“ผมเคยเตือนลุงรองของหลีเอียนไปแล้วว่าวัตถุดิบที่ได้มาจากประธานสิงนั้น เป็นวัตถุดิบคุณภาพต่ำที่ผ่านการแช่ด้วยสารเคมี แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อ!ใช้วัตถุดิบแบบนั้นผลิตยา จะไม่ให้สินค้ามีคุณภาพต่ำได้ยังไง! นี่ไง ตอนนี้ตัวแทนจำหน่ายมาเคลมถึงที่เลย!” เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พอได้ยินดังนั้น สวีเพ่ยเพ่ยก็หัวเราะพร้อมกับพูดประชด “ทำไมไม่มาแต่เช้า มาเอาตอนกลางคืนแบบนี้? บอกมา ฝีมือนายใช่ไหม?”“หึๆ…” เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ สวีเพ่ยเพ่ย ซึ่งเป็นแม่ยายของเย่เฟิง ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยความอับอายและโกรธนั้นกลับดูโล่งใจขึ้นมา ก่อนจะมองเย่เฟิงด้วยสายตาดุๆ พร้อมพูดด่าแบบขำๆ ว่า “ไอ้เด็กแสบ นายนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ!” หลีหย่วนยกนิ้วโป้งให้เย่เฟิงพร้อมพูดว่า “พี่เขย สุดยอดมาก! ตัวแทนจากต่างจังหวัดใหญ่ๆ อย่างหงเม่าหมิงยังเป็นพวกเดียวกับพี่อีกเหรอ? ฟังพี่หมดเลย?”เย่เฟิงยิ้มเบาๆ ก่อนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ถึงขั้นสนิทกันหรอก แต่เมื่อมีผลประโยชน์ชัดเจน พวกเขาก็ต้องรู้ว่าจะยืนข้างไหน” จากนั้นไม่นาน เหล่าตัวแทนจำหน่ายและตัวแทนที่ถูกส่งมาก็ทยอยกันเข้ามาแต่ละคนเต็มไปด้วยความโก
หงเม่าหมิงแค่นเสียงเย็นชา “จะแก้ไขงั้นเหรอ? ได้เลย! ตามสัญญา ถ้าสินค้าของพวกคุณมีปัญหาด้านคุณภาพ ต้องชดใช้สิบเท่าจากมูลค่าที่สั่งซื้อของฉันตอนนี้ยอดสั่งซื้อของฉันกับบริษัทคุณก็ไม่ได้เยอะมาก ก็แค่พันห้าร้อยล้านหยวนเอง! งั้นพวกคุณชดใช้เจ็ดหมื่นห้าพันล้านหยวนให้ฉันได้ไหม?”“ฉันเองก็สั่งซื้อไปหนึ่งหมื่นล้านจากร้านยาฉางซาน! งั้นก็ชดใช้ให้ฉันหนึ่งหมื่นล้าน!”“ของฉันก็ไม่เยอะ แค่สองร้อยห้าสิบล้าน งั้นก็ชดใช้ให้ฉันสองหมื่นห้าพันล้าน พวกคุณจ่ายไหวไหม?”“ของฉันก็ห้าพันล้าน…” เหล่าตัวแทนต่างๆ ต่างเริ่มพูดกันขึ้นมาทีละคน เนื่องจากพวกเขาเคยสั่งซื้อเพิ่มไปเยอะมาก เพราะเห็นว่ายาพวกนี้ขายดีอีกทั้งหลี่เทียนกังก็ยังขึ้นราคายาแบบบ้าคลั่ง และลดปริมาณสินค้าต่อราคาให้ต่ำลงไปเรื่อยๆจนพวกเขาต้องสั่งเพิ่มเมื่อหลี่เทียนกังได้ยินตัวเลขที่พวกตัวแทนเหล่านี้บอก ใบหน้าของเขาก็กระตุกผู้อาวุโสหลีแทบล้มทั้งยืนและเกือบหมดสติคำสั่งซื้อที่เคยทำให้พวกเขาภูมิใจตอนนี้กลับกลายเป็นคำสั่งประหารชีวิตแทน“พวกคุณ… พวกคุณนี่มันขูดรีดกันชัดๆ! ทำไมต้องมาเรียกเงินเป็นพันๆ หมื่นๆ ล้าน ชดใช้แบบนี้ ไม่ไปปล้นเอาล่ะ?”
