เมื่อคิดว่าภรรยาของถงว่านจินเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เย่เฟิงจึงไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือและถือเป็นการทำบุญไปด้วย หลังจากถงว่านจินทราบข่าว เขาก็ตื่นเต้นมากและให้ลูกชายพาแม่รีบเดินทางมาในทันทีพวกเขามาถึงหยุนเฉิงช่วงบ่ายสี่โมงกว่าเย่เฟิงจึงขอให้อาเจียงและเหล่าหยูช่วยไปรับนั่วนั่ว และตัวเขาไปพบถงว่านจินที่ที่พักในหยุนเฉิง“ที่รัก ซวี่เย่ นี่แหละคือหมอเทวดาเย่ที่ผมบอกพวกคุณ!” ทันทีที่เจอ ถงว่านจินก็แนะนำให้ภรรยาและลูกชายรู้จักทันทีภรรยาของเศรษฐีอันดับหนึ่งในมณฑลเจียง แม้ว่าใบหน้าของเธอจะสวยงาม แต่ผมของเธอร่วงหมดแล้ว และดูซีดเซียวมากส่วนลูกชายถงซวี่เย่ก็ดูมีบุคลิกดี“หมอเทวดาเย่ ขอบคุณมากสำหรับยาแสงแห่งชีวิต ถ้าไม่ได้ยาเม็ดนั้น ชีวิตของฉันคงไม่เหลือแล้ว!” คุณนายถงกล่าวขอบคุณพร้อมกับโค้งคำนับให้เย่เฟิงถงซวี่เย่ก็ก้มหัวขอบคุณเช่นกัน ก่อนเอ่ยถามด้วยความคาดหวัง “คุณเย่ ได้ยินว่าคุณสามารถรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวของแม่ผมให้หายขาดได้ เรื่องจริง…เหรอครับ?”“มีโอกาสสำเร็จประมาณ 80% ครับ” เย่เฟิงไม่ได้รับรองเต็มร้อย นั่วนั่วยังคงเป็นข้อกังวลที่ติดค้างอยู่ในใจของเขาการรักษาคุณน
“จริงสิ ถ้าสะดวก ลองชวนพี่สะใภ้มาด้วยสิครับ มาทานอาหารด้วยกัน”เซียวคุนเสนอ“ได้สิ เดี๋ยวถามพี่สะใภ้ให้” เย่เฟิงตอบ แต่เขาไม่แน่ใจว่าหลีเอียนจะว่างหรือเปล่า เพราะช่วงนี้เธอยุ่งมาก“เยี่ยมเลย! ห้องเพชรหมายเลขเก้าที่เซียนเว่ยเซวียน ผมจองไว้เรียบร้อยแล้ว พี่เย่มาได้เลย”“จริงสิ อย่าบอกพ่อแม่ของผมนะ แหะๆ…”เซียวคุนย้ำอีกครั้งเย่เฟิงตอบรับและวางสาย จากนั้นก็ลาถงว่านจินและลูกชายแล้วจากไปเซียวคุนปิดบังพ่อแม่ตัวเอง คาดว่าคงไม่อยากให้ลุงถงรู้ด้วย เย่เฟิงจึงไม่ได้เอ่ยถึงให้ครอบครังถงว่านจินได้ฟังอะไรหลังจากที่โทรศัพท์ชวนหลีเอียนแล้ว เธอตอบรับ เย่เฟิงจึงไปรับบอสสาวสวยแล้วมุ่งหน้าไปที่เชียนเว่ยเซวียนพร้อมกันเมื่อทั้งสองมาถึงและลงจากรถ ก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวฉูดฉาดกำลังเดินมากับชายชาวต่างชาติสูงใหญ่ เมื่อหญิงสาวเห็นหลีเอียน เธอก็แสดงท่าทางดีใจ“เอียนเอียน? เธอใช่ไหม?” สวี่ซีเหยียนโบกมือให้หลีเอียนด้วยท่าทีเป็นกันเอง เธอเป็นคนในตระกูลสวี่ ซึ่งมีฐานะใกล้เคียงกับตระกูลหลีและเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอิทธิพลในหยุนเฉิงสวี่ซีเหยียนกับหลีเอียนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน โดยเฉพาะตอน
