดชังอย่างซึมลึกผ่านดวงตาเขาอยู่ชั่วครู่!ฟิ้ว!วินาทีถัดมา เสิ่นจี่ที่เพิ่งโวยวายเศร้าโศกนั้น ก็ระเบิดอารมณ์ออกมาและพุ่งไปที่หน้าต่างชั้นสองทันทีกลายเป็นว่า เขาตั้งใจจะกระโดดออกจากหน้าต่างเพื่อหลบหนี!ผู้บังคับบัญชาที่เห็นแบบนี้ก็สบถออกมาด้วยเสียงต่ำแล้วไล่ตามไปอย่างเร็วราวกับสายฟ้าถึงแม้ว่าเสิ่นจี่จะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทหารนำทหารอย่างผู้บังคับบัญชามู่ทั้งสองคนประมือกันได้ไม่กี่กระบวนท่า เสิ่นจี่ก็ถูกผู้บังคับบัญชามู่ฟาดเข้าที่ท้ายทอยจนหมดสติไม่รู้สึกตัวเมื่อถอดกางเกงชั้นนอกของเสิ่นจี่ออก ก็ได้เห็นผ้าที่พันรอบๆไว้คล้ายกับกางเกงในที่เหมือนผ้าอ้อมเป็นแบบที่นักซูโม่จากประเทศนั้นสวมใส่กัน“ฮึ!คนของประเทศซากุระ?”มู่จ้านส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาและหนักแน่น ดวงตาคู่นั้นฉายแววเย็นชาและโกรธแค้น“ผมก็ว่าแล้ว ไอ้หมานี่ไม่ใช่คนดี!”เมื่อได้เห็นฉากนี้ หลีหย่วนก็กัดฟันแล้วด่าด้วยความโกรธ สีหน้าเขาแฝงความพึงพอใจอยู่เล็กๆ"อืม......"ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงเบาๆ ดังขึ้นมา มู่ซินเฟยที
พอดีเลยเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าจะซื้อบ้านพอดี......ตอนนี้ดูท่าไม่ต้องแล้ว“เออใช่ น้องชาย คุณชื่ออะไร บัตรประชาชนเอามาไหม? ผมจะให้คนไปดำเนินเรื่องให้”มู่จ้านถามย้ำ“เย่เฟิง”เย่เฟิงแนะนําตัวเองด้วยรอยยิ้มเมื่อพูดจบ ซุนกว่างซานที่อยู่ข้างๆ มีท่าทางตกใจเล็กน้อย และด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็ถามว่า: “คุณคือเย่เฟิงเหรอ? คนที่ช่วยชีวิตซ่งเหล่าเย๋ที่ตลาดวันนั้นก็คือคุณ หมอเทวดาใช่ไหม?”เย่เฟิงพยักหน้า:“ผมเอง ทำไมเหรอครับ?”ซุนกว่างซานยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัวไปมาอย่างละอายใจพูดว่า: “มิน่าล่ะ! มิน่า …… ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าคือคุณหมอเทวดา วันนี้ผมคงไม่ทำน่าเกลียดออกมาเช่นนี้แล้ว!”เมื่อคิดถึงตอนที่เย่เฟิงเตือนตัวเองก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเขาพูดสั่งสอนด้วยคำพูดคำจาเสียดสีไป ซุนกว่างซานรู้สึกละอายใจในใจในขณะนี้ หลีหย่วนมองไปที่ซุนกว่างซานแล้วก็มองไปที่เย่เฟิง ความเคลือบแคลงสุดท้ายในใจที่เขามีต่อเย่เฟิงก็ได้หมดไปในที่สุดดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มนี่จะช่วยซ่งเหล่าเย๋จริงๆ!จากนนั้นผู้บังคับบัญชาการมู่ก็ได้เชิญเย่เฟิงลงมานั่งที่ห้องรับแขกข้างล่างอย่างอบอุ่น“เฟยเอ๋อร์ ยังไม่มาขอบคุณผู้มี