“ใช่แล้ว ต้องให้คุณหลีเอียนเป็นคนดูแลบริษัทยาตระกูลหลีต่อไป!”“ต้องขอบคุณคุณหลีเอียนและคุณเย่ที่เตือนเรา ไม่อย่างนั้นเราคงจะเจอปัญหาใหญ่!”“แล้วคุณหลีเอียนกับคุณเย่อยู่ที่ไหน? ทำไมไม่เห็นเลย?”“คนที่ชื่อหลีเทียนกังน่ะ ไปให้พ้นซะ!”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลีเทียนกังก็โกรธจนเอามือกุมหน้าอก เกือบจะหัวใจวายตายไปตรงนั้นผู้อาวุโสหลีหน้าแดงก่ำ ถ้าไม่มีคนคอยประคองไว้ เกรงว่าจะยืนไม่อยู่ขณะนั้นเอง สวีเพ่ยเพ่ยที่ได้ยินคำเรียกร้องของบรรดาตัวแทนก็หัวเราะ “จริงเหรอ? ตัวแทนเหล่านี้ต่างก็เรียกร้องให้เอียนเอ๋อร์มาบริหารบริษัทเหรอ?”หลีเทียนหยางก็มีสีหน้าแสดงความดีใจ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะใจ “แม่ ละครเรื่องนี้สนุกไหม?” เย่เฟิงถามด้วยรอยยิ้ม“สนุกสิ! สนุกมาก!”“สาแก่ใจไหม?”“สาแก่ใจสุดๆ! ดูสิ หน้าตาผู้อาวุโสกับพี่รองสิ น่าสมเพชจริงๆ!” สวีเพ่ยเพ่ยหัวเราะ พร้อมทั้งลบความขุ่นเคืองและความแค้นไปได้หมดสิ้น“พอแล้ว ในเมื่อสะใจแล้ว งั้นเรากลับกันเถอะ” เย่เฟิงกล่าวสวีเพ่ยเพ่ยชะงักไป หลีเทียนหยางและหลีหย่วนก็ดูงุนงง“กลับ? ทำไมต้องกลับล่ะ? ก็เขาเรียกร้องให้เอียนเอ๋อร์มาดูแลบริษัทนี่”สวี
คืนนั้น หลังจากที่เย่เฟิงและคนอื่นๆ ออกมาแล้ว ทุกคนก็กลับมาที่บ้านของหลีเอียนที่หมู่บ้านหรู ยู่กวนตี้ ที่นี่เป็นบ้านพักวิลล่า ดังนั้นแม้ทั้งครอบครัวจะพักค้างคืนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีห้องพอเพิ่งให้แม่บ้านทำอาหารทานเสร็จ โทรศัพท์ของหลีเอียนก็ดังขึ้น“ใครโทรมา?” สวีเพ่ยเพ่ยถามด้วยความสนใจ“ลุงรองน่ะค่ะ!” หลีเอียนพูดพลางรับสาย ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลุงรอง มีธุระอะไรเหรอคะ?”“พวกเธอไปไหนกัน รีบกลับมาเดี๋ยวนี้!” หลีเทียนกังพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังคงแข็งกร้าว“ทำไมเราต้องกลับล่ะคะ? ลุงรองมีธุระอะไรก็มาเจอกันที่บ้านฉันแล้วกัน!” หลีเอียนพูดจบก็วางสายทันที“ฮัลโหล? ฮัลโหล?”“บ้าชิบ!” หลีเทียนกังโกรธจัดจนปามือถือทิ้งจนมันแตกกระจาย“เด็กนั่นว่ายังไง?” หลี่เยว่ผิงถาม“เธอวางสายใส่ฉัน บอกให้ไปบ้านเธอ! ไม่มีหรอกความเคารพผู้อาวุโส!” หลีเทียนกังพูดด้วยความเคียดแค้น“เป็นเด็กปากเสีย! นี่เธอคิดว่าเก่งนักหรือไง? พ่อคะ แล้วจะทำยังไงดีคะ? หรือเราต้องไปขอร้องเธอจริงๆ?” หลีถิงถามอย่างไม่พอใจ“แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? จะให้ไปเข้าคุกหรือไง?” หลีเทียนกังพูดตอบด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง การไปขอร