“ถึงอย่างไรที่เยียนเซียนี้ก็ไม่ได้มีทุกคนที่ได้รับการศึกษาขั้นสูงอยู่แล้วไหนๆ คุณก็เก่งอยู่แล้วนี่ ถนัดหลายภาษาด้วย” สวี่ซีเหยียนกล่าว พร้อมกับหันไปพูดกับหลีเอียนด้วยน้ำเสียงตักเตือน “เอียนเอียน ทำไมไม่แต่งตัวให้สามีเธอดูมีระดับหน่อยล่ะ? ออกมาข้างนอกแบบนี้เธอไม่รู้สึกอายบ้างเหรอ?”ผู้หญิงคนนี้มองเย่เฟิงด้วยความดูถูกความจริงสวี่ซี่เหยียนก็เป็นคนสวยที่โดดเด่นในคณะสมัยเรียนเหมือนกัน แต่ก็ยังเทียบกับหลีเอียนไม่ได้สมัยเรียนเธอมักจะแนะนำหลีเอียนให้รู้จักกับหนุ่มหล่อๆ ในโม๋ตู เพื่อที่จะใช้ความสัมพันธ์ของหลีเอียนเข้าถึงตระกูลใหญ่ๆ แต่เสียดายที่หลีเอียนไม่สนใจหนุ่มพวกนั้น ทำให้สวี่ซีเหยียนรู้สึกเสียเวลาเปล่าเมื่อเห็นว่าหลีเอียนเลือกเย่เฟิงที่ดูเหมือน ‘คนธรรมดา’ ทำให้สวี่ซีเหยียนยิ่งรู้สึกดูแคลนในใจเย่เฟิงมองสวี่ซีเหยียนโดยไม่แสดงอารมณ์ออกมา แม้เขาจะรู้สึกไม่พอใจที่เธอแสดงความดูถูกก็ตามแต่ก็ยอมอดทนไม่พูดอะไร เพราะเธอเป็นเพื่อนของหลีเอียน ยังไงตนและหลีเอียนก็กำลังจะไปทานอาหารที่ชั้นหกอยู่แล้ว และคงจะเจอพวกเขาเพียงผ่านๆ เท่านั้น“อยู่ในเยียนเซีย ก็ควรพูดภาษาเยียนเซียไม่ใช่เหรอ?
ฟลานเดอร์ยืดอกขึ้นเล็กน้อยด้วยความภูมิใจ "คุณหลีเอียนคนสวย วันนี้พวกเราได้รับเชิญมา ดังนั้นจริงๆ แล้วบัตรสมาชิกระดับเพชรของผมไม่จำเป็นต้องใช้เลยด้วยซ้ำ ถ้าคุณต้องการ ผมให้ยืมได้นะ"หลีเอียนส่ายหัว "ไม่เป็นไร วันนี้ก็มีคนเชิญพวกเรามาเหมือนกัน"พูดจบ เธอก็รีบเดินไปข้างหน้า ไม่อยากเสียเวลากับสวี่ซีเหยียนและฟลานเดอร์อีก"อะไรนะ? มีคนเชิญพวกเธองั้นเหรอ?"สวี่ซีเหยียนหัวเราะเยาะ ไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว แล้วรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็วฟลานเดอร์ก็ยิ้มเยาะพลางตามไปทันทีเย่เฟิงเพิ่งไล่เขาไปเมื่อครู่ ต่างชาติคนนี้จึงเจ็บใจและต้องการเยาะเย้ยเย่เฟิงอย่างมาก"นี่ อย่าให้พวกเขาเข้าไป! พวกเขาไม่มีบัตรสมาชิกแน่ ๆ!"สวี่ซีเหยียนตะโกนบอกพนักงานต้อนรับที่ยืนเรียงแถวอยู่ตรงนั้นเมื่อหลีเอียนและเย่เฟิงเดินมาถึงประตู ก็ถูกพนักงานต้อนรับขวางไว้"คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง กรุณาแสดงบัตรสมาชิกด้วยค่ะ! ที่นี่อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น!"หัวหน้าพนักงานต้อนรับพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเมื่อเย่เฟิงและหลีเอียนเห็นหัวหน้าพนักงานคนนั้น ทั้งสองก็หยุดชะงักไปสักพักหลีเอียนรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงคนนั้น คล้
"ไม่มี ก็ไม่มีสิ ทำไมต้องโกหกด้วย? คนเยียนเซียไม่ซื่อสัตย์ขนาดนี้เลยเหรอ?"ฟลานเดอร์พูดพลางหัวเราะเยาะจางเสี่ยวหลานหัวเราะเยาะ "เย่เฟิง ถ้านายไม่มีบัตรสมาชิกก็กลับไปซะเถอะ อย่ามาทำให้ตัวเองขายหน้าเลย! อย่าคิดว่ามีเงินนิดหน่อยแล้วจะอวดดีที่ไหนก็ได้นะ!ฉันจะบอกอะไรให้ เชียนเว่ยเซวียนไม่ใช่ที่ที่ให้คนอย่างนายมาก่อเรื่องคนที่อยู่เบื้องหลังของที่นี่ นายมีเรื่องด้วยไม่ได้หรอก!""ผมเป็นสมาชิกซุปเปอร์พรีเมี่ยมของที่นี่! จางเสี่ยวหลาน ผมขอเตือนคุณว่าอย่าหาเรื่อง! ไปเรียกผู้จัดการเถิงของพวกคุณมาซะ!"