มู่จ้านไม่ปกปิดความชื่นชมที่มีต่อเย่เฟิงเลย ตั้งแต่เรียกเขาดุจพี่น้องไปจนถึงจะให้แต่งงานกับลูกสาวเขาคำพูดเขาฟังดูกะทันหัน แต่จริงๆ แล้วคิดมาอย่างดีทักษะแพทย์สูงจนซุนกว่างซานยังต้องอาย หมอเทวดาระดับนี้ถ้าได้คบค้าสมาคม ย่อมมีผลดีเกินจินตนาการได้แถมหลังหยั่งเชิงดูครั้งแรกแล้ว เรื่องความแข็งแกร่งก็โดดเด่น!ยังไม่นับข้อดีอื่นๆ ที่จะได้จากการคบค้าสมาคมกับเย่เฟิงอีกนะ คนแบบนี้เท่านั้นถึงจะสามารถพัฒนากองทัพได้ อนาคตอาจจะไร้ขีดจำกัดได้มู่จ้านนั้นชื่นชมคนมีพรสวรรค์ทั้งใจจริงๆแต่ว่าหลีหย่วนที่อยู่ข้างๆนั้นยิ่งวิตกกังวลตานี่ ยิ่งพูดยิ่งไปไกลเรื่อย!มู่ซินเฟยนี่เป็นนางในฝันเขาเลยนะ ตอนนี้มู่จ้านกลับจะแนะนํานางในฝันเขาให้พี่เขยกระจอกๆคนนี้เหรอ?“ลุงมู่ เขาเป็นพี่เขยผมครับ!”หลีหย่วนไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะ แต่เขากลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ เมื่อพูดจบ ผู้บัญชาการมู่ก็ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง:“พี่เขยคุณ? พี่เขยของพี่สาวคนไหนล่ะ?”“พี่สาวแท้ๆผม หลีเอียน”หลีหย่วนยิ้มอย่างฝืนๆเมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้บัญชาการมู่ก็ส่งเสียง“เชอะ”:“นั่นเป็นปลอมๆนี่!”ชัดเจนว่าผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์เมื
"ไม่เป็นไร! งานเลี้ยงรุ่นที่คุณชายหวงเป็นคนจัด ฉันจะไม่ไปได้ยังไง!"เย่เฟิงส่ายหัว พร้อมยิ้มบางๆเมื่อได้ยิน หลี่เวยหัวเราะเสียงดัง "ทำไมล่ะ เย่เฟิง? นายก็รู้ว่าคุณชายหวงตอนนี้ไปได้สวยเลยอยากจะเอาใจเขาใช่ไหม? นายก็ถือว่ารู้จักประจบคนเป็นนะเนี่ย ถ้าทำให้คุณชายหวงพอใจ บางทีเขาอาจให้ไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บริษัทเขาก็ได้ยังไงตอนเรียน นายก็ซักเสื้อผ้าให้คนอื่นจนชินมือแล้วนี่ ฮ่าๆๆ!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจ"เหอะๆ ใช่สิ! ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้คุณชายหวงจะเจ๋งแค่ไหน! แต่ดูจากสภาพเธอตอนนี้ ท่าทางจะประจบเขาไม่น้อยเลยสินะ? ถึงขั้นขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า?"เย่เฟิงตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคำพูดนี้ทำให้หลี่เวยโกรธจนหน้าแดง "ไปให้พ้นเลย เย่เฟิง! ไม่เจอกันหลายปี นายกลายเป็นคนต่ำช้าขนาดนี้เลยเหรอ?"ในใจเธอแอบคิดอย่างเกรี้ยวกราด (นายมันก็แค่ขยะ ยังกล้าคิดจะไปประจบคุณชายหวง หวังจะเกาะเขาด้วย?ได้ รอให้ฉันไปปั่นหัวคุณชายหวงสักหน่อย นายเจอดีแน่!)ในขณะเดียวกัน เจียงหว่านที่ได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าหวงเจี้ยนประสบความสำเร็จ เย