“นี่มีสิทธิ์อะไรมาพูดหา? แกมันก็แค่ไอ้ผู้ชายไร้ค่า ไอ้หน้าขาว! หุบปากไปซะ!” หลีถิงชี้ไปที่เย่เฟิงพลางตะโกนด่าอย่างเกรี้ยวกราดเพี๊ยะ!เสียงนั้นยังไม่ทันจบ หลีเอียนก็ตบหน้าหลีถิงทันที “หลีถิง ฟังให้ดีนะ! ถ้าแกกล้าด่าสามีฉันอีกครั้ง ฉันจะตบแกอีกทุกครั้ง!”บรรยากาศของประธานสาวคนสวยเผยออกมาอย่างไม่เกรงใจ“แก…แก…” หลีถิงกุมแก้มตนเอง มองหลีเอียนด้วยความโกรธแค้น แต่ครอบครัวพวกเขาต้องพึ่งพาหลีเอียนจึงไม่กล้าตอบโต้“เอียนเอ๋อร์ พวกเราก็ครอบครัวเดียวกัน จะให้เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ? คุณย่าของเธอให้พวกเรามาขอร้องเธอแล้ว ต่างคนต่างหาทางออกกันดีไหม? ฉันจะถอนตัวจากการบริหารบริษัท ให้เธอเข้ามาดูแลต่อ ไม่ดีหรือไง?”หลีเทียนกังถอนหายใจลึกๆ พลางเปลี่ยนท่าทีให้อ่อนลงหลีเอียนแค่นเสียงเยาะเย้ย “หึ…ตอนนี้ถึงรู้จักหาทางออกดีๆ งั้นเหรอ? ลุงรอง พวกคุณกลับไปได้แล้ว! ตอนที่ย่าของฉันไล่พวกเราออกจากตระกูลหลี แถมยังริบหุ้นในธุรกิจของตระกูลทั้งหมดไป จำได้ไหม?ถ้าจะให้ฉันกลับไปบริหารบริษัท ย่าต้องมาเองและพูดขอโทษฉันด้วยตัวเอง!คำพูดของพวกคุณ ฉันไม่เชื่อ!”ความหมายคือ ครอบครัวของหลีเทียนกังทั้งสามคน ไม
สวีเพ่ยเพ่ยแม้จะรู้สึกสะใจ แต่ก็อดกังวลไม่ได้ เธอถามด้วยน้ำเสียงลังเล “เอียนเอ๋อร์ เธอให้คุณย่ามาขอโทษเธอด้วยตัวเอง แบบนี้…จะเป็นไปได้ไหม? คุณย่าของเธอน่ะ เป็นคนที่รักษาหน้าตาที่สุดเลยนะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลีเทียนหยางก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ยังมีเรื่องนี้ด้วยหรือ? เอียนเอ๋อร์ แบบนี้มันไม่มากไปหน่อยเหรอ? นั่นมันคุณย่าของเธอนะ!”หลีเอียนกัดริมฝีปากของตัวเองแล้วตอบว่า “มากไปเหรอ? ย่าบังคับให้ฉันแต่งงานกับฉู่เทียนหลง ไม่มากไปเหรอ? ย่าผิดคำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มากไปเหรอ? ย่าไล่พวกเราออกจากตระกูล แล้วยังริบหุ้นที่เป็นของเราไปอีก มันไม่มากไปเหรอ? ย่ายังจัดงานเลี้ยงยินดีกับลุงรอง แล้วยังเรียกพวกเราไปเพียงเพื่อจะเยาะเย้ย ดูถูก ไม่มากไปหรือไง?”ไม่กี่คำที่พูดออกมา ก็ทำให้หลีเทียนหยางถึงกับพูดไม่ออก! เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ไม่พูดอะไรออกมาอีก“มาแน่นอน! คุณย่าจะต้องมา! เพราะเธอรักหน้าตามากถึงขนาดนั้น ถ้าต้องเลือกระหว่างขึ้นศาลหรือเข้าคุก แบบไหนจะทำให้เธอเสียหน้ามากกว่ากัน?” เย่เฟิงพูดแทนคำตอบให้กับคำถามของแม่ยายเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในห้องก็ยังคงแ
ในตอนนั้นเอง เย่เฟิงคว้ามือของหลีเอียนมากุมไว้แน่น หลีเอียนรู้สึกถึงความมั่นคงในใจ สายตาของเธอจ้องตรงไปยังผู้อาวุโสหลีอีกครั้ง ความกดดัน ความไม่ยุติธรรม และความอึดอัดที่เธอได้รับจากผู้อาวุโสมานานได้ถาโถมเข้ามาในใจ“คุณย่าคะ ย่าไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำกับหนูบ้างเลยเหรอคะ?” หลีเอียนถามผู้อาวุโสหลี“หึ! ฉันมีอะไรให้ต้องรู้สึกผิด?” ผู้อาวุโสหลีแค่นเสียงเย็นชา แล้วถามกลับอย่างแข็งกร้าว“หลีเอียน แกนี่มันปีนเกลียวจริงๆ! ย่าของแกยอมมาหาเองขนาดนี้แล้ว ยังไม่พออีกเหรอ? ฉันถามแค่ว่า แกจะยอมกลับไปดูแลบริษัทยาไหม? แล้วช่วยเคลียร์ปัญหากับพวกตัวแทนจำหน่ายให้เรียบร้อย?” หลีเทียนกังถามด้วยสีหน้าหนักแน่นมีผู้อาวุโสอยู่ตรงนี้ เขาจึงมีท่าทีแข็งกร้าวอีกครั้ง“นั่นน่ะสิ! ตอบมาเลยเถอะ!”