เย่เฟิงพูดขึ้น"ห๊ะ...เรียกผู้จัดการ? ผู้จัดการของเรายุ่งจะตายไป คิดว่าจะเรียกก็เรียกได้งั้นเหรอ? คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน?”จางเสี่ยวหลานมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามสวี่ซีเหยียนหัวเราะจนตัวสั่นเหมือนได้ฟังเรื่องขำขัน "สมาชิกซุปเปอร์พรีเมี่ยม? โอ้พระเจ้า! เอียนเอียน เธอหาคนอะไรมาเนี่ย? ช่างกล้าโม้จริงๆ!""โง่เขลาและทะนงตัว!"ฟลานเดอร์พูดพลางยิ้มเยาะคนที่ยืนมุงอยู่หน้าโรงแรมก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกเช่นกัน"นั่นใครน่ะ? โม้เก่งจริงๆ" "สมาชิกซุปเปอร์พรีเมี่ยม? เท่าที่รู้มา สมาชิกสูงสุดของ
เพี๊ยะ! เสียงตบหน้าดังขึ้น จางเสี่ยวหลานถูกตบจนล้มลงไปนอนกับพื้นผู้จัดการเถิงตบด้วยแรงเต็มที่ ทำให้จางเสี่ยวหลานตาพร่าไปชั่วขณะ"ตาบอดหรือไง! คุณเย่น่ะเป็นสมาชิกซุปเปอร์พรีเมี่ยมของที่นี่!จางเสี่ยวหลาน นี่เธอใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วใช่ไหม ถึงได้กล้ามาขวางทางคุณเย่น่ะ? เธอนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ!""ไปให้พ้น! เก็บของแล้วไสหัวไปซะ อย่าให้ฉันเห็นหน้าอีก!”ผู้จัดการเถิงชี้และตะคอกใส่จางเสี่ยวหลานอย่างดุดันเมื่อเห็นภาพนี้ สวี่ซีเหยียนและฟลานเดอร์ก็ถึงกับอึ้ง!ลูกค้าที่มุงดูก็ตกใจกันถ้วนหน้าเช่นเดียวกันอะไรนะ?หมอนี่เป็นสมาชิกซุปเปอร์พรีเมี่ยมของเชียนเว่ยเซวียนจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?"คุณเย่ ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะครับ เชิญด้านในเลยครับ!"ผู้จัดการเถิงหันกลับมาพูดกับเย่เฟิง พร้อมรอยยิ้มประจบและโค้งตัวทำท่าทางเชื้อเชิญด้วยความเคารพปฏิบัติต่อเย่เฟิงอย่างเคารพนอบน้อมสุดขีดเขาไม่กล้าไม่เคารพหรอก เพราะผู้จัดการเถิงยังจำจุดจบของซ่งเจียงเมื่อคราวก่อนได้ดีนั่นเป็นคนในตระกูลซ่งเชียวนะ ถึงจะเป็นทายาทสายรองก็เถอะ แต่ฐานะก็เหนือกว่าผู้จัดการเถิงคนนี้มากแล้วแต่ถึงอย่างนั้น ซ่งเจียงก็ถูกคุณ
"นี่คือคุณชายเฉาจากตระกูลเฉา...เฉาเริ่น และนี่คือหญิงงามหลี่…หลี่มู่หว่านจากตระกูลหลี่ ส่วนคนนี้คือ…" เซียวคุนตบไหล่เบาๆ ให้เย่เฟิงนั่งลงข้างๆ เขาแล้วแนะนำเย่เฟิงกับหลีเอียนให้รู้จักเย่อินเสวียน รวมถึงชายหญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับเซียวคุน ครอบครัวของแต่ละคนมีอิทธิพลและไม่ธรรมดาจริงๆ แล้ววันนี้เซียวคุนตั้งใจจะชวนแค่เย่เฟิงมาทานอาหารด้วยกันตามลำพังเท่านั้น แต่เย่อินเสวียนเสนอว่าควรชวนเพื่อนๆ มาด้วย จะได้ไม่เงียบเหงาเซียวคุนก็เลยตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรมากอะไร"พี่เย่ ซ้อ ต้องขอโทษด้วยนะครับ! รออีกนิดค่อยให้อาหารมาเสิร์ฟนะครับ ยังมีเพื่อนจะมาอีกน่ะครับ!"