หญิงสาวคนนี้เห็นเย่เฟิงก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง พอจำได้ก็เบะปากแล้วพูดขึ้นเธอชื่อหลี่เวย เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเย่เฟิงเช่นเดียวกันแต่ตั้งแต่สมัยเรียน หลี่เวยก็ไม่ค่อยชอบเย่เฟิงอยู่แล้วหรือจะพูดให้ถูกก็คือ เพื่อนส่วนใหญ่ในตอนนั้น ต่างก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกตอนอายุ 18 ปี พ่อแม่ของเย่เฟิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยที่ทิเบต ทำให้เขาขาดแคลนทั้งเงินและค่าใช้จ่ายเพื่อหาเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย เย่เฟิงต้องทำงานพิเศษในโรงเรียน เช่น ซักผ้า ทำความสะอาด และวิ่งซื้อของให้เพื่อนแม้กระทั่งกางเกงใน รองเท้าเหม็นๆ และถุงเท้าสกปรกของเพื่อนผู้ชายบางคน เย่เฟิงก็เป็นคนซักเรื่องนี้ทำให้เพื่อนหลายคนมองเย่เฟิงด้วยความดูถูกแต่ก็มีเพื่อนบางคนที่แตกต่างออกไป ซึ่งเจียงหว่านเป็นหนึ่งในนั้น สมัยนั้น เธอไม่เพียงไม่ดูถูกเย่เฟิง แต่ยังมักจะซื้อข้าวให้เย่เฟิงอยู่บ่อยๆจนมีข่าวลือในโรงเรียนว่า เจียงหว่านชอบเย่เฟิงเพียงแต่ ตอนนั้นเย่เฟิงมีความรู้สึกด้อยค่า แม้ว่าเขาจะแอบชอบเจียงหว่านเช่นกัน แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะแสดงออก"หวงเจี้ยนอาจลืมเชิญนายล่ะมั้ง! เย่เฟิง ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว มาด้วยกันสิน
เวลา 3 ทุ่ม เย่เฟิงมาถึงโรงแรมโกลด์เดนรอยัลโรงแรมแห่งนี้เป็นของหลีหย่วนเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลหลีหลีหย่วนพาอาเจียงและเหล่าหยู ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทมายืนรออยู่หน้าประตูตั้งแต่เนิ่นๆ"พี่เขย!""คุณเย่!"เมื่อเห็นเย่เฟิง พวกเขาตะโกนพร้อมกัน"พี่ พี่คิดว่าโรงแรมนี้เป็นยังไง? ชอบไหมครับ?"หลีหย่วนเดินมาโอบไหล่เย่เฟิงแล้วถามด้วยรอยยิ้ม"ดีนะ ดูดีเลย"เย่เฟิงพยักหน้า"ถ้าชอบ งั้นโรงแรมนี้ผมยกให้พี่เลย! จากนี้ไป พี่คือเจ้าของที่นี่!"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง พร้อมผายมือเย่เฟิงได้ยินก็ทำหน้าอึ้ง "ยกให้ฉัน? ฉันไม่เอาหรอก! ฉันไม่มีเวลามาบริหารจัดการ แล้วฉันก็ไม่เก่งเรื่องนี้ด้วย""โธ่ พี่ จะลงมือเองทำไมล่ะ? ก็มีผู้จัดการโรงแรมอยู่แล้วนี่ พี่แค่รอรับเงินก็พอ!""ผมไม่สนล่ะ ยังไงพี่ก็ต้องรับไว้ ถ้าไม่รับ…ถ้าไม่รับ ผมจะฟ้องพี่สาวผมว่าพี่แอบไปนวดร้านแบบนั้นมา!"หลีหย่วนพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์"ไปให้พ้นเลย! ไอ้เด็กนี่ แกนี่มันแสบจริงๆ!"เย่เฟิงยิ้มขำ พร้อมด่าแบบไม่จริงจังนัก"ฮ่าๆๆ…"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพาเย่เฟิงเดินเข้าไปในโรงแรมเมื่อขึ้นไปถึงห้องส่วนตัวขนาดใหญ่บนชั