“ทำไม? จะให้คุณย่าคุกเข่าขอร้องแกอีกเหรอ? หลีเอียน แกไม่กลัวฟ้าผ่าเลยหรือไง?” หลี่เยว่ผิงและหลีถิงเองก็กล่าวต่อว่าด้วยวิธีบีบบังคับเช่นกัน!หลีเอียนไม่ได้สนใจพวกเขา เพียงมองผู้อาวุโสหลีด้วยดวงตาที่แสดงออกถึงความผิดหวังเสี้ยวสุดท้ายออกมาวินาทีต่อมา บนใบหน้าของเธอก็เยือกเย็นราวกับเก็บซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้
“พรุ่งนี้ ไปดำเนินการโอนหุ้นที่บริษัทซะ! ถ้าแกไม่กลัวกรรมตามสนอง!” ผู้อาวุโสหลีชี้นิ้วมาที่หลีเอียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวจากนั้นเธอก็มองไปที่เย่เฟิงด้วยสายตาเย็นชา “ไอ้หน้าขาวแซ่เย่ นี่คงเป็นแผนชั่วที่แกวางไว้ลับหลังสินะ? แกหวังจะฮุบสมบัติของตระกูลหลีผ่านทางหลานสาวของฉันใช่ไหม?”เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเยาะ “ผู้อาวุโส คุณคิดมากไปแล้ว! ธุรกิจของตระกูลหลี ผมไม่คิดจะชายตามองเลยด้วยซ้ำ”พูดเป็นเล่น ถงว่านจินเคยเสนอหุ้น 20% ของถงฟากรุ๊ปให้ตน ตนยังปฏิเสธไปแล้วเลยจะมาสนใจธุรกิจของตระกูลหลีได้ยังไง?“ฮ่า…ฮ่าๆๆ…ช่างเป็นหนุ่มที่โอหังจริงๆ!”“แค่ก! แค่ก…แค่ก!”ผู้อาวุโสหลีหัวเราะเยาะสองสามครั้ง ก่อนจะไอออกมาอย่างรุนแรงเธอเอาผ้าเช็ดปากขึ้นมาปิดที่ปาก บนผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือดหญิงชราแห่งตระกูลหลีผู้นี้ โกรธจนกระอักเลือด“แม่…แม่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”หลีเทียนหยางเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปพยุงแต่กลับถูกผู้อาวุโสหลีสะบัดออกอย่างแรง “อย่ามายุ่งกับฉัน! นี่ล่ะลูกสาวที่แกสั่งสอนมาอย่างดีจริงๆ!ไปกันเถอะ!”หลีถิงกัดฟันกรอด “หลีเอียน แล้วก็ไอ้หน้าขาวแซ่เย่ กรรมต้องตามสนองพวกแกแน
ตระกูลสวี่เริ่มต้นธุรกิจจากการค้าของเก่า จึงมีธุรกิจจัดการประมูลขนาดใหญ่อยู่ในครอบครองหลายแห่งด้วยเหตุนี้ ตระกูลสวี่จึงเคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับตระกูลกู่เมื่อหลายปีก่อน ตระกูลกู่มีเหตุจำเป็นบางประการที่ทำให้ไม่สามารถจัดการประมูลในพื้นที่ของตัวเองได้ จึงต้องใช้บริการของตระกูลสวี่ด้วยความร่วมมือนี้ ทำให้ทั้งสองตระกูลมีความเกี่ยวข้องกันในระดับหนึ่งไม่นานมานี้ ตระกูลกู่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับ “หยางหยวนตัน” ซึ่งเป็นยาเม็ดสมุนไพรที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงสังคมชั้นสูงของหยุนเฉิงมีข่าวลือว่าหยางหยวนตันมีสรรพคุณยอดเยี่ยม และถูกขายในราคาสูงถึงหลายสิบล้านต่อเม็ดต้องรู้ว่า ก่อนหน้านี้ธุรกิจเกี่ยวกับยาสมุนไพรในหยุนเฉิงและพื้นที่โดยรอบ ล้วนอยู่ภายใต้การผูกขาดของตระกูลกู่ด้วยเหตุนี้ ตระกูลกู่จึงส่งกู่เหมิง ผู้ดูแลของตระกูลออกมาสืบหาต้นตอของหยางหยวนตันลูกชายคนเล็กของตระกูลกู่ กู่รุ่ย ซึ่งเป็นคนซุกซนและไม่ชอบฝึกวิชาตามกฎของตระกูลฉวยโอกาสติดตามกู่เหมิงมาที่หยุนเฉิงด้วยเมื่อมาถึงหยุนเฉิง กู่เหมิงได้ติดต่อกับสวี่หงจ่านเพื่อขอความช่วยเหลือในการสืบเรื่องหยางหยวนตันส่วนสวี่ซีเหย