เซียวคุนยิ้มอธิบาย"ไม่เป็นไร ไม่รีบ"เย่เฟิงโบกมือเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องกังวลพูดจบ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาปรากฏว่าเป็นสวี่ซีเหยียนกับฟลานเดอร์!ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนที่เซียวคุนชวนมาด้วย"คุณชายเซียว พวกเราไม่ได้มาสายใช่ไหมคะ? พอดีเจอพวกหมาหลงข้างนอกน่ะค่ะ ก็เลยทำให้ช้า"สวี่ซีเหยียนเข้ามาถึง ก็เอ่ยขอโทษเซียวคุน แต่ยังคงพูดเหน็บแนมอยู่"ซีเหยียน พวกหมาหลงท
สิ้นเสียงพูด ในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะคิกคักนอกจากเซียวคุนแล้ว คนอื่นๆ ในกลุ่มต่างก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ยและดูแคลนออกมา“เพราะเย่เฟิงช่วย ฉันถึงมีบริษัทอย่างตอนนี้ได้ เขาไม่ได้เกาะฉันกินเลยแม้แต่นิดเดียว!"หลีเอียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่อเห็นคนอื่นๆ หัวเราะเยาะเย่เฟิงก็ทำให้เธอไม่พอใจมาก"จะหัวเราะอะไรกันนักหนา? ความสามารถของพี่เย่ พวกคุณไม่รู้หรอก!"เซียวคุนเองก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นเพื่อปกป้องเย่เฟิง"คุณชายเซียว อย่าโกรธไปเลย ทุกคนก็แค่ล้อเล่นกันเองเฉยๆ อ้อ ลืมแนะนำไปเลยค่ะ นี่แฟนฉันเอง ฟลานเดอร์ จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา"สวี่ซีเหยียนแนะนำด้วยสีหน้าภูมิใจฟลานเดอร์ยิ้มสุภาพแล้วเสริมอย่างภูมิใจว่า "ผมเป็น CEO ของถงฟากรุ๊ปที่เชิญให้มาด้วยเงินเดือนสูงลิ่ว รับผิดชอบงานทุกอย่างของบริษัทย่อยที่หยุนเฉิงต่อไปผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยนะครับ!แน่นอนว่า ถ้าพวกคุณมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ติดต่อมาได้เลย"สิ้นเสียงพูด สวี่ซีเหยียนก็เงยหน้าด้วยท่าทางภาคภูมิใจคนในกลุ่มได้ยินดังนั้น ต่างพากันมองฟลานเดอร์ด้วยสายตาชื่นชม“ผมก็ได้ยินมาว่าถงฟากรุ๊ปตั้งใ
ทันทีที่ทั้งสามคนคิดว่าจะหนีรอดได้ ก็ต้องชะงักเมื่อเย่เฟิงเรียกพวกเขาไว้!เหอปิง หลี่เวย และเจี่ยอี้ ตัวสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าซีดเผือด"เย่… เย่เฟิง…คุณเย่ ฉัน…ฉันแค่พูดเล่นน่ะ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน คุณ…คงไม่คิดจริงจังใช่ไหม?"หลี่เวยพูดตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว"เย่เฟิง ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมีอนาคตที่สดใส! และดูเหมือนฉันจะคิดถูกฉัน… ยังไงฉันก็เคยเป็นครูของนาย…"เหอปิงพยายามฝืนยิ้มและพูดอ้อนวอนด้วยเสียงต่ำคนอย่างพวกเธอที่ชอบดูถูกคนจนและประจบคนรวย ย่อมเปลี่ยนท่าทีได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ!แต่การที่เย่เฟิงเรียกพวกเธอให้หยุด กลับทำให้ทั้งสองคนกลัวแทบหัวใจวาย"พวกเธอ…ช่วยพูดอะไรแทนครูหน่อยสิ!"