หลี่ชื่อสะบัดแขนของตัวเองดู พบว่าไม่เพียงแค่หายดี แต่ยังดูแข็งแรงและทรงพลังขึ้นอีกด้วย!ยิ่งไปกว่านั้น…"นี่มัน…""ฉันทะลุถึงระดับพลังแปรสภาพแล้วเหรอ? ฉันไม่เพียงแค่หายดี แต่ยังทะลุขีดจำกัดได้อีก?"หลี่ชื่อเบิกตากว้าง เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ!วินาทีถัดมา เขาดีใจจนตาแดง น้ำตาไหลพรั่งพรูอีกครั้งน้ำตาแห่งความปิติ!"ขอบคุณท่านมาก! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านคือผู้มีพระคุณที่สร้างชีวิตใหม่ให้กับผม! ผมหลี่ชื่อจะขอรับใช้ท่านเย่ตลอดไป!"หลี่ชื่อคุกเข่าลงกับพื้น เสียงสั่นเครือพลางเอ่ยขอบคุณเย่เฟิงมุมปากกระตุก ในใจคิดว่าหมอนี่บ่อน้ำตาตื้นเกินไปไหม นิดๆ หน่อยๆ ก็ร้องไห้ซะละ?"ไม่ต้องถึงขั้นเรียกฉันว่าอาจารย์หรอก แค่ตั้งใจทำงานให้ฉันก็พอ!""แต่จำไว้ ฉันสามารถเพิ่มพลังให้นายได้ ฉันก็สามารถทำลายมันได้เหมือนกัน ถ้าวันไหนที่ฉันรู้ว่านายทรยศฉัน นายคิดเองแล้วกันว่าผลจะเป็นยังไง!"เย่เฟิงโบกมือ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกฝ่ายที่อายุมากกว่าเย่เฟิงสองสามปี ย่อมไม่เหมาะสมที่จะเป็นศิษย์ของเขา ดังนั้นเรื่องรับเป็นศิษย์ก็ช่างมันเถอะ…อย่างไรก็ตาม หลี่ชื่อจะเป็นกำลังสำคัญให้เย่เฟิงได้ เพราะมีบ
หลังจากออกมาจากวิลล่าตระกูลเฉา เย่เฟิงเห็นเพียงเงาร่างที่ดูสิ้นหวังเดินอยู่ข้างหน้า แขนขวาของเขาปล่อยห้อยไร้เรี่ยวแรงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง หลี่ชื่อหันกลับไปมอง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีทันที"นายมาเพื่อฆ่าฉันใช่ไหม?"หลี่ชื่อบังคับตัวเองให้ฮึดสู้ พลางจ้องมองเย่เฟิงด้วยสายตาเคร่งเครียดและถามด้วยความโกรธ"เปล่า!"เย่เฟิงส่ายหัว"เหอะๆ ไม่ใช่เหรอ? นายโหดเหี้ยมขนาดนี้ ถึงกับทำลายฉันจนหมดสภาพ ฉันนึกว่านายตามมาเพื่อเอาชีวิตฉันเสียอีก"วินาทีต่อมา เขามองเย่เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าเมื่อคิดถึงแขนขวาที่ถูกทำลาย หลี่ชื่อก็รู้สึกเจ็บปวดและโกรธเคืองในใจ!เย่เฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อรับรู้ถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย เขาถามพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า "นายมีแผนอะไรหรือเปล่า? ยังคิดจะทำร้ายครอบครัวเขาอีกหรือเปล่า?"ระหว่างพูด เขาพลางชี้ไปยังวิลล่าของตระกูลเฉาหลี่ชื่อส่ายหัว "ไม่มีแผนอะไรหรอก ฉันกลับไปที่สำนักไม่ได้แล้ว! อาจารย์บอกว่าฉันไร้พรสวรรค์เกินไป เลยไล่ฉันลงจากเขา! ส่วนจะไปทำร้ายเขาอีกไหมนั้น? เหอะๆ...มันไม่มีความหมายอะไรแล้ว…"เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เฟิงอุทานเบาๆ ใ