โดยเฉพาะตระกูลสวี่ที่เคยร่วมงานกับตระกูลกู่มาก่อน ยิ่งรู้ดีถึงความแข็งแกร่งและรากฐานที่ลึกซึ้งของตระกูลกู่ไม่เช่นนั้น สวี่หงจ่านในฐานะหัวหน้าตระกูลสวี่ก็คงไม่ยอมก้มหัวให้มัคนายกของตระกูลกู่"คุณชายกู่จะต้องไม่เป็นอะไร! ต้องปลอดภัยแน่!"สวี่หงจ่านพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่"ใช่ค่ะ! คุณชายกู่จะต้องปลอดภัย!"สวี่ซีเหยียนกล่าวด้วยท่าทีภาวนามัคนายกกู่พูดเสียงเย็น "หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น"ในขณะนั้นเอง มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อนเมื่อสวี่ซีเหยียนและพ่อของเธอ รวมถึงมัคนายกกู่เห็นพวกเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที"เย่เฟิง หลีเอียน? พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?"สวี่ซีเหยียนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชามัคนายกกู่มองเย่เฟิงด้วยสายตาเย็นยะเยือก "ไอ้หนุ่ม ฉันไม่มีเวลามาเสียกับแกนะ แต่แกยังกล้ามายืนเสนอหน้าอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ?"เย่เฟิงหัวเราะเยาะ "เมื่อกี้ฉันได้ยินพวกคุณกำลังภาวนาให้คุณชายกู่ปลอดภัย... น่าเสียดายจริงๆ""ฉันแค่มาบอกพวกคุณล่วงหน้าไว้ก่อนว่า โรงพยาบาลนี้ช่วยชีวิตเขาไม่ได้หรอก!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของสวี่ซีเหยียนและพ่อของเธอ รวมถึงมัคนายกกู่ก็เปลี่ยนไปทันที"ไอ้หนุ่ม แกแช่
เย่เฟิงที่มองเห็นบาดแผลของคุณชายกู่เมื่อครู่ ก็รู้แน่ชัดว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีทางรักษาเขาได้แน่!หึๆ ท่าทีของสวี่ซีเหยียนกับพ่อของเธอ ทำให้เย่เฟิงรู้สึกถึงโอกาสที่จะฆ่าคนได้อยากให้คุณชายกู่รอดชีวิตงั้นเหรอ?ชักจะสนุกแล้วสิ!หลังจากนั้น เย่เฟิงก็ทุ่มสมาธิช่วยหลี่ชื่อต่อไป โดยส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างของเขา พร้อมกับใช้วิชาเข็ม “เก้าพลิกฟื้นพลังหยาง” จากคัมภีร์มังกรทองหลี่ชื่อที่เดิมทีแพทย์ตัดสินว่าไม่มีทางรอด ตอนนี้กลับฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน...หลี่ชื่อค่อยๆ ลุกจากเตียง แม้ใบหน้าจะยังซีดเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถยืนและเดินได้แล้ว"พักฟื้นอีกสักระยะ แล้วนายจะหายดี!"เย่เฟิงยิ้มพลางพูดหลี่ชื่อจ้องมองเย่เฟิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แววตาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณทันใดนั้น เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น "คุณเย่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม! ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้เลย!"เย่เฟิงรีบดึงเขาขึ้นมา "พูดแบบนั้นทำไม? ฉันช่วยนายก็เพราะนายบาดเจ็บเพื่อปกป้องลูกสาวของฉัน"หลี่ชื่อยิ้มกว้างอย่างซื่อๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยความแน่วแน่ "แต่สำหรับผม คุณเย่คือผู้ให้ชีวิตใหม่ ผมยอมมอบชีวิตนี้ให