เหอปิงร้องขอเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ด้วยเสียงสะอื้นแต่ไม่มีใครกล้าออกหน้า ทุกคนรีบหนีออกไปจากห้องราวกับกลัวว่าจะเดือดร้อนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วย สีหน้าของเหอปิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เธอมองเย่เฟิงด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง"เย่เฟิง…คุณเย่! ฉันเป็นครูของนาย นายทำแบบนี้กับฉันไม่…”"อุ๊บ…"คำพูดยังไม่ทันจบ เย่เฟิงก็คว้าเก้าไม้ออกมา หักที่พักแขนจนขาด จากนั้นใช้มือเปล่าบีบมันจ
เจี่ยอี้อึ้งจนพูดไม่ออก!เหอปิง ครูประจำชั้นเก่ามองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ!หลี่เวยอ้าปากค้างจนสามารถใส่กล้วยได้สองลูก…เย่เฟิงที่พูดว่าโรงแรมนี้เป็นของเขา เป็น…เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?ลูกพี่ลูกน้องของหวงเจี้ยน ผู้ที่ว่ากันว่าเป็นคนใหญ่คนโตในโลกใต้ดิน กลับทำงานอยู่ใต้คำสั่งของเย่เฟิง?นี่มัน…เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!ในตอนนั้น เฮียเฉวียนหันไปยิ้มแหยๆ ให้เย่เฟิง "คุณเย่ครับ สรุปแล้วเจ้าเด็กหวงเจี้ยนมันล่วงเกินคุณยังไงเหรอครับ? บอกผมเถอะ ไม่ต้องลงมือเอง ผมจะจัดการมันให้เอง!""เหอะๆ น้องชายนายเป็นมิตรเกินไปน่ะ มันอยากให้ฉันลองชิมรสชาติไวน์บนรองเท้าของมัน!"เย่เฟิงปล่อยมือจากหัวหวงเจี้ยน พร้อมหัวเราะเย็นๆ"ไวน์บนรองเท้า?"เฮียเฉวียนขมวดคิ้ว ก่อนจะเข้าใจและใบหน้ากระตุกด้วยความโกรธทันทีที่คิดได้ เขาเดินอย่างรวดเร็วไปหาหวงเจี้ยน หยิบขวดไวน์บนโต๊ะแล้วฟาดเข้าที่หัวหวงเจี้ยนเต็มแรง"ไอ้เวรนี่! อยากตายรึไง?!"เพล้ง!"หวงเจี้ยน คิดว่าบ้านมีเงินหน่อย แล้วจะครอบงำทั้งหยุนเฉิงได้รึไง?"เพล้ง!"โรงงานกระจอกๆ สองสามโรงของพ่อแก จะทำให้นายลอยฟ้าได้เลยเหรอ?"เพล้ง!"ไอ้เวรตะไล! กล้าลามปามคุณเ
"ไอ้บ้า เย่เฟิงมันเสียสติไปแล้ว!""นึกว่ามีเงินนิดหน่อยจะยุ่งกับใครก็ได้เหรอ? กล้าตบหวงเจี้ยน นายจบเห่แน่!"เจี่ยอี้ยกมือกุมหน้าตัวเอง พลางกัดฟันพูดในใจคนอื่นๆ ในห้องก็คิดเหมือนกัน ว่าเย่เฟิงคงจะทำอะไรไม่คิดถึงผลที่จะตามมา และครั้งนี้เขาคงสร้างปัญหาใหญ่ให้ตัวเองแล้ว"ไอ้ขยะ! โมโหไร้เหตุผล! ทำอะไรก็ไม่คิดถึงผลลัพธ์!"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่า ด่าขึ้นด้วยความโมโห"ตบซะสะใจแบบนี้ เดี๋ยวครอบครัวคุณชายหวงคงจัดการนายให้ตายแน่!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ไม่ต้องรอถึงครอบครัว คุณชายหวงโทรหาเฮียเฉวียนแล้ว หมอนี่ต้องตายเร็วๆ นี้แน่นอน!"ผู้หญิงอีกคนพูดพลางหัวเราะเยาะถึงจะพูดแบบนั้น แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปหยุดเย่เฟิง เพราะพลังอันดุดันของเขาทำให้ทุกคนหวาดกลัวเย่เฟิงในขณะนี้ น่ากลัวมาก!มีเพียงเจียงหว่านที่พยายามดึงแขนเย่เฟิง พลางพูดด้วยความร้อนใจ "เย่เฟิง พอได้แล้ว! ถ้านายยังทำแบบนี้ต่อไป เดี๋ยวจะถึงขั้นฆ่ากันตายนะ! ครอบครัวหวงเจี้ยน นายสู้พวกเขาไม่ได้หรอก รีบไปเถอะ ก่อนจะสายเกินไป!""