เฉาเหนียนไม่สนใจใดๆ วิ่งเข้าไปตรงหน้าหลี่ชื่อ “แกจะบอกว่า ตอนที่ชุ่ยเจี๋ยเลิกกับฉัน เธอกำลังตั้งท้องงั้นเหรอ? แก…แกเป็นลูกชายฉันงั้นเหรอ?แกเป็นลูกชายฉันงั้นเหรอ?หลี่ชื่อเห็นเฉาเหนียนวิ่งเข้า สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเดือดดาลทันที เขาบีบคออีกฝ่ายโดยตรง“ไอ้คนหัวโบราณเห็นแก่ตัว! ฉันจะฆ่าแกซะ!”หลี่ชื่อตาแดงก่ำด้วยความกรุ่นโกรธ อยากจะบีบคอเฉาเหนียนให้ตายคามือแต่แล้วก็ตัดใจลงมือทำไม่ได้…ตุบ!หลังจากที่สีหน้าแปรเปลี่ยนไปหลายหน หลี่ชื่อก็เตะเฉาเหนียนจนกระเด็นออกไป “ไปซะ! ฉันไม่ใช่ลูกชายอะไรของแกหรอก แกไม่คู่ควร!”เฉาเหนียนลุกขึ้นจากพื้น แล้วหันไปมองลู่ไฉ่หยุนด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุดขีด“ฉันไม่ได้ส่งคนไปฆ่าชุ่ยเจี๋ย! ฉันไม่ได้ทำ!”“ใครเป็นคนทำ? ไฉ่หยุน บอกฉันมา ใครเป็นคนทำ?”“แกใช่ไหม? แกใช่ไหม?”เขาหันไปตะคอกใส่คุณผู้หญิงเฉาพร้อมกับสีหน้าโกรธจัดลู่ไฉ่หยุนมองเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว เธอถูกเฉาเหนียนทำตกใจจนสะดุ้งโหยง ก่อนที่ความอับอายจะเปลี่ยนเป็นโกรธแทน“ใช่! ฉันทำเอง แล้วยังไง? ใครสั่งให้นังแพศยานั่นตั้งท้องลูกของคุณล่ะ!”“ถ้าวันนั้นคุณรู้ว่ามีลูกชายอยู่ข้างนอก แล้วกลับไปหานังแพศยาน
เมื่อเผชิญกับเสียงโวยวายของ คุณผู้หญิงเฉา ลู่ไฉ่หยุน เย่เฟิงขมวดคิ้วก่อนตวาดออกมา“หุบปาก! เรื่องที่ผมจะฆ่าหรือไม่ฆ่า ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมาสั่ง!”คำพูดนี้ทำให้คุณผู้หญิงเฉาแสดงสีหน้าโกรธจัด“ถ้าคุณไม่ฆ่าเขา เราก็จะไม่จ่ายเงินให้คุณ!”เฉาเริ่นเสริมด้วยน้ำเสียงแค้น“คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่า รับเงินคนแล้วต้องช่วยจัดการปัญหา! ถ้าคุณไม่ฆ่าเขา เขาก็จะกลับมาฆ่าครอบครัวเรา!”เย่เฟิงหรี่ตาลง ปล่อยแววตาเย็นชาอันตราย ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“ถ้าคุณไม่อยากจ่ายเงิน งั้นลองฆ่าเขาเองสิ!”คำพูดนี้ทำให้คุณผู้หญิงเฉาและเฉาเริ่นสะดุ้งสุดตัว พวกเขาถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัวใครจะกล้าล่ะ?ถ้าเย่เฟิงไม่จัดการ หลี่ชื่อถึงแม้จะแขนหัก แต่ก็ยังสามารถฆ่าพวกเขาได้ทั้งครอบครัว!“อย่า... อย่าโกรธเลย!”เฉาเริ่นรีบยกมือขึ้นห้ามในขณะนั้นเอง เฉาเหนียนไม่ได้สนใจคำพูดของภรรยาและลูกชาย เขามองหลี่ชื่อด้วยสายตาสงสัย“แม่ของคุณ... ชื่ออะไร?”หลี่ชื่อพูดซ้ำหลายครั้งว่าเขามาเพื่อแก้แค้นให้แม่ นั่นทำให้เฉาเหนียนรู้สึกสงสัยในใจเมื่อเขามองหน้าหลี่ชื่ออย่างละเอียด ก็พบว่ารูปลักษณ์บางส่วนของหลี่ชื่อ มีความ