หลีเอียนรีบดึงนั่วนั่วให้ถอยออกมา ดวงตาจ้องไปยังอีกฝ่ายด้วยความโกรธ เธอไม่คิดเลยว่าฝ่ายนั้นจะหยิ่งยโสถึงขั้นใช้กำลังโดยไม่พูดจาเย่เฟิงแค่นหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งยังคงส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างหลี่ชื่อ ส่วนแขนอีกข้างสะบัดออกไปปัง!เสียงกระแทกดังสนั่น พร้อมกับแรงลมสะท้าน แขนของเย่เฟิงปะทะกับขาของชายวัยกลางคนในชุดขาวอย่างจังตึง ตึง ตึง!ชายวัยกลางคนถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะทรงตัวได้แต่เย่เฟิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง ราวกับภูผาที่ไม่สะทกสะท้าน"อยากจะหยิ่งยโส ก็ต้องมีความสามารถพอด้วย!""ฉันบอกแล้วว่าเพื่อนของฉันยังต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่""ไสหัวไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็น น้ำเสียงแฝงอำนาจสุดขีดชายวัยกลางคนในชุดขาวมีสีหน้าหนักใจ จ้องมองเย่เฟิงด้วยความลังเล"ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าแกกำลังหาเรื่องกับใคร?""ตอนนี้คุณชายของฉันกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ฉันจะยังไม่จัดการแกตอนนี้""แต่เรื่องวันนี้ ฉันจะจำไว้แน่นอน!"เขากัดฟันพูด ก่อนจะหันไปสั่งหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน "ยังจะยืนเซ่ออยู่ทำไม? ย้ายไปห้องฉุกเฉินห้องอื่นเดี๋ยวนี้!""ครับๆ ได้เลยครับ!"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินรีบพยักหน้า สีหน้าแสดงความ
หัวหน้าแผนกฉุกเฉินเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและร้อนรน!ด้านหลังของเขามีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนกำลังเข็นเตียงคนไข้เข้ามาบนเตียงนั้นมีชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่ สภาพของเขาดูอาการสาหัสมากข้างๆ และด้านหลังเตียงคนไข้มีคนติดตามมาด้วยหลายคน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด“เร็ว! ช่วยคุณชายของพวกเราด้วย!”ชายวัยกลางคนในชุดขาวที่ดูมีภูมิฐานตะโกนด้วยน้ำเสียงร้อนรน“รีบช่วยคุณชายกู่สิ! ทำไมในห้องฉุกเฉินยังมีคนอื่นอยู่? รีบไล่พวกมันออกไป!”เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและก้าวร้าว“พวกนี้เป็นใครกัน? รีบไล่พวกเขาออกไปซะ! ถ้าการรักษาคุณชายกู่ล่าช้า โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ!”ชายวัยกลางคนในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงเผด็จการเมื่อได้ยินเสียงอึกทึก เย่เฟิงที่กำลังรักษาหลี่ชื่ออยู่ก็หันกลับไปมองด้วยสายตาเย็นชาดวงตาอันแหลมคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แววเย็นยะเยือกฉายชัดบนใบหน้าผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ด้วยท่าทีร้อนรนและหวาดกลัวสวี่ซีเหยียน!ผู้หญิงคนนี้!เธอดูโทรม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าเลอะเปรอะไปด้วยคราบเลือ
"โอเค ลูกรัก ไม่ร้องนะ พ่อจะเข้าไปดู แล้วจะไม่ปล่อยให้คุณลุงหลี่ต้องตายแน่นอน"เย่เฟิงเช็ดน้ำตาบนแก้มนั่วนั่ว จากนั้นรีบเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินหลีเอียนก็รีบตามเขาไปทันทีขณะนั้นเอง หมอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่ได้ยินสิ่งที่เย่เฟิงพูด ก็พากันส่ายหน้าพวกเขาเชื่อว่าเย่เฟิงแค่พูดปลอบใจเด็กเท่านั้น"ถ้าคนไข้แบบนี้ยังช่วยได้ล่ะก็ เขาต้องเป็นเทพเจ้าแล้ว! เราเองยังช่วยไม่ได้ เขาจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินพูดพลางมองเย่เฟิงด้วยความไม่พอใจภายในห้องฉุกเฉินหลี่ชื่อยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เลือดซึมออกมาจากปากและจมูกอุปกรณ์และท่อทุกอย่างถูกถอดออกหมดแล้ว มีเพียงผ้าขาวคลุมร่างไว้!เห็นได้ชัดว่าทางโรงพยาบาลยอมแพ้ในการรักษาและเตรียมจะเก็บศพแต่ในขณะนั้นเอง ราวกับมีบางสิ่งดลใจ หรือไม่ก็เป็นอาการฟื้นตัวชั่วคราวก่อนตายเมื่อเย่เฟิงเข้ามา หลี่ชื่อที่หมดสติไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาเขามองเห็นเย่เฟิงและนั่วนั่วที่ยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี"คุณ...คุณเย่ คุณช่วย...คุณหนูนั่วนั่ว...กลับมาได้แล้วใช่ไหมครับ?""ผมมันไม่ได้เรื่อง...ทำให้คุณเย่ผิดหวัง...แต่คุ
รถ SUV หลายคันกำลังแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้าจากหยุนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลในรถคันหนึ่ง ฉู่เทียนหลงยกมือขึ้นกุมหน้าที่บวมแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบิดเบี้ยวดวงตาของเขาแหลมคมและดูป่วยไข้เหมือนกับสภาพจิตใจที่ผิดปกติของเขา“ไอ้แก่บ้า กล้าตบหน้าฉันเพื่อปกป้องคนนอก!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นทันใดนั้น เขาหันไปมองทนายลวีที่นั่งข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย “นาย ลงไปจากรถเดี๋ยวนี้!”ทนายลวีสะดุ้งด้วยความตกใจ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “คะ…คุณชายฉู่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”“ฉันต้องการให้นายอยู่ที่หยุนเฉิงต่อไป และใช้ภรรยาเก่าของเย่เฟิงสร้างปัญหาระหว่างเขากับหลีเอียน!”ดวงตาของฉู่เทียนหลงเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ทนายลวีได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดทันที “คะ…คุณชายฉู่ เย่เฟิงจะฆ่าผมเอาได้นะครับ!”“ไอ้เวร! ฉันไม่ได้ให้นายไปสู้กับเขา! ถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายตอนนี้เลย!”“อย่าคิดว่าไม่ช่วยฉันแล้วเย่เฟิงจะไว้ชีวิตนาย!”ฉู่เทียนหลงดึงผมของทนายลวีแล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธทนายลวีตัวสั่นไปทั้งร่าง “ครับ...ครับ!”ไม่กี่วินาทีถัดมา รถหยุดลง ทนายลวีกระโดดลงจากรถทันทีในใจของเขาทั้งก
ใบหน้าของเป่ยเหล่าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายและสำนึกผิด เขาพูดอ้อนวอนอย่างจริงใจว่า “ผมปล่อยอาหลงไปแล้ว! ผมรู้ว่าถ้าคุณเย่เจอเขาเข้า จะต้องฆ่าเขาแน่ๆแต่ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของผมนะ!คุณเย่ ผมได้ลงโทษเขาอย่างหนักแล้ว ตระกูลฉู่จะชดเชยให้คุณอย่างสาสม!เห็นแก่ที่หลีเอียนและลูกสาวของคุณปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เห็นแก่หน้าผมเถอะ ได้ไหมครับ ปล่อยอาหลงไปสักครั้งเถอะ?ถือว่าผมยอมเสียหน้า ขอร้องคุณแล้ว!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากแล้วพูดอ้อนวอนเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เฟิง ฉันรับรองว่าพี่เทียนหลงจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ปล่อยเขาสักครั้งเถอะนะคุณปู่ตั้งใจจะ…”เธอเล่าแผนการที่เป่ยเหล่าวางไว้ให้เย่เฟิงฟัง“พี่เทียนหลงมีปัญหาด้านร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้จิตใจเขาออกจะสุดโต่ง แต่จริงๆ แล้วเขาน่าสงสารมาก!ครั้งนี้เขาแค่หุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณ...ช่วยอย่าจัดการเขาถึงตายได้ไหม?”หลิงเอ๋อร์กล่าวหลังจากฟังจบ เย่เฟิงหัวเราะเย็นชา สีหน้าบ่งบอกถึงความโกรธ “เขาน่าสงสารงั้นเหรอ? แล้วคนที่ถูกเขาทำร้ายล่ะ ไม่มีใครน่าสงสารหรือไง?ร่างกายมีปัญหา มันคือข้ออ้างให้เขาเป็นคนชั่วได้หร
เมื่อหลีเอียนเห็นฉู่เทียนหลงถูกคุณปู่ของเขาเองไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ความรู้สึกตกใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจภาคภูมิใจในตัวผู้ชายของเธอ!แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่ได้มาเอง แต่ก็เหมือนเขาสามารถปกป้องเธอจากที่ไกลๆ ได้หลีเอียนไม่คาดคิดเลยว่า การที่คุณปู่และน้องสาวของฉู่เทียนหลงมาที่นี่จะเป็นเพราะเรื่องของเย่เฟิง ทั้งยังสั่งสอนฉู่เทียนหลงอย่างหนักพร้อมไล่เขาไปด้วยในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงขับรถพานั่วนั่วมาถึงที่หมายและค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่พบร่องรอยของฉู่เทียนหลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สบายใจ!เขารู้ตัวว่ามาช้าไป ฉู่เทียนหลงได้ย้ายที่ไปเรียบร้อย!เมื่อคิดว่าหลีเอียนตกอยู่ในมือของสัตว์เดรัจฉานอย่างฉู่เทียนหลง เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายถ้าหลีเอียนได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเอง และฉู่เทียนหลงจะต้องตายอย่างโหดเหี้ยม!แม้กระทั่งทั้งตระกูลฉู่ ก็จะต้องถูกกวาดล้างจนไม่เหลือใคร!แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามร่างเดินเข้ามาเป่ยเหล่าและหลิงเอ๋อร์พาหลีเอียนมาที่นี่!“เย่เฟิง…”หลีเอียนมองเย่เฟิงที่มาตามหาเธอที่นี่ เสียงของเธอสั่นเล็