ไม่เป็นไร"เย่เฟิงพูดอย่างเรียบๆ จากนั้นก็ยกตัวหวงเจี้ยนขึ้นมาอีกครั้งเจียงหว่านเห็นท่าทีไม่แยแ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวงเจี้ยนชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ปาแก้วไวน์ในมือลงพื้นจนแตกละเอียด"แกล้งทำตัวใหญ่โตไปได้! ถ้านายไม่อยากไสหัวไป ก็เลียรองเท้าฉันให้สะอาดซะสิ! ฉันอาจเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นแล้วให้นายอยู่กินข้าวได้!""เอาสิ! ตอนเรียน นายก็เก่งเรื่องซักถุงเท้ากับขัดรองเท้าอยู่แล้ว นี่มันงานถนัดของนายไม่ใช่หรือ? ฮ่าๆๆ…""เลียให้สะอาด ฉันอาจพิจารณาหางานให้ทำก็ได้นะ!"เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นอีกครั้งทั่วทั้งห้องเจียงหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพูดขึ้นอย่างโกรธจัด "หวงเจี้ยน! นายอย่าทำตัวเกินไปนักนะ!"เธอจับมือเย่เฟิงแล้วพูด "เย่เฟิง เราไปกันเถอะ งานเลี้ยงรุ่นนี่ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว"เมื่อเห็นแบบนี้ หวงเจี้ยนมองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา เต็มไปด้วยความอิจฉาดูเหมือนที่หลี่เวยบอกเขาเมื่อกี้จะเป็นความจริง เจียงหว่านยังมีใจให้เย่เฟิงอยู่!"จะไปไหน?""พวกแก ช่วยจับไอ้จนคนนี้ไว้ที! ฉันจะใช้หน้ามันเช็ดรองเท้าฉัน!"หวงเจี้ยนตั้งใจจะทำให้เย่เฟิงอับอายต่อหน้าเจียงหว่านเมื่อเขาพูดจบ เพื่อนชายบางคนที่เคยเป็นลูกน้องของหวงเจี้ยนในสมัยเรียนก็กระโดดเข้ามาทันทีพวกนี้เคยเป็นพวกเดียวกับหว
เย่เฟิงหันไปมองเจี่ยอี้ด้วยสายตาเย็นชา ความรู้สึกทั้งหมดที่เคยคิดว่าเขาเป็น "พี่น้อง" ถูกลบล้างจนหมดสิ้นเสียงหัวเราะเยาะที่ดังรอบตัวไม่ได้กระทบจิตใจเขาแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเฉย ราวกับทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา"พวกนายทำแบบนี้ได้ยังไง? เอาความเจ็บปวดของคนอื่นมาล้อเลียน?"มีเพียงเจียงหว่านเท่านั้นที่ยืนขึ้นปกป้องเย่เฟิงเย่เฟิงดึงแขนเธอเบาๆ พร้อมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรให้มากความสำหรับเขาในตอนนี้ สายตาและมุมมองต่อโลกของเขาต่างจากคนเหล่านี้ไปไกลแล้วมังกรที่บินอยู่บนฟ้าย่อมไม่สนใจคำดูถูกจากมดปลวกบนดิน"หัวเราะพอแล้วใช่ไหม? ถ้าพอแล้ว ก็เชิญไสหัวไปได้เลย!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสียงของเขาไม่ได้ดังนัก แต่ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจนคำพูดนี้ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง"ไสหัวไป? ฉันได้ยินถูกไหม ไอ้คนว่างงานมาบอกให้พวกเราหัวไป?"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนกระซิบอะไรบางอย่างกับหวงเจี้ยน"อาหารมื้อนี้คุณชายหวงเลี้ยง นายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้คนอื่นออกไป?"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่าเอ่ยขึ้นด้วยความดูถูกหวงเจี้ยนที่ได้ยินหลี่เวยกระซิบแล้วหันไปมอ
หลังจากเดินเข้ามาเห็นภาพนั้น เจียงหว่านก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เธอรู้สึกว่างานเลี้ยงรุ่นนี้กลายเป็นการอวดรวย แข่งขันกัน และสร้างเครือข่ายไปเสียแล้ว"โอ้ ดาวโรงเรียนของพวกเรามาแล้วเหรอ?"ทันใดนั้น มีคนสังเกตเห็นเจียงหว่านและตะโกนขึ้นหวงเจี้ยนที่กำลังถูกล้อมรอบดั่งดวงดาวกลางวงก็รีบหันมาทางเธอ ดวงตาเป็นประกาย เขาย้ายมือที่วางอยู่บนตัวเหอปิงออก แล้วเดินตรงเข้ามา "เสี่ยวหว่าน เธอมาเสียที! ฉันคิดถึงเธอแทบแย่"เจียงหว่านยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบสนองอะไรในขณะนั้นเอง มีคนสังเกตเห็นเย่เฟิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเจียงหว่าน"เอ๊ะ? นั่นเย่เฟิงไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ?"เมื่อได้ยิน ทุกคนก็หันมามองเย่เฟิงด้วยสายตาหลากหลายในสมัยเรียน เย่เฟิงมีชื่อเสียงในฐานะคนจน ทำให้ทุกคนยังจดจำเขาได้"ไม่ได้ทำอะไร"เย่เฟิงตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์"ไม่ได้ทำอะไร? หมายความว่าตอนนี้ว่างงานสินะ?""ฉันมีถุงเท้าคู่หนึ่ง นายช่วยซักให้หน่อยสิ ฉันให้ห้าร้อย เป็นไง?"ทันใดนั้น เสียงหัวเราะดังลั่นห้องแม้กระทั่งเหอปิง อดีตครูประจำชั้นของเขา ก็เบะปากพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม "เย่เฟิง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะยังไร้ประโยช
"ไม่เป็นไร! งานเลี้ยงรุ่นที่คุณชายหวงเป็นคนจัด ฉันจะไม่ไปได้ยังไง!"เย่เฟิงส่ายหัว พร้อมยิ้มบางๆเมื่อได้ยิน หลี่เวยหัวเราะเสียงดัง "ทำไมล่ะ เย่เฟิง? นายก็รู้ว่าคุณชายหวงตอนนี้ไปได้สวยเลยอยากจะเอาใจเขาใช่ไหม? นายก็ถือว่ารู้จักประจบคนเป็นนะเนี่ย ถ้าทำให้คุณชายหวงพอใจ บางทีเขาอาจให้ไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บริษัทเขาก็ได้ยังไงตอนเรียน นายก็ซักเสื้อผ้าให้คนอื่นจนชินมือแล้วนี่ ฮ่าๆๆ!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจ"เหอะๆ ใช่สิ! ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้คุณชายหวงจะเจ๋งแค่ไหน! แต่ดูจากสภาพเธอตอนนี้ ท่าทางจะประจบเขาไม่น้อยเลยสินะ? ถึงขั้นขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า?"เย่เฟิงตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคำพูดนี้ทำให้หลี่เวยโกรธจนหน้าแดง "ไปให้พ้นเลย เย่เฟิง! ไม่เจอกันหลายปี นายกลายเป็นคนต่ำช้าขนาดนี้เลยเหรอ?"ในใจเธอแอบคิดอย่างเกรี้ยวกราด (นายมันก็แค่ขยะ ยังกล้าคิดจะไปประจบคุณชายหวง หวังจะเกาะเขาด้วย?ได้ รอให้ฉันไปปั่นหัวคุณชายหวงสักหน่อย นายเจอดีแน่!)ในขณะเดียวกัน เจียงหว่านที่ได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าหวงเจี้ยนประสบความสำเร็จ เย
หญิงสาวคนนี้เห็นเย่เฟิงก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง พอจำได้ก็เบะปากแล้วพูดขึ้นเธอชื่อหลี่เวย เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเย่เฟิงเช่นเดียวกันแต่ตั้งแต่สมัยเรียน หลี่เวยก็ไม่ค่อยชอบเย่เฟิงอยู่แล้วหรือจะพูดให้ถูกก็คือ เพื่อนส่วนใหญ่ในตอนนั้น ต่างก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกตอนอายุ 18 ปี พ่อแม่ของเย่เฟิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยที่ทิเบต ทำให้เขาขาดแคลนทั้งเงินและค่าใช้จ่ายเพื่อหาเงินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย เย่เฟิงต้องทำงานพิเศษในโรงเรียน เช่น ซักผ้า ทำความสะอาด และวิ่งซื้อของให้เพื่อนแม้กระทั่งกางเกงใน รองเท้าเหม็นๆ และถุงเท้าสกปรกของเพื่อนผู้ชายบางคน เย่เฟิงก็เป็นคนซักเรื่องนี้ทำให้เพื่อนหลายคนมองเย่เฟิงด้วยความดูถูกแต่ก็มีเพื่อนบางคนที่แตกต่างออกไป ซึ่งเจียงหว่านเป็นหนึ่งในนั้น สมัยนั้น เธอไม่เพียงไม่ดูถูกเย่เฟิง แต่ยังมักจะซื้อข้าวให้เย่เฟิงอยู่บ่อยๆจนมีข่าวลือในโรงเรียนว่า เจียงหว่านชอบเย่เฟิงเพียงแต่ ตอนนั้นเย่เฟิงมีความรู้สึกด้อยค่า แม้ว่าเขาจะแอบชอบเจียงหว่านเช่นกัน แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะแสดงออก"หวงเจี้ยนอาจลืมเชิญนายล่ะมั้ง! เย่เฟิง ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว มาด้วยกันสิน
เวลา 3 ทุ่ม เย่เฟิงมาถึงโรงแรมโกลด์เดนรอยัลโรงแรมแห่งนี้เป็นของหลีหย่วนเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลหลีหลีหย่วนพาอาเจียงและเหล่าหยู ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทมายืนรออยู่หน้าประตูตั้งแต่เนิ่นๆ"พี่เขย!""คุณเย่!"เมื่อเห็นเย่เฟิง พวกเขาตะโกนพร้อมกัน"พี่ พี่คิดว่าโรงแรมนี้เป็นยังไง? ชอบไหมครับ?"หลีหย่วนเดินมาโอบไหล่เย่เฟิงแล้วถามด้วยรอยยิ้ม"ดีนะ ดูดีเลย"เย่เฟิงพยักหน้า"ถ้าชอบ งั้นโรงแรมนี้ผมยกให้พี่เลย! จากนี้ไป พี่คือเจ้าของที่นี่!"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง พร้อมผายมือเย่เฟิงได้ยินก็ทำหน้าอึ้ง "ยกให้ฉัน? ฉันไม่เอาหรอก! ฉันไม่มีเวลามาบริหารจัดการ แล้วฉันก็ไม่เก่งเรื่องนี้ด้วย""โธ่ พี่ จะลงมือเองทำไมล่ะ? ก็มีผู้จัดการโรงแรมอยู่แล้วนี่ พี่แค่รอรับเงินก็พอ!""ผมไม่สนล่ะ ยังไงพี่ก็ต้องรับไว้ ถ้าไม่รับ…ถ้าไม่รับ ผมจะฟ้องพี่สาวผมว่าพี่แอบไปนวดร้านแบบนั้นมา!"หลีหย่วนพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์"ไปให้พ้นเลย! ไอ้เด็กนี่ แกนี่มันแสบจริงๆ!"เย่เฟิงยิ้มขำ พร้อมด่าแบบไม่จริงจังนัก"ฮ่าๆๆ…"หลีหย่วนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพาเย่เฟิงเดินเข้าไปในโรงแรมเมื่อขึ้นไปถึงห้องส่วนตัวขนาดใหญ่บนชั