"แกพูดอะไร? บอกว่าพลังฉันห่วยแตกงั้นเหรอ?""ไอ้หนุ่ม แกอยากตายใช่ไหม! ฉันจะฆ่าแกให้ได้!"คำพูดของเย่เฟิงเหมือนเหยียบหางของหลี่ชื่อ ทำให้เขาเดือดดาลจนหน้าบิดเบี้ยว ก่อนจะพุ่งเข้าหาเย่เฟิงด้วยความโกรธ"พ่อ! นี่เป็นโอกาส เรารีบหนีกันเถอะ! พ่อเชื่อจริงๆ เหรอว่าเย่เฟิงจะสู้ไหว?"เฉาเริ่นพูดพร้อมหันมองรอบๆ ด้วยแววตาหวาดหวั่น"เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้ว ดันไปยั่วโทสะมัน! ให้มันตายไปเถอะ อย่างน้อยก็ดึงเวลาให้เราได้หนี!"ลู่ไฉ่หยุนพูดเสริม"หนี? จะหนีไปไหน? ถ้าวันนี้จัดการไม่ได้ ต่อให้เราหนีไปสุดขอบโลกก็ไม่รอดอยู่ดี!"เฉาเหนียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในขณะนั้น หลี่ชื่อพุ่งเข้าถึงตัวเย่เฟิง พร้อมซัดหมัดเข้าใส่หัวของเขาอย่างเต็มแรงเสียงหมัดแหวกอากาศจนเกิดเป็นเสียงระเบิดเล็กๆ ก่อนจะเข้าใกล้เย่เฟิงในพริบตาแต่ในช่วงเสี้ยววินาที เย่เฟิงก็ขยับ!เขาปล่อยหมัดสวนออกไป เรียบง่ายและตรงไปตรงมา ปะทะเข้ากับหมัดของหลี่ชื่อโดยตรงปัง!เสียงดังก้องเหมือนฟ้าผ่าตามมาแขนของหลี่ชื่อบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด เขากระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อหยุดยืนได้ แขนขวาของเขาก็อ่อนแรงเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไร้เรี่ยว
หลี่ชื่อ ซัดหมัดเข้าที่หน้าอกของอาจารย์เยียน ทำให้ยอดฝีมือตระกูลลู่กระอักเลือดกระเด็นไปไกล“ระดับพลังมืดทมิฬช่วงท้าย?”อาจารย์เยียนพยายามยันตัวลุกขึ้น หลังจากกระอักเลือดอีกครั้ง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ“แค่นายก็คิดจะฆ่าฉัน?”หลี่ชื่อแค่นเสียงเย็น พร้อมปล่อยพลังอำมหิตออกมาจากตัว“คุณไฉ่หยุน รีบพาคุณเฉาและคุณหนูเฉารีบหนีไป! ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ได้แค่ถ่วงเวลาไว้เท่านั้น!”อาจารย์เยียนกัดฟันก่อนจะพุ่งเข้าหาหลี่ชื่ออีกครั้งครอบครัวเฉาถึงกับยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง“เป็นไปได้ยังไง? อาจารย์เยียนสู้ช่างจัดสวนคนนี้ไม่ได้จริงๆ เหรอ?”เฉาเริ่นพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ“ทำยังไงดี? เรารีบหนีกันเถอะ!”ลู่ไฉ่หยุนดูเหมือนจะตกอยู่ในความหวาดกลัวเฉาเหนียนหันไปมองเย่เฟิง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงกังวล“คุณเย่... คุณ... คุณจัดการหลี่ชื่อได้ไหม?”เย่เฟิงยิ้มเล็กน้อย “ถ้าผมทำไม่ได้ ผมจะยังยืนอยู่ที่นี่ทำไม?”คำตอบที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเขาทำให้เฉาเหนียนรีบอ้อนวอนทันที“คุณเย่ ได้โปรดรีบจัดการเจ้าคนร้ายคนนี้เถอะ!”เย่เฟิงพูดเสียงเรียบ “ผมบอกแล้ว ถ้าไม่มีห้าพันล้าน เรื่องนี้จบไม่ได้!”“ได้